Username:

Password:


  • บ้านกลอนน้อยฯ
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล >> กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
หน้า: [1] 2 3 ... 10
 1 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
 เมื่อ: วันนี้ เวลา 05:57:19 AM 
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร

(ต่อหน้า ๑๔/๑๕) : ๑๒. อินทริยวิภังค์

(๑๑) อุปาทานโคจฉกวิสัชนา
(๑๑.๑) อินทรีย์ ๒๒ ~ ไม่เป็นอุปาทาน (๑๑.๒) อินทรีย์ ๑๐ ~ เป็นอารมณ์ของอุปาทาน (๑๑.๓) อินทรีย์ ๓ ~ ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน (๑๑.๔) อินทรีย์ ๙ ~ ที่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี; ที่ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี (๑๑.๕) อินทรีย์ ๑๖ ~ วิปปยุตจากอุปาทาน (๑๑.๖) อินทรีย์ ๖ ~ ที่สัมปยุตด้วยอุปาทานก็มี; ที่วิปปยุตจากอุปาทานก็มี (๑๑.๗) อินทรีย์ ๑๐ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอุปาทานและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน; หรือเป็นอารมณ์ของอุปาทานแต่ไม่เป็นอุปาทาน (๑๑.๘) อินทรีย์ ๓ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอุปาทานและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน; หรือเป็นอารมณ์ของอุปาทานแต่ไม่เป็นอุปาทาน (๑๑.๙) อินทรีย์ ๙ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอุปาทานและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน; ที่เป็นอารมณ์ของอุปาทานแต่ไม่เป็นอุปาทานก็มี (๑๑.๑๐) อินทรีย์ ๑๐ ~ ที่เป็นอารมณ์ของอุปาทานแต่ไม่เป็นอุปาทานก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่าเป็นอารมณ์ของอุปาทานแต่ไม่เป็นอุปาทานก็มี (๑๑.๑๑) อินทรีย์ ๑๖ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอุปาทานและสัมปยุตด้วยอุปาทาน; หรือสัมปยุตด้วยอุปาทานแต่ไม่เป็นอุปาทาน (๑๑.๑๒) อินทรีย์ ๖ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอุปาทานและสัมปยุตด้วยอุปาทาน; ที่สัมปยุตด้วยอุปาทานแต่ไม่เป็นอุปาทานก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่าสัมปยุตด้วยอุปาทานแต่ไม่เป็นอุปาทานก็มี (๑๑.๑๓) อินทรีย์ ๑๐ ~ วิปปยุตจากอุปาทานแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
(๑๑.๑๔) อินทรีย์ ๓ ~ วิปปยุตจากอุปาทานและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน (๑๑.๑๕) อินทรีย์ ๓ ~ ที่วิปปยุตจากอุปาทานแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี; ที่วิปปยุตจากอุปาทานและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี (๑๑.๑๖) อินทรีย์ ๖ ~ ที่วิปปยุตจากอุปาทานแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี; ที่วิปปยุตจากอุปาทานและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่าวิปปยุตจากอุปาทานแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน; หรือวิปปยุตจากอุปาทานและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี
(๑๒) กิเลสโคจฉกวิสัชนา
(๑๒.๑) อินทรีย์ ๒๒ ~ ไม่เป็นกิเลส (๑๒.๒) อินทรีย์ ๑๐ ~ เป็นอารมณ์ของกิเลส (๑๒.๓) อินทรีย์ ๓ ~ ไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส (๑๒.๔) อินทรีย์ ๙ ~ ที่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี; ที่ไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี (๑๒.๕) อินทรีย์ ๑๕ ~ กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง (๑๒.๖) โทมนัสสินทรีย์ ~ กิเลสทำให้เศร้าหมอง (๑๒.๗) อินทรีย์ ๖ ~ ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองก็มี; ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองก็มี (๑๒.๘) อินทรีย์ ๑๕ ~ วิปปยุตจากกิเลส (๑๒.๙) โทมนัสสินทรีย์ ~ สัมปยุตด้วยกิเลส (๑๒.๑๐) อินทรีย์ ๖ ~ ที่สัมปยุตด้วยกิเลสก็มี; ที่วิปปยุตจากกิเลสก็มี (๑๒.๑๑) อินทรีย์ ๑๐ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและเป็นอารมณ์ของกิเลส; หรือเป็นอารมณ์ของกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลส (๑๒.๑๒) อินทรีย์ ๓ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและเป็นอารมณ์ของกิเลส; หรือเป็นอารมณ์ของกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลส (๑๒.๑๓) อินทรีย์ ๙ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและเป็นอารมณ์ของกิเลส; ที่เป็นอารมณ์ของกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลสก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอารมณ์ของกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลสก็มี (๑๒.๑๔) อินทรีย์ ๑๕ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและกิเลสทำให้เศร้าหมอง; หรือกิเลสทำให้เศร้าหมองแต่ไม่เป็นกิเลส (๑๒.๑๕) โทมนัสสินทรีย์ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและกิเลสทำให้เศร้าหมอง; หรือกิเลสทำให้เศร้าหมองแต่ไม่เป็นกิเลส (๑๒.๑๖) อินทรีย์ ๖ ~ กล่าวไม่ได้ว่าเป็นกิเลสและกิเลสทำให้เศร้าหมอง; ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองแต่ไม่เป็นกิเลสก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า กิเลสทำให้เศร้าหมองแต่ไม่เป็นกิเลสก็มี (๑๒.๑๗) อินทรีย์ ๑๕ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลส; หรือสัมปยุตด้วยกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลส (๑๒.๑๘)โทมนัสสินทรีย์ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลส; หรือสัมปยุตด้วยกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลส (๑๒.๑๙) อินทรีย์ ๖ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลส; ที่สัมปยุตด้วยกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลสก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า สัมปยุตด้วยกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลสก็มี (๑๒.๒๐) อินทรีย์ ๙ ~ วิปปยุตจากกิเลสแต่เป็นอารมณ์ของกิเลส (๑๒.๒๑) อินทรีย์ ๓ ~ วิปปยุตจากกิเลสและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส (๑๒.๒๒)โทมนัสสินทรีย์ ~ กล่าวไม่ได้ว่า วิปปยุตจากกิเลส แต่เป็นอารมณ์ของกิเลส; หรือวิปปยุตจากกิเลสและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส (๑๒.๒๓) อินทรีย์ ๓ ~ ที่วิปปยุตจากกิเลสแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี; ที่วิปปยุตจากกิเลสและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี (๑๒.๒๔) อินทรีย์ ๖ ~ ที่วิปปยุตจากกิเลสแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี; ที่วิปปยุตจากกิเลสและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า วิปปยุตจากกิเลสแต่เป็นอารมณ์ของกิเลส; หรือวิปปยุตจากกิเลสและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี
(๑๓) ปิฏฐิทุกวิสัชนา
(๑๓.๑) อินทรีย์ ๑๕ ~ ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค (๑๓.๒) อินทรีย์ ๗ ~ ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี; ที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี (๑๓.๓) อินทรีย์ ๑๕ ~ไม่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ (๑๓.๔) อินทรีย์ ๗ ~ ที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี; ที่ไม่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี (๑๓.๕) อินทรีย์ ๑๕ ~ ไม่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค

 2 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 07:43:52 PM 
เริ่มโดย คนเรียนไพร - กระทู้ล่าสุด โดย คนเรียนไพร
 

ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดย คนเรียนไพร

ไพรงามยามเหมันต์

     เมื่อลมหนาว มาเยือน ชานเรือนเช้า
แดดเคยเผา ร้อนแรง กลับแปรผัน
หมู่เมฆา บดบัง ดวงตะวัน
ปลายวสันต์ ต้นเหมัน- ตฤดู
     หยาดพิรุณ ชุ่มชื่น รื่นไอดิน
ทุกชีวิน มากล้วน ชวนเลิศหรู
พันธุ์พฤกษ์ไม้ แตกใบ ล้วนพรั่งพรู
บุญอุ้มชู สัตว์ป่า นานาพันธุ์
     บรรยากาศ แสนสบาย ปลายวนา
งามสุดตา หมอกเมฆ ดุจเสกสรรค์
แม่คะนิ้ง เหมยขาบ รุ้งลาวัลย์
ดั่งสวรรค์ บนแดนดิน ถิ่นโลกา
     มวลบุปผา มาลี สีสวยสด
ไม่เคยลด ความงาม ตามประสา
ธรรมชาติ สรรค์สร้าง อร่ามตา
ทั่วอาณา ในแดนดิน ถิ่นขจี

คนเรียนไพร
๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๘

 3 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / ห้องนั่งเล่นพักผ่อน / Re: ๛ แนะนำน้องน้ำว้า สมาชิกใหม่บ้านกลอนน้อยเจ้า ๛
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 12:02:55 PM 
เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ขวัญฤทัย (กุ้งนา)


โตไวจังเลยจ้าหนูน้ำว้า
วัยกำลังเจรจาซินะ  ป้าคงหลงแน่ๆ เลย
ขนาดเราเห็นแค่ภาพยังยิ้มนิ 

 4 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ..ขอบาทเดียว..
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 12:00:20 PM 
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย ขวัญฤทัย (กุ้งนา)

โรตีบังเขาอร่อยอย่างน้อยลอง     แล้วจะต้องติดใจเพราะใส่นม 

 5 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ..ขอบาทเดียว..
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 11:58:43 AM 
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย ขวัญฤทัย (กุ้งนา)


เขาไม่ชอบโรตีหรือพี่เพื่อน      ไยจึงเลื่อนจอไปไม่เกี่ยวข้อง 

 6 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 07:32:15 AM 
เริ่มโดย คนเรียนไพร - กระทู้ล่าสุด โดย คนเรียนไพร
 

ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดย คนเรียนไพร

ความรัก

     สิ่งเล็กเล็ก ที่เรียก ว่าความรัก
แจ้งประจัก ยิ่งใหญ่ กว่าใดเหมือน
ประดับอยู่ กลางใจ ไม่ลืมเลือน
ไว้คอยเตือน ให้ตระหนัก รักด้วยใจ
     รักตัวตน สังคม คนข้างกาย
ทั้งหญิงชาย ร่วมเรียง เคียงสมัย
หวังมอบสิ่ง ดีงาม ตลอดไป
ด้วยหทัย เปี่ยมรัก สามัคคี
     รักประเทศ เขตคาม สยามชาติ
ไม่ยอมให้ ใครบังอาจ หยามศักดิ์ศรี
พร้อมประหัต ให้แหลกราน สิ้นชีวี
ยอมชีพพลี เพื่อคงไว้ ไทยนิรันดร์
     ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม นอบน้อมยิ่ง
ด้วยใจจริง เปี่ยมรัก ภักดิ์มหันต์
รักษ์สมดุล สร้างสุข ทุกคืนวัน
เพื่อไพรมั่น ยืนยง คงคู่ไทย

คนเรียนไพร
๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๘

 7 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / ห้องนั่งเล่นพักผ่อน / Re: ๛ แนะนำน้องน้ำว้า สมาชิกใหม่บ้านกลอนน้อยเจ้า ๛
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 07:20:35 AM 
เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ถ้าเขารักอยู่เฉยๆเขาก็รัก

เป็นเด็กอารมณ์ดีมากเลยนะคะ
โตขึ้นงดงามตามฉบับสาวเหนือ
ผิวสวยมาก เผลอแป๊บเดียวจริงๆ.
 

 8 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 06:44:30 AM 
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร

(ต่อหน้า ๑๓/๑๕) : ๑๒. อินทริยวิภังค์

(๙.๑๓) อินทรีย์ ๖ ~ ที่วิปปยุตจากปรามาสแต่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี; ที่วิปปยุตจากปรามาสและไม่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า วิปปยุตจากปรามาสแต่เป็นอารมณ์ของปรามาส; หรือวิปปยุตจากปรามาสและไม่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี
(๑๐) มหันตรทุกวิสัชนา
(๑๐.๑) อินทรีย์ ๗ ~ รับรู้อารมณ์ไม่ได้ ได้แก่ จักขุนทรีย์, โสตินทรีย์, ฆานินทรีย์ , ชิวหินทรีย์, กายินทรีย์, อิตถินทรีย์, ปุริสินทรีย์
(๑๐.๒) อินทรีย์ ๑๔ ~ รับรู้อารมณ์ได้ (๑๐.๓) ชีวิตินทรีย์ ~ที่รับรู้อารมณ์ได้ก็มี; ที่รับรู้อารมณ์ไม่ได้ก็มี (๑๐.๔) อินทรีย์ ๒๑ ~ ไม่เป็นจิต (๑๐.๕) มนินทรีย์ ~ เป็นจิต (๑๐.๖) อินทรีย์ ๑๓ ~ เป็นเจตสิก (๑๐.๗) อินทรีย์ ๘ ~ ไม่เป็นเจตสิก (๑๐.๘) ชีวิตินทรีย์ ~ ที่เป็นเจตสิกก็มี; ที่ไม่เป็นเจตสิกก็มี
~ เจตสิก = ธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในจิตใจของคน ที่ช่วยตัดสินใจ หรือปรุงแต่งจิตใจ ในการทำบุญและทำบาป ซึ่งธรรมชาตินี้ เกิดพร้อมกับจิต, ดับพร้อมกับจิต, มีอารมณ์เดียวกันกับจิต, อาศัยวัตถุเดียวกันกับจิต
(๑๐.๙) อินทรีย์ ๑๓ ~ สัมปยุตด้วยจิต (๑๐.๑๐) อินทรีย์ ๗ ~ วิปปยุตจากจิต (๑๐.๑๑) ชีวิตินทรีย์ ~ ที่สัมปยุตด้วยจิตก็มี; ที่วิปปยุตจากจิตก็มี
(๑๐.๑๒) มนินทรีย์ ~ กล่าวไม่ได้ว่า สัมปยุตด้วยจิต; หรือวิปปยุตจากจิต (๑๐.๑๓) อินทรีย์ ๑๓ ~ ระคนกับจิต (๑๐.๑๔) อินทรีย์ ๗ ~ ไม่ระคนกับจิต (๑๐.๑๕) ชีวิตินทรีย์ ~ ที่ระคนกับจิตก็มี; ที่ไม่ระคนกับจิตก็มี (๑๐.๑๖) มนินทรีย์ ~ กล่าวไม่ได้ว่า ระคนกับจิต หรือไม่ระคนกับจิต
(๑๐.๑๗) อินทรีย์ ๑๓ ~ มีจิตเป็นสมุฏฐาน (๑๐.๑๘) อินทรีย์ ๘ ~ ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐาน (๑๐.๑๙) ชีวิตินทรีย์ ~ ที่มีจิตเป็นสมุฏฐานก็มี; ที่ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐานก็มี
~ชีวิตินทริยเจตสิกจึงเป็นปัจจัยแก่จิตและเจตสิกที่เกิดร่วมกัน เป็นใหญ่ในการรักษาสัมปยุตตธรรมที่เกิดร่วมด้วยให้ดำรงอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะดับไป
~ชีวิตรูปเป็นรูปที่มีกรรมเป็นสมุฏฐาน คือเกิดจากกรรม จึงตามอนุบาลรักษากัมมชรูปที่เกิดพร้อมกันเท่านั้น ทำให้รูปของสัตว์ที่มีชีวิตแตกต่างจากรูปของสิ่งที่ไม่มีชีวิตหรือสัตว์ที่ตายแล้ว
(๑๐.๒๐) อินทรีย์ ๑๓ ~ เกิดพร้อมกับจิต (๑๐.๒๑) อินทรีย์ ๘ ~ ไม่เกิดพร้อมกับจิต (๑๐.๒๒) ชีวิตินทรีย์ ~ที่เกิดพร้อมกับจิตก็มี; ที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตก็มี (๑๐.๒๓) อินทรีย์ ๑๓ ~ เป็นไปตามจิต (๑๐.๒๔) อินทรีย์ ๘ ~ ไม่เป็นไปตามจิต (๑๐.๒๕) ชีวิตินทรีย์ที่เป็นไปตามจิตก็มี; ที่ไม่เป็นไปตามจิตก็มี (๑๐.๒๖) อินทรีย์ ๑๓ ~ ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐาน (๑๐.๒๗) อินทรีย์ ๘ ~ ไม่ระคนกับจิต และมีจิตเป็นสมุฏฐาน (๑๐.๒๘) ชีวิตินทรีย์ ~ ที่ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานก็มี; ที่ไม่ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานก็มี (๑๐.๒๙) อินทรีย์ ๑๓ ~ ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและเกิดพร้อมกับจิต (๑๐.๓๐) อินทรีย์ ๘ ~ไม่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและเกิดพร้อมกับจิต (๑๐.๓๑) ชีวิตินทรีย์ ~ ที่ระคนกับจิต มีจิตเป็นสมุฏฐานและเกิดพร้อมกับจิตก็มี; ที่ไม่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและเกิดพร้อมกับจิตก็มี (๑๐.๓๒) อินทรีย์ ๑๓ ~ ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและเป็นไปตามจิต (๑๐.๓๓) อินทรีย์ ๘ ~ ไม่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและเป็นไปตามจิต (๑๐.๓๔) ชีวิตินทรีย์ ~ ที่ระคนกับจิตมีจิต เป็นสมุฏฐานและเป็นไปตามจิตก็มี; ที่ไม่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและเป็นไปตามจิตก็มี (๑๐.๓๕) อินทรีย์ ๖ ~ เป็นภายใน ได้แก่ จักขุนทรีย์, โสตินทรีย์, ฆานินทรีย์ , ชิวหินทรีย์, กายินทรีย์, มนินทรีย์ (๑๐.๓๖) อินทรีย์ ๑๖ ~ เป็นภายนอก ได้แก่ ที่เหลือจากภายใน คือ อิตถินทรีย์, ปุริสินทรีย์, ชีวิตินทรีย์, สุขินทรีย์, ทุกขินทรีย์, โสมนัสสินทรีย์, โทมนัสสินทรีย์, อุเปกขินทรีย์, สัทธินทรีย์, วิริยินทรีย์, สตินทรีย์, สมาธินทรีย์, ปัญญินทรีย์, อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์, อัญญินทรีย์ และ อัญญาตาวินทรีย์ (๑๐.๓๗) อินทรีย์ ๗ ~ เป็นอุปาทายรูป (รูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔ เกิด)ได้แก่ จักขุนทรีย์, โสตินทรีย์, ฆานินทรีย์ , ชิวหินทรีย์, กายินทรีย์, อิตถินทรีย์, ปุริสินทรีย์ (๑๐.๓๘) อินทรีย์ ๑๔ ~ ไม่เป็นอุปาทายรูป ได้แก่ ชีวิตินทรีย์, สุขินทรีย์, ทุกขินทรีย์, โสมนัสสินทรีย์, โทมนัสสินทรีย์, อุเปกขินทรีย์, สัทธินทรีย์, วิริยินทรีย์, สตินทรีย์, สมาธินทรีย์, ปัญญินทรีย์, อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์, อัญญินทรีย์ และ อัญญาตาวินทรีย์ (๑๐.๓๙) ชีวิตินทรีย์ ~ที่เป็นอุปาทายรูปก็มี; ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปก็มี
~ชีวิตินทรีย์ = อินทรีย์คือชีวิต, สภาวะที่เป็นใหญ่ในการตามรักษาสหชาตธรรม (ธรรมที่เกิดร่วมด้วย) ดุจน้ำหล่อเลี้ยงดอกบัว เป็นต้น มี ๒ ฝ่ายคือ
-->๑. ชีวิตินทรีย์ที่เป็นชีวิตรูป - เป็นอุปาทายรูปอย่างหนึ่ง มีหน้าที่รักษาหล่อเลี้ยงเหล่ากรรมชรูป (รูปที่เกิดแต่กรรม)
-->๒. ชีวิตินทรีย์ที่เป็นเจตสิก - สัพพจิตตสาธารณเจตสิก (เจตสิกที่เกิดกับจิตทุกดวง) มีหน้าที่รักษาหล่อเลี้ยงนามธรรมคือ จิตและเจตสิกทั้งหลาย บางทีเรียก อรูปชีวิตินทรีย์ หรือ นามชีวิตินทรีย์
(๑๐.๔๐) อินทรีย์ ๙ ~ กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ (๑๐.๔๑) อินทรีย์ ๔ ~ กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
(๑๐.๔๒) อินทรีย์ ๙ ~ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือก็มี; ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือก็มี

 9 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 06:05:31 AM 
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร

(ต่อหน้า ๑๒/๑๕) : ๑๒. อินทริยวิภังค์

~โยคะ ๔ = คือ
-->๑. กามโยคะ - ตรึงให้ติดอยู่กับกามคุณ องค์ธรรมได้แก่ โลภเจตสิก ที่ในโลภ มูลจิต ๘
-->๒. ภวโยคะ -ตรึงให้ติดอยู่กับความยินดีในอัตภาพของตน, ตลอดจนชอบใจ ในรูปภพ, อรูปภพ องค์ธรรมได้แก่ โลภเจตสิก ที่ในทิฏฐิคตวิปปยุตตจิต ๔
-->๓. ทิฏฐิโยคะ - ตรึงให้ติดอยู่กับความเห็นผิดจากความเป็นจริงของสภาวธรรม องค์ธรรมได้แก่ ทิฏฐิเจตสิก ที่ในทิฏฐิคตสัมปยุตตจิต ๔
-->๔. อวิชชาโยคะ - ตรึงให้ติดอยู่กับความหลง เพราะไม่รู้เหตุผลตามความเป็นจริง จึงโลภ โกรธ หลง องค์ธรรมได้แก่ โมหเจตสิกที่ในอกุสลจิต ๑๒
~นิวรณ์ ๖ = คือ
-->๑. กามฉันทนิวรณ์ - ขัดขวางไว้เพราะความชอบใจอยากได้ในกามคุณอารมณ์ จึงย่อมขาดสมาธิในอันที่จะทำ ความดี มีฌานและมัคคผลเป็นต้น องค์ธรรมได้แก่ โลภเจตสิก ที่ในโลภมูลจิต ๘
-->๒. พยาปาทนิวรณ์ - ขัดขวางไว้เพราะความไม่ชอบใจในอารมณ์ เมื่อจิตใจ มีแต่ความขุ่นเคืองไม่ชอบใจแล้ว ก็ย่อมขาดปีติความอิ่มใจในการกระทำความดี มี ฌานเป็นต้น องค์ธรรมได้แก่ โทสเจตสิก ที่ในโทสมูลจิต ๒
-->๓. ถีนมิทธนิวรณ์ - ขัดขวางไว้เพราะความหดหู่ท้อถอยในอารมณ์ จึงย่อมขาดวิตก คือไม่มีใจที่จะคิดกระทำความดี องค์ธรรมได้แก่ ถีนเจตสิก มิทธเจตสิก ที่ในอกุสลสสังขาริกจิต ๕
-->๔. อุทธัจจกุกกุจจนิวรณ์ - ขัดขวางไว้เพราะคิดฟุ้งซ่าน รำคาญใจ ก็ย่อมขาดความสุขใจในอันที่จะกระทำความดี องค์ธรรมได้แก่ อุทธัจจ เจตสิก กุกกุจจเจตสิก ที่ในอกุสลจิต ๑๒
-->๕. วิจิกิจฉานิวรณ์ - ขัดขวางไว้เพราะความสงสัย ลังเลใจ ก็ย่อมขาดวิจารในอันที่จะพินิจกระทำความดี องค์ธรรมได้แก่ วิจิกิจฉาเจตสิก ที่ในวิจิกิจฉาสหคตจิต ๑
-->๖. อวิชชานิวรณ์ -ขัดขวางไว้เพราะความไม่รู้ มีการทำให้หลงลืม ก็ย่อมขาด สติ ไม่ระลึกถึงความดีที่ตนจะกระทำ องค์ธรรมได้แก่ โมหเจตสิกที่ในอกุสลจิต ๑๒
(๑) อินทรีย์ ๒๒ ไม่เป็นโอฆะ ฯลฯ ไม่เป็นโยคะ ฯลฯ ไม่เป็นนิวรณ์ (๒) อินทรีย์ ๑๐ ~ เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ (๓) อินทรีย์ ๓ ~ ไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ ได้แก่ อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์, อัญญินทรีย์, อัญญาตาวินทรีย์ (๔) อินทรีย์ ๙ ~ ที่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี; ที่ไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี (๕) อินทรีย์ ๑๕ ~ วิปปยุตจากนิวรณ์ (๖)โทมนัสสินทรีย์ ~ สัมปยุตด้วยนิวรณ์ (๗) อินทรีย์ ๖ ~ ที่สัมปยุตด้วยนิวรณ์ก็มี; ที่วิปปยุตจากนิวรณ์ก็มี ได้แก่ จักขุนทรีย์, โสตินทรีย์, ฆานินทรีย์ , ชิวหินทรีย์, กายินทรีย์, มนินทรีย์ (๘) อินทรีย์ ๑๐ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นนิวรณ์และเป็นอารมณ์ของนิวรณ์; หรือเป็นอารมณ์ของนิวรณ์แต่ไม่เป็นนิวรณ์ (๙) อินทรีย์ ๓ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นนิวรณ์และเป็นอารมณ์ของนิวรณ์; หรือเป็นอารมณ์ของนิวรณ์แต่ไม่เป็นนิวรณ์ (๑๐) อินทรีย์ ๙ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นนิวรณ์และเป็นอารมณ์ของนิวรณ์; ที่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์แต่ไม่เป็นนิวรณ์ก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอารมณ์ของนิวรณ์แต่ไม่เป็นนิวรณ์ก็มี (๑๑) อินทรีย์ ๑๕ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นนิวรณ์และสัมปยุตด้วยนิวรณ์; หรือสัมปยุตด้วยนิวรณ์แต่ไม่เป็นนิวรณ์ (๑๒) โทมนัสสินทรีย์ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นนิวรณ์และสัมปยุตด้วยนิวรณ์; หรือสัมปยุตด้วยนิวรณ์แต่ไม่เป็นนิวรณ์ (๑๓) อินทรีย์ ๖ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์; ที่สัมปยุตด้วยนิวรณ์แต่ไม่เป็นนิวรณ์ก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่าสัมปยุตด้วยนิวรณ์แต่ไม่เป็นนิวรณ์ก็มี (๑๔) อินทรีย์ ๙ ~ วิปปยุตจากนิวรณ์แต่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ (๑๕) อินทรีย์ ๓ ~ วิปปยุตจากนิวรณ์และไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ (๑๖)โทมนัสสินทรีย์ ~ กล่าวไม่ได้ว่า วิปปยุตจากนิวรณ์แต่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์; หรือวิปปยุตจากนิวรณ์และไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ (๑๗) อินทรีย์ ๓ ~ ที่วิปปยุตจากนิวรณ์แต่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี; ที่วิปปยุตจากนิวรณ์ และไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี (๑๘) อินทรีย์ ๖ ~ ที่วิปปยุตจากนิวรณ์แต่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี; ที่วิปปยุตจากนิวรณ์และไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่าวิปปยุตจากนิวรณ์แต่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์; หรือวิปปยุตจากนิวรณ์และไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี
(๙) ปรามาสโคจฉกวิสัชนา = คำตอบด้าน การยึดมั่นถือมั่น ที่ผิดจากความเป็นจริง
(๙.๑) อินทรีย์ ๒๒ ~ ไม่เป็นปรามาส (๙.๒) อินทรีย์ ๑๐ ~ เป็นอารมณ์ของปรามาส (๙.๓) อินทรีย์ ๓ ~ ไม่เป็นอารมณ์ของปรามาส (๙.๔) อินทรีย์ ๙ ~ ที่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี; ที่ไม่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี (๙.๕) อินทรีย์ ๑๖ ~ วิปปยุตจากปรามาส (๙.๖) อินทรีย์ ๖ ~ ที่สัมปยุตด้วยปรามาสก็มี; ที่วิปปยุตจากปรามาสก็มี ได้แก่ จักขุนทรีย์, โสตินทรีย์, ฆานินทรีย์ , ชิวหินทรีย์, กายินทรีย์, มนินทรีย์ (๙.๗) อินทรีย์ ๑๐ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นปรามาสและเป็นอารมณ์ของปรามาส; หรือเป็นอารมณ์ของปรามาสแต่ไม่เป็นปรามาส (๙.๘) อินทรีย์ ๓ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นปรามาสและเป็นอารมณ์ของปรามาส; หรือเป็นอารมณ์ของปรามาสแต่ไม่เป็นปรามาส (๙.๙) อินทรีย์ ๙ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นปรามาสและเป็นอารมณ์ของปรามาส; ที่เป็นอารมณ์ของปรามาสแต่ไม่เป็นปรามาสก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอารมณ์ของปรามาสแต่ไม่เป็นปรามาสก็มี (๙.๑๐) อินทรีย์ ๑๐ ~ วิปปยุตจากปรามาสแต่เป็นอารมณ์ของปรามาส (๙.๑๑) อินทรีย์ ๓ ~ วิปปยุตจากปรามาสและไม่เป็นอารมณ์ของปรามาส (๙.๑๒) อินทรีย์ ๓ ~ ที่วิปปยุตจากปรามาสแต่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี; ที่วิปปยุตจากปรามาสและไม่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี

 10 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / ห้องนั่งเล่นพักผ่อน / Re: ๛ แนะนำน้องน้ำว้า สมาชิกใหม่บ้านกลอนน้อยเจ้า ๛
 เมื่อ: 17, พฤศจิกายน, 2568, 08:10:06 PM 
เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย หยาดฟ้า

ใช่ค่ะ เผลอแป๊ปๆ เอง  เดี๋ยวอีกเผลอคงเข้าโรงเรียนประถมละ 

หน้า: [1] 2 3 ... 10
Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.18 วินาที กับ 20 คำสั่ง
กำลังโหลด...