๏ ครั้งรวบรวมเรื่องราวที่เล่าขาน จากตำนานท้องถิ่นแดนดินใต้
คือ “แม่ศรีวรรณทอง” ผ่องพิไล คนทั่วไปนับถือเลื่องลือชา
๏ เรื่องชิงรักหักสวาทประหลาดล้ำ ของ “พญายอดน้ำ” งูเจ้าป่า
กับจระเข้เจ้าชลธีมีศักดิ์ดา ชื่อ “พญาท่าข้าม”ชนคร้ามกลัว
๏ แต่งเป็นกลอนพื้นบ้านสื่อสารศิลป์ ในท้องถิ่นได้รักษ์ประจักษ์ทั่ว
มิได้หวังมูลค่ามาใส่ตัว ดีหรือชั่วก็ตามทำสุดใจ
๏ ห้าปีหลังจากนั้นจนวันหนึ่ง เข้ามาถึงวง “กวีร่วมสมัย”
จึงนำกลอนพื้นบ้านที่จารไว้ ปรับปรุงให้ฉันทลักษณ์ถูกหลักการ
๏ จัดพิมพ์ครั้งที่สองดังปองหมาย สมาคมฯแจกกระจายถึงหลายท่าน
แต่งภาคสองต่อตามความชักบาน จากเตรียมงานจนพิมพ์น่าราวห้าปี
๏ นาม “แดนคนธรรพ์” หลายท่านเห็น ถือว่าเป็นเล่มที่ทุ่มอย่างเต็มที่
“รวมฉันทลักษณ์” หลาก “กลบท” มี ธันวานี้ (57) ออกเล่มใหม่เรื่อง “พระนล”
๏ จาก “พระนลคำหลวง” คำฉันท์นั้น มากมายฉันทลักษณ์นักเป็นผล
อ่านเข้าใจความยากอยู่มากล้น ขอเป็นคนเล่าใหม่ให้เป็นกลอน
๏ “แม่ศรีวรรณทอง”แต่งภาคสามต่อ นาม “ธานีศรีวิชัย” ขอย้อนกาลก่อน
อิงประวัติศาสตร์คาดนานแน่นอน เพราะทุกตอนข้อมูลเกื้อกูลกัน
๏ เมื่อ “ธานีศรีวิชัย” ไปได้ช้า “พระสุธน มโนราห์”เข้ามาขั้น
สองเรื่องควบประจวบเหมาะเพราะเริ่มมัน พวกกลอนสั้นอาจห่างเป็นบางครา
๏ แต่ “ร้อยฝัน” “ร้อยวลี” มิมีเว้น ยังต้องเน้นด้วยรักยิ่งนักหนา
รีบสร้างงานให้ทันกับเวลา มิคิดว่าชีวันฉันยาวยืน
ธนุ เสนสิงห์
:003: