บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

ห้องเรียน => ห้องเรียนฉันท์ => ข้อความที่เริ่มโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 09, มกราคม, 2556, 09:02:32 AM



หัวข้อ: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 09, มกราคม, 2556, 09:02:32 AM
ตามสั่งมา :014:  :014:  :014:

โชค ฤ ชะตา      พาเจอะอนงค์
งามกวะพงศ์       ปารวตี
อกมนเรียม         เปี่ยมสุขะมี
หรรษะฤดี           โลกะประกาย

แอบ ณ ระเบียง   เมียงสิริอร
จิตดนุรอน           แทบจะละลาย
อยากพจนา         ว่าอุระชาย
มั่นบ่มิกลาย         แน่วนิรมล

ศรีเปรื่อง
๙ ม.ค. ๒๕๕๖

ปล.

๑. กวะ >> (ราว) กับว่า
๒. ปารวตี >> ชายาพระศิวะ หรือ พระอุมา
๓. มน (มะ-นะ) >> ใจ
๔. ดนุ (ดะ-นุ) แผลงจาก ดนู >> ข้าพเจ้า


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 09, มกราคม, 2556, 09:17:05 PM


ขอบคุณพี่ศรีเปรื่องมากมายเจ้าค่ะ
แล้วน้องจะต่อได้ไหมเนี่ย
ขอเวลาสักหน่อยนะคะ
ค้นหาศัพท์ ก่อนเจ้าค่ะ

      :055:




สบนยะนา         มาณพะพงศ์
นวลละพะวง      วุ่นกมะลา
พักตระผ่าว        ราวอคนา
เขิน ณ อุรา        มานสะคราญ

เนตระชะม้าย     ปรายนยะมอง
แดดุจะพอง       ใดบ่มิปาน
หลับก็นิมิต        จิตตะสราญ
รัชนิการ             แย้มสุริยน

             :055:

เป็นครั้งแรกที่แต่งฉันท์เลยเจ้าคะ
ขอคำชี้แนะจากพี่ศรีเปรื่องด้วยเจ้าค่ะ
ขอขอบคุณเจ้าค่ะ

             :055:

รินดาวดี

.


 :AddEmoticons00948: :AddEmoticons00948:



    *      *      *      *      *



 :046 :AddEmoticons00925:

ขอขอบคุณพี่ศรีเปรื่องยิ่งเจ้าค่ะ
ที่ติดตามชี้แนะให้น้องมองเห็นจุดผิดพลาด และได้แก้ไขแล้ว
ขอพี่ศรีเปรื่องตรวจสอบให้ด้วยเจ้าค่ะ
ขอบคุณเจ้าค่ะ

 :a015: :a015:


รินดาวดี



.


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 09, มกราคม, 2556, 10:27:01 PM
:014:  :014:  :014: ช้าไปแล้วครับ

(http://upic.me/i/8t/1g0sxg.jpg) (http://upic.me/show/42639773)

นั่ง ณ ลำเรือ     เมื่อสุริเยือน ยน
ค่อยจระเคลื่อน ล่องธะระชล      หานชลธาร ใส ฤ ประมาณ
ยลปทุมาศ มา          ดาษมิประมาณ ดาระดะธาร
จิตะสราญ         ทุกขะบ่มี

อยากจะเผดียง   เนียงจระมา
ยังนครา           กุมภวะปี
ร่วมพิศะดู          หมู่นลินี
ทั่วชลธี            ท้น ล้วน กชะแดง

ศรีเปรื่อง
๙ ม.ค. ๒๕๕๖

ปล.

๑. ธะระชล แผลงจาก ธาราชล หานชลธาร = หนองหาน
๒. ปทุมา แผลงจาก ปทุม ปทุมาศ = ปทุม + ศ เข้าลิลิต
๓. ดาระดะ แผลงจาก ดารดาษ
๔. กุมภวะปี แผลงจาก กุมภวาปี
๕. เผดียง >> เชิญ
๖. เนียง >> นาง


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 10, มกราคม, 2556, 12:21:02 AM
:AddEmoticons00924: :AddEmoticons00924:

แง่ แง่งงงงง พี่ศรีเปรื่องแกล้งน้อง

ลงสองบท น้องยังไม่ได้สักบท

อิอิ เราแต่งไม่ได้ โวยวายไว้ก่อน  :010:


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 11, มกราคม, 2556, 07:49:24 AM
เอื้อมหตะถา   คว้าบุษกร
เรือก็ คะลอน คระลอน   หวิดสิตะแคง
ตกหฤทัย       ไอ่ยะ! ซะแรง
สุดจะระแวง    แหยง กลัว มรณัง

พ้นกรณีย์       ชีวิตะลา
ให้ดนุอา-       รมณะพัง
จำกระเชียง     เบี่ยงจระรัง
กลัวสิมิยัง       พบยุพเยาว์  

 :014:  :014:  :014:

ศรีเปรื่อง
๑๑ ม.ค. ๒๕๕๖

ปล.
๑. หตถา (หะ-ตะ-ถา) แผลงจาก หัตถา
๒. คะลอน คระลอน แผลงจาก คลอน
    เป็นการแผลงคำควบกล้ำโดยแทรกสระ อะ ลงไป มีให้เห็นในงานประพันธ์เก่า ๆ เช่น ครู แผลงเป็น คะรู
    เปลี่ยนไปใช้ คระลอน แทน เนื่องจากไปเห็นในฉันท์เก่า ๆ ที่แผลง ไคล เป็น คระไล ซึ่งเป็น คล เหมือนกัน
๓. อา-   รมณะ เป็นการฉีกคำ จากคำว่า อารมณ์
๔. กระเชียง (กะ-ระ-เชียง) แผลงจาก กรรเชียง


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 11, มกราคม, 2556, 09:12:37 AM

สบนยะนา         มานพะพงศ์
จิตะพะวง          วุ่นกมะลา
พักตระผ่าว        ราวอคนา
เขิน ณ อุรา       มานะพธู

เนตระชะม้าย     นัยนะดู
แดดุจะฟู           ใดบ่มิปาน
หลับก็นิมิต        จิตตะสราญ
รัชนิการ            แย้มสุริยน

             :055:

เป็นครั้งแรกที่แต่งฉันท์เลยเจ้าคะ
ขอคำชี้แนะจากพี่ศรีเปรื่องด้วยเจ้าค่ะ
ขอขอบคุณเจ้าค่ะ

             :055:

ลิตเติลเกิร์ล


เพิ่งจะเห็น ไม่รู้ว่าแอบมาเขียนตอนไหน  :014:  :014:  :014:

ปลื้มหท ยา          กายะจะลอย
ด้วยพธุกลอย       นิ่มนฤมล
มีจิตะใคร่            ใฝ่ดนุตน
ให้มนะพ้น           ผ่อนทุขะเบา
 
รีบปฎิบัติ            จัดบุษบา
ช่อมหุมา             มอบยุพเยาว์       
หวังวะพธู            ดูอุระเรา
โปรดเถอะนะเอา   พิจะระณา ไว้พิเคราะห์ดู

ศรีเปรื่อง
๑๑ ม.ค. ๒๕๕๖

ปล.

ขอบคุณท่าน พรายม่าน มากครับ ที่ให้ข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์
ขออภัยด้วยนะครับ ท่านพรายม่าน ที่นำข้อแนะนำมาเผยแพร่โดยไม่ได้ขออนุญาต

ท่านศรีเปรื่องครับ ในมาณวกฉันท์บทล่าสุด

ปลื้มหฤยา          กายะจะลอย

น่าจะเป็น หทยา จาก หทย-หัวใจ หรือเปล่าครับ

และ

โปรดเถอะนะเอา   พิจะระณา

พิจะระ-จะกลายเป็นลหุทั้งสามพยางค์ครับ ถ้ามาจาก พิจารณา-ซึ่งคำอ่านว่า พิ-จาน-ระ-นา
ซึ่งผิดกับ นิจ-ที่อ่านว่า นิด-จะ หรือ จิต จิด-ตะ ซึ่งคำแรกก็จะนับเป็นครุได้

ด้วยความเคารพ

พรายม่าน

ผมเลยได้ข้อคิดดี ๆ คือ ในการแต่งฉันท์ ต้องมีพจนานุกรมที่บอกรากศัพท์ำด้วย เช่น มาจาก บาลี หรือ สันสกฤต และ อ่านว่าอย่างไร เพื่อจะได้แผลงคำได้ถูกต้องครับ

๑. พธุ แผลงจาก พธู >> ผู้หญิง
๒. ทุขะ แผลงจาก ทุกข์
๓. วะ แผลงจาก ว่า
๔. มหุมา แผลงจาก มหึมา (แฮ่ ๆ แผลงเล่น ๆ จริง ๆ ไม่จำเป็น)


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 14, มกราคม, 2556, 09:26:25 PM
ศรีประเปรื่อง          เฟื่องพิทยา
เกี้ยวยุวพา             มาล่ะก็นาน
หวังอระองค์           ปลงอุระมาน              
เนิ่นล่ะก็นาน           เหนื่อยหฤทัย

กริ้วทิพะย์ดา          หาพิศะดู
ปล่อยดรนู             หู่จิตะใจ
สุดปละเปลี่ยว        เหี่ยวล่ะกระไร
จำจระไป               หากิ๊กะอร

 :014:  :014:  :014:

๑๔ ม.ค. ๒๕๕๖


ปล.

๑. ล่ะ แผลงจาก แหละ
๒. ทิพะย์ดา แผลงจาก เทพยดา
๓. ปละเปลี่ยว (ปะ-ละ-เปลี่ยว) แผลงจาก เปล่าเปลี่ยว
    ข้อ ๑-๓ ใช้หลักการแผลงสระครับ
๔. ดรนู (ดะ-ระ-นู) แผลงจาก ดนู >> ข้าพเจ้า
    เป็นการแผลงคำโดยแทรก ร ลงไปในคำที่มีเสียง อะ แต่ ไม่มีรูป อะ (ไม่ประวิสรรชนีย์)
ในงานประพันธ์เก่า ๆ จะมีให้เห็นอยู่บ้าง  เช่น แผลง ตลอด เป็น ตรลอด และ สว่าง เป็น สรว่าง
แต่ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมครับ
๕. ศรีประเปรื่อง (ศรี-ปะ-ระ-เปรื่อง) แผลงจาก ศรีเปรื่อง
    ไม่ได้ยึดหลักอะไร แต่ดัดแปลงจากลักษณะการออกเสียง เวลาพูดแล้วหันลิ้นเยอะ ๆ ครับ  :014: :014: :014:


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 15, มกราคม, 2556, 02:17:32 AM

บัวสิจะบาน      ต้านทะลุตม
ขื่นก็มิขม      เข้าชนะคาย
ลึกบ่ละลด      หมดประจุหมาย
ใบรึระบาย      บ่นกระแซะบึง

ลบมติมั่น      บรรพสมัย
ดานภวใด      สรรพสะพรึง
จากทุรเทศ      เขตทมะขึง
ดินรึจะดึง      บุษบบาน ฯ

พรายม่าน
๑๕ มกราคม ๕๖

ทุรเทศ=ที่อันไม่น่าอยู่
ทมะ=การข่มใจ, การทรมาน
บุษบ=ดอกไม้

หมายเหตุ: เนื่องจากฉันท์ได้ต้นแบบมาจากภาษา ปาลีและสันสกฤต ซึ่งมีศัพท์ประกอบด้วยลหุอยู่เป็นอันมาก การแต่งฉันท์ด้วยคำไทยแท้ซึ่งเป็นคำโดด จึงยากและหย่อนความไพเราะไป (อย่างบทแรก) ฉันท์ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะใช้คำที่มีรากจากปาลีและสันสกฤต


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: เส้นชีวิต ดำเนินไป ที่ 15, มกราคม, 2556, 05:04:20 AM

ศรีประเปรื่อง    เคืองขระขุ่น
ท้อสินะคุณ      ดุนพจนา
เกี้ยวตระแม่     แดจรลา
โอ้อนิจา          คว้ากิ๊กะอร

          :a016:
           อายจัง
พี่ศรีเปรื่องรีบมาอ่านเจ้าค่ะ
เดี๋ยวน้องจะลบกระทู้ละ แหะๆ
อายท่านพรายม่าน :007:




หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 15, มกราคม, 2556, 11:51:30 AM

โถ เถอะน่ะสาว      พราวนะพจี
    ฉันทกวี              ใครฤจะรอน
คำคณะค่า      พาสุวพร
ไหนอธิกรณ์        บรรณนิพนธ์

พรายม่าน
๑๕ มกราคม ๕๖


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: เส้นชีวิต ดำเนินไป ที่ 15, มกราคม, 2556, 04:38:40 PM

แย่ละซิเรา     เศร้าอุระใน    
ตกหฤทัย      ใด บ่ มิปาน
เกรงฤจะผิด    คิดละก็นาน
อักขระจาร     ฉันท์สิบ่งาม   :007:
      
          :a016:

 




หัวข้อ: Re: สยามมณีฉันท์
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 15, มกราคม, 2556, 07:49:47 PM

สยามมณีฉันท์

กระไรจะขามมิย่ามฉะนั้น
เลบงบุหลันฤพรั่นสนาม
ประจงประสมวิกรมพิราม
เชวงก็วามนิยามนิยม

กวีมิหวั่นประฉันทลักษณ์
ผดุงวิจักขณ์สลักผสม
เจรียงพนิตวิจิตรภิรมย์
ผิชอบก็ชมสิขมก็คาย

พรายม่าน
๑๕ มกราคม ๕๖
หมายเหตุ: สยามมณีฉันท์เป็นฉันท์ที่ประดิษฐ์ขึ้นโดยพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ หรือ น.ม.ส.ใช้ ลหุกับครุ สลับกันไป
จำนวนพยางค์และสัมผัสเหมือนกลอนแปด สำนวนที่โด่งดังมากของท่านคือ “สยามดรุณ”


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 16, มกราคม, 2556, 03:56:20 PM
ท่าน น.ม.ส. มีงานประพันธ์ที่สุดยอดมากมาย
หนึ่งในนั้นก็ คือ นิทานเวตาล ที่ทำให้ผมต้องมนต์เสน่ห์ของ มาณวกฉันท์ ครับ

กาพย์ฉบัง ๑๖
ชายใดไม่เที่ยวเทียวไป   ทุกแคว้นแดนไพร
มิอาจประสบพบสุข
ชายใดอยู่เหย้าเนาทุกข์   ไม่ด้นซนซุก
ก็ชื่อว่าชั่วมัวเมา

มาณวกฉันท์ ๘
จงจระเที่ยว      เทียวบทะไป
พงพนะไพร      ไศละลำเนา
ดั้นบถะเดิน       เพลินจิตะเรา
แบ่งทุขะเบา     เชาวนะไวฯ

 :014:  :014:  :014:

ปล.
ที่น่าสนใจ คือ ฉันท์ของท่านมีสัมผัสระหว่างวรรคทุกวรรคเหมือนกลอน
(จริง ๆ ฉันท์ไม่ได้บังคับให้มีสัมผัสทุกวรรค)


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 16, มกราคม, 2556, 06:02:13 PM
            :055:

แหะๆ  มาแต่ละบท เหมือนจะง่าย 
แต่ไม่ง่ายเลยเจ้าค่ะ  ขอมุดตำราก่อนเจ้าค่ะ  :007:



หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: test ที่ 16, มกราคม, 2556, 06:28:11 PM
            :055:

แหะๆ  มาแต่ละบท เหมือนจะง่าย 
แต่ไม่ง่ายเลยเจ้าค่ะ  ขอมุดตำราก่อนเจ้าค่ะ  :007:



ข้อยก็แต่งบ่เป็น แต่มานั่งเป็นกำลังใจให้ละกันเด้อ  น้องหญิงสู้สู้ น้องหญิงสู้ตาย น้องหญิงไว้ลาย สู้จนตาลายเลยน้องหญิง :a016:


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 16, มกราคม, 2556, 06:50:50 PM
ที่เอามาให้ดูล่าสุด เป็นงานในนิทานเวตาล ของท่าน น.ม.ส. ไม่ใช่ของผมนะครับ

(ไม่มีปัญญาแต่งได้ขนาดนี้หรอกครับ)  :014:  :014:  :014:


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 18, มกราคม, 2556, 11:33:28 PM
น่าจะพออนุโลมได้นะครับ เพราะเป็นชื่อเฉพาะ อ่านว่า "พรา-ยะ-ม่าน" นี่ จะพอจับความได้ไหมครับว่าหมายถึงใคร

พรายม่าน
๑๘ มกราคม ๕๖


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 19, มกราคม, 2556, 07:43:44 PM


คอก็ชะเง้อ     เธอก็มิทัก
น้อยมนนัก     ภักดิ์ตระแม่
เก้อสิบ่เรา      เหงาอุระแด
ใครนะจะแล    สาวสิบ่งาม

หวานพจนา    พาจิตะไหว
โอ้หฤทัย       ใดนะจะปราม
ปล่อยบุษบง   หลงจิตะตาม
ชายนิรนาม     ห้ามก็บ่ฟัง
        :055:
งง เจ้าค่ะ    :001:



     


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 19, มกราคม, 2556, 11:15:22 PM

คอก็ชะเง้อ     เธอก็มิทัก
น้อยมนนัก     ภักดิ์ตระแม่
เก้อสิบ่เรา      เหงาอุระแด
ใครนะจะแล    สาวสิบ่งาม

หวานพจนา    พาจิตะไหว
โอ้หฤทัย       ใดนะจะปราม
ปล่อยบุษบง   หลงจิตะตาม
ชายนิรนาม     ห้ามก็บ่ฟัง       


อันจิตะชาย     ง่ายจะคะเน
ห่างนุชะเพ      เหบ่มิยัง     
โพนะทะนา     มาล่ะดะดัง
เกรงยุวะพลั้ง   เผลอหทยา

หน้าล่ะก็หวาน  หว่านพจมาน
รักดุจะปาน      เพียงวะนภา
พอจระไป        ไกลพนิดา
ลืมสตยา          หากิ๊กะเพลิน

ศรีเปรื่อง
๑๙ ม.ค. ๒๕๕๖

ปล.

โพนะทะนา มาจาก โพนทะนา >> ป่าวประกาศ
ดะดัง แผลงจาก ดังดัง (การแผลงคำซ้ำ เช่น เรื่อยเรื่อย เป็น ระเรื่อย)
สตยา แผลงจาก สัตย์


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 20, มกราคม, 2556, 02:43:58 AM

ดูจิตะชาย        หน่ายนะกมล
แอบซุกะซน     ยลกิ๊กะเพลิน
โถจิตะแม่        แค่ลิตะเกิร์ล
ชายมนเมิน      เคิ้นสิอนงค์

เกาะ ณ กะคาน    นานละก็คอย
รอบุรุษ์ลอย       สอยลิตะลง
สงรึกะสัย         ให้อุระปลง
เปรื่องจิตะคง     ค้างบนะคาน   :007:
              :a016:

ได้ไหมเจ้าคะ   :014:

เคิ้น  แปลว่า เหลือ  ขายไม่ออก   :010:

*ขอบคุณพี่ศรีเปรื่องที่ช่วยชี้แนะเจ้าค่ะ   :014:


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 21, มกราคม, 2556, 04:58:16 PM
ด้วยมิประสบ          พบซะกะที
อันอิสตรี               ต้องอุระมาน
อย่าติวะเรา            เจ้าสิสราญ
เดี๋ยวพธุพาน          กริ่งดนุเกิน                     

ใครวะระรื่น            ชื่นหทยา
คบยุวพา               คราละพะเนิน
เนี่ย! จำหทัย          ใช่วะจะเพลิน
เหนื่อย ฤ ประเมิน    ปวดกะระบาล

ศรีเปรื่อง
๒๑ ม.ค. ๒๕๕๖

ปล.

1) ซะกะ แผลงจาก ซัก
2) สิสราญ มาจาก (สิ = มาก) + สราญ = สำราญมาก
3) กะระบาล แผลงจาก กระบาล


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 23, มกราคม, 2556, 09:15:03 PM
มาณวกฉันท์ จากตำราแต่งฉันท์ ที่นิพนธ์โดย สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
รวบรวมไว้ในหนังสือ ชุมนุมตำรากลอน ฉบับหอพระสมุดวชิรณาณ (พิมพ์ครั้งที่ ๓ พ.ศ.๒๕๑๙)
เอามาให้ได้ศึกษากันครับ

เรื่อง "โทษเี่ที่ยวกลางคืน ๖ ประการ"

โทษจรดล      หนถละมารค
เคหประจาก    พาหิรจร
รัตติวิกาล       พานภยะรอน
ควรอนุสร       พุทธะกถา

โทษะฉะเพธ   เหตุประกาศ
คือบมิอาจ      คุ้มศริรา
สรรพริปู        ผู้จะเสาะหา
สบหทยา       พ้องพะระราน

(มีต่อ...ครั้งหน้าจะเอามาเพิ่มครับ)

ปล.

จรดล = เที่ยวไปถึง
ถละ = ที่บก
มารค = ทาง
ประจาก = จากไป
พาหิร = ข้างนอก
ภยะ = ภัย
อนุสร = ระลึก
ฉะ = ฟัน
เพธ มาจาก เวธะ = การแทง
ศริรา อาจมาจาก ศรีษะ หรือไม่ก็ สรีระ อันนี้ไม่แน่ใจครับ
พะ = พบ, ปะทะ


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 23, มกราคม, 2556, 09:41:39 PM

มานั่งรออ่านเจ้าค่ะ   :AddEmoticons00921:


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 28, มกราคม, 2556, 10:13:32 AM
 :014:  :014:  :014:

สุดสปะดาห์         มา คะละ จระเซ็น-
ทรัละยะเย็น        ฉ่ำหทยา
เหลือบทิศะซ้าย   ย้ายพิศะขวา
ล้วนยุวพา           โสภณะหลาย

แสนริษยา          ตา กวะ ดุจะเพลิง
จิตมิระเริง           รุ่มวรกาย
ด้วยตะละเนียง    เคียงนระชาย
เลย จำศิระบ่าย        กลับคฤห์สถาน

ศรีเปรื่อง
๒๘ ม.ค. ๒๕๕๖

ปล.

สปะดาห์ = สัปดาห์
คะละ = คลา = เดิน เปลี่ยนเป็น จระ  [แผลง คลา เป็น คะละ ดูท่าคนอ่านจะเดายาก]
เซ็น-  ทรัล = ห้างเซ็นทรัล
ยะเย็น = เย็นเย็น
กวะ = ราวกับว่า เปลี่ยนเป็น ดุจะ ตรงเลยดีกว่า
ระเริง = รื่นเริง
ตะละ = แต่ละ
เนียง = นาง
คฤห์ = คฤห = บ้าน

แปล: สุดสัปดาห์ ก็เลยมาเดินที่เซ็ลทรัล ให้เย็น ๆ ชื่นฉ่ำใจ
        เหลือบซ้ายแลขวาก็เจอแต่สาวสวย ๆ มากหลาย
        อิจฉาตาร้อน ไม่รื่นเริง ร้อนรุ่มกายสุด ๆ
        เพราะสาวแต่ละคนมากับผู้ชายทั้งนั้น จำหันหัวกลับบ้านไป


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 28, มกราคม, 2556, 02:43:40 PM

เรารึก็หา              ตาจะถลน
ดูมนคน               จนจิตะอาน
สุดสปะดาห์         น่าจะสราญ
เพลินพิศะกานท์   หวานพจนี

คงตริจะปล่อย      รอยะชรา
มองและเสาะหา     หน้ายุวดี
ปวดอุระหนอ        ขอจระหนี
ขาดดรุณี              ร้อนวรกาย  :014:

             รินดาวดี

              :055:

ใช้เวลาแต่ง ครึ่งวันเลยเจ้าค่ะ  :010:
ผิดตรงไหน ชี้แนะด้วยนะเจ้าคะ
อ่านไป  งงไป    



หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 28, มกราคม, 2556, 07:32:44 PM
มาณวกฉันท์ จากตำราแต่งฉันท์ ที่นิพนธ์โดย สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
รวบรวมไว้ในหนังสือ ชุมนุมตำรากลอน ฉบับหอพระสมุดวชิรณาณ (พิมพ์ครั้งที่ ๓ พ.ศ.๒๕๑๙)

เรื่อง โทษเที่ยวกลางคืน ๖ ประการ (ต่อ)

หนึ่งมละชา-    ยาและดะไนย
เบื้องบทไคล    คลาศคฤหสถาน
เอารสทา-       ราริตริการ
เที่ยวทุรหาร     จิตรคนอง

บุตรก็จะเสีย     เมียก็จะชั่ว
เหตุเพราะตัว    เลยละบครอง
จักทุจริต         ผิดกลปอง
ภักตรจะหมอง   มัวหฤทัย


ปล. (-) ท้ายคำฉีกผมเพิ่มเข้าไปเอง ต้นฉบับไม่มีครับ

      ยังไม่จบนะครับ ครั้งหน้าจะมาเพิ่ม

มละ = ละ, ทิ้ง
ดะไนย = ดนัย
คลาศ = คลาด
เอารส มาจาก โอรส
ทารา มาจาก ทาริกา = เด็กหญิง
ทุร = ชั่ว,ไม่ดี + หาร = การนำไป, สิ่งที่ได้ 



หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 31, มกราคม, 2556, 12:02:41 AM
มาณวกฉันท์ จากตำราแต่งฉันท์ ที่นิพนธ์โดย สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
รวบรวมไว้ในหนังสือ ชุมนุมตำรากลอน ฉบับหอพระสมุดวชิรณาณ (พิมพ์ครั้งที่ ๓ พ.ศ.๒๕๑๙)

เรื่อง โทษเที่ยวกลางคืน ๖ ประการ (ต่อ)

หนึ่งธนสาร       ดาลจะพินาศ
เพื่อเพราะนิราศ  รัตติคระไล
โจรจะกระทำ     กรรมทุษไภย
ทรัพย์จะไกษย   โทรมนศา

ครั้งหน้าจะมาเพิ่มครับ

ปล.

ดาล = กลอนประตู
คระไล แผลงจาก ไคล = ไป
ไภย = ภัย
ไกษย = กษัย = หมดสิ้น
โทรมนศา = โทมนัส = เสียใจ


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 31, มกราคม, 2556, 10:46:26 PM
 :014:  :014:  :014:

แมงกะระไซต์     ไม่ชำนิเชี่ยว
กลัววะจะเฉี่ยว    เสียวอะจะจึ๊ก
ล้มกะสิเจ็บ        เหน็บกะยะลึก
ขอพิเคราะห์ตรึก  ก่อนสิสตาร์ท

หากวะสมร       ซ้อนกระแซะท้าย
ตาย ฤ ก็ตาย     วายะชิวาตม์
ขอตะวะเนียง     เคียงมิคระลาศ
เบิ้ลรถะยาตร     มาดขรุขระทาง

ศรีเปรื่อง
๓๑ ม.ค. ๕๖

แมงกะระไซต์ แผลงจาก แมงกะไซต์
วะ แผลงจาก ว่า
อะจะจึ๊ก แผลงจาก อะจึ๊ก (แผลงไม่มีหลักอะไร เพียงแค่เห็นว่ามันแสดงถึงอาการของ อะจึ๊ก ได้มากขึ้นกว่าเดิม  :014:)
กะยะ แผลงจาก กายา
ชิวาตม์ แผลงจาก ชีวาตม์
ตะวะ แผลงจาก แต่ว่า (ฉันท์เก่า ๆ แผลง แต่ละ เป็น ตะละ, ว่า เป็น วะ ดังนั้น แต่ว่า ก็น่าจะเป็น ตะวะ ได้)
คระลาศ แผลงจาก คลาศ (มีการแผลง ไคล เป็น คระไล ได้ ดังนั้น คลาศ ก็น่าจะเป็น คระลาศ ได้)
เบิ้ลรถะยาตร   มาดขรุขระทาง แปลว่า บิดมอไซต์ไปหาทางที่ขรุขระ  :014:  :014:  :014: (ก็เพราะมีสาวซ้อนกระแซะท้ายไงครับ)


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 01, กุมภาพันธ์, 2556, 12:32:54 AM
มาณวกฉันท์ จากตำราแต่งฉันท์ ที่นิพนธ์โดย สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
รวบรวมไว้ในหนังสือ ชุมนุมตำรากลอน ฉบับหอพระสมุดวชิรณาณ (พิมพ์ครั้งที่ ๓ พ.ศ.๒๕๑๙)

เรื่อง โทษเที่ยวกลางคืน ๖ ประการ (ต่อ)

หนึ่งผิวไคล    สมัยรติกาล
มักจะพะพาน  โจรจรมา
ลักธนะปลาศ   ปราศคฤหา
เจ้าคฤหคลา    คลาศบมิทัน

ไต่รถยางค์     ห่าง ฤ ประสบ
พอปะพะพบ   ตนจรจรัล
เขาก็จะจับ     ปรับครุทันฑ์
โทษะมหันต์   พันธนะประหาร


ครั้งหน้ามาเพิ่มครับ

ปล.

ไต่รถยางค์ ยังไม่แน่ใจกับความหมายที่แท้จริงสักเท่าไหร่

ไต่ = เคลื่อนที่ด้วยความยากลำบาก
รถยางค์ น่าจะมาจาก รถ + องค์ (เหมือน ไตรยางค์ มาจาก ไตร + องค์) = รถประเภทหนึ่ง

ท่านใดทราบความหมายช่วยแชร์ด้วยครับ
 :014:  :014:  :014:

ข้อสังเกต

พันธนะประหาร = พัน-ธะ-นะ-ประ-หาร  >> จำนวนเสียงมีมากกว่า 4 โดยเพิ่มเสียงลหุอีก 1 เสียง


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 04, กุมภาพันธ์, 2556, 08:58:12 PM
มาณวกฉันท์ จากตำราแต่งฉันท์ ที่นิพนธ์โดย สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
รวบรวมไว้ในหนังสือ ชุมนุมตำรากลอน ฉบับหอพระสมุดวชิรณาณ (พิมพ์ครั้งที่ ๓ พ.ศ.๒๕๑๙)

เรื่อง โทษเที่ยวกลางคืน ๖ ประการ (ต่อ)

หนึ่งจรดล      หนณะประตู
แห่งคฤหผู้     อื่นขณะวิกาล
เขาจะพโล     โจระประจาน
ใดสวนะสาน    เชื่อบมิแหนง

ครั้งหน้ามาเพิ่มครับ


ข้อสังเกต

อื่นขณะวิกาล >> อื่น-ขะ-ณะ-วิ-กาล
ใดสวนะสาน   >> ใด-สะ-วะ-นะ-สาน

มี 5 เสียง เหมือนกับบทก่อนหน้าครับ


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 05, กุมภาพันธ์, 2556, 08:28:19 PM
มาณวกฉันท์ จากตำราแต่งฉันท์ ที่นิพนธ์โดย สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
รวบรวมไว้ในหนังสือ ชุมนุมตำรากลอน ฉบับหอพระสมุดวชิรณาณ (พิมพ์ครั้งที่ ๓ พ.ศ.๒๕๑๙)

เรื่อง โทษเที่ยวกลางคืน ๖ ประการ (ต่อ)

หนึ่งจะอดูร      ภูลภยมาก
มักอะระขวาก   หนามสวะแทง
อีกอหิชาติ์      กาจพิศมแรง
พาธะจะแสลง  มล้างชนม์มลาย


ข้อสังเกต

กาจพิศมแรง อ่านเป็น กาจ-พิ-ศะ-มะ-แรง >> เป็น 5 เสียง โดยมีลหุอยู่ตรงกลาง 3 เสียง
พาธะจะแสลง >> พา-ธะ-จะ-สะ-แหลง
มล้างชนม์มลาย อ่านเป็น มะ-ล้าง-ชะ-นะ-มะ-ลาย >> อันนี้เจ๋งครับ มีถึง 6 เสียง
     มะ-ล้าง ตีความเป็น ครุ 1 เสียง
     มะ-ลาย ตีความเป็น ครุ 1 เสียง


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 13, กุมภาพันธ์, 2556, 10:00:21 PM
มาณวกฉันท์ จากตำราแต่งฉันท์ ที่นิพนธ์โดย สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
รวบรวมไว้ในหนังสือ ชุมนุมตำรากลอน ฉบับหอพระสมุดวชิรณาณ (พิมพ์ครั้งที่ ๓ พ.ศ.๒๕๑๙)

เรื่อง โทษเที่ยวกลางคืน ๖ ประการ (จบ)

ภูริตริเห็น       เป็นขะระโทษ
ฉัพพิธโปรด    อรรถธิบาย
พึงมละเว้น     เช่นอภิปราย
ทุกขะจะวาย   เสวยศุขสานต์

ฉันทะลิลาศ     สาสนะแสดง
โดยบทแถลง   เล่หบุราณ
มาณวกนาม     ตามบริหาร
ทวยธิรญาณ    อย่างรินิพนธ์


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 17, กุมภาพันธ์, 2556, 03:29:17 PM
ไป อ.ธาตุพนมครับ เลยคิดเรื่องนี้ขึ้นมา  :014:  :014:  :014:

ขับรถะมาด      ธาตุพนม
จิตะภิรมย์        คืนนครา
ถิ่นบุระที่         ลี้จรมา
คลาศะยุพา      รักยุวะวัย (๑)

ยาตระกระนี้     ศรี ฯ มุจะเจอ
เนียงนุชะเธอ   สมหฤทัย
ครั้นปะตะลึง    อึ้งมนใน
ด้วยพธุ size    ใกล้คชสาร (๒)

ศรีเปรื่อง
๑๗ ก.พ. ๒๕๕๖

บุระ = เมือง


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 17, กุมภาพันธ์, 2556, 09:14:28 PM


ไปตระเตร่            เห่อุระบาน
ทิ้งเยาวมาลย์        หมองจิตตรม
ชื่นรมณี                มีรุจิรมย์
โปรยนะคำชม       ดมบุษกร

งอนละนะเรา       เหงาก็รำพัน                      
ชายสิบ่หัน           จ้องกิ๊กะอร
มาณวกฉันท์       หวั่นวะจะรอน
ชายสิบ่สอน         อ้อนกิ๊กะเพลิน   :006:
 
            :a016:
          ลิตเติลเกิร์ล


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 18, กุมภาพันธ์, 2556, 09:45:27 PM
ขับรถะมาด      ธาตุพนม
จิตะภิรมย์        คืนนครา
ถิ่นบุระที่         ลี้จรมา
คลาศะยุพา      รักยุวะวัย (๑)

ยาตระกระนี้     ศรี ฯ มุจะเจอ
เนียงนุชะเธอ   สมหฤทัย
ครั้นปะตะลึง    อึ้งมนใน
ด้วยพธุ size    ใกล้คชสาร (๒)

จิตะก็ย้อน           ตอนยุวะเรียน
ฝึกกลเขียน         เล่หะพิธาน
นั่งแปะพระแกล    แลยุวมาลย์
จนมนะพาน         ขาดสติคง (๓)

พอคุรุถาม           ตามบทะบรรณ
ตกอุระพลัน         เนตรละอนงค์
รีบเสาะวลี           ที่เหมาะเจาะตรง
ผิดคุรุลง             โทษะประทาน (๔)

ศรีเปรื่อง
๑๘ ก.พ. ๒๕๕๖

ปล.

แปะ = ติด
พระแกล = หน้าต่าง
ยุวมาลย์ แผลงจาก เยาวมาลย์
บรรณ = หนังสือ


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 19, กุมภาพันธ์, 2556, 02:30:42 PM
ขับรถะมาด      ธาตุพนม
จิตะภิรมย์        คืนนครา
ถิ่นบุระที่         ลี้จรมา
คลาศะยุพา      รักยุวะวัย (๑)

ยาตระกระนี้     ศรี ฯ มุจะเจอ
เนียงนุชะเธอ   สมหฤทัย
ครั้นปะตะลึง    อึ้งมนใน
ด้วยพธุ size    ใกล้คชสาร (๒)
จิตะก็ย้อน           ตอนยุวะเรียน
ฝึกกลเขียน         เล่หะพิธาน
นั่งแปะพระแกล    แลยุวมาลย์
จนมนะพาน         ขาดสติคง (๓)

พอคุรุถาม           ตามบทะบรรณ
ตกอุระพลัน         เนตรละอนงค์
รีบเสาะวลี           ที่เหมาะเจาะตรง
ผิดคุรุลง             โทษะประทาน (๔)


ยืน ณ ระเบียง       เพียงดนุเดียว
เปล่าจิตะเปลี่ยว     เหี่ยว ฤ ประมาณ
โอ้ยุวะชาย            อายมหุฬาร
กริ่งวะสคราญ        หยามอตมา (๕)

ยินสรผ่าง             หง่างหง่ะระฆัง
โอ้ย! ปิติจัง           โทษะจะลา
ผิดดำริคิด             จิตะระอา
อาจริยา                เพิ่มคุรุทัณฑ์ (๖)

ศรีเปรื่อง
๑๙ ก.พ. ๒๕๕๖

ปล.
มหุฬาร จาก มโหฬาร
อตมา จาก อาตมา (ฉันท์เก่า ๆ ใช้แทนข้าพเจ้า)
หง่างหง่ะ จาก หง่างเหง่ง
อาจริยา จาก อาจริย (มคธ) = อาจารย์


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 20, กุมภาพันธ์, 2556, 07:46:28 AM
ไปตระเตร่            เห่อุระบาน
ทิ้งเยาวมาลย์        หมองจิตตรม
ชื่นรมณี                มีรุจิรมย์
โปรยนะคำชม       ดมบุษกร

งอนละนะเรา       เหงาก็รำพัน                      
ชายสิบ่หัน           จ้องกิ๊กะอร
มาณวกฉันท์       หวั่นวะจะรอน
ชายสิบ่สอน         อ้อนกิ๊กะเพลิน


เรียมจรดล        หนถละอื่น
เนียงนุชะตื่น     หวาดจิตะเกิน
ใช่ตริริร้าง         ห่างมละเมิน
เพียงจระเดิน-    สายบริพันธ์

ไปแวะกระโน้น    โผน ณ กระนี้
สุขะฤดี              แสนหฤหรรษ์
แต่ก็มินิ่ง            ทิ้งมละกัน
แน่วกละฉันท์      มาณวกา

ศรีเปรื่อง
๒๐ ก.พ. ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 22, กุมภาพันธ์, 2556, 08:19:03 AM
ขับรถะมาด      ธาตุพนม
จิตะภิรมย์        คืนนครา
ถิ่นบุระที่         ลี้จรมา
คลาศะยุพา      รักยุวะวัย (๑)

ยาตระกระนี้     ศรี ฯ มุจะเจอ
เนียงนุชะเธอ   สมหฤทัย
ครั้นปะตะลึง    อึ้งมนใน
ด้วยพธุ size    ใกล้คชสาร (๒)
จิตะก็ย้อน           ตอนยุวะเรียน
ฝึกกลเขียน         เล่หะพิธาน
นั่งแปะพระแกล    แลยุวมาลย์
จนมนะพาน         ขาดสติคง (๓)

พอคุรุถาม           ตามบทะบรรณ
ตกอุระพลัน         เนตรละอนงค์
รีบเสาะวลี           ที่เหมาะเจาะตรง
ผิดคุรุลง             โทษะประทาน (๔)

ยืน ณ ระเบียง       เพียงดนุเดียว
เปล่าจิตะเปลี่ยว     เหี่ยว ฤ ประมาณ
โอ้ยุวะชาย            อายมหุฬาร
กริ่งวะสคราญ        หยามอตมา (๕)

ยินสรผ่าง             หง่างหง่ะระฆัง
โอ้ย! ปิติจัง           โทษะจะลา
ผิดดำริคิด             จิตะระอา
อาจริยา                เพิ่มคุรุทัณฑ์ (๖)


กลับคฤหะรัง         ยังบมิได้
อาจริยะให้            เก็บคุรุภัณฑ์
กวาดโต๊ะกระดาน   ม่าน ฤ วะบัญ-
ชรประลุยัน           ตั่งและประตู (๗)

โอ้อนุศรี ฯ           ชีมนะช้ำ
จำอุระทำ            ตามพจะครู
อดพิศะจ้อง         มอง ณ พธู
ครูนะคะรู            โหดมหุฬาร์ (๘)

ศรีเปรื่อง
๒๒ ก.พ. ๒๕๕๖

ปล.

บัญ-  ชร   ฉีกคำ บัญชร = หน้าต่าง
คะรู แผลงจาก ครู

จริง ๆ เด็ก ๆ ผมเป็นเด็กไม่เกรียนเลยนะ (เพิ่งมาเกรียนก็ตอนนี้แหละ  :014: :014: :014:)
 :037: อย่าบอกใครเชียวนะว่า มุขนี้ได้แรงบันดาลใจจาก ท่านพชรบงกช  :014:


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 26, กุมภาพันธ์, 2556, 08:06:40 PM
ขับรถะมาด      ธาตุพนม
จิตะภิรมย์        คืนนครา
ถิ่นบุระที่         ลี้จรมา
คลาศะยุพา      รักยุวะวัย (๑)

ยาตระกระนี้     ศรี ฯ มุจะเจอ
เนียงนุชะเธอ   สมหฤทัย
ครั้นปะตะลึง    อึ้งมนใน
ด้วยพธุ size    ใกล้คชสาร (๒)
จิตะก็ย้อน           ตอนยุวะเรียน
ฝึกกลเขียน         เล่หะพิธาน
นั่งแปะพระแกล    แลยุวมาลย์
จนมนะพาน         ขาดสติคง (๓)

พอคุรุถาม           ตามบทะบรรณ
ตกอุระพลัน         เนตรละอนงค์
รีบเสาะวลี           ที่เหมาะเจาะตรง
ผิดคุรุลง             โทษะประทาน (๔)

ยืน ณ ระเบียง       เพียงดนุเดียว
เปล่าจิตะเปลี่ยว     เหี่ยว ฤ ประมาณ
โอ้ยุวะชาย            อายมหุฬาร
กริ่งวะสคราญ        หยามอตมา (๕)

ยินสรผ่าง             หง่างหง่ะระฆัง
โอ้ย! ปิติจัง           โทษะจะลา
ผิดดำริคิด             จิตะระอา
อาจริยา                เพิ่มคุรุทัณฑ์ (๖)


กลับคฤหะรัง         ยังบมิได้
อาจริยะให้            เก็บคุรุภัณฑ์
กวาดโต๊ะกระดาน   ม่าน ฤ วะบัญ-
ชรประลุยัน           ตั่งและประตู (๗)

โอ้อนุศรี ฯ           ชีมนะช้ำ
จำอุระทำ            ตามพจะครู
อดพิศะจ้อง         มอง ณ พธู
ครูนะคะรู            โหดมหุฬาร์ (๘)

ขับรถะถึง          ซึ่งชลธี
โขงชนนี            ธาตุประชา
ภาพะกระโน้น     โผนปะทุมา  
เริงหทยา           ครายุวะวัย (๙)

โจนะกระโดด      โลดมนะจริง
เหล่าคณะลิง       เล่นชละลัย
ผุดดำและแหวก   แทรกสริร์ไป
จนสุริย์ไคล         ไป่จระรัง (๑๐)

ศรีเปรื่อง
๒๖ ก.พ. ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 27, กุมภาพันธ์, 2556, 09:11:34 PM
(ต่อจากตอนที่แล้ว)

แม่และก็พ่อ     ท้อมนะท้น
ด้วยบุตระตน    ซนบ่มิยั้ง
กริ่งวะจะอาจ    พลาดกะยะพลั้ง
ม้วยมรณัง       จมชละเอา (๑๑)

จำจิตะเฆี่ยน     เกรียนบุตะชาย
ก่อนชิพะวาย    แต่ยุวะเยาว์
เจ็บสริร์แสบ     แปล่บอุระเรา
นัยนะเคล้า       คลอชลนา (๑๒)

ศรีเปรื่อง
๒๗ ก.พ. ๒๕๕๖

ปล.

วะจะ จาก ว่าจะ
กะยะ จาก กายา
ชิพะ จาก ชีพ

ayJzk5PLplE


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 01, มีนาคม, 2556, 12:54:19 PM
เรียน ครูศิลา ท่านรินดาวดี ท่าน Music

มาตามสัญญาครับ มาณวกฉันท์ของผม แต่ขออภัย noise เยอะมาก เนื่องจากไม่ใช่มืออาชีพ

ศรีเปรื่อง
๑ มี.ค. ๒๕๕๖

9BbwMuq1S6w&feature


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 01, มีนาคม, 2556, 01:02:39 PM


ขอบคุณมากเจ้าค่ะ พี่ศรีเปรื่อง
เพราะมากเลย  น้องฟังหลายรอบเลยนะคะ

เพราะจริงๆ  เจ้าค่ะ  ปลื้มค่ะ

 :a013:



หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 04, มีนาคม, 2556, 08:47:04 PM
เรียน ครูศิลา

ขอบคุณมากครับสำหรับคำชม

เอามาณวกฉันท์ the series มาส่งอีกครับ


(ต่อจากตอนที่แล้ว)

จึ่งแวะพระธาตุ    มาดอภิวันท์
จิตดนุมั่น          เทิดพระคุณา
แม้จระไกล        ใจบ่มิคลา
คล้ายสริรา         ใกล้วรองค์ (๑๓)

ก้มศิระกราบ      ราบธรณี
อัตมะมี            จิตะประสงค์
ให้ยุพเยาว์        เหล่ากิ๊กะจง
รักดนุคง           ห่อนมละไป (๑๔)

ศรีเปรื่อง
๔ มี.ค. ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 05, มีนาคม, 2556, 10:33:35 PM
สวยงามขึ้นมากเลยครับ  :035:

ศรีเปรื่อง


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 06, มีนาคม, 2556, 12:20:00 AM
(ต่อจากตอนที่แล้ว)

ใกล้ภพะค่ำ     จำจิตลา
สู่นครา           หนถละไกล
จากวรธาตุ       คลาสคระไล
อกดนุไซร้       แสนจะสะท้าน (๑๕)

ตั้งอุระแน่         แท้บ่มิคลอน
แม้นกิจหย่อน    ผ่อนธุระงาน
จักจรเคลื่อน      เยือนพระสถาน
กราบศิระกราน    ธาตุพนม (๑๖)

= จบแล้วครับ =
ประพันธ์ระหว่างวันที่ ๑๗ ก.พ. - ๕ มี.ค. ๒๕๕๖

ศรีเปรื่องมาณวก The Series
ภาค: เยือนด้าวคราวยุววัย
(มาณวกฉันท์ ๑๖ บท)


ศรีเปรื่อง
๕ มี.ค. ๒๕๕๖



หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 14, มีนาคม, 2556, 12:24:20 AM
จันทระผ่อง              ก่องรพินวล
หรีดร่ำรำจวน            ชวนจิตะตรม
อกดนุฝืน                 กลืนรสะขม
แสนจะระทม            แทบชิวะวาย

ด้วยยุพเยาว์            เขาจรลี
แปล่บปละฤดี           เกินอธิบาย
ไร้นุชะนาง               ว้างสริร์กาย
ปานสิละลาย            จากธรณิน

ศรีเปรื่อง
๑๔ มี.ค. ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 14, มีนาคม, 2556, 08:36:23 PM

โถมนชาย          หลายรมณี
แอ่วตะละที        ดั่งอุระบิน
เพลินซินะพ่อ      คลอชรริน
แอบยุพพิน         ควงกิ๊กอร   :006:

น้อยรตินัก         รักมหุมา
มอบจิตพา        พบสุขจร           
ทรวงตละแม่      แค่อนุชร
เกินจะอุทรณ์      อ่อนหฤทัย
     
             :046

ลิตเติลเกิร์ล



หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 16, มีนาคม, 2556, 10:04:04 AM
 :001:  :001:  :001:

เห็นนุชนาง       หมางหทยา
รีบจรมา           เตือนยุพะลัย
อย่าจิตหู่          ดูบ่วิไล
พักตรจะใกล้     ยักษ์ขมุขี

ยิ้มสิอนุช          หยุดอุระขึ้ง
ปล่อยมนตึง       มันจะมิดี
กาสิเขยื้อน        เยือนภคนี
หมดรศมี            โสภณอร

ศรีเปรื่อง
๑๖ มี.ค. ๒๕๕๖

ปล.

ยุพะลัย จาก ยุพาลัย = ยุพา (ผู้หญิง) + อาลัย (ห่วงใย)
ยักษ์ขมุขี จาก ยักษ์ขมูขี
อนุช = น้องสาว
มน (มะ-นะ) = ใจ
กา หมายถึง ตีนกา
ภคนี = น้องสาว
รศมี จาก รัศมี
โสภณ = สวย
อร = ผู้หญิง

ชุดนี้แถมวิธีอ่านนะครับ เผื่อมีใครสนใจจะฝึก (ขออภัยท่านที่รู้อยู่แล้วด้วยนะครับ)

ค ล ล ค               ค ล ล ค

เห็น-นุำ-ชะ-นาง       หมาง-หะ-ทะ-ยา
รีบ-จะ-ระ-มา         เตือน-ยุ-พะ-ลัย
อย่า-จิ-ตะ-หู่          ดู-บ่-วิ-ไล
พัก-ตระ-จะ-ใกล้     ยัก-ขะ-มุ-ขี

ยิ้ม-สิ-อะ-นุด          หยุด-อุ-ระ-ขึ้ง
ปล่อย-มะ-นะ-ตึง     มัน-จะ-มิ-ดี
กา-สิ-ขะ-เหยื้อน     เยือน-ภะ-คิ-นี
หมด-ระ-สะ-หมี      โส-ภะ-นะ-ออน


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 27, มีนาคม, 2556, 11:05:20 AM
อยากจะเชลง       เพลงรุจิฉันท์
เล่หะประพันธ์       หวานบทตอน
แต่ก็มิแคล้ว         แนวพจะวอน
เป็นกลกลอน        ป่วนอุระคน

ใช่วะจะกร้าน        ด้านมนใน
จิตดนุไหว           เฉกปุถุชน
กลับศิระบื้อ          ตื้อมนจน
สุดเสาะและค้น      พจนครวญ

ศรีเปรื่อง
๒๗ มี.ค. ๒๕๕๖







หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 04, เมษายน, 2556, 11:21:02 AM
จึ่งดนุศรี ฯ        ธีระบุรุษ
ขาดสิรินุช        สุดจะรำจวน
เดินบทท่อง      ส่องฉวินวล
พบพะจะชวน    ทานภตะหาร

วนถลทั่ว         จั่วเฉพาะลม
เท้าก็ระบม       ตรมอุระมาน
ฤาปฐพิน         สิ้นยุพะพาล
จำจรบ้าน         รานมนจริง

ศรีเปรื่อง
๔ เม.ย. ๒๕๕๖

ปล.

ดนุ จาก ดนู = ข้าพเจ้า
ธีระ = ฉลาด
รำจวน = รัญจวน
ฉวิ จาก ฉวี = ผิวพรรณ
พะ = ปะทะกัน ชนกัน
ภตะหาร จาก ภัตตาหาร
ถล = ทางบก
จั่วเฉพาะลม ในที่นี้ เทียบเหมือนกับ จั่วไพ่แล้วไม่ได้อะไรดี ๆ ติดมือมา (ก็คือ ไม่ได้สาวสักคนเลย)
ปฐพิน จาก ปฐพี
ยุพะพาล จาก ยุพาพาล = หญิงงาม
มน (มะำ-นะ) = ใจ  


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 04, เมษายน, 2556, 01:25:56 PM

วาระสดับ               รับวจนา
ร้างภริยา                หาอรอิง
โสดแหละสบาย    ชายมิประวิง
เชยนุชหญิง            สุขอุรา

เช่นกะภมร          ร่อนวนไกล
เริงหฤทัย             พบปะผกา
ดอกระดะดง       งามกระจะตา
เพลินอุระพา       ดังประลุแมน 

ธนุ  เสนสิงห์  


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 04, เมษายน, 2556, 02:08:14 PM
ขอบคุณครูธนุมาก ๆ ครับ ที่เข้ามาร่วมสนุกกับมาณวกฉันท์ด้วยกัน  :a013:  :a013:  :a013:

ผมต่อเลยนะครับ  :014:  :014:  :014:

ยินพจะครู                รู้สจธรรม
ที่ปะระกำ                ตรมจิตแสน
ด้วยเพราะวะมาด      นาถนุชแฟน
ขืนและก็แค่น           จึ่งทุขใจ

จากทินนี้                 ศรี ฯ ปฏิญาณ
ว่าจะมิราน               เพื่อยุพะใด
เลิกเสาะอนุช           หยุดเลาะคระไล
พอหฤทัย                กับกิ๊กเดิม

ศรีเปรื่อง
๔ เม.ย. ๒๕๕๖

ปล.

สจธรรม จาก สัจธรรม
เพราะวะ จาก เพราะว่า
แค่น = ฝืน
ทุข จาก ทุกข์
ทิน (ทิ-นะ) = วัน
ยุพะ จาก ยุพา = ผู้หญิง
คระไล จาก ไคล = ไป


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 04, เมษายน, 2556, 11:43:21 PM
รุ่มสริรา              กายะระคาย
เสทะละลาย        จิตบเหิม
ปราศพิรุณ          อุณหเกริม
ร้อนระอุเติม         ดั่งนรกานต์

แอร์ ฤ ก็เสีย        เหี่ยกมลา
ปวดศิรษา           ใดบมิปาน
ฝืนจะประทม        ข่มทมะทาน
พ่ายทรมาน          นิทระบ่ลง

ศรีเปรื่อง
๔ เม.ย ๒๕๕๖

ปล.

สริรา จาก สรีระ
กายะ จาก กายา
เสทะ = เหงื่อ
อุณห = ร้อน
นรกานต์ = นรก
ศิรษา จาก ศีรษะ
ประทม = บรรทม
ทมะ = การข่มใจ
นิทระ จาก นิทรา


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 06, เมษายน, 2556, 01:49:19 PM

กายระอุอ้าว     บ่าวกวะปลง
ทุกขผจง          ลงบุรพา
บ้านดรุณี         มีสุนิสา
ชื่นสริรา           มากกิ๊กอร

แอ่วก็สนุก       สุขเพราะบ่ร้อน
เอนวปุนอน      ผ่อนก็สบาย
มานะจะรอ       ขอมนชาย
โดยปริยาย       หมายจรเดียว   :evil:

คริคริ หมายเหตุต้องมาคนเดียว  ถึงจะเย็น
ถ้ามาสองคน ร้อนคือเดิม   :010:

สาวน้อย

วปุ   =  ร่างกาย   


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 06, เมษายน, 2556, 02:20:32 PM
แค่ปุมะหนึ่ง         ซึ่งจิตเหงา
อยู่คฤหะเนา        เพียงดนุเดียว
ร่ายกลกลอน        ผ่อนอุระเหี่ยว
หวังนุชเทียว        ร่วมรจนา

คำ ฤ ก็ด้อย         ถ้อยมุขฝืด
สุดรสจืด             ชืดมหุฬาร์
วอนยุพยง           พงศ์พระอุมา
โปรดกรุณา         มาณวกล

ศรีเปรื่อง
๖ เม.ย. ๒๕๕๖
  


 


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 07, เมษายน, 2556, 04:35:33 PM

เห็นกลกานท์     หวานสุรเสียง
สื่อสุตะเพียง      เคียงสุวคนธ์
ฟังพจนี             พี่มนหม่น
ทุกขกมล           เหงาหฤทัย

เอ่ยพจนา          ว่าจิตหงอย    
เหม่ออุระลอย     สิ้นศิวิไล
รอนุชพักตร์        อักขระใจ
ร่วมวทะใด         ให้สุขมี

นี่นะรึชาย           หน่ายสิบ่เกิน
ทิ้งดนุเพลิน         เริงยุพดี
บ้านก็จะร้าง        ห่างจรลี
ไกลดรุณี            หนีละผละลา

ยากจะประดิษฐ์   คิดวิเคราะห์ผล
มาณวกล            คู่รินดาฯ            
ด้วยมนน้อง         หมองอปรา
สิ้นกรุณา             หาวตะครอง

:ab001:
รินดาวดี



อปรา =  พ่ายแพ้
สุตะ   =  ได้ยิน ,ได้ฟังแล้ว
วตะ   =  การจำศีล,การบำเพ็ญทางศาสนา



หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 08, เมษายน, 2556, 12:02:22 PM
ดูกรเจ้า            เยาวสตรี
รินดะวดี           นวลละออง
โปรดละระคาง    หมางมนหมอง
เดี๋ยวฉวิผ่อง      พานจรลี

เรียมยุรยาตร      คลาศอรวรรณ
ด้วยคิมหันต์       สุม ณ สรีร์
ห่อนตริริจาก      พรากยุวดี
เพียงดนุหลี้       อัคนิรอน

ออกเสาะแสวง   แหล่งพจนา
ให้ระอุลา         อุณหจร
แต่อุระนั้น         มั่นบมิคลอน
ถิ่นคฤหกลอน    น้อยกวิกานท์

แม้นวะอนุช       ผุดวรองค์
จิตประสงค์        หนนิพพาน
พี่ ฤ สิขัด          ภัทรทวาร
เปล่งวจะขาน     โมทนะไว

ศรีเปรื่อง
๘ เม.ย. ๒๕๕๖

ปล.

ดูกร = ดูก่อน คำพูดขึ้นต้นเพื่อให้ผู้ฟังสนใจ (ลอกจากงานกวีเก่า ๆ)
รินดะวดี จาก รินดาวดี
ฉวิ จาก ฉวี
อุณหจร จาก อุณห (ร้อน) + จร (ไป)
อุระ จาก อุรา
ปุระ = เมือง
คฤห = บ้าน
กวิ จาก กวี
วะ จาก ว่า
ภัทรทวาร = ภัทร (ประเสริฐ) + ทวาร (ประตู)
วจะ จาก วาจา
โมทนะ จาก โมทนา = พลอยยินดี (ตัดจาก อนุโมทนา)

 :001:  :001:  :001: ลอกไอเดียมาจากเพลง "รักเก่าที่บ้านเกิด" ครับ

XuG4HK2fXes


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 17, เมษายน, 2556, 02:53:15 PM

ดูซิเนาะพ่อ      ต่อพจมาน
สิ้นอภิบาล       กานตหทัย
ไล่นุชนงค์        ปลงวปุไกล
หวังจรไป         ใกล้กิ๊กะนาง

ได้แค่นี้ค่ะ มึนตึบ   :evil:
รินดาวดี

กานต = กานต์


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: สาวเครือฟ้า ที่ 17, เมษายน, 2556, 10:57:01 PM
อ่านม่วนขนาด
ข้าเจ้าเขียนบ่จ้าง กลอนแบบนี้เจ้า

          :047:


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 17, เมษายน, 2556, 11:01:03 PM
โอ้วะพธู            รู้กลเล่ห์
แผนดนุเพ         ภินทมล้าง
จำจิตอด           งดบทย่าง
ปล่อยกิ๊กปราง    ไร้นรเชย

ศรีเปรื่อง
๑๗ เม.ย. ๒๕๕๖

ปล.

ภินทะ = แตก
มล้าง = ทำลาย
บท = เท้า
นร = คน, ชาย


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 21, เมษายน, 2556, 05:02:50 PM
อกดนุครุ่น           วุ่นและคนึง
เหม่อจิตถึง          หนึ่งนุชเคย
ชมชุติผ่อง           คล้องกะยะเกย
ต่างวทะเผย         รักนะจ๊ะเธอ

แต่นิศะนี้             พี่สริร์คว้าง
ไร้พธุข้าง            แสนจะมะเมอ
โอ้อุระท้อ            รออรเก้อ
อัตมะเพ้อ            คล้ายนรบวม

ศรีเปรื่อง
๒๑ เม.ย. ๒๕๕๖

ปล.

ชุติ = ดาว
กะยะ จาก กายา
นิศะ จาก นิศา
สริร์ จาก สรีร = ร่างกาย
มะเมอ = ละเมอ
อัตมะ จาก อัตมา = ข้าพเจ้า
นรบวม = นร (คน) + บวม (อาการประมาณว่าไม่ค่อยเต็ม)


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 21, เมษายน, 2556, 08:36:15 PM

เริงกิ๊กะอร          อ่อนหฤทัย
แล้วรึกระไร        ใจสิกำกวม
แกล้งดรุณี         มีสระอวม
รู้นะวะหลวม       อักขระจาง

เปรยอภิปราย     หมายยุพยง
ปานกะจะหลง     ตรงอุระนาง
"รักนะจ๊ะเธอ"      เพ้อภณวาง
เหงาสริร์คว้าง      ไปศริธัญญ์          

รินดาวดี
๒๑ เมษายน ๒๕๕๖

อากาศยิ่งร้อนๆ อยู่นะจ๊ะพี่เปรื่อง  :evil:

ภณ    =   กล่าว พูด บอก
ศริธัญญ์  =    ศรีธัญญา




หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 22, เมษายน, 2556, 08:38:03 PM
พัฒนะเหลือ     เนื้อนุชนิ่ม
พี่ ฤ ก็ยิ้ม         กริ่มสุขสันต์
ต่อวทะจอง       คล้องบ่มิหวั่น
แถมมุขนั้น       โดนจิตใจ

เริ่มพจะแป๊ก      แก๊กก็มลาน
จำจรบ้าน          สู่ถลใหม่
เพื่อเสาะแสวง   แหล่งกวิไกร
บ่มเพาะลไม      เล่หะประพันธ์

ศรีเปรื่อง
๒๒ เม.ย. ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 24, เมษายน, 2556, 10:31:22 PM

ชมซะอนงค์          หลงอุระบาน
มองพจมาน         เขินรึอนันต์
อายนะจ๊ะพี่          ศรีกวิวรรณ
น้อยคำประพันธ์   เกรงจะบ่งาม

หลงอิสตรี             หนีคฤหน้อย
คล่องวทะลอย      หารติยาม
ทิ้งดนุเพ้อ             เผลอจิตตาม
ยากจะวะปราม     รั้งมนชาย

:ab001:
รินดาวดี




หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: music ที่ 24, เมษายน, 2556, 11:05:36 PM
อ่านม่วนขนาด
ข้าเจ้าเขียนบ่จ้าง กลอนแบบนี้เจ้า

          :047:

น้องเครือฟ้า เดี๋ยวอ้ายตุ๊จะพาไปเล่น ลูกบิดแทนเล่นกลอน  :055: ละกันเด้อ แหะๆๆ  :049:


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 25, เมษายน, 2556, 12:19:41 AM
มาแวะสถาน       บ้านกวิน้อย
กริ่งวธุคอย        จนชิวะวาย
พบพจะเอ่ย        เผยอภิปราย
กลัวปุมะหาย      ไป่จรเวียง

แค่จรเหิน           เดินบทท่อง
ไปเพาะลบอง      ให้เสนาะเสียง
ใช่วะจะร้าง         ห่างนุชเนียง      
ว่างก็จะเหวี่ยง      มาณวกา

ศรีเปรื่อง
๒๔ เม.ย. ๒๕๕๖






หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 25, เมษายน, 2556, 08:43:02 PM

เกรงอุระพี่      มียุพยง
ดวงจิตหลง     จนจรลา
บ้านกวิน้อย    ด้อยพจนา
ไร้มนตรา        เบื่อลิตะเกิร์ล
 
:a001:
ลิตเติลเกิร์ล  

คริคริ บีบน้ำตานิดหน่อย
ซื้อใจชายได้ทั้งยวง... :010:  


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 26, เมษายน, 2556, 08:55:13 AM
เหตุกระไร    ใยบมิเชื่อ
อกดนุเบื่อ    ไม่รตะเพลิน
ทวนพจนา    ว่าจะระเหิน
ท่องบทเดิน   เดี๋ยวจรคืน

ศรีเปรื่อง

ปล.

รตะ = ความสนุก

ประมาณว่า แกล้งทำเคือง เพื่อตัดบท
มุกนี้ ผู้ชายส่วนใหญ่ทำกรณีที่ถูกแฟนจับได้  :014:  :014:  :014:


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 26, เมษายน, 2556, 03:36:42 PM
 

  
   ดวงหฤทัย     ใครนะจะยืน
พรุ่งรึมะรืน        แปรนวจนาใน
คือภวะคน         ปนอวิชา
คืนและทิวา       วนสุริย์จันทร์

                         ธนุ เสนสิงห์

                          :059:


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 28, เมษายน, 2556, 01:01:02 PM
คล้ายสุริยา      มาทิวะแจ้ง
นำรวิแสง        สู่บุษบัน
พอนิศะเยือน    เคลื่อนรถหัน
กลับคฤหพลัน   พักสรีรา

ครั้นทินใหม่     ไคลจรอีก
ใช่วะจะหลีก    หลี้พนิดา
ยังจิตภักดิ์       รักยุวภา
โปรดละระอา    หมางหฤทัย

ศรีเปรื่อง
๒๘ เม.ย. ๒๕๕๖



หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 29, เมษายน, 2556, 11:25:10 PM

นวลกุสุมา         หาวทะวาง
กว่าจะริสร้าง      ฉันท์เสนาะใด
ต่อตะละบท       จดหฤทัย
ยากรึกระไร         มาณวกา
 
            :047:


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 01, พฤษภาคม, 2556, 01:30:20 AM
แม้นจะลำบาก     ยากเสาะและค้น
พจนด้น            สานกวิไกร
หากประลุผล      กลประไพ
ปลื้มจิตใจ         ในวิริยา

ศรีเปรื่อง
๑ พ.ค. ๒๕๕๖

ปล.

กวิ จาก กวี
วิริยา จาก วิริยา


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 02, พฤษภาคม, 2556, 02:55:22 PM
แลคคนานต์     ผ่านบญชร
ฝนดุจร่อน       เยือนพสุธา
แสงสุริย์เหี่ยว   เรี่ยวพละล้า  
เฉกอุระข้า       แสนจะระทม

ศรีเปรื่อง
๒ เม.ย. ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 02, พฤษภาคม, 2556, 03:23:46 PM
เดินกระทำเท่ห์       เอ้กะวิเวก
กลพระเอก             คราจิตขม
ถูกนุชราน              ซานจรซม
ลดอุระตรม             ด้วยเตะกระแป๋ง

ศรีเปรื่อง
๒ เม.ย. ๒๕๕๖

ปล.

เอ้กะ จาก เอ้กา
กล (กน-ละ) = อย่าง, เหมือน
มน (มะ-นะ) = ใจ
กระแป๋ง = ถังบรรจุน้ำ (ภาษาถิ่นภาคกลาง)


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: สาวเครือฟ้า ที่ 02, พฤษภาคม, 2556, 03:26:45 PM

ตกลงว่า อ้ายศรีเปรื่องเปิ้นจ่มอีหยังหนอ  :009:

Eน้องอ่านบ่ฮู้เรื่องเลยเจ้า

            :047:



หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 02, พฤษภาคม, 2556, 09:57:23 PM
บ่นวทะร่ำ           พร่ำดนุเดียว
ไร้พธุเกี่ยว          ดั่งภพแล้ง
โดนสุริยา            ครารุจิแรง
จนปริระแหง        เหือดชลหาย

ศรีเปรื่อง
๒ เม.ย. ๒๕๕๖
 


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 04, พฤษภาคม, 2556, 08:35:25 PM

พี่ก็แถลง          แจ้งระบุมา
บ่นวทะครา       ร้อนระอุกาย
ทำจิตเศร้า        เหงาสิเนาะชาย
อยากจะสบาย   ต่อพจมาน..นะจ๊ะ

                 :AddEmoticons00948:
มาณวก นี่ยากกว่า อินทรวิเชียรฉันท์นะคะ ว่าไหม  :009: 


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 05, พฤษภาคม, 2556, 02:40:06 AM
รัชนินี้            พี่อุระเปลี่ยว
นั่งดนุเดี่ยว     ในคฤห์สถาน  (นะจ๊ะนี่ ตัดทิ้งนะครับ 555)
นิทระบ่หลับ    นับแกะก็นาน
ใกล้ทะลุล้าน   ห่อนจะประทม

จึ่งริลิขิต         คิดบทฉันท์
หมายกวินั้น    เป่าอุระตรม
มาณวป่วน      ชวนอภิรมย์
เสร็จก็จะข่ม    นัยนนอน

ศรีเปรื่อง
๕ พ.ค. ๒๕๕๖



หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 05, พฤษภาคม, 2556, 11:16:15 AM
   รื่นหฤทัย               ใดนะจะทัน
ร่ายบทฉันท์             แต่งกลกลอน
หลับก็สนิท              จิตละนิวรณ์
ดังลุอมร                  เหินนภไกล

   ช่วยอนุรักษ์            นักรจนา
สืบวิทยา                   อย่ามลไป
เรียนกลเม็ด               เด็ดเพราะไฉน
ฝึกพิระใจ                  โดยสติคง

                               ธนุ  เสนสิงห์  


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 06, พฤษภาคม, 2556, 11:35:35 AM
ด้วยเพราะวะใน    ใจดนุนี้
ภักดิฤดี              มีจิตจง
สืบบริพันธ์          ฉันทธำรง
คู่นรพงศ์             ชาติสยาม

มาณวกา            พาทุขะดับ
เสียงสรขับ          แสนเสนาะงาม
แม้นวะจะยาก      วากยความ
แต่ก็มิคร้าม          คร้านวทะจอง

ศรีเปรื่อง
๖ พ.ค. ๒๕๕๖



หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ฅนช่างฝัน ที่ 06, พฤษภาคม, 2556, 04:52:39 PM
ข้อยก็จะมัก     รักดรุณี
เผยมนพี่         มีหฤทัย
งามพิศนัก      ปักยุวใจ
เอ่ยวทะไป      มอบพนิดา

=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
     ❤ฅนช่างฝัน!❤

เพิ่งหัดแต่งครั้งแรกผิดพลาดขออภัยล่วงหน้าครับผม


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 11, พฤษภาคม, 2556, 09:58:13 AM
ได้จรดล         หนถลเชียง-
ใหม่ปุระเวียง    สาวรุจิรา
ขาวฉวิผ่อง      ส่องนยนา
จิตะพะว้า        คลาก็บ่ตรง

ชนดรุใหญ่      ใกล้กะถนน
ทำดนุจน         เกิดศิระงง
ขืนสติไว้         ให้กะยะคง
เดี๋ยวยุพยง      หัวเราะเยาะหยัน

ศรีเปรื่อง
๑๑ พ.ค. ๒๕๕๖

ไปแหล่สาวที่เชียงใหม่ พลาดท่าชนกระถางต้นไม้ในโรงแรม
เอามาเป็นพล็อตเขียนครับ อิอิอิ

ปล.

ปุระ = เมือง
รุจิรา = สวย
ดรุ = ต้นไม้
กะยะ จาก กายา


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: สาวเครือฟ้า ที่ 11, พฤษภาคม, 2556, 04:40:08 PM

ฮั่น อ้ายศรีเปรื่อง
ไปป๊ะสาวเหนือจาวเจียงใหม่
งามแม่นก่อเจ้า ผ่อเพลินบ๋
จนเก้าไม้เลยอ้ายเฮา
เจ็บตางใดผ้องอ้าย Eน้องใส่ย๋าฮื้อมะ
 
         :001:


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 14, พฤษภาคม, 2556, 09:15:35 AM
ยลบุษบา         คราทิวะสาง
หอมพบุจาง      แสนหฤหรรษ์
เห็นภุมริน        บินเกาะบุหงัน
เกิดกุธพลัน      ข้องหฤทัย

เหวย! ทิพย์สรวง   ปวงนิรชร
มัวบทจร              ยังนภใด
ภู่มธุลีห์               มีสุมะลัย
เหตุไฉน              I บ่มิแฟน

ศรีเปรื่อง
๑๔ พ.ค. ๒๕๕๖

ปล.

กุธ แผลงจาก โกรธ (เอาอย่างสามัคคีเภท)
พบุ จาก พบู = ดอกไม้
ภุมริน, มธุลีห์ = ผึ้ง
นิรชร = เทวดา
สุมะลัย จาก สุมาลัย = ดอกไม้



หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: สาวเครือฟ้า ที่ 15, พฤษภาคม, 2556, 08:09:02 PM


แม้จะอ่านบ่ฮู้เรื่อง
แต่.. I บ่มิแฟน..อันนี้ฮู้เรื่องเจ้า
Eน้องก็บ่มิแฟน คือกันเนาะ  :090:

           :a002:


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 16, พฤษภาคม, 2556, 08:48:39 PM
ปิ๊งยุวหญิง       พริ้งสิริโฉม
งามดุจโสม       ผ่องรุจิแสน
ทั่วพสุธา          หล้านรแดน
จวบปุระแมน     ห่อนนุชเทียม

อยากวทะเอ่ย    เผยอุระนัก
ว่าดนุภักดิ์         รักพธุเปี่ยม
ด้วยกะยะต่ำ       ดำฉวิเมี่ยม
จำจิตเจียม         เก็บ ณ กมล

ศรีเปรื่อง
๑๖ พ.ค. ๒๕๕๖



หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 04, มิถุนายน, 2556, 06:42:32 AM
เปลี่ยวหฤทัย       ไร้กลยา
ร่วมรจนา             มาณวกล
โอ้จิตเผือ            เบื่อชิพิล้น
อยากจรดล          หนพนไพร

ขึ้นคิริเขา            เนา ณ สถาน
ห่างยุวมาลย์        ที่จิตใจ
ดุจะสมิง              สิงมนใน
ขอดนุไป             ไกลวรนาง

ศรีเปรื่อง
๔ มิ.ย. ๒๕๕๖    


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 04, มิถุนายน, 2556, 10:17:06 AM

รอดรุณี           มีจิตการ
ขับวทะหวาน   ขานเสนาะวาง
ด้วยวปุอ่อน     กลอนก็มะจาง
เบื่ออุระนาง     หมางหฤทัย

สิ้นวธุกล่าว       สาวก็บ่มี
หว่านพจนี        แสนรุจิไป
มากมธุสร         อ้อนรยะไกล
ยังบ่มิใคร          ไหนจะประลอง

มาณวกา           พามนเพลิน
น้องลิตเกิร์ล       เดินปิติปอง
เมื่อสุตะถ้อย      กลอยมุติจอง
พื้นพสุธ์ครอง     จ้องมุทิกา

สุตะ = ได้ยิน
*หมายเหตุ หากไม่เข้าใจความหมาย
ขอพยายามอ่านให้ผ่านด้วยนะเจ้าคะ  :090:


ลิตเติลเกิร์ล   เป็นผู้เขียน
รินดาวดี        เป็นผู้ลงกระทู้  คริคริ 
น้องไม่บอกใครดอกว่า ลงผิดชื่อ  :040 




หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 04, มิถุนายน, 2556, 02:30:56 PM
โอ้นุชนาถ           ชาตินรเชียง-
รายปุรเวียง          ขัณฑสิมา
ไทยะประเทศ       เขตยุวภา
ผ่องรุจรา             ล้ำพธุใด

ช่างเสาะกถา        มาวทะเอ่ย
ยากอภิเลย           ค้นเจอะไฉน
คำ "มุทิกา"           แปลวะกระไร ภาคินิใช้
วอนอรไข             พจน์นิยาม
แปลวะกระไร        โปรดเถอะนิยาม



ศรีเปรื่อง
๔ มิ.ย. ๒๕๕๖

ปล.

555 พี่นี่แหละ ลืมสัมผัสก่อน
แก้แล้วจ้า


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 04, มิถุนายน, 2556, 03:47:28 PM


พี่ประเปรื่อง        เรื่องพจนาฯ
เอ่ยเจาะอุรา       เหมือนจะวะปราม
หาลหุวุ่น            คุ้นเฉพาะความ
ใยจะมะถาม       น้องเยอะแยะมี

คำ"มุทิกา"           แปลวะอะไร
เปิดพจน์ไว          ใจเนาะบ่ดี
หาวทะวาง           ร้างพจนี
ขอจรลี                 มาณวกา

**  
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน  
มุทิกา
ความหมาย

น. คนขับเสภา. (ป.).

:a003:
 

* กลับมาอ่านอีกรอบ  เห็นเลย แหะๆ ลืมสัมผัส  :evil:
แต่ขอคงไว้ก่อนนะคะ  เอาไว้ดูเล่น นะนะ


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 04, มิถุนายน, 2556, 04:29:08 PM
ห่อนวะจะห้าม      ทรามวยเจ้า
เพียงตริริเอา        เป็นวิทยา-
ทานะแสดง          แจ้ง ณ ประชา
ผองมิตรว่า           หมายวะอะไร

เรียมก็สว่าง          กลางมนแล้ว
อย่าจรแจว           หนีดนุไป
แม้นกิจหย่อน        ผ่อนธุระไซร้
วอนอรไท             คล้องกวิกล

ศรีเปรื่อง
๔ มิ.ย. ๒๕๕๖

ปล.

ทรามวย แผลงจาก ทรามวัย
ตริริ = ตริ (คิด) + ริ (เริ่มคิด) >> อันนี้ไม้ตายเลยครับ เห็นใช้กันเพียบในมาณวก (ไม่รู้ว่าใครเริ่มก่อน 555)
วะ กร่อนจาก ว่า (เหล่ากวีกรอนมาใช้กันจนพจนานุกรมต้องบรรจุไว้ 555)
กวิ แผลงจาก กวี


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 20, มิถุนายน, 2556, 06:18:10 PM
เบื่อจิตเซ็ง              เล็งนุชเลิศ
คิดวะประเสริฐ          เหนือนรชน
เทหฤทัย                ให้นิรมล
กิ๊กก็มิสน                 หักจิตลา

หรืออมรินทร์            ปิ่นทิพะลัย
ปรารถนะให้             ข้า ฯ ทรมาน์
เลยดลใจ                 ให้กัลยา
หมดกรุณา               ภักดิสลาย

คงเพราะวะทำ          กรรมะกะกิ๊ก
ให้อุระริก                 ร้าววรกาย
องค์มัฆวัน               นั้นกุธชาย
มุ่งมุทำลาย              อัตมะมาน

หลายทินล่วง            ทรวงก็สงบ
ค่อยดำริขบ               ปรากฏการณ์
จึ่งปฏิญาณ์               ว่าจะมิราน
กิ๊กสะคราญ               ให้มนหมอง  

ศรีเปรื่อง
๒๐ มิ.ย. ๒๕๕๖    


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 20, มิถุนายน, 2556, 06:42:06 PM
คิดไม่ออกจริงๆค่ะพี่ศรีเปรื่อง
สมองไม่ยอมทำงาน
คงจะมีเรื่องเครียดหลายอย่าง
สมองน้องเลยไม่เปิด
จ้องนานสองนาน ก็ยังคิดไม่ออก
หมดสภาพแล้วค่ะ พี่ ....

        :a001:


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 20, มิถุนายน, 2556, 07:36:31 PM
อย่าซีเรียส คิดออกก็เขียน คิดไม่ออกก็ไว้ก่อน
เขียนเลย ไม่ต้องสัมผัสกับบทก่อนหน้าก็ได้  :014:

กลกวิมา-            ณาวกฉันท์
ยากดำริสรรค์       ด้วยเพราะวะแปลก
ต้องพิระวน          จนสติแตก
กว่าจะชำแรก       แหวกมนจินต์

หากนุชน้อง         ตรองบ่มิไหว
ลองจรไป           หาภัตกิน
อิ่มกะยะแล้ว       แก้วยุพะพิน
ค่อยตริกวิน         ฉันทประภา

ศรีเปรื่อง
๒๐ มิ.ย. ๒๕๕๖

ปล.

กวิ จาก กวี
มา -ณาวกฉันท์  จาก มาณวกฉันท์
วะ จาก ว่า
พิระ จาก พีระ = เพียร
ภัต อ่านเป็น ภะ-ตะ = อาหาร
กะยะ จาก กายา
ยุพะพิน จาก ยุพาพิน = หญิงสาวสวย
ตริ = คิด
กวิน = ดีงาม





หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 28, มิถุนายน, 2556, 02:27:31 PM


จินตนรี    นี่ชรไม
ดั่งชลไหล   ในกระสินธุ
เย็นหฤทัย    ไกวจิตริน
หนึ่งยุพพิน    เพลินฤดิรมย์ 

 :a016:
ได้แค่นี้ จ้า
:AddEmoticons00936:


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 28, มิถุนายน, 2556, 03:08:56 PM


อ่านแล้ว งง ค่ะ แปะไว้ก่อนนะคะพี่ศรีเปรื่อง   :001:


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 02, กรกฎาคม, 2556, 12:39:13 PM
(กาลามสูตรกังขานิยฐาน ๑๐ : มาณวกฉันท์ ๘)
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3 (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)

พุทธกถา                   กาละมะสูตร
การสุต Truth             ความคติใด
อย่าสติเขลา               เบาหฤทัย
เชื่อวทะใคร                โดยบมิทาน

จงพิเคราะห์ทวน           มวลพจะฟัง      
ตามทศกัง-                 ขานิยฐาน
พุทธดำรัส                  ตรัสตะบุราณ
หลักตริพิจารณ์             อัตถกถา

(๑. มา อนุสฺสวเนน - อย่าเพิ่งเชื่อโดยฟังตามกันมา)
หนึ่งมละหลง               ปลงกมลาศ
เชื่อพจนารถ                ด้วยเพราะนรา
อ้างวะสดับ                  รับมุลมา
จากพจนา                   เหล่านรชน

(๒. มา ปรมฺปราย - อย่าเพิ่งเชื่อโดยถือว่าเป็นของเก่าเล่าสืบๆ กันมา)
สองวทะเก่า                เล่าตะบุราณ
ควรตริและทาน             อัตถยุบล
อย่าปฏิเสธ                 เหตุและผล
เชื่อบุพชน                  ปราศตริตรอง

(๓. มา อิติกิราย - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะข่าวเล่าลือ)
สามมละข่าว               กล่าวและสะพัด
อ่อนวจนัตถ์                ขาดมุลจอง
เพียงวทะลือ               ถือ ฤ ก็หมอง
ใช้สติกรอง                 กั้นขยะสาร

(๔. มา ปิฏกสมฺปทาเนน - อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างคัมภีร์หรือตำรา)
สี่คัมภีร์                     นี้ก็มิควร
ภักดิสำนวน               ทุกบทจาร
ใช่มัฆวา                    มาอวตาร
พลั้งพจมาน                ผิด ฤ ก็มี                

(๕. มา ตกฺกเหตุ - อย่าเพิ่งเชื่อโดยคิดเดาเอาเอง)
ห้าผิวะจัก                   ตรรกะพินิจ
หากมุลผิด                  คลาศวิถี
อย่าจิตเคร่ง                 เร่งกรณี
ปิดบัญชี                     ด้วยเพราะทะนง

(๖. มา นยเหตุ - อย่าเพิ่งเชื่อโดยคิดคาดคะเนอนุมานเอา)
หกอนุมาน                 การกะคะเน
เพียงกลเล่ห์              อาจจะมิตรง
บ้างก็เขยื้อน              เคลื่อนบ่มิคง
อย่าจิตปลง               ในวิเคราะห์ผล

(๗. มา อาการปริวิตกฺเกน - อย่าเพิ่งเชื่อโดยตรึกเอาตามอาการที่ปรากฏ)
เจ็ดคติเคย                เผย ณ อดีต
ใช่มรุขีด                   บ้างก็พิกล
เบี่ยงวิปริต                คิด ฤ ฉงน
ควรนรชน                เผื่อมนใน

(๘. มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะเห็นว่าต้องกับความเห็นของตน)
แปดมละจิต              ทิฏฐิพิจารณ์
เพียงเฉพาะด้าน         ตรงกะหทัย
เชื่อทฤษฎี                ที่ดำริไว้
รั้นวินิจ์ฉัย                 ตามอุระตน

(๙. มา ภพฺพรูปตา - อย่าเพิ่งเชื่อว่าผู้พูดควรเชื่อได้)
เก้ามละเชื่อ                เนื้อพจน์วากย์
เพียงพิเคราะห์จาก        ลักษณะคน
ปราชญ์ ฤ ก็พลั้ง           ดังปุถุชน
สาระยุบล                    อาจจะมิควร

(๑๐. มา สมโณ โน ครูติ - อย่าเพิ่งเชื่อว่าผู้พูดนั้นเป็นครูของเรา)                                
สิบมละเชื่อ                 เนื้อวทะครู
โดยบ่มิดู                    พจนกระบวน
คิดพิเคราะห์สาร            อ่านและก็ทวน
ตรองตริประมวล             พึ่งจะกระทำ

ศรีเปรื่อง
๒ ก.ค. ๒๕๕๖

ปล.

Truth (ทรูธ) = ความจริง
มละ = ละ, ทิ้ง
คติ = แบบอย่าง วิธี แนวทาง
กมลาศ = กมล (ใจ) + ศ เข้าลิลิต
อัตถ = เนื้อความ
ยุบล = ข้อความ, เรื่องราว
วจนัตถ์ = วจน (คำพูด) + อัตถ์ (เนื้อความ)
มุล จาก มูล = ๑. รากเหง้า  ๒. ทั้งหมด
ตะบุราณ จาก แต่โบราณ
มรุ = เทวดาพวกหนึ่ง
คลาศ = คลาด
บุพชน จาก บรรพชน


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 30, กรกฎาคม, 2556, 01:51:00 PM
อริร้าย...ของชายตรม

รัตติสงัด            ภัทรชาย
นอนก็ระคาย       นิทระบ่ลง
ร้อนหฤทัย         ใกล้ชิวะปลง
ปราศนุชนง        เปลี่ยวสริร์เหลือ

หรีดร่ำระงม           ตรมอุระแหนง
เสียงสรแทง          เสียดมนเผือ
ดั่งกฤชมีด            กรีดดนุเนื้อ
แล้วก็เหยาะเกลือ    ให้ทรมาน์

รุ่งทินนี้                 มีกิจแล้ว
ต้องจรแจว             ไปเสาะเลาะหา
ภัตรเอร็ด               เด็ดพสุธา
แม้นวะประชา          ลิ้มก็จะเพลิน

มามะแมลง             แฝงตฤณซ่อน
ป่วนดนุนอน            หลับมิเจริญ
บึ่ง ณ ตลาด            มาดมุจะเดิน
Shop บ่มิเขิน          หรีดอริร้าย

ศรีเปรื่อง
๓๐ ก.ค. ๒๕๕๖

รัตติ = กลางคืน
ภัทร = ดี, ประเสริฐ, งาม, น่ารัก
เผือ = ข้าพเจ้า
กฤช = กริช
ดนุ จาก ดนู = ข้าพเจ้า
ทรมาน์ จาก ทรมาน ใช้ การันต์ฆ่าเสียง น
ทิน = วัน
ตฤณ = หญ้า
Shop มาจาก Shopping สื่อถึงการจับจ่ายซื้อหา


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 14, สิงหาคม, 2556, 05:35:49 PM
"เกริ่น"

ห่างกลมา-          ณาวกะฉันท์
แต่ดนุนั้น            มั่นบ่มิคลาย
กริ่งยุพเยาว์         เหงาสริร์กาย
จนจระหาย          ไป่แวะเชลง

ในทินะนี้             ศรี ฯ ริสฤษดิ์
ฉันทะรจิต           เลิศะเลบง
เรื่องชนนี            พีระเชวง
เชิญมิตระเพลง     พิศะนิพนธ์

"วาทะแม่"

อันคุณะแม่         แผ่กวะฟ้า
เพี้ยงพสุธา        ปานมหะชล
ท่านทนุรักษ์       ฟักบุตระตน
พัฒนะจน           เติบกะยะโต

บ่มเพาะนิสัย      ใฝ่คุณธรรม
ทุกวทะคำ          ตรึงตระมโน
"แม้นชิวิเฟื่อง      เรืองอักะโข
หากวะยโส         ศักดิจะคลา

จงมละทำ           กรรมกิจะบาป
ที่นระสาป          สัตว์ระอา
ถึงวะจะปิด-        มิด ฤ ก็ปรา-
กฏ ณ อุรา         ห่อนภิทะพัง"

เพียงอนุอัตถ์      ภัทระที่
มาตฤชี้             ปลูกจิตะฝัง
บ้างบุตระค้าน     ต้านสุตะฟัง
แม่ ฤ ก็ยัง          ทนทมะสอน

ขอสุรคุ้ม             อุ้มดนุแม่
ให้สุขะแด           ปราศะนิวรณ์
กินก็สบาย          ง่ายนิทระนอน
กายะมิคลอน       โรคภัยะไกล      

ศรีเปรื่อง
๑๔ ส.ค. ๒๕๕๖

ปล.

มาตฤ (มา-ตฺริ) = แม่
มหะชล จาก มหา + ชล
ทมะ = การข่มใจ


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 19, สิงหาคม, 2556, 09:54:09 AM
จังหวะจะโคน          โดนอุระท้น
มาณวะกล              ฉันทะประไพ
เล่หะสำเนียง           เสียงเสนาะใส
สุขหฤทัย                คราสุตะฟัง

ยามรจเรข               เสก ฤ ก็เพลิน
จนมละเมิน              ทุกขะประดัง
ปล่อยจิตะล่อง          ท่อง ณ ภวังค์
ด้วยเพราะมุหวัง        กลั่นวรฉันท์

ศรีเปรื่อง
๑๙ ส.ค. ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 19, สิงหาคม, 2556, 07:42:21 PM
อันจิตใจ           ใครจะภิรมย์
หรือจะระทม       ปราศหฤหรรษ์
ใช่วะชะตา         ฟ้าภพสรรค์
เทพสุระบัน-       ดาลชิวะเป็น

ข้อสัจะแท้            แดปุถุชน
ต้องพะผจญ         ทนอุระเข็ญ
ด้วยเพราะวะเขลา  เมาพิศะเห็น
มองวะลำเค็ญ       เลยทุขะทรวง

ศรีเปรื่อง
๑๙ ส.ค. ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 21, สิงหาคม, 2556, 08:51:57 AM
ศักดิสภาพ        ลาภยศถา
เพียงกติกา       สมมุติลวง
เมื่อชิวิลับ         ดับมนะดวง
เหล่ายศปวง      ต่างก็คระไล

แม้จะกระทำ      กรรมะประเสริฐ
สุดอภิเลิศ         เทียมนภลัย
จนนรซึ้ง           ตรึงหฤทัย
ล่วงฉนำไป       เขา ฤ ก็ลืม

ศรีเปรื่อง
๒๑ ส.ค. ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 21, สิงหาคม, 2556, 11:47:51 AM

มาณวกา            คว้าหฤทัย
เกินจะพิไร          รีบประจุตอน
เติมมธุรส           พจน์อรชร
เป็นอนุสรณ์       เพียงดรุณี

               :041:
             ลิตเติลเกิร์ล

*ขออนุญาตไม่รับสัมผัส สระลืม นะคะ พี่เปรื่อง  :090:
 





หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 21, สิงหาคม, 2556, 12:12:45 PM
ฮ่า ฮ่า :a016:  :a016:  "ลืม"

ไอ่ยะ! อะจ๊ากส์!       วากยะสนุ้ก
วนตริริมุก               ฮึ่ม! และก็ อืม!
แก้ภวะการณ์          หว่านพจยืม
พ้นก็ปละปลื้ม          มองผลงาน

ใช้พจะเสริม           เติมรสช่วย
แม้จะมิสวย            เปื้อนเปรอะอุทาน
แต่วะก็แปลก          แหวกบุพกาล
เสียงกลขาน           ป่วนอุระดี

ศรีเปรื่อง
๒๑ ส.ค. ๒๕๕๖

ปล.

สนุ้ก = ศัพท์เทคนิคที่คนไทยใช้ในกีฬาสนุกเกอร์ หมายถึง การกันให้อีกฝ่ายแทงโดนลูกไม่ได้


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 22, สิงหาคม, 2556, 07:31:10 PM
(มาณวกฉันท์ ๘)

ด้วยวะ"อริชญย์"       ถิ่นคฤหะใหญ่
บ้านกวิไทย             ชวนเสาะพจี
มาบริพันธ์               สรรคะกวี
เรื่องกุมภีล์              กับกปิชาญ

วากยะฝรั่ง               ฟัง ฤ ก็งง
แต่ดนุม่ง                  จิตตะประสาน
กว่าจะสำเร็จ             เสร็จ ฤ ก็อาน
เชิญมิตรกานท์           ได้ทัศนา


http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=24932.msg199312;topicseen#msg199312 (http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=24932.msg199312;topicseen#msg199312)


เกริ่น

ถิ่นทุรไกล            ในพนะลึก
มากดรุพฤกษ์        ใกล้ชลธาร์
มียุวะลิง              พิงสริรา
พึ่งรุกขา              ปราศระทม

กึ่ง ณ ละหาน        ธารชลนี้
ปรากฏมี              ผืนเกาะอุดม
หลากผลไม้          ให้อภิรมย์
ลิงก็นิยม              วนจรมา

ยามกระเพาะกิ่ว             หิวภัต์ตหาร
ลิงก็ทะยาน                   โผนสริรา
โดดเหยาะเหยาะเหยง     เร่งบทคลา
ลัดเลาะศิลา                  ข้ามชละลัย

สู่เกาะพิเศษ            เขตบริบูรณ์
มากภัตพูน              เปรมดิหทัย
กินผลหมาก             รากดรุไว
อิ่มก็คระไล              กลับคฤหะรัง

ข้างชลคลอง           สองจระเข้
พิศ ก็อุเหม่ !           เจ้ายุวะกัง
แสนเกะกะตา           วานรจัง
จับ ฤ ก็พลั้ง             พลาดเพราะมิทัน

อยากจะขย้ำ            อ้ำเพราะวะแค้น
ลิง ฤ ก็แสน            ว่องกะยะหัน
เพียรตริพินิจ            คิดกลสรรค์
จับกปิอัน                เชาวน์เชวง

จระเข้เมีย-ผัววางแผนการร้าย

แล้วทินหนึ่ง            จึ่งภริยา-
แร้ภณะว่า              "นี่แน่ะตะเอง
เราจะระรื่น              ครื้นรตะเครง
ด้วยกลเจ๋ง              น้องดำริมา

ในตะละวัน              นั้นน่ะกบิล
ย่างเหยาะเลาะหิน      ข้ามชลธาร์
พี่ก็จำแลง               แสร้งสรีรา
หนึ่งกลว่า               หินบ่มิติง

จังหวะกบิล              ผินกะยะโจน
พี่ ฤ ก็โผน              ด้วยพละจริง
กัดและกระชาก         ลากยุวะลิง
ปลิดชิวะทิ้ง             เป็นภัตเรา"

ภรรดะตะโขง           โผลงวทะ "โอ้!
เลิศซะ อะโห!           เลยยุพเยาว์"
จักสมจินต์               กินภัตเหลา
ร่างสริร์เจ้า               เชาวน์กบิล               

วันปฏิบัติการ

    @ จระเข้ผัว:-

ครั้นทินใหม่             ไคลบ่มิช้า
แฝงสริรา                 แอบพะกะหิน
รอยุวะกัง                 หวังจิตกิน
ชีวะจะสิ้น                แล้วล่ะทโมน

   @ กบิลน้อย:-

ฝ่ายยุวะลิง                วิ่งคละกระโดด
หยุดพิศโขด              ยั้งมิกระโจน
ด้วยเพราะตระหนัก       ลักษณะโนน
ผิดตะกระโน้น            ท่าจะมิดี

คงอุปเท่ห์               เข้ทวิหลอก
หมายจะขยอก           กายะสรีร์
ตั้งสตินึก                ตรึกตริวิธี
รอดภัยนี้                อย่างสุขุมาล    

พลันก็ตะโกน       โยนพจนา
"โอ้วะศิลา          ทุกข์ ฤ สราญ"
เข้ ฤ ก็ไป่           ไขวทะขาน
กริ่งกปิชาญ         รู้กลตน

จึ่งยุวะลิง            ยิงภณะต่อ
"แปลกอุระหนอ     จิตตะฉงน
มิตรศิลา             ท่าจะพิกล
เลยบ่มิสน           ต่อวทะกัน"

    @ จระเข้ผัว:-

ข้างจระเข้            เขวหฤทัย
แม้นผิวะไม่-         ตอบพจะมัน
เล่ห์กลเรา            เฝ้าพิระสรรค์
อาจภิทะบรร-        ลัยะกระบวน

จึ่งรยะเร่ง                เปล่งวทะรี่
"เราน่ะฤดี                สุขะกระสรวล"
ด้วยเพราะวะเขลา       เบาจิตครวญ
หลงพจะชวน            เชาวน์สวา

    @ กบิลน้อย:-

พลันก็สว่าง             กลางมนใน
กุมภิลใหญ่              แฝงสริรา
หมายจะมล้าง           ม้างอัตมา
เป็นภัตตา               ให้สุขมน

จึ่งวทะเอ่ย              "เหวย! กุมภีล์
เรากปินี้                  พร้อมสละตน
ด้วยเพราะวะเจ้า         เชาวนท้น
จิตตะจำนน              เล่หะอุบาย

กุมภิล์ก็โปรด            โอษฐเผยอ
เราจะมิเก้อ               โจนสริร์กาย
เป็นภัตะกิน               สิ้นชิวะวาย  
ตามวัฏสาย               โซ่กระยะหาร"

    @ จระเข้ผัว:-

ฝ่ายกุมภีล์              ดีหฤทัย
เร่งกระทำไว            ตามกะปิชาญ
หมายจะกระชาก        พรากวิญญาณ
ไม่พิเคราะห์ทาน        เหตุและผล

    @ กบิลน้อย:-

เยาวแสม                แหม่! ก็สราญ
โดดย่ำกบาล            มารอริตน
สองบทถีบ               รีบจรดล
สู่ภพบน                  พ้นภยพาล

แล้ววทะบอก           ตอกอุระแร้
"เจ้าน่ะก็แค่            ตัวมหุฬาร
มีพละมาก              ยากจะประมาณ
แต่ ฤ จะทาน           เชาวนเรา"

ศรีเปรื่อง
๒๑ ส.ค. ๒๕๕๖

ปล.

ม่ง = มุ่ง
เข้, แร้, กุมภิล, กุมภีล์ = จระเข้
กบิล, กปิ, สวา, กัง, แสม, วานร, ทโมน = ลิง
ดรุ, รุกขา = ต้นไม้
ทุร = ลำบาก
ืทิน = วัน
ตะเอง แผลงจาก ตัวเอง (แสลงเด็กวัยรุ่น)
ตะละ แผลงจาก แต่ละ
สุขุมาล = ละเอียดอ่อน


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 13, กันยายน, 2556, 07:01:34 PM
สุดจะละเหี่ย           เพลียหฤทัย
กายก็บ่ไหว            จำจิตะเพลา
พักธุระก่อน            ผ่อนกิจะเบา
มาพจะเกลา           ฉันทะเสนอ

แสนจะคนึง            ถึงสิริอร
ยามนิทระนอน        หลับก็ละเมอ
ว่ารจเรข                เสกกวิเพ้อ
กับนุชเธอ              ฉ่ำกมลา

เฮ่อ! ก็นิมิต            จิตตะไถล
แท้ดนุไซร้              ไร้วนิดา
ร่วมวทะร้อย             ถ้อยพจนา
ฉันทะประภา            มาณวกล

ในทินะนี้                ศรี ฯ มุแสวง
มิตรแถลง               เล่หะนิพนธ์
แม้นมิประสบ           พบนิรมล
ขอซะกะคน            หฌิง ฤ ก็ดี

ศรีเปรื่อง
๑๓ ก.ย. ๒๕๕๖

ปล.

หฌิง = ชาย+หญิง (แสลง)


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 15, กันยายน, 2556, 05:14:08 PM

จ้องแล้วจ้องอีก น้่งจ้องหลายวันแล้วค่ะพี่เปรื่อง
จองพื้นที่ไว้ก่อนนะคะ   :0011:




หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 20, กันยายน, 2556, 02:12:14 PM
คอยนุชนาง         คว้างวรกาย
เช้าประลุบ่าย       จวบรัชนี
ไร้อรเงา             เฉาซะมิมี
จึ่งเสาะพจี          ก่นยุพยง

อกกระเทาะพัง     ดังเป๊าะเป๊าะก้อง
ดัวยยุวน้อง         โสภณองค์
โ้อ้ยุพะลัย          ใจพธุคง
ปราศจิตสง-        สารนฤรอ

ศรีเปรื่อง
๒๐ ก.ย. ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: วรรณดี ที่ 21, กันยายน, 2556, 09:30:37 AM
ขอแค่อ่านผ่านตาไม่ว่านะครับ
ผมยอมรับว่าไม่รู้ดูไม่ออก
เห็นว่าดีไพเราะจึงได้บอก
แต่จะลอกไปเรียนคงไม่เป็น


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 15, ตุลาคม, 2556, 11:18:48 PM

พี่ประเปรื่อง        เคืองหฤทัย
น้องจรไกล          มาณวกา
ใช่จะบ่สน            ค้นเจาะวิชา
แต่ก็เพราะว่า       ยากจะดำเนิน

อันยุพดี               มีหฤทัย
มอบจิตะไป          ใกล้มิละเมิน
เกรงกิ๊กะอร          อ้อนกระแซะเพลิน
ลืมลิตเกิร์ล           แย่ละสิเรา

                :043:
             ลิตเติลเกิร์ล


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 16, ตุลาคม, 2556, 12:26:26 AM
หมั่นแวะพินิจ    พิศะกระทู้
ปราศะพธู        แสนจิตะเหงา
แต่รัตนี้           ศรียุพเยาว์
ขัดวทะเกลา     มาณวกล

ฉันทะอนงค์      องคะวิไล
พัฒนะไกล       สุดจะฉงน
หากพิระเพียร    เวียนบริพนธ์
เรียมก็จะวน      ต่อกวิเธอ

ศรีเปรื่อง
๑๖ ต.ค. ๒๕๕๖


 


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 16, ตุลาคม, 2556, 01:06:30 AM
                            ลองหัดเขียนด้วยคนครับผม

                         มองพิศะมอง        ลองวิเคราะเจอ
                         หัดก็มิเบลอ         มุ่งปณิธาน
                         เลือกมธุรส          พจน์เฉพาะการ
                         เป็นนยะสาร         เพียรพิระตาม

                         หมายผจงใจ        ให้พจิงาม
                         คำประจุตาม         ฉันทะดำเนิน
                         หมายจิตะลอง       มองจะมิเมิน
                         ผมก็นะเขิน          เขียนบ่เพราะเลย

                             :a003: : :a006: :a003:

                                                
                                            ...
                                  - Black Sword -
                                   (หมู มยุรธุชบูรพา)
                                            ...


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 16, ตุลาคม, 2556, 08:42:13 AM
                           ลองหัดเขียนด้วยคนครับผม

                         มองพิศะมอง        ลองวิเคราะเจอ
                         หัดก็มิเบลอ         มุ่งปณิธาน
                         เลือกมธุรส          พจน์เฉพาะการ
                         เป็นนยะสาร         เพียรพิระตาม

                         หมายผจงใจ        ให้พจิงาม
                         คำประจุตาม         ฉันทะดำเนิน
                         หมายจิตะลอง       มองจะมิเมิน
                         ผมก็นะเขิน          เขียนบ่เพราะเลย

                             :a003: : :a006: :a003:

                                                
                                            ...
                                  - Black Sword -
                                   (หมู มยุรธุชบูรพา)
                                            ...



เรียน คุณหมู

ถือว่าแบ่งปันกันนะครับ
สัมผัสส่ง ของมาณวก จะส่งไปที่ วรรค ๔ ของบทถัดไป ไม่ใช่ วรรค ๒ ครับ
ลองดูงานของ น้องหญิง นะครับ

พี่ประเปรื่อง        เคืองหฤทัย
น้องจรไกล          มาณวกา
ใช่จะบ่สน            ค้นเจาะวิชา
แต่ก็เพราะว่า       ยากจะดำเนิน

อันยุพดี               มีหฤทัย
มอบจิตะไป          ใกล้มิละเมิน
เกรงกิ๊กะอร          อ้อนกระแซะเพลิน
ลืมลิตเกิร์ล           แย่ละสิเรา

นอกจากนั้น จะเห็นว่า วรรค ๔ และ ๘ ไม่ได้กำหนดให้สัมผัสกับวรรคหน้า (แต่ไม่ได้ห้าม เพราะถ้ามี มันก็ไพเราะขึ้น)
ส่วนเสียงท้าย ที่วรรค ๔,๖,๗ และ ๘ มักจะเป็นเสียงสามัญหรือจัตวา (๔, ๖ และ ๗ นี่พออนุโลมได้ แต่ ๘ อาจเรียกได้ว่า "ต้อง" เลยทีเดียว แต่ผมเคยลองใช้เสียงตรีที่วรรค ๘ ก็เอื้อนได้อยู่นะครับ)

ด้วยจิตคารวะยิ่ง

ศรีเปรื่อง
๑๖ ต.ค. ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 16, ตุลาคม, 2556, 08:44:13 AM
ยากซะกะนิด        มิตรสหาย
ถ้อยมิละม้าย         คุ้นนัยน์เคย
ใช้กลแผลง           แบ่งวทะเผย
เพื่อจะเฉลย           ฉันทยุบล

แต่นฤ "หมู"          ผู้ปฏิภาณ
เชาวนชาญ            กลอนบทกล
หากบ่ระย่อ             ต่ออนุสนธิ์
เชี่ยวบริพนธ์          นั้น ฤ จะเกิน

ศรีเปรื่อง
๑๖ ต.ค. ๒๕๕๖


ซะกะ แผลงจาก ซัก (จริง ๆ ในฉันท์โบราณที่ผมอ่านผ่านตา ยังไม่ปรากฎว่ามีการแผลงคำนี้ แต่ด้วยปัจจุบัน เรามีภาษาพูดในลักษณะนี้อยู่ เช่น ซักกะนิด, ซักกะหน่อย, ซักกะติ๊ด ดังนั้น ผมจึงเห็นว่าแผลงอย่างนี้ แม้จะไม่ถูกหลักซักเท่าไหร่ แต่ก็อยู่ในวิสัยที่ผู้อ่านจะเข้าใจได้)
นัยน์ อ่านเป็น นะ-ยะ
ยุบล = ข้อความ, เรื่องราว
อนุสนธิ์ = การต่อเนื่อง สืบเนื่อง(ในกลอนมักใช้ในทำนองที่แปลว่า "ข้อความ")


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 16, ตุลาคม, 2556, 11:53:14 PM

                        :a016:
      แหะ ๆ ขออภัยครับผมพี่ศรีเปรื่อง เป็นเพราะผมดูไม่ละเอียด และด้วยติดการเขียนจากกลอนมา เลยผิดฉันทลักษณ์ไปครับ ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ ได้ความรู้เพิ่มด้วย ขออนุญาตซ่อมครั้งที่ ๑ นะครับผม หากผิดพลั้งประการใดขอคำแนะนำเพื่อพัฒนาต่อไปด้วยนะครับผม
                                              :a013:
                                        

                         มองพิศะมอง        ลองวิเคราะห์เจอ
                         หัดก็มิเบลอ         มุ่งปณิธาน
                         เลือกมธุรส          พจน์เฉพาะการ
                         เป็นนยะสาร         คงบมิเกิน

                         หมายวสะใจ        ให้วจิงาม
                         คำประจุตาม         ฉันทะดำเนิน
                         หมายจิตะลอง       มองจะมิเมิน
                         ผมก็นะเขิน          เขียนบ่เพราะเลย


  (ท่านศรีเปรื่อง)...ยากซะกะนิด        มิตรสหาย
                         ถ้อยมิละม้าย        คุ้นนัยน์เคย
                         ใช้กลแผลง          แบ่งวทะเผย
                         เพื่อจะเฉลย         ฉันทยุบล

                         แต่นฤ "หมู"         ผู้ปฏิภาณ
                         เชาวนชาญ          กลอนบทกล
                         หากบ่ระย่อ          ต่ออนุสนธิ์
                         เชี่ยวบริพนธ์         นั้น ฤ จะเกิน...


                         ฟังกติกา               คราสุตะยิน
                         ตั้งมนะจินต์            ยากก็จะเดิน
                         ดุจรวิชม               สมสุขะเพลิน
                         เพียรมิสะเทิน         ถ้อยอธิบาย
 
                         คารวะครู                ผู้วิทยา
                         มอบนิธิมา              เลิศรุจิราย
                         ขอสุวคนธ์              ดลศุภสาย
                         ทุกข์มละคลาย         ด้วยสิริคุณ   



                                   ขอบคุณครับผม
                                           ...
                                  - Black Sword -
                                   (หมู มยุรธุชบูรพา)
                                           ...


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 19, ตุลาคม, 2556, 12:57:43 PM

เหนื่อยและก็ท้อ     หนอชิวะเรา
หวังจะประเทา       เนาอรชุน
สิ้นปฏิพจน์           หมดผลบุญ
ใครสิค้ำจุน           มอบหฤทัย

หนึ่งนฤมล            บนพิษฐาน
ขอวรทาน             ผ่านมลภัย
ทุกข์มหุมา            พาชลนัยน์
มีรึวะใคร              ไหนกรุณา          

             ลิตเติลเกิร์ล

รู้สึกว่า จะมีสระอำแทบทุกครั้ง



หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 19, ตุลาคม, 2556, 11:24:22 PM
เริ่มก็แถลง       แจ้งนฤ "หมู"
ซึ่งมุจะรู้          ฉันทวิภา
ผมน่ะมิล้ำ        ชำนิวิชา
อาจริยา           ห่างระยะไกล

แค่ชนภักดิ์       รักเสนาะเสียง
ถ้อยวทะเรียง    กลกวิไทย
แต่บริพันธ์       ขั้นเตาะแตะวัย
ควร ฤ ไฉน      ยกดุจครู

ส่วนยุพเยาว์       เพราสริร์ "หญิง"
พี่มิละทิ้ง           ดอกนะพธู
เวียนแวะตลอด    ดอดพิศดู
โอ้นุชตรู            โปรดมละกรม

แต่เพราะบุรุษ      หยุดบ่มิได้
ต้องจรไป           หาพบุชม
คน ฤ จะขัด        อัตถะพระพรหม
ขื่นอุระขม           จำจิตทำ

ศรีเปรื่อง
๑๙ ต.ค. ๒๕๕๖





หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 20, ตุลาคม, 2556, 09:13:32 AM

ฟังวทะพา             กล้าภณเผย
สิ้นอุชุเอย             ก่อนปิยะนำ
เป็นอนุอร             นอนแซะระกำ
หญิงจิตช้ำ            ชายรมณีย์

อ้างเพราะบุรุษ       หยุดบ่มิได้
หลากหฤทัย          มากยุพดี
หว่านมธุรส           บทกรณี
อีกเยอะแยะมี        นวลนฤมล

งอนประเปรื่อง       เคืองอุระเรียม
จงตระเตรียม         ตัวเฉพาะตน
หูก็จะยาว              ร้าวปุระปน
หนาวก็บ่สน           บ่นก็บ่ฟัง  :006:

ลิตเติลเกิร์ล      



หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 21, ตุลาคม, 2556, 11:15:41 PM
จ้างก็มิเยง               เกรงนะพยอม
ด้วยดนุพร้อม           วัสตรหนัง
ห่มสริรา                  หน้าประลุหลัง
หนาว ฤ สิยัง            แหยมอัตมา

กรรณจะเฟื้อย            เลื้อยระยะยาว
เพียบฉวิขาว              กิ๊กะยุพา
คอยแวะจำเนียน         เจียนบ่มิคลา
หรรษอุรา                  กว่านรใด  

ศรีเปรื่อง
๒๑ ต.ค. ๒๕๕๖

ปล.

วัสตร = วัตถ์, ผ้า, เสื้อผ้า, เครื่องนุ่งห่ม

แล้วก็...ล้อเล่นนะจ๊ะน้องหญิง
ถ้าไม่มีใครต่อมาณวกะด้วย เฉาตายแหง ๆ  :AddEmoticons00918:


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 01, พฤศจิกายน, 2556, 12:53:36 AM

                                          เรื่อยชระริน             ศิลปะกานท์
                                          ศาสตร์ศุภสาร          ผ่านหฤทัย
                                          งามวจิคำ                 ล้ำและพิไล
                                          เลิศมธุใส               ให้พิรตาม

                                          ฉันท์ยุวะชน            ด้นเสนาะจินต์
                                          เพียงปะเหมาะยิน      ถ้อยชุติงาม
                                          พจน์รตะเรียง           เสียงภณยาม
                                          เอ่ยระยะความ          เพิ่มปฏิภาณ


                                                     ขอบคุณครับผม                         
                                                           ...
                                                  - Black Sword -
                                                   (หมู มยุรธุชบูรพา)
                                                            ...


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 01, พฤศจิกายน, 2556, 05:55:24 AM
ตื่นละนิทรา        คราสุริยน
นอนอุตุกรน        ลืมกิจการ
เซ็งอุตลุด          สุดทมะทาน
จึ่งแวะสถาน        บ้านลิต์ตะเกิร์ล

แล้วรจเรข           เสกบทฉันท์
หมายอุระนั้น        คืนสุขเพลิน
ล่วงประลุผล        มนก็เจริญ
พร้อมบทเดิน       ตามบถตน

ศรีเปรื่อง
๑ พ.ย. ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ปลายฝน คนงาม ที่ 01, พฤศจิกายน, 2556, 06:05:51 PM
ยากจังเลยค่ะ
อยากร่วมสนุกเหมือนกัน
แต่..ขอเป็นผู้อ่านที่ดีก่อนนะคะ  :090:


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 02, พฤศจิกายน, 2556, 02:19:28 PM
อ้างถึง
อย่าประเมิน       ว่าชำนะเรา

ศิลาสีรุ้ง
๑ พฤศจิกายน ๒๕๕

ได้เลยครับ...

อ้าว เอ๊ะ ศิลา           ภาษะฉนี้
รีบแกะกระบี่            วามวะวะเงา
เหวี่ยงฉะฉะฉับ         สับคฤหะเสา
ให้นฤเขลา              เห็นพละกัน

ด้วยอุระขึ้ง              จึ่งฉะเฉาะเถือ
เสาซะบ่เหลือ          แม้ซะกะอัน
เมื่อสติมี                 หนีก็บ่ทัน
บ้านภิทะพลัน          ทับชิวะวาย

ศรีเปรื่อง
๒ พ.ย. ๒๕๕๖
 


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 02, ธันวาคม, 2556, 06:20:36 AM
ใกล้จะอุษา          คราภพแจ้ง
ด้วยรุจิแห่ง          แสงสุริย์ฉาย
ตื่นสละนิทร์         บิดสริร์กาย
หวังจะสลาย        ง่วงเกาะอุรา

แต่สติคง             งงและก็งวย
แสนจะระทวย       ปรือนัยนา
พลันดำริถึง          หนึ่งมรคา
ควรจะเสาะกา-      แฟระอุกิน       

จึ่งกระยุบาท             ยาตร ณ ครัว
ค้นดะซะทั่ว              พลิกธรณิณ
แม้บ่ลุดัง                  ตั้งจิตจินต์
เหงื่อแหมะแหมะริน   ง่วงภิทะเอง

ศรีเปรื่อง
๒ ธ.ค. ๒๕๕๖

"กาแฟ I อยู่หนายยย...."


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 10, ธันวาคม, 2556, 11:16:58 PM
หยุดกิจเฝ้า          เหย้าคฤห์สถาน
แสนจะสราญ        หลับนิทรเขลง
ตื่น ฤ ก็เรียง        เหวี่ยงกวิเพลง
ครื้นอุระเครง        เหลือคณนา

คัดวจะนั่น           สรร.วจะนี่
คลุกคละขยี้         หยอดรสฮา
ก่อบริพันธ์           หรรษอุรา
หมายมิตรอา-       รมณเพลิน

ศรีเปรื่อง
๑๐ ธ.ค. ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 03, กุมภาพันธ์, 2557, 10:43:21 AM
เกิดอุระคึก                  นึกจะเสนอ
สมมุติ..เอ่อ..               ผมน่ะเผอิญ         
ถูกกิ๊กห่าง                   หมางจิตเมิน
เป็นบทเดิน                 สรรคกวี   

(คือเรื่องสมมุติน่ะ...สมมุติ)                     

โกรธทะลุจุดเดือด

ผมก็บุรุษ                     สุดจะพิลาศ
เท่หฉกาจ                    ล้ำปฐพี
"เจมส์จิ"มิได้                ใกล้รัศมี
นัขธุลี                         ห่างระยะไกล

แต่อภิงง                      สงสัยนัก
วนอุระหัก                     ช้ำหฤทัย
ถูกกิ๊ก(ะ)หญิง               ทิ้งมละไป
เหตุอะไร                     ใยนุชลา

แค้น ฤ ก็แค้น                แน่นมนท้น
อายนรชน                    ทั้งพสุธา
หรือทิพแหนง                แกล้งอัตมา
เนื่องเพราะวิภา              เหนือนิรชร

เหวยวะวะเหวย              เฮ้ยชนสรวง
เดี๋ยวเถอะจะร่วง             จากคฤห(ะ)นอน
เปล่งวทะร้อง                ก้องอัมพร
"คืนกิ๊ก(ะ)อร                แล้วจะมิโดน"

แกว่งกวะกระบี่               ชี้ ณ สวรรค์
สองบทพลัน                  ยันกะยะโผน
กู่สร "ย้ากส์"                 วากยะตะโกน
คิดกะจะโหน                  เมฆ(ะ)ทยาน

สูงนภเสียด                    เฉียดทศโยชน์
ด้วยพละโกรธ                 คลั่งอุระดาล-
เดือดทะลุจุด                  ฉุดสติทาน
ตกสริร์ราน                     แหลกบ่มิเหลือ

ศรีเปรื่อง
๓ ก.พ. ๒๕๕๗

ปล.

นัขธุลี (นัก-ขะ-ธุ-ลี) = นัข (เล็บ) + ธุลี (ฝุ่น)
สงสัย (ป. สํสย; ส. สํศย) = อ่านเป็น สง-สะ-ยะ
อัตมา = ตัวเอง = อ่านเป็น อะ-ตะ-มา
นิรชร = เทวดา
เหวยวะวะเหวย = กร่อนจาก "เหวยเหวยเหวยเหวย"
แกว่งกวะ = กร่อนจาก "แกว่งกวัด"
กะยะ = แผลงจาก "กายา"
สร (สะ-ระ)
นภ = ฟ้า
โยชน์ = ชื่อมาตรวัด (16 กิโลเมตร)
สริร์ = แผลงจาก สรีร์ = ร่างกาย


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 23, กุมภาพันธ์, 2557, 11:00:18 AM
โอ้อภิเปลี่ยว          เหี่ยวมนะนัก
ด้วยสิริลักษณ์        หนึ่งนุชเรื้อ
ไม่รจเรข               เสกพจะเจือ
เหงาดุจเรือ            คว้าง ณ ทะเล

เรียม ฤ กระทำ        กรรมะกระไร
ให้ยุพะลัย              ต้องอุระเพ
จึ่งอรวรรณ             หันสริร์เห
ปล่อยดนุเป๋            เป๋อเพราะฉงน

ศรีเปรื่อง
๒๓ ก.พ. ๒๕๕๗


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 24, เมษายน, 2557, 09:35:33 PM
ยิ้มซะกะหน่อย     กลอยพนิดา
บึ้งน่ะจะพา          ชายจรดล
เดี๋ยวก็จะเฉา        เหงาฤดิจน-
พักตรย่น             ปราศวิราม

หากบ่มิรัก            ภักดิอนงค์
มี ฤ สิบ่ง             บอกพจะความ
คำก็มิเอื้อน          เตือนนุชงาม
ปล่อยอรตาม        กรรมวิถี

ศรีเปรื่อง
๒๔ เม.ย. ๒๕๕๗


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 27, เมษายน, 2557, 11:39:14 PM
 
ค่ำก็บ่นอน         ถอนหฤทัย
ร้อนนะจ๊ะใจ       สุขก็บ่มี
อบและก็อ้าว      ร้าวนะฤดี
ตัวดนุนี้             แทบจะละลาย

ลมก็บ่หวน         ล้วนระอุจริง
คิดและประวิง      สุดอธิบาย
เหงื่อกะชโลม     โซมอุระกาย
นานกะบ่หาย       เกินคณนา
 :a006:
ฺBlack Sword
(หมู มยุรธุชบูรพา)

 


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 28, เมษายน, 2557, 09:08:38 PM
 :001: เย้...มีเพื่อนแล้ว

จิตดนุพ้อง           คล้องกะสหาย
โอ๊ย! ระอุกาย       หน่ายกมลา
ขุ่นทุรชน             ปล้นรุกขา
จึ่งทิพดา             ลงครุทัณฑ์

นั่งก็ลำบาก          ยากขณะยืน
ข่มมนฝืน             หลับ ฤ ก็ฝัน
ว่าจรไป               ในพนขัณฑ์
เกิดพะประจัน        พักตรกะผี.....(เว๋ออออ...อุย...กัว ๆ)

ศรีเปรื่อง
๒๘ เม.ย. ๒๕๕๗


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 28, เมษายน, 2557, 11:36:59 PM
 
หมูน่ะสยอง            มองและกะแล
เหลือบและชะแง้     ท่าจะบ่ดี
นั่นรึกะสือ              บรื๋อ! จรหนี
เร็วระระรี่                ใจนะจะวาย

วิ่งก็มิทัน               สั่นมนตน
เกิดภวะลน-           ลานอุระกาย
เรียกก็บ่เห็น           เป็นดุจคล้าย
แทบอสุหาย           ศรี ก็บ่มา // ฮือ ๆๆ
 :AddEmoticons00936:
Black Sword
(หมู มยุรธุชบูรพา)        
 


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 29, เมษายน, 2557, 12:35:53 AM
ยังไม่นอน เห็นพอดี  :014:

มาช่วยแย้วววว....

ตั้งสติได้          ไว ก็กระทำ
ท่องบริกรรม      มนตรกถา
เสร็จก็ตวัด        กวัดฉุริกา
พลันวสุธา         เกิดภวะไหว

อัสนิบาต           ฟาดสริรางค์
ยินสรคราง         เพียงจะประลัย
จึ่งดนุสืบ            คืบบทไป
อ้าวเอ๊ะทำไม      เป็นมิตร "หมู"

อ้าวคุณหมู ทำไมนอนดิ้นกระแด่ว ๆ อยู่ตรงนั้นล่ะ  :001:

ศรีเปรื่อง
๒๙ เม.ย. ๒๕๕๗

ปล.

กถา = ถ้อยคำ [มคธ]
ฉุริกา = มีด [มคธ]
สร [สะ-ระ] = เสียง [มคธ]
ประลัย = ความตาย [มคธ]
บท [บะ-ทะ] = เท้า [มคธ]


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 29, เมษายน, 2557, 03:34:27 PM
หงิงงะง่ะหงิง        ทิ้งวปุลง
ฟาดก็มิตรง          เบิ่งซะนะดู
แสงวะวะแว่บ        แสบนะอณู      
หัวและกะหู          ช่างปะเหมาะจัง

นั่นสิกระสือ          หวือ~ระยะลอย
ตั้งสติพลอย         วิ่งบ่ละลัง
เผ่นนะจ๊ะศรี         หนีมิพะวัง
ศรีละจะนั่ง           อยู่น่ะทำไม ฯ

ขอเผ่นก่อนแล้ววว คุณศรีนั่งคอยรับหน้าไปนะครับบบ ฟิ้วววววว
 :AddEmoticons00936:
 Black Sword
(หมู มยุรธุชบูรพา)

รยะ  - (เร็ว -ไว)
วปุ   - (ร่างกาย)


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 29, เมษายน, 2557, 05:12:18 PM

#๒๑๗

-๐-๐-๐-

มีทวิหัว            กลัวรึกะผี
เอ้าพระนะชี้       จี้อุระไป
ตัวรึก็โต           โถมนไย
ฝ่อสิริได้           อายดรุณี

ไหนล่ะกระสือ     มือกวะแกว่ง
ไม้น่ะแสดง        ยกอ่ะสิมี
ใครนะสิหลอก    บอกจะเจอะผี
แท้ก็ตะกี้          หลอกจะแต๊ะอั๋ง

-๐-๐-๐-

ขอลองมั่งฮี่... งงซะ...


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 29, เมษายน, 2557, 11:16:52 PM
ตรับพจนา        ป๋ากรกช
ถึงกะสบถ        เสียง อุบ๊ะ! ดัง
รู้อุปเท่ห์          เล่ห์ดนุจัง
แผนภิทพัง       ช้ำมหุฬาร

เหตุฉนี้           ศรีก็จะเปลี่ยน
จากฉวิเนียน     นุชสะคราญ
เสพยบุรุษ       หยุดทรมาน
ปราศยุพาน      แต่สุขสม

ศรีเปรื่อง
๒๙ เม.ย. ๒๕๕๗

เอ่อ คือ มุก นะครับ มุก ไม่ใช่เรื่องจริง


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 30, เมษายน, 2557, 12:31:37 AM

#๒๒๐

-๐-๐-๐-

โอ้ฤดิสั่น          ฉันสิบ่เคย
ขารึก็เฉย          ไยสติจม
พอมนคิด          จิตทมะข่ม
เก็บพละก้ม       สอยศิระลอย

ศรีผงะคว้าง        กลาง ณ วิถี
เด็กและสตรี       มีก็มิน้อย     
ชอบวนป่า         มาลุกะข้อย
หลับสติผลอย     จนรวิลา

-๐-๐-๐-

ท่านศรีเปรื่อง ขอความรู้เพิ่มนะครับ
เสียงลงท้ายบท คำสุดท้าย
มีบังคับว่าต้องเป็นเสียงสามัญ หรือ เสียงจัตวามั้ย
เป็นเสียงเอก โท ตรี ได้ไหมครับ
เดิมผมจะลงว่า จนรวิแจ้ง แต่กลัวผิด


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 30, เมษายน, 2557, 10:15:37 AM
เรียน ป๋ากรกช

จริง ๆ ฉันท์ไม่มีกฎเกณฑ์เรื่องเสียงท้ายครับ
ต้องสังเกตจากความไพเราะของเสียงเอา

อย่าง "จนรวิแจ้ง" นี่เอื้อนให้เพราะได้ครับ โดยใช้แนวการเอื้อนแบบขับเสภา
คือ ม้วนเสียงท้ายของคำ "แจ้ง" ลงมาแล้วทำเสียง เออ หรือ เอย ต่อท้ายนิดหนึ่ง
แหะ แหะ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน เพราะผมไม่ได้เรียนทฤษฎีมา
เอาเป็นว่าถ้าสนใจ ลองฟังเสภาข้างล่างดูนะครับ

P26nfiPH25w

"แล้วลงยันต์ ปิดหน้า ม้าศรีหมอก
อย่าออก ลำพองคะนอง แล่น
บังเงาเสาอยู่ อย่าดูแคลน
สั่งม้า แล้วก็แล่น ไปสั่งพราย"

สังเกตตรงวรรค "ปิดหน้า" นะครับ (แต่การเอื้อนแบบนี้ ต้องฝึกฝนมาดี ถึงจะทำได้ครับ)

ทีนี้...

ถ้าดูฉันท์ของป๋ากรกชตอนนี้ จะมีจุดที่เอื้อนให้ไพเราะได้ยากอยู่ 3 จุด คือ
"ข่ม" "ก้ม" และ "ข้อย" ครับ

ถามว่าผิดหลักหรือเปล่า ก็ตอบว่า "ไม่" ครับ เพราะเท่าที่ทราบ ยังไม่มีใครเขียนกฎเรื่องเสียงท้ายไว้
แต่ถามว่าเพราะมั้ย ก็ต้องถามกลับว่า "ใครอ่าน ?"
ถ้าเป็นคนที่มีทักษะการอ่านทำนองเสนาะที่ดี ก็จะฟังลื่น ไม่รู้สึกเป็นข้อด้อยแต่ประการใด
แต่ถ้าเป็นคนทั่วไป คงจะสะดุดกึ๊กทันทีครับ

ด้วยความเคารพ

ศรีเปรื่อง
๓๐ เม.ย. ๒๕๕๗




หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 30, เมษายน, 2557, 10:48:43 AM

ขอบพระคุณในวิชาขอรับ

ท่านศรีเปรื่อง


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 30, เมษายน, 2557, 02:56:41 PM
ตามมาเก็บความรู้ด้วยคนครับผม

อั๊ยยะอะเฮ้ย!         เผยหฤทัย
แสนรติใจ             สุขนะอุรา
หมูก็จะเผย           เอ่ยบ่มิช้า
ชื่นมนพา              ชอบนะคะศรี .. (เริ่มออกอาการ)
 :a002:
ยินวทะท่าน          มานสุข(ะ)จริง
เรื่องวธุหญิง         ทิ้งนะแหละดี
เริ่มกระแซะรัก       ภักดิ์อุระพลี
ไม่มละหนี            ตราบนิจ(ะ)กาล

Black Sword
(หมู มยุรธุชบูรพา)

อ่า คือ รับมุกนะครับ รับมุกเฉย ๆ เช่นกัน ไม่ใช่เรื่องจริงนะครับ
 :a003:
รติ -  (ยินดี /รัก)
วธุ – หญิงสาว


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 01, พฤษภาคม, 2557, 11:00:08 PM
โลมะดนู             ซู่ ณ กระบัด
แจ่มมนชัด           ในมิตรมาน
ชักจะประหวั่น       สั่นสริร์ปาน-
ตกชลธาร            ยามฤตุหนาว

เรา ฤ ก็เปรย        เอ่ยภณพจน์
ด้วยจะประชด       ค่อนคณะสาว
"หมู" ก็มโน         โห...ทะลุดาว
อยู่ก็จะฉาว          จึ่งจรหนี

ศรีเปรื่อง
๑ เม.ย. ๒๕๕๗

 :AddEmoticons00936:

ปล.

โลมะ = ขน
ฤตุ = ฤดู
ภณ = พูด


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 03, พฤษภาคม, 2557, 08:54:17 AM

ศรีก็นะหลอก           กลอกอุระหม่น
นั่นรึกมล                ดลจิตมี
หมูรึก็เชื่อ               เผื่อวทะคลี่
เจ็บอุระซี               จิตสิระบม

เชิดและสะบัด          ปัดมิประวิง
หลอกและกะชิ่ง        ปล่อยดนุซม
หมูก็จะเอ่ย              เผยอภิรมย์
อดนะขนม               หม่ำขณะเมิน
 :049:
Black Sword
(หมู มยุรธุชบูรพา)


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 11, พฤษภาคม, 2557, 12:32:10 AM
มาณวกฉันท์ของท่านกรกช ลองฟังกันดูนะครับ

ขออภัยด้วยครับที่เอามาอ่านโดยไม่ได้บอกกล่าว ด้วยเห็นว่า "จนรวิแจ้ง" เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ

 :a013:  :a013:  :a013:

ศรีเปรื่อง

ปล.

การเอื้อนเสียงท้ายที่ "จนรวิแจ้ง" ผมเคยลองเอาไปใช้กับกลอนสุภาพ ที่ วรรค ๔ จบด้วยเสียงโท
ปรากฎว่ามันใช้ได้เหมือนกัน ถ้ามีเวลาจะเอามาให้ฟังกันนะครับ


rUGRX0LLSa8


หัวข้อ: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 11, พฤษภาคม, 2557, 12:57:11 AM

ท่านศรีเปรื่อง

ขอบพระคุณขอรับ

ได้ฟังแล้ว ยอมรับว่าถ้าลงท้ายด้วย

จนรวิแจ้ง

ฟังไม่ไพเราะจริงๆ ( ในความเห็นของกระผมนะ )

แต่เสียงคนขับบทน่ะ อุแหม่...ทำไมเสียงหล่อปานนั้นนิ

ขับบทที่ไม่ไพเราะ ให้ฟังไพเราะได้

นับถือ นับถือ ขอคารวะหนึ่งจอก