Username:

Password:


  • บ้านกลอนน้อยฯ
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล >> กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10
 81 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / โคลง-กาพย์-ฉันท์-ร่าย-ลิลิต / Re: ...-๐ นานาเครื่องว่าง-ขนมไทย จัดใส่โคลง ๐-...
 เมื่อ: 18, สิงหาคม, 2568, 10:18:32 PM 
เริ่มโดย Black Sword - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword

ขอบคุณรูปภาพต้นแบบจาก Internet

-๐ ทอดมันหน่อไม้ ๐-

๏   หอมทอดมันหน่อไม้           อวลมา
กลิ่นเครื่องเทศประทับอุราอบเร้า
ประทับจิตกัลยาประจงแต่ง
รสแห่งความรักเคล้าเคลือบสร้างปรุงสรรค์ ๚ะ๛

- Black Sword -
(หมู มยุรธุชบูรพา)

• กลับสู่สารบัญ เครื่องหวาน-เครื่องว่างไทย จัดใส่โคลง คลิก

 82 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ..ขอบาทเดียว..
 เมื่อ: 18, สิงหาคม, 2568, 10:15:30 PM 
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword

ไม่ต้องกลัวผีหลอกจะบอกให้    เอามดแดงโยนใส่ก็หมดท่า
 

 83 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ..ขอบาทเดียว..
 เมื่อ: 18, สิงหาคม, 2568, 07:44:45 PM 
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย ขวัญฤทัย (กุ้งนา)

รีบเร่งมือเร็วไวออกไปย้ำ     ตะวันต่ำอาจมีผีออกมา  

 84 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
 เมื่อ: 18, สิงหาคม, 2568, 05:18:34 PM 
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร

(ต่อหน้า ๔/๖) ๔.วิภังค์

ง) หทยรูป ๑ - รูปคือหทัย
(๑๒) หทัยวัตถุ - ที่ตั้งแห่งใจ, หัวใจ
จ) ชีวิตรูป ๑ - รูปที่เป็นชีวิต
(๑๓) ชีวิตินทรีย์ - อินทรีย์คือชีวิต
ฉ) อาหารรูป ๑ - รูปคืออาหาร
(๑๔) กวฬิงการาหาร - อาหารคือคำข้าว, อาหารที่กิน
ช) ปริจเฉทรูป ๑ - รูปที่กำหนดเทศะ :
(๑๕) อากาสธาตุ - สภาวะคือช่องว่าง
ญ) วิญญัติรูป ๒ - รูปคือการเคลื่อนไหวให้รู้ความหมาย
(๑๖) กายวิญญัติ - การเคลื่อนไหวให้รู้ความหมายด้วยกาย :
(๑๗) วจีวิญญัติ - การเคลื่อนไหวให้รู้ความหมายด้วยวาจา :
ฏ) วิการรูป ๕ - รูปคืออาการที่ดัดแปลงทำให้แปลกให้พิเศษได้
(๑๘) (รูปัสส) ลหุตา - ความเบา (๑๙) (รูปัสส) มุทุตา - ความอ่อนสลวย (๒๐) (รูปัสส) กัมมัญญตา - ความควรแก่การงาน, ใช้การได้
ฏ) ลักขณรูป ๔ - รูปคือลักษณะหรืออาการเป็นเครื่องกำหนด :
(๒๑) (รูปัสส) อุปจย - ความก่อตัวหรือเติบขึ้น (๒๒) (รูปัสส) สันตติ - ความสืบต่อ (๒๓) (รูปัสส) ชรตา - ความทรุดโทรม (๒๔) (รูปัสส) อนิจจตา - ความปรวนแปรแตกสลาย
รูปที่เป็นอนาคต เป็นไฉน = คือรูปใดยังไม่เกิด ยังไม่เป็น ยังไม่เกิดขึ้นพร้อม ยังไม่ตั้งขึ้นพร้อม ที่เป็นอนาคต สงเคราะห์เข้ากับส่วนอนาคต ได้แก่ มหาภูตรูป ๔ และรูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔ นี้เรียกว่า รูปที่เป็นอนาคต
รูปที่เป็นปัจจุบัน เป็นไฉน = คือรูปใดเกิดอยู่ เป็นอยู่ เกิดขึ้นพร้อม ที่เป็นปัจจุบัน สงเคราะห์เข้ากับส่วนปัจจุบันได้แก่ มหาภูตรูป ๔ และรูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔ นี้เรียกว่า รูปที่เป็นปัจจุบัน
รูปเกิดในตน = คือ รูปใดของสัตว์นั้นๆ ที่เป็นภายในตน มีเฉพาะตน เกิดในตน มีเฉพาะบุคคล ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือได้แก่ มหาภูตรูป ๔ และรูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔ นี้เรียกว่า รูปที่เป็นภายในตน
รูปที่เป็นภายนอกตน เป็นไฉน = คือ รูปใดของสัตว์อื่น ของบุคคลอื่นนั้นๆ ที่เป็นภายในตน มีเฉพาะตน เกิดในตนมีเฉพาะบุคคล ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ ได้แก่ มหาภูตรูป ๔ และรูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔ นี้เรียกว่า รูปที่เป็นภายนอกตน
รูปหยาบ = คือ รูปที่เห็นได้ เข้าใจได้ มี ๑๒ได้แก่
(๑) จักขายตนะ - คือ ตาซึ่งเป็นที่ประชุม เป็นที่เกิด (๒)โสตายตนะ - หู ฯลฯ (๓) ฆานายตนะ - จมูก (๔) ชิวหายตนะ - ลิ้น (๕) กายายตนะ - กาย (๖) รูปายตนะ - สี (๗) สัททายตนะ - เสียง (๘) คันธายตนะ - กลิ่น (๙) รสายตนะ - รส
โผฏฐัพพายตนะ ซึ่งเป็นที่ประชุมที่เกิด
(๑๐) สัมผัส เย็น,ร้อน ด้วยธาตุไฟ (๑๑) อ่อน,แข็ง ด้วยธาตุดิน (๑๒) ตึง,ไหว ด้วยธาตุลมนี้เรียกว่า รูปหยาบ
รูปละเอียด เป็นไฉน = อนิทัสสนอัปปฏิฆรูป คือเป็นรูปที่มองไม่เห็นและกระทบไม่ได้ มี ๑๖ อย่าง คือ (๑) อิตถินทรีย์ = คือความเป็นใหญ่ของหญิง มีหน้าที่แสดงลักษณะ กิริยาอาการของหญิง (๒) ปุริสินทรีย์ = คือความเป็นใหญ่ของชาย มีหน้าที่แสดงลักษณะกิริยาอาการของชาย (๓) ชีวิตินทรีย์ = คือความเป็นใหญ่ของชีวิต มีหน้าที่รักษารูปนาม
(๔) กายวิญญัตติ = การเคลื่อนไหวให้รู้ด้วยกาย เช่น พยักหน้า กวักมือ         
(๕) วจีวิญญัตติ = การให้รู้ความหมายด้วยวาจา คือพูด หรือบอกกล่าว
(๖) อากาสธาตุ =  ภาวะช่องว่าง (๗) รูปลหุตา = เป็นภาวะที่เบา ไม่หนักของรูป ดังเช่น อาการของคนไม่มีโรค (๘) รูปมุทุตา = เป็นภาวะที่อ่อน ไม่กระด้างของรูป ดังเช่น หนังที่ขยำไว้ดีแล้ว (๙) รูปกัมมัญญตา = เป็นภาวะที่ควรแก่การงานของรูป ดังเช่น ทองคำที่หลอมไว้ดีแล้ว (๑๐) รูปอุปจยะ = รูปเกิดขึ้นขณะแรก (๑๑) รูปสันตติ = ขณะที่รูปเจริญขึ้น (๑๒) รูปชรตา = ขณะที่รูปเสื่อมลง (๑๓) รูปอนิจจตา = ขณะที่รูปดับ (๑๔) กวฬิงการาหาร = อาหาร (๑๕) อาโปธาตุ = ธาตุน้ำ (๑๖) หทยรูป = คือ รูปที่เป็นที่ตั้งอาศัยเกิดของจิตและเจตสิก เพื่อทำกิจให้สำเร็จ เป็นกุศลหรืออกุศล นี้เรียกว่ารูปละเอียด
อาหาร = ปัจจัยเป็นเครื่องค้ำจุนชีวิต มี ๔ คือ (๑) กวฬิงการาหาร - อาหารคือคำข้าว (๒) ผัสสาหาร - อาหารคือผัสสะ (๓) มโนสัญเจตนาหาร - อาหารคือมโนสัญเจตนา (๔) วิญญาณาหาร -  อาหารคือวิญญาณ
รูปชั้นต่ำ เป็นไฉน = รูปใดของสัตว์นั้นๆ ที่น่าดูหมิ่น น่าเหยียดหยาม น่าเกลียด น่าตำหนิ ไม่น่ายกย่อง เป็นชั้นต่ำ รู้กันว่าเป็นชั้นต่ำ สมมติกันว่าเป็นชั้นต่ำ ไม่น่าปรารถนา ไม่น่ารักไม่น่าชอบใจ ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส และโผฏฐัพพะ นี้เรียกว่า รูปชั้นต่ำ
รูปชั้นประณีต เป็นไฉน = รูปใดของสัตว์นั้นๆ ที่ไม่น่าดูหมิ่น ไม่น่าเหยียดหยาม ไม่น่าเกลียด ไม่น่าตำหนิ น่ายกย่อง  สมมติกันว่าเป็นชั้นประณีต น่าปรารถนา น่ารัก น่าชอบใจ ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส และโผฏฐัพพะนี้เรียกว่า รูปชั้นประณีต
รูปไกล เป็นไฉน = ได้แก่
(๑) อิตถินทรีย์ = คือความเป็นใหญ่ของหญิง มีหน้าที่แสดงลักษณะของหญิง (๒) ปุริสินทรีย์ = คือความเป็นใหญ่ของชาย มีหน้าที่แสดงลักษณะของชาย (๓) ชีวิตินทรีย์ = คือความเป็นใหญ่ของชีวิต มีหน้าที่รักษารูปนาม (๔) กายวิญญัตติ = การเคลื่อนไหวให้รู้ด้วยกาย เช่น พยักหน้า กวักมือ (๕) วจีวิญญัตติ = การให้รู้ความหมายด้วยวาจา คือพูด หรือบอกกล่าว (๖) อากาสธาตุ = ภาวะว่างเปล่า (๗) รูปลหุตา = เป็นภาวะที่เบา ไม่หนักของรูป ดังเช่น อาการของคนไม่มีโรค (๘) รูปมุทุตา = เป็นภาวะที่อ่อน ไม่กระด้างของรูป ดังเช่น หนังที่ขยำไว้ดีแล้ว

 85 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / ความรักคืออะไร
 เมื่อ: 18, สิงหาคม, 2568, 02:30:12 PM 
เริ่มโดย กรกันต์ - กระทู้ล่าสุด โดย กรกันต์




ความรักคืออะไร

"รัก"คำนี้ที่ใจได้แต่ถาม
คือนิยามหรือกรรม ย้ำอีกหน
ขอความจริงจากใจไร้เล่ห์กล
พบเจอคน....พูดเล่นถือเป็นกรรม

เอ่ยคำรักแล้วเทเสียเวลา
ขอเป็นคำกริยา..คราเพ้อพร่ำ
รู้คำแปลแน่นอนก่อนเอ่ยคำ
กลัวเจ็บช้ำซ้ำซากหากนานวัน

เธออาจไม่รู้ซึ้ง ถึงความหมาย
รักสะดุดสุดท้ายกลายเป็นฉัน
รักที่เธอเผลอมอบตอบแทนกัน
เส้นทางรักระยะสั้น ผันเปลี่ยนไป

อย่า!!!!... ให้ฉันรับกรรมเพราะคำนี้
ความรักที่อับปางทางแก้ไข
อากัปกิริยา พาช้ำใจ
รู้ความหมายก่อนไหม?...ค่อยบอกกัน

กันต์กรีนซี




 86 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
 เมื่อ: 18, สิงหาคม, 2568, 09:23:22 AM 
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร

(ต่อหน้า ๓/๖) ๔.วิภังค์

  ๓๔.แจง"รูปสิบ"ดุน            "โสตินฯ,จักขุนฯ"        "ฆานินทรีย์ฯเผย
"ชิวหินฯ,กายินฯ"                  "ชาย,ปุริสิน                "หญิง,อิตถินฯ"เอ่ย
ชีวิตรูปเปรย                         "กระทบได้"เอย          "ไม่กระทบ"แล

   ๓๕.แจง"รูปสิบเอ็ด"           "ที่เกิดรูป"เด็ด  "         "จักขายะฯ"แฉ
"หู,โสตายะ"                          "จมูก,ฆานาฯ"ปะ         "ลิ้น,ชิวหาฯ"แน่
"กายายะฯ"แท้                      "รูป,รูปาฯ"แล้               "สัททาฯ,เสียง"มา

   ๓๖."คันทายะฯ,กลิ่น"         "รสายะฯ"ชิน               "โผฏฐัพพาฯ"หนา
จับด้วยกายชัด                      รูป"เอนิทัสส์ฯ"             เห็นไม่ได้นา
"อัปป์ฏิฆะ"ล่า                         จับมิได้พา                    ต้องรู้ด้วยใจ

   ๓๗."ปัญหาปุจฉ์กะ"            เกี่ยวกับ"รูป"ปะ            "อัพยากฤต"ไข
"รูป"เป็นกลางยล                   มิเป็นกุศล                     อกุศลไย
รูปขันธ์ข้องไหว                     "กามาวจะฯ"ไซร้           ท่องอยู่ในกาม

   ๓๘.รูปขันธ์"ปริยาฯ"           นับ"วัฏฏะฯ"หนา           วนเวียนทุกข์ผลาม
"อนิย์ยาฯ"คำ                         ไม่เป็นเหตุนำ                ออกวัฏฏะตาม
"อัปปีติฯ"ถาม                         สภาพธรรมลาม           ไร้ปีติเอย

   ๓๙.รูปขันธ์นั้นเป็น              "อวิตักฯ"เด่น                ไร้วิตกเผย
"อวิจาฯ"หนา                           สภาพธรรมกล้า          ไร้วิจารเลย
ตัวอย่าง"รูป"เปรย                  คำตอบย่อเอ่ย"            ขอจบลงครัน ฯ|ะ

แสงประภัสสร

ที่มา : พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๕  พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๒ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_line.php?B=35&A=1

วิภังค์ = แปล ว่าด้วยการแจก คือแยกกลุ่มธรรมะให้เห็นรายละเอียด (เช่น คำว่าขันธ์ ๕ อายตนะ  ๑๒ จำแนกออกไปอย่างไรบ้าง) มีทั้งหมด ๑๘ หมวด แต่ละหมวด ส่วนมากจะแจงเป็น ๓ ภาค
(ก) สุตตันตภาชนียะ -หัวข้อฝ่ายพระสูตร (ข) อภิธัมมภาชนียะ - หัวข้อฝ่ายอภิธรรม (ค) ปัญหาปุจฉกะ - ฝ่ายถามตอบปัญหา
วิภังค์ มี ๑๘ หมวด คือ
(๑) ขันธวิภังค์ - แจกขันธ์ ๕ (๒) อายตนวิภังค์ - แจกอายตนะ ๑๒ (๓) ธาตุวิภังค์ -แจกธาตุ ๖ และธาตุ ๑๘ (๔) สัจจวิภังค์ - แจกอริยสัจจ์ ๔ (๕) อินทริยวิภังค์ - แจกอินทรีย์ ๒๒ (๖) ปัจจยาการวิภังค์ -แจกปัจจยาการ ๑๒ ที่เรียก ปฏิจจสมุปบาท (๗) สติปัฏฐานวิภังค์ -แจก สติปัฏฐาน ๔ (๘) สัมมัปปธานวิภังค์ - แจกสัมมัปปธาน เพียรชอบ ๔ (๙) อิทธิปาทวิภังค์ - แจกอิทธิบาท ๔ (๑๐) โพชฌังควิภังค์ - แจกโพชฌงค์ ๗ (๑๑)มัคควิภังค์- แจกมรรคมีองค์ ๘ (๑๒) ฌานวิภังค์ - แจกฌาน การเพ่งอารมณ์ ทั้ง รูปฌาน และอรูปฌาน (๑๓) อัปปมัญญาวิภังค์ - แจกอัปปมัญญา ๔ (พรหมวิหาร ๔ที่แผ่ไปโดยไม่มีประมาณ) (๑๔) สิกขาปทวิภังค์- แจกสิกขาบท ๕ คือศีล ๕ (๑๕) ปฏิสัมภิทาวิภังค์ - แจกปฏิสัมภิทา ความแตกฉาน ๔ (๑๖) ญาณวิภังค์ - แจกญาณ ความรู้ตั้งแต่หมวด ๑ -๑๐ (๑๗) ขุททกวัตถุวิภังค์ - แจกเรื่องเล็กๆน้อยๆ ตั้งแต่หมวดที่ ๑ - ๑๘ (๑๘) ธัมมหทยวิภังค์ - แจกหัวใจหรือหัวข้อธรรม
(หมวด ๕,๑๔ ไม่มีหัวข้อฝ่ายพระสูตร; หมวด ๑๖,๑๗,๑๘ ไม่ได้ตั้งเป็นหัวข้อฝ่ายพระสูตร และฝ่ายพระอภิธรรม)
ขันธ์ ๕ = คือ
(๑) รูปขันธ์ - กองรูป (๒) เวทนาขันธ์ - กองเวทนา (๓) สัญญาขันธ์ - กองสัญญา (๔) สังขารขันธ์ - กองสังขาร (๕) วิญญาณขันธ์ - กองวิญญาณ
รูปขันธ์ เป็นไฉน = รูปอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ รูปที่เป็นอดีต รูปที่เป็นอนาคต รูปที่เป็นปัจจุบัน; รูปที่เป็นภายในตน รูปที่เป็นภายนอกตน; รูปหยาบ รูปละเอียด; รูปชั้นต่ำ รูปชั้นประณีต; รูปไกล หรือรูปใกล้; ประมวลย่อเข้าเป็นกองเดียวกัน นี้เรียกว่า รูปขันธ์
รูปที่เป็นอดีต เป็นไฉน =คือ รูปใดล่วงไปแล้ว ดับไปแล้ว แปรไปแล้ว ถึงความดับสิ้นแล้ว ที่เกิดขึ้นปราศจากไปแล้ว ที่เป็นอดีต สงเคราะห์เข้ากับส่วนอดีตได้แก่ มหาภูตรูป ๔ และรูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔ (อุปาทายรูป)
มหาภูตรูป ๔ = ดิน น้ำ ไฟ ลม
อุปาทยรูป  ๒๔ = หรือ อุปาทารูป คือ รูปที่อาศัย มหาภูตรูปเกิด ได้แก่
ก) ปสาทรูป ๕ - รูปที่เป็นประสาทสำหรับรับอารมณ์ :
(๑) จักขุ - ตา (๒) โสต - หู (๓) ฆาน - จมูก (๔) ชิวหา -ลิ้น (๕) กาย
ข) โคจรรูป หรือ วิสัยรูป ๔ - รูปที่เป็นอารมณ์หรือแดนรับรู้ของอินทรีย์ :
(๖) รูปะ - รูป (๗) สัททะ - เสียง (๘) คันธะ - กลิ่น (๙) รสะ - รส
ค) ภาวรูป ๒ - รูปที่เป็นภาวะ
(๑๐) อิตถัตตะ, อิตถินทรีย์ - ความเป็นหญิง
(๑๑) ปุริสัตตะ, ปุริสินทรีย์ - ความเป็นชาย

 87 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / นิยาย-เรื่องสั้น-บทความ-ความเรียง-เรื่องเล่าทั่วไป / หยุด
 เมื่อ: 17, สิงหาคม, 2568, 11:16:15 PM 
เริ่มโดย กรกช - กระทู้ล่าสุด โดย กรกช





ในยุคที่โลกไม่เคยหลับใหล เราก็ไม่เคยหยุด
เรากินตลอดเวลา—อาหาร ขนม น้ำตาล กาแฟ ทุกชั่วโมง ทุกนาที
แต่ทุกคำที่เรากิน คือคำสั่งให้ร่างกายทำงาน
ระบบย่อยต้องเปิด เครื่องเผาผลาญต้องเร่ง
ไม่มีวันหยุด ไม่มีคืนพัก เหมือนเครื่องจักรที่ไม่เคยดับเครื่อง
...แต่ธรรมชาติไม่ได้สร้างเรามาเพื่อทำงานตลอดเวลา
ธรรมชาติสร้างเรามาให้รู้จัก "ความว่าง"
เมื่อท้องว่าง กลไกอันชาญฉลาดชื่อว่า "ออโตฟาจี" (Autophagy) จะเริ่มทำงาน
เหมือนกองทัพเล็ก ๆ ที่ออกตระเวนเก็บกวาด
เซลล์เก่า โปรตีนเสีย ไขมันตกค้าง ถูกแยกออก ละลาย และขจัดทิ้ง
นี่ไม่ใช่แค่การอดอาหาร แต่คือการให้โอกาสร่างกายได้ชำระล้างลึกถึงระดับเซลล์ ให้กลับมาสดใหม่ มีชีวิต มีภูมิคุ้มกัน
แต่เราไม่เคยปล่อยให้กลไกนี้ได้ทำงาน เพราะเราไม่เคยหยุด
เราจึงสะสมสิ่งที่ควรถูกชำระ
จนร่างกายกลายเป็นบ้านที่ไม่เคยได้กวาด ไม่เคยได้ล้าง ไม่เคยได้ว่าง
จิตใจของเราก็ไม่เคยได้ว่าง
เราเสพข้อมูล รูปภาพ ข่าว วิดีโอ เสียง แจ้งเตือน ข้อความ ไม่หยุด แม้ไม่มีหน้าจอ เราก็คิด กังวล คุย วางแผน เฝ้ารอ หรือจดจ่อกับสิ่งรบกวน จิตจึงไม่มีโอกาสได้ "ว่าง"
ทั้งที่ในความว่างนั้นเอง—จิตมีกลไกแห่งการเยียวยา
เมื่อจิตได้อยู่กับความเงียบอย่างแท้จริง มันจะจัดระเบียบตัวเอง เหมือนน้ำที่หยุดไหลฟุ้ง ฝุ่นจะตกตะกอน เหมือนกระจกที่หยุดสั่น ภาพจึงสะท้อนชัด
แต่เรากลัวความว่าง กลัวความเงียบ กลัวความช้า จนลืมไปว่าในความว่างนั้น เราจะได้พบตัวเอง
เมื่อเราไม่หยุด ทั้งร่างกายและจิตใจจึงไม่มีโอกาสได้ซ่อมแซม
นี่แหละ คือรากเหง้าของความเจ็บป่วยที่เราเรียกว่า "โรค"
ร่างกายที่ไม่เคยว่างสะสมของเสีย เกิดการอักเสบ ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ชราภาพเร็ว เบาหวาน หัวใจ มะเร็ง ล้วนเริ่มต้นจากการไม่มี "ช่วงซ่อมแซม”
จิตใจที่ไม่เคยหยุดสะสมความฟุ้งซ่าน กลายเป็นความวิตก นอนไม่หลับ ซึมเศร้า หมดไฟ ว้าเหว่ เหมือนห้องรกที่ไม่เคยได้จัด เหมือนบ้านที่ไม่มีใครปัดฝุ่น
ทางออกนั้นเรียบง่าย ไม่ใช่การเพิ่ม แต่คือการเว้น ไม่ใช่การพยายาม แต่คือการ “หยุด”
หยุดกิน อย่างน้อยวันละ 12–16 ชั่วโมง
เพื่อให้ร่างกายได้ทำหน้าที่ฟื้นฟูตัวเอง
หยุดเสพข้อมูล อย่างน้อยวันละหนึ่งชั่วโมง
ไม่มีหน้าจอ ไม่มีเสียง ไม่มีข้อความ
หยุดคิด อย่างน้อยวันละ 10 นาที
นั่งนิ่ง ๆ กับตัวเอง ให้ความคิดไหลผ่าน โดยไม่ต้องควบคุม
ในความ "หยุด" นี้เอง ชีวิตใหม่เริ่มต้น
ไม่ใช่ชีวิตที่ทำมากขึ้น แต่ลึกมากขึ้น
ไม่ใช่ชีวิตที่เต็มไปด้วยสิ่งใหม่ แต่เต็มไปด้วยความหมาย
มนุษย์โบราณรู้จักการหยุดโดยสัญชาตญาณ
พวกเขาไม่ได้ล่าสัตว์ทุกวัน ไม่ได้กินทุกมื้อ ไม่ได้คุยตลอดคืน และมีเวลานั่งมองดวงดาวเงียบๆ กับตัวเอง
พวกเขารู้จักจังหวะของ "การพัก"
แต่โลกสมัยใหม่ลบ “ช่วงว่าง” เหล่านั้นออกจากชีวิต
เปลี่ยนทุกอย่างให้ต่อเนื่อง ไม่มีที่ช่องว่างให้ชีวิตหายใจ
ถึงเวลาที่เราต้องทวงคืน
ไม่ใช่เพื่อย้อนกลับไปหาอดีต แต่เพื่อกลับไปฟังเสียงธรรมชาติของตัวเอง
การหยุดไม่ใช่การเสียเวลา แต่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด
หยุดวันนี้ เพื่อมีชีวิตที่ยาวนาน อย่างมีคุณภาพ มีความสงบ
หยุดชั่วคราว เพื่อเดินต่อไปได้ไกลกว่าเดิม
หยุด เพื่อให้ร่างกายได้ชำระล้าง
หยุด เพื่อให้จิตใจได้คลี่คลาย
หยุด เพื่อให้ชีวิตได้หายใจอีกครั้ง
“หยุด” คือบทเพลงแห่งการเยียวยาที่โลกสมัยใหม่ลืมเลือน
และถึงเวลาแล้ว ที่เราต้องกลับมาจดจำมันอีกครั้ง

 88 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / นิยาย-เรื่องสั้น-บทความ-ความเรียง-เรื่องเล่าทั่วไป / ไก่ป่ากับนายพราน
 เมื่อ: 17, สิงหาคม, 2568, 11:09:24 PM 
เริ่มโดย กรกช - กระทู้ล่าสุด โดย กรกช




นิทานเรื่อง ”ไก่ป่ากับนายพราน“
ระหว่างที่ไก่ป่าฝูงหนึ่งกำลังเดินหาอาหารอยู่ริมทุ่ง จู่ ๆ ก็มีนายพรานคนหนึ่งโผล่ขึ้นมา ในมือของเขาถือเครื่องคิดเลขเป็นอาวุธ
ฝูงไก่ป่าแตกตื่นตกใจที่มีมนุษย์บุกรุกเข้ามาใกล้ ๆ บางตัวโผบินหนีห่างออกไปเกาะตามกิ่งไม้
“ไก่ป่าต้องเดินประมาณแปดก้าวจึงจะหาเมล็ดพืชได้สักเมล็ดหนึ่ง” นายพรานพูดขึ้นลอย ๆ   ไก่ป่าเกือบทั้งหมดหยุดเคลื่อนไหวเมื่อได้ยินนายพรานพูด
แล้วเขาก็พูดต่อ “ฉันแอบสังเกตอยู่นานแล้ว และถ้าเป็นตัวหนอนสักตัวหนึ่ง ไก่ป่าอาจต้องเดินถึงสามสิบก้าวถึงจะหาเจอ”  ไก่ป่าแทบทุกตัวจ้องมองไปที่นายพรานอย่างตั้งใจ
นายพรานเห็นดังนั้นจึงผายมืออธิบาย “แล้วถ้าอยากได้เมล็ดพืชสองเมล็ดล่ะ อย่างน้อยที่สุดไก่ป่าต้องเดินสิบหกก้าว”
ว่าแล้วนายพรานก็หยิบเครื่องคิดเลขขึ้นมาจิ้ม “นั่นคือ ถ้าวันไหนอยากได้เมล็ดพืชลงท้องสักสิบห้าเมล็ด ไก่ป่าต้องเดิน…หนึ่งร้อยยี่สิบก้าว”
ไก่ป่าบางตัวเริ่มหันหน้ามามองกัน บางตัวคิดตาม “แค่อาหารมื้อหนึ่ง ฉันต้องเดินเป็นร้อย ๆ ก้าวจริงหรือนี่”
แล้วไก่ป่าสาวตัวหนึ่งก็เอ่ยถามกันเอง “หมายความว่า วันที่ฉันตั้งท้องและต้องการหนอนหลาย ๆ ตัว ฉันคงต้องเดินเป็นพัน ๆ ก้าวเลยสิ”
นายพรานพูดอีก “ไก่บางตัวก็ลืมที่จะบวกรวมระยะทางที่ต้องเดินกลับ”
หลังจากฟังนายพรานพูดลอย ๆ ไปได้สักพัก ไก่ป่าตัวผู้ตัวหนึ่งก็ตัดสินใจเดินเข้ามาหานายพราน “แล้วท่านมีวิธีที่ดีกว่าการเดินหาอาหารแบบนี้หรือ”
“มีสิ” นายพรานตอบ “ที่บ้านของฉันทำนา เราฝัดข้าวและก็ตำข้าวกันตรงลานบ้าน มีเมล็ดข้าวตกกระจายอยู่ทั้งพื้นที่”
เมื่อได้ยินคำว่าเมล็ดข้าวตกกระจาย ไก่ป่าตัวอื่นเริ่มตีวงเข้ามาฟัง
“พื้นที่บ้านของฉันมีไม่ถึงไร่ เฉลี่ยแล้วทุกตารางวาต้องมีเมล็ดข้าวหล่นอยู่ไม่ต่ำว่าสองหรือสามเมล็ด” นายพรานสาธยายแล้วก็ชักชวน “ย้ายไปอยู่บ้านฉันดีกว่า”
ไก่ตัวผู้ตัวแรกที่เดินเข้ามาฟังโก่งคอถามทันที “ท่านอย่ามาหลอกเราเลย”  ไก่ป่าตัวอื่นชะงักเท้าถอยหลัง
“ท่านจะกำลังจะมาหลอกพวกเราให้ไปอยู่ด้วย ท่านอย่าลืมสิว่าฝูงที่พวกเราอยู่กันนี้มีเกือบครึ่งร้อย แล้วเมล็ดข้าวที่หล่นตามพื้นตามดินที่บ้านท่านจะพอให้พวกเราหากินหรือ” ไก่หนุ่มยืดอกถามกลับ
นายพรานหยิบเครื่องคิดเลขขึ้นมากดแล้วก็ชูให้ไก่ป่าดู “ดูนี่ ถ้าเมล็ดข้าวในหนึ่งตารางวามีหกเมล็ด แล้วพวกท่านรวมกันหกสิบตัว ข้าคำนวณดูแล้ว พวกท่านเดินกันไม่ถึงสองก้าวก็เจอเมล็ดข้าวแล้ว“
 นายพรานชูเครื่องคิดเลขให้ไก่ทุกตัวได้เห็น “แล้วลองหารจำนวนวันที่พวกท่านกินเมล็ดข้าวไปแล้วด้วย ส่วนที่เหลือ บวกเข้ากับจำนวนเมล็ดข้าวที่กระเด็นหลุดออกมาตอนตำข้าวและฝัดข้าวในวันต่อมา”
ไก่ป่าสาวร้องถาม “แล้วถ้าฉันตั้งท้องล่ะ ฉันมิต้องเดินเป็นพัน ๆ ก้าวเพื่อหาหนอนในป่าหรือ”
นายพรานยิ้ม “ฉันลืมบอกไปว่าที่บ้านฉันมี ผีเสื้ออยู่ราวสิบตัว และก็มีแมลงวันกับแมลงหวี่อีกอย่างละสองร้อย” นายพรานเอาสมุดจดจำนวนแมลงมายืนยัน แล็วก็กดเครื่องคิดเลขอีกครั้งชูให้พวกไก่ป่าดู “หนอนของแมลงที่บ้านฉันน่าจะพอให้พวกท่านเดินหากันไม่ถึงแปดก้าวก็เจอแล้ว เอาสามร้อยตารางวามาหารด้วย”
ไก่ป่าต่างพากันคิดตาม ไก่ตัวไหนที่คิดเลขเก่งหน่อยก็เอาตัวเลขที่นายพรานเสนอมาทบทวนอีกหลาย ๆ รอบ
และหลังจากถกเถียงเรื่องตัวเลขกันพักใหญ่ ไก่ผู้เฒ่าที่คิดเลขเก่งที่สุดจึงกล่าวกับฝูงไก่ป่า “เขาไม่หลอกพวกเราหรอก”
ในที่สุด ไก่ป่าทั้งฝูงก็ตัดสินใจเดินตามนายพรานไปที่บ้านของเขา
แน่นอนนายพรานย่อมเป็นนายพราน เมื่อไปถึงบ้าน ไก่ทั้งหมดก็ถูกจับขังกรงเพื่อรอเอาไปขายในตลาด
จบนิทานเรื่องนี้แต่เพียงเท่านี้
แล้วเรื่องนี้มันผิดตรงไหน ใครหาเจอบ้าง
ตัวเลขที่นายพรานเสนอมานั้นไม่ใช่ตัวเลขโกหกอย่างแน่นอน มันถูกพิสูจน์ได้ด้วยการคำนวณซ้ำ ๆ โดยไก่ทั้งฝูงและก็ตรงกับเครื่องคิดเลขของนายพราน แม้แต่จำนวนแมลงที่นายพรานจดไว้ในสมุดก็มีจำนวนตามนั้นจริง ๆ
เขาไม่ได้โกหกเลย
................................

คัดมาจาก เฟซบุ๊ค ของ ประภาส ชลศรานนท์


 89 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / โคลง-กาพย์-ฉันท์-ร่าย-ลิลิต / Re: ...-๐ นานาประสาสัตว์คำโคลง ๐-...
 เมื่อ: 17, สิงหาคม, 2568, 10:01:30 PM 
เริ่มโดย Black Sword - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword

Photo By บ้านกลอนน้อยฯ©
วันประมงน้อมเกล้า 2568 ครั้งที่ 35

-๐ ปลากัดแฟนซี โค่ย ไทเกอร์ ๐-

๏   โค่ยไทเกอร์ล่องคล้อย      ลอยธาร
ดำดัดเหลืองแลหาญเหิ่มห้าว
เหมือนราวดุจพยัคฆ์ปานนำเปรียบ เทียบเฮย
ผายครีบแผ่หางกร้าวกราดกล้ามาผยอง ๚ะ๛

- Black Sword -
(หมู มยุรธุชบูรพา)

• กลับสู่สารบัญ นานาประสาสัตว์คำโคลง คลิก

 90 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ..ขอบาทเดียว..
 เมื่อ: 17, สิงหาคม, 2568, 09:56:51 PM 
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword

ต้องเตรียมเครื่องอีกด้วยช่วยหยิบจับ    ให้พร้อมสรรพเสร็จทันตะวันค่ำ
 

หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10
Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.391 วินาที กับ 18 คำสั่ง
กำลังโหลด...