| 
			| 
					
						| บ้านกลอนน้อยฯ | Permalink: - เขาพระสุเมรุหรือสิเนรุ -
 
 สืบต่อเนื่องมาจากกระทู้      ~ ว่าด้วยเทวดา - อสูร ~   คลิก
 ที่ดำเนินมาถึงเรื่องราวช่วงเข้าสู่เขาพระสุเมรุและเหล่าสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในป่าหิมพานต์
 
 | - เขาพระสุเมรุหรือสิเนรุ -
 
 เขาพระสุเมรุกลางสวรรค์ชั้นที่หนึ่ง
 เป็นที่ซึ่งเทพยดาอยู่สลอน
 มีคนธรรพ์,กุมภัณฑ์นาคมากอมร
 ทิศอุดรยักษ์อยู่อย่างรู้กัน
 
 แบ่งทวีปเวียงวังทั้งสี่ทิศ
 เนรมิตบ้านเมืองเรืองลดหลั่น
 มีนครใหญ่น้อยหลายร้อยพัน
 เฉกประชันเมืองมนุษย์มโนรมย์
 
 เช่นอุดรแดนทิพย์ทวีปยักษ์
 ที่ประจักษ์เทพนครไร้ผู้ข่ม
 “วิสาณะ,กุสินาฏา”น่าชม
 “ชโนฆะ”งามสมเทพธานี
 
 อีกหลายเมืองเรืองโรจน์วิลาสลักษณ์
 ทั้งเมืองยักษ์,คนธรรพ์,กุมภัณฑ์ผี
 นาคทวีปเมืองงามกามโภคี
 ทั้งเทวาเทวีมีพิมาน
 
 สิเนรุหรือสุเมรุเป็นแกนโลก
 มิเอนโยกคลอนเคลื่อนเขยื้อนฐาน
 มีป่าทิพย์นามว่า“หิมพานต์”
 พิสดารดึงใจให้ติดตาม.....
 
 * สุเมรุ  อ่านว่า สุ-เมน
 * สิเนรุ  อ่านว่า สิ-เน-รุ
 
 เต็ม อภินันท์
 สถาบันกวีนิพนธ์ไทย
 ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๑
 * ขอบคุณเว็บฯเจ้าของภาพนี้ในเน็ต
 
 | 
								รายนามผู้เยี่ยมชม :  Black Sword, Thammada , ก้าง ปลาทู , ลิตเติลเกิร์ล , ลมหนาว ในสายหมอก , ฟองเมฆ , Mr.music , รพีกาญจน์ , กร กรวิชญ์ , น้ำหนาว , เนื้อนาง นิชานาถ , ชลนา ทิชากร , ปลายฝน คนงาม , พรานไพร , ปิ่นมุก , กรกช , มดดำ , เส้นชีวิต ดำเนินไป , หนูหนุงหนิง , กอหญ้า กอยุ่ง , มนชิดา พานิช |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| บ้านกลอนน้อยฯ | Permalink: Re: - เขาพระสุเมรุหรือสิเนรุ -
 
 | - ป่าหิมพานต์อุทยานสวรรค์ -
 
 ณ เชิงเขาพระสุเมรุสิเนรุ
 ในตำนานท่านระบุบอกผู้ถาม
 เรื่องอุทยานสวรรค์อันงดงาม
 ประจักษ์นามว่า “ป่าหิมพานต์”
 
 เดิมอยู่ชิดติดกะมวลมนุษย์
 เทพคนสุดหรรษาเขษมศานต์
 เมื่อมนุษย์กิเลสหนาอนาจาร
 แยกถิ่นฐานเทพมนุษย์ห่างสุดตา
 
 หิมพานต์ป่าเย็นเป็นของเทพ
 เป็นที่เสพสุขแสนแดนหรรษา
 หิมวันต์คั่นมนุษย์เทวดา
 บูรพาเฉียงใต้ให้ “ชีไพร”
 
 พระปัจเจกพุทธเจ้าเนาป่านี้
 กับเทพที่ชั้นกลางต่างอาศัย
 ยักษ์,นาค,ครุฑ,คนธรรพ์สัตว์พันธุ์ใด
 ล้วนอยู่ในป่านี้มีมากมาย
 
 พวกนักสิทธิ์วิชาธรกินนรเทพ
 ต่างร่วมเสพกามสุขสนุกหลาย
 เพศครึ่งสัตว์ครึ่งคนพิกลกาย
 ท่านบรรยายพิสดารงานนิพนธ์....
 | 
- สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกานี้มีอุทยานชื่อหิมวันต์ คือหิมพานต์ เป็นป่าที่ปกคลุมด้วยหิมะ คั่นอยู่ระหว่างสวรรค์กับมนุษย์ นัยว่าเดิมทีนั้นสวรรค์กับมนุษย์มีเขตแดนติดต่อกัน เทวดากับมนุษย์ไปมาหาสู่กันได้ ต่อมาพวกมนุษย์มีกิเลสหยาบหนามากขึ้น ไม่อาจสมาคมกับเหล่าเทวดาได้ ดินแดนสวรรค์กับมนุษย์จึงแยกห่างจากกันจนไกลสุดสายตา
 
 หิมวันต์อุทยานสวรรค์หรือป่าหิมพานต์นี้ตั้งอยู่เชิงเขาสิเนรุหรือเขาพระสุเมรุ ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชมพูทวีป เป็นที่อยู่อาศัยของเทวดาชั้นกลางหลากหลายสายพันธุ์ เช่น ยักษ์ คนธรรพ์ นาค ครุฑ นักสิทธิ์วิทยาธร สัตว์ครึ่งเทพครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์นานา เช่น กินนร กินนรี เป็นต้น และยังเป็นสถานที่อยู่ของพวกฤๅษีชีไพร พระปัจเจกพุทธเจ้า เมื่อตรัสรู้แล้วก็จะปลีกตนจากมนุษย์มาอยู่ประจำในป่านี้จนตราบปรินิพพาน.
 | เต็ม อภินันท์
 สถาบันกวีนิพนธ์ไทย
 ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๑
 * ขอบคุณเว็บฯเจ้าของภาพนี้ในเน็ต
 | 
								รายนามผู้เยี่ยมชม :  Black Sword, รพีกาญจน์ , ลิตเติลเกิร์ล , กร กรวิชญ์ , ลมหนาว ในสายหมอก , ก้าง ปลาทู , ฟองเมฆ , น้ำหนาว , เนื้อนาง นิชานาถ , ชลนา ทิชากร , Mr.music , ปลายฝน คนงาม , พรานไพร , ปิ่นมุก , กรกช , หนูหนุงหนิง , กอหญ้า กอยุ่ง |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| บ้านกลอนน้อยฯ | Permalink: Re: - เขาพระสุเมรุหรือสิเนรุ -
 
 | - มักกะลีผลหิมพานต์ - 
 อุทยานสวรรค์อันสดใส
 มีพรรณไม้สะพรั่งทั้งดอกผล
 เป็นไม้ทิพย์มิใช่มวลไม้คน
 เมื่อใบหล่นถึงดินหายสิ้นไป
 
 ไม่ทับถมกองเปื่อยเป็นปุ๋ยเปื้อน
 รกกลาดเกลื่อนพสุธาก็หาไม่
 ยามมีดอกกลิ่นหอมฟุ้งจรุงใจ
 ชื่นฉมไกลกลบป่าหิมวันต์
 
 เมื่อดอกเก่าร่วงหล่นรีบออกใหม่
 บานเร็วไววามวับประดับสวรรค์
 มีไม้หนึ่งประหลาดมหัศจรรย์
 ทั้งรูปพรรณหน้าตาเหมือนนารี
 
 ไม้งามนามประจักษ์“มักกะลีผล”
 ทั้งใบต้นน้ำตาลทองผุดผ่องสี
 ออกดอกผลไตรมาสนัดหนึ่งปี
 เป็นทรัพย์ที่คนธรรพ์ฝันใฝ่ครอง
 
 วิทยาธรเทวาพากันแย่ง
 ผลไม่แห่งป่าสวรรค์อันผุดผ่อง
 คงหอมหวานซ่านทรวงกว่า“รวงทอง”
 ได้ลิ้มลองเพียงนิดติดใจนาน....
 
 | 
      ป่าหิมพานต์เป็นเหมือนอุทยานแห่งชาติของสวรรค์ มีต้นไม้ดอกไม้ที่สวยสดงดงาม ใบไม้เวลาตกลงมาถึงพื้นก็แวบหายไป ไม่ทับถมกันเป็นปุ๋ยเหมือนต้นไม้ในเมืองมนุษย์ ดอกไม้มีกลิ่นหอมฟุ้งจรุงใจ พอร่วงหล่นลงมา ก็ออกดอกใหม่ และมีต้นมักกะลีผล ซึ่งมีผลเป็นนารี ที่หมายปองของเหล่าเทวดาหลายพวก เช่น วิทยาธร คนธรรพ์ 
 ต้นนารีผล หรือ มักกะลีผล นี้ ขึ้นอยู่ท่ามกลางต้นไม้ต่าง ๆ มีประปรายทั่วไป ไม่ได้ขึ้นเป็นหมู่ ลำต้นนารีผลเป็นสีน้ำตาลทอง สวยงามเป็นเงาระยิบระยับ ใบเป็นสีทองแพรวพราวสวยงาม เมื่อใบตกถึงพื้นก็แวบหายไป ครั้นถึงฤดูกาลนารีผลจะห้อยเต็มไปหมด ถ้าไม่ใช่ฤดูกาลจะเห็นแต่ใบ เมื่อถึงเวลาแล้วจึงจะออกดอกออกผล โดยปีหนึ่งออกดอกครั้งเดียว ครั้งละ ๓ เดือน ตั้งแต่ตูมจนกระทั่งบาน ๑ เดือน จากบานเป็นนารีผลอีก ๑ เดือน ส่วนอีก ๑ เดือน เป็นช่วงสุกงอมหลุดจากขั้ว นำไปใช้สอยได้ ซึ่งแต่ละผลก็หลุดไม่พร้อมกัน เมื่อหล่นลงมาแล้วอยู่ได้แค่ ๗ วันสวรรค์ ซึ่งเท่ากับ ๓๕๐ ปีในเมืองมนุษย์ เหล่าคนธรรพ์ วิทยาธร จะมาคอยแย่งชิงนารีผลในช่วงที่นารีผลสุกงอม
 | เต็ม อภินันท์ สถาบันกวีนิพนธ์ไทย
 ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๑
 * ขอบคุณเว็บฯเจ้าของภาพนี้ในเน็ต
 | 
								รายนามผู้เยี่ยมชม :  Black Sword, กร กรวิชญ์ , ฟองเมฆ , ลิตเติลเกิร์ล , น้ำหนาว , เนื้อนาง นิชานาถ , รพีกาญจน์ , ชลนา ทิชากร , Mr.music , ปลายฝน คนงาม , ลมหนาว ในสายหมอก , พรานไพร , ปิ่นมุก , กรกช , ก้าง ปลาทู , หนูหนุงหนิง , กอหญ้า กอยุ่ง |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| บ้านกลอนน้อยฯ | Permalink: Re: - เขาพระสุเมรุหรือสิเนรุ -
 
 
								รายนามผู้เยี่ยมชม :  Black Sword, Mr.music , ลิตเติลเกิร์ล , ปลายฝน คนงาม , ลมหนาว ในสายหมอก , ฟองเมฆ , รพีกาญจน์ , พรานไพร , กร กรวิชญ์ , ปิ่นมุก , กรกช , น้ำหนาว , ก้าง ปลาทู , ชลนา ทิชากร , หนูหนุงหนิง , กอหญ้า กอยุ่ง |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| บ้านกลอนน้อยฯ | Permalink: Re: - เขาพระสุเมรุหรือสิเนรุ -
 
 
								รายนามผู้เยี่ยมชม :  Black Sword, พรานไพร , รพีกาญจน์ , ฟองเมฆ , ลิตเติลเกิร์ล , กร กรวิชญ์ , ปลายฝน คนงาม , Mr.music , ปิ่นมุก , กรกช , น้ำหนาว , ก้าง ปลาทู , ชลนา ทิชากร , หนูหนุงหนิง , กอหญ้า กอยุ่ง |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| บ้านกลอนน้อยฯ | Permalink: Re: - เขาพระสุเมรุหรือสิเนรุ -
 
 
								รายนามผู้เยี่ยมชม :  Black Sword, กรกช , พรานไพร , ลิตเติลเกิร์ล , ปลายฝน คนงาม , กร กรวิชญ์ , รพีกาญจน์ , Mr.music , น้ำหนาว , ฟองเมฆ , ก้าง ปลาทู , ปิ่นมุก , ชลนา ทิชากร , มดดำ , หนูหนุงหนิง , กอหญ้า กอยุ่ง |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| บ้านกลอนน้อยฯ | Permalink: Re: - เขาพระสุเมรุหรือสิเนรุ -
 
 
								รายนามผู้เยี่ยมชม :  Black Sword, ลมหนาว ในสายหมอก , น้ำหนาว , รพีกาญจน์ , ฟองเมฆ , กร กรวิชญ์ , ลิตเติลเกิร์ล , ก้าง ปลาทู , Mr.music , ปิ่นมุก , ชลนา ทิชากร , ปลายฝน คนงาม , มดดำ , กรกช , หนูหนุงหนิง , กอหญ้า กอยุ่ง |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| บ้านกลอนน้อยฯ | Permalink: Re: - เขาพระสุเมรุหรือสิเนรุ -
 
  ขอขอบคุณเจ้าของรูปภาพจาก Internet
| - คณานกในหิมพานต์ -
 
 สัตว์ป่าหิมพานต์ดูหมู่วิหค
 มีปีกเห็นเป็นนกบินผกเผิน
 เช่น“อสูรปักษา”คราเผชิญ
 คนจะเมินเมียงหน้าไม่กล้ามอง
 
 ตัวเป็นนกหน้าเป็นยักษ์รักเพื่อนฝูง
 บินเร็วสูงเหนือวิหคนกทั้งผอง
 มนุษย์สัตว์นับถือทำให้ลำพอง
 เทพนิยายยกย่องให้ท่องจำ
 
 อีก“อสูรวายุภักษ์”นกยักษ์ใหญ่
 รูปลักษณ์ใกล้เคียงกันน่าขันขำ
 นกยักษ์หนึ่งกินลมบินร่อนรำ
 ที่สูงต่ำท่องทางอย่างเสรี
 
 มีหนึ่งสัตว์ปราศผสมผสานใส่
 ชื่อว่า“ไก่ตังเกี๋ย”อะไรนี่
 “ไก่เสฉวน,ไก่หอกเอี่ยน”ชื่อยวนยี
 ภาษาที่พิกลผิดคนไทย
 
 “นกการเวก”เสียงก้องกังวานหวาน
 คราขันขานสำเนียงเสียงสดใส
 พริ้งไพเราะเสนาะนานกังวานไกล
 กล่อมพงไพรสัตว์ป่าเทวาภิรมย์...
 | 
- "อสูรปักษา"  เป็นสัตว์ประเภทนก มีส่วนบนเป็นยักษ์ ตั้งแต่ลำตัวลงไปเป็นนก บ้างกล่าวว่ามีส่วนล่างเป็นไก่ตัวผู้ สามารถบินได้ด้วยความเร็วสูง เป็นที่นับถือของสัตว์ทั้งหลาย เช่น กวาง, ม้า รวมทั้งมนุษย์ด้วย
 - "อสุรวายุพักตร์"  ลักษณะใกล้เคียงกับอสูรปักษาตรงที่มีส่วนบนเป็นยักษ์ส่วนล่างเป็นนก ต่างกันตรงที่ส่วนล่างของอสูรวายุพักตร์(นกหน้าลม)เป็นนกอินทรี  ส่วนอสูรปักษา เป็นนกกินลมในเรื่องรามเกียรติ์
 - "ไก่"  เป็นสัตว์หายากในโลกของหิมพานต์ไม่ใช่สัตว์ผสม มีอยู่น้อยชนิด ชื่อว่า ไก่ตังเกี๋ย(Gai Tang Kia), ไก่เสฉวน(Gai Xe Chuan), ไก่หอกเอี่ยน(Gai Hox Ian) จากการออกเสียงทำให้รู้ว่าไก่มีที่มาจากจีน
 - "นกการเวก"  เป็นสัตว์วิเศษ มีเสียงไพเราะเหมือนเสียงจากสวรรค์ แต่มีชื่อเรียกน้อยมาก คือ การเวก, การวิก, โกราวิก คุณสมบัติของเสียงสวรรค์ คือ ต่อเนื่องไม่ขาดตอน, กระจ่างแจ้ง, หวานไพเราะ, เป็นจังหวะ, ผสมกลมกลืน, ไม่หยาบคาย, ลึกซึ้ง และสะท้อน...
 | เต็ม อภินันท์ สถาบันกวีนิพนธ์ไทย
 ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๑
 * ขอขอบคุณเจ้าของรูปภาพต้นแบบทุกภาพในเน็ต
 | 
อสูรปักษา
 (มีกายช่วงบนเป็นยักษ์ ช่วงล่างเป็นไก่ตัวผู้ มีเดือย)
 Cr. Photo By คุณดา ดา
 
  
 
 อสุรวายุพักตร์
 (มีกายช่วงบนเป็นยักษ์ ช่วงล่างเป็นนกอินทรี)
 Cr. Photo By คุณนิรันดร์
 
  
 
 ไก่
 (ลักษณะเช่นไก่ธรรมดาทั่วไปตามแต่ละพันธ์)
 ขอบคุณรูปวาดไก่จีนจาก Internet
 
  
 
 นกการเวก หรือนกการวิก
 (เป็นนกที่มีเสียงไพเราะยิ่ง สัตว์ทุกชนิดเมื่อได้ยินแล้วจะต้องหยุดทุกกิจกรรมเพื่อฟังเสียง)
 Cr. Photo By คุณ Megaman X
 
  
								รายนามผู้เยี่ยมชม :  Black Sword, ฟองเมฆ , กร กรวิชญ์ , ลิตเติลเกิร์ล , ก้าง ปลาทู , Mr.music , รพีกาญจน์ , ปิ่นมุก , ชลนา ทิชากร , ปลายฝน คนงาม , มดดำ , กรกช , หนูหนุงหนิง , กอหญ้า กอยุ่ง |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| บ้านกลอนน้อยฯ | Permalink: Re: - เขาพระสุเมรุหรือสิเนรุ -
 
  ขอบคุณรูปภาพนี้จากใน Internet โดยคุณ Aksorn Pichai
| - ว่าด้วย "ครุฑ" พญานก - 
 มีนกใหญ่ไร้เทียมทันเยี่ยมยุทธ
 นามว่า“ครุฑ”ฤทธิไกรไร้คู่ข่ม
 ประวัติยาวพิสดารมีนานนม
 ขอพาชมเว็บไซต์ให้อ่านกัน...
 | 
สัตว์สำคัญที่สุดในป่าหิมพานต์ คือ “ครุฑ”  เป็นพญานกมีร่างกายเป็นครึ่งคนครึ่งนก อีกทั้งยังเป็นพาหนะของพระวิษณุ(พระนารายณ์) เป็นตำนานของตำนาน ส่วนใหญ่มีหัว จะงอยปาก ปีก และกรงเล็บเป็นอินทรี ลำตัวเป็นมนุษย์ ใบหน้ามีสีขาว ปีกสีแดง และร่างที่เป็นสีทองสว่าง
 
 ตำนานของครุฑในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เล่าว่าพญาครุฑเป็นบุตรของพระกัศยปมุนีเทพบิดร และนางวินตา พระกัศยปมุนีองค์นี้เป็นฤษีที่มีฤทธิ์เดชมากองค์หนึ่ง และเป็นผู้ให้กำเนิดเทพอีกหลายองค์ในศาสนาพราหมณ์ พระองค์มีชายาหลายองค์ แต่องค์ที่เกี่ยวข้องกับตำนานพญาครุฑนั้น นอกจากนางวินตาแล้ว ยังมีอีกองค์หนึ่งคือ นางกัทรุ ซึ่งเป็นพี่น้องกับนางวินตาและเป็นมารดาของนาคทั้งปวง
 
 ทั้งสองนางได้ขอพรในการกำเนิดบุตรจากพระกัศยป โดยนางกัทรุได้ขอว่าขอให้มีบุตรจำนวนมาก ซึ่งต่อมาก็ได้ให้กำเนิดนาคเป็นบุตรหนึ่งพันตัว อาศัยอยู่ในแดนบาดาล ส่วนนางวินตาขอบุตรเพียงสององค์และขอให้ลูกมีอำนาจวาสนา เมื่อนางคลอดบุตรปรากฏว่าออกมาเป็นไข่สองฟอง นางทนรอไม่ไหวใคร่รู้ว่าบุตรของตนจะมีหน้าตาอย่างไร จึงทุบไข่ฟองหนึ่ง ปรากฏว่าเป็นเทพบุตรที่มีกายแค่ครึ่งท่อนบนชื่อ“อรุณ” อรุณเทพบุตรโกรธมารดาที่ทำให้ตนออกจากไข่ก่อนกำหนด จึงสาปให้มารดาเป็นทาสนางกัทรุ และให้บุตรคนที่สองของนางเป็นผู้ช่วยนางให้พ้นจากความเป็นทาส จากนั้นจึงขึ้นไปเป็นสารถีให้กับพระอาทิตย์หรือสุริยเทพ นางวินตาไม่กล้าทุบไข่ฟองที่สองออกมาดู รอดูจนถึงกำหนดที่บุตรคนที่สองออกมาจากไข่เอง ปรากฏเป็นพญาครุฑ เมื่อพญาครุฑแรกเกิดนั้นว่ากันว่า มีร่างกายขยายตัวออกใหญ่โตจนจรดฟ้า ดวงตาเมื่อกระพริบเหมือนฟ้าแลบ เวลาขยับปีกทีใด สัตว์ในขุนเขาก็จะตกใจหนีหายไปพร้อมพระพาย รัศมีที่พวยพุ่งออกจากกายมีลักษณะดั่งไฟไหม้ทั่วทั้งสี่ทิศ
 
 ในกาลต่อมา นางกัทรุและนางวินตาได้พนันกันถึงสีของม้าอุไฉศรพที่เกิดคราวกวนเกษียรสมุทรและเป็นสมบัติของพระอินทร์ โดยพนันว่าใครแพ้ต้องเป็นทาสอีกฝ่ายห้าร้อยปี นางวินตาทายว่าม้าสีขาวส่วนนางกัทรุทายว่าสีดำ ซึ่งความจริงม้าเป็นสีขาวดังที่นางวินตาทาย แต่นางกัทรุใช้อุบายให้นาคลูกของตนแปลงเป็นขนสีดำไปแซมอยู่เต็มตัวม้า (บางตำนานว่าให้นาคพ่นพิษใส่ม้าจนเป็นสีดำ) นางวินตาไม่ทราบในอุบายเลยยอมแพ้ ต้องเป็นทาสของนางกัทรุตามสัญญา
 
 ภายหลังเมื่อครุฑได้ทราบสาเหตุที่มารดาต้องตกเป็นทาสและได้ทราบเงื่อนไขจากพวกนาคว่า ต้องไปเอาน้ำอมฤตให้นาคเสียก่อนจึงจะให้นางวินตาเป็นไท ครุฑจึงบินขึ้นสวรรค์ไปเอาน้ำอมฤตซึ่งอยู่กับพระจันทร์ แล้วคว้าพระจันทร์มาซ่อนไว้ใต้ปีก แต่ถูกพระอินทร์และทวยเทพติดตามมา จนเกิดต่อสู้กันขึ้น ฝ่ายเทวดานั้นไม่อาจเอาชนะได้ เมื่อพระอินทร์ใช้วัชระโจมตีครุฑนั้น ครุฑไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่ครุฑก็จำได้ว่าวัชระเป็นอาวุธที่พระอิศวรประทานให้แก่พระอินทร์ จึงสลัดขนของตนให้หล่นลงไปเส้นหนึ่งเพื่อแสดงความเคารพต่อวัชระและรักษาเกียรติของพระอินทร์ผู้เป็นหัวหน้าของเหล่าเทพ ด้านพระวิษณุหรือพระนารายณ์ก็ได้ออกมาขวางครุฑไว้และสู้รบพญาครุฑด้วยเช่นกัน แต่ต่างฝ่ายต่างไม่อาจเอาชนะกันได้ ทั้งสองจึงทำความตกลงยุติศึกต่อกัน โดยพระวิษณุให้พรครุฑว่าจะให้ครุฑเป็นอมตะและให้อยู่ตำแหน่งสูงกว่าพระองค์ ส่วนครุฑก็ถวายสัญญาว่าจะเป็นพาหนะของพระวิษณุ และเป็นธงครุฑพ่าห์สำหรับปักอยู่บนรถศึกของพระวิษณุอันเป็นที่สูงกว่า
 
 เมื่อครุฑได้หม้อน้ำอมฤตนั้น พระอินทร์ได้ตามมาขอคืน ครุฑก็บอกว่าตนต้องรักษาสัตย์ที่จะนำไปให้นาคเพื่อไถ่มารดาให้พ้นจากการเป็นทาส และให้พระอินทร์ตามไปเอาคืนเอง ครุฑจึงเอาน้ำอมฤตไปให้นาคโดยวางไว้บนหญ้าคา (และว่าได้ทำน้ำอมฤตหยดบนหญ้าคา ๒-๓ หยด ด้วยเหตุนี้ หญ้าคาจึงถือเป็นสิ่งมงคลในทางศาสนาพราหมณ์) ส่วนนาคเมื่อเห็นน้ำอมฤตก็ยินดี จึงยอมปล่อยนางวินตาแม่ครุฑให้เป็นอิสระ ขณะพากันไปสรงน้ำชำระกายเพื่อจะมากินน้ำอมฤตนั่นเอง พระอินทร์ก็นำหม้อน้ำอมฤตกลับไป ทำให้นาคไม่ได้กิน พวกนาคจึงเลียที่ใบหญ้าคาด้วยเชื่อว่าอาจมีหยดน้ำอมฤตหลงเหลืออยู่ ทำให้ใบหญ้าคาบาดกลางลิ้นเป็นทางยาว (เรื่องนี้กลายเป็นที่มาว่าทำไมงูจึงมีลิ้นเป็นสองแฉกสืบมาจนทุกวันนี้) แต่นั้นครุฑกับนาคจึงเป็นศัตรูกันมาโดยตลอด และครุฑนั้นก็จะจับนาคกินเป็นอาหารเสมอ
 
 ครุฑมีชายาชื่ออุนนติหรือวินายกา โอรสชื่อ สัมปาติหรือสัมพาที และชฎายุ ตามวรรณคดีพุทธศาสนากล่าวว่าครุฑมีขนาดใหญ่มาก วัดจากปีกข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่งได้ 150 โยชน์ เวลากระพือปีกสามารถทำให้เกิดพายุใหญ่ เกิดมืดมนและทำลายบ้านเมืองให้หมดสิ้นไปได้ ที่อยู่ของครุฑเรียกว่า สุบรรณพิภพ เป็นวิมานอยู่บนต้นสิมพลีหรือต้นงิ้ว อยู่เชิงเขาพระสุเมรุ
 
 ขอขอบคุณความเรียงจากเว็บฯ   https://my.dek-d.com/0012/writer/viewlongc.php?id=446421&chapter=114    ในกูเกิล
| เต็ม อภินันท์ สถาบันกวีนิพนธ์ไทย
 ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๑
 | 
 ขอบคุณเจ้าของภาพนี้จากใน Internet
								รายนามผู้เยี่ยมชม :  Black Sword, ลิตเติลเกิร์ล , ปิ่นมุก , ชลนา ทิชากร , รพีกาญจน์ , ปลายฝน คนงาม , ฟองเมฆ , ลมหนาว ในสายหมอก , มดดำ , ก้าง ปลาทู , กรกช , หนูหนุงหนิง , กอหญ้า กอยุ่ง |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| บ้านกลอนน้อยฯ | Permalink: Re: - เขาพระสุเมรุหรือสิเนรุ -
 
 
								รายนามผู้เยี่ยมชม :  Black Sword, ลิตเติลเกิร์ล , กร กรวิชญ์ , ปิ่นมุก , ชลนา ทิชากร , รพีกาญจน์ , ฟองเมฆ , ลมหนาว ในสายหมอก , น้ำหนาว , มดดำ , ก้าง ปลาทู , กรกช , หนูหนุงหนิง , กอหญ้า กอยุ่ง |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| บ้านกลอนน้อยฯ | Permalink: Re: - เขาพระสุเมรุหรือสิเนรุ -
 
 
								รายนามผู้เยี่ยมชม :  ฟองเมฆ, ลิตเติลเกิร์ล , กร กรวิชญ์ , ลมหนาว ในสายหมอก , เฒ่าธุลี , Black Sword , รพีกาญจน์ , น้ำหนาว , Mr.music , มดดำ , ก้าง ปลาทู , กรกช , ปิ่นมุก , หนูหนุงหนิง , ปลายฝน คนงาม , กอหญ้า กอยุ่ง |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| บ้านกลอนน้อยฯ | Permalink: Re: - เขาพระสุเมรุหรือสิเนรุ -
 
 
								รายนามผู้เยี่ยมชม :  Black Sword, น้ำหนาว , ฟองเมฆ , กร กรวิชญ์ , ลิตเติลเกิร์ล , ชลนา ทิชากร , รพีกาญจน์ , ลมหนาว ในสายหมอก , มดดำ , ก้าง ปลาทู , กรกช , Mr.music , หนูหนุงหนิง , ปลายฝน คนงาม , กอหญ้า กอยุ่ง |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| บ้านกลอนน้อยฯ | Permalink: Re: - เขาพระสุเมรุหรือสิเนรุ -
 
 
								รายนามผู้เยี่ยมชม :  Black Sword, ลิตเติลเกิร์ล , กร กรวิชญ์ , ลมหนาว ในสายหมอก , ฟองเมฆ , มดดำ , ก้าง ปลาทู , กรกช , ชลนา ทิชากร , รพีกาญจน์ , น้ำหนาว , ปิ่นมุก , หนูหนุงหนิง , ปลายฝน คนงาม , กอหญ้า กอยุ่ง |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| บ้านกลอนน้อยฯ | Permalink: Re: - เขาพระสุเมรุหรือสิเนรุ -
 
 
								รายนามผู้เยี่ยมชม :  Black Sword, กร กรวิชญ์ , เส้นชีวิต ดำเนินไป , ก้าง ปลาทู , กรกช , ลมหนาว ในสายหมอก , ชลนา ทิชากร , รพีกาญจน์ , ฟองเมฆ , น้ำหนาว , ปิ่นมุก , หนูหนุงหนิง , ปลายฝน คนงาม , กอหญ้า กอยุ่ง |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	|  | 
	|  |