Username:

Password:


  • บ้านกลอนน้อยฯ
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล >> กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
หน้า: [1] 2 3 ... 10
 1 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / โคลง-กาพย์-ฉันท์-ร่าย-ลิลิต / Re: ...-๐ นานาเครื่องจิ้มไทย จัดสำรับ กาพย์ห่อโคลง ๐-...
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 10:13:00 PM 
เริ่มโดย Black Sword - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword

ขอบคุณรูปภาพต้นแบบจาก Internet

-๐ น้ำพริกกะปิหมูสับ ๐-

    ๏   น้ำพริกกะปิหมูสับ          รีบจองจับลิ้มชิมคำ
เรียบง่ายให้อิ่มหนำโปรยยิ้มแต้มแย้มตรึงตรา
 
๏   ยามลิ้มตรึงจิตต้องสลักประทับ
น้ำพริกกะปิหมูสับจัดตั้ง
ผ่านวันอีกสำรับแลเรียบ ง่ายเฮย
อิ่มอกทุกคำครั้งฉาบยิ้มยวนใจ ๚ะ๛
- Black Sword -
(หมู มยุรธุชบูรพา)

• กลับสู่สารบัญ นานาเครื่องจิ้มไทย จัดไว้ในกาพย์ห่อโคลง คลิก

 2 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ..ขอบาทเดียว..
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 10:05:12 PM 
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword

รีบเรี่ยไรทันทีมีพอไหม     อาจจะได้ยอดครบมิตกหล่น
 

 3 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: ประมวลธรรม: ๘.เกวัฏฏสูตร
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 03:51:47 PM 
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร

ประมวลธรรม : ๕๓.จูฬหัตถิปโทปมสูตร (สูตรแสดงข้อเปรียบเทียบด้วยรอยเท้าช้าง สูตรเล็ก)

รการวิปุลลาฉันท์ ๓๒/กาพย์สุรางคนางค์ ๓๒

    ๑.พุทธเจ้าทรงพัก"เชตวัน"พลาง............ซึ่ง"อนาถ์บิณฑ์ฯ"สร้างถวายครัน
อยู่ ณ สาวัตถีสมัยนั้น................................"ชาณุฯ"พราหมณ์ดังพบ"ปิโลฯ"เผย

    ๒."ปิโลติฯ"ชัด.......................................นักบวชสังกัด
พระโคดมจัด.............................................ชาณุฯถามเอย
พระโคดมหนา...........................................ปัญญาคมเอ่ย
เป็นบัณฑิตเปรย........................................หรืออย่างใดแล

    ๓.ครันปิโลฯตอบเราจะรู้ชาญ..................เฉียบและคมของท่านซิอย่างไร
ผู้ซิรู้จริงเยี่ยมพระองค์ไข............................ไป่จะมีใครเทียมประจักษ์แฉ

    ๔.ชาณุฯกล่าวเพลิน................................ปิโลติฯเสริญ
พระโคดมเทิน.............................................ยอดยิ่งหรือแน่
ปิโลฯตอบเรา..............................................เฝ้าเสริญแน่วแล้
คนเทิดทูนแท้..............................................เลิศกว่าเทพ,ชน

    ๕.ชาณุฯถามเหตุที่เจาะศรัทธา.................พุทธองค์ยิ่งหนาประโยชน์ใด
คราปิโลฯเปรียบพรานเลาะป่าไกล...............เห็นสิรอยเท้าช้างซิใหญ่ยล

    ๖.พรานย่อมคาดแน่................................ช้างขนาดใหญ่แล
เราเหมือนพรานแท้.....................................เห็นสี่รอยผล
ของพระโคดม............................................ใจบ่มคิดดล
ทรงสอนธรรมล้น........................................เป็นเลิศพฤติตาม

    ๗.แล้วปิโลฯตอบชี้กะสี่รอย......................พุทธเจ้าหนึ่งช้อยพจีบ่ง
วงศ์กษัติย์ชอบโต้ทลายตรง........................ว่าซิเก่งคอยตามพระองค์ผลาม

    ๘.เสด็จไหนไป........................................เตรียมคำถามไว้
ตอบเช่นนั้นไซร้..........................................จะกล่าวโทษตาม
เมื่อเสด็จถึง................................................ทรงพึงสอนความ
ด้วยธรรมเลิศงาม........................................กระตุ้นพฤติแล

    ๙.ทรงประโลมใจชื่นและแกล้วกล้า...........เขามิถามใดหนาตะกลับเผย
ขอสมัครสาวกพระองค์เลย..........................ข้าพเจ้าจึงมั่นพระธรรมแฉ

    ๑๐.ปิโลฯแจ้งหนา....................................รอยที่สองนา
สาม,สี่พร้อมกล้า..........................................คือ"พราหมณ์,มัว"แล
"สมณบัณฑิต..............................................พฤติชิดหนึ่งแน่
เหมือนรอยหนึ่งแท้.......................................พฤติกรรมเลียน

    ๑๑.เขาซิชอบโต้วาทะพุทธ์เจ้า..................คอยเลาะตามติดเฝ้าคะคล้ายกัน
ได้ตระเตรียมคำถามเจาะเลือกสรร...............เพื่อจะกล่าวโทษพุทธองค์เตียน

    ๑๒.สมณะย้ำ...........................................ไปเฝ้าฟังธรรม
พุทธ์เจ้าสอนพร่ำ.........................................ชวนเร้ารับเรียน
ให้ประพฤติกล้า...........................................ใจพารื่นเชียร
จึงไม่ยากเพียร............................................."คำ"ทูลถามแล

    ๑๓.เขาก็ทูลขอบวชอุทิศกาย....................ใจริเพียรมั่นผายประโยชน์พาน
จึงลุปัญญาเยี่ยมมิช้านาน.............................กล่าววะไม่สูญเสียอะไรแฉ

    ๑๔.กาลก่อนทั้งที่....................................ไม่ได้เป็นชี้
ปฏิญญารี่...................................................สมณะแน่
ไม่เป็นพราหมณ์เลย....................................เผยมั่นพราหมณ์แท้
ไป่อรหันต์แว...............................................กาลนี้เป็นนา

    ๑๕.กาลฉะนี้พวกเราจะเป็นยวด................"ผู้สงบ"นักบวชซิแม่นแล้ว
พราหมณ์ก็จึ่งได้เป็นซิแน่แน่ว......................เป็นอร์หันต์ในกาลฉะนี้หนา

    ๑๖.ปิโลฯเห็นรอย....................................สี่ในพุทธ์ฯถ้อย
มั่นอรหันต์ช้อย...........................................พระรัตน์ตรัยกล้า
ชาณุฯยินแล้ว.............................................หันแน่วทิศหล้า
พุทธ์เจ้าอยู่นา.............................................วจีเอ่ยสามแล

 4 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ..ขอบาทเดียว..
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 03:16:04 PM 
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล

แอบในห้องอย่างไวในทันที     ไม่รู้ไม่ชี้ ตัวสั่นนั่งสวดมนต์

 

 5 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 12:27:13 PM 
เริ่มโดย คนเรียนไพร - กระทู้ล่าสุด โดย คนเรียนไพร
 
ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดย คนเรียนไพร

เพื่อลูกหลาน

     ทรัพย์สมบัติ ประดับไว้ ให้โลกา
ทรงคุณค่า ธรรมชาติ หลากวิถี
สร้างสมดุล เกื้อหนุน พูลทวี
สุขฤดี มากล้น พ้นประมาณ
     ทั้งเรือกสวน ไร่นา ป่าพงไพร
ดำรงไว้ ร่มเย็น เป็นสุขศานติ์
ทุกชีวี สุขสมบูรณ์ ตลอดกาล
แสนสราญ ด้วยรู้รักษ์ ภักดิ์วนา
     แหล่งต้นน้ำ ลำธาร แสนบานชื่น
สร้างร่มรื่น ด้วยแมกไม้ ไพรพฤกษา
ทั้งเกื้อหนุน ชุ่มชื้น ด้วยธารา
บูรณา เพื่อปวงไทย ไว้นิรันดร์
     หยุดเสียเถิด หยุดทำลาย ไพรทั้งชาติ
ร่วมประกาศ สร้างพนา พาสุขสันต์
เพื่อลูกหลาน ประชาไทย อเนกอนันต์
ทุกคืนวัน ดำรงอยู่ คู่ถิ่นไทย

คนเรียนไพร
๑๗ กันยายน ๒๕๖๘

 6 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: ประมวลธรรม: ๘.เกวัฏฏสูตร
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 07:47:01 AM 
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร

(ต่อหน้า ๑๐/๑๐) ๕๒.ปาสราสิสูตร

เมืองพาราณสี = ในสมัยพุทธกาล เป็นเมืองหลวงของแคว้นกาสี และเป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ซึ่งปัจจุบันคือสารนาถ
อาชีวก = นักบวชชีเปลือยพวกหนึ่งในครั้งพุทธกาล เป็นสาวกของมักขลิโคสาล
อุปกะ = ชื่อนักบวช
ครอบงำธรรมทั้งปวง = ในที่นี้หมายถึงธรรมอันเป็นไปในภูมิ ๓ ได้แก่
(๑) กามาวจรภูมิ ~ ภูมิที่ยังเกี่ยวข้องกับกามารมณ์ หรือความพอใจในกามคุณ ๕ (รูป, เสียง, กลิ่น, รส, สัมผัส) (๒) รูปาวจรภูมิ ~ ภูมิที่พ้นจากกามารมณ์ แต่ยังเกี่ยวข้องกับรูป (ลักษณะ, สัณฐาน, สี, แสง) (๓) อรูปาวจรภูมิ ~ ภูมิที่พ้นจากทั้งกามารมณ์และรูปธรรม เป็นภูมิที่ละเอียด ประณีตที่สุด
ทรงรู้ธรรมทั้งปวง = ในที่นี้หมายถึงรู้ธรรมอันเป็นไปในภูมิ ๔ คือ
(๑) กามภูมิ ~ ภูมิที่ยังเกี่ยวข้องกับกามคุณ ๕ คือ รูป, รส, กลิ่น, เสียง, สัมผัส (๒) รูปภูมิ ~ ภูมิที่ละเอียดขึ้นไปจากกามภูมิ เป็นภูมิของพรหมที่มีรูป มีแต่ความสุขทางใจ (๓) อรูปภูมิ ~ ภูมิที่ละเอียดกว่ารูปภูมิ เป็นภูมิของพรหมที่ไม่มีรูป มีแต่ความสุขทางใจอย่างเดียว (๔) โลกุตตรภูมิ ~ ภูมิที่พ้นจากโลก เป็นภูมิของพระอริยบุคคลที่บรรลุธรรมขั้นต่างๆ
ทรงมิได้แปดเปื้อนในธรรมทั้งปวง = อันเป็นไปในภูมิ ๓
ทรงละธรรมทั้งปวง = อันหมายถึงธรรมอันเป็นไปในภูมิ ๓
ทรงไม่มีอาจารย์ = ในที่นี้หมายถึงไม่มีอาจารย์ในระดับโลกุตตรธรรม
อาวุโส = ผู้มีอายุ เดิมใช้เป็นคำเรียกกันเป็นสามัญ คือ ภิกษุผู้แก่กว่าเรียกภิกษุผู้อ่อนกว่า หรือภิกษุผู้อ่อนกว่าเรียกภิกษุผู้แก่กว่าก็ได้
กามคุณ ๕ = อะไรบ้าง
(๑) รูปที่จะพึงรู้แจ้งทางตา ที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ ชวนให้รัก ชักให้ใคร่ พาใจให้กำหนัด  (๒) เสียงที่จะพึงรู้แจ้งทางหู ฯลฯ (๓) กลิ่นที่จะพึงรู้แจ้งทางจมูก ฯลฯ (๔) รสที่จะพึงรู้แจ้งทางลิ้น ฯลฯ (๕) โผฏฐัพพะที่จะพึงรู้แจ้งทางกาย ที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจชวนให้รัก ชักให้ใคร่ พาใจให้กำหนัด
ปัจจะฯ = ปัจจเวกขณญาณ คือญาณ ที่สลัด กามคุณ ๕
นามกาย = นามขันธ์ทั้ง ๔ คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ (หรือทั้งจิตและเจตสิก)
รูปสัญญา = คือ สัญญาที่เกิดขึ้นยึดรูปเป็นอารมณ์
รูปสัญญาย่อมดับในอากาสนญจายตนฌาณนี้ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เพราะล่วงรูปสัญญาโดยประการทั้งปวง เพราะดับปฏิฆสัญญา, เพราะไม่ใส่ใจถึงนานัตตสัญญา, จึงบรรลุอากาสานัญจายตนฌาน เพราะคำนึงเป็นอารมณ์ว่า อากาศไม่มีที่สุด
ปฏิฆสัญญา = คือ ความจำเกี่ยวกับความขัดเคืองที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ความโกรธและความพยาบาทได้หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสม 
นานัตตะสัญญา = หมายถึงความคิดหลากหลาย ที่ผุดขึ้นในใจไม่หยุดหย่อน แต่ถ้าเพียงมีสติเฝ้ารู้เห็นด้วยใจเป็นกลาง ใจจะสงบลงท่ามกลางความคิดที่หลั่งใหลไม่หยุด ณ ที่นั้นเอง
อนาคาฯ = พระอนาคามี เป็นพระอริยะ ขั้นสูงรองจาก พระอรหันต์ อันได้แก่ พระโสดาบัน, พระสกิทาคามี, พระอนาคามี และ พระอรหันต์ ตามลำดับ

 7 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / โคลง-กาพย์-ฉันท์-ร่าย-ลิลิต / Re: ...-๐ นานาเครื่องว่าง-ขนมไทย จัดใส่โคลง ๐-...
 เมื่อ: 16, กันยายน, 2568, 10:01:17 PM 
เริ่มโดย Black Sword - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword

ขอบคุณรูปภาพต้นแบบจาก Internet

-๐ ข้าวหลามมะพร้าวน้ำหอมในกะลา ๐-

๏   ข้าวหลามมะพร้าวน้ำหอม      ในกะลา (*)
อวลกลิ่นเอมรสคราเลียบลิ้น
อวลอาบซาบเสน่หาแสนห่วง ใยเฮย
ส่งผ่านทุกคำชิ้นชื่นห้วงทรวงถนอม ๚ะ๛

- Black Sword -
(หมู มยุรธุชบูรพา)

• กลับสู่สารบัญ เครื่องหวาน-เครื่องว่างไทย จัดใส่โคลง คลิก

 8 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ..ขอบาทเดียว..
 เมื่อ: 16, กันยายน, 2568, 09:57:49 PM 
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword

แต่ร้านค้ามาส่งของแล้วนะ     แล้วเราจะทำไงล่ะทีนี้
 

 9 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ..ขอบาทเดียว..
 เมื่อ: 16, กันยายน, 2568, 08:49:08 PM 
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล



ปรากฎผลออกมาน่าใจหาย     ฝันมลายแล้วเราเศร้าไหมล่ะ
 AddEmoticons00926

 10 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / นิยาย-เรื่องสั้น-บทความ-ความเรียง-เรื่องเล่าทั่วไป / Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
 เมื่อ: 16, กันยายน, 2568, 08:40:27 PM 
เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล



ღ เสียงไม่เคยมีตัวตน ღ

เสียง เป็นเพียงอาการหนึ่งของจิต มันไม่มีตัวตน
จับต้องไม่ได้ แต่พวกเรากลับหลงเชื่อว่าเสียงมีตัวตนอยู่จริง ๆ
และเมื่อมีใครพูดคำว่า "หมูอ้วน" เราก็โกรธขึ้นมาในทันที
ลองย้อนถามตัวเองดูให้ลึก "หมูอ้วน" อยู่ตรงไหน?
จับต้องได้ไหม? เสียงพูดนั้นแค่ลอยผ่าน แล้วเรายึดไปทำไม?

เราโกรธเพราะเสียงนั้น หรือเพราะใจเรายึดเสียงนั้นว่า เป็นเรื่องจริง
ลองถามตัวเองอีกครั้ง "ใคร" กำลังโกรธ "ใคร" กำลังอยู่ตรงนี้
ถ้ามองให้ลึก เสียงที่พูดออกมาก็คือเสียง เสียงที่คิดอยู่ในใจก็คือเสียง
มันไม่มีตัวตน แล้วเราไปยึดมันไว้ทำไม
ทำไมถึงได้หลงไหลจมไปกับเสียงนั้น

สัตว์โลกต้องใช้เสียงเพื่อสื่อสาร แต่เสียงไม่ใช่ของใคร
จิตแท้คือธาตุชีวิตที่ว่างเปล่า ใส บริสทุธิ์
เสียงที่ได้ยินเป็นเพียงกิริยาของจิต แต่ไม่ใช่จิต

°:. *₊ ° . ☆   °:. *₊ ° . ° .•

เครดิต ช่องธรรมะพ้นทุกข์

หน้า: [1] 2 3 ... 10
Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.409 วินาที กับ 19 คำสั่ง
กำลังโหลด...