Username:

Password:


  • บ้านกลอนน้อยฯ
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล >> กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
หน้า: [1] 2 3 ... 10
 1 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
 เมื่อ: วันนี้ เวลา 07:35:01 AM 
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร

(ต่อหน้า ๗/๑๘) : ๑๓. วิภังค์ : ปัจจยาการวิภังค์

       ๑๓๘."วิญญาณ"ปัจจัย........ประกอบร่วมไซร้........กับ"นาม"แน่เชียว
นามรู้อารมณ์....ได้ชมเฉลียว....จากวิญญาณเปรียว....หก"อายะฯ"แล

    ๑๓๙.ก็"ตา,จักขุฯ"โสตฯท้น..........................สุวคนธ์จมูกแฉ
"ชิวหาฯและกายฯ"หทยะแล้.............................มโนวิญญ์ฯสิใจรู้

    ๑๔๐.นาม:เจตสิกไซร้.........ปัจจัยร่วมไว......."มนายะฯหก"พรู
เหตุผลซึ่งกัน....นามนั้นไร้กรู....โลภ,โกรธ,หลงชู....ช่วยมนายะพา

    ๑๔๑.ก็นามมีวิตกพาน...................................และวิจารลุเวท์นา
ศรัทธา,ฉลาดวิริยะหนา....................................ลุช่วยเหลือมนาฯเอย

    ๑๔๒.มนายตนะ.......เหตุประกอบปะ........กับผัสสะเอ่ย
สามสิ่งกระทบ....ครบอายะฯเผย....ใน-นอก,วิญญ์ฯเชย....ผัสสะเกิดแล

    ๑๔๓.กระทบผัสสะรู้สึก.................................สุขะตรึกรึทุกข์แฉ
สุขทุกข์สิไร้เจาะนิรแท้......................................ซิกลาง,เวทนาเผย

    ๑๔๔."เวทนา"รู้ตรึง.......ยินดีคะนึง.......เกิด"ตัณหา"เอย
อยากด้วยติดใจ....ชอบไซร้จนเคย.....ตัณหาเกิดเอ่ย....จากรู้สึกครัน

    ๑๔๕.เพราะ"ตัณหา"สิปัจจัย...........................วสะได้รตีพลัน
เกิดยึดมิปล่อยตริธุวมั่น.....................................หทัยเกิด"อุปาทาน"

    ๑๔๖."อุปาทาน"ถือ........ยึดสิ่งนั้นครือ.......เป็นของตนพาน
เกิดความเคยชิน....ยินดีสภาพกานต์....เกิด"ภพ"หน้าขาน....เกิดวนเวียนไป

    ๑๔๗.เพราะ"ภพ"แหล่งอุบัติชัด........................ศยะสัตว์เจาะ"ชาติ"ไซร้
ผลกรรมจะนำลุภวไว..........................................จะมี"ภพ"เหมาะตนเผย

    ๑๔๘."ชาติ"เป็นปัจจัย.......เมื่อเกิดแล้วไว........ชรา,ตายตามเอย
ตามธรรมชาติ....กายยาตรเสื่อมเปรย....แล้วสิ้นสูญเลย....เป็นวงจรแล

    ๑๔๙.ผิ"สองสัมปยุตต์ฯ"กิจ.............................เจาะ"อวิชช์ฯ"มิรู้แฉ
ความจริงประเสริฐอริยะฯแท้...............................กุ"สังขาร"เลอะเลือนปรุง

    ๑๕๐."สังขาร"เหตุนำ.........ปรุงแต่งผิดถลำ.......วิญญาณรู้ผลุง
ผิดตามสังขาร....วิญญาณกอปรผดุง....รอบรู้บำรุง....ด้วยสังขารเอย

    ๑๕๑.เพราะ"วิญญาณ"สิเหตุผลาม....................ภวนามประกอบเอ่ย
วิญญาณก็จิตจะหิตะเผย.....................................กะนาม,เจตสิกแล

    ๑๕๒."นาม"คือจิต,มโน-.......วิญญาณธาตุโผล่........ประกอบร่วมแน่
กับนามธรรมอื่น....มีดื่นเหมาะแล้....กระทบร่วมแท้....เกิด"ผัสสะ"มา

    ๑๕๓.เพราะมี"ผัสสะ"ชี้จบ................................ตริกระทบซิรู้หนา
เกิด"เวทนา"ลุสุขะกล้า........................................ลุทุกข์หรือเจาะเฉยเฉย

    ๑๕๔."เวทนา"ปัจจัย.......รู้สึกเกิดไซร้.......ในกามคุณเอ่ย
เพลิดเพลินรูป,รส....คิดจดเพิ่มเอ่ย....."อยาก,ตัณหา"เกย....ร่วมเกิดเร็วพาน

    ๑๕๕.เพราะ"ตัณหา"สิปัจจัย............................ภวไซร้"อุปาทาน"
ได้สิ่งซิครบก็ธุวขาน...........................................เจาะยึดมั่นวะของตน

    ๑๕๖.เหตุ"อุปาทาน"........ยึดทุกสิ่งกราน.......ก่อ"ภพ"เกิดดล
ยึดติดเหล่านี้....ก็ชี้เวียนวน....สังสารวัฏผล....มีภพหน้าแล

   ๑๕๗.เพราะภพหน้าอุบัติยาตร...........................ภว"ชาติ"เกาะเกี่ยวแน่
เจต์นาและจิตลุขณะแฉ.......................................ณ ภพนี้จะไปไกล

    ๑๕๘."ชาติ"เป็นเหตุนา.......ชรา,ตายมีหนา........กฏธรรมชาติไข
"ธัมมัฏฯ"ตั้งจด....กฏ"ธัมม์นิฯ"ไว...."อิทัปปัจจ์ฯ"ไซร้....เกิดด้วยเหตุแล

    ๑๕๙.เจาะสาม"สัมปยุตต์ฯ"กิจ..........................เพราะ"อวิชช์ฯ"มิรู้แท้
ความจริงประเสริฐอริยะแล้..................................ลุ"สังขาร"ซิกรรมหลาย

    ๑๖๐."สังขาร"ปัจจัย.........เกิด"วิญญาณ"ไซร้.......ด้วยสังขารฉาย
ทำกรรมชั่ว,ดี....ชี้"จิต"รับกราย....ปฏิสนธิ์วิญญ์ฯพราย....เกิดภพหน้าดล

 2 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 03:18:02 PM 
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร

(ต่อหน้า ๖/๑๘) : ๑๓. วิภังค์ : ปัจจยาการวิภังค์

    ๑๑๕.เพราะ"เวท์นา"สิสาเหตุ...........................วสะเจตน์เจาะตัณหา
รู้สึกรตีซิพหุกล้า................................................ลุตัณหาเพราะเวท์นา

    ๑๑๖."ตัณหา,อยาก"ฉาน........ยิ่งแสวงหาพาน.......ได้แล้วชอบหนา
จึงเกิดยึดมั่น....ดั้น"อุปาฯ"กล้า....เพราะมีตัณหา...."อยาก"เป็นเหตุนำ

    ๑๑๗."อุปาทาน"สิเหตุจบ.................................ภว"ภพ"อุบัติพร่ำ
ยึดติดอุปาฯและจะกระทำ...................................ซิกรรมหลายเจาะ"ภพ"วน

    ๑๑๘."ภพ"ที่อาศัย.......สัตว์ทำกรรมไซร้........ดี,ชั่วบ้างผล
ตายแล้วจึงไป....ภพใหม่ต่างยล....ภพปัจจัยด้น...."ชาติ"เกิดจึงมี

    ๑๑๙.เพราะ"ชาติ"เหตุชราล้า...........................มรณาซิแน่ชี้
มีเกิดก็ต้องชิระฉะนี้............................................มฤตตามเผชิญหนา

    ๑๒๐.เหตุจตุกกะ.........มีสี่ตอนปะ.......เริ่ม"อวิชชา"
ความไม่รู้จริง....ยิ่งอริย์สัจจ์กล้า....เกิดปรุงแต่งพา....เหตุ"สังขาร"แล

    ๑๒๑.เพราะ"สังขาร"สิก่อผล.............................อกุศล,กุศลแน่
"วิญญาณ"ปฐมก็ภวแน่.........................................อุบัติเด่นเพราะสังขาร

    ๑๒๒."วิญญาณ"เหตุดั้น.......รูปขันธ์,นามขันธ์........ให้บังเกิดพาน
"นามรูป"เหตุมี....ชี้เพราะวิญญาณ....วิญญาณเกิดกราน....เพราะนามรูปพรู

    ๑๒๓.เพราะ"นามรูป"สินำมา...............................เจาะ"สฬายะฯ"ตา,หู..
แต่เกิดและรู้ลุภวกรู..............................................กระทำงานลุล่วงหนา

    ๑๒๔.ทางติดต่อสม.......รูป,ธรรมารมณ์.......ประสานงานพา
เกิดวิญญาณครบ....รู้จบสิ่งคว้า.....นามรูปนี้นา....ก่อสฬายะฯแล
 
    ๑๒๕.เพราะ"อายาตะฯ"ที่หก..............................มนะปรกก็ใจแฉ
ก่อผัสสะ,"อายาตะฯ"แล้........................................ซิใน-นอกกระทบหนา

    ๑๒๖.วิญญาณทางใจ........เกิดรู้สึกไซร้.......สุข,ทุกข์,เฉยมา
มนายตนะ....ปะปัจจัยกล้า....เกิดกระทบพา....เหตุผัสสะเอย

   ๑๒๗.เพราะมีผัสสะเหตุคุม.................................จะประชุมสิสามเอ่ย
ด้วยอายะฯในและพหิเผย.....................................กะวิญญาณลุเวท์นา

    ๑๒๘.กระทบสามสิ่ง.......พลันรู้เวท์นาจริง........สุขเวทนาหนา
ทุกข์เวท์นาเอย....เผยอุเบกขา....เรียกเวท์นาว่า....ผล"ผัสสะ"มี

    ๑๒๙.เพราะเวทนาสิรู้สึก..................................สตินึกและยินดี
เกิด"อยาก"จิรังลุฐิติชี้..........................................เจาะ"ตัณหา"เพราะเวท์นา

    ๑๓๐."ตัณหา"คิดอยาก........."อุปาทาน"มาก.......ยึดเพราะอยากพา
สิ่งนั้นของเรา....เฝ้ายึดทุกข์มา...."อยาก"เหตุยึดหนา....เกิดอุปาทาน

   ๑๓๑."อุปาทาน"สิยึดมั่น.....................................ภวดั้นซิ"ภพ"พาน
กอปรกรรมซิมายเจาะพละขาน.............................จะก่อภพอุบัติตาม

    ๑๓๒."ภพ"เป็นปัจจัย.......จิตครานี้ไซร้........ยึดมั่นตนลาม
เร่าร้อนเป็นทุกข์....เหตุรุกเกิดความ....คือ"ชาติ"แน่ผลาม....ในภพต่อไป

    ๑๓๓.เพราะ"ชาติ"แน่วสิเกิดหนา........................ก็ชรา,มฤตไว
เศร้าโศกพิไรปกติไซร้..........................................เพราะเป็นธรรมชาติแล

    ๑๓๔.สัมปยุตต์ฯแจก.......ตอนที่หนึ่งแตก.......ความไม่รู้แฉ
คือ"อวิชชา"....เหตุพาเกิดแท้.....สังขารปรุงแน่....กาย,วาจา,ใจ

    ๑๓๕.กระทำผิดมิรู้จริง......................................มทะดิ่งและยึดไว้
สังขารประภพก็เพราะหทัย...................................ประกอบด้วยอวิชชา

    ๑๓๖."สังขาร"ปัจจัย........เหตุวิญญาณไซร้.......ร่วมสังขารหนา
อภิสังขาร....กรานดี,ชั่วมา....ผลกรรมส่งพา....วิญญาณเกิดพาน

   ๑๓๗.ณ ภพหน้าเพราะ"ปรุง"ดล.........................ปฏิสนธิวิญญาณ
วิญญาณสิเกิดภวประสาน....................................กะสังขารซิแท้เทียว

 3 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / ღ จูบแล้วลา ღ
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 02:49:08 PM 
เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล



        ღ จูบแล้วลา ღ

รอยจูบยังคงเยือนไม่เลือนหาย
แต่คนรักเคลื่อนคลายไปจากฝัน
คำสัญญาเอ่ยไว้ในคืนวัน
กลายเป็นความผกผัน...ที่ไม่จริง

รวงข้าวเอนอ่อนโลมเมื่อลมพัด
เหมือนใจที่โดนซัดซบแน่นิ่ง
มองทางที่เธอไปเหตุใดทิ้ง
เรื่องทุกสิ่งจบสิ้น..เพราะคำลา

ทำไมต้องจูบเราให้ใจรัก
แล้วจากไปไม่พัก ให้ใฝ่หา
ปล่อยฉันนี้นั่งเหม่อมองนกกา
สุดท้ายเหลือเพียงค่า..แค่คนรอ

       ลิตเติลเกิร์ล

° :. ° .☆   . ● .° °★

ღ จูบแล้วลา ღ






 4 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 07:54:45 AM 
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร

(ต่อหน้า ๕/๑๘) : ๑๓. วิภังค์ : ปัจจยาการวิภังค์

    ๙๒."ตัณหา"เหตุเอย.......อยากหลายสิ่งเผย........ยึดของตนคว้า
เรียก"อุปาทาน"....พานเหตุตัณหา....อุปาฯมีกล้า....จากตัณหากราน

    ๙๓.เพราะ"อุปาฯ"สิเหตุจบ.................................ภว"ภพ"ลุมีขาน
จิตยึดอะไรก็นิรมาณ............................................ซิภพภูมิและเวียนวน

    ๙๔.เพราะ"ภพ"เป็นปัจจัย.......เช่นสัตว์เกิดไซร้.......ในกามภพยล
มียึดถือมั่น....ครันต้องเกิดดล.....ภพเป็นเหตุผล...."ชาติ"จึงมีตาม

    ๙๕.เพราะมี"ชาติ"สิเหตุหนา..............................ก็ชราและตายผลาม
ปัจจัย"อิทัปฯ"เจาะระบุลาม...................................จะต้องมีซิ"นี้"หนา

    ๙๖.เหตุจตุกกะ........อันที่สองปะ.......ไม่รู้"อวิชชา"
"อวิชชา"เจือจาน...."สังขาร"ปรุงมา....เพราะไม่รู้นา....ปรุงสังขารมาย

   ๙๗.เพราะ"สังขาร"สิปรุงแต่ง..............................มนะแจ้งซิรู้หลาย
วิญญาณก็คือหทยะฉาย.......................................จะเกิดมีเพราะสังขาร

    ๙๘."วิญญาณ"รับรู้.......ก่อให้"นาม"ชู........สุข,ทุกข์รู้พาน
เจตนา,จำบ่ม....อารมณ์มีผ่าน....รู้ได้ด้วยทวาร....ตา..ใจนั้นแล

    ๙๙.เพราะ"นาม,เจตสิก"มุ่ง................................ภวปรุงซิเกิดแน่
เกิดผัสสะทางหทยะแฉ........................................ฉะนี้ผัสสะเหตุนาม

    ๑๐๐."ผัสสะ"ปัจจัย.........นำก่อเหตุให้.......เกิด"เวทนา"ผลาม
สิ่งสามต่างหนา...."ตา"เห็น"รูป"ลาม...."จักขุวิญญ์ฯ"ตาม....จึงรู้เวทนา

   ๑๐๑.เพราะ"เวท์นา"เจาะรู้ใด..............................รติไซร้ลุ"ตัณหา"
เวท์นามิมีก็นิรหนา................................................สิตัณหาอะไรเลย

    ๑๐๒."ตัณหา"ปัจจัย......."อุปาทาน"ไซร้........เกิดด้วย"อยาก"เผย
ได้แล้วชอบใจ....ยึดไว้พลันเอย....ยึดอุปาฯเอ่ย....เหตุตัณหาแล

    ๑๐๓."อุปาทาน"สิยึดมั่น....................................จะลุสรรค์ซิ"ภพ"แฉ
เหตุยึดมุภพลุภวแน่..............................................เหมาะเหมือนกับสภาพตน

    ๑๐๔."ภพ"เป็นปัจจัย......."ชาติ"จึงมีได้.......เมื่อยึดภพดล
ยึดมั่นสิ่งหวัง....ที่ตั้งภพยล.....ภายภาคหน้าผล....จึงต้องเกิดเวียน

    ๑๐๕.เพราะ"ชาติ"เป็นสิเหตุหนา........................ลุชราและตายเถียร
เกิดแล้วก็เป็นปกติเปลี่ยน.....................................สภาพธรรมชาติเอย

    ๑๐๖.เหตุจตุกกะ........ตอนที่สามปะ.......ปฏิจจ์สมุปฯเผย
เริ่มเหตุ"อวิชชา"....หารู้จริงเอ่ย....อริยสัจจ์ฯเชย...."สังขาร,ปรุง"ยล

   ๑๐๗.เพราะสังขารสิเหตุชิน...............................ภววิญญ์ฯซิเกิดดล
สังขารเจาะก่อลุ"ปฏิสนธิ์".....................................จะเกิดมา ณ ภพหน้า

   ๑๐๘.เมื่อเกิดมาแล้ว.......สังขารปรุงแน่ว........"วิถีวิญญ์ฯมา
เกิดวิญญาณหก....ปรก"จักขุฯ"หนา...."โสตวิญญาณ"กล้า....และมโนวิญญาณ

    ๑๐๙.เพราะ"วิญญาณ"สิเหตุผลาม.....................ภว"นามและรูป"พาน
วิญญาณริก่อลุนิรมาณ..........................................ซินามขันธ์และรูปขันธ์

    ๑๑๐.นามขันธ์สี่หนา.........เวทนา,สัญญา.......สังขาร,วิญญ์ฯครัน
รูปขันธ์คือกาย....ฝ่ายวิญญ์ฯเวียนดั้น....ใกล้นามรูปพลัน....จึงเกิดตายวน

   ๑๑๑.เพราะ"นามรูป"สิเหตุหนา............................ก็"มนายะฯ"ใจผล
นามรูปประกอบหทยะท้น.......................................เจาะเป็นเหตุ"มโน"เผย

    ๑๑๒."อายะฯที่หก".......เป็นปัจจัยปก.......ของ"ผัสสะ"เอย
"ผัสสะ"เกิดไซร้....อาศัยมโนเอ่ย....จิตแหล่งเกิดเกย...."ผัสสะ"จึงมี

    ๑๑๓.เพราะมี"ผัสสะ"เตร็ดเตร่............................ภว"เวทนาคลี่
เมื่อเกิดแตะอายตนะชี้...........................................ซิสามสิ่งประชุมแล

    ๑๑๔.สามสิ่งอายะฯ.......ทั้งใน-นอกปะ.......และวิญญาณแฉ
เกิดผัสสะแน่ว....รู้แคล่วสุขแน่.....รู้ทุกข์,เฉยแล้....คือเวทนา

 5 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ..ขอบาทเดียว..
 เมื่อ: 21, พฤศจิกายน, 2568, 08:43:30 PM 
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย ขวัญฤทัย (กุ้งนา)

ปูโดนอัดจนแบนเน้นราคา   ขายแพงได้ไหมนาบอกมาเลย 

 6 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / ღ แอ่วกว๊านพะเยา ღ
 เมื่อ: 21, พฤศจิกายน, 2568, 08:30:19 PM 
เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล




วันนี้....เดินแกร่วแอ่วพะเยา
ในช่วงเช้าถึงบ่ายร่างกายอ่อน
ยืนถ่ายรูปท้าแสงแดดแรงร้อน
ตะวันย้อนแยงกล้องต้องโทษใคร

ღ ღ ღ ღ

ณ กว๊านพะเยา จ.พะเยา ในวันนี้ค่ะ

ไปรับน้องกูเกิลที่ มหาวิทยาลัยพะเยาปิ๊กบ้าน
เนื่องจากหยุดเรียน เสาร์ อาทิตย์
เลยแวะซื้อไอติมกะทิที่กว๊านพะเยา
กินเสร็จก็ถ่ายภาพกันหน่อยเนาะ
แต่ถ่ายย้อนแสงยามบ่าย
ภาพออกมาก็อย่างเห็นนี่แหละค่ะ

 

 7 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / ห้องนั่งเล่นพักผ่อน / Re: ๛ แนะนำน้องน้ำว้า สมาชิกใหม่บ้านกลอนน้อยเจ้า ๛
 เมื่อ: 21, พฤศจิกายน, 2568, 05:08:23 PM 
เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล


ขอบคุณป้า ลุง ทุกคนเลยจ้าา
รอลุ้นว่า โตขึ้นเขาจะชอบงานเขียนกลอนไหมน่อ
แต่ทุกวันนี้ เขาเห็นเรานั่งอ่านกลอน เขาจะมาดู
แล้วพูดว่า อันนี้คือกลอน ปากกานี้ไว้เขียนกลอน
พูดเหมือนนกแก้ว นกขุนทอง พูดเยอะค่ะ วัน ๆ หูชา
 

 8 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / ห้องนั่งเล่นพักผ่อน / Re: ๛ "ไข่ปิ้ง"แนะนำตัว..สมาชิกใหม่ค่ะ ๛
 เมื่อ: 21, พฤศจิกายน, 2568, 05:05:38 PM 
เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล


เขาเป็นแมวสายโหด กัดลูกเดียว
คงอีกนาน กว่าเขาจะนั่งนิ่งได้เหมือนพี่ ๆ ไข่ อ่ะจ้า
บางที ลืมไปเลยว่าเขาเป็นผู้หญิง แง่วว
 

 9 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
 เมื่อ: 21, พฤศจิกายน, 2568, 03:10:28 PM 
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร
(ต่อหน้า ๔/๑๘) : ๑๓. วิภังค์ : ปัจจยาการวิภังค์

    ๖๙.เพราะ"เวท์นา"สิปัจจัย..................................หิตะไวกะ"ตัณหา"
รู้แล้วก็"อยาก"ริวสะหนา........................................ซิมากขึ้นตลอดกาล

    ๗๐.มี"ตัณหา"แล้ว.........เป็นปัจจัยแน่ว.......เกิด"อุปาทาน"
อุปาฯปัจจัย....ทำให้เกิดผ่าน....ณ ภพหน้าพาน....เวียนเช่นนี้แล

    ๗๑.เพราะ"ภพ"เน้นสิหนุนชัด..............................เจาะอุบัติซิ"ชาติ"แท้
"ชาติ"มี"ชรา,มรณะแน่...........................................ก็ตามพลันเกาะทุกข์ผอง

    ๗๒."ปัจจ์ยะฯตอนสาม.......แจกแจงสัตว์ตาม........เกิดในครรภ์ครอง
"อวิชชา"หนา....หารู้จริงคล่อง....อริย์สัจสี่ตรอง...."สังขาร"มีกราน

    ๗๓.เพราะ"สังขาร"สิปรุงแต่ง..............................หิตะแจ้งลุ"วิญญาณ"
"วิญญาณ"จะก่อลุภวพาน......................................และ"นามรูป"เจาะนาม,กาย

    ๗๔."นามรูป"ปัจจัย......."อายตนะ"ไว.......คือ"มโน"เกิดฉาย
"อายตนะหก"....ปรกปัจจัยกราย.....เกิด"ผัสสะ"พราย....เริ่มกระทบพา

    ๗๕.เพราะมี"ผัสสะ"ปัจจัย..................................ภวไวลุ"เวท์นา"
"เวท์นา"สิหนุนตริวสะกล้า.....................................ซิ"ตัณหา"เจาะมากหลาย

    ๗๖."ตัณหา"ปัจจัย........"อุปาทาน"ไซร้.......เกิดยึดมั่นกราย
มี"อุปาทาน"....พานยึดสิ่งพราย....เป็นของตนหมาย...."ภพ"หน้ามีครา

   ๗๗.เพราะ"ภพ"หนุนสิเด่นชัด..............................เจาะอุบัติซิ"ชาติ"หนา
"ชาติ"เริ่ม"ชรา,มรณะ"มา......................................ซิตามพร้อมปะทุกข์ผอง

   ๗๘.ปัจจ์ยะฯตอนสี่.......แจกแจงสัตว์คลี่........"โอปปาติฯ"ครอง
เริ่ม"อวิชชา"....พาไม่รู้ถ่อง....อริยสัจส่อง...."สังขาร"มีพาน

    ๗๙.เพราะ"สังขาร"สิปรุงแต่ง.............................ตริแจรงลุ"วิญญาณ"
"วิญญาณ"ซิเกื้อเจาะประสาน...............................มุ"นามรูป"อุบัติมี

    ๘๐."นามรูป"ปัจจัย........."สฬาย์ตนะ"ไว.......ทวาร,ตา..ใจคลี่
เพราะ"สฬาย์ตนะ"....เกิดประภพชี้....ผัสสะรู้รี่....เกิดกระทบมา

   ๘๑.เพราะมี"ผัสสะ"ปัจจัย..................................ภวไซร้ลุ"เวท์นา"
เวท์นาสิเอื้อเกาะวสะคว้า......................................ซิ"ตัณหา"รตีเผย

    ๘๒."ตัณหา"ปัจจัย......."อุปาทาน"ไว......ก่อเกิดตามเอย
มี"อุปาทาน"....ไม่รานเลิกเลย....มั่นทุกสิ่งเปรย...."ภพ"หน้ามีแล

    ๘๓.เพราะ"ภพ"เป็นสิปัจจัย................................ฐิติไซร้ลุ"ชาติ"แน่
"ชาติ"หนุน"ชรา,มรณะ"แท้....................................และตามพร้อมเจาะทุกข์หลาย

    ๘๔."เหตุจตุกกะ".......เหตุสี่ตอนปะ.......วนวัฏฏะปลาย
เหตุตอนหนึ่งชิด...."อวิชชา"หนุนกราย.....ให้"สังขาร"ผาย....ปรุงดี,ชั่วกราน

   ๘๕.เพราะ"สังขาร"สิเริ่มดล................................ปฏิสนธิวิญญาณ
คราจิตอุบัติและระยะพาน....................................ซิหลังเกิดมนุษย์ หนา

    ๘๖.สังขารปรุงปก........รู้ผ่านทวารหก.......จักขุวิญญ์ฯกล้า
โสตวิญญ์ฯ,ฆานวิญญ์ฯ....มีลิ้น,ชิวหาฯ....กายวิญญาณมา....มโนวิญญ ฯเอย

   ๘๗.เพราะ"วิญญาณ"สิเหตุผลาม......................ภว"นาม"ซิมีเอ่ย
วิญญาณก็คือหทยะเผย.....................................ซิ"นาม,เจตสิก"แล

   ๘๘."วิญญาณ"กับ"นาม".......เป็นเหตุเด่นตาม........อยู่ชิดกันแน่
เวียนและวนไป....เหมือนไซร้"จิต"แท้....กับ"เจตสิก"แล้....เกิดพร้อมกันเลย

    ๘๙.เพราะ"นาม,เจตสิก"หนา............................หิตะ"อายะฯหก"เอ่ย
ด้วยอายะฯคือหทยะเผย.....................................จะมี"เจตสิก,นาม"

    ๙๐.อายะฯที่หก.........คือ"มโน"ปก.......เป็นปัจจัยผลาม
กับ"ผัสสะ"ชี้....ถ้ามี"มโน"ลาม....เกิดกระทบตาม....ผัสสะมีพลัน

   ๙๑.เพราะมี"ผัสสะ"เหตุเตร่...............................ภว"เวทนา"สรรค์
เวท์นาสิหนุนริวสะดั้น..........................................ลุ"ตัณหา"ซิมากหนา

 10 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / นิยาย-เรื่องสั้น-บทความ-ความเรียง-เรื่องเล่าทั่วไป / มาเรียนภาษาอังกฤษกัน
 เมื่อ: 21, พฤศจิกายน, 2568, 02:11:49 PM 
เริ่มโดย กรกช - กระทู้ล่าสุด โดย กรกช



หน้า: [1] 2 3 ... 10
Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.177 วินาที กับ 18 คำสั่ง
กำลังโหลด...