บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

ห้องเรียน => ห้องหนังสือ บ้านกลอนน้อย => ข้อความที่เริ่มโดย: Black Sword ที่ 24, กุมภาพันธ์, 2559, 01:24:39 AM



หัวข้อ: โคลงศุภลักษณ์วาดรูป
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 24, กุมภาพันธ์, 2559, 01:24:39 AM
(https://i.ibb.co/vDst879/spd-20110914142011-b-470.jpg) (https://imgbb.com/)
ขอบคุณรูปภาพจาก Internet
ภาพวาดฝีมือ อ. จักรพันธุ์ โปษยกฤต

โคลงศุภลักษณ์วาดรูป (ระเบียบระบำแบบหลวง)

          ระบำแบบหลวง เรื่อง "ศุภลักษณ์วาดรูป" นี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.๖) ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ราชเสวกในกรมมหรศพเล่นบำเรอพระยุคลบาทเปนครั้งแรกที่นาฏะศาลาในสวนศิวาลัย,   ในพระบรมมหาราชวัง,  ณ วันศุกร์ที่ ๒๙ ธันวาคม, พ.ศ. ๒๔๖๕,  อันเปนคืนที่พระราชทานเลี้ยงและมีงานสโมสรสันนิบาตแต่งกายต่าง ๆ เนื่องในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา

(https://i.ibb.co/F09bQgm/linie-0250-2.png) (https://imgbb.com/)

• กลับสู่ห้องหนังสือบ้านกลอนน้อย คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6682.msg22935#msg22935)

(https://i.ibb.co/F09bQgm/linie-0250-2.png) (https://imgbb.com/)





หัวข้อ: Re: โคลงศุภลักษณ์วาดรูป
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 24, กุมภาพันธ์, 2559, 01:28:59 AM
(https://i.ibb.co/vzsZ5Qd/47w7h.jpg) (https://imgbb.com/)
ขอบคุณรูปภาพจาก Internet
ภาพวาดฝีมือ อ. จักรพันธุ์ โปษยกฤต

นางศุภลักษณ์คือใคร ? วาดรูปอะไร ?

          นางศุภลักษณ์ปรากฏตัวเป็นตัวละครหนึ่งในเรื่องอุณรุท แต่ว่าถือเป็นนางสำคัญ คือ แม้เป็นตัวละครที่มีฐานะเป็นเพียงนางรองในเรื่อง (เป็นพี่เลี้ยงของนางเอก ซึ่งก็คือนางอุษา) แต่เป็นผู้มีคุณสมบัติที่ดี งามเพียบพร้อมด้วย ชาติกำเนิด รูปลักษณ์ ความรู้ ความสามารถ อุปนิสัย และกิริยามารยาท เหมาะสมกับการได้รับบทบาทที่โดดเด่นเป็นพิเศษมากกว่าตัวละครอื่น ๆ ในเรื่องอุณรุท

          บทบาทสำคัญของนางศุภลักษณ์นั้น ถูกกำหนดบทบาทให้มีความสาคัญอย่างยิ่งในตอนหนึ่งของเรื่อง อุณรุท ซึ่งเป็น จุดสำคัญที่ทำให้เรื่องราวเป็นไปจนถึงที่สุด ภารกิจหรือบทบาทสำคัญของนางศุภลักษณ์ในเรื่องอุณรุทมี 2 ตอน คือ ศุภลักษณ์วาดรูป และศุภลักษณ์อุ้มสม

          ซึ่งตอนศุภลักษณ์วาดรูปนี้ ก็เหตุเนื่องมาจากที่ว่า คราวหนึ่งพระไทรอุ้มพระอุณรุทมาสมกับนางอุษาที่ปราสาทเมืองรัตนา แล้วพากลับไปคืนที่ใต้ต้นไทร ปล่อยให้นางอุษาคร่ำครวญหาชายนิรนามในคืนนั้น จนนางศุภลักษณ์ หนึ่งในพระพี่เลี้ยงทั้งห้า สังเกตเห็น เฝ้าปลอบถาม นางก็เล่าให้ฟัง   นางศุภลักษ์เป็นพระพี่เลี้ยงที่เฉลียวฉลาดสามารถคนหนึ่ง ประกอบทั้งเป็นผู้มีศิลปะในทางวาดรูป จึงรับอาสานางอุษาเที่ยวเหาะไปทุกสวรรค์ชั้นฟ้า เที่ยววาดรูปเทวดามาให้นางอุษาดู ว่าเป็นคนเดียวกับผู้ที่มาร่วมแท่นบรรจถรณ์หรือไม่ แล้วไปเที่ยววาดรูปมนุษย์ผู้มีฤทธิ์ใหญ่ยิ่งในมนุษย์โลก มาให้นางอุษาตรวจดูอีกถึง 3 ครั้ง จนได้รู้ว่าเป็นพระอุณรุท

          ตอนที่นางศุภลักษณ์เที่ยวไปวาดรูปเทวดาในสวรรค์ชั้นฟ้านั้น เมื่อเข้าไปในหมู่เทวดาพวกไหนกำลังจับระบำรำฟ้อนในทางนาฎศิลป์ ก็จะแสดงระบำรำฟ้อนไปกับเขาด้วย นี่จึงเป็นเหตุการณ์ที่เรียกว่า "ศุภลักษณ์วาดรูป" นั่นเอง


(https://i.ibb.co/F09bQgm/linie-0250-2.png) (https://imgbb.com/)

• กลับสู่ห้องหนังสือบ้านกลอนน้อย คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6682.msg22935#msg22935)

(https://i.ibb.co/F09bQgm/linie-0250-2.png) (https://imgbb.com/)







หัวข้อ: Re: โคลงศุภลักษณ์วาดรูป
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 24, กุมภาพันธ์, 2559, 01:34:09 AM
(https://i.ibb.co/pzL9Mh2/topic-ix-0-370.jpg) (https://imgbb.com/)
ขอบคุณรูปภาพจาก Internet
ภาพวาดฝีมือ อ. จักรพันธุ์ โปษยกฤต

โคลงศุภลักษณ์วาดรูป
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว (พ.ศ. ๒๔๖๕)


              ๑.     จักแถลงระเบียบเหล้น              ระบำ
         ตามแบบหลวงท่านกำหนดไว้
         ศุภลักษณ์วาดรูปจำจดเทพ
         เพื่ออุษาหน่อไท้สืบรู้คู่สมร ฯ
 
              ๒.     บังอรครั้นได้รับบรรหาร
         ออกจากปราสาทสถาน   ผ่องแผ้ว      (กราว)
         สำแดงเดชนางมารมากเวท       (ตระนิมิตร์)
         กลายกลับกายาแล้วเหาะขึ้นสู่สวรรค์ ฯ    (เชิดฉิ่ง)
 
              ๓.     เหิรหันระเห็จห้องเวหา
         พบหมู่สุรแมนมามากไซร้       (เหาะ)
         มุ่งไปสู่เกษียรวารินสมุท
         เฝ้าพระพิษณุไท้เทพเจ้าไวกูณฐ์ ฯ    (เชิด)
 
             ๔.     นางอสูรเหาะด้วยเทวา
         ถึงที่เกษียรธารานั่นแล้ว
         เทพหนึ่งจับสังข์มาผจงเป่า
         เสียงสนั่นเนาะแจ้วแจ่มพื้นภูมิสวรรค์ ฯ    (รัวฉิ่ง)
 
              ๕.     ครานั้นเทวราชแกล้วกลางโลก
         ยินศัพท์สังข์บุญโศลกตื่นฟื้น
         สำแดงเดชดินโยกไหวหวั่น
         ทั้งน่านน้ำคระครื้นครั่นก้องฟองฟู ฯ    (คุกพาทย์)
 
              ๖.     พิษณูแผลงฤทธิ์เรื้องนภางค์
         เพื่อเทพสุรคณางค์แน่รู้
        เรื่องพระกำเนิดปางนับแปด
       อวตารเพื่อกู้โลกให้สราญรมย์ ฯ    (กลม)
 
              ๗.     ประถมทรงรูปแม้นมัตสยา
         พระหัดถ์กุมคทากาจแกล้ว
         ปราบสังข์อสุรา   เรืองเดช
         กู้พระไตรเพทแผ้วปลอดพ้นภัยผอง ฯ
 
              ๘.     ปางสองทรงรูปคล้ายเต่าทอง
         เชิดโขดมันทรรองรับไว้
         ยามทวยเทพกวนฟองเกษียรสมุท
         ประดิษฐ์อมฤตให้เทพลิ้มเลองาม ฯ
 
              ๙.     ปางสามทรงรูปเค้าวราห์
         รบหิรัณยากษ์สามารถไซร้
         แย่งแผ่นพสุธาไตรโลก
         กลับประดิษฐ์ขึ้นได้ครบทั้งแดนตรี ฯ
 
              ๑๐.     ปางสี่แปลงรูปนั้นประหลาด
         เปนนรสิงห์กาจกั่นแท้
         หิรัณย์กศิปุอาจ   ท้าเดช พระฮา
         ขุนแทตย์ก็พ่ายแพ้พระด้วยเชิงกล ฯ
 
              ๑๑.     วามนปางห้าพระจักรี
         ยวนจิตให้พะลีแทตย์ท้าว
         ยอมประสาทธรณีสามย่าง
         พระเหยียบสรวงและด้าวภาพพื้นคืนพลัน ฯ
 
              ๑๒.     ปางหกนั้นเทพไท้เปนพราหมณ์
         ชื่อปรศุรามฤทธิ์ห้าว
         ปราบอรชุนทรามสุดชีพ
         กู้พวกพราหมณ์ทั่วด้าวดับเสี้ยนเศิกหาญ ฯ
 
              ๑๓.     อวตารปางเจ็ดนั้นรามจันทร
         มาปราบราพณ์โมหันโหดเหี้ยม
         สูญหมดโคตร์กุมภัณฑ์   กวนโลก
         เย็นทั่วชมพูเสี้ยมจิตให้ยินดี ฯ
 
              ๑๔.     ปางที่แปดเกิดเจ้ากฤษณะ
        เปนมหาวีระฤทธิ์แกล้ว
         ทรงจักร์คทาพระขี่ครุฑ
         เหมือนพระพิษณุแผ้วผ่องพื้นภูมิสวรรค์ ฯ
 
              ๑๕.     เทวันครั้นทัศน์ท้าวจักร์กฤษณ์
         ต่างอ่อนโอนโมลิตนอบไหว้
         กฤษณะร่วมพระวิษณุเทพ
         ปรากฏบัดนั้นให้เทพล้วนพิศวง ฯ
 
              ๑๖.     จึ่งองค์หริราชเจ้าโลกัย
         เสด็จจากบัลลังก์ไคลเคลื่อนคล้อย
         ขึ้นทรงบ่าเวนไตยเหิรเห็จ
         ทวยเทพทั้งใหญ่น้อยแห่ห้อมไปพลาง ฯ    (เชิด)
 
              ๑๗.     จึ่งนางศุภลักษณ์เลี้ยวเวหน
         เหิรต่อไปที่บนฟากฟ้า
         มุ่งไคละมณฑล   ไกลาศ
         รี่รี่มิได้ช้าเกือบไกล้คีรี ฯ
 
              ๑๘.     บัดนี้พบเทพเจ้าคเณศร          (ช้างประสานงา)
         กายรัดเกศกุญชรแช่มช้อย
         ขอช้างกระชับกรกุมมั่น
         ทรงมุสิกตัวน้อยแน่วท้องเวหา ฯ
 
              ๑๙.     อีกมาพบพระเจ้าสงคราม       (กราวนอก)
         ขันทะกุมารงาม   เลิดล้น
         กุมหอกฤทธิเรืองรามรัตนรุ่ง
         ทรงมยุรเสด็จด้นพ่างพื้นนภางค์ ฯ
 
              ๒๐.     พลางเทพสองพี่น้องพบกัน          (เชิด)
         พระพี่ชวนน้องผันผ่านฟ้า
         ขึ้นเฝ้าพระทรงธรรม์บิตุราช
         นางก็ไปฉันฃ้าเพื่อเฝ้าจอมสวรรค์ ฯ

 


หัวข้อ: Re: โคลงศุภลักษณ์วาดรูป
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 25, กุมภาพันธ์, 2559, 12:04:14 AM

              ๒๑.     ครั้นถึงจึ่งเทพเจ้า                   สองรา
         ลงจากสุรพาหนะไซร้
         ดำเนินสู่มหาพิมานรัตน์
         นนทิต้อนรับไท้เทพด้วยยินดี ฯ   (เสมอ)
 
              ๒๒.     นนทีจึ่งกล่าวถ้อยสรรเสริญ
         พระมหาเทพเชิญพระเจ้า
         ว่าพระลูกดำเนินมาถับ
         หวังจะได้ก้มเกล้ากราบเบื้องบาทบงสุ์ ฯ(ตระเชิญ)
 
              ๒๓.     จึ่งองค์ศิวะเทพเจ้าโลกา
         ใชพระสูตร์รัตนาเปิดกว้าง
         เห็นพระนั่งมหา   เทวะบิฐ
         พระอุมาเคียงข้างเลิดล้วนชวนชม ฯ
 
              ๒๔.     แล้วบรมเทวราชไท้ตรัสชวน
         พระอุมาทรามสงวนเคลื่อนคล้อย
         ทรงจับระบำยวนยั่วเนตร์
         ตามแบบตาณฑพช้อยแช่มชั้นเชิงรำ ฯ(เพลง)
 
              ๒๕.     ระบำรำจบแล้วตรีศุลี
         จึ่งเสด็จทรงนนทีเลิดล้น
         สองพระโอรสขี่พาหนะ
         ตามเสด็จเทพด้นเหาะดั้นอัมพร ฯ(เชิด)
 
              ๒๖.     บังอรศุภลักษณ์ดั้นเมฆี
         พบคณะฤษีมากแท้   (ดวงพระธาตุ)
         พระนารัทมุนีนำระเห็จ
         ไปสู่พรหมโลกแล้เพื่อเฝ้าธาดา ฯ(เชิด)
 
              ๒๗.     ถึงหน้านิวาศไท้ทันที
         นารทนำพวกชีสู่เฝ้า(เสมอเถร)
         พร้อมกันนบเกศีประนมหัตถ์
         เคารพพระเปนเจ้าจิตน้อมประนอมกัน ฯ (สาธุการ)
 
              ๒๘.     ครานั้นชอุ่มพื้นเวหน     (รัวสามลา)
         แล้วค่อยคลายมืดมลหมอกกลุ้ม
         จึ่งเห็นใส่สากลเยี่ยมใหญ่
         สี่ก่องฟองนั้นหุ้มห่อท้าวพรหมา ฯ
 
              ๒๙.     ไม่ช้าไข่นั้นแยกเปนสอง
         เห็นพระองค์ดังปองบัดนั้น
         สถิตเหนือแท่นบัวทองไพโรจน์
         งามผ่องณช่องชั้นช่อฟ้าฟูหาว ฯ
 
              ๓๐.     จึ่งท้าวสี่พักตร์ตั้งฤทัย
         จักแสดงแจ้งใน   ที่นี้
         ว่าพระสร้างเทพไททั้งหมด
        ให้ผ่านมาพอชี้เช่นให้เจนตา ฯ(ตระสันนิบาต)
 
              ๓๑.     เทวาทั้งแปดผู้โลกบาล (โคมเวียน)
         อีกพระนวเคราะห์หาญเห็จฟ้า
         ขี่พาหะนะทยานผ่านเมฆ
         เปนหลักของแหล่งหล้า   ฤทธิ์หลั้นบรรฦา ฯ
 
              ๓๒.     หนึ่งคืออินทระเจ้าเทวา
         ผู้สถิตทิศบุรพาใหญ่กว้าง
         เสด็จเหนือคชไอราพตแกว่ง เพ็ชร์แฮ
         พระศจีเคียงข้างเทพเจ้าเพราศรี ฯ
 
              ๓๓.     อัคนีศรีโรจน์เรื้องเรื่อแดง
         ทรงเมษกาจกำแหงฤทธิ์กล้า
         กรกุมหอกเรี่ยวแรงแกว่งกวัด
         สถิตทิศอาคเณย์หล้าแหล่งนั้นมั่นคง ฯ
 
             ๓๔.     อีกองค์ยมราชเจ้าจอมมฤต
        ณทักษิณทิศสถิตเทอดหล้า
         วาหนเอกมหิษเหอมศักดิ์
         กุมพระยมทัณฑ์หง้าเงือดล้างอรี ฯ
 
              ๓๕.     นิร์ฤดีนางเทพล้ำเลอฤทธิ์
         ภาคหรดีสถิตเที่ยงแท้
         กรกุมพระขรรค์อิทธิถนัด
         หมั่นรักษาโลกแล้เลิดล้วนเจือจุน ฯ
 
              ๓๖.     พระวรุณเจ้าสมุทเรืองฤทธิ์
         พิทักษ์ปรัศจิมทิศกาจแกล้ว
         ทรงมังกะระพิษ   สามารถ
         กุมธนูกอบแก้วเก่งล้ำโลกา ฯ
 
              ๓๗.     พระพายุรักษ์เบื้องพายัพ
         กุมพระขรรค์กระชับหัดถ์หมั้น
         ทรงสินธพงามสรรพสีก่อง
         ลอยละลิ่วปลิวชั้นเชิดฟ้าแจ่มเจน ฯ
 
              ๓๘.     กุเวรยักษะเจ้าเรืองรอญ
         พิทักษ์ทิศอุดรแด่นด้าว
         กรกุมคทาธรเงื้อเงือด
         เอกอิทธิอะคร้าวปกป้องภัยพาล ฯ
 
              ๓๙.     อิศานพิทักษ์เบื้องอิศาน
         ทรงพฤษภเผ่นทยานย่านฟ้า
         ตรีศูลศักดิ์ตระการกระชับหัดถ์
         แลเลิดประเสริฐหล้าแหล่งล้ำอำไพ ฯ
 
              ๔๐.     หนึ่งในนวเคราะห์นั้นสุริยง
         เรืองรัตภูษาทรงสว่างหล้า
         พระขรรค์ฤทธิ์รงค์กุมมั่น
         สีหะวาหนกล้ากาจแกล้วกลางสวรรค์ ฯ


หัวข้อ: Re: โคลงศุภลักษณ์วาดรูป
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 26, กุมภาพันธ์, 2559, 12:02:50 AM

              ๔๑.     พระจันทร์รัศมิเรื้อง               เรืองฃาว
         ทรงเศวตภูษาพราวเพริดแพร้ว
         ทรงอัศวะสกาวผ่องเผ่น
         กรจับพระขรรค์แก้วแกว่งเพี้ยงเพลิงฉาน ฯ
 
             ๔๒.     อังคารรังสิเหรื้อเหลือตรู
         ทรงพัสตระชมพูเพริดด้าว
         กรกุมพระขรรค์ชูเชิดเฉิด
         ทรงมหิงษ์อะคร้าว   เคลื่อนคล้อยเมฆี ฯ
 
              ๔๓.     องค์ที่สี่พุธอ้างออกนาม
         ภูษิตล้วนเขียวงามชุ่มชื้น
         ทรงคอคชเรืองรามแลเลิด
         ขอจับขับผ่านพื้นพ่างพ้นเมฆา ฯ
 
              ๔๔.     ที่ห้าโสระไท้กำยำ
         ทรงพัสตร์ภูษิตดำเดชห้าว
         พระขรรค์รัตนกำแหงแกว่ง
         ทรงพยัคฆ์อะคร้าวร่าร้องเริงดี ฯ
 
              ๔๕.     ที่หกคุรุไท้เทพเรือง วิทแฮ
         ทรงพัสตราภรณเหลืองเลิดด้าว
         ทรงมฤคประเทืองเทอดเกียรติ
         กรจับพรหมทัณฑ์ท้าวเทพล้วนชวนดู ฯ
 
              ๔๖.     ราหูทรงรูปแม้นอสุรา
         ภูษิตและกายาม่วงคล้ำ
         กรกวัดแกว่งคทาธรถนัด
         ทรงนกฮูกจ้ำหม้ำเหมาะดั้นเมฆี ฯ
 
              ๔๗.     ที่แปดศุกระไท้สุนทร
         ภูษิตน้ำเงินออนโอ่หล้า
         ทรงหลังพฤษภจรเร็วรวด
         หัดถ์จับพรหมทัณฑ์อ้าเอี่ยมพริ้งเพริดเพรา ฯ
 
             ๔๘.     ที่เก้าเกตุไท้เทวัน
         กายและพัสตร์สุพรรณผ่องแผ้ว
         กรกุมพระแสงขรรค์เรืองรัตน์
         ทรงพญานาคแพร้วเพริดพริ้งพรายตา ฯ
 
              ๔๙.     ต่อมามีเทพเจ้าหลายตน
         พร้อมเทพนิรมลแน่งน้อย
         ออกมาสู่มณฑลลานทิพย์
         แต่ละองค์แช่มช้อยเฉิดพื้นภูมิสวรรค์ ฯ
 
              ๕๐.     ครานั้นมนัสน้อมปรีดี(พระทอง)
         เทพบุตร์ชวนเทวีเลิดล้วน
         ผจงจับระบำลีลาเล่น
         ทวยเทพเสพย์สุขถ้วนทุกไท้เทวา ฯ
 
              ๕๑.     นางฟ้ารำเลี้ยวล่อเทพบุตร์
         เทพต่างตามเย้ายุดหยอกย้อน
         เทวีสลัดหลุดลี้หลีก
         เทพบุตร์ตามต้อนต่างเร้าเริงยวน ฯ
 
              ๕๒.     แล้วชวนกันเชิดฉ้อมาลี(นางนาค)
         โยนแจกโดยยินดีพรั่งพร้อม
         กลีบบุบผะชาติสีสรวยสอาด
         เกลื่อนกล่อนหล่นลงน้อมจิตเกื้อเกษมสันต์ ฯ
 
              ๕๓.     ชวนกันประสาทซ้อนพรสา ธุแล(มหาชัย)
         แก่ท่านผู้ทัศนาที่นั้น
         ให้อิฐะผลมาพูนเพิ่ม
         จัตุพิธพรหมั้นเหมาะด้วยปรารถนา ฯ
 
              ๕๔.     อายุ  ประจวบร้อยขวบปี
         วรรณะ  เฉิดฉวีผ่องแผ้ว
         สุขะ  เจริญศรีไร้โศก
         พละ  ยงยวดแคล้วคลาดพ้นภัยพาล ฯ

                                      ๐ จบระบำเท่านี้ ๚ะ

โคลงศุภลักษณ์วาดรูป
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว (พ.ศ. ๒๔๖๕)


(https://i.ibb.co/F09bQgm/linie-0250-2.png) (https://imgbb.com/)

• กลับสู่ห้องหนังสือบ้านกลอนน้อย คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6682.msg22935#msg22935)

(https://i.ibb.co/F09bQgm/linie-0250-2.png) (https://imgbb.com/)