ไหล/หวัง
คลื่นน้ำใจไหลหลั่งไม่หวังผล
หลากผู้คนพร้อมจัดเป็นสัดส่วน
ช่วยเหลือกันจนจบครบกระบวน
ผู้เดือดร้อนนั้นล้วนควรยินดี

ต้นฝ้าย
ส่งต่อค่า
ทบทวน / อารมณ์
71
เมื่อ: 23, เมษายน, 2568, 10:24:10 AM
|
||
เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ต้นฝ้าย | ||
ไหล/หวัง คลื่นน้ำใจไหลหลั่งไม่หวังผล หลากผู้คนพร้อมจัดเป็นสัดส่วน ช่วยเหลือกันจนจบครบกระบวน ผู้เดือดร้อนนั้นล้วนควรยินดี ![]() ต้นฝ้าย ส่งต่อค่า ทบทวน / อารมณ์ |
72
เมื่อ: 23, เมษายน, 2568, 09:06:35 AM
|
||
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
(ต่อหน้า ๖/๖) ๒๙.สิงคาลกสูตร ทิศ ๖=คือ บุคคลประเภทต่างๆ มีทั้งหมด ๖ ส่วน ซึ่งอยู่รอบตัวเราพระพุทธเจ้าทรงกล่าวถึงวิธีการปฏิบัติตนต่อผู้อื่น ทั้งในทางโลกทางธรรม โดยให้ความสำคัญกับบุคคลต่างๆ ที่เปรียบเสมือนทิศทั้ง ๖ ได้แก่ (๑)ทิศเบื้องหน้า คือ มารดาและบิดา ซึ่งบุตรพึงบำรุงด้วยสถาน ๕ คือ ตั้งใจไว้ว่าท่านเลี้ยงเรามา เราจะเลี้ยงท่านตอบ, รับทำกิจของท่าน, ดำรงวงศ์สกุล, ปฏิบัติตนให้เป็นผู้สมควรรับทรัพย์มรดก, และเมื่อท่านละไปแล้ว ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้(ทักษิณานุประทาน) ส่วนมารดาบิดา ย่อมอนุเคราะห์บุตรด้วยสถาน ๕ คือ ห้ามไม่ให้ทำความชั่ว, ให้ตั้งอยู่ในความดี, ให้ศึกษาศิลปวิทยา, หาภรรยาที่สมควรให้, และมอบทรัพย์ให้, (๒)ทิศเบื้องขวา คือ อาจารย์ ซึ่งศิษย์พึงบำรุงด้วยสถาน ๕ คือ ลุกขึ้นยืนรับ, เข้าไปยืนคอยรับใช้, เชื่อฟัง, ทำการปรนนิบัติ, และเรียน ศิลปวิทยาโดยเคารพ, ส่วนอาจารย์ ย่อมอนุเคราะห์ศิษย์ด้วยสถาน ๕ คือ แนะนำดี, ให้เรียนดี, บอกศิษย์ด้วยดีในศิลปวิทยาทั้งหมด, ยกย่องให้ปรากฏในเพื่อนฝูง, และทำเกราะป้องกันภัยแก่ศิษย์ ฝึกวิชาให้หาเลี้ยงชีพได้ (๓)ทิศเบื้องหลัง คือ บุตรและภรรยา ซึ่งสามีพึงบำรุงภรรยาด้วยสถาน ๕ คือ ยกย่องว่าเป็นภรรยา, ไม่ดูหมิ่น, ไม่ประพฤตินอกใจ, มอบความเป็นใหญ่ให้, และให้เครื่องประดับ ส่วนภรรยา ย่อมอนุเคราะห์สามีด้วยสถาน ๕ คือ จัดการงานดี, สงเคราะห์คนข้างเคียงของสามี, ไม่ประพฤตินอกใจ, รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้, และขยันไม่เกียจคร้านในกิจการทั้งปวง (๔)ทิศเบื้องซ้าย คือ มิตรและอำมาตย์ ซึ่งกุลบุตรพึงบำรุงด้วยสถาน ๕ คือ การให้ปัน, เจรจาถ้อยคำเป็นที่รัก, ประพฤติประโยชน์, ด้วยความเป็นผู้มีตนเสมอ, และซื่อสัตย์จริงใจ ส่วนมิตร ย่อมอนุเคราะห์กุลบุตรด้วยสถาน ๕ คือ รักษามิตรผู้ประมาทแล้ว, รักษาทรัพย์ของมิตรผู้ประมาทแล้ว, เมื่อมิตรมีภัยเอาเป็นที่พึ่งได้, ไม่ละทิ้งในยามวิบัติ, และนับถือตลอดถึงวงศ์ของมิตร (๕)ทิศเบื้องล่างคือ ผู้ใต้บังคับบัญชา ทาสและกรรมกร ซึ่งนายพึงบำรุงด้วยสถาน ๕ คือ จัดการงานให้ทำตามสมควรแก่กำลัง, ให้อาหารและรางวัล, รักษาในคราวเจ็บไข้, แจกของมีรสแปลกประหลาดให้กิน และให้มีเวลาหยุดพักบ้าง ส่วนทาสกรรมกร ย่อมอนุเคราะห์นายด้วยสถาน ๕ คือ ลุกขึ้นทำงานก่อนนาย, เลิกงานทีหลัง,ถือเอาแต่ของที่นายให้, ทำงานให้ดีขึ้น, และนำคุณของนายไปสรรเสริญ (๖)ทิศเบื้องบน คือ สมณพรามณ์ ซึ่งกุลบุตรพึงบำรุงด้วยสถาน ๕ คือ ด้วยกายกรรม, วจีกรรม, และมโนกรรมที่ประกอบด้วยเมตตา, ด้วยการเปิดประตูต้อนรับ, และให้ปัจจัยสี่เนืองๆ ส่วนสมณพราหมณ์ ย่อมอนุเคราะห์กุลบุตรด้วยสถาน ๖ คือ ห้ามไม่ให้ทำความชั่ว, ให้ตั้งอยู่ในความดี, อนุเคราะห์ด้วยน้ำใจอันงาม, ให้ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง, ทำสิ่งที่เคยฟังแล้วให้แจ่มแจ้ง, และบอกทางสวรรค์ให้ |
73
คำประพันธ์ แยกตามประเภท / โคลง-กาพย์-ฉันท์-ร่าย-ลิลิต / Re: ...-๐ นานาเครื่องจิ้มไทย จัดสำรับ กาพย์ห่อโคลง ๐-...
เมื่อ: 22, เมษายน, 2568, 10:12:54 PM
|
||
เริ่มโดย Black Sword - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword | ||
74
เมื่อ: 22, เมษายน, 2568, 10:11:14 PM
|
|||
เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword | |||
|
75
เมื่อ: 22, เมษายน, 2568, 01:36:58 PM
|
||
เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลายเมฆ | ||
เห็นภัย/เพียร จึงท่านผู้ เห็นภัย ในวงวัฏ ย่อมแจงจัด ครรลอง งามผ่องแผ้ว เพียรพฤติตน รักษาจิต ประสิทธิ์แวว ประทีปแก้ว ประทีปธรรม แผ่ค้ำใจ.. คำต่อไปครับ... ประมาท/สมัย |
76
เมื่อ: 22, เมษายน, 2568, 01:26:41 PM
|
||
เริ่มโดย คนเรียนไพร - กระทู้ล่าสุด โดย คนเรียนไพร | ||
![]() ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดย คนเรียนไพร ป้องภพ เมื่อไม่มี วันพรุ่งนี้ อีกต่อไป ด้วยโลกไร้ ใครคุ้มครอง หม่นหมองศรี มลพิษ มหันตภัย บรรดามี ทุกถิ่นที่ ถูกทำลาย สลายไป ทรัพยากร ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สิ่งแปลกปลอม เข้าปนเปื้อน เกินแก้ไข เสียสมดุล ก่อร่าง สร้างโรคภัย สิ้นแรงใจ จักพลิกฟื้น คืนกลับมา โลกตระหนัก รับรู้ สู้ก่อนกาล ร่วมขับขาน สร้างสุข ทุกทิศา ยี่สิบสอง เมษายน รักษ์โลกา เพื่อประชา สุขสันต์ นิรันดร์กาล โลกใบนี้ มีเพียงหนึ่ง พึงรักษา ให้ทรงค่า สืบไป ใฝ่ประสาน สุขสงบ สันติ จิตชื่นบาน เพื่อลูกหลาน เนิ่นนาน สราญรมย์ คนเรียนไพร ๒๒ เมษายน ๒๕๖๘ หมายเหตุ ๒๒ เมษายน วันคุ้มครองโลก |
77
เมื่อ: 22, เมษายน, 2568, 08:55:58 AM
|
||
เริ่มโดย คนเรียนไพร - กระทู้ล่าสุด โดย คนเรียนไพร | ||
![]() ![]() ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดย คนเรียนไพร แสงตะวัน แสงตะวัน ยามคิมหัน ตฤดู แรกเริ่มรู้ ยากแค้น แสนหวั่นไหว ทุกถิ่นที่ แห้งแล้ง ทั่วถิ่นไทย ป่าผลัดใบ ทิ้งร้าง รอเวลา แสงตะวัน ในวสัน ตฤดู ชีพคืนสู่ สดใส ไร้ปัญหา ความชุ่มชื้น กลับคืน พสุธา ทุกชีวา คืนชีวิต ไร้ปลิดปลง แสงตะวัน เมื่อเหมัน ตฤดู พร้อมอุ้มชู มากล้วน ชวนใหลหลง สรรพสิ่ง แกร่งกล้า ทรนง ชีพดำรง สืบวงศ์ พงพนา แสงตะวัน สร้างสุข ทุกฤดู ยืนหยัดคู่ สมมาตร ปรารถนา แหล่งพลัง พลิกฟื้น คืนชีวา ผืนวนา คงอยู่ คู่แดนไทย คนเรียนไพร ๒๑ เมษายน ๒๕๖๘ |
78
เมื่อ: 22, เมษายน, 2568, 06:59:52 AM
|
||
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
(ต่อหน้า ๕/๖) ๒๙.สิงคาลกสูตร เวฬูวัน=เวฬุวัน(ป่าไผ่)ใกล้กรุงราชคฤห์ สิงคาลฯ=สิงคาลกมาณพ อรียสงฆ์,อรีย์=อริยสงฆ์ กรรมกีเลส=กรรมกิเลส ๔=คือ กรรมเครื่องเศร้าหมอง ได้แก่ (๑)ปาณาติบาต ฆ่าชีวิตสัตว์ (๒)อทินนาทาน ลักขโมย (๓)กาเมสุ มิจฉาจาร ประพฤติผิดในกาม (๔)มุสาวาท พูดเท็จ บาปฐานะ ๔=คือ อริยสาวกไม่ทำกรรมชั่วโดยฐานะ ๔ คือ ความลำเอียง เพราะรัก, เพราะชัง, เพราะหลง, เพราะกลัว ทำกรรมชั่ว ทางเสื่อมแห่งโภคะ ๖=ได้แก่ การประกอบเนือง ๆ ซึ่ง (๑)การดื่มน้ำเมาคือสุราอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท มีโทษ ๖ คือ ความเสื่อมทรัพย์ ก่อการทะเลาะวิวาท เป็นบ่อเกิดแห่งโรค เป็นเหตุเสียชื่อเสียง เป็นเหตุไม่รู้จักละอาย และเป็นเหตุทอนกำลังปัญญา (๒)การเที่ยวกลางคืน มีโทษ ๖ คือ ได้ชื่อว่าเป็นผู้ไม่คุ้มครองและไม่รักษาตัวเอง บุตรภรรยา ทรัพย์สมบัติ เป็นที่ระแวงของคนอื่น มีคำพูดอันไม่เป็นจริงในที่นั้นๆ และเหตุแห่งทุกข์เป็นอันมากย่อมแวดล้อม (๓)การดูการเล่น มหรสพ มีโทษ ๖ คือ รำ ขับร้อง ประโคม เสภา เพลง หรือเถิดเทิงที่ไหนไปที่นั่น (๔) การเล่นการพนัน มีโทษ ๖ คือ ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมเสียดายทรัพย์ที่เสียไป มีความเสื่อมทรัพย์ในปัจจุบัน ไปพูดที่ไหนไม่มีใครฟัง ถูกมิตรหมิ่นประมาท และไม่มีใครอยากจะแต่งงานด้วย (๕)การคบคนชั่วเป็นมิตร มีโทษ ๖ คือ นำให้เป็นนักเลงการพนัน นักเลงเจ้าชู้ นักเลงเหล้า เป็นคนลวงผู้อื่นด้วยของปลอม เป็นคนโกงเขาซึ่งหน้า และเป็นคนหัวไม้ (๖)ความเกียจคร้าน มีโทษ๖ คือ ไม่ทำงาน มักอ้างว่าหนาว ร้อน เวลาเย็นแล้ว ยังเช้าอยู่ หิว หรือกระหาย เมื่อผลัดเลี่ยงงานอย่างนี้ โภคะที่ยังไม่เกิดก็ไม่เกิดขึ้น ส่วนที่เกิดขึ้นแล้วก็ถึงความสิ้นไป วีวาท=วิวาท ปรามาท=ประมาท มิตรเทียม=มิตรเทียม ได้แก่ คน ๔ จำพวก ซึ่งควรเว้นให้ห่างไกล คือ (๑)คนปอกลอก ได้แก่ มิตรโดยสถาน ๔ คือ คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว เสียให้น้อยคิดเอาให้ได้มาก ไม่รับทำกิจของเพื่อนในคราวมีภัย และคบเพื่อนเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของตัว (๒)คนดีแต่พูด ได้แก่ มิตรโดยสถาน ๔ คือ เก็บเอาสิ่งที่ผ่านไปแล้วมาพูด อ้างเอาสิ่งที่ยังมาไม่ถึงมาพูด ช่วยด้วยสิ่งหาประโยชน์ไม่ได้ และแสดงความขัดข้องเมื่อมีกิจเกิดขึ้น (๓)คนหัวประจบ ได้แก่ มิตรโดยสถาน ๔ คือ ตามใจเพื่อนให้ทำความชั่ว ตามใจเพื่อนให้ทำความดี ต่อหน้าสรรเสริญ และลับหลังนินทา (๔)คนชักชวนในทางเสียหาย ได้แก่ มิตรโดยสถาน ๔ คือ ชักชวนให้ดื่มน้ำเมา ชักชวนให้เที่ยวตามตรอกต่างๆ ในเวลากลางคืน ชักชวนให้เที่ยวดูการมหรสพ และชักชวนให้เล่นการพนัน มิตรแท้=มิตรแท้ มีใจดี พึงเข้าไปนั่งใกล้โดยเคารพ ได้แก่ มิตร ๔ จำพวก คือ (๑)มิตรมีอุปการะ ได้แก่ มิตรโดยสถาน ๔ คือ รักษาเพื่อนผู้ประมาทแล้ว รักษาทรัพย์ของเพื่อนผู้ประมาทแล้ว เป็นที่พึ่งได้เมื่อมีภัย และเพิ่มทรัพย์ให้สองเท่าเมื่อมีกิจที่ต้องทำเกิดขึ้น (๒)มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ ได้แก่ มิตรโดยสถาน ๔ คือ บอกความลับแก่เพื่อน ปิดความลับของเพื่อน ไม่ละทิ้งในเหตุอันตราย และแม้ชีวิตก็อาจสละเพื่อประโยชน์เพื่อนได้ (๓)มิตรแนะประโยชน์ ได้แก่ มิตรโดยสถาน ๔ คือ ห้ามจากความชั่ว ให้ตั้งอยู่ในความดี ให้ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง และบอกทางสวรรค์ให้ (๔)มิตรมีความรักใคร่ ได้แก่ มิตรโดยสถาน ๔ คือ ไม่ยินดีด้วยความเสื่อมของเพื่อน ยินดีด้วยความเจริญของเพื่อน ห้ามคนที่กล่าวโทษเพื่อน และสรรเสริญคนที่สรรเสริญเพื่อน |
79
คำประพันธ์ แยกตามประเภท / โคลง-กาพย์-ฉันท์-ร่าย-ลิลิต / Re: ...-๐ นานาเครื่องจิ้มไทย จัดสำรับ กาพย์ห่อโคลง ๐-...
เมื่อ: 21, เมษายน, 2568, 10:35:09 PM
|
||
เริ่มโดย Black Sword - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword | ||
80
เมื่อ: 21, เมษายน, 2568, 10:30:18 PM
|
||
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword | ||
เหมือนนางฟ้าเมตตามาลอยลง นั่งตัวตรงดูดพรวดรวดเดียวเลย ![]() |