Username:

Password:


  • บ้านกลอนน้อยฯ
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล >> กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10
 81 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / ห้องนั่งเล่นพักผ่อน / Re: เก็บตก..ยกมาเล่า
 เมื่อ: 12, ตุลาคม, 2568, 11:12:12 PM 
เริ่มโดย ปลายฝน คนงาม - กระทู้ล่าสุด โดย กรกช


แม่ : เมื่อกลางวันซื้อข้าวมาวางไว้
       เดินไปหยิบน้ำที่ตู้เย็นแปร๊บเดียว
       กลับมา ข้าวหาย

ลูกชาย : ทำไมล่ะ แม่

แม่ : โต๊ะกินข้าว

 

https://www.facebook.com/reel/2996388073873622

 82 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / โคลง-กาพย์-ฉันท์-ร่าย-ลิลิต / Re: ...-๐ นานาประสาสัตว์คำโคลง ๐-...
 เมื่อ: 12, ตุลาคม, 2568, 10:19:40 PM 
เริ่มโดย Black Sword - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword

Photo By บ้านกลอนน้อยฯ©
วันประมงน้อมเกล้า 2568 ครั้งที่ 35

-๐ ปลาเห็ดโคนขาว ๐-

๏   หัวหลิมเวียนแล่นน้ำ      เพลินคะนอง
ปลาเห็ดโคนขาวมองเฉียดใกล้
เร็วรุดมุดทรายกองพรางซ่อน
เร้นแอบแนบเนียนให้เสาะค้นวนหา ๚ะ๛

- Black Sword -
(หมู มยุรธุชบูรพา)

• กลับสู่สารบัญ นานาประสาสัตว์คำโคลง คลิก

 83 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: - เล่น..กลอนดอกสร้อย -
 เมื่อ: 12, ตุลาคม, 2568, 10:15:54 PM 
เริ่มโดย ปลายฝน คนงาม - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword

หล่อเอ๋ยหล่อเหลา
ฟังข้าวหอมชมเราแล้วเขินหนอ
ทั้งฝาตุ่มคำหวานหว่านเยินยอ
ต้องแอบหลบมุดท่อขอซ่อนกาย
เพราะเดินไปทางไหนดอกไม้หว่าน
นึกภาพผ่านเหมือนอะไรไม่รู้หมาย
รู้แต่รีบเก็บดอกไม้ที่เห็นกระจาย
ได้เงินขายจ่ายค่า.. อาหารเอย ฯ
 
- Black Sword -
 (หมู มยุรธุชบูรพา)



 84 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ..ขอบาทเดียว..
 เมื่อ: 12, ตุลาคม, 2568, 09:55:51 PM 
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword

เป็นโดเรม่อนดอกนะกานดา     คนนิยมถ้วนหน้าจะว่าไป
 

 85 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: - เล่น..กลอนดอกสร้อย -
 เมื่อ: 12, ตุลาคม, 2568, 04:10:57 PM 
เริ่มโดย ปลายฝน คนงาม - กระทู้ล่าสุด โดย ฝาตุ่ม

ดังเอ๋ยดังสนั่น
คนขายฝันบ้านเราเขารู้จัก
เดินไปไหนต่อไหนใครก็ทัก
อาจมีคนแอบรักก็ไม่รู้
ปานดาราปรากฎเจ้าบทบาท
โดนสัมภาษณ์เช้าเย็นความเป็นอยู่
จะเดินไปทางไหนดอกไม้ปู
นึกภาพดูเหมือนอะไรไม่รู้เอย

 


 86 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ..ขอบาทเดียว..
 เมื่อ: 12, ตุลาคม, 2568, 03:55:30 PM 
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย ฝาตุ่ม


เข้าตำราโบราณประมาณไหน    ขุนช้างใช่หรือเปล่าเล่าพี่ขา 

 87 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: ประมวลธรรม: ๘.เกวัฏฏสูตร
 เมื่อ: 12, ตุลาคม, 2568, 03:29:23 PM 
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร

(ต่อหน้า ๔/๔) ๕๕.มหาสาโรปมสูตร

(๓) เปลือกพรหมจรรย์
กุลบุตรออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต เพื่อกระทำที่สุดแห่งทุกข์
~ เขามีลาภสักการะสรรเสริญ แต่ไม่ยินดี ไม่ประมาท.. และไม่ยกตนข่มผู้อื่น ด้วยลาภสักการะ
~ เขาถึงพร้อมด้วยศีล ยินดีในศีล ไม่ประมาทในศีล... และไม่ยกตนข่มผู้อื่นด้วยศีล
~ เขาถึงพร้อมด้วยสมาธิ แต่เขายกตนข่มผู้อื่นว่าเรามีจิตตั้งมั่น (ภิกษุอื่นจิตไม่ตั้งมั่น)
~ เขามัวเมา ถึงความประมาทแห่งสมาธินั้น เมื่อเป็นผู้ประมาทแล้ว ย่อมอยู่เป็นทุกข์
~ เหมือนบุรุษต้องการแก่นไม้ เมื่อพบต้นไม้ใหญ่มีแก่น กลับละเลยแก่น จึงถากเอาเปลือกไป
~ ภิกษุนี้เราเรียกว่า ได้ถือเอาเปลือกแห่งพรหมจรรย์ และถึงที่สุดแค่เปลือกนั้น
(๔) กระพี้พรหมจรรย์
กุลบุตรออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต เพื่อกระทำที่สุดแห่งทุกข์
~ เขามีลาภสักการะสรรเสริญ แต่ไม่ยินดี ไม่ประมาท.. และไม่ยกตนข่มผู้อื่น ด้วยลาภสักการะ
~ เขาถึงพร้อมด้วยศีล ยินดีในศีล ไม่ประมาทในศีล... และไม่ยกตนข่มผู้อื่นด้วยศีล
~ เขาถึงพร้อมด้วยสมาธิ แต่ไม่ยกตนข่มผู้อื่นว่าเราถึงพร้อมด้วยสมาธิ เรามีจิตตั้งมั่น
~ เขายังญาณทัสสนะให้สำเร็จ เขามีความยินดี ว่าเรารู้เราเห็นอยู่ แต่เขาจึงยกตนข่มผู้อื่น
~ เขามัวเมา ถึงความประมาท เพราะญาณทัสสนะนั้น เมื่อเป็นผู้ประมาทแล้ว ย่อมอยู่เป็นทุกข์
~ เหมือนบุรุษต้องการแก่นไม้ เมื่อพบต้นไม้มีแก่น กลับละเลย จึงถากเอากระพี้ไป สำคัญว่าแก่น
~ ภิกษุนี้เราเรียกว่า ได้ถือเอากระพี้ แห่งพรหมจรรย์ และถึงที่สุดแค่กระพี้นั้นแล
(๕) แก่นพรหมจรรย์
กุลบุตรออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต เพื่อกระทำที่สุดแห่งทุกข์
~ เขามีลาภสักการะสรรเสริญ แต่ไม่ยินดี ไม่ประมาท.. และไม่ยกตนข่มผู้อื่น ด้วยลาภสักการะ
~ เขาถึงพร้อมด้วยศีล ยินดีในศีล ไม่ประมาทในศีล... และไม่ยกตนข่มผู้อื่นด้วยศีล
~ เขาถึงพร้อมด้วยสมาธิ แต่ไม่ยกตนข่มผู้อื่นว่าเราถึงพร้อมด้วยสมาธิ เรามีจิตตั้งมั่น
~ เขายังญาณทัสสนะให้สำเร็จ เขามีความยินดี ว่าเรารู้เราเห็นอยู่ แต่เขาไม่ยกตนข่มผู้อื่น
~ เขาย่อมไม่มัวเมา ไม่ถึงความประมาท เมื่อเป็นผู้ไม่ประมาทแล้ว ย่อมยังสมยวิโมกข์ให้สำเร็จ
~ ข้อที่ภิกษุนั้นจะพึงเสื่อมจาก สมยวิมุติ (ทำความหลุดพ้นให้สำเร็จ) เป็นฐานะที่จะมีได้
ญาณทัสสนะ = คือ ความรู้ที่เกิดจากการปฏิบัติธรรม ทำให้ผู้ปฏิบัติสามารถเห็นความจริงของสภาวธรรมต่างๆ ได้อย่างแจ่มแจ้ง ญาณทัสสนะ ในที่นี้หมายถึงอภิญญา ๕ ประการ คือ (๑) อิทธิวิธิ ความรู้ที่ทำให้แสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้ (๒) ทิพพโสต ญาณที่ทำให้มีหูทิพย์ (๓) เจโตปริยญาณ ญาณที่ทำให้กำหนดใจคนอื่นได้ (๔) ปุพเพนิวาสานุสสติ ญาณที่ทำให้ระลึกชาติได้ (๕) ทิพพจักขุ ญาณที่ทำให้มีตาทิพย์
สมยวิโมกข์ = คือกาล คือสมัย ที่พ้นจากกิเลส หรือ เข้าถึงการหลุดพ้น)
อสมยวิมุติ = คือความหลุดพ้นที่ไม่กลับกำเริบ หมายถึงโลกุตตรธรรม ๙ คือ อริยมรรค ๔ สามัญญผล ๔ และนิพพาน ๑
เจโตวิมุตติ = คือ ความหลุดพ้นแห่งจิต ความหลุดพ้นด้วยอำนาจการฝึกจิต ความหลุดพ้นแห่งจิตจากราคะ ด้วยกำลังแห่งสมาธิ

 88 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / ♠.♠.ภาพตรงหน้า.♠.♠
 เมื่อ: 12, ตุลาคม, 2568, 03:06:45 PM 
เริ่มโดย เฒ่าธุลี - กระทู้ล่าสุด โดย เฒ่าธุลี


♠.♠.ภาพตรงหน้า.♠.♠
♠.♠
"ภาพตรงหน้า"งามนักน่ารักใคร่
สวยถูกใจไขว่คว้ามาไม่ถึง
หรือพระพรหมเยื้อยุดฉุดรั้งดึง
ตอกหมุดตรึงรั้งหน่วงบ่วงรักเรา
♠.♠
ทางข้างหน้ามืดมิดปิดกั้นขวาง
หมดหนทางชิดใกล้ใจหมองเศร้า
เฝ้าหลงรักปักใจไร้แม้เงา
ให้หยอกเย้าเคล้ากอดชอดชีวี
♠.♠
ตั้งคำถามในใจใครหวงห้าม
คอยติดตามผลักไสไปทุกที่
เธอก็พลอยเป็นใจไปทุกที
ทำอย่างนี้ฉันเหงาเฝ้าน้อยใจ
♠.♠
ดับอารมณ์ผิดหวังนั่งมองฟ้า
เคยสบตาครั้งนั้นยังหวั่นไหว
เห็นกันอยู่หลัดหลัดพลัดพลากไป
ไกลแสนไกลกลบเกลื่อนเมือนไม่เคย
♠.♠
จึงจำจากเธอไปไม่อยากเห็น
ที่ฉันเป็นเช่นนั้นฉันวางเฉย
ปล่อยให้กาลเวลาพาล่วงเลย
รอเธอเผยความในให้ครอบครอง
♠.♠
แต่คืนวันผ่านไปไม่ย่อท้อ
ฉันจะรอวันนั้นวันเราสอง
สุขสมหวังดังใจที่ใฝ่ปอง
"เข้าหอห้องวิวาห์"ให้สาใจ
♠.♠
เฒ่าธุลี



 89 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: ประมวลธรรม: ๘.เกวัฏฏสูตร
 เมื่อ: 12, ตุลาคม, 2568, 07:12:00 AM 
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร

(ต่อหน้า ๓/๔) ๕๕.มหาสาโรปมสูตร

สาเหตุที่พระพุทธเจ้าบวชแก่พระเทวทัต ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า พระเทวทัตจะทำชั่วต่อพระพุทธเจ้าและพระศาสนานั้นได้มีการกล่าวไว้ในมิลินทปัญหา ว่าเมื่อครั้งหนึ่ง พระเจ้ามิลินท์ทรงได้สนทนาธรรมกับพระนาคเสนเถระ พระเจ้ามิลินท์ได้ทรงปุจฉาว่า การที่พระพุทธเจ้าได้ประทานการบวชเป็นภิกษุแก่พระเทวทัตนั้น พระพุทธองค์ทรงรู้หรือไม่ว่าถ้าพระเทวทัตบวชเข้ามาแล้วจะสร้างบาปกรรมอันใหญ่หลวงแก่พระศาสนาและพระพุทธองค์คือ ทำร้ายพระพุทธเจ้าและทำสังฆเภทคือให้สงฆ์แตกกัน พระนาคเสนก็วิสัชนาว่า ทรงรู้ หลังจากนั้นพระเจ้ามิลินท์ทรงได้ปุจฉาอีกว่า เมื่อพระพุทธองค์ทรงรู้แล้ว ทำไมยังทรงประทานการบวชแก่พระเทวทัตอีก พระนาคเสนก็วิสัชณาว่า เหตุที่พระพุทธองค์ทรงประทานการบวชแก่พระเทวทัตนั้น เพราะทรงเล็งเห็นว่า ถ้าพระเทวทัตครองเรือนเป็นคฤหัสถ์ก็จะก่อกรรมทำชั่วอย่างไม่จบสิ้น เมื่อตายไปก็จะไปบังเกิดในอบายภูมิเสวยทุกขเวทนาเป็นเวลาหลายกัปอย่างไม่จบสิ้น แต่ถ้าพระเทวทัตได้บรรพชาในพระพุทธศาสนาแล้วก็จักมีอันสิ้นสุดได้ เมื่อบรรพชาแล้ว ก็จักทำกรรมชั่วเพียงให้ตกนรกอยู่แค่ ๑ กัปเท่านั้น ทรงเห็นอย่างนี้ จึงได้โปรดให้พระเทวทัตบรรพชาด้วยอำนาจพระมหากรุณาของพระพุทธองค์
ระยะเวลา ๑ กัป = คือ
จาก ปัพพตสูตร : พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งได้เข้าไปเฝ้าถึงที่ประทับ ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้ว ได้ทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ กัปหนึ่ง นานเพียงไรหนอแล ตรัสว่า ดูกรภิกษุ กัปหนึ่งนานแล มิใช่ง่ายที่จะนับกัปนั้นว่าเท่านี้ปี เท่านี้ ๑๐๐ ปี เท่านี้ ๑,๐๐๐ ปี หรือว่าเท่านี้ ๑๐๐,๐๐๐ ปี ฯ
ภิกษุ : ก็พระองค์อาจจะอุปมาได้ไหม พระเจ้าข้า
พระองค์ : อาจอุปมาได้ ภิกษุ ตรัสต่อไป ดูกรภิกษุ เหมือนอย่างว่า ภูเขาหินลูกใหญ่ยาวโยชน์หนึ่ง กว้างโยชน์หนึ่ง สูงโยชน์หนึ่ง ไม่มีช่อง ไม่มีโพรง เป็นแท่งทึบ บุรุษพึงเอาผ้าแคว้นกาสีมาแล้วปัดภูเขานั้น ๑๐๐ ปีต่อครั้ง ภูเขาหินลูกใหญ่นั้น พึงถึงการหมดไป สิ้นไป เพราะควาพยายามนี้ ยังเร็วกว่าแล ส่วนกัปหนึ่งยังไม่ถึงการหมดไป สิ้นไป กัปนานอย่างนี้แล บรรดากัปที่นานอย่างนี้ พวกเธอท่องเที่ยวไปแล้ว มิใช่หนึ่งกัป มิใช่ร้อยกัป มิใช่พันกัป มิใช่แสนกัป ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เหตุเพียงเท่านี้ พอทีเดียวเพื่อจะเบื่อหน่าย ในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัด พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้
พรหมจรรย์ = คือ การศึกษาปรมัตถ์, การศึกษาพระเวท, การถือพรตบางอย่าง เช่นเว้นเมถุนเป็นต้น การบวชซึ่งเว้นเมถุนเป็นต้น
อุปมาพรหมจรรย์กับแก่นไม้ = รายละเอียด
(๑) กิ่งใบพรหมจรรย์
กุลบุตรออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต เพื่อกระทำที่สุดแห่งทุกข์
~ แต่เขายินดีในลาภ สักการะ สรรเสริญ เมื่อเป็นผู้ประมาทในลาภสักการะ ย่อมเป็นทุกข์
 ~ เหมือนบุรุษผู้ต้องการแก่นไม้ เมื่อเจอต้นไม้ใหญ่กลับละเลยแก่น กระพี้ เปลือก แต่เอากิ่งและใบ
~ ภิกษุนี้เราเรียกว่า ได้ถือเอากิ่ง และใบของพรหมจรรย์ และถึงที่สุดแค่กิ่งและใบนั้น
(๒) สะเก็ดพรหมจรรย์
กุลบุตรออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต เพื่อกระทำที่สุดแห่งทุกข์
~ เมื่อมีลาภสักการะ แต่เขาไม่ยินดี เมื่อไม่ประมาทในลาภสักการะ ไม่ยกตนด้วยลาภสักการะ
~ เขาย่อมถึงพร้อมแห่งศีล เพราะถึงพร้อมแห่งศีล เขายกตนข่มผู้อื่นว่าเราเป็นผู้มีศีล (ภิกษุอื่นไม่มี)
~ เมื่อมัวเมาประมาท เพราะความถึงพร้อมแห่งศีล ย่อมอยู่เป็นทุกข์
~ เหมือนบุรุษต้องการแก่นไม้ เมื่อต้นไม้ใหญ่กลับละเลย จึงถากเอาสะเก็ดไม้ไป
~ ภิกษุนี้เรียกว่า ได้ถือเอาสะเก็ดของพรหมจรรย์ และถึงที่สุดแค่สะเก็ดนั้น

 90 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / โคลง-กาพย์-ฉันท์-ร่าย-ลิลิต / Re: ...-๐ นานาเครื่องจิ้มไทย จัดสำรับ กาพย์ห่อโคลง ๐-...
 เมื่อ: 11, ตุลาคม, 2568, 09:57:45 PM 
เริ่มโดย Black Sword - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword

ขอบคุณรูปภาพต้นแบบจาก Internet

-๐ น้ำพริกกระทือ ๐-

    ๏   น้ำพริกกระทือหอม      ผ่าวเผ็ดพร้อมเพรียงประจง
รสแจ่มจากโฉมยงเอมอิ่มล้ำจำประทับใจ
 
๏   ผ่าวเผ็ดดีเด็ดจ้านรวมรอม
น้ำพริกกระทือหอมกลิ่นกล้า
เลอรสอร่อยจากจอม-สุรางค์แต่ง ปรุงนา
เอมอิ่มลิ้มเอิบอ้าวิเศษล้ำจำตรึง ๚ะ๛
- Black Sword -
(หมู มยุรธุชบูรพา)

• กลับสู่สารบัญ นานาเครื่องจิ้มไทย จัดไว้ในกาพย์ห่อโคลง คลิก

หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10
Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.136 วินาที กับ 18 คำสั่ง
กำลังโหลด...