|
1
คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
เมื่อ: วันนี้ เวลา 07:35:01 AM
|
||
| เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
|
(ต่อหน้า ๗/๑๘) : ๑๓. วิภังค์ : ปัจจยาการวิภังค์ ๑๓๘."วิญญาณ"ปัจจัย........ประกอบร่วมไซร้........กับ"นาม"แน่เชียว นามรู้อารมณ์....ได้ชมเฉลียว....จากวิญญาณเปรียว....หก"อายะฯ"แล ๑๓๙.ก็"ตา,จักขุฯ"โสตฯท้น..........................สุวคนธ์จมูกแฉ "ชิวหาฯและกายฯ"หทยะแล้.............................มโนวิญญ์ฯสิใจรู้ ๑๔๐.นาม:เจตสิกไซร้.........ปัจจัยร่วมไว......."มนายะฯหก"พรู เหตุผลซึ่งกัน....นามนั้นไร้กรู....โลภ,โกรธ,หลงชู....ช่วยมนายะพา ๑๔๑.ก็นามมีวิตกพาน...................................และวิจารลุเวท์นา ศรัทธา,ฉลาดวิริยะหนา....................................ลุช่วยเหลือมนาฯเอย ๑๔๒.มนายตนะ.......เหตุประกอบปะ........กับผัสสะเอ่ย สามสิ่งกระทบ....ครบอายะฯเผย....ใน-นอก,วิญญ์ฯเชย....ผัสสะเกิดแล ๑๔๓.กระทบผัสสะรู้สึก.................................สุขะตรึกรึทุกข์แฉ สุขทุกข์สิไร้เจาะนิรแท้......................................ซิกลาง,เวทนาเผย ๑๔๔."เวทนา"รู้ตรึง.......ยินดีคะนึง.......เกิด"ตัณหา"เอย อยากด้วยติดใจ....ชอบไซร้จนเคย.....ตัณหาเกิดเอ่ย....จากรู้สึกครัน ๑๔๕.เพราะ"ตัณหา"สิปัจจัย...........................วสะได้รตีพลัน เกิดยึดมิปล่อยตริธุวมั่น.....................................หทัยเกิด"อุปาทาน" ๑๔๖."อุปาทาน"ถือ........ยึดสิ่งนั้นครือ.......เป็นของตนพาน เกิดความเคยชิน....ยินดีสภาพกานต์....เกิด"ภพ"หน้าขาน....เกิดวนเวียนไป ๑๔๗.เพราะ"ภพ"แหล่งอุบัติชัด........................ศยะสัตว์เจาะ"ชาติ"ไซร้ ผลกรรมจะนำลุภวไว..........................................จะมี"ภพ"เหมาะตนเผย ๑๔๘."ชาติ"เป็นปัจจัย.......เมื่อเกิดแล้วไว........ชรา,ตายตามเอย ตามธรรมชาติ....กายยาตรเสื่อมเปรย....แล้วสิ้นสูญเลย....เป็นวงจรแล ๑๔๙.ผิ"สองสัมปยุตต์ฯ"กิจ.............................เจาะ"อวิชช์ฯ"มิรู้แฉ ความจริงประเสริฐอริยะฯแท้...............................กุ"สังขาร"เลอะเลือนปรุง ๑๕๐."สังขาร"เหตุนำ.........ปรุงแต่งผิดถลำ.......วิญญาณรู้ผลุง ผิดตามสังขาร....วิญญาณกอปรผดุง....รอบรู้บำรุง....ด้วยสังขารเอย ๑๕๑.เพราะ"วิญญาณ"สิเหตุผลาม....................ภวนามประกอบเอ่ย วิญญาณก็จิตจะหิตะเผย.....................................กะนาม,เจตสิกแล ๑๕๒."นาม"คือจิต,มโน-.......วิญญาณธาตุโผล่........ประกอบร่วมแน่ กับนามธรรมอื่น....มีดื่นเหมาะแล้....กระทบร่วมแท้....เกิด"ผัสสะ"มา ๑๕๓.เพราะมี"ผัสสะ"ชี้จบ................................ตริกระทบซิรู้หนา เกิด"เวทนา"ลุสุขะกล้า........................................ลุทุกข์หรือเจาะเฉยเฉย ๑๕๔."เวทนา"ปัจจัย.......รู้สึกเกิดไซร้.......ในกามคุณเอ่ย เพลิดเพลินรูป,รส....คิดจดเพิ่มเอ่ย....."อยาก,ตัณหา"เกย....ร่วมเกิดเร็วพาน ๑๕๕.เพราะ"ตัณหา"สิปัจจัย............................ภวไซร้"อุปาทาน" ได้สิ่งซิครบก็ธุวขาน...........................................เจาะยึดมั่นวะของตน ๑๕๖.เหตุ"อุปาทาน"........ยึดทุกสิ่งกราน.......ก่อ"ภพ"เกิดดล ยึดติดเหล่านี้....ก็ชี้เวียนวน....สังสารวัฏผล....มีภพหน้าแล ๑๕๗.เพราะภพหน้าอุบัติยาตร...........................ภว"ชาติ"เกาะเกี่ยวแน่ เจต์นาและจิตลุขณะแฉ.......................................ณ ภพนี้จะไปไกล ๑๕๘."ชาติ"เป็นเหตุนา.......ชรา,ตายมีหนา........กฏธรรมชาติไข "ธัมมัฏฯ"ตั้งจด....กฏ"ธัมม์นิฯ"ไว...."อิทัปปัจจ์ฯ"ไซร้....เกิดด้วยเหตุแล ๑๕๙.เจาะสาม"สัมปยุตต์ฯ"กิจ..........................เพราะ"อวิชช์ฯ"มิรู้แท้ ความจริงประเสริฐอริยะแล้..................................ลุ"สังขาร"ซิกรรมหลาย ๑๖๐."สังขาร"ปัจจัย.........เกิด"วิญญาณ"ไซร้.......ด้วยสังขารฉาย ทำกรรมชั่ว,ดี....ชี้"จิต"รับกราย....ปฏิสนธิ์วิญญ์ฯพราย....เกิดภพหน้าดล |
||
|
2
คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 03:18:02 PM
|
||
| เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
|
(ต่อหน้า ๖/๑๘) : ๑๓. วิภังค์ : ปัจจยาการวิภังค์ ๑๑๕.เพราะ"เวท์นา"สิสาเหตุ...........................วสะเจตน์เจาะตัณหา รู้สึกรตีซิพหุกล้า................................................ลุตัณหาเพราะเวท์นา ๑๑๖."ตัณหา,อยาก"ฉาน........ยิ่งแสวงหาพาน.......ได้แล้วชอบหนา จึงเกิดยึดมั่น....ดั้น"อุปาฯ"กล้า....เพราะมีตัณหา...."อยาก"เป็นเหตุนำ ๑๑๗."อุปาทาน"สิเหตุจบ.................................ภว"ภพ"อุบัติพร่ำ ยึดติดอุปาฯและจะกระทำ...................................ซิกรรมหลายเจาะ"ภพ"วน ๑๑๘."ภพ"ที่อาศัย.......สัตว์ทำกรรมไซร้........ดี,ชั่วบ้างผล ตายแล้วจึงไป....ภพใหม่ต่างยล....ภพปัจจัยด้น...."ชาติ"เกิดจึงมี ๑๑๙.เพราะ"ชาติ"เหตุชราล้า...........................มรณาซิแน่ชี้ มีเกิดก็ต้องชิระฉะนี้............................................มฤตตามเผชิญหนา ๑๒๐.เหตุจตุกกะ.........มีสี่ตอนปะ.......เริ่ม"อวิชชา" ความไม่รู้จริง....ยิ่งอริย์สัจจ์กล้า....เกิดปรุงแต่งพา....เหตุ"สังขาร"แล ๑๒๑.เพราะ"สังขาร"สิก่อผล.............................อกุศล,กุศลแน่ "วิญญาณ"ปฐมก็ภวแน่.........................................อุบัติเด่นเพราะสังขาร ๑๒๒."วิญญาณ"เหตุดั้น.......รูปขันธ์,นามขันธ์........ให้บังเกิดพาน "นามรูป"เหตุมี....ชี้เพราะวิญญาณ....วิญญาณเกิดกราน....เพราะนามรูปพรู ๑๒๓.เพราะ"นามรูป"สินำมา...............................เจาะ"สฬายะฯ"ตา,หู.. แต่เกิดและรู้ลุภวกรู..............................................กระทำงานลุล่วงหนา ๑๒๔.ทางติดต่อสม.......รูป,ธรรมารมณ์.......ประสานงานพา เกิดวิญญาณครบ....รู้จบสิ่งคว้า.....นามรูปนี้นา....ก่อสฬายะฯแล ๑๒๕.เพราะ"อายาตะฯ"ที่หก..............................มนะปรกก็ใจแฉ ก่อผัสสะ,"อายาตะฯ"แล้........................................ซิใน-นอกกระทบหนา ๑๒๖.วิญญาณทางใจ........เกิดรู้สึกไซร้.......สุข,ทุกข์,เฉยมา มนายตนะ....ปะปัจจัยกล้า....เกิดกระทบพา....เหตุผัสสะเอย ๑๒๗.เพราะมีผัสสะเหตุคุม.................................จะประชุมสิสามเอ่ย ด้วยอายะฯในและพหิเผย.....................................กะวิญญาณลุเวท์นา ๑๒๘.กระทบสามสิ่ง.......พลันรู้เวท์นาจริง........สุขเวทนาหนา ทุกข์เวท์นาเอย....เผยอุเบกขา....เรียกเวท์นาว่า....ผล"ผัสสะ"มี ๑๒๙.เพราะเวทนาสิรู้สึก..................................สตินึกและยินดี เกิด"อยาก"จิรังลุฐิติชี้..........................................เจาะ"ตัณหา"เพราะเวท์นา ๑๓๐."ตัณหา"คิดอยาก........."อุปาทาน"มาก.......ยึดเพราะอยากพา สิ่งนั้นของเรา....เฝ้ายึดทุกข์มา...."อยาก"เหตุยึดหนา....เกิดอุปาทาน ๑๓๑."อุปาทาน"สิยึดมั่น.....................................ภวดั้นซิ"ภพ"พาน กอปรกรรมซิมายเจาะพละขาน.............................จะก่อภพอุบัติตาม ๑๓๒."ภพ"เป็นปัจจัย.......จิตครานี้ไซร้........ยึดมั่นตนลาม เร่าร้อนเป็นทุกข์....เหตุรุกเกิดความ....คือ"ชาติ"แน่ผลาม....ในภพต่อไป ๑๓๓.เพราะ"ชาติ"แน่วสิเกิดหนา........................ก็ชรา,มฤตไว เศร้าโศกพิไรปกติไซร้..........................................เพราะเป็นธรรมชาติแล ๑๓๔.สัมปยุตต์ฯแจก.......ตอนที่หนึ่งแตก.......ความไม่รู้แฉ คือ"อวิชชา"....เหตุพาเกิดแท้.....สังขารปรุงแน่....กาย,วาจา,ใจ ๑๓๕.กระทำผิดมิรู้จริง......................................มทะดิ่งและยึดไว้ สังขารประภพก็เพราะหทัย...................................ประกอบด้วยอวิชชา ๑๓๖."สังขาร"ปัจจัย........เหตุวิญญาณไซร้.......ร่วมสังขารหนา อภิสังขาร....กรานดี,ชั่วมา....ผลกรรมส่งพา....วิญญาณเกิดพาน ๑๓๗.ณ ภพหน้าเพราะ"ปรุง"ดล.........................ปฏิสนธิวิญญาณ วิญญาณสิเกิดภวประสาน....................................กะสังขารซิแท้เทียว |
||
|
3
เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 02:49:08 PM
|
||
| เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล | ||
|
|
||
|
4
คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 07:54:45 AM
|
||
| เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
|
(ต่อหน้า ๕/๑๘) : ๑๓. วิภังค์ : ปัจจยาการวิภังค์ ๙๒."ตัณหา"เหตุเอย.......อยากหลายสิ่งเผย........ยึดของตนคว้า เรียก"อุปาทาน"....พานเหตุตัณหา....อุปาฯมีกล้า....จากตัณหากราน ๙๓.เพราะ"อุปาฯ"สิเหตุจบ.................................ภว"ภพ"ลุมีขาน จิตยึดอะไรก็นิรมาณ............................................ซิภพภูมิและเวียนวน ๙๔.เพราะ"ภพ"เป็นปัจจัย.......เช่นสัตว์เกิดไซร้.......ในกามภพยล มียึดถือมั่น....ครันต้องเกิดดล.....ภพเป็นเหตุผล...."ชาติ"จึงมีตาม ๙๕.เพราะมี"ชาติ"สิเหตุหนา..............................ก็ชราและตายผลาม ปัจจัย"อิทัปฯ"เจาะระบุลาม...................................จะต้องมีซิ"นี้"หนา ๙๖.เหตุจตุกกะ........อันที่สองปะ.......ไม่รู้"อวิชชา" "อวิชชา"เจือจาน...."สังขาร"ปรุงมา....เพราะไม่รู้นา....ปรุงสังขารมาย ๙๗.เพราะ"สังขาร"สิปรุงแต่ง..............................มนะแจ้งซิรู้หลาย วิญญาณก็คือหทยะฉาย.......................................จะเกิดมีเพราะสังขาร ๙๘."วิญญาณ"รับรู้.......ก่อให้"นาม"ชู........สุข,ทุกข์รู้พาน เจตนา,จำบ่ม....อารมณ์มีผ่าน....รู้ได้ด้วยทวาร....ตา..ใจนั้นแล ๙๙.เพราะ"นาม,เจตสิก"มุ่ง................................ภวปรุงซิเกิดแน่ เกิดผัสสะทางหทยะแฉ........................................ฉะนี้ผัสสะเหตุนาม ๑๐๐."ผัสสะ"ปัจจัย.........นำก่อเหตุให้.......เกิด"เวทนา"ผลาม สิ่งสามต่างหนา...."ตา"เห็น"รูป"ลาม...."จักขุวิญญ์ฯ"ตาม....จึงรู้เวทนา ๑๐๑.เพราะ"เวท์นา"เจาะรู้ใด..............................รติไซร้ลุ"ตัณหา" เวท์นามิมีก็นิรหนา................................................สิตัณหาอะไรเลย ๑๐๒."ตัณหา"ปัจจัย......."อุปาทาน"ไซร้........เกิดด้วย"อยาก"เผย ได้แล้วชอบใจ....ยึดไว้พลันเอย....ยึดอุปาฯเอ่ย....เหตุตัณหาแล ๑๐๓."อุปาทาน"สิยึดมั่น....................................จะลุสรรค์ซิ"ภพ"แฉ เหตุยึดมุภพลุภวแน่..............................................เหมาะเหมือนกับสภาพตน ๑๐๔."ภพ"เป็นปัจจัย......."ชาติ"จึงมีได้.......เมื่อยึดภพดล ยึดมั่นสิ่งหวัง....ที่ตั้งภพยล.....ภายภาคหน้าผล....จึงต้องเกิดเวียน ๑๐๕.เพราะ"ชาติ"เป็นสิเหตุหนา........................ลุชราและตายเถียร เกิดแล้วก็เป็นปกติเปลี่ยน.....................................สภาพธรรมชาติเอย ๑๐๖.เหตุจตุกกะ........ตอนที่สามปะ.......ปฏิจจ์สมุปฯเผย เริ่มเหตุ"อวิชชา"....หารู้จริงเอ่ย....อริยสัจจ์ฯเชย...."สังขาร,ปรุง"ยล ๑๐๗.เพราะสังขารสิเหตุชิน...............................ภววิญญ์ฯซิเกิดดล สังขารเจาะก่อลุ"ปฏิสนธิ์".....................................จะเกิดมา ณ ภพหน้า ๑๐๘.เมื่อเกิดมาแล้ว.......สังขารปรุงแน่ว........"วิถีวิญญ์ฯมา เกิดวิญญาณหก....ปรก"จักขุฯ"หนา...."โสตวิญญาณ"กล้า....และมโนวิญญาณ ๑๐๙.เพราะ"วิญญาณ"สิเหตุผลาม.....................ภว"นามและรูป"พาน วิญญาณริก่อลุนิรมาณ..........................................ซินามขันธ์และรูปขันธ์ ๑๑๐.นามขันธ์สี่หนา.........เวทนา,สัญญา.......สังขาร,วิญญ์ฯครัน รูปขันธ์คือกาย....ฝ่ายวิญญ์ฯเวียนดั้น....ใกล้นามรูปพลัน....จึงเกิดตายวน ๑๑๑.เพราะ"นามรูป"สิเหตุหนา............................ก็"มนายะฯ"ใจผล นามรูปประกอบหทยะท้น.......................................เจาะเป็นเหตุ"มโน"เผย ๑๑๒."อายะฯที่หก".......เป็นปัจจัยปก.......ของ"ผัสสะ"เอย "ผัสสะ"เกิดไซร้....อาศัยมโนเอ่ย....จิตแหล่งเกิดเกย...."ผัสสะ"จึงมี ๑๑๓.เพราะมี"ผัสสะ"เตร็ดเตร่............................ภว"เวทนาคลี่ เมื่อเกิดแตะอายตนะชี้...........................................ซิสามสิ่งประชุมแล ๑๑๔.สามสิ่งอายะฯ.......ทั้งใน-นอกปะ.......และวิญญาณแฉ เกิดผัสสะแน่ว....รู้แคล่วสุขแน่.....รู้ทุกข์,เฉยแล้....คือเวทนา |
||
|
5
เมื่อ: 21, พฤศจิกายน, 2568, 08:43:30 PM
|
||
| เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย ขวัญฤทัย (กุ้งนา) | ||
|
ปูโดนอัดจนแบนเน้นราคา ขายแพงได้ไหมนาบอกมาเลย ![]() |
||
|
6
เมื่อ: 21, พฤศจิกายน, 2568, 08:30:19 PM
|
||
| เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล | ||
![]() วันนี้....เดินแกร่วแอ่วพะเยา ในช่วงเช้าถึงบ่ายร่างกายอ่อน ยืนถ่ายรูปท้าแสงแดดแรงร้อน ตะวันย้อนแยงกล้องต้องโทษใคร ღ ღ ღ ღ ณ กว๊านพะเยา จ.พะเยา ในวันนี้ค่ะ ไปรับน้องกูเกิลที่ มหาวิทยาลัยพะเยาปิ๊กบ้าน เนื่องจากหยุดเรียน เสาร์ อาทิตย์ เลยแวะซื้อไอติมกะทิที่กว๊านพะเยา กินเสร็จก็ถ่ายภาพกันหน่อยเนาะ แต่ถ่ายย้อนแสงยามบ่าย ภาพออกมาก็อย่างเห็นนี่แหละค่ะ ![]() |
||
|
7
เมื่อ: 21, พฤศจิกายน, 2568, 05:08:23 PM
|
||
| เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล | ||
|
ขอบคุณป้า ลุง ทุกคนเลยจ้าา รอลุ้นว่า โตขึ้นเขาจะชอบงานเขียนกลอนไหมน่อ แต่ทุกวันนี้ เขาเห็นเรานั่งอ่านกลอน เขาจะมาดู แล้วพูดว่า อันนี้คือกลอน ปากกานี้ไว้เขียนกลอน พูดเหมือนนกแก้ว นกขุนทอง พูดเยอะค่ะ วัน ๆ หูชา ![]() |
||
|
8
เมื่อ: 21, พฤศจิกายน, 2568, 05:05:38 PM
|
||
| เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล | ||
|
เขาเป็นแมวสายโหด กัดลูกเดียว คงอีกนาน กว่าเขาจะนั่งนิ่งได้เหมือนพี่ ๆ ไข่ อ่ะจ้า บางที ลืมไปเลยว่าเขาเป็นผู้หญิง แง่วว ![]() |
||
|
9
คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
เมื่อ: 21, พฤศจิกายน, 2568, 03:10:28 PM
|
||
| เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
|
(ต่อหน้า ๔/๑๘) : ๑๓. วิภังค์ : ปัจจยาการวิภังค์
๖๙.เพราะ"เวท์นา"สิปัจจัย..................................หิตะไวกะ"ตัณหา" รู้แล้วก็"อยาก"ริวสะหนา........................................ซิมากขึ้นตลอดกาล ๗๐.มี"ตัณหา"แล้ว.........เป็นปัจจัยแน่ว.......เกิด"อุปาทาน" อุปาฯปัจจัย....ทำให้เกิดผ่าน....ณ ภพหน้าพาน....เวียนเช่นนี้แล ๗๑.เพราะ"ภพ"เน้นสิหนุนชัด..............................เจาะอุบัติซิ"ชาติ"แท้ "ชาติ"มี"ชรา,มรณะแน่...........................................ก็ตามพลันเกาะทุกข์ผอง ๗๒."ปัจจ์ยะฯตอนสาม.......แจกแจงสัตว์ตาม........เกิดในครรภ์ครอง "อวิชชา"หนา....หารู้จริงคล่อง....อริย์สัจสี่ตรอง...."สังขาร"มีกราน ๗๓.เพราะ"สังขาร"สิปรุงแต่ง..............................หิตะแจ้งลุ"วิญญาณ" "วิญญาณ"จะก่อลุภวพาน......................................และ"นามรูป"เจาะนาม,กาย ๗๔."นามรูป"ปัจจัย......."อายตนะ"ไว.......คือ"มโน"เกิดฉาย "อายตนะหก"....ปรกปัจจัยกราย.....เกิด"ผัสสะ"พราย....เริ่มกระทบพา ๗๕.เพราะมี"ผัสสะ"ปัจจัย..................................ภวไวลุ"เวท์นา" "เวท์นา"สิหนุนตริวสะกล้า.....................................ซิ"ตัณหา"เจาะมากหลาย ๗๖."ตัณหา"ปัจจัย........"อุปาทาน"ไซร้.......เกิดยึดมั่นกราย มี"อุปาทาน"....พานยึดสิ่งพราย....เป็นของตนหมาย...."ภพ"หน้ามีครา ๗๗.เพราะ"ภพ"หนุนสิเด่นชัด..............................เจาะอุบัติซิ"ชาติ"หนา "ชาติ"เริ่ม"ชรา,มรณะ"มา......................................ซิตามพร้อมปะทุกข์ผอง ๗๘.ปัจจ์ยะฯตอนสี่.......แจกแจงสัตว์คลี่........"โอปปาติฯ"ครอง เริ่ม"อวิชชา"....พาไม่รู้ถ่อง....อริยสัจส่อง...."สังขาร"มีพาน ๗๙.เพราะ"สังขาร"สิปรุงแต่ง.............................ตริแจรงลุ"วิญญาณ" "วิญญาณ"ซิเกื้อเจาะประสาน...............................มุ"นามรูป"อุบัติมี ๘๐."นามรูป"ปัจจัย........."สฬาย์ตนะ"ไว.......ทวาร,ตา..ใจคลี่ เพราะ"สฬาย์ตนะ"....เกิดประภพชี้....ผัสสะรู้รี่....เกิดกระทบมา ๘๑.เพราะมี"ผัสสะ"ปัจจัย..................................ภวไซร้ลุ"เวท์นา" เวท์นาสิเอื้อเกาะวสะคว้า......................................ซิ"ตัณหา"รตีเผย ๘๒."ตัณหา"ปัจจัย......."อุปาทาน"ไว......ก่อเกิดตามเอย มี"อุปาทาน"....ไม่รานเลิกเลย....มั่นทุกสิ่งเปรย...."ภพ"หน้ามีแล ๘๓.เพราะ"ภพ"เป็นสิปัจจัย................................ฐิติไซร้ลุ"ชาติ"แน่ "ชาติ"หนุน"ชรา,มรณะ"แท้....................................และตามพร้อมเจาะทุกข์หลาย ๘๔."เหตุจตุกกะ".......เหตุสี่ตอนปะ.......วนวัฏฏะปลาย เหตุตอนหนึ่งชิด...."อวิชชา"หนุนกราย.....ให้"สังขาร"ผาย....ปรุงดี,ชั่วกราน ๘๕.เพราะ"สังขาร"สิเริ่มดล................................ปฏิสนธิวิญญาณ คราจิตอุบัติและระยะพาน....................................ซิหลังเกิดมนุษย์ หนา ๘๖.สังขารปรุงปก........รู้ผ่านทวารหก.......จักขุวิญญ์ฯกล้า โสตวิญญ์ฯ,ฆานวิญญ์ฯ....มีลิ้น,ชิวหาฯ....กายวิญญาณมา....มโนวิญญ ฯเอย ๘๗.เพราะ"วิญญาณ"สิเหตุผลาม......................ภว"นาม"ซิมีเอ่ย วิญญาณก็คือหทยะเผย.....................................ซิ"นาม,เจตสิก"แล ๘๘."วิญญาณ"กับ"นาม".......เป็นเหตุเด่นตาม........อยู่ชิดกันแน่ เวียนและวนไป....เหมือนไซร้"จิต"แท้....กับ"เจตสิก"แล้....เกิดพร้อมกันเลย ๘๙.เพราะ"นาม,เจตสิก"หนา............................หิตะ"อายะฯหก"เอ่ย ด้วยอายะฯคือหทยะเผย.....................................จะมี"เจตสิก,นาม" ๙๐.อายะฯที่หก.........คือ"มโน"ปก.......เป็นปัจจัยผลาม กับ"ผัสสะ"ชี้....ถ้ามี"มโน"ลาม....เกิดกระทบตาม....ผัสสะมีพลัน ๙๑.เพราะมี"ผัสสะ"เหตุเตร่...............................ภว"เวทนา"สรรค์ เวท์นาสิหนุนริวสะดั้น..........................................ลุ"ตัณหา"ซิมากหนา |
||
|
10
เมื่อ: 21, พฤศจิกายน, 2568, 02:11:49 PM
|
||
| เริ่มโดย กรกช - กระทู้ล่าสุด โดย กรกช | ||





