บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

บ้านกลอนน้อย ลิตเติลเกิร์ล - มยุรธุชบูรพา => ห้องกลอน คุณอภินันท์ นาคเกษม => ข้อความที่เริ่มโดย: ลินดา ที่ 11, ตุลาคม, 2557, 04:38:02 PM



หัวข้อ: ที่พึ่ง ?
เริ่มหัวข้อโดย: ลินดา ที่ 11, ตุลาคม, 2557, 04:38:02 PM
(http://upic.me/i/qd/anr...jpg) (http://upic.me/show/53084382)


ดึกดำบรรพ์นานมามนุษย์ชาติ
มีความขลาดคร้ามเกรงทั่วกลัวภูตผี
เชื่อเจ้าพ่อเจ้าแม่แผ่ความดี
ช่วยผู้ที่กราบไหว้ได้สมปอง

เจ้าพ่อเจ้าแม่และผีปิศาจนั้น
เป็นเทพชั้นต่ำลอยไร้หอห้อง
เข้าสิงสู่อยู่ตามที่สำรอง
ลอยขึ้นล่องไปตามอำเภอใจ

คนสร้างศาลให้อยู่บูชาเจ้า
ด้วยความเขลาขลาดเกรงเร่งกราบไหว้
เจ้าจึงเก่งเพราะคนกลัวกันทั่วไป
ถ้าคนไม่กลัวเล่า..เจ้ากระเจิง

เจ้าพึ่งคนไยคนรนพึ่งเจ้า
เพราะคนเขลาบานบนจนเจ้าเหลิง
เป็นช่องทางหากินคนสิ้นเชิง
หลอกบันเทิงทรงเจ้าเข้าผีกัน

กาลต่อมาเมื่อมนุษย์ถูกพุทธสอน
เลิกอ้อนวอนเจ้า,ผีที่เพ้อฝัน
พึ่งตนได้ไม่ต้องเร่วอนเทวัญ
ตนเท่านั้นเป็นหนึ่งที่พึ่งตน

เต็ม อภินันท์
๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗/ ๒๑.๑๐ น.

(http://upic.me/i/q2/3i74t.gif) (http://upic.me/show/36557267)


หัวข้อ: Re: ที่พึ่ง ?
เริ่มหัวข้อโดย: พรานไพร ที่ 11, ตุลาคม, 2557, 06:32:08 PM
(http://image.ohozaa.com/i/2e8/B8YloW.jpg)


เมื่อมนุษย์ถูกทุกข์คุกคามแล้ว
ย่อมไม่แคล้วเขลาขลาดอนาถผล
หาที่พึ่งปัดเป่าบรรเทาจน
เที่ยวบานบนภูตผีที่บูชา

เนตัง โข สะระณัง เขมังฯ
คำสอนสั่งพุทธองค์จงศึกษา
นั่นมิใช่ที่พึ่งถึงมรรคา
ไม่อาจพ้นทุกขาตัณหาทราม

เพราะที่พึ่งเหล่านั้นมันไม่แน่
มิอาจแก้ลุ่มหลงดงขวากหนาม
พึ่งได้เพียงชั่วครู่ประตูยาม
มีทุกข์ตามเจือปนผลบั้นปลาย

พุทธัญจะฯ สะระณัง คะโตฯ
จะภิญโญพึ่งพระมนัสหมาย
มีแต่คุณอย่างเดียวมิเปลี่ยวดาย
ตราบสุดท้ายถึงฝั่งยังนิพพาน๚๛

 :a013:

...พรานไพร...


หัวข้อ: Re: ที่พึ่ง ?
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 14, ตุลาคม, 2557, 08:57:35 PM


เกิดปวดหัวตัวร้อนนอนกระสับ
พอไข้จับหนาวพลันสั่นสะท้าน
ไอ้หนูเรียกรถส่งโรงพยาบาล
ตรวจอาการหมอว่าปกติดี

มันเป็นเป็นหายหายไม่รู้เหตุ
บ้างว่าเปรตบ่มร้ายแฝงกายผี
พอวันพุธวันศีลสามวันดี
เหลืออีกสี่ในสัปดาห์กึ่งบ้าบอ

กินพารายากล่อมต่อมประสาท
เช้าหายขาดบ่ายเย็นดึกเป็นต่อ
เริ่มมืดหน้าตาลายระคายคอ
ลมจุกจ่อโอ้กอ้ากอยากอาเจียน

ใจเต้นแรงแกว่งไกวไม่ยอมหยุด
ซวนเซทรุดผุดขึ้นยืนแปรเปลี่ยน
ทำหน้านิ่วคิ้วย่นเจ็บวนเวียน
ยินเพลงเพี้ยนยิ้มพรายออกร่ายรำ

หมอดูดาวทายดวงชะตาตก
นักษัตรฉกต้องธนูราหูห้ำ
ติดตามทวงปวงเวรเป็นกอบกำ
เทพหน้าดำหมายจับประทับองค์

โรคไม่หายกายล้าจิตว้าวุ่น
พุทธคุณช่วยดลกุศลส่ง
สมาทานกรานศีลจินต์จำนง
สงบลงสุขสันต์ตราบวันนี้

 :a013:

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ที่พึ่ง ?
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 15, ตุลาคม, 2557, 10:26:00 PM

ถิ่นทุรกันดารบ้านหลังน้อย
หว่างห้วยดอยเพิงถ้ำมืดดำปี๋
อยู่กับป่าหากินตามดินมี
หน่อกล้วยปลีไม่เลือกขุดเผือกมัน

เก็บพริกเผ็ดเด็ดไม้สอยใบลูก
รู้จักปลูกข้าวนาเมื่อฟ้าลั่น
ขุดเกลือโป่งปรุงรสเค็มสำคัญ
หอยปูปลากุ้งปันกินกันไป

อาจเลี้ยงหมาหมูไก่ใต้ถุนร้าน
เลี้ยงวัวควายเทียมการงานลากไถ
ฆ่าเอาเนื้อเถือแทงแบ่งปิ้งไฟ
แค่ปีใหม่หรือสัตว์พลัดหลงตาย

ฐานะดีมีอำนาจวาสนา
พวกประดาขุนนางห้างทั้งหลาย
นอนเรือนสูงพุงยื่นยิ้มสบาย
พวกเปลือยกายพลไพร่ไต่ติดดิน

ได้อิ่มมื้ออดมากซากซูบผอม
แมงวันตอมตามตัวหน้ามัวหมิ่น
มีโรคภัยเบียดเบียนเยียนอาจิณ
คราชีพสิ้นไร้ธรรมส่องนำทาง

กลายเป็นปอบสัมภเวสีเร่ร่อน
กินเฟะฟอนดิบแดงแฝงในร่าง
สืบพ่อแม่แลลูกหลานผูกพลาง
ยากทิ้งขว้างแล้วจะพึ่งอะไร

 :026:

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ที่พึ่ง ?
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 16, ตุลาคม, 2557, 09:08:01 PM

พึ่งพระธรรมกรรมเอ๋ยกรรมของข้า
ติดตามมารอนร่างแต่ปางไหน
จึงลำบากยากจนทนเข็ญใจ
ทุกข์ร่ำไปนับขวบจวบชรา

สิทธิ์ทำกินดินดิบผืนหยิบน้อย
ติดดงดอยผากเผินเนินสูงป่า
ฤดูฝนล้นซัดน้ำพัดพา
พอเมษาร้อนไอดังไฟรม

อยากปลูกข้าวขนขายเช่นอย่างเขา
ก็ที่เราจำเพาะไม่เหมาะสม
ปลูกข้าวไร่ได้กินกันสิ้นลม
ถึงเม็ดก่ำตำต้มกันล้มตาย

ที่ปลูกได้ไม้อื่นพืชยืนต้น
ผลิดอกผลปีครั้งชั่งตวงขาย
หากหน้าดินอินทรีย์ซุยปนทราย
ทุ่นรายจ่ายปุ๋ยน้ำบำรุงรวง

ลูกรังหินดินแดงแข็งแน่นเหนียว
ดีอย่างเดียวเก็บลูกปลูกมะม่วง
ขนุนหนันพันธุ์ใหม่เนื้อใหญ่ยวง
ลำไยพวงพันธุ์ดีนามอีดอ

หวานล่อนกรอบอร่อยสดรสชาติ
สู่ตลาดขาดทุนมิเหลือหลอ
กดราคาหน้าเลือดล้งเชือดคอ
วอนเอ็นดูเถิดหนอขอไร่พัน

 :a001:

รพีกาญจน์