บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => กลอนจากที่อื่น และจากกวีที่ชื่นชอบ => ข้อความที่เริ่มโดย: กร กรวิชญ์ ที่ 01, เมษายน, 2559, 12:26:49 PM



หัวข้อ: วันผู้ให้กำเนิด
เริ่มหัวข้อโดย: กร กรวิชญ์ ที่ 01, เมษายน, 2559, 12:26:49 PM

(https://i.ibb.co/GHpLvWP/image.jpg) (https://imgbb.com/)


งานวันเกิดที่ยิ่งใหญ่ใครคนนั้น
ฉลองกันในกลุ่มผู้ลุ่มหลง
หลงลาภยศหลงสรรญเสริญเพลินทะนง
วันเกิดส่งชีพสั้นเร่งวันตาย

อีกมุมหนึ่งซึ่งเหงาน่าเศร้าแท้
หญิงแก่ๆ นั่งหงอยและคอยหาย
โอ้วันนี้ในวันนั้นอันตราย
แม่คลอดสายโลหิตแทบปลิดชนม์

วันเกิดลูก เกือบคล้าย วันตายแม่
เจ็บท้องแท้ เท่าไร แม่ไม่บ่น
กว่าอุ้มท้อง กว่าคลอด รอดเป็นคน
เติบโตจน บัดนี้ นี่เพราะใคร

แม่เจ็บเจียน ขาดใจ ในวันนั้น
กลับเป็นวัน ลูกฉลอง กันผ่องใส
ได้ชีวิต แล้วก็เหลิง ระเริงใจ
ลืมผู้ให้ ชีวิต อนิจจา

ไฉนเรา เรียกกัน ว่าวันเกิด
วันผู้ให้ กำเนิด จะถูกกว่า
คำอวยพร ที่เขียน ควรเปลี่ยนมา
ให้มารดา คุณเป็นสุข จึงถูกแท้

เลิกจัดงาน วันเกิด กันเถิดนะ
ควรที่จะ คุกเข่า กราบเท้าแม่
รำลึกใน พระคุณ อบอุ่นแด
อย่ามัวแต่ จัดงาน ประจานตัว

.................

ไม่ทราบผู้แต่งครับ
เห็นเขาแชร์กันทั่วไป
ชอบ ขอนำมาวางบ้านน้อย



หัวข้อ: Re: วันผู้ให้กำเนิด
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 01, เมษายน, 2559, 10:26:41 PM

                    ขอบคุณครับคุณกร ที่นำมาให้อ่านกัน
               ชอบบทกลอนนี้มาก ๆ เช่นกันครับผม เนื้อหาโดนใจมาก ๆ
               เป็นการเปิดมุมมองทีเดียว
               บทกลอนนี้แต่งโดยคุณ นภาลัย สุวรรณธาดา ครับ

     ว่าแล้วก็ขอนำบทกาพย์เกี่ยวกับแม่ มาลงด้วยครับ เป็นบทกาพย์ที่อยู่ในหนังสือเรียนภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ห้า หรือหก จำไม่ได้น่ะครับ
     ในยุคนั้นมีตำนานเด็กดี คือเรื่องของ มานี มานะ ปิติ ชูใจ เพชร ฯลฯ ไม่รู้ใครทันยุคนั้นบ้าง เพราะตอนหลังได้เปลี่ยนหลักสูตรไปแล้ว เด็กรุ่นหลังจึงไม่ได้อ่านกัน หรือแทบไม่รู้จักแก้งค์เด็กดีแก้งค์นี้เลย

     แต่สำหรับผมหรือผู้ที่รู้จักเด็ก ๆ พวกนี้ คิดว่าคงรู้สึกเช่นเดียวกัน คือเหมือนกับว่าพวกเขาเป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกัน เรียนมาด้วยกัน จนกระทั่งจากกันไปคนละทางเมื่อจบชั้น ป.6 น่ะครับ

     กาพย์นี้ปรากฏขึ้นในหนังสือ เนื้อหาตอนที่แม่ของเพชรตาย เพราะถูกงูกัดในป่าตอนไปหาหน่อไม้บนภูเขา เพชรเสียใจมาก ชูใจจึงนำบทกาพย์นี้มาให้เพชรอ่านเพื่อปลอบใจ เก็บสิ่งดี ๆ ไว้ในใจและความทรงจำ ให้เหมือนแม่ยังอยู่ข้าง ๆ เช่นเดิม

     กาพย์นี้เป็นการเลือกใช้คำและลีลากาพย์ที่เรียบง่าย (เพราะมุ่งสื่อกับเด็กนักเรียน)
แต่โดนใจในเนื้อหา (ผมคิดว่างั้น)
สำคัญคือ กาพย์เดินความได้ดี คำทุกคำทำหน้าที่อย่างแท้จริง สื่อความหมายได้ดีมาก ๆ ครับ

               แม่จ๋าดวงใจลูก                             ยังพันผูกไม่เสื่อมคลาย
          รักแม่แน่ใจหมาย                               มุ่งกตเวทีนิรันดร
              เพราะรู้ว่าแม่รัก                             แจ้งประจักษ์จิตอาทร
          ห่วงใยมิแคลนคลอน                          รักลูกดั่งดวงชีวัน
              เมื่อแรกที่ลูกเกิด                            ถือกำเนิดขึ้นในครรภ์
          แม่รักแม่สร้างสรร                              สิ่งดีงามให้ทันที
              แม่ทำแม่คิดชอบ                            ตามระบอบแห่งความดี
          เพื่อสร้างให้ลูกมี                                สมบูรณ์สุขทั้งกายใจ
              เมื่อลูกพ้นครรภ์แม่                         เฝ้าดูแลเจริญวัย
          สอนสั่งหวังจักให้                               ลูกเติบโตขึ้นเป็นคน
              กายใจและความคิด                       เริ่มชีวิตแม่ฝึกฝน
          ลูกจึงมิทุกข์ทน                                  เพราะเชื่อแม่แต่แรกมา
              แม่มีวิธีสอน                                   ไม่ตึงหย่อนแสนหรรษา
          โอนอ่อนผ่อนวาจา                             กล่อมเกลาลูกถูกคลองธรรม
              ฝึกลูกให้แข็งแกร่ง                          ทั้งเข้มแข็งแม่น้อมนำ
          ฝังแน่นในความจำ                             เหมือนมนตราพาชีพยืน
              ค่ำเช้าเฝ้าพันผูก                            อยู่กับลูกทุกวันคืน
          ลูกแสนระเริงรื่น                                 ผาสุกล้ำฉ่ำหทัย
              ครั้นแล้วอนิจจา                             แม่ต้องมาจากลูกไป
          สู่แหล่งแห่งหนใด                               ลูกสุดคิดจะติดตาม
              เหมือนดังแสงเทียนดับ                   แม่แลลับทุกโมงยาม
          คิดไปใจลูกหวาม                               ฝืนโศกเศร้าหงอยเหงาทรวง
              ลูกยังมิเคยพบ                               ทุกข์กระทบที่ใหญ่หลวง
          ทุกข์นี้ทุกข์กว่าปวง                             ลูกวิตกเพียงอกพัง
              สุดเพรียกร่ำเรียกหา                       ให้แม่มาดังใจหวัง
          จึงคิดให้แม่ยัง                                    อยู่กับลูกทุกคืนวัน
              จะยึดเอาคำสอน                            ความอาวรณ์สายสัมพันธ์
          ฝังจิตนิจนิรันดร์                                  เหมือนแม่อยู่คู่ลูกยา
              โลกนี้ไม่อ้างว้าง                             แม่เคียงข้างเหนือเกศา
          อวยพรลูกทุกครา                               ขวัญลูกดีมีชัยเอย ฯ




หัวข้อ: Re: วันผู้ให้กำเนิด
เริ่มหัวข้อโดย: กร กรวิชญ์ ที่ 02, เมษายน, 2559, 07:58:23 AM


ขอบคุณครับคุณหมู
กระจ่างแจ่มเลยครับ
ผมทันอยู่นะ มานี มานะ ชูใจ
แต่ก็ลืม ๆ เนื้อหาไปบ้างแล้ว
ชื่นชมคุณหมู ที่ยังจำความได้
และเก็บมาฝากให้ระลึกถึงวัยเด็กอีกครั้ง

ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: วันผู้ให้กำเนิด
เริ่มหัวข้อโดย: ปลายฝน คนงาม ที่ 02, เมษายน, 2559, 08:13:03 AM

อื่มมม
:020:

อย่ามาทำหลอกถามอายุกันเลย เดี๊ยนไม่หลงกล"ตาหมู"หรอกนะ  :006:
คนที่ทัน มานี มานะ ชูใจ ก็รู้ ๆ กันว่ารู่นใหญ่  :evil:
ก็มีหลายคนที่บ้านน้อย ที่ทัน มานี มานะ หรืออาจจะเกิดก่อน
ตอนนี้ ถ้าเจอหนังสือ มานี มานะ อยากซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึก
แต่หายากเหลือเกิน ถึงมีก็คงแพงหูฉี่ เน๊อะ หมู เน๊อะ

ขอบคุณ ตากร ตาหมู ที่นำบทประพันธ์ดี ๆ กลับมาให้อ่านกัน
สมัยนี้ หาอ่านเนื้อหาแบบนี้ ยากเหลือเกิน

 :AddEmoticons00918:


หัวข้อ: Re: วันผู้ให้กำเนิด
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 02, เมษายน, 2559, 10:21:12 PM

ฮั่นน่ะ อุตส่าห์ว่าวางกลพรางไว้ กะให้แสดงอายุอานามกัน โดนรู้ทันอีก เอิ๊ก ๆๆๆ
ผมเองก็เลือน ๆ เหมือนกันครับคุณกร แต่ใช่เลยครับย่าฝน หนังสือเรียนชุดนี้ตอนนี้ราคาแพงมาก
เป็นที่นิยมของนักสะสมเช่นกัน
ราคาขึ้นถึงประมาณสิบถึงยี่สิบเท่าของราคาเดิมเลย (ขึ้นเร็วมากเมื่อเทียบกับระยะเวลาแล้ว)
ของผมเหลือไม่กี่เล่มเช่นกัน ยังเสียดายที่ไม่เก็บไว้ทั้งชุด
ตอนนั้นรู้สึกเพียงว่า เป็นอะไรที่ธรรมดาหาง่ายมาก ๆ จนมาบัดนี้ เฮ้ออ~~
 :047:


หัวข้อ: Re: วันผู้ให้กำเนิด
เริ่มหัวข้อโดย: กร กรวิชญ์ ที่ 03, เมษายน, 2559, 07:36:50 AM


ผมว่าท่านผู้เฒ่าฝน คงเกิดก่อนหลายสิบปีเป็นแน่
เรียนจบก่อนหนังสือ มานี มานะ จะออก
ที่ผู้เฒ่าฝนรู้จักหนังสือ ก็คงเห็นแบบเรียนของหลานเป็นแน่
พอมีคนเอ่ยอะไรที่นมนานย้อนอดีต ท่านผู้เฒ่าก็กินปูนร้อนท้อง
ในทันที  ถ้าเปิดรับสมัครหลานเขย แจ้งผมด้วยนะครับ  :a016:

ยังดีครับคุณหมู ที่ยังมีเก็บไว้  ช่วงนั้นไม่มีใครคิดว่า
จะกลายเป็นของหายาก และมากค่าในปัจจุบัน
มีอีกหลายสิ่งในอดีต ที่สูญหายไป อย่างน่าเสียดาย
และก็ลืมกันไปหมดแล้ว

อนาตคอีกไม่นาน ผมเชื่อว่า ปลายฝน คนงาม
จะอาจเป็นปูชนียบุคคล นั่งตะหง่านบนคานบ้านกลอนน้อย
และร่ำรวยด้วยทองเปลว ที่เยาวชนรุ่นหลังนำไปแปะ

คุณหมูมีอะไร ที่เป็นของเก่าแก่ นำมาให้ชมกันบ้างนะครับ

 :AddEmoticons00918:



หัวข้อ: Re: วันผู้ให้กำเนิด
เริ่มหัวข้อโดย: ปลาย อักษร ที่ 03, เมษายน, 2559, 01:26:20 PM

ขอบคุณคุณกรและคุณหมูครับ ที่นำบทประพันธ์ดี ๆ มาแบ่งปันให้ได้อ่าน
ขอกระซิบว่า ผมเองก็ทันได้เรียนมานะ มานี เช่นกันครับ :090:
 :040
............... ปลาย อักษร


หัวข้อ: Re: วันผู้ให้กำเนิด
เริ่มหัวข้อโดย: มุกดาริน ที่ 03, เมษายน, 2559, 02:31:46 PM
   :กระต่าย01:

มานี มานะ ปิติ ชูใจ เพชร ??
..มุกไม่รู้เล้ยยยย ใคร้ใคร ใครอ่ะ
..ไม่เคยเรี๊ยน ไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่สน บ๊ายบายนะคะ  อิอิ
 
...
เคยร่ำเรียนเขียนอ่านผ่านกอไก่
มานีไป มานะมา หาไม่เห็น
จะมีนา จะรูปู รู้ยากเย็น
โอ้ยขุกเข็ญ อ่านไม่ได้ ไงยากจัง

       มุกมิก

      :d07:



หัวข้อ: Re: วันผู้ให้กำเนิด
เริ่มหัวข้อโดย: กร กรวิชญ์ ที่ 03, เมษายน, 2559, 04:10:17 PM

คงใช่แล้ว "ป้ามุก" เริ่มรุกรับ
เริ่มขยับวัยย้อนซ่อนข้างหลัง
ทำไม่รู้ไม่ชี้นั่นนี่บัง
แต่แอบนั่งนับนิ้วคิ้วตาชน

สี่สิบสี่สี่สิบห้าสี่สิบหก
นิ้วกระดกนับไปใครไม่สน
คว้าหนังสือซ่อนยังข้างหลังตน
เถอะไม่พ้นสายตากรชอนไชดู

 :045:

กร กรวิชญ์


หัวข้อ: Re: วันผู้ให้กำเนิด
เริ่มหัวข้อโดย: ปลายฝน คนงาม ที่ 04, เมษายน, 2559, 08:06:03 AM

พอเดี๊ยนไม่อยู่ ก็มีคนมาแอบเผาเดี๊ยน  :059:
แต่ก็ไม่เป็นไรนะ ปูชนียบุคคล ก็หาดูยากสมัยนี้
ได้เป็นก็ดีเหมือนกันว่ามะ ขออย่างเดียว..
อย่ามาแอบรักปูชนียบุคคล เข้าซะละ เป็นเรื่องเลย

ก็ขอขอบคุณอีกครั้ง กับตาหมู ตากร
ที่ลงกระทู้หาผู้สูงวัย เดี๊ยนก็ได้ทราบ และคาดคะเนว่า
ตาปลาย ก็วัยดึกเหมือนกัน  :a002:
เป็นแควนกันมาตั้งนาน ยังไม่เคยถามเลย ว่าวัยไหน
ก็ผิดหวังนิดกะหน่อย นึกว่าจะได้แควนเด็กกว่า นุ

ที่สำมะคัญ ได้ป้าเพิ่มมาอีกคน โดยไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย

 :d24: