Username:
Password:
บ้านกลอนน้อยฯ
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล
>>
คำประพันธ์ แยกตามประเภท
>>
นิยาย-เรื่องสั้น-บทความ-ความเรียง-เรื่องเล่าทั่วไป
>>
ซ้ำซากด้วยความไพเราะ : โดยคุณวินทร์ เลียววาริณ
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ซ้ำซากด้วยความไพเราะ : โดยคุณวินทร์ เลียววาริณ (อ่าน 3491 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Black Sword
ผู้บริหารเว็บ
จำนวนผู้เยี่ยมชม:
65535
ออฟไลน์
ID Number: 88
จำนวนกระทู้: 10400
เมื่อ มยุรธุชกางปีกฟ้อน... มวลอักษรก็ร่อนรำ
|
|
ซ้ำซากด้วยความไพเราะ : โดยคุณวินทร์ เลียววาริณ
«
เมื่อ:
26, มีนาคม, 2562, 03:03:01 PM »
บ้านกลอนน้อยฯ
Permalink:
ซ้ำซากด้วยความไพเราะ : โดยคุณวินทร์ เลียววาริณ
ซ้ำซากด้วยความไพเราะ
-----------------------------------------------
ร้านกาแฟประจำของผมเปิดดนตรีแจ๊สแผ่นเดิมมาปีกว่าแล้ว
ฟังแรก ๆ ก็ไพเราะดี แต่สำหรับลูกค้าขาประจำ เมื่อฟังวนเวียนทุกวันก็ทำให้เกิดอาการต่อต้านโดยปริยาย ถามเด็กในร้านได้ความว่าแผ่นเพลงถูกส่งมาจากสำนักงานใหญ่ ฝ่ายการตลาดคัดสรรเพลงมาอย่างดี แล้วส่งไปให้ทุกสาขาเปิด
ฝ่ายการตลาดไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะมันเป็นชุดเพลงที่ไพเราะ แต่พวกเขาลืมหลักจิตวิทยาข้อหนึ่งว่า สิ่งที่ดีถ้าซ้ำซากก็อาจกลายเป็นสิ่งไม่ดี
การฟังดนตรีไพเราะซ้ำ ๆ กันทุกวัน อาจทำให้เกิดอาการอยากอ้วกแตกได้ ลูกค้าขาประจำอาจตีจากร้านด้วยเพลงที่แสนไพเราะนี่แหละ!
ผู้บริหารยังต้องคำนึงด้วยว่า หากพนักงานลาออก เกี่ยวข้องกับการฟังดนตรีเดิม ๆ ตลอดทั้งวันหรือไม่
มันบอกว่า สิ่งดีที่สุดก็อาจกลายเป็นไม่ดีได้ในบางสถานการณ์
ผมหนีจากร้านนี้ไปพักหนึ่ง แต่ยังติดคาเฟอีนและมุมเขียนหนังสือ จึงซมซานกลับไปดื่มและฟังดนตรีซ้ำซากต่อไป คราวนี้ทำสมาธิ ดนตรีก็คือดนตรี เราก็คือเรา ไม่เกี่ยวกัน
ได้ยินดนตรี แต่ไม่ได้ยินดนตรี
เชื่อว่าอีกไม่นานคงบรรลุซาโตริในร้านกาแฟ
:
:
:
ผมเรียนรู้เรื่อง ‘ซ้ำซากด้วยความไพเราะ’ ครั้งแรกเมื่อไปต่างประเทศ ต้องใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนหลายคน บางคนเปิดเพลงที่ชอบเสียดังทุกวันจนคนอื่นหงุดหงิด
ต่อมาไปใช้ชีวิตทำงานในโลกตะวันตก พบว่าไม่มีเพื่อนร่วมสำนักงานคนใดเปิดเพลงเผื่อให้คนอื่นฟัง ใครอยากฟังเพลงก็ใช้หูฟัง จึงเรียนรู้ปรัชญาเรื่อง ‘หูใครหูมัน’
ครั้นกลับมาเมืองไทย ก็พบว่าเพื่อนร่วมงานชอบเปิดเพลงที่เขาชอบซ้ำไปซ้ำมา โดยที่ผมมองตาปริบๆ ไม่ใช่เพราะไม่ชอบเพลง แต่ไม่ชอบความจำเจ ทว่าแปลกใจที่ไม่มีใครสักคนบ่น
คนไม่น้อยชอบทึกทักเอาว่าคนอื่นจะรับทุกสิ่งที่ตนทำได้ คนไม่น้อยคิดว่าควรเสพของดีทุกวัน
นานปีมาแล้ว สมัยที่ได้รับรางวัลซีไรต์ ผมต้องใช้ชีวิตในโรงแรมห้าดาวหนึ่งสัปดาห์ กินอาหารระดับห้าดาวแทบทุกมื้อฟรี แต่กินอาหารชั้นเลิศได้ไม่กี่วัน ก็หนีไปกินข้าวแกงและอาหารขยะริมถนน เพราะทนความจำเจของความดีเลิศไม่ได้
ในโลกศิลปะโดยเฉพาะวงการวรรณกรรม เมื่องานเขียนเริ่มวนอยู่กับที่ไม่เคลื่อนไปไหน เราเรียกว่า ‘น้ำเน่า’
น้ำเน่าหมายถึงสิ่งที่วนเวียนอยู่กับที่ ไม่เปลี่ยนแปลง เปรียบเสมือนบ่อหรือบึงที่น้ำไม่ไหลไปไหน ไม่นานก็เน่าส่งกลิ่นเหม็น
สมัยหนึ่งบ้านเราอุดมด้วยนิยายประเภทแย่งชิงมรดก นางเอกตกระกำลำบาก และได้มรดกกับพระเอกในตอนจบ จนบางคนเรียกเรื่องแนวนี้ว่าน้ำเน่า
ความจริงน้ำเน่ามิได้หมายถึงนิยายไร้สาระเสมอไป มันอาจเป็นนิยายดีๆ ก็ได้ ทว่าเมื่อไรที่เขียนเรื่องดี ๆ ซ้ำ ๆ ซาก ๆ อยู่กับที่ มันก็นิ่ง ไร้ความเคลื่อนไหว น้ำดีก็ไม่ต่างจากน้ำเน่า
น้ำเน่าทั้งหลายในโลกมิได้เริ่มต้นจากน้ำเน่า มันเริ่มจากน้ำสะอาดนี่แหละ แต่มันเน่าเพราะไม่ขยับไหว
ความไพเราะของบทเพลง ความงามของศิลปะ สาระของงานเขียนจึงไม่ใช่อยู่แค่ที่โครงสร้างของมัน แต่อยู่ที่ตำแหน่ง ช่วงเวลา ความถี่ของการเสพด้วย
นี่ก็คือศิลปะเหนือศิลปะ
คนยุคก่อนดูหนังกลางแปลงอย่างมีความสุข ทั้งที่ระบบเสียงไม่ดี คนพลุกพล่าน ยุงกัด แต่บรรยากาศที่แตกต่างทำให้การเสพหนังนั้นน่าประทับใจได้
เพลงที่บรรเลงในสวน คอนเสิร์ตที่เล่นกลางแจ้ง ก็สามารถมีชีวิตชีวากว่าได้ เพราะมันไม่จำเจ
ชีวิตก็เช่นกัน หากอยู่กับที่ ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่เคลื่อนไหว ชีวิตที่ดูดีก็อาจกลายเป็นชีวิตที่ไม่น่าปรารถนาอย่างไม่น่าเชื่อ
ชีวิตก็เหมือนบทเพลงไพเราะ เนื้อหาเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็ต้องดูกาลเทศะและจังหวะด้วย
สิ่งที่ดีถ้าซ้ำซากก็อาจกลายเป็นสิ่งไม่ดี
เพลงที่ซ้ำซากด้วยความไพเราะก็อาจเป็นเพลงที่ไม่มีใครอยากฟัง
เพราะชีวิตที่ดีไม่จำเป็นต้องไพเราะทุกท่อนทุกตัวโน้ต มันประกอบด้วยท่อนที่ไพเราะ ท่อนที่ไม่ค่อยไพเราะ ท่อนที่น่าสนใจ ท่อนที่ไม่ค่อยน่าสนใจ ท่อนที่มีตัวโน้ตและท่อนที่ว่างเปล่า แต่เมื่อมาประกอบรวมกันแล้วงดงาม
ขอบคุณบทความจาก
วินทร์ เลียววาริณ
www.winbookclub.com
16 ธันวาคม 2560
คมคำคนคม
The two enemies of human happiness are pain and boredom.
ศัตรูสองอย่างของความสุขมนุษย์คือความเจ็บปวดและความเบื่อหน่าย
Arthur Schopenhauer
รายนามผู้เยี่ยมชม :
ลมหนาว ในสายหมอก
,
เนิน จำราย
,
กรกช
,
กลอน123
,
ลิตเติลเกิร์ล
,
ฟองเมฆ
,
ปลายฝน คนงาม
,
กร กรวิชญ์
,
ก้าง ปลาทู
,
น้ำหนาว
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
..
รวมบทกลอน "
ที่นี่เมืองไทย...
"
รวมบทกลอน "
ร้อยบุปผา
"
รวม
บทประพันธ์ทั่วไป
"Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา)"
รวมบทประพันธ์
กลบท
"Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา)"
รวมบทประพันธ์
ฉันท์
"Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา)"
กลอน
สุภาษิต-คำพังเพย-สำนวนไทย
บ้านกลอนน้อย
ลานอักษร มยุรธุชบูรพา
..
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
บ้านกลอนน้อย ลิตเติลเกิร์ล - มยุรธุชบูรพา
-----------------------------
=> อ่านข้อกำหนด กฎระเบียบต่าง ๆ - สมาชิกใหม่ ทักทาย แนะนำตัวที่นี่
=> ห้องกลอน คุณอภินันท์ นาคเกษม
=> ห้องกลอน คุณคนบอ มือสี่
=> สารบัญกลอน สมาชิกนักกลอน
-----------------------------
ห้องเรียน
-----------------------------
=> ห้องเรียนรู้คำประพันธ์ ประเภทกลอน
=> ห้องเรียนฉันท์
=> ห้องเรียน กลบท
=> ห้องเรียน โคลงกลบท
=> ห้องศึกษา ภาพโคลงกลบท
=> ห้องศึกษา กาพย์ โคลง ร่าย
=> ห้องหนังสือ บ้านกลอนน้อย
=> ห้องฟัง การขับ เสภา และอื่น ๆ
-----------------------------
คำประพันธ์ แยกตามประเภท
-----------------------------
=> กลอน ร้อยกรองหลากลีลา
=> คำประพันธ์เนื่องในโอกาสพิเศษต่าง ๆ
=> กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม
=> กลอนเปล่าสบาย ๆ
=> กลอนจากที่อื่น และจากกวีที่ชื่นชอบ
=> โคลง-กาพย์-ฉันท์-ร่าย-ลิลิต
=> กลบท
=> นิยาย-เรื่องสั้น-บทความ-ความเรียง-เรื่องเล่าทั่วไป
=> ห้องนั่งเล่นพักผ่อน
===> เส้นคั่นสวย ๆ
===> รูปภาพน่ารัก
กำลังโหลด...