|
1
คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
เมื่อ: วันนี้ เวลา 06:07:27 AM
|
||
| เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
|
(ต่อหน้า ๑๐/๑๕) : ๑๒. อินทริยวิภังค์ (๑.๑๔) อินทรีย์ ๙ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นเหตุและสัมปยุตด้วยเหตุ หรือสัมปยุตด้วยเหตุแต่ไม่เป็นเหตุ (๑.๑๕) อินทรีย์ ๓ ~ กล่าวไม่ได้ว่าเป็นเหตุและสัมปยุตด้วยเหตุ; หรือสัมปยุตด้วยเหตุแต่ไม่เป็นเหตุ (๑.๑๖) อินทรีย์ ๖ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นเหตุและสัมปยุตด้วยเหตุ; ที่สัมปยุตด้วยเหตุแต่ไม่เป็นเหตุก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า สัมปยุตด้วยเหตุแต่ไม่เป็นเหตุก็มี (๑.๑๗) อินทรีย์ ๙ ~ ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุ (๑.๑๘) อินทรีย์ ๓ ~ ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุ (๑.๑๙) อินทรีย์ ๔ ~ กล่าวไม่ได้ว่าไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุ; หรือไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุ (๑.๒๐) อินทรีย์ ๖ ~ ที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุก็มี; ที่ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุก็มี (๒) จูฬันตรทุกวิสัชนา (๒.๑) อินทรีย์ ๒๒ ~ มีปัจจัยปรุงแต่ง (๒.๒) อินทรีย์ ๒๒ ~ ถูกปัจจัยปรุงแต่ง (๒.๓) อินทรีย์ ๒๒ ~ เห็นไม่ได้ (๒.๔) อินทรีย์ ๕ ~ กระทบได้ (๒.๕) อินทรีย์ ๑๗ ~ กระทบไม่ได้ (๒.๖) อินทรีย์ ๗ ~ เป็นรูป ได้แก่จักขุนทรีย์, โสตินทรีย์, ฆานินทรีย์, ชิวหินทรีย์, กายินทรีย์, อิตถินทรีย์, ปุริสสินทรีย์ (๒.๗) อินทรีย์ ๑๔ ~ ไม่เป็นรูป ได้แก่ สุขินทรีย์, ทุกขินทรีย์, โสมนัสสินทรีย์, โทมนัสสินทรีย์, อุเปกขินทรีย์, สัทธินทรีย์, วิริยินทรีย์, สตินทรีย์, สมาธินทรีย์, ปัญญินทรีย์, อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์, อัญญินทรีย์, อัญญาตาวินทรีย์ (๒.๘) ชีวิตินทรีย์ ~ ที่เป็นรูปก็มี; ที่ไม่เป็นรูปก็มี (๒.๙) อินทรีย์ ๑๐ ~ เป็นโลกิยะ ได้แก่ จักขุนทรีย์, โสตินทรีย์, ฆานินทรีย์, ชิวหินทรีย์, กายินทรีย์, อิตถินทรีย์, ปุริสินทรีย์, สุขินทรีย์, ทุกขินทรีย์,โทมนัสสินทรีย์ (๒.๑๐) อินทรีย์ ๓ ~ เป็นโลกุตตระ ได้แก่ อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์; อัญญินทรีย์; อัญญาตาวินทรีย์ (๒.๑๑) อินทรีย์ ๙ ~ ที่เป็นโลกิยะก็มี; ที่เป็นโลกุตตระก็มี (๒.๑๒) อินทรีย์ ๒๒ ~ จิตบางดวงรู้ได้ (๒.๑๓) อินทรีย์ ๒๒ ~ จิตบางดวงรู้ไม่ได้ (๓) อาสวโคจฉกวิสัชนา= คำตอบด้านกิเลส (อาสวกิเลส คือ กิเลสที่หมักหมม นอนเนื่องทับถมอยู่ในจิต ชุบย้อมจิตให้เศร้าหมอง ให้ขุ่นมัว ให้ชุ่มอยู่เสมอ เกิดจากการสั่งสม ความเคยชิน เรียกย่อว่า อาสวะ มี ๔ อย่าง คือ ~กาม - ความติดใจรักใคร่อยู่ในกามคุณ; ~ภพ - ความติดอยู่ในภพ ความอยากเป็นโน่นเป็นนี่; ~ทิฏฐิ - ความเห็นผิด ความหัวดื้อหัวรั้น; ~อวิชชา ได้แก่ ความไม่รู้จริง ~ความลุ่มหลงมัวเมา (๓.๑) อินทรีย์ ๒๒ ~ ไม่เป็นอาสวะ (๓.๒) อินทรีย์ ๑๐ ~ เป็นอารมณ์ของอาสวะ (๓.๓) อินทรีย์ ๓ ~ ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ ได้แก่ อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์, อัญญินทรีย์, อัญญาตาวินทรีย์ (๓.๔) อินทรีย์ ๙ ~ ที่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี; ที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี (๓.๕) อินทรีย์ ๑๕ ~ วิปปยุตจากอาสวะ (๓.๖) โทมนัสสินทรีย์ ~ สัมปยุตด้วยอาสวะ (๓.๗) อินทรีย์ ๖ ~ ที่สัมปยุตด้วยอาสวะก็มี; ที่วิปปยุตจากอาสวะก็มี (๓.๘) อินทรีย์ ๑๐ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอาสวะและเป็นอารมณ์ของอาสวะ; หรือเป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะ (๓.๙) อินทรีย์ ๓ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอาสวะและเป็นอารมณ์ของอาสวะ; หรือเป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะ (๓.๑๐) อินทรีย์ ๙ ~กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอาสวะและเป็นอารมณ์ของอาสวะ; ที่เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะก็มี (๓.๑๑) อินทรีย์ ๑๕ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอาสวะและสัมปยุตด้วยอาสวะ; หรือสัมปยุตด้วยอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะ (๓.๑๒) โทมนัสสินทรีย์ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอาสวะและสัมปยุตด้วยอาสวะ; หรือสัมปยุตด้วยอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะ (๓.๑๓) อินทรีย์ ๖ ~ กล่าวไม่ได้ว่าเป็นอาสวะและสัมปยุตด้วยอาสวะ; ที่สัมปยุตด้วยอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า สัมปยุตด้วยอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะก็มี (๓.๑๔) อินทรีย์ ๙ ~ วิปปยุตจากอาสวะแต่เป็นอารมณ์ของอาสวะ (๓.๑๕) อินทรีย์ ๓ ~ วิปปยุตจากอาสวะและไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ (๓.๑๖) โทมนัสสินทรีย์ ~ กล่าวไม่ได้ว่า วิปปยุตจากอาสวะแต่เป็นอารมณ์ของอาสวะ; หรือวิปปยุตจากอาสวะและไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ (๓.๑๗) อินทรีย์ ๓ ~ ที่วิปปยุตจากอาสวะแต่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี; ที่วิปปยุตจากอาสวะและไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี (๓.๑๘) อินทรีย์ ๖ ~ ที่วิปปยุตจากอาสวะแต่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี; ที่วิปปยุตจากอาสวะและไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า วิปปยุตจากอาสวะแต่เป็นอารมณ์ของอาสวะ; หรือวิปปยุตจากอาสวะ และไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี (๔) สัญโญชนโคจฉกวิสัชนา (๔.๑) อินทรีย์ ๒๒ ~ ไม่เป็นสังโยชน์ (๔.๒) อินทรีย์ ๑๐ ~ เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ (๔.๓) อินทรีย์ ๓ ~ ไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ (๔.๔) อินทรีย์ ๙ ~ ที่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี; ที่ไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี (๔.๕) อินทรีย์ ๑๕ ~ วิปปยุตจากสังโยชน์ (๔.๖) โทมนัสสินทรีย์ ~สัมปยุตด้วยสังโยชน์ (๔.๗) อินทรีย์ ๖ ~ ที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์ก็มี; ที่วิปปยุตจากสังโยชน์ก็มี (๕.๘) อินทรีย์ ๑๐ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นสังโยชน์และเป็นอารมณ์ของสังโยชน์; หรือเป็นอารมณ์ของสังโยชน์แต่ไม่เป็นสังโยชน์ (๕.๙) อินทรีย์ ๓ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นสังโยชน์และเป็นอารมณ์ของสังโยชน์; หรือเป็นอารมณ์ของสังโยชน์แต่ไม่เป็นสังโยชน์ (๕.๑๐) อินทรีย์ ๙ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นสังโยชน์และเป็นอารมณ์ของสังโยชน์; ที่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์แต่ไม่เป็นสังโยชน์ก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอารมณ์ของสังโยชน์แต่ไม่เป็นสังโยชน์ก็มี (๕.๑๑) อินทรีย์ ๑๕ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นสังโยชน์และสัมปยุตด้วยสังโยชน์; หรือสัมปยุตด้วยสังโยชน์แต่ไม่เป็นสังโยชน์ |
||
|
2
คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
เมื่อ: วันนี้ เวลา 05:50:31 AM
|
||
| เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
|
(ต่อหน้า ๙/๑๕) : ๑๒. อินทริยวิภังค์ (๑๓) ปริตตารัมมณติกวิสัชนา = คำตอบด้านอารมณ์มีกำลังอ่อน ที่เกิดขึ้นชั่วคราว (๑๓.๑) อินทรีย์ ๗ ~ รับรู้อารมณ์ไม่ได้ (๑๓.๒) อินทรีย์ ๒ ~ มีปริตตะเป็นอารมณ์ ได้แก่ สุขินทรีย์ และ ทุกขินทรีย์ (๑๓.๓) อินทรีย์ ๓ ~ มีอัปปมาณะเป็นอารมณ์ (๑๓.๔) โทมนัสสินทรีย์ ~ ที่มีปริตตะเป็นอารมณ์ก็มี; ที่มีมหัคคตะเป็นอารมณ์แต่ไม่มีอัปปมาณะเป็นอารมณ์ก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า มีปริตตะเป็นอารมณ์หรือมีมหัคคตะเป็นอารมณ์ก็มี (๑๓.๕) อินทรีย์ ๙ ~ ที่มีปริตตะเป็นอารมณ์ก็มี; ที่มีมหัคคตะเป็นอารมณ์ก็มี; ที่มีอัปปมาณะเป็นอารมณ์ก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า มีปริตตะเป็นอารมณ์มีมหัคคตะเป็นอารมณ์ หรือมีอัปปมาณะเป็นอารมณ์ก็มี (๑๔) หีนติกวิสัชนา (๑๔.๑) อินทรีย์ ๙ ~ เป็นชั้นกลาง (๑๔.๒) โทมนัสสินทรีย์ ~ เป็นชั้นต่ำ (๑๔.๓) อินทรีย์ ๓ ~ เป็นชั้นประณีต (๑๔.๔) อินทรีย์ ๓ ~ ที่เป็นชั้นกลางก็มี; ที่เป็นชั้นประณีตก็มี (๑๔.๕) อินทรีย์ ๖ ~ ที่เป็นชั้นต่ำก็มี; ที่เป็นชั้นกลางก็มี; ที่เป็นชั้นประณีตก็มี (๑๕) มิจฉัตตติกวิสัชนา (๑๕.๑) อินทรีย์ ๑๐ ~ ไม่แน่นอนโดยอาการทั้งสองนั้น (๑๕.๒) อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ~ มีสภาวะชอบและให้ผลแน่นอน (๑๕.๓) อินทรีย์ ๔ ~ ที่มีสภาวะชอบและให้ผลแน่นอนก็มี; ที่ไม่แน่นอนโดยอาการทั้งสองนั้นก็มี (๑๕.๔)โทมนัสสินทรีย์ ~ ที่มีสภาวะผิดและให้ผลแน่นอนก็มี; ที่ไม่แน่นอนโดยอาการทั้งสองนั้นก็มี (๑๕.๕) อินทรีย์ ๖ ~ ที่มีสภาวะผิดและให้ผลแน่นอนก็มี; ที่มีสภาวะชอบและให้ผลแน่นอนก็มี; ที่ไม่แน่นอนโดยอาการทั้งสองนั้นก็มี (๑๖) มัคคารัมมณติกวิสัชนา (๑๖.๑) อินทรีย์ ๗ ~ รับรู้อารมณ์ไม่ได้ (๑๖.๒) อินทรีย์ ๔ ~ กล่าวไม่ได้ว่า มีมรรคเป็นอารมณ์; มีมรรคเป็นเหตุ; หรือมีมรรคเป็นอธิบดี ได้แก่ สุขินทรีย์, ทุกขินทรีย์, โทมนัสสินทรีย์ และ อัญญาตาวินทรีย์ (๑๖.๓) อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ~ ไม่ใช่มีมรรคเป็นอารมณ์; ที่มีมรรคเป็นเหตุก็มี; ที่มีมรรคเป็นอธิบดีก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า มีมรรคเป็นเหตุ หรือมีมรรคเป็นอธิบดีก็มี (๑๖.๔) อัญญินทรีย์ ~ไม่ใช่มีมรรคเป็นอารมณ์; ที่มีมรรคเป็นเหตุก็มี; ที่มีมรรคเป็นอธิบดีก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า มีมรรคเป็นเหตุ หรือมีมรรคเป็นอธิบดีก็มี (๑๖.๕) อินทรีย์ ๙ ~ ที่มีมรรคเป็นอารมณ์ก็มี; ที่มีมรรคเป็นเหตุก็มี; ที่มีมรรคเป็นอธิบดีก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า มีมรรคเป็นอารมณ์ มีมรรคเป็นเหตุ หรือมีมรรคเป็นอธิบดีก็มี (๑๗) อุปปันนติกวิสัชนา =คำตอบด้าน ธรรมที่บังเกิดขึ้นแล้ว (๑๗.๑) อินทรีย์ ๑๐ ~ ที่เกิดขึ้นก็มี; ที่จักเกิดขึ้นแน่นอนก็มี; แต่กล่าวไม่ได้ว่า ยังไม่เกิดขึ้น (๑๗.๒) อินทรีย์ ๒ ~ ที่เกิดขึ้นก็มี; ที่ยังไม่เกิดขึ้นก็มี; แต่กล่าวไม่ได้ว่า จักเกิดขึ้นแน่นอน (๑๗.๓) อินทรีย์ ๑๐ ~ ที่เกิดขึ้นก็มี; ที่ยังไม่เกิดขึ้นก็มี; ที่จักเกิดขึ้นแน่นอนก็มี (๑๘) อตีตติกวิสัชนา (๑๘.๑) อินทรีย์ ๒๒ ~ที่เป็นอดีตก็มี; ที่เป็นอนาคตก็มี; ที่เป็นปัจจุบันก็มี (๑๙) อตีตารัมมณติกวิสัชนา (๑๙.๑) อินทรีย์ ๗ ~รับรู้อารมณ์ไม่ได้ (๑๙.๒) อินทรีย์ ๒ ~ มีปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ (๑๙.๓) อินทรีย์ ๓ ~ กล่าวไม่ได้ว่า มีอดีตธรรมเป็นอารมณ์; มีอนาคตธรรมเป็นอารมณ์; หรือ มีปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ (๑๙.๔) อินทรีย์ ๑๐ ~ ที่มีอดีตธรรมเป็นอารมณ์ก็มี; ที่มีอนาคตธรรมเป็นอารมณ์ก็มี; ที่มีปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า มีอดีตธรรมเป็นอารมณ์ มีอนาคตธรรมเป็นอารมณ์ หรือมีปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ก็มี (๒๐) อัชฌัตตติกวิสัชนา = คำตอบด้าน ธรรมที่นำมาปฏิบัติเพื่อตนเอง (๒๐.๑) อินทรีย์ ๒๒ ~ ที่เป็นภายในตนก็มี; ที่เป็นภายนอกตนก็มี; ที่เป็นภายในตน และภายนอกตนก็มี (๒๑) อัชฌัตตารัมมณติกวิสัชนา = คำตอบด้านอารมณ์ภายใน-นอกตน (๒๑.๑) อินทรีย์ ๗ ~ รับรู้อารมณ์ไม่ได้ ได้แก่ จักขุนทรีย์, โสตินทรีย์, ฆานยินทรีย์, ชิวหินทรีย์, กายินทรีย์, อิตถินทรีย์, ปุริสินทรีย์ (๒๑.๒) อินทรีย์ ๓ ~ มีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ (๒๑.๓) อินทรีย์ ๔ ~ ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ก็มี; ที่มีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี; ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี ได้แก่ สุขินทรีย์, ทุกขินทรีย์, โสมนัสสินทรีย์ และ อุเปกขินทรีย์ (๒๑.๔) อินทรีย์ ๘ ~ ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ก็มี; ที่มีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี; ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ มีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ำ หรือมีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี ได้แก่ มนินทรีย์, ชีวิตินทรีย์, อุเปกขินทรีย์, สัทธินทรีย์, วิริยินทรีย์, สตินทรีย์, สมาธินทรีย์ และ ปัญญินทรีย์ (๒๒) สนิทัสสนติกวิสัชนา (๒๒.๑) อินทรีย์ ๕ ~ เห็นไม่ได้แต่กระทบได้ (๒๒.๒) อินทรีย์ ๑๗ ~ เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้ ทุกมาติกาวิสัชนา = คำตอบหมวดละสอง (๑) เหตุโคจฉกวิสัชนา = คำตอบเกี่ยวกับเหตุเกิด (๑.๑) อินทรีย์ ๔ ~ เป็นเหตุ ได้แก่ วิริยินทรีย์; สตินทรีย์; สมาธินทรีย์; ปัญญินทรีย์ (๑ ๒) อินทรีย์ ๑๘ ~ไม่เป็นเหตุ (๑.๓) อินทรีย์ ๗ ~ มีเหตุ (๑.๔) อินทรีย์ ๙ ~ ไม่มีเหตุ (๑.๕) อินทรีย์ ๖ ~ ที่มีเหตุก็มี; ที่ไม่มีเหตุก็มี (๑.๖) อินทรีย์ ๗ ~ สัมปยุตด้วยเหตุ (๑.๗) อินทรีย์ ๙ ~ วิปปยุตจากเหตุ (๑.๘) อินทรีย์ ๖ ~ ที่สัมปยุตด้วยเหตุก็มี; ที่วิปปยุตจากเหตุก็มี (๑.๙) อินทรีย์ ๔ ~ เป็นเหตุและมีเหตุ (๑.๑๐) อินทรีย์ ๙ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นเหตุและมีเหตุ หรือมีเหตุแต่ไม่เป็นเหตุ (๑.๑๑) อินทรีย์ ๓ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นเหตุและมีเหตุ; หรือมีเหตุแต่ไม่เป็นเหตุ (๑.๑๒) อินทรีย์ ๖ ~ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นเหตุและมีเหตุ; ที่มีเหตุแต่ไม่เป็นเหตุก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า มีเหตุแต่ไม่เป็นเหตุก็มี (๑.๑๓) อินทรีย์ ๔ ~ เป็นเหตุและสัมปยุตด้วยเหตุ |
||
|
3
เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 08:51:56 PM
|
||
| เริ่มโดย คนเรียนไพร - กระทู้ล่าสุด โดย คนเรียนไพร | ||
![]() ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดย คนเรียนไพร ชีวิต เช้ายันค่ำ ดื่มด่ำ ทำความดี เป็นสักขี ชาวโลก ได้สุขสม ไม่เบียดเบียน ชีวิต จิตตรอมตรม ไร้ขื่นขม ชื่นชม สมอุรา เริ่มวันจันทร์ มุ่งมั่น ทำการงาน วันอังคาร สืบสาน แสวงหา ถึงวันพุธ ไม่ยั้งหยุด สร้างปัญญา เมื่อถึงครา พฤหัสฯ เป็นหลักชัย ครั้นวันศุกร์ เสริมใจ ไม่มัวเมา ถึงวันเสาร์ เรียนรู้ ร่วมสมัย วันอาทิตย์ คิดสิ่งดี เต็มหทัย ให้สดใส ในชีวิต จิตนิยม ทั้งเจ็ดวัน หนึ่งสัปดาห์ พาสำราญ ปณิธาน ดำรงไว้ ไร้ขื่นขม ทุกชีวิต ร่วมโลก สุขพร่างพรม สร้างสังคม คนดี ศรีโลกา คนเรียนไพร ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ |
||
|
4
คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 07:54:23 PM
|
||
| เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
|
(ต่อหน้า ๘/๑๕) : ๑๒. อินทริยวิภังค์ (๔) อุปาทินนติกวิสัชนา (๔.๑) อินทรีย์ ๙ ~ กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน (๔.๒)โทมนัสสินทรีย์ ~ กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน (๔.๓) อินทรีย์ ๓ ~ กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ได้แก่ สัทธินอินทรีย์, สมาธินทรีย์ และ วิริยินทรีย์ (๔.๔) อินทรีย์ ๙ ~ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี; ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี; ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี (๕) สังกิลิฏฐติกวิสัชนา = คำตอบด้านกิเลส (๕.๑) อินทรีย์ ๙ ~ กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลส (๕.๒)โทมนัสสินทรีย์ ~ กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลส (๕.๓) อินทรีย์ ๓ ~ กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง และไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส (๕.๔) อินทรีย์ ๓ ~ ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี; ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี (๕.๕) อินทรีย์ ๖ ~ ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี; ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี; ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี ได้แก่ จักขุนทรีย์, โสตินทรีย์, ฆานยินทรีย์, ชิวหินทรีย์, กายินทรีย์, มนินทรีย์ (๖) สวิตักกติกวิสัชนา (๖.๑) อินทรีย์ ๙ ~ ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร (๖.๒) โทมนัสสินทรีย์ ~ มีทั้งวิตกและวิจาร (๖.๓) อุเปกขินทรีย์ ~ ที่มีทั้งวิตกและวิจารก็มี; ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารก็มี (๖.๔) อินทรีย์ ๑๑ ~ ที่มีทั้งวิตกและวิจารก็มี; ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารก็มี; ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารก็มี (๗) ปีติติกวิสัชนา (๗.๑) อินทรีย์ ๑๑ ~ กล่าวไม่ได้ว่า สหรคตด้วยปีติ; สหรคตด้วยสุข; หรือสหรคตด้วยอุเบกขา ได้แก่ จักขุนทรีย์, โสตินทรีย์, ฆานยินทรีย์, ชิวหินทรีย์, กายินทรีย์, มนินทรีย์, สุขินทรีย์, ทุกขินทรีย์, โสมนัสสินทรีย์ และ โทมนัสสินทรีย์ (๗.๒) โสมนัสสินทรีย์ ~ ที่สหรคตด้วยปีติแต่ไม่สหรคตด้วยสุขและไม่สหรคตด้วยอุเบกขาก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า สหรคตด้วยปีติก็มี (๗.๓) อินทรีย์ ๖ ~ ที่สหรคตด้วยปีติก็มี; ที่สหรคตด้วยสุขก็มี ที่สหรคตด้วยอุเบกขาก็มี (๗.๔) อินทรีย์ ๔ ~ ที่สหรคตด้วยปีติก็มี; ที่สหรคตด้วยสุขก็มี; ที่สหรคตด้วยอุเบกขาก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า สหรคตด้วยปีติ สหรคตด้วยสุข หรือสหรคตด้วยอุเบกขาก็มี (๘) ทัสสนติกวิสัชนา (๘.๑) อินทรีย์ ๑๕ ~ ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน ๓ (๘.๒) โทมนัสสินทรีย์ ~ ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี; ที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี ~มรรคเบื้องบน ๓ = สกิทาคามิมรรค, อนาคามิมรรค และ อรหัตตมรรค (๘.๓) อินทรีย์ ๖ ~ ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี; ที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี; ที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี (๙) ทัสสนเหตุติกวิสัชนา (๙.๑) อินทรีย์ ๑๕ ~ ไม่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน ๓ (๙.๒) โทมนัสสินทรีย์ ~ ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี; ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี (๙.๓) อินทรีย์ ๖ ~ ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี; ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี; ที่ไม่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี (๑๐) อาจยคามิติกวิสัชนา (๑๐.๑) อินทรีย์ ๑๐ ~ ไม่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิ จุติ และนิพพาน (๑๐.๒) โทมนัสสินทรีย์ ~ เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิและจุติ (๑๐.๓) อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ~ เป็นเหตุให้ถึงนิพพาน (๑๐.๔) อัญญินทรีย์ ~ ที่เป็นเหตุให้ถึงนิพพานก็มี; ที่ไม่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิ จุติ และนิพพานก็มี (๑๐.๕) อินทรีย์ ๙ ~ ที่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิและจุติก็มี; ที่เป็นเหตุให้ถึงนิพพานก็มี; ที่ไม่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิ จุติ และนิพพานก็มี (๑๑) เสกขติกวิสัชนา (๑๑.๑) อินทรีย์ ๑๐ ~ ไม่เป็นของเสขบุคคลและอเสขบุคคล (๑๑.๒) อินทรีย์ ๒ ~ เป็นของเสขบุคคล (๑๑.๓) อัญญาตาวินทรีย์ ~ เป็นของอเสขบุคคล (๑๑.๔) อินทรีย์ ๙ ~ ที่เป็นของเสขบุคคลก็มี; ที่เป็นของอเสขบุคคลก็มี; ที่ไม่เป็นของเสขบุคคลและอเสขบุคคลก็มี (๑๒) ปริตตติกวิสัชนา (๑๒.๑) อินทรีย์ ๑๐ ~ เป็นปริตตะ - ธรรมด้อย (๑๒.๒) อินทรีย์ ๓ ~ เป็นอัปปมาณะ-ประมาณไม่ได้ (๑๒.๓) อินทรีย์ ๙ ~ ที่เป็นปริตตะก็มี; ที่เป็นมหัคคตะก็มี; ที่เป็นอัปปมาณะก็มี ได้แก่ มนินทรีย์, ชีวิตินทรีย์,โสมนัสสินทรีย์, อุเปกขินทรีย์, สัทธินทรีย์, วิริยินทรีย์, สตินทรีย์, สมาธินทรีย์ และ ปัญญินทรีย์ |
||
|
5
คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 07:51:06 PM
|
||
| เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
|
(ต่อหน้า ๗/๑๕) : ๑๒. อินทริยวิภังค์ (๒๑) อัญญินทรีย์ = เป็นไฉน ปัญญา; กิริยาที่รู้ชัด; ฯลฯ ความไม่หลงงมงาย; ความเลือกเฟ้นธรรม; สัมมาทิฏฐิ; ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์อันเป็นองค์มรรค นับเนื่องในมรรค เพื่อรู้ธรรมที่รู้แล้ว,เพื่อเห็นธรรมที่เห็นแล้ว, เพื่อบรรลุธรรมที่บรรลุแล้ว, เพื่อทราบธรรมที่ทราบแล้ว,เพื่อทำให้แจ้งธรรมที่ทำให้แจ้งแล้วนั้นๆ, นี้เรียกว่า อัญญินทรีย์ (อินทรีย์ คือ การตรัสรู้สัจจธรรมด้วยมรรค ได้แก่ โสดาปัตติผล, สกทาคามิมรรค, สกทาคามิผล, อนาตามิมรรค, อนาคามิผล, อรหัตตมรรค) โพชฌงค์ ๗= คือธรรมที่เป็นองค์แห่งการตรัสรู้ (๒๑.๑) สติ (สติสัมโพชฌงค์) - ความระลึกได้ สำนึกพร้อมอยู่ ใจอยู่กับกิจ จิตอยู่กับเรื่อง (๒๑.๒) ธัมมวิจยะ (ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์) - ความเฟ้นธรรม ความสอดส่องสืบค้นธรรม (๒๑.๓) วิริยะ (วิริยสัมโพชฌงค์) - ความเพียร (๒๑.๔) ปีติ (ปีติสัมโพชฌงค์) - ความอิ่มใจ (๒๑.๕) ปัสสัทธิ (ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์) - ความสงบกายใจ (๒๑.๖) สมาธิ (สมาธิสัมโพชฌงค์) - ความมีใจตั้งมั่น จิตแน่วในอารมณ์ (๒๑.๗) อุเบกขา (อุเบกขาสัมโพชฌงค์) - ความมีใจเป็นกลาง เพราะเห็นตามเป็นจริง (๒๒) อัญญาตาวินทรีย์ = เป็นไฉน ปัญญา; กิริยาที่รู้ชัด; ฯลฯ ความไม่หลงงมงาย; ความเลือกเฟ้นธรรม; สัมมาทิฏฐิ; ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ อันเป็นองค์มรรค นับเนื่องในมรรค เพื่อรู้ธรรมที่รู้ทั่วแล้ว, เพื่อเห็นธรรมที่เห็นแล้ว, เพื่อบรรลุธรรมที่บรรลุแล้ว, เพื่อทราบธรรมที่ทราบแล้ว, เพื่อทำให้แจ้ง ธรรมที่ทำให้แจ้งแล้ว นั้นๆ นี้เรียกว่า อัญญาตาวินทรีย์ (คือ อินทรีย์ของพระอรหันต์ผู้ตรัสรู้สัจจธรรมแล้ว) อภิธรรมภาชนีย์ จบ ปัญหาปุจฉกะ = การตอบคำถาม อินทรีย์ ๒๒ = คือ (๑) จักขุนทรีย์ (๒) โสตินทรีย์ (๓) ฆานินทรีย์ (๔) ชิวหินทรีย์ (๕) กายินทรีย์ (๖) มนินทรีย์ (๗) อิตถินทรีย์ (๘) ปุริสินทรีย์ (๙) ชีวิตินทรีย์ (๑๐) สุขินทรีย์ (๑๑) ทุกขินทรีย์ (๑๒) โสมนัสสินทรีย์ (๑๓) โทมนัสสินทรีย์ (๑๔) อุเปกขินทรีย์ (๑๕) สัทธินทรีย์ (๑๖) วิริยินทรีย์ (๑๗) สตินทรีย์ (๑๘) สมาธินทรีย์ (๑๙) ปัญญินทรีย์ (๒๐) อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ (๒๑) อัญญินทรีย์ (๒๒) อัญญาตาวินทรีย์ ทุกมาติกาปุจฉา = คำถาม แจงหมวดละสอง บรรดาอินทรีย์ ๒๒ อินทรีย์เท่าไรเป็นกุศล เท่าไรเป็นอกุศล เท่าไร เป็นอัพยากฤต ฯลฯ เท่าไรเป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ เท่าไรไม่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ ติกมาติกาวิสัชนา (๑) กุสลติกวิสัชนา =คำตอบด้านกุศล (๑.๑) อินทรีย์ ๑๐ ~ เป็นอัพยากฤต เป็น กลางๆ ได้แก่ จักขุนทรีย์, โสตินทรีย์, ฆานยินทรีย์, ชิวหินทรีย์, กายินทรีย์, อิตถินทรีย์ ปุริสินทรีย์, สุขินทรีย์, ทุกขินทรีย์, และ อัญญาตาวินทรีย์ (๑.๒) โทมนัสสินทรีย์ ~ เป็นอกุศล (๑.๓) อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ~ เป็นกุศล (๑.๔) อินทรีย์ ๔ ~ ที่เป็นกุศลก็มี ที่เป็นอัพยากฤตก็มี ได้แก่ สัทธินทรีย์, วิริยินทรีย์, สตินทรีย์, และ ปัญญินทรีย์ (๑.๕) อินทรีย์ ๖ ~ ที่เป็นกุศลก็มี ที่เป็นอกุศลก็มี; ที่เป็นอัพยากฤตก็มี ได้แก่ จักขุนทรีย์, โสตินทรีย์, ฆานยินทรีย์, ชิวหินทรีย์, กายินทรีย์, มนินทรีย์ (๒) เวทนาติกวิสัชนา = คำตอบด้านเวทนา (๒.๑) อินทรีย์ ๑๒ ~ กล่าวไม่ได้ว่า สัมปยุตด้วยสุขเวทนา; สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา; หรือสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา (๒.๒) อินทรีย์ ๖ ~ ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาก็มี; ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาก็มี (๒.๓) อินทรีย์ ๓ ~ ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาก็มี; ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาก็มี; ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาก็มี ได้แก่ สุขินทรีย์, ทุกขินทรีย์ และ โสมนัสสินทรีย์ (๒ ๔) ชีวิตินทรีย์~ ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาก็มี; ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาก็มี; ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาก็มี; ที่กล่าวไม่ได้ว่า สัมปยุตด้วยสุขเวทนา สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา หรือสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาก็มี (๓) วิปากติกวิสัชนา = คำตอบด้านวิบาก (๓.๑) อินทรีย์ ๗ ~ ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก (๓.๒) อินทรีย์ ๓ ~ เป็นวิบาก (๓.๓) อินทรีย์ ๓ ~ เป็นวิปากธรรม ได้แก่ ทุกขินทรีย์ สุขินทรีย์ อัญญาตาวินทรีย์ (๓.๔) อินทรีย์ ๒ ~ เป็นเหตุให้เกิดวิบาก (๓.๕) อินทรีย์ ๒ ~ เป็นวิปากธัมมธรรม คือ เป็นธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก คือโทมนัสสินทรีย์ กับ อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ (๓.๖) อัญญินทรีย์ ~ ที่เป็นวิบากก็มี; ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากก็มี (๓.๗) อินทรีย์ ๙ ~ ที่เป็นวิบากก็มี; ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากก็มี; ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากก็มี (๓.๘) อินทรีย์ ๙ ~ ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ได้แก่ จักขุนทรีย์, โสตินทรีย์, ฆานยินทรีย์, ชิวหินทรีย์, กายินทรีย์, มนินทรีย์, ชีวิตินทรีย์, สัทธินทรีย์, วิริยินทรีย์ |
||
|
6
เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 07:29:33 PM
|
||
| เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย ฝาตุ่ม | ||
|
เขาแกล้งบังกันทำไมก็ไม่รู้ บังเขาไม่ชอบหมูดูทำด้าย ![]() |
||
|
7
เมื่อ: 15, พฤศจิกายน, 2568, 08:50:58 PM
|
||
| เริ่มโดย คนเรียนไพร - กระทู้ล่าสุด โดย คนเรียนไพร | ||
![]() ความรัก โดย นายใบชา สื่อสังคม หากโลกนี้ ไม่มี สื่อสังคม คงสุขสม ชมชื่น รื่นหรรษา ไร้เสแสร้ง กลั่นแกล้ง โลกมายา บูรณา จิตใจ ให้คล้ายคน มีรอยยิ้ม แก่กัน ทั้งวันคืน สุขสดชื่น แท้จริง ทุกแห่งหน สังคมดี ไร้แก่งแย่ง แบ่งชั้นชน ทุกมณฑล สิ้นยากไร้ ใจเมตตา เป็นสังคม เกื้อกูล พูนสุขสันต์ หฤหรรษ์ ดั่งใจ ปรารถนา ไร้สงคราม ไร้ทุกข์ สุขอุรา แสวงหา แต่สิ่งดี มีแบ่งปัน โลกวันนี้ ห่างไกล จากที่คิด ทั่วทุกทิศ แก่งแย่ง ล้วนแข่งขัน หวังประหัต อริราช ให้จาบัลย์ ไม่มีวัน ได้พานพบ ประสบชัย คนเรียนไพร ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ |
||
|
8
เมื่อ: 15, พฤศจิกายน, 2568, 08:34:14 PM
|
||
| เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล | ||
|
9
เมื่อ: 15, พฤศจิกายน, 2568, 08:24:05 PM
|
||
| เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล | ||
|
สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ มีตัวอะไรมาอวด แอ่นแอ้นนนนนน สาวน้อยสามสี ตั้งชื่อเขา ไข่เจียว จ้าาา ![]() ได้มาตั้งแต่วันที่ ๕ กันยายน ละ ขนชี้โด่ชี้เด่เชียว หูกางเบ้อเว่อ เรานะขับรถอยู่ดี ๆ เห็นตัวอะไรอยู่ขอบ ๆ ถนน เลยจอดรถไปเบิ่งหน่อยจ้า เห็นเป็นแมวน้อย รถเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา น่าหวาดเสียว เราเลยไปอุ้มมา ตัวสั่นผาบๆๆๆ เลยเธอ เอาไงดี จำเป็นต้องพามาบ้านสมุนไข่ กะว่าจะให้ป้าไข่ไก่เอ้ย บ่แม่น ไปเรียกเขาป้า เดี๋ยวโดนเคือง กะว่าจะให้พี่ไข่ไก่เลี้ยง กลายเป็นว่า ไม่ชอบน้อง เพราะน้องสายโหด กัดด่ะ กัดไม่ปล่อย กัดทุกอย่างที่เคลื่อนไหว ซนเป็นลิง พี่ไข่ไก่ไม่แฮปปี้ พาไปหาพี่ไข่ปิ้ง ก็ไม่ชอบ ทำไงดี ![]() เลยต้องแยกกันไว้ เพราะถ้าเจอพี่ไข่ไก่ หล่อนก็จะกระโดดขี่คอ แล้วกัดอย่างมัวเมาไม่สนใจว่า ไข่ไก่จะขู่ จะตบ หล่อนไม่สน ไม่อยากบอกเลยว่า ตอนนี้ ร่างกายเราแขนขา มีแต่รอยเล็บแมว จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ไข่ไก่ก็ยอมรับน้องบ้างแล้ว แต่ก็จะขู่ตอนที่น้องกระโดดขี่คอ ไปทำความรู้จักกับคุณยายไข่ตุ๋น "ยายๆๆ หนูฝากตัวด้วยนะ อย่ากัดหนูนะยาย" ไข่ตุ๋นก็ตอบ "เรียกยาย เดี๋ยวกัดซะนี่ เออๆๆ อยู่ดี ๆ อย่าซนละกัน" ![]() กลางวันไข่ ๆ เขาหลับกัน หนูก็แอบมานอนหน้าห้อง สบ้ายสบาย ![]() บางวันก็มานอนเตียงพี่ไข่ไก่เขา นอนซะเขาไม่นอนเลย ![]() บางวันก็ไปนั่งดูพี่ไข่ปิ้งทำไรบ้าง เพื่อเป็นการเรียนรู้ "อ๋อ แมวต้องทำแบบนี้เหรอ" ![]() บางเวลาก็เปลี่ยนไปศึกษาชีวิตแมวป้า การนั่งมองไรนาน ๆ ต้องใช้สมาธิมากโขเนาะ ![]() กับตะกร้าของเราใบนี้ ไม่รู้เป็นอะไร เห็นแล้วต้องมาทำโค่นตลอด กระโดดเข้าไป นอนดิ้นไปดิ้นมา จนมันโค่น ดีนะ เอามือถือกับแท็บแล๊ตออกแล้ว แล้วมีอะไรในตะกร้าบ้างน่อ มาดูกันนิ ![]() มีเครื่องเจาะปลายนิ้ววัดน้ำตาลจ้า ที่วงแดงคือ ลูกโปร่งวิทยาศาสตร์ เราไปซื้อที่งานถนนคนเดินแถวบ้านเรานี่แหละ ชนบท(บ้านนอก)ยังมีขายอยู่ หลอดละ ๑๐ บาท จริง ๆ มีแค่ครึ่งหลอดเองเธอ เป่าได้ประมาณ ๓-๔ ครั้งเอง แต่เห็นก็ซื้อทุกครั้งไป ชอบเป่าอ่ะ ![]() นุดยังคุยไม่เสร็จอีกเหรอ แมวจะนอน ![]() จ้า ๆๆ ฝอยเสร็จแล้วจ้าาา สำหรับค่ำคืนนี้ ขอให้เพื่อน ๆ นอนหลับฝันดี ฝันเห็นผี เอ้ยบ่แม่น ก่อนนอนคืนนี้ คิดถึงกันบ้างนะคะ ฝันดีราตรีสวัสดิ์ค่ะ |
||
|
10
คำประพันธ์ แยกตามประเภท / โคลง-กาพย์-ฉันท์-ร่าย-ลิลิต / Re: ...-๐ นานาเครื่องจิ้มไทย จัดสำรับ กาพย์ห่อโคลง ๐-...
เมื่อ: 15, พฤศจิกายน, 2568, 07:03:26 PM
|
||
| เริ่มโดย Black Sword - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword | ||
















