- วิปากวัฏฏะ วนคือวิบาก -

- วิปากวัฏฏะ วิบากวน -

“วิปากวัฏฏะ”วนคือวิบาก
เนื่องมาจาก“กิเลส,กรรม”ส่ำสั่งสม
กิเลสให้เกิดกรรมกำก่อปม
เป็นผลกลมวงใหญ่ลอยจักรวาล

วิปากผลของกรรมความดีชั่ว
เกิดแก่ตัวผู้ถักทอหลักฐาน
จะให้ผลดลสนองสิบสองวาร
สามหมวดการเกิดผลแก่คนทำ

หนึ่ง“ปากกาล”ให้ผลบนภพนี้
ภพหน้ามีผลให้ต่อไปร่ำ
ชาติภพต่อไหนไหนได้ประจำ
มีวาระอโหสิกรรมตามไม่ทัน

สอง“โดยกิจ”ให้ผลกรรมตามหน้าที่
เกิดชั่วดีอุปถัมภ์บำรุงขันธ์
อีกเบียดเบียนเวียนถีบถองบีบคั้น
แล้วตัดทอนรอนบั่นจนบรรลัย

สาม“ปากทาน”ความแรงสำแดงผล
ลำดับต้นกรรมหนักจักรีบให้
ลำดับรองลหุกรรมนี้ร่ำไร
รองลงไปคือจวนเจียน,สักว่าทำ

วัฏฏะ คือความวน หรือความเวียน ตามหลักธรรมในพุทธศาสนา มี ๓ อย่างคือ ได้แก่

• กิเลสวัฏฏะ ^คลิก
• กัมมวัฏฏะ ^คลิก
• วิปากวัฏฏะ ^คลิก

   วิปากวัฏฏะ วนคือวิบาก เป็นวนสุดท้ายเกิดจาก กิเลส ^คลิก และ กรรม ^คลิก กล่าวคือ กิเลสเป็นตัวการที่เป็นเหตุให้ทำทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว เมื่อเกิดกรรมดีชั่วขึ้นแล้ว ก็ย่อมเกิดผลของกรรมนั้น ๆ และผลกรรมนั้นก็วนไปสู่กองกิเลส กิเลสบันดาลให้เกิดกรรม กรรมก็ให้ผล วนเวียนไปอย่างนี้เป็นแบบ “งูกินหาง” วนไปไม่รู้จบ

   วิบาก คือผลแห่งกรรมนั้นท่านแบ่งระยะเวลาการให้ผลไว้ ๓ ขั้นตอน คือ ตอนแรกเรียกว่า

“ปากกาล” กรรมที่ให้ผลในกาลนี้ได้แก่
   กรรมให้ผลในปัจจุบัน คือภพนี้ ๑
   กรรมให้ผลในภพที่จะไปเกิด คือ ภพหน้า ๑
   กรรมให้ผลในภพต่อ ๆไป ๑
   อโหสิกรรม ๑

ว่าโดยกิจ คือจำแนกการให้ผลตามหน้าที่ ได้แก่
   กรรมแต่งให้เกิด หรือเป็นตัวนำไปเกิด ๑
   กรรมสนับสนุน หรือเข้าไปซ้ำเติมชนกกรรม(คือส่งเสริมทั้งฝ่ายดีฝ่ายชั่ว) ๑
   กรรมบีบคั้น ทำให้แปรเปลี่ยนหรือเบาลง ๑
   กรรมตัดรอน คือตัดรอนการให้ผลของกรรมนั้น ๆ

โดยปากทาน จำแนกตามลำดับการให้ผล ได้แก่
   ครุกรรม กรรมหนักให้ผลก่อน
   ลหุกรรม กรรมเบาให้ผลติดต่อเป็นอาจิณ(คือทำมากจนชิน)
   อาสันนกรรม กรรมจวนเจียนให้ผลเมื่อใกล้ตาย
   กตัตตากรรม กรรมสักแต่ว่าทำ (ไม่มีเจตนา) จะให้ผลก็ต่อเมื่อไม่มีกรรมอื่นใดให้ผลแล้ว .

เต็ม อภินันท์
สถาบันกวีนิพนธ์ไทย
๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๑
* ขอบคุณเจ้าของภาพนี้ในเน็ต

	ผู้เขียน	หัวข้อ: - วิปากวัฏฏะ วนคือวิบาก - (อ่าน 6081 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้