Username:

Password:


  • บ้านกลอนน้อยฯ
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล >> กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
หน้า: [1] 2 3 ... 10
 1 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
 เมื่อ: วันนี้ เวลา 05:32:51 AM 
เริ่มโดย คนเรียนไพร - กระทู้ล่าสุด โดย คนเรียนไพร
 

ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดย คนเรียนไพร

อริราชของชาติไทย

     เพราะสร้างบาป ทำกรรม อันใดไว้
ลูกหลานไทย จึงโชคร้าย เป็นหนักหนา
อริราช รุกราน ชาวประชา
ช้ำอุรา เดือดร้อน อ่อนอกใจ
     เนรคุณ อวดเบ่ง เก่งแว้งกัด
คอยประหัต เสแสร้ง สร้างเงื่อนไข
เพียงพลั้งเผลอ สร้างกรรม ทำบรรลัย
ประชาไทย ต้องขื่นขม ตรมน้ำตา
     สืบเชื้อสาย สันดาน พระยาละแวก
สร้างแตกแยก ในสายเลือด ทุกเคหา
ผู้นำเขมร กระทำชั่ว ทั่วพารา
ยากจักหา ความสงบ มาทดแทน
     ไม่เคยมี ชนชาติใด เลวร้ายเท่า
สร้างความเศร้า ทั่วไทย ไว้เหลือแสน
หวังสันติ สุขสม ทั่วดินแดน
ไว้ทดแทน ความขัดแย้ง แห่งมวลชน

คนเรียนไพร
๙ ธันวาคม ๒๕๖๘

 2 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: ประมวลธรรม: ๘.เกวัฏฏสูตร
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 07:15:33 PM 
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร

(ต่อหน้า ๕/๑๐) ประมวลธรรม : ๖๐. มหาเวทัลลสูตร


   ๖๕."เจโตวิมุตติ"มิเจาะรุด....................ก็พระพุทธะกล่าวพจี
เหนือ"อัปปมาฯลุหินะปรี่.........................ผิวะจ่อลุพรหมวิหาร

    ๖๖.พาน"อัปปมาฯ"เปี่ยมท้น................พรหมแล
"กรุณ"เยี่ยม"เมตตา"แฉ..........................โลกหล้า
"ยินดี"ยิ่งมิแปร.......................................ใจว่าง อุเบกขา
กำเริบอาจมีกล้า.....................................โกรธย้ำ,โลภ,หลง

    ๖๗."เจโตวิมุตติฯ"ลิกิเลส......................ก็ประเภทซิโลภพะวง
โกรธ,หลงลิหมดหทยะปลง......................ดุจะ"ตาล"ทลายและผลาญ

    ๖๘.ชาญ"เจโตฯ"ก่อไซร้.......................เลิศเหนือ "อากิญฯ"
เพราะว่างกิเลสเครือ................................นิมิตคล้อย
โลภ,หลง,โกรธ"มิเจือ...............................ปนต่อ อีกเลย
มิเกิดอีกเลยช้อย.....................................หลุดพ้นถาวร

    ๖๙."เจโตวิมุตติ"มหะกิจ........................"อนิมิตฯ"ซิด้อยและทอน
เจโตฯสิเหนือเพราะนิรคลอน....................มละ"ราคะ,โทสะ,หลง

    ๗๐."สารีฯ"คงกล่าวแล้ว........................."อรรถธรรม" เดียวกัน
สอนต่างปัญญานำ....................................เก่งรู้
"พระะมหาโกฏฐิฯจำ..................................ชมชื่น
ภาษิต"สารีฯ"กู้..........................................แจ่มแจ้งจริงหนา ฯ|ะ

แสงประภัสสร

มจร. ๓. มหาเวทัลลสูตร : พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๔ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ https://share.google/BYwVP8yuyu6LlrrIc

เชตวันฯ= วัดเชตวันมหาวิหาร เป็นอารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี มหาเศรษฐีแห่งเมืองสาวัตถี ตั้งอยู่ที่สวนเจ้าเชต นอกเมืองสาวัตถี ซึ่งอนาถบิณฑิกเศรษฐีซื้อถวาย ด้วยเงินมากถึง ๑๘ โกฏิ วัดแห่งนี้นับว่าเป็นวัดและที่มั่นสำคัญในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาล และเป็นวัดที่พระพุทธเจ้าประทับจำพรรษามากที่สุดถึง ๑๙ พรรษา เป็นสถานที่เกิดเรื่องราวต่าง ๆ ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนามากมาย
พระมหาโกฏฐิกเถระ = เอตทัคคะในทางผู้แตกฉานในปฏิสัมภิทา ๔ ได้แก่
(๑) อัตถปฏิสัมภิทา - ปัญญาแตกฉานในอรรถ (๒) ธัมมปฏิสัมภิทา - ปัญญาแตกฉานในธรรม (๓) นิรุตติปฏิสัมภิทา - ปัญญาแตกฉานในนิรุตติ (๔) ปฏิภาณปฏิสัมภิทา - ปัญญาแตกฉานในปฏิภาณ
พระสาริบุตร = พระอัครสาวกเบื้องขวา ของพระโคดมพุทธเจ้า เป็นเอตทัคคะ ผู้เลิศด้วยปัญญา
[ก] ปัญญากับวิญญาณ
พระมหาโกฏฐิกะ ถามคำถามกับพระสารีบุตร หลายเรื่องว่า
(๑) เพราะเหตุไรหนอแล จึงเรียกว่า ‘ผู้มีปัญญาทราม'
ตอบว่า -> บุคคลไม่รู้ชัด เหตุนั้นจึงเรียกว่า ‘ผู้มีปัญญาทราม’ ไม่รู้ชัดอะไร คือ ไม่รู้ชัดว่า ‘นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา’ ตามความเป็นจริง
~คำว่า เพราะเหตุไรหนอแล แปลจากคำว่า “กิตฺตาวตา นุ โข” เป็นคำถามหาเหตุ แท้จริงการถามนั้นมี ๕ อย่าง คือ (๑.๑) อทิฏฐโชตนาปุจฉา - การถามให้แสดงเรื่องที่ตนไม่เคยเห็นไม่เคยรู้มาก่อน (๑.๒) ทิฏฐสังสันทนาปุจฉา - การถามให้ชี้แจงเรื่องที่เคยทราบมาแล้ว เพื่อเทียบกันดูกับเรื่องที่ตนรู้มา (๑.๓) วิมติเฉทนาปุจฉา - การถามเพื่อให้คลายความสงสัย (๑.๔) อนุมติปุจฉา - การถามเพื่อให้มีความคิดเห็นคล้อยตาม (๑.๕) กเถตุกามยตาปุจฉา - การถามเพื่อมุ่งจะกล่าวชี้แจงต่อ เป็นลักษณะของการถามเอง ตอบเอง
ในที่นี้พระมหาโกฏฐิกะ ถามในลักษณะของทิฏฐสังสันทนาปุจฉา
(๒) บุคคลที่เรียกว่า ‘ผู้มีปัญญา  เพราะเหตุไรหนอแลจึงเรียกว่า ‘ผู้มีปัญญา’
ตอบว่า -> บุคคลรู้ชัด เหตุนั้น จึงเรียกว่า ‘ผู้มีปัญญา’ บุคคลรู้ชัดอะไร คือ รู้ชัดว่า ‘นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา’
(๓) สภาวะที่เรียกว่า ‘วิญญาณ’ เพราะเหตุไรหนอแล จึงเรียกว่า
‘วิญญาณ”
ตอบว่า -> สภาวะรู้แจ้ง เหตุนั้น จึงเรียกว่า ‘วิญญาณ’ สภาวะรู้แจ้งอะไร คือ รู้แจ้งสุขบ้าง รู้แจ้งทุกข์บ้าง รู้แจ้ง อทุกขมสุขบ้าง
(๔) ข้อถามมี ๓ นัย
(๔.๑) "ปัญญาและวิญญาณ ๒ ประการนี้ รวมกัน หรือแยกกัน และสามารถแยกแยะ บัญญัติหน้าที่ต่างกันได้หรือไม่” หรือ
(๔.๒) “ปัญญาและวิญญาณ ๒ ประการนี้ รวมกัน ไม่แยกกัน และไม่สามารถแยกแยะบัญญัติหน้าที่ต่างกันได้ เพราะปัญญารู้ชัดสิ่งใด วิญญาณก็รู้แจ้งสิ่งนั้น วิญญาณรู้แจ้งสิ่งใด ปัญญาก็รู้ชัดสิ่งนั้น เหตุนั้นธรรม ๒ ประการนี้ จึงรวมกัน ไม่แยกกัน และไม่สามารถแยกแยะบัญญัติหน้าที่ต่างกันได้” หรือ

 3 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / โคลง-กาพย์-ฉันท์-ร่าย-ลิลิต / Re: ...-๐ นานาเครื่องจิ้มไทย จัดสำรับ กาพย์ห่อโคลง ๐-...
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 07:01:40 PM 
เริ่มโดย Black Sword - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword

ขอบคุณรูปภาพต้นแบบจาก Internet

-๐ น้ำพริกปลาดุกฟู ๐-

    ๏   น้ำพริกปลาดุกฟู         รสชมชูชื่นอุรา
ผักแนมแซมสรรหาฟ่องฟูจิตชิดชูใจ
 
๏   รสล้ำโลมอกให้ชมชู
น้ำพริกปลาดุกฟูแจ่มจ้าน
แนมผักจัดแจงดูตามเหมาะ
เกินจิตเกินใจต้านฟ่องฟื้นใจฟู ๚ะ๛
- Black Sword -
(หมู มยุรธุชบูรพา)

• กลับสู่สารบัญ นานาเครื่องจิ้มไทย จัดไว้ในกาพย์ห่อโคลง คลิก



 4 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ..ขอบาทเดียว..
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 06:58:26 PM 
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword

ให้ลัดคิวก่อนนะอย่าโยกโย้     อพิโถคนไทยนั้นใจดี
 

 5 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: ประมวลธรรม: ๘.เกวัฏฏสูตร
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 09:45:22 AM 
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร

(ต่อหน้า ๔/๑๐) ประมวลธรรม : ๖๐. มหาเวทัลลสูตร

   ๔๙.ผลสี่อุบัติเพราะละกิเลส.............ลุพิเศษซิมรรคคณา
"โสตติผลฯ"เสาะสกทาฯ.....................มุ"อนาฯ,อรหัตตผล"

   ๕๐.ดล"สุญญตาฯว่างแล้..................สูญหนา อารมณ์
พินิจนามรูปครา..................................เที่ยงไร้
จิตเลิกยึดเลยซา................................โลภ,โกรธ ราคะ
วิมุตต์เจโตไซร้...................................จึ่งพ้นเกิดเฉวียน

   ๕๑."เจโตวิมุตติอนิมิตฯ"...................จะมิติดซิภาพเสถียร
ธรรมมีเจาะ"เตรสะ"เหมาะเรียน...........มุวิปัสสนาเฉลียว

   ๕๒."อรูป"เปรียวมีสี่แท้......................ฌานมี อารมณ์
ภพ"อรูปพรหม"คงทวี...........................รูปไร้
จด"อากาศ"ฌานลี...............................มิสุด ขอบเขต
กำหนด"วิญญาณ"ไซร้.........................ไม่สิ้นไพศาล

   ๕๓."อากิญฯ"สิฌานนิรอะไร...............ประลุไซร้อะรมณ์มลาน
จึงมั่นลิอาสวะละผลาญ........................นิรวาณลุหมายประสงค์

   ๕๔.คง"เนวสัญฯ"สภาพแล้.................สัญญา มี,มิมี
มิกล่าวเรียกใดหนา..............................ถูกต้อง
วางจิตมั่นในสมาธิ์................................เป็นหนึ่ง
ธรรมอยู่เป็นสุขพร้อง...........................ยิ่งแล้วพระสงฆ์

   ๕๕.ธรรมมีสิ"อรรถ"ผิดุจะเหมือน........ภวเตือนซิต่างประจง
เหตุ"อรรถ,พยัญชนะ"จะบ่ง...................จะมิคล้ายก็มีซิหนา

    ๕๖.เหตุพาหลายจุ่งพร้อม.................."อัปปมา- เจโตฯ"
มีเมตตาทุกทิศพา..................................แผ่หล้า
"การุณ,มุทิตา".......................................อุเบกขา ทุกทิศ
เป็นมหัคค์ตะกล้า...................................ทั่วแคว้นเขตแดน

    ๕๗."อากิญวิมุตติฯ"เจาะริเป็น..............ภวเด่นอะไรซิแผน
อากิญฯลุจดเจาะนิรแทน........................ประลุฌานประเสริฐซิแฉ

    ๕๘.แล"สุญญาฯ"จิตพ้น......................ยึดตน
ทุกสิ่งมิมียล...........................................ว่างแท้
จิตจึงไม่ยึดตน.......................................เลิกมั่น หมดผอง
จึงห่างกิเลสแล้.......................................สงบพร้อมสุขใส

    ๕๙."เจโตวิมุตติอนิมิต"........................ภวกิจซิเป็นอะไร
สงฆ์ได้ลุด้วยมิมนะไซร้...........................กะนิมิตสิครองเฉลย

    ๖๐.เปรย"อนิมิตฯ"จิตพ้น.....................ภาพหาย
เพราะไม่นึกคิดกราย...............................ภาพแล้
จิตวางปล่อยภาพวาย..............................จึงสงบ เพราะสมาธิ์
พลอยดับเวทนาแท้..................................หลุดพ้นมิเชือน

    ๖๑.อาศัยสิเหตุพหุจะนำ......................กะพระธรรมลุ"อรรถ"เสมือน
หรือ"พยัญชนะ"เจาะเกลี่อน.....................ประลุพูดซิต่างคระไล

    ๖๒.ไวอาศัยเหตุแล้..............................ธรรมมี อรรถเดียว
พลางต่าง"คำวจี"......................................แค่นั้น
ธรรมอันลุ่มลึกทวี.....................................พูดเปลี่ยน สอนคน
มักเกี่ยว"ปัญญา"ดั้น.................................แม่นผู้ฟังสรรค์

    ๖๓.ตอบว่าสิ"ราคะ,มทะ"โผล่.................และเจาะ"โทสะ"ด้วยประจัญ
ผู้ตัดกิเลสพระอรหันต์...............................มละทิ้งลิสิ้นมิเหลือ

    ๖๔.ครัน"ตาล"เบือโค่นล้ม......................ถอนตอ รากราญ
เหลือแต่ผืนดินคลอ...................................เกิดไร้
กิเลสไป่เหลือหรอ.....................................จึงก่อ เจโตฯ
พลันไม่กำเริบไซร้.....................................หลุดพ้นสุขี

 6 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / ห้องนั่งเล่นพักผ่อน / ღ จดหมายน้อยถึง ปู่กด ค่ะ ღ
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 09:16:40 AM 
เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล




ღ จดหมายน้อย ღ

ขอเป็นเพื่อนไลน์ปู่ หนูเพิ่มแล้ว
(คำว่า "ปู่" พา "หนู"มา นะคะ หนูเปล่ามาเอง  )

https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=5309.msg61017#msg61017

 

ส่งถึง ปู่กด

ขอเป็นเพื่อนกับปู่หนูเพิ่มแล้ว
ส่งเสียงแว่วเอ่ยขาน รับกันหน่อย
เส้นชีวิตคนเก่าเขานั่งคอย
นามสาวน้อยนั่นแหละแตะหน้าจอ

ช่วยตรวจสอบไล่เลื่อนตรง"เพื่อนใหม่"
เปิดแอปไลน์ก่อนเน้อเจอไหมหนอ
เจอไม่เจอบอกหน่อยอย่าปล่อยรอ
เดี๋ยวหน้างออีกครั้งนั่งเสียใจ

รับเพื่อนก่อนตอนนี้มีเรื่องเล่า
วันฟ้าเหงาเรานั้นปลอบกันได้
วันที่ทุกข์หรือท้อก็มีใคร
อยู่เคียงใกล้เพียงปู่รู้หรือยัง

 
ลิตเติลเกิร์ล
อ๊ะๆๆ มีคนแอบอ่านจดหมายน้อยเรา  

✧・゚: *✧・゚:*


 7 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 06:09:47 AM 
เริ่มโดย คนเรียนไพร - กระทู้ล่าสุด โดย คนเรียนไพร
 

ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดย คนเรียนไพร

หนาวไพร

     เมื่อลมหนาว พัดกระหน่ำ ยามค่ำคืน
ต้องกล้ำกลืน ฝืนทน แสนหม่นหมอง
ในราวป่า ความโศกศัลย์ เข้าครอบครอง
ธรรมชาติ กู่ร้อง ก้องพงไพร
     เสียงหริ่งหรีด ระงม ครั่นครื้นเครง
เป็นบทเพลง แทรกสอด สุขสดใส
สัตว์วนา เริงร่า ด้วยเต็มใจ
แสนหลงใหล ในแดนดิน ถิ่นวนา
     แม้เหน็บหนาว ยะเยือกเย็น เช่นทุกวัน
สะท้านสั่น ยังสุขใจ เป็นหนักหนา
สัจธรรม นิเวศ สืบสานมา
กาลเวลา รักษาไว้ ไพรนิรันดร์
     ยามคิมหันต์ ไพรสัณฑ์ สั่นสะท้าน
สุขสคราญ เบิกบาน แสนสุขสันต์
ทุกชีวิต สานสมดุล ทั้งไพรวัน
อเนกอนันต์ คงมั่น จนวันตาย

คนเรียนไพร
๘ ธันวาคม ๒๕๖๘

 8 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: - เล่น..กลอนสักวา -
 เมื่อ: 07, ธันวาคม, 2568, 09:05:05 PM 
เริ่มโดย ลินดา - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล


สักวาอ่านกลอนครั้งก่อนเก่า
บทกลอนเศร้ากลอนโศกโลกเสมือน
กลอนประชดประชันสนั่นเรือน
กลอนของเพื่อนพาชื่นระรื่นใจ
คิดถึงวันเก่าเก่าสมัยก่อน
เคยเย้ากลอนหยอกกันสัมพันธ์ใกล้
อดีตย้ำยังจำทุกความนัย
คิดถึงกันบ้างไหมนะใจเอย

 
ลิตเติลเกิร์ล

 9 
 บ้านกลอนน้อย ลิตเติลเกิร์ล - มยุรธุชบูรพา / ห้องกลอน คุณอภินันท์ นาคเกษม / Re: - บันทึกไว้ ในบทเดียว -
 เมื่อ: 07, ธันวาคม, 2568, 08:36:52 PM 
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อยฯ - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล


วับวับจิตพิษใดไฉนหรือ
เหตุผลคือสิ่งใดใจเต้นถี่
ลางสังหรณ์ใดหนอขอบอกที
หรือจะมีเหตุร้าย..ตายทั้งเป็น



ลิตเติลเกิร์ล




 10 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: เล่นกลอนโยนคำ - เพื่อนโยนให้...เราโยนต่อ
 เมื่อ: 07, ธันวาคม, 2568, 08:25:01 PM 
เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล



ความฝัน / ประจักษ์

รักของเราที่แท้แค่ความฝัน
ยิ่งนานวันยิ่งลามสิ้นความหวาน
กว่าประจักษ์ความจริงสิ่งยาวนาน
ที่ร่วมผ่านกันมานั้น มันคือ...กรรม

 

ส่งต่อเจ้า

ละลาย / แพ้


หน้า: [1] 2 3 ... 10
Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.158 วินาที กับ 20 คำสั่ง
กำลังโหลด...