เดี๋ยวหมูเป็นพระเอกให้คงได้การ เป็นหมูหวานหน้าหวานละการนี้

61
เมื่อ: 25, สิงหาคม, 2568, 10:13:25 PM
|
||
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword | ||
เดี๋ยวหมูเป็นพระเอกให้คงได้การ เป็นหมูหวานหน้าหวานละการนี้ ![]() |
62
เมื่อ: 25, สิงหาคม, 2568, 04:03:39 PM
|
||
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
ประมวลธรรม : ๕๑.นิวาปสูตร (สูตรแสดงข้อเปรียบเทียบด้วยเหยื่อหรืออาหารสัตว์)
จันทรกานต์ฉันท์ ๑๕/โคลงสี่สุภาพ ๑.พุทธ์เจ้าประทับ ณ เชตว์นาราม............ภณะตามพระสงฆ์ซิเฝ้า เรื่องพราหมณ์สิอยู่ลุมือมารเนา..................ดุจะเนื้อจะเป็นนะเหยื่อ ๒.ทรงตรัสพราหมณ์ปลูกหญ้า............ชักนำ ฝูงโค หลอกเสพเพลินถลำ..............................จับได้ ฝูงโคเล่ารวมหนำ..................................มีสี่ ฝูงนา โคอยู่กินเผลอไซร้................................ไม่แคล้วรอดเผย ๓.เอ่ยฝูงซิแรกเลาะเล็มทุ่งหญ้า...............มทะหนาเดาะเพลินและเผลอ นายพรานก็จับประกบตัวเออ......................ประลุสิทธิพรานซิหนา ๔.มาฝูงสองคิดแล้...............................พึงดู เลียนแบบ" จึงงดกินเลิกกรู......................................ไม่กล้า กินในป่าแทนพรู....................................จนหมด ภัตรนา กลับสู่ผืนแปลงหญ้า..............................แน่แท้ทาสพราน ๕.กรานโคสิสามลุยังป่าใหญ่...................ติณะไซร้สิภัตรประทัง เมื่อผ่านวสันต์ฤดูหญ้ายั้ง...........................ก็อุสุภซิอดและผอม ๖.โคกรอมหมดเรี่ยวแท้.......................ทะยาน ออกวนา ถึงเขตแปลงของพราน...........................ไม่เข้า ในแปลงอยู่นอกชาญ..............................เดินซุ่ม กินแล จึงไม่ถูกพรานเฝ้า...................................มุ่งร้ายเลยแฉ ๗.แลพรานตริโคซิกลุ่มสามยาตร..............จะฉลาดมิเหมือนกะสัตว์ ดูคล้ายประกอบกะฤทธิ์ชัด.........................จะเกาะกุมจะต้องเจาะรู้ ๘.พรานชูแผนเพื่อแจ้ง.........................ทางเดิน ไป-กลับ ตาข่ายถูกสรรค์เทิน...............................มุ่งล้อม พรานตามติดเผชิญ................................มิพลาด โคสาม โคจึ่งมิรอดด้อม......................................ผละลี้นายพราน |
63
เมื่อ: 25, สิงหาคม, 2568, 03:41:43 PM
|
||
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย ข้าวหอม | ||
ขอลิเกวงใหญ่มีให้ด้วย พระเอกสวยรำเก่งแต่งหน้าหวาน ![]() |
64
เมื่อ: 25, สิงหาคม, 2568, 09:14:21 AM
|
||
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
(ต่อหน้า ๔/๔) ๕๐.รถวินีตสูตร เชต์วันฯ = เชตวนาราม ใกล้กรุงสาวัตถี อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี สร้างถวาย ประทักษิณ = ประทักษิณ คือ การเวียนขวารอบสิ่งหรือบุคคลที่เคารพเพื่อให้เกิดสิริมงคล เช่น การเวียนเทียน เป็นต้น ที่หลีกเร้นของพระสารีบุตร = คือ ในที่นี้หมายถึงผลสมาบัติชั้นสูงสุด พระสารีบุตร ซัก พระปุณณมันตานีบุตร ๙ ข้อ = ดังนี้ (๑) ท่านผู้มีอายุ ท่านประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคของเราหรือ ท่านพระปุณณมันตานีบุตรตอบว่า “ขอรับ ท่านผู้มีอายุ” (๒) สีลวิสุทธิ - ความหมดจดแห่งศีล ท่านประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเพื่อสีลวิสุทธิหรือ “ข้อนี้ หามิได้” (๓) จิตตวิสุทธิ - ความหมดจดแห่งจิต ท่านประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเพื่อจิตตวิสุทธิ หรือ “ข้อนี้ หามิได้” (๔) ทิฏฐิวิสุทธิ - ความหมดจดแห่งทิฏฐิ ท่านประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเพื่อทิฏฐิวิสุทธิ หรือ “ข้อนี้ หามิได้” (๕) กังขาวิตรณวิสุทธิ - ความหมดจดแห่งญาณเป็นเครื่องข้ามพ้นความสงสัย ท่านประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเพื่อกังขาวิตรณวิสุทธิ หรือ “ข้อนี้ หามิได้” (๖) มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ - ความหมดจดแห่งญาณที่รู้เห็นว่าเป็นทางหรือมิใช่ทาง ท่านประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเพื่อมัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ หรือ “ข้อนี้ หามิได้” (๗) ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ - ความหมดจดแห่งญาณที่รู้เห็นทางดำเนิน ท่านประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเพื่อปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ หรือ “ข้อนี้ หามิได้” (๙) ญาณทัสสนวิสุทธิ - ความหมดจดแห่งญาณทัสสนะ ท่านประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเพื่อญาณทัสสนวิสุทธิ หรือ “ข้อนี้ หามิได้” อนูปาฯ,อนูปะฯ = อนุปาทาปรินิพพาน หมายถึงปรินิพพานที่หาปัจจัยปรุงแต่งมิได้ แต่ในที่นี้ พระเถระหมายเอาสภาวะเป็นที่สุด เป็นเงื่อนปลาย เป็นที่จบการประพฤติพรหมจรรย์ของท่านผู้ถืออปัจจยปรินิพพาน ปเสนทิฯ = พระเจ้าปเสนทิโกศล เป็นพระมหากษัตริย์แห่งโกศลจากราชวงศ์อิกษวากุ เสวยราชย์อยู่ ณ เมืองสาวัตถี ถือเป็นอุบาสกที่สำคัญพระองค์หนึ่งของพระพุทธเจ้า และทรงสร้างอารามไว้หลายแห่ง เช่น วัดราชิการามเป็นวัดที่พระเจ้าปเสนทิโกศลสร้างถวายเพื่อเป็นที่อยู่ของพระภิกษุณี สาเกต = ชื่อมหานครแห่งหนึ่ง อยู่ในแคว้นโกศล ห่างจากเมืองสาวัตถี ๗ โยชน์ ธนัญชัยเศรษฐี บิดาของนางวิสาขา ได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระเจ้าปเสนทิโกศล ให้เข้าตั้งถิ่นฐานและสร้างขึ้น เมื่อคราวที่ท่านเศรษฐีอพยพจากเมืองราชคฤห์มาอยู่ในแคว้นโกศลตามคำเชิญชวนของพระองค์ พระโคดม = พระโคดมพุทธเจ้า |
65
คำประพันธ์ แยกตามประเภท / โคลง-กาพย์-ฉันท์-ร่าย-ลิลิต / Re: ...-๐ นานาเครื่องว่าง-ขนมไทย จัดใส่โคลง ๐-...
เมื่อ: 24, สิงหาคม, 2568, 09:53:01 PM
|
||
เริ่มโดย Black Sword - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword | ||
66
เมื่อ: 24, สิงหาคม, 2568, 09:46:24 PM
|
||
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword | ||
เดี๋ยวเลี้ยงใหญ่งานนี้ถ้ามีตังค์ จะนอนนั่งเคี้ยวบ่หยุดสุดสราญ ![]() |
67
เมื่อ: 24, สิงหาคม, 2568, 05:27:52 PM
|
||
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
(ต่อหน้า ๓/๔) ๕๐.รถวินีตสูตร (๕) วิริยารัมภกถา = การปรารภความเพียร คือเพียรทางกายและทางจิตให้บริบูรณ์ (๖) สีลสัมปทากถา - ความสมบูรณ์ด้วยศีล คือ ปาริสุทธิศีล ๔ ประการ คือ (๖.๑) ศีลคือการสังวรในพระปาติโมกข์ (๖.๒) ศีลคือการสำรวมอินทรีย์ ๖ (๖.๓) ศีลคือการพิจารณาใช้สอยปัจจัย ๔ (๖.๔) ศีลคือการเลี้ยงชีวิตด้วยความบริสุทธิ์ ปัจจัย ๔ = คือ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร (๗) สมาธิสัมปทากถา - เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยสมาธิ - คำสมาธิ หมายถึงสมาบัติ ๘ คือ รูปฌาน ๔ และอรูปฌาน ๔ อันเป็นบาทแห่งวิปัสสนา (๘) ปัญญาสัมปทากถา - ความเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยปัญญา (๙) วิมุตติสัมปทากถา - ความเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยวิมุตติ (๑๐) วิมุตติญานทัสสนสัมปทากถา - เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยวิมุตติญาณทัสสนะ (๑๑) เป็นผู้ให้โอวาท แนะนำ ชี้แจงให้เพื่อนพรหมจารีทั้งหลายเห็นชัด เร้าใจให้อาจหาญแกล้วกล้า ปลอบชโลมใจให้สดชื่น พระปุณณ์มันฯ,พระปุณณะฯ = พระปุณณมันตานีบุตรเถระ เป็นพระภิกษุสาวกเอตทัคคะของพระพุทธเจ้า นับเนื่องในพระอสีติมหาสาวก ๘๐ องค์สำคัญในพระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาล พระปุณมันตานีบุตรเถระเป็นหลานของพระอัญญาโกณฑัญญะ ออกบวชโดยความชักชวนของพระอัญญาโกณฑัญญะ พระอสีติมหาสาวก ๘๐ = อสีติมหาสาวก คือ พระสาวกผู้ใหญ่ ๘๐ รูป หรือ พระสาวกผู้ยิ่งใหญ่ ๘๐ รูป หรือ พระสาวกสำคัญ ๘๐ รูป รายนามพระอสีติมหาสาวก พระมหาเถระนั่งด้านพระปรัศว์ขวา(เบื้องขวา) ของพระพุทธเจ้า = ๔๐ รูป (๑) พระอัญญาโกณฑัญญะ (๒) พระวัปปะ (๓) พระภัททิยะ (๔) พระมหานามะ (๕) พระอัสสชิ (๖) พระนาลกะ (๗) พระยสะ (๘) พระวิมละ (๙) พระสุพาหุ (๑๐) พระปุณณชิ (๑๑) พระควัมปติ (๑๒) พระอุรุเวลกัสสปะ (๑๓) พระนทีกัสสปะ (๑๔) พระคยากัสสปะ (๑๕) พระสารีบุตรเถระ (๑๖) พระมหากัสสปะเถระ (๑๗) พระมหากัจจายนะ (๑๘) พระมหาโกฏฐิตเถระ (๑๙) พระมหากัปปินเถระ (๒๐) พระมหาจุนทเถระ (๒๑) พระอนุรุทธเถระ (๒๒) พระกังขาเรวตเถระ (๒๓) พระอานนทเถระ (๒๔) พระนันทกเถระ (๒๕) พระภคุเถระ (๒๖) พระนันทเถระ (๒๗) พระกิมพิลเถระ (๒๘) พระภัททิยเถระ (กาฬิโคธาบุตร) (๒๙) พระราหุลเถระ (๓๐) พระสีวลีเถระ (๓๑) พระอุบาลีเถระ (๓๒) พระทัพพมัลลบุตรเถระ (๓๓) พระอุปเสนวังคันตบุตรเถระ (๓๔) พระขทิรวนิยเรวตเถระ (๓๕) พระปุณณมันตานีบุตรเถระ (๓๖) พระปุณณสุนาปรันตเถระ (๓๗) พระโสณกุฏิกัณณเถระ (๓๘) พระโสณโกฬิวิสเถระ (๓๙) พระราธเถระ (๔๐) พระสุภูติเถระ พระมหาเถระนั่งด้านพระปรัศว์ซ้าย(เบื้องซ้าย) ของพระพุทธเจ้า = ๔๐ รูป (๑) พระมหาโมคคัลลานะ (๒) พระองคุลิมาลเถระ (๓) พระวักกลิเถระ (๔) พระกาฬุทายีเถระ (๕) พระมหาอุทายีเถระ (๖) พระปิลินทวัจฉเถระ (๗) พระโสภิตเถระ (๘) พระกุมารกัสสปเถระ (๙) พระรัฏฐปาลเถระ (๑๐) พระวังคีสเถระ (๑๑) พระสภิยเถระ (๑๒) พระเสลเถระ (๑๓) พระอุปวาณเถระ (๑๔) พระเมฆิยเถระ (๑๕) พระสาคตเถระ (๑๖) พระนาคิตเถระ (๑๗) พระลกุณฏกภัททิยเถระ (๑๘) พระปิณโฑลภารทวาชเถระ (๑๙) พระมหาปันถกเถระ (๒๐) พระจูฬปันถกเถระ (๒๑) พระพากุลเถระ (๒๒) พระโกณฑธานเถระ (๒๓) พระพาหิยทารุจิริยเถระ (๒๔) พระยโสชเถระ (๒๕) พระอชิตเถระ (๒๖) พระติสสเมตเตยยเถระ (๒๗) พระปุณณกเถระ (๒๘) พระเมตตคูเถระ (๒๙) พระโธตกเถระ (๓๐) พระอุปสีวเถระ (๓๑) พระนันทกเถระ (๓๒) พระเหมกเถระ (๓๓) พระโตเทยยเถระ (๓๔) พระกัปปเถระ (๓๕) พระชตุกัณณีเถระ (๓๖) พระภัทราวุธเถระ (๓๗) พระอุทยเถระ (๓๘) พระโปสาลเถระ (๓๙) พระโมฆราชเถระ (๔๐) พระปิงคิยเถระ พระสาริบุตร = พระสารีบุตร อัครวาวกเบื้องขวา ของพระโคตมพุทธเจ้า ผู้เลิศด้วยปัญญา |
68
เมื่อ: 24, สิงหาคม, 2568, 01:09:45 PM
|
||
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย ฝาตุ่ม | ||
ลองเชื่อใจสักนิดสะกิดเกริ่น เผื่อถูกหวยรวยเกินได้เงินถัง ![]() |
69
เมื่อ: 24, สิงหาคม, 2568, 09:33:09 AM
|
||
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
(ต่อหน้า ๒/๔) ๕๐.รถวินีตสูตร ๒๓.ผิเว้นสิแปดจะเป็นครือ......................"อนูปะฯ"หรือมิใช่เครือ พระปุณณะฯตอบมิใช่เพื่อ.........................พระสาริตอบมิเห็นด่ำ ๒๔.พระปุณณะฯกล่าวพระพุทธ์ฯจด........ผิทรงจรดกะแปดธรรม จะเป็น"อนูปะฯ"ถือย้ำ.................................เจาะยึดและตรึง"อุปาทาน" ๒๕.ผิธรรมสิอื่นลุ"อนูปาฯ".......................นิกรซิหนาก็นิพพาน นิกรมิมีพระธรรมฉาน................................วิสุทธิเปรียบซิ"รถ"ชัด ๒๖."ปเสนทิฯไป ณ สาเกต......................ตริรถพิเศษซิเจ็ดผลัด สิแรกประตูตะ"สาวัติฯ"..............................มุเปลี่ยนซิเจ็ดลุสาเกต ๒๗.พระปุณณะฯถามผิมีผู้.......................เสาะถามวะกรูลุปลายเขต เพราะรถสิหนึ่งวะผลัดเหตุ..........................จะตอบซิใดจะแจ้งชัด ๒๘.พระสาริฯตอบจะถูกต้อง....................ลุถึงซิคล่องปะเจ็ดผลัด พระปุณณะฯกล่าววะเปรียบจัด...................กะแปดพระธรรมเซาะเป้าหมาย ๒๙.เพราะ"สีล์วิสุทธิ"ต้องรุด.....................ริ"จิตต์วิสุทธิ"เรียงราย สิ"จิตต์วิสุทธิ"คลี่กราย................................เจาะมีปะ"ทิฏฐ์วิสุทธิ์"หนา ๓๐.ริทิฏฐ์วิสุทธิสำเร็จ..............................เจาะ"กังขะฯ"เสร็จพะวงซา ริกังขะฯรุดขยายมา....................................จิ"มัคคะญาณฯ"ซิเป้าเผย ๓๑.ผิมัคคะฯเสร็จระเร็วรี่..........................ปฏีปะฯคลี่กะญาณเชย ปฏีปทาฯขจรเกย........................................จะมีอนูปะฯมุ่งไข ๓๒.พระปุณณะฯกล่าวประพฤติครัน..........ริพรหมจรรย์พระศาสน์ไกล ก็เพื่ออนูปะทาฯไว.......................................ลุดับกิเลสมิเหลือแฉ ๓๓.พระสาริฯกล่าววะอัศ์จรรย์...................พระปุณณะฯดั้นซิเฟ้นแท้ สิปัญญะลึกเหมาะสงฆ์แน่.............................ซิรู้จะแจ้งพระธรรมผอง ๓๔.พระศาสดาตริสอนคลี่.........................เหมาะลาภสขีพระสงฆ์ถ่อง ปะเห็นและนั่งประชิดดอง.............................ผิเทิดวะเหนือซิหัวหนอ ๓๕.ก็นับวะลาภพระสงฆ์ชม.......................ผิตัวกระผมกระนั้นจ่อ สิเห็นและได้เลาะนั่งคลอ..............................กะท่านพระปุณณฯนี้เผย ๓๖.พระปุณณะกล่าวพจีรี่..........................พระสาริฯมีเจาะถามเอ่ย เพราะเลือกและเฟ้นเสาะถามเปรย................เจอะลาภเพราะเห็นและนั่งเคียง ๓๗.สหายซิสองก็ต่างชม............................กะถ้อยสดมภ์ซิร้อยเรียง เจาะเป็นอสีติฯสงฆ์เกรียง.............................ก็สงฆ์ซิของพระโคดม ฯ|ะ แสงประภัสสร ที่มา : มจร. ๔. รถวินีตสูตร : พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๔ [ฉบับมหาจุฬาฯ] มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ https://share.google/rLMzM72zanY6msnEr เวฬุวัน = พระเวฬุวัน กลันทกฯ = กลันทกนิวาปสถาน คือสถานที่สำหรับพระราชทานเหยื่อแก่กระแต พระพุทธเจ้าหาภิกษุ = ที่มีคุณสมบัติดังนี้ ๑.อัปปิจฉกถา - ความมักน้อย ๔ ประการ คือ (๑.๑) เป็นผู้มักน้อยในปัจจัย ๔ (๑.๒) เป็นผู้มักน้อยในธุดงค์ ได้แก่ ไม่ประสงค์ให้ผู้อื่นรู้ความที่ตนสมาทานธุดงค์ (๑.๓) เป็นผู้มักน้อยในการเล่าเรียน ได้แก่ไม่ปรารถนาให้ผู้อื่นรู้ความที่ตนเป็นพหูสูต (๑.๔) เป็นผู้มักน้อยในการบรรลุธรรม ได้แก่ ไม่ปรารถนาให้ผู้อื่นรู้ความที่ตนเป็นพระโสดาบัน เป็นต้น (๒) สันตุฏฐิกถา - เป็นผู้สันโดษ ๓ ประการ คือ (๒.๑) ยถาลาภสันโดษ - เป็นผู้สันโดษตามมีตามได้ทั้งดีและไม่ดี (๒.๒) ยถาพลสันโดษ - เป็นผู้สันโดษตามกำลังทั้งกำลังของตนและของทายก (๒.๓) ยถาสารุปปสันโดษ - เป็นผู้สันโดษตามสมควรแก่สมณภาวะ (๓) ปวิเวกกถา - ความสงัด เป็นผู้สงัด = มีวิเวก ๓ ประการ คือ (๓.๑) กายวิเวก สงัดกาย ได้แก่ อยู่ผู้เดียวทุกอิริยาบถ (๓.๒) จิตตวิเวก ได้แก่ ได้สมาบัติ ๘ (๓.๓) อุปธิวิเวก ได้แก่ บรรลุนิพพาน (๔) อสังสัคคกถา - ความไม่คลุกคลี ผู้ไม่คลุกคลีด้วยการคลุกคลี ๕ ประการ คือ (๔.๑) การคลุกคลีด้วยการฟัง (๔.๒) การคลุกคลีด้วยการเห็น (๔.๓) การคลุกคลีด้วยการสนทนา (๔.๔) การคลุกคลีด้วยการอยู่ร่วมกัน (๔.๕) การคลุกคลีทางกาย |
70
เมื่อ: 23, สิงหาคม, 2568, 10:05:23 PM
|
||||||||||||||
เริ่มโดย Black Sword - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword | ||||||||||||||
![]() Photo By บ้านกลอนน้อยฯ© วันประมงน้อมเกล้า 2568 ครั้งที่ 35
|