เคยเชื่อมาตลอดว่าการยอมคือทางออก และความอดทนคือเครื่องพิสูจน์ความจริงใจ จนกระทั่งความพยายามเหล่านั้น เริ่มกัดกินตัวตนของเราทีละน้อย... บางบทเรียนก็ไม่ได้สอนให้เราไปต่อ แต่สอนให้เราหยุดเดินในที่ที่ไม่มีใครมองเห็นค่า ถึงเวลาแล้วที่จะหยุดเขียนเรื่องราวของคนอื่นด้วยน้ำตาของเรา เพราะในวันที่หยดหมึกเริ่มไหลริน มันไม่ใช่แค่การระบายความเจ็บปวด แต่มันคือการ 'ขีดเส้นแบ่งเขต' ระหว่างความภักดีที่ผิดที่ กับศักดิ์ศรีที่ควรมีให้ตัวเอง เราไม่ได้ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เราแค่กำลังพาสิ่งที่มีค่าที่สุดกลับบ้าน และสิ่งนั้นคือ 'หัวใจของเราเอง' จากนี้ไป ความเงียบจะไม่ใช่การยอมจำนน แต่มันคือเสียงที่ดังที่สุดของการเริ่มต้นใหม่ ในพื้นที่ที่ความจริงใจไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือของใครอีกต่อไป ღ ลิตเติลเกิร์ล ღ |
|
1
เมื่อ: วันนี้ เวลา 02:21:47 PM
|
||
| เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล | ||
|
|
||
|
2
เมื่อ: วันนี้ เวลา 02:04:29 PM
|
|||
| เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล | |||
![]()
|
|||
|
3
เมื่อ: วันนี้ เวลา 08:39:13 AM
|
||
| เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
|
ประมวลธรรม : ๖๑. จูฬเวทัลลสูตร (ว่าด้วยการสนทนาธรรมที่ทำให้เกิดปัญญา สูตรเล็ก) พิบูลรัชนีฉันท์ ๑๔/โคลงสี่สุภาพ ๑.กราบพุทธโคดมครัน..........................พระอรหันต์พระสัมพุทธ์เจ้า ผู้ตรัสรู้เองเพรา.........................................อริยสัจลิดับทุกข์ผลาญ ๒.เป็นอาจารย์เทศน์ชี้.............................เมตตา ทรงสั่งสอนเราหนา.....................................แจ่มรู้ ชนหลายทราบธรรมพา...............................ตามแน่ว จึงล่วงอรหันต์จู้..........................................สุดสิ้น"เกิด"หนา ๓.คราหนึ่งพระพุทธ์เจ้ายั้ง.......................ลุศยะยัง"กลันทกฯ"นา มีภิกษุณี"ธัมม์นาฯ".....................................และคณะสงฆ์เกาะตามพุทธ์องค์ ๔.วิสาขะตรงมุ่งพร้อง.............................ธัมม์นาฯ สอบถาม ธรรมที่พุทธ์องค์ครา...................................กล่าวไว้ "สักกายะ"ความหนา...................................หมายว่า อะไร คำตอบ"อุปาฯ"ไซร้.....................................ยึดชี้เบญจขันธ์ ๕.ห้าอย่าง"อุปาทาน"เหตุ........................อภินิเวสก็ยึดถือมั่น "รูป,เวทนา,สัญญ์ฯ"ครัน..............................และภว"สังขะ,วิญญาณ"ไข ๖."สักสมุทัยฯ"แน่แท้..............................ก็คือ ตัณหา ความอยากกามสามถือ..............................เปี่ยมท้น "กามคุณ"ยิ่งมากลือ...................................หวังมุ่ง "ภพ"นา "วิภพ"มิมีดั้น..............................................เพ่งสิ้นภพเผย ๗."สักกายนิโรธ"คือดับ...........................มุสละลับซิ"ตัณหา"เอย ตัดทิ้งละกำหนัดเสย..................................ริผละ"วิราคะ"ไม่ติดผาย ๘."สักกายนิโรธ"แล้................................คือทาง ดับทุกข์ มรรคแปดคลายทุกข์ถาง...........................หมดแผ้ว "สัมมาทิฏฐิ"วาง........................................."สังกัปปะ" "วาจาชอบ,กระทำ"แกล้ว............................"ชีพช้อย",เพียร..ไข ๙.ที่ตั้ง"อุปาทานขันธ์"............................ปะดุจะดั้น"อุปาทาน"ไหม ไม่เป็นสิอันเดียวไซร้..................................ตะก็จะต่างซิเล็กน้อยหนา ๑๐.คราอุปาขันธ์ฯซึ่งกว้าง......................เหนือเผย อุปาทาน อุปาฯสี่ธรรมยึดเอย....................................แน่นแฟ้น กิเลส,โลภ,ทิฏฐิเกย....................................ในกลุ่ม สังขารขันธ์ ครันแต่สังขารฯแจ้น...................................หนึ่งแล้อุปาขันธ์ฯ ๑๑."สักทิฏฐิฯ"ยึดมั่นตน..........................เพราะภวผลอะไรบ่างครัน ผู้พลาดสดับธรรมสรร.................................มินิรพานอรีย์สงฆ์สอน ๑๒.มิจรพบคลาดแคล้ว...........................บุรุษเลอ คุณธรรม จึงพลาดคำแนะเออ.....................................ไม่รู้ ยึดขันธ์อ้ตตาเผลอ.....................................คิดว่า เป็นตน คิดร่างกายตนจู้..........................................เด่นแท้ของตน ๑๓."สักทิฏฐิฯ"ไม่มีคลี่..............................ประลุวิธีซิอย่างไรยล คือผู้สดับธรรมท้น.......................................อริยะสงฆ์แนะสั่งสอนหนา ๑๔.คราพบบุรุษล้ำ...................................พฤติธรรม มุเรียน มิคิดเบญจขันธ์หนำ.....................................เร่งห้า มิเป็นอัตตานำ.............................................ยึดว่า ของตน คิดถูกสักทิฏฐ์ฯล้า.......................................ไม่พร้อมเกิดเผย ๑๕.ทางดับลิทุกข์ตรงนัก..........................อริยะมรรคซิแปดถูกเอย "สัมทิฏฐิฯเห็นชอบ"เชย................................มนุตริ"สัมมะสังกัปป์ฯ"หนา ๑๖."สัมมาวาฯ"กล่าวพร้อง........................."กัมมันฯ ทำชอบ" "อาชีวะฯชีพ"ครัน.........................................ถูกแล้ว "วายามะฯเพียร"พลัน...................................."สติตรึก ระลึกชอบ" "สมาธิ์มั่นชอบ"จิตแผ้ว..................................มรรคนี้กิเลสผลาญ |
||
|
4
เมื่อ: วันนี้ เวลา 07:07:11 AM
|
||
| เริ่มโดย คนเรียนไพร - กระทู้ล่าสุด โดย คนเรียนไพร | ||
![]() ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดย คนเรียนไพร ก่อนฟ้าใหม่ ใกล้ถึงวัน ปีใหม่ ใจเปี่ยมสุข ความบันเทิง แสนสนุก สุดหรรษา ตลอดศก หลายเหตุการณ์ เคยผ่านมา บ้างสุขสม อุรา บ้างทุกข์ครอง ต้องสูญเสีย บุคคล เป็นที่รัก ราชภักดิ์ พระพันปี จิตเศร้าหมอง พระมารดา แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ไม่เป็นสอง รองใคร ในโลกา ปฐพี สั่นไหว ทั่วธานี ร้าวฤดี ก่อร่าง สร้างปัญหา อุทกภัย แดนใต้ ตรมน้ำตา หลายพารา ขื่นขม ตรมชีวัน แนวปะทะ ชายแดน สุดแสนเศร้า ใจปวดร้าว สงคราม ทรามมหันต์ อาชญากรรม สื่อสังคม สร้างจาบัลย์ แสนโศกศัลย์ เพราะมี อัปรีย์ชน กาลศกใหม่ ใกล้เข้ามา ในครานี้ ขอสิ่งดี บรรเจิด ให้เกิดผล ทั่วทิศา สุขศรี มีมงคล ทุกผู้คน พารา ทั้งธานี ให้ทหาร ผู้กล้า ปราศจากภัย รักษาไทย ให้เห็น เป็นเกียรติศรี กำลังใจ มอบไว้ เพื่อปฐพี แผ่นดินนี้ ไม่ยอมให้ ใครรุกราน คนเรียนไพร ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๘ |
||
|
5
เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 07:17:06 PM
|
||
| เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย ฝาตุ่ม | ||
|
เห็นยิ้มนี้ทีไรใจสั่นรัว อาจเผลอตัวเอนซบสบสายตา |
||
|
6
เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 05:58:26 PM
|
|||
| เริ่มโดย ลินดา - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword | |||
![]()
|
|||
|
7
เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 10:59:33 AM
|
|||
| เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล | |||
![]()
|
|||
|
8
เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 09:27:09 AM
|
|||
| เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล | |||
|
|||
|
9
คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 08:04:54 AM
|
||
| เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
|
(ต่อหน้า ๑๖/๑๖) อภิธรรมปิฎก : ๑๔.วิภังค์ : สติปัฏฐานวิภังค์ (๑๐) สติปัฏฐาน ๔ ไม่เป็นกามาวจร (๑๑) สติปัฏฐาน ๔ ไม่เป็นรูปาวจร (๑๒) สติปัฏฐาน ๔ ไม่เป็นอรูปาวจร (๑๓) สติปัฏฐาน ๔ ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ ~ วัฏฏทุกข์ = คือ ความทุกข์ที่เกิดจากการเวียนว่ายตายเกิดใน สังสารวัฏ อันเป็นวงจรที่ไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งเกิดจาก กิเลส (วัฏฏะ) ผลักดันให้เกิด กรรม (กรรมวัฏฏะ) และกรรมนั้นย่อมส่งผลเป็น วิบาก (วิบากวัฏฏะ) แล้ววิบากนั้นก็กลับไปเป็นเหตุของกิเลสต่อ วนเวียนเช่นนี้ไม่รู้จบจนกว่าจะดับตัณหาและกิเลสได้ ~ไตรวัฏฏ์ วัฏฏะ ๓, หรือวงจร ๓ ส่วนของปฏิจจสมุปบาทซึ่งหมุนเวียนสืบทอดต่อๆ กันไป ทำให้มีการเวียนว่ายตายเกิด หรือวงจรแห่งทุกข์ ได้แก่ (๑๓.๑) กิเลสวัฏฏ์ - ประกอบด้วยอวิชชา ตัณหา อุปาทาน (๑๓.๒) กรรมวัฏฏ์ - ประกอบด้วยสังขาร, ภพ (๑๓.๓) วิปากวัฏฏ์ - ประกอบด้วยวิญญาณ, นามรูป, สฬายตนะ, ผัสสะ, เวทนา, ชาติ, ชรามรณะ, โสกะ, ปริเทวะ, ทุกข์, โทมนัส, อุปายาส อาการหมุนวน หรือวงกลมอันหมุนวน ที่เรียกว่า ภวจักร สังสารจักร หรือสังสารวัฏ (๑๔) สติปัฏฐาน ๔ ที่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์ก็มี; ที่ไม่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์ก็มี (๑๕) สติปัฏฐาน ๔ ที่ให้ผลแน่นอนก็มี; ที่ให้ผลไม่แน่นอนก็มี (๑๖) สติปัฏฐาน ๔ ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า (๑๗) สติปัฏฐาน ๔ ไม่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ ปัญหาปุจฉกะ จบ สติปัฏฐานวิภังค์ จบบริบูรณ์ อานิสงส์ของ สติปัฏฐาน ๔ = สติปัฏฐาน เป็น “เอกายนมรรค” คือ เป็นทางไปทางเดียว เฉพาะบุคคล เพื่อให้ได้รับ อานิสงส์ ๕ ประการ จนถึงมรรคผลนิพพาน คือ (๑) สตฺตานํ วิสุทฺธิยา ~ เพื่อความบริสุทธิ์แห่งสัตว์ทั้งหลาย (๒) โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ~ เพื่อข้ามพ้นความโศก และความร่ำไร (๓) ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ~ เพื่อความดับสูญ แห่งทุกข์และโทมนัส (๔) ญายสฺส อธิคมาย ~ เพื่อบรรลุธรรมที่ควรรู้ (๕) นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ~ เพื่อทำนิพพานให้แจ้ง |
||
|
10
เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 06:58:30 AM
|
||
| เริ่มโดย คนเรียนไพร - กระทู้ล่าสุด โดย คนเรียนไพร | ||
|
ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดย คนเรียนไพร ไพรสัจจา อดีตกาล หอมหวน ชวนคิดถึง กาลครั้งหนึ่ง ซึ้งใจ ในไพรสณฑ์ กลางพนา ร่มรื่น ชื่นกมล สุขเหลือล้น พลพรรค รักษ์อรัญ ยามอรุณ ดวงตะวัน เยือนเยี่ยมฟ้า ท้องนภา สดใส ไร้ผกผัน มวลสัตว์ป่า พฤกษา นานาพันธุ์ แสนสุขสันต์ สร้างสมดุล เกื้อหนุนไพร หมู่มาลี หลากสี ละลานตา สกุณา บินว่อน สะท้อนไหว สารพัด สร้างชีวี ดีต่อใจ แสนละไม ในแดนดิน ถิ่นวนา ใต้ร่มไม้ ใบบัง ยังร่มรื่น สุขสดชื่น เกลื่อนไป ทุกสาขา พัฒนา ชีวิต เต็มชีวา รู้รักษา ผืนไพร ไว้นิรันดร์ คนเรียนไพร ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๘ |
||





