บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => กลอน ร้อยกรองหลากลีลา => ข้อความที่เริ่มโดย: รพีกาญจน์ ที่ 24, กรกฎาคม, 2555, 03:22:56 PM



หัวข้อ: บ้านเรา...
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 24, กรกฎาคม, 2555, 03:22:56 PM


บ้านเรา...
รุ่งสางเช้า มองไม่เห็น
อากาศ ช่างหนาวเย็น
ตะวันเร้น ฟ้ามืดมัว

ปลายไผ่ โบกใบพริ้ว
ลมโชยฉิว ฉาบผิวทั่ว
ฟ้าร้อง ก้องน่ากลัว
เสียงสั่นรัว แสงแสบตา

เมฆดำ ที่ตั้งเค้า
พอนานเข้า เริ่มแน่นหนา
กลั่นกด หยดลงมา
พื้นแหล่งหล้า น้ำเจิ่งนอง

กระหน่ำ ตกซ้ำถี่
ในฤดี แสนเศร้าหมอง
ท่วมท้น ล้นคูคลอง
บึงห้วยหนอง ท้องนาไกล

ล่วงเลย วันที่ห้า
ฝนมิซา หยุดหลั่งไหล
นาล่ม จมน้ำไป
เอาอะไร เกี่ยวไว้กิน

อุ๊ยผัน...นั่งชันเข่า
นาของเฒ่า เสียสูญสิ้น
น้ำตา เล็ดร่วงริน
ชีพโบยบิน แน่นี้เนอฯ

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: บ้านนา.......(นาแล้ง)
เริ่มหัวข้อโดย: konbannokjingnna ที่ 25, กรกฎาคม, 2555, 10:17:17 AM
(http://images.noktawan.multiply.com/image/1/photos/58/400x400/1/photo-1.jpg?et=OmnqeO2zD7yOSNm5hl9y4A&nmid=320572522)

ดินแห้งแตกระโหย

ลมโบกโบยร้อนผะผ่าว

หญ้าแห้งเป็นแถวยาว

ผืนนาร้าวเป็นขุยดิน

ท้องฟ้าดูโปร่งโล่ง

ไร้เค้าโครงฝนเยือนถิ่น

ชาวนาน้ำตาริน

ไร้ข้าวกินพอประทัง

นาแล้งอกหมองไหม้

รอนดวงใจไร้ความหวัง

หาใดให้ชีพยัง

ทรุดลงนั่งกราบผืนดิน


หัวข้อ: Re: บ้านนา.......(แกงน้ำ)
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 25, กรกฎาคม, 2555, 10:04:38 PM


เปิบข้าว จากกระติบ
เอี้ยวตัวหยิบ ช้อนเคลือบเขียว
ตักแกง แค่ช้อนเดียว
มือแห้งเหี่ยว ยกขึ้นยอ

อีกข้าง แตะข้อศอก
ค่อยเทถอก ลงปากหนอ
น้ำแกง ไหลลงคอ
เอาข้าวจ่อ อ้ากินกลืน

เม็ดข้าว เหลือร่วงกราว
เม็ดแข็งขาว ราวเรี่ยพื้น
ข้าวเก่า เมื่อวานซืน
มันไหลลื่น ไม่เกาะกัน

มองใน ถ้วยตราไก่
น้ำแกงใส มีเท่านั้น
ผักไม้ หมูมูกมัน
แม่อุ๊ยผัน บอกไม่มี

ข้าวก้อน แกงหนึ่งถ้วย
พอจะช่วย อะไรนี่
พยักหน้า ว่าลำดี
แกงน้ำนี้ กินมานาน

แกงน้ำ-ประกอบด้วย พริก1เ้ม็ด เกลือ2เม็ด ข่า1หัวแม่มือ
ปลาร้า1ช้อน โขลกเข้ากัน ใส่หม้อดินมีน้ำ1กระบวย
ตั้งไฟให้เดือด เป็นเสร็จพิธี ตักกินได้

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: บ้านนา.......(นาล่ม จมหนี้)
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 27, กรกฎาคม, 2555, 09:06:44 AM


เมฆบาง ฝนสร่างซา
วันที่ห้า เริ่มห่างหาย
ต้นข้าว จมน้ำตาย
แสนเสียดาย ลงแรงไป

คนเดียว กะไว้กิน
ปลูกทั้งสิ้น เพียงหนึ่งไร่
ขาดข้าว เหมือนขาดใจ
ต้องชดใช้ ค่าเช่านา

อีกยัง ค่าไถหว่าน
จ้างแรงงาน ซื้อต้นกล้า
เครื่องสูบ น้ำ ปุ๋ย ยา
รอน้ำฟ้า ไม่ทันกิน

กว่าข้าว จะเติบใหญ่
แสนห่วงใย ใจขาดดิ้น
ศัตรู แมลงบิน
แทะ กัด กิน ข้าวขาดรวง

ระวัง ทั้งนกกา
ยกฝูงมา เป็นช่วงช่วง
จิกเกร็ด เมล็ดยวง
ข้าวขาดพวง เหลือแต่กอ

กี่วัน น้ำจะลด
ข้ารันทด ใจจริงหนอ
หนี้น้ำ คงค้ำคอ
เฝ้าคอยรอ คนเมตตา

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: บ้านนา.......(ยกยอ..พอทุกข์)
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 06, สิงหาคม, 2555, 10:30:55 PM


แบกจ๋ำ(ยอ)เดินนำหน้า
มียายมา เดินตามหลัง
มีข้อง คล้องเอวรั้ง
เดินระวัง บนคันนา

น้ำมา ปลากินมด
น้ำลด มดเริงร่า
ผู้คน ออกหาปลา
ทำปลาร้า ปลาแห้งแบ

วางยอ ริมตลิ่ง
ปลาว่ายวิ่ง ทวนกระแส
น้ำไหล หมุนปรวนแปร
ลอยเป็นแพ ท่องน้ำวน

ปลาเข้า ยอพอยก
ปลาตระหนก พุ่งเสือกสน
แฉลบ ตัวขึ้นบน
กระโดดพ้น รอดตายไป

ส่งเสียง วิ้ด ว้าย วู้
น้ำหมากพลู กระเซ็นสาย
ยกยอ ต่อเมื่องาย
จนสุดท้าย จดค่ำเย็น

นีแหละ คือ ชีวิต
ฟ้าลิขิต หว่างทุกข์เข็ญ
มีสนุก สุข ร่วมเป็น
มิว่างเว้น เช่นนี้แลฯ

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: บ้านนา.......(นาล่ม ล้มป่วย)
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 08, สิงหาคม, 2555, 08:26:56 PM

๐แสนเจ็บปวดเมื่อยล้า     กายา
กอปรกับความชรา        แก่เถ้า
กระเถิบร่างลากขา        หาเกิบ (รองเท้า)
ไหวสั่นดูหมองเศร้า     จุกเผ้ารุงรัง

ลมโบก กระโชกพา
ตองหลังคา หลุดลอยหาย
ร่องรั่ว รูระบาย
ฝนเป็นสาย สาดกระเซ็น

ผมหัว ตัวเปียกปอน
เสื่อ มุ้ง หมอน ดอนกระเด็น
ที่นอนรับ ซับน้ำเย็น
จะลากเข็น ก็สิ้นแรง

เหลือแต่ ผ้าห่มบาง
ใช้คลุมร่าง จนสางแจ้ง
เหน็บหนาว ร้อนผ่าวแฝง
ริมปากแดง แห้งในคอ

ยาต้ม สมุนไพร
ยกมาให้ ครึ่งค่อนหม้อ
ใบฝรั่ง ปนยอดยอ
ทับทิม ท้อ ขมิ้นชัน

อุ๊ยมี ใจดีนัก
เป็นเพื่อนรัก กับอุ๊ยผัน
เฒ่าสอง มองหน้ากัน
หัวเราะลั่น..ทั้งน้ำตา

รพีกาญจน์




หัวข้อ: Re: บ้านนา.......(เจียวผำ ยำเตา)
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 11, สิงหาคม, 2555, 10:21:47 AM

ฟ้าดำ...ยังคล้ำมืด
น้ำท่วมอืด นิ่งคง ยังทรงอยู่
ถามว่าทำ อย่างไร ตอบไม่รู้
ไม่คุดคู้ สู้ต่อไป

บ่าย...ตะวันฉายแสง
รีบจัดแจง แซะ ข้อง ลงหนองใหญ่
จัดใส่ย่าม บุหรี่ ไม้ขีดไฟ
จุดพ่นใส่ ไล่ยุงเยียว

แซะ...ช้อนเอา เตา ผำ
กะจะยำ กับปลาร้า สาหร่ายเขียว(เตา)
ร่อนกรองเม็ด สะเด็ดน้ำ เอาผำเจียว
บอกคำเดียว ของกินลำ(อร่อย)

หา...หมายตาไว้แล้ว
ดอกบัวแก้ว เต่งตูม อูม พ้นน้ำ
หยิบมีดตัด ผลัดข้า ว่าสักคำ
เพื่อน้อมนำ ชูบูชา

บัวขาว...บัวเจ้าเอ๋ย
ภพก่อนเคย รับใช้องค์ ผู้ทรงฟ้า
ต้องคำสั่ง พิสุทธิ์ จุติมา
สู่แหล่งหล้า กลางตมโคลน

ตัด...จำใจตัด นะ
ขอโทษจ๊ะ นำถวาย หมายกุศล
อานิสงส์ จงช่วย ด้วยบันดล
เกิดชั้นบน...นางฟ้า วิลาวัณย์

แม่อุ๊ยผันสอนเสมอว่า ถ้าจะต้ดดอกไม้ต้องกล่าวขอโทษ
บอกความจำเป็นที่ต้องตัด และให้พรดอกไม้ด้วยทุกครั้ง
.....ดอกไม้ก็เป็นสิ่งมีชีวิต แต่เลือกเกิดไม่ได้เท่านั้น

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: บ้านนา.......(นาล่ม)
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 11, สิงหาคม, 2555, 10:50:57 AM

ขอชมเชยเผยถ้อยข้อยยกย่อง
เปิดเข้าห้องลงกลอนอ้อนอุ๊ยผัน
หญิงเห็นแว๊ปแป๊ปประเดี๋ยวเหลียวไม่ทัน
ท่านกานต์หันหลังโลดโดดออกไป  :010:

วิทยายุทธนี้ดีนักหนา
แว๊ปเข้าหาห้องหับเหมือนจับใส่
เผลอแป๊ปเดียวแว๊ปออกทั้งนอกใน
มีข้อความจากใครไร้ยินยล  :006:

ส่งข้อความไปเก้อเธอไม่อ่าน
ส่งตาหวานผ่านไปเธอไม่สน
ส่งรอยยิ้มพริ้มพรายที่ป้ายมนต์
ส่งไปจนเหนื่อยใจมิใยดี  :006:

(http://upic.me/i/11/36_19_51.gif) (http://upic.me/show/4102407)






หัวข้อ: Re: บ้านนา.......(นาล่ม)
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 11, สิงหาคม, 2555, 10:06:28 PM


ลิงทะโมน โผนห้อง ตะกองกอด
ไยพร่ำพลอด ปากอ้า ละยาหยี
ต้องร่นถอย น้อยเวลา เศษนาที
จรลี จากไป ลับไกลตา

คืนเก้าค่ำ ด่ำ.ดื่ม ปลื้มดวงจิต
คลุมหน้าปิด ปีนบ้าน คลานเข้าหา
ถูกสกัด ตัดพ้อ ต่อวาจา
ส่งแมวมา ตาหวาน ซ่านทรวงใน

อะไรรก บกพร่อง น้องบอกด้วย
วิงวอนช่วย ดูแล เตือนแก้ไข
ก็หูตา ฝ้าฟาง ย่างสูงวัย
ขออภัย ซุ่มซ่าม ยามเลอะเลือน

 :a005:

กานต์



หัวข้อ: Re: บ้านนา.......(นึ่งข้าว เป่าไฟ)
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 12, สิงหาคม, 2555, 05:23:38 PM



ไก่ขัน กระขั้นเสียง
ยันข้างเอียง เบี่ยงตัวขึ้น
มือดึงเสา เอาร่างยืน
เช้านี้ตื่น คืนมืดซา

จับกระบวย ฉวยตักน้ำ
จากถังดำ คลำล้างหน้า
เปลือกหมาก มีดถากมา
ทุบหลายครา ถาถูฟัน

รีบเข้า ครัวเตาไฟ
หักเศษไม้ ไขว้สุมสัน
จุดไฟ ใช้สนมัน
แสงปนควัน ลุกทันใด

หม้อดิน น้ำรินค่อน
วางเตาก่อน ร่อนวางไห
มือซาว ข้าววักใส่
ชั่วอึดได้ ไอพุ่งพวย

ข้าวสุก หอมถูกใจ
เม็ดใสใส สีสวยสวย
คดใส่ ไว้ในกรวย
ฝาปิดด้วย ช่วยอุ่นนาน

ชำเลืองแล ขึ้นบนแคร่
ปลาแห้งแบ วางแส้สาน
พิงไฟอ่อน ช้อนเรียงจาน
ไปทำทาน ทำบุญวัด...

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: บ้านเรา...(แต่งกาย ไปวัด)
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 16, สิงหาคม, 2555, 12:07:41 PM


ผ้าซิ่น  ทีนจกดำ
ลายเป็นลำ  เย็บชำขวาง
สีตุ่น  ขาวขุ่นพราง
ฝ่ามือกว้าง  หว่างเอวบน

เสื้อหลวม  สวมคอตั้ง
จับเกล็ดหลัง   หยั่งเอวย่น
ผ่าอกเต็ม  เม้มซ่อนกล
แขนยาวพ้น  ชนข้อมือ

หวีขึง  ให้ตึงหน้า
รวบผมมา  ขมวดถือ
ซ่อนปลาย  ยายยกฮือ
เสียบหย่องยื้อ  ยึดรูปทรง

เอื้อมเด็ด  เก็จตะหวา(ดอกพุดซ้อน)
เต่งตูมห้า  ดอกใส่ขง(ขัน)
บานเบ่ง เร่งเสียบลง
ตั้งกลางตรง  จุกเลื่อมลาย

ผ้าขาว  พาดราวบ่า
ไว้เช็ดหน้า  น้ำตาผ้าย
รองเท้าแตะ  แหวะสอดสาย
สวมสบาย  เดินไปวัด...

ทุกวันพระ
แม่อุ๊ยผันไปทำบุญตักบาตรที่วัด

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: บ้านเรา...(ตักบาตร หยาดน้ำ)
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 19, สิงหาคม, 2555, 11:02:04 AM

ข้าวตอก  ดอกบัวขาว
ธูปสามยาว  เทียนเหลืองสอง
มือน้อย  ค่อยประคอง
หยิบเลื่อนรอง  ย่องพานมา

เทียนซ้าย  พระวินัย
สำรวมไว้  กายวาจา
พระธรรม  ช่ำอุรา
จุดเทียนขวา  บูชาองค์

จุดธูป  วูบสามดอก
เครื่องชี้บอก  อานิสงส์
พระปัญญา  พิสุทธิ์คง
การุญยง  อธิคุณ

ดอกไม้  ใช้ชื่นสด
สีงามงด  หอมกลิ่นกรุ่น
บัวขาว  พราวเจือจุน
หนึ่ง นำหนุน  พระรัตน์ตรัย

สอง ภูมิใจ  องค์ในหลวง
สาม ไทยทั้งปวง  สุขสดใส
ข้าว ปลา  ถวายไป
ภาคหน้าไว้  กองบุญญัง

นะโม  พุทโธนบ
กล่าวเวียนจบ  ครบสามครั้ง
ศีละ  อาราธนัง
พรสุขัง  สัพพีฯชัย

อุ๊ยผัน  วันทยะ
คำถามพระ  ปลานา ไหม
ปาณา  ตอบ ไม่ใช่
ปลาหนองใหญ่  ไม่บาปนา

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: บ้านเรา...(รับเงิน เดินชีพ)
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 21, สิงหาคม, 2555, 10:18:31 PM

ป้อหลวง  กล่าวช่วงสาย
หอกระจาย  ข่าวหมู่บ้าน
ให้รู้  ผู้พิการ
หกสิบผ่าน  วัยชรา

หญิงชาย  บ่ายโมงตรง
ทุกคนจง  นั่งลงท่า
นำบัตร  ติดตัวมา
ที่ศาลา  ชนร่วมใจ

เขาจัด  สวัสดิการ
นำอาหาร  ของกิน-ใช้
กระเบื้อง  เครื่องมือ-ไม้
น้ำท่วมใหญ่ เสียทรุดโทรม

พร้อมเงิน  ค่าเดินชีพ
จ่ายเร่งรีบ  คนด่าขรม
ล่าช้า  สิงหาคม
ไร่นาล่ม  ไม่มีกิน

แก่ยาก  ลำบากเฒ่า
ช่วยบรรเทา  ก่อนด่าวดิ้น
ข้างบน  ถ้ายลยิน
หยุดหนี้สิน  โดยเร็วพลัน

มือน้อย  ค่อยรับแบ๊งก์
ไม่หนักแรง  แกว่ง-ไหว-สั่น
ตาจ้อง  มองดูมัน
ช่วย-อุ๊ยผัน  ยืดวันตาย

(ป้อหลวง - ผู้ใหญ่บ้าน)

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: บ้านเรา...(วันแม่)
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 24, สิงหาคม, 2555, 09:29:31 PM

ฝ่าเท้า เท่าฝาหอย
ทารกน้อย ค่อยนอนเบาะ
เวรกรรม เข้าซ้ำเลาะ
เลวร้ายเคราะห์ เพราะแม่ตาย

เติบใหญ่ อาศัยญาติ
เหนื่อยแทบขาด ใจสลาย
จนยาก ลำบากกาย
รับจ้าง-จ่าย พอใช้ไป

รูปชั่ว ตัวเตี้ยต่ำ
ผิวสีคล้ำ ดำไม่ใส
ต้องอยู่ ไร้คู่ใจ
อายุไข วัยชรา

ไม่ขม เป็นปมด้อย
หรือใจน้อย คอยวาสนา
ทาน ศีล ภาวนา
แผ่เมตตา เผื่อการุญ

ชาตินี้ มีภพหน้า
ชีวิตข้า คงสิ้นสูญ
หลวงตา ว่า-นับบุญ
กำไร-ทุน หมดทันที(นิพพาน)

นัดกัน งามวันแม่
ร่วมดูแล สถานที่
โบสถ์ วิหาร ศาลา กุฏี
โรงฉันดี สะอาดครัน

มะลิขาว จากราวใจ
กราบมอบให้ แม่อุ๊ยผัน
แกยิ้ม หัวเราะพลัน
พูดว่าฉัน มีลูกแล้ว

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: บ้านเรา...
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 27, สิงหาคม, 2555, 06:03:45 AM


มอบของเนื่องในวันเกิด

    ผ้าห่ม กันลมหนาว        
หมวกสีขาว เสื้อยาวแขน
ถุงมือ ซื้อมาแทน
ถุงเท้าขาด อนาถใจ

ข้าวตอก ดอกกระดาษ
ธูปเทียนถาด ของวาดไหว้
ดินสอพอง กล่องขีดไฟ
ห่อเทียนไข ใช้จุดตาม

ข้าวสาร อาหารแห้ง
พริกหอมแดง แบ่งมะขาม
ปลาร้า กะปิงาม
ถ้วยจานชาม เกลือ น้ำตาล

ยาลม ดมถูคาด
สันนิบาต ยาธาตุหวาน
เมี่ยงหมากพลู สู่ในพาน
ปูนสีเสียด เจียดเคี้ยวอม

ม่วงสุก ลูกมะไฟ
พวงลำไย กล้วยไข่ ส้ม
สมอ ท้อ มะยม
ข้าวโพดต้ม ขนมแดง

บรรจง ลงตะกร้า
หาบขึ้นบ่า ขาย่องแย่ง
เดินมา หน้ากาดแลง
หนักตะแบง กวัดแกว่งไกว

ถึงตูบ จูบ.อุ๊ยผัน
ของกำนัล ฉันมอบให้
อุ๊ยผัน.ฉันดีใจ
ยิ้มน้อยใหญ่ กันสองคน

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: บ้านเรา...(เจ็บไข้ ได้ป่วย)
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 31, สิงหาคม, 2555, 10:13:19 PM

ไก่ขัน กระชั้นเสียง
แกค่อยเอียง เบี่ยงกายขึ้น
เกาะราว สาวลุกยืน
ลืมตาตื่น ยังมืดมัว

ไม่มี นาฬิกา
บอกเวลา ฟ้าสลัว
เลยดึก รู้สึกตัว
ทำมาชั่ว นาตาปี

คลำได้ ไม้ขีดไฟ
หยิบก้านใช้ ขีดหนึ่งซี่
ไฟช่อ รอลุกดี
จ่อเข้าที่ ไส้ตะเกียง

เช้านี้ มีลมหนาว
หมอกพร่างพราว ขาวทั่วเถียง
ล้างหน้า อ้าปากเพียง
น้ำกระบวย บ้วนฟันฟาง

สุมไม้ ก่อไฟลุก
นึ่งข้าวสุก ทันฟ้าสาง
แบ่งสัน ปันส่วนพลาง
ปั้นใส่กล่อง พร่องใส่จาน

หลวงพ่อ รอตักบาตร
อุ๊ยผันขาด จึงเรียกขาน
รีบวิ่ง ถึงตูบตาล
ต้วสะท้าน ไม่สบาย

เช้าวันอังคาร ตีระฆังนำหน้าหลวงพ่อบิณฑบาตร
พบแม่อุ๊ยผันไม่สบาย หลังเที่ยงนำส่งโรงพยาบาล

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: บ้านเรา...(ฝนลงแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 10, กันยายน, 2555, 12:34:52 PM

เสียงตะโกน คนต่อคำ ว่า..น้ำป่า
มันล้นบ่า ขุ่นข้น จากบนเขา
บรรจบช่อง ร่องธาร ผ่านลำเนา
ความเร็วเร้า สู่ควน ถึงสวนนา

รีบปิดคัน กั้นประตู รูทำนบ
ถุงทรายกลบ เหลื่อมแดน ซ้อนแผ่นหนา
กันน้ำหลั่ง ถั่งโถม โจมเข้ามา
กระแทกกล้า พืชผล ต้นลำไย

รีบเปิดคัน กั้นประตู คูคลองอ่าง
ที่เปล่าว่าง รองรับ ซับน้ำไหล
เก็บกักน้ำ ดำกล้า นาต่อไป
รดสวนไร่ เต็มบ่อ พอเลี้ยงปลา

อากาศเย็น เห็นควัน จวนจะค่ำ
กลุ่มเมฆดำ ลอยเลื่อน เกลื่อนท้องฟ้า
ลมแรงพัด กวัดไกว ไม่กี่ครา
ดังซู่ซ่า เบื้องบน ฝนตกลง

ทั่วแผ่นดิน ถิ่นถ้ำ ชุ่มฉ่ำชื่น
พืชผลิใบ ไม้ดกดื่น ยอดยื่นส่ง
เสียงจิ้งหรีด จักจั่น ลั่นดานดง
กบเขียดคง ลงคู ลอยชูคอ

น้ำ..ส่วนดี   ช่วยชีวิต
น้ำ..มากปลิด   ชีวิตหนอ
น้ำ..อะไร   ให้เพียงพอ
น้ำพระทัย   พ่อหลวงเรา

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: บ้านเรา...เหตุซ้ำซาก
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 17, กันยายน, 2555, 02:25:19 PM

ตอกรอหลัก ปักลำ แม่น้ำกว้าง
ตามแนวทาง ลงดาน ทานหลั่งไหล
ซ้อนเรียงราย ก่ายกั้น ชั้นนอกใน
เมื่อก่อนใช้ ไม้แข็ง แรงงานคน

จากเหนือน้ำ ทำฝาย หลายสิบจุด
ลงมือขุด คูคลอง รองรับฝน
ชลอเชี่ยว เลี้ยวลด คดเวียนวน
เป็นเชิงกล ผ่อนคลาย สายน้ำแรง

มีห้วยหนอง คลองคัน สระบรรจุ
ล้นทะลุ ริมทาง สู่อ่างแอ่ง
แทรกซึมพื้น ตื้นลึก ทึกวุ้งแวง
ล้วนเป็นแหล่ง พักฝาก คราหลากนอง

หากฟันเฟือง เครื่องใด ใยร่วงหลุด
ก็จะฉุด ระบบพัง ล้มทั้งผอง
น้ำทะลัก หักฝาย ทลายกอง
ไหลเลยล่อง เข้าเขื่อน เลื่อนลงมา

เหนือขาดน้ำ ดำกล้า นาสวนไร่
กลางลุ่มใต้ ขังท่วม อ่วมถ้วนหน้า
เทวเดิน เพลินท่อง ลองตำรา
รีบไขว่คว้า ประจบ เอางบงาน

รุมแย่งยื้อ มือยาว หยิบสาวได้
มิทำไทย เร่งจ้าง สร้างประสาน
มัวต่องแต่ง แบ่งเนื้อ เถือในจาน
ถึงเมื่อวาน ฝายพนัง ยังไม่มี

ฝายดอยน้อยและฝายวังปาน ถูกน้ำซัดพังเมื่อปีกลาย
สองฝายนี้เก็บกักน้ำจำนวนมหาศาล ไว้ใช้ในการเกษตร
และป้องกันน้ำท่วมได้เป็นอย่างดี ยังไม่ลงมือสร้าง

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: บ้านเรา...
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 17, กันยายน, 2555, 06:36:20 PM
ด้วยฉ้อฉล กลใด ใครหนอรู้
ปัญหาดู เร้นลับ ซับซ้อนยิ่ง
ปลูกอาคาร ร้านขาย ชายฝั่งปิง
บ้างเททิ้ง ขยะ สะสมกอง

ดั้งเดิมลำ น้ำแม่ แลไกลกว้าง
กลายเป็นทาง แคบคับ อับไหลล่อง
มันมนุษย์ สุดโง่ โอ่ลำพอง
ลากถมคลอง ทำถนน จนระบาย

วิกฤตเกิด เปิดโอกาส ฟาดกระหน่ำ
สร้างเงื่อนงำ สัมปทาน มวลมารร้าย
เข้าทางเสือ เรือขุด ชักดูดทราย
ขนจำหน่าย ลิ้นแผล็บ แอบนับเงิน

อิงโครงการ งานซับ ปรับร่องน้ำ
ทรายมากล้ำ เต็มพื้น นูนตื้นเขิน
รับสองเด้ง เก่งนี่นา วิชาเกิน
ที่ยับเยิน คือชาติ ราษฏร์ทุกคน

หินกรวดทราย หายไป อยู่ในตึก
รวมผนึก ปูนแน่น แผ่นถนน
อีกมินาน ผ่านไป ในสายชล
ลึกถึงก้น บาดาล ธาร นาคี

ฝายพนัง พังสิ้น ฝั่งดินเกลื่อน
หินทรายเลื่อน เหนือแดน มาแทนที่
ชี้โทษฟ้า ด่าดิน สิ้นปราณี
แท้อับรีย์ กระทำ เหตุซ้ำซาก!

ฝายพัง ทรายเหนือแดนไหลลงมาแทนที่
ดูดขายสบายแฮ พอทรายหมดฝายพังอีก

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: บ้านเรา...หน้าแล้ง
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 29, พฤศจิกายน, 2555, 02:37:25 PM

เงินค่าจ้าง ถา่งหญ้า ร้อยห้าสิบ
ห้านิ้วหยิบ ใส่ลง ตรงกระเป๋า
แทงเข็มกลัด ขัดกั้น มือสั่นเทา
ลูบเบาเบา ยังอยู่ รู้ชื่นใจ

นำจ่ายค่า ข้าวสาร อาหารแห้ง
พริกเกลือแกง หมักดอง ของเครื่องใช้
บรรเทาปวด แก้ลม ดม แก้ไอ
ธูป เทียนไข หมาก พลู เมี่ยง บูรี

จ่้ายค่าบัตร ฌาปนกิจศพ
งานบุญครบ เจ็ดสิบห้า หลวงตาศรี
งานฉลอง ห้องฉัน พันเจดีย์
สร้างกุฏี เททอง ช่องประตู

เงินซ้อนพับ นับใช้ ไม่เหลือหมด
กลัวจะอด ยืนร่าง รับจ้างสู้
จะเด็ดผัก ตักเตา ตามคลองคู
ให้หดหู่ น้ำแห้ง แล้งทั่วบาง

เมื่อปวดหัว มัวตา อากาศร้อน
ค่ำคืนนอน กระสับ หลับค่อนสาง
เดินย่องแย่ง แรงถด จึงหมดทาง
นั่งเท้าคาง ละห้อย เฝ้าคอยรอ

บอกชาวบ้าน ร้านขาย หัวท้ายกาด
มีกระดาษ หนังสือ ยื่นมือขอ
ให้ อุ๊ยผัน พับเย็บ เก็บจนพอ
ขายเขาห่อ มะม่วง พวงลำไย

เยี่ยมเยียน.ถามทุกข์สุข   สร้างงาน.ให้ยายผัน
บูรี-บุหรี่ เตา-สาหร่าย กาด-ตลาด อุ๊ย-ย่ายาย

 :a015:

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: บ้านเรา...
เริ่มหัวข้อโดย: Sasi Aksarasrom ที่ 01, มีนาคม, 2557, 09:00:51 AM

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000016696906.JPEG)

เสียงไก่ขันกระชั้นถี่ตีสี่กว่า
เดือนลอยลับดับลาเวหาหน
สุริยาทาทบ นภดล
ปลุกให้คนตื่นจากใหลในภวังค์

กระต๊อบเก่าเสากร่อนเรือนคลอนโย้
หลังคาโบ๋พื้นฟาก จากผนัง
ประตูไผ่ขัดช่วงทำรวงรัง
ผืนดินยังยืนย่ำประจำวัน

เพียงแคร่ไม้ขัดแตะได้แหมะนั่ง-
นอนแนบหลังยามล้าพาหลับฝัน
ขอนไม้หนุนแทนหมอนนอนมองจันทร์
ก็สุขสันต์เกินพอยามท้อแรง

สองเท้าเดินตามทุยลุยคราดไถ
ลงย่างไกลกลางทุ่งก่อนรุ่งแจ้ง
สองมือสากตรากตรำทำนาแปลง
แม้หน่ายแหนงเหน็ดเหนื่อยเมื่อยต้องทำ

ยามหม่นท้อคลอขลุ่ยเพียงทุยเพื่อน
แรมปีเดือนเฝื่อนตนทนเช้าค่ำ
ช่างเปลี่ยวเปล่าชาวนาหน้าตาดำ
อกระกำช้ำจินต์สิ้นใครแล


Sasi

 
:020: :a012:


หัวข้อ: Re: บ้านเรา...
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 02, มีนาคม, 2557, 07:37:56 PM
(http://www.thaiday.com/asp-bin/Image.aspx?ID=2437542)


ถมสวนนาผ่าทางสร้างถนน
เสียงเครื่องยนต์ตะเบ็งดังเซ็งแซ่
เลิกเย็นเช้าเข้างานสัญญาณแตร
คนจอแจฝุ่นพุ่งฟุ้งกระจาย

เกลี่ยทรายหินดินรดน้ำบดอัด
ยางแอสฟัดราดราวยาวขยาย
กลบความจำดำแดงหลุมแอ่งควาย
ตรงสุดสายเขตคามงามเจริญ

บ้านใต้เหนือเรื่อแรงแสงสว่าง
สองฟากทางคนยืนรื่นสรรเสริญ
จูงลูกหลานบานยิ้มแย้มหยอกเอิน
ชมกันเพลินโทรทัศน์ชัดเต็มตา

ม่วนละครครื้นเครงภาพเพลงหนัง
ไทยฝรั่งจีนแขกแปลกหรรษา
เกมประกวดอวดเรือนร่างดารา
คลิปเอ๊กซ์อาร์พาเพลิดใจเปิดเปิง

เด็กรุ่นคราวสาวหนุ่มกลุ่มกลางแก่
เหลือบเหลียวแลจดจ้องลองเลยเหลิง
หลงอบายส่ายเอวจมเปลวเพลิง
มัวบันเทิงเริงรำมิทำงาน

สื่อสมยอมมอมเมาเอาร้ายบ่ม
ทุนนิยมซมชั่วถึงรั้วบ้าน
ดอกโสนน้อยลออพอเบ่งบาน
อันตรธานจากไกลไปเมืองกรุง

 :a014:

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: บ้านเรา...
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 02, มีนาคม, 2557, 08:44:47 PM
 
:a004:

ปัจจุบันยุคใหม่ในชนบท
ถนนมากกว่ารถจดทั่วทุ่ง
ทั้งที่รถเหลือคณาชุมกว่ายุง
ดูเรืองรุ่งถนนใหม่ให้ปูเดิน


ประทีป  วัฒนสิทธิ์
ธรรมชาติธรรม
2 มีนาคม 2557

:047:



.............................................
     อิ่มเอมใจในอักษรป้อนคำถ้อย
จัดเรียงร้อยบทกวีที่คิดสรรค์
มอบกวีแด่พี่น้องของกำนัล
คอยแบ่งปันสรรค์คิดจากจิตใจ

     ดุจดั่งเป็นเช่นกระจกส่องมองเห็นโลก
มุมเศร้าโศกสันติสุขแห่งยุคสมัย
มองด้วยจิตคิดคู่ธรรมนำซึ่งไท
อาจต่างไปต่างมุมมองของแต่ละฅน

     แต่อย่างน้อยแนวคิดถึงผิดถูก
คงช่วยปลูกวิจารณญาณผ่านสับสน
อาจตัดสินขอกังขาพากังวล
เพื่ออยู่บนถูกต้องครรลองธรรม

     ประทีปขอปณิธานงานอักษร
ร้อยกานท์กลอนกลั่นกรองมองเช้าค่ำ
เพื่อชี้เทาชี้ขาวกล่าวสีดำ
ผลน้อมนำสัจธรรมค้ำสังคม


ประทีป  วัฒนสิทธิ์
ธรรมชาติธรรม
www.naturedharma.com