* นกสองหัว *
๑.บนสวรรค์แห่งนกปกครองเขต
แสนวิเศษสนุกสุขหรรษา
นึกสิ่งใดสมถวิลจินตนา
นกทั่วหล้าต่างอยู่เย็นเป็นสุขดี
๒.แล้ววันหนึ่งปักษาเทวาสวรรค์
ทำขนตกก็พลันหวั่นเหลือที่
ขนปีกหล่นลงโลกวิโยคทวี
หวั่นปักษีทุกแห่งแย่งชิงกัน
๓.หากใครเป็นเจ้าของได้ครองโลก
จะวิโยคทั่วหล้าทุกครานั่น
หากนกชั่วทั้งผองครอบครองครัน
โลกนกจะผายผันสู่บรรลัย
๔.แล้วบัญชานกหนุ่มอย่างรุ่มร้อน
เจ้าจงจรค้นหานำมาให้
นกหนุ่มทำสำเร็จเสร็จทันใจ
พบสิ่งหมายเร็วไวก็ไม่ปาน
๕.เมื่อของหายได้คืนก็ชื่นจิต
จึงได้คิดชมเชยเอื้อนเอ่ยขาน
เราจะมอบรางวัลนั้นประทาน
หากต้องการสิ่งใดให้บอกเรา
๖.นกหนุ่มจึงเอ่ยขอไม่รอช้า
มันจึงเอื้อนเอ่ยว่าข้าพเจ้า
ขออยู่โลกมนุษย์สุดนานเนา
สุขไม่เบาทุกกาลเบิกบานจินต์
๗.ขอมีสองหัวชูให้ดูขลัง
ขอจงให้สมหวังดังถวิล
เจ้าแห่งนกแจ้งกมลเมื่อยลยิน
จึงตัดสินเสกให้สมใจปอง
๘.นกหนุ่มบินสู่แหล่งโลกแห่งนก
อย่างภูมิอกภูมิใจได้ผยอง
ด้วยเหล่านกทั้งหลายมิวายมอง
แล้วแซ่ซ้องสรรเสริญเยินยอจน-
๙.ยกเป็นผู้ยิ่งใหญ่สมใจนึก
เลยรู้สึกผยองทำพองขน
หลงระเริงเหลิงปลื้มและลืมตน
ในกมลหลงผิดมิคิดปราม
๑๐.เจ้านกหนุ่มนั้นกร่างช่างน่าขำ
ด้วยว่าทำทีท่าน่าเกรงขาม
บรรดานกนอบน้อมยอมทำตาม
ด้วยเห็นความพิเศษเทวษจริง
๑๑.เที่ยวบินอวดไปมาว่าข้าเด่น
ทำตัวเช่นเป็นใหญ่ในทุกสิ่ง
และไม่มีปักษาใดกล้าติง
มันเลยหยิ่งยโสโอ้อวดตัว
๑๒.แม้นได้รับความนิยมสมใจอยาก
แต่ก็เริ่มอยู่ยากลำบากทั่ว
เพราะน้ำหนักตนนั้นเพิ่มพันพัว
เดือดร้อนด้วยสองหัวนั้นนัวเนีย
๑๓.แถมกางปีกบินไปไม่ถนัด
หัวต่างขัดคอข่มอารมณ์เสีย
ต่างไปคนละทิศทำจิตเพลีย
ไม่คลอเคลียเหมือนเดิมเริ่มเซซวน
๑๔.เกิดทะเลาะเบาะแว้งขัดแย้งใหญ่
หัวขวาไปอีกทางช่างผันผวน
หัวซ้ายไปอีกที่จึงมีรวน
ล้มไม่เป็นขบวนด้วยปรวนแปร
๑๕.(หัวขวา)เฮ้ย!ไปทิศตะวันออกบอกแล้วนะ
(หัวซ้าย)ไม่ไปหล่ะ!นกคงเยอะเยอะแหงแหง
(หัวซ้าย)ไปตะวันตกดีกว่าเชื่อข้าแล
(หัวขวา)ไม่ดีแน่ข้าไม่เชื่อเบื่อเจ้าจัง
๑๖.กว่าเรื่องจะลงตัวหัวทั้งสอง
ก็จะต้องหมดท่ามาทีหลัง
หนอนแมลงไม่เหลือเพื่อประทัง
มิได้ดั่งใจจิตสักนิดเดียว
๑๗.แล้วโทษกันไปมาว่าโง่หลาย
จึงต้องสายทุกอย่างต่างฉุนเฉียว
(หัวขวา)เจ้านั่นแหละหัวขี้เลื่อยเฉื่อยจริงเชียว
(หัวซ้าย)ข้าไม่เกี่ยวเจ้านั่นแหละแยกแยะดู
๑๘.ต่างฝ่ายก็ต่างโกรธต่างโทษเถียง
แท้เป็นเพียงอัตตาน่าอดสู
เลยไม่ยอมพูดกันหลังพันตู
ไปข้างข้างคูคูทั้งคู่เลย
๑๙.จึงต้องอยู่ที่นั่นยันเช้าอีก
ต่างไม่ยอมกางปีกหลีกทำเฉย
ขาดความสามัคคีไม่ดีเอย
ลมรำเพยต้องผิวหิวเหนื่อยนอน
๒๐.จนรุ่งขึ้นอีกคราอุษาสาง
สองหัวต่างยังเมื่อยยังเหนื่อยอ่อน
หัวขวาอยากกลับรังหวังบินจร
หัวซ้ายบอกอยู่ก่อนยอกย้อนคำ
๒๑.แล้วพอดีมีหนอนมาหัวขวาเห็น
หวังกินเป็นอาหารทานอิ่มหนำ
หัวซ้ายไปอีกทางต่างคะมำ
ด้วยหวังหม่ำตั๊กแตนแสนโอชา
๒๒.เหยื่อจึงรอดพ้นราวสิ้นคราวเคราะห์
ต่างทะเลาะกันต่อหนอปักษา
จิกตีร่างแทบฉีกเป็นซีกพา
เจ็บหนักหนาปวดแสบแทบสิ้นลม
๒๓.นกหนุ่มจึงได้คิดจิตแยกแยะ
เรานั่นแหละเบาปัญญาจึงสาสม
หลงลาภยศสรรเสริญเพลินคำชม
ต้องมาตรมตรอมตายก็สายเกิน
๒๔.ก่อนสิ้นชีพตักษัยได้รู้ซึ้ง
เลยนึกถึงนกเทวินโปรดบินเหิน
ข้าพเจ้าผิดไปอภัยเทอญ
ขออัญเชิญเถิดหนอข้ารอคอย
๒๕.เทวานกสงสารท่านทรงสรวล
แล้วชี้ทวนว่าเจ้าคิดจิตเสื่อมถอย
ต่อแต่นี้เจ้าจงจำอย่าซ้ำรอย
ปีกใช้สอยแค่พอดีอย่ามีเติม
๒๖.ความพิเศษนั้นเล่าเท่าที่เห็น
น่าจะเป็นความดีที่สร้างเสริม
ความอ่อนน้อมจ่อมใจไม่เหิมเกริม
ปีกเจ้าจงเหมือนเดิมไม่เพิ่มพูน
๒๗.เมื่อนกหนุ่มสดับยิ้มรับชื่น
รู้จุดยืนยลจินต์เคยสิ้นศูนย์
บัดนี้นกเทวามาเกื้อกูล
สิ้นอาดูรใดผลาญรุกรานรุม
๒๘.แล้วสอนว่าอย่าโลภละโมบนัก
เจ้าประจักษ์แล้วนี่ปักษีหนุ่ม
สองหัวต่างตรรกะคนละมุม
เลยต้องกลุ้มอุราพาตรมตรอม
๒๙.หากลดละสติมิเสถียร
จำบทเรียนนี้ไว้ใช้หล่อหลอม
ฝังตรึงในฤดีมิมีกรอม
มโนน้อมจิตใจไม่กระเจิง
๓๐.จากนั้นนกเทวาก็ลากลับ
แล้วกำชับอีกคราว่าหากเหลิง
จะทุกข์ร้อนดุจดังนั่งกองเพลิง
หากยังหลงระเริงชะเอิงเอย ฯ.
หญิงหนิง พราววลี
ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ตค่ะ