Username:

Password:


  • บ้านกลอนน้อยฯ
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล >> คำประพันธ์ แยกตามประเภท >> กลอน ร้อยกรองหลากลีลา >> สมุทรโฆษคำกลอน
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: สมุทรโฆษคำกลอน  (อ่าน 53276 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #75 เมื่อ: 24, กันยายน, 2561, 04:16:40 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๗๖-
สมุทรโฆษคำกลอน


           ๏ พี่แสนห่วง “พินทุมดี” แท้
        ชวนขวัญแม่มาจมปลักศักดิ์สูญสิ้น
        แต่เกิดมามิน่าเคยเลยเดินดิน
        สุดถวิลให้ย่ำย่างกลางพนา

        ๏ โอ้อกพี่นี้ก่อนไรไม่เคยคิด
        จะมีฤทธิ์เหาะเหินเดินเวหา
        ครั้นเมื่อได้พระขรรค์ปานเทวา
        ก็หลงฟ้าปลาบปลื้มลืมธรณี

        ๏ เมื่อหวนคิดชีวิตคนบนโลกหล้า
        เหลิงยศถาบุญหนักสูงศักดิ์ศรี
        แต่มิพ้นคนเดินดินอยู่ดี
        เมื่อถึงทีตกต่ำจึงช้ำใจ

         ๏ อันอำนาจวาสนาหาคงมั่น
        เหมือนหลับฝันตื่นมีชีวิตใหม่
        เอกสิทธิ์ฤทธามาหายไป
        กลับอยู่ในภาวะธรรมดา”

        ๏ “พินทุมดี” ยินความตามที่ห่วง
        สะท้านทรวงแต่ทำใจให้แกร่งกล้า
        แล้วเฉลยเอ่ยตอบปลอบวาจา
       “ขอพี่อย่าห่วงใยให้กังวล



รายนามผู้เยี่ยมชม : กอหญ้า กอยุ่ง, รพีกาญจน์, ฟองเมฆ, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, ลิตเติลเกิร์ล, น้ำหนาว, ปลายฝน คนงาม

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..

ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #76 เมื่อ: 26, กันยายน, 2561, 12:04:18 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๗๗-
ธนุ เสนสิงห์



             ๏ อยู่แดนดินถิ่นใดไม่สำคัญ
          สถานะจะแปรผันมิมีผล
          ขอเพียงมีพี่กับน้องครองกมล
          จะทุกข์ทนเพียงไหนไม่นำพา”

           ๏  “สมุทรโฆษ” ยินคำพร่ำพจี
         ชื่นฤดีขึ้นบ้างพลางเอ่ยว่า
         “คงเป็นวิบากกรรมเคยทำมา
          ตกชะตาคราหลงกลางพงไพร
 
          ๏ พี่นำพามาทุกข์ยากลำบากแล้ว
         แม้นน้องแก้วพร้อมอยู่คู่ชิดใกล้
          เราร่วมกันสรรค์สร้างพลังใจ
          ฝ่าฟันไปจนได้ถึงซึ่งปลายทาง”
 
          ๏ สองพระองค์ทรงรำพึงคะนึงคิด
          จึงปลงจิตออกสาวเท้าย่ำย่าง
          แม้ความหวังยังเหมือนจะเลือนราง
          ชีพมิดับอับปางยังจำจร

          ๏ ความเหนื่อยยากลำบากกายมากมายนัก
          ค่ำลงพักกลางเถื่อนแถวแนวสิงขร
          เช้าขึ้นมาเดินหน้าไปในดงดอน
          แม้ร้าวรอนคงมุ่งมั่นหลายวันวาร


รายนามผู้เยี่ยมชม : กอหญ้า กอยุ่ง, กร กรวิชญ์, ลิตเติลเกิร์ล, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, ฟองเมฆ, ลมหนาว ในสายหมอก, ปลายฝน คนงาม

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #77 เมื่อ: 26, กันยายน, 2561, 12:10:15 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน

-๗๘-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ สองพระวรกายลายด้วยแผล
        อนาถแท้พระฉวีสีดำกร้าน
        เมื่อยามหลงดงไพรไม่สราญ
        เหมือนเคยผ่านทุกสิ่งที่ชวนชี้ชม

        ๏ สองพระองค์ทรงมีรักได้พักพิง
        พอเอนอิงคลายทุกข์ค่อยสุขสม
        ความระกำมินำพาเป็นอารมณ์
        ถึงกายตรมข่มกมลทนตรากตรำ

        ๏ ออกเดินทางย่างไปโดยไม่ท้อ
        มิรีรอสู้ทนเช้าจนค่ำ
        เมื่อถึงคราอาภัพยอมรับกรรม
        มิเพ้อพร่ำร่ำไรข่มใจตน

        ๏ อันวนหิมพานต์ไพศาลแสน
        ผิข้ามแดนด้วยเดชะพระกุศล
        ดุจดังเทพเทวัญบันดาลดล
        พบสายชลล่องไหลในพนา

        ๏ เห็นเคว้งคว้างกลางสาครเป็นขอนไม้
        คิดขึ้นได้ “สมุทรโฆษ” กระโดดหา
        นำเถาวัลย์ผูกพันไว้ชายคงคา
        ได้เหมือนแม้นแทนนาวาพากายจร


รายนามผู้เยี่ยมชม : กอหญ้า กอยุ่ง, กร กรวิชญ์, ลิตเติลเกิร์ล, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, ฟองเมฆ, ลมหนาว ในสายหมอก, ปลายฝน คนงาม

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #78 เมื่อ: 26, กันยายน, 2561, 12:13:11 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน

-๗๙-
ธนุ เสนสิงห์


            ๏ แล้วออกหาผลาหารใกล้ธารนั้น
          มามากครันกองไว้กลางไม้ขอน
          สองกระบอกกรอกน้ำใสในสาคร
          เก็บไว้ก่อนเผื่อภายหน้าหาไม่มี

            ๏ ควรเตรียมการกันไว้ไม่ประมาท
          ด้วยสุดคาดหมายใดในทุกที่
          ชวนกันนอนเกาะขอนไม้ได้มั่นดี
          ปล่อยเชือกให้สายวารีพารี่ไป

          ๏ วันหนึ่งเพลียเสียพลังกันทั้งสอง
          สายน้ำล่องตามลำดับก็หลับใหล
          มินำพาเวลาผ่านนานเท่าใด
          ตื่นขึ้นในสมุทรสุดคะนึง

          ๏ เกิดพายุใหญ่มาฟ้าพยับ
          เพิ่มระดับวาตะเพชรหึง
          เกลียวคลื่นซัดตัดไม้คล้ายฉุดดึง
          สักพักหนึ่งฟัดฟาดจนขาดกลาง

           ๏ แยกทั้งสองล่องไปในสายสินธุ์
          อกพังภินท์โหยหาเมื่อฟ้าสาง
          เฝ้าร้องร่ำโอ้กรรมใดให้อับปาง
          โดยอ้างว้างเดียวดายกลางสายชล


รายนามผู้เยี่ยมชม : กอหญ้า กอยุ่ง, กร กรวิชญ์, ลิตเติลเกิร์ล, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, ฟองเมฆ, ลมหนาว ในสายหมอก, ปลายฝน คนงาม

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #79 เมื่อ: 28, กันยายน, 2561, 09:01:42 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๘๐-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ “พินทุมดี” รำพัน “การจำพราก
        ชีพฝังฝากอยู่หรือดับกับกุศล
        ได้พบกันต่อวันใดหรือไกลพ้น
        ดวงกมลสุดมาดหมายให้เป็นจริง

        ๏ ความรักเอ๋ยเคยสุขแสนแม้นสวรรค์
        เมื่อยามพรากจากกันพลันโศกยิ่ง
        เคยฝากคำพร่ำพลอดมิทอดทิ้ง
        โอ้ทุกสิ่งผันแปรมิแน่นอน
 
        ๏ ยิ่งรักมากยิ่งทุกข์มากยามพรากรัก
        ห่วงยิ่งนักเป็นหรือตายสุดถ่ายถอน
        เหมือนโนรีที่ไร้รังเซซังจร
        อาลัยหาอาวรณ์ทุกวารวัน

         ๏ ต้องปล่อยตามชะตาฟ้าลิขิต
        มิมีสิทธ์ไขว่คว้ามาดังฝัน
        ร้องร่ำไปใครยินคำเพ้อรำพัน
        เจ็บมหันต์..มั่นใจรักไม่รวนเร

        ๏ ด้วยบุญดลกุศลชูให้อยู่ยั้ง
        เกิดพลังลมผลักคลื่นหักเห
       “พินทุมดี” ได้ขึ้นยังฝั่งทะเล
        เดินซวนเซออกหาน้ำท่ากิน








 


รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, ลมหนาว ในสายหมอก, กอหญ้า กอยุ่ง, กร กรวิชญ์, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, ปลายฝน คนงาม

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #80 เมื่อ: 28, กันยายน, 2561, 09:03:22 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
 
-๘๑-
ธนุ เสนสิงห์



           ๏ เห็นอาหารกินกันตายไม่เลือกสรร
         แค่ชีวันอยู่ต่อไปไม่สูญสิ้น
         พอเริ่มมีพลังแรงแห่งชีวิน
         จึงถวิลจะมุ่งไปในชุมชน

         ๏ หวั่นอุรากระทาชายหมายเชิงชู้
         หรือพบหมู่กักขฬะอกุศล
         จึงคลุกคลีธุลีดินสิ้นโสภณ
         ประดุจคนจัณฑาลซมซานไป

         ๏ เพื่อให้รู้เป็นผู้ไม่ใฝ่โลกีย์
         จึงบวชชีพราหมณ์สิ้นจินต์สงสัย
         มิหันมองจ้องกายชายใดใด
         ค่อยครรไลเทวษล้ำตามมรรคา

         ๏ เข้าสู่ “เมืองมัทราช” มิคาดหมาย
         พบตายายใจดีมีปุจฉา
        “โอ้แม่คุณบุญน้อยต้อยชะตา
         ไฉนมาเร่ร่อนจรเดียวดาย

         ๏ กิริยาท่าทีผู้ดีแท้
         ใครทำแม่ช้ำชีวันขวัญสลาย
         ดูดุ่มเดินเหมือนดังซังกะตาย
         อย่าเขินอายยายอยากช่วยเอื้ออวยกัน”
  







 


รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, ลมหนาว ในสายหมอก, กอหญ้า กอยุ่ง, ฟองเมฆ, กร กรวิชญ์, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, ปลายฝน คนงาม

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #81 เมื่อ: 28, กันยายน, 2561, 09:05:01 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
 
-๘๒-
สมุทรโฆษคำกลอน



           ๏ ครั้นเมื่อยินจึง “พินทุมดี”
        รับไมตรีจากยายดังหมายมั่น
        ความห่วงใยจากสายตาส่งมานั้น
        ชวนตื้นตันพลันดำรัสตามสัจจริง
    
          ๏ ว่าพลัดพรากจากพระสวามี
        ร้าวชีวีรันทดสลดยิ่ง
        สองตายายได้ชวนชักไปพักพิง
        พออุ่นอิงอาศัยในเรือนชาน

         ๏ จึง “พินทุมดี” มีจิตหมาย
        ขอตั้งหลักพักกายบ้านยายท่าน
        สวามีคงตามมามิช้านาน
        เดินทางผ่านคาดการณ์ว่าพบหน้ากัน

        ๏ คิดหาทางอย่างไรให้เป็นผล
        พบทรงพลดังใจที่ใฝ่ฝัน
        นึกขึ้นได้ใช้ธำมรงค์วงสำคัญ
        มอบยายพลันวานไปขายในพารา

        ๏ ยายมุ่งบ้านท่านโภคีเศรษฐีใหญ่
        ที่ใครใครยอมรับนับถือว่า…
        เป็นคนซื่อเชื่อถือได้การขายค้า
        เมื่อพบหน้าปราศรัยด้วยไมตรี


รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, ลมหนาว ในสายหมอก, กอหญ้า กอยุ่ง, ฟองเมฆ, กร กรวิชญ์, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, ปลายฝน คนงาม

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #82 เมื่อ: 01, ตุลาคม, 2561, 12:55:18 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน

-๘๓-
ธนุ เสนสิงห์


            ๏ ยายจึงส่งธำมรงค์วงงามให้
          พลันก็ได้ยินอุทานท่านเศรษฐี
         “ช่างเลิศล้ำค่าคำนวณควรบุรี
          ฉันมิมีทรัพย์พอให้ต่อรอง

           ๏ จักขอนำพาไปตามใจหวัง
          พบขุนคลังวังในไม่ขัดข้อง
          ประเมินค่าราคาเน้นเป็นเงินทอง
          คงสมปองที่ตั้งความหวังไว้”

          ๏ เศรษฐีนำยายไปในวังหลวง
          กิจทั้งปวงช่วยจัดการประสานให้
          ด้วยเป็นคนมิจนแท้แม้น้ำใจ
          สิ่งช่วยได้เอื้ออวยด้วยยินดี  

          ๏ ครั้นเมื่อพบขุนคลังดังมั่นหมาย
          จึงบอกขายธำมรงค์สูงส่งศรี
          พินิจดูรู้ว่าค่าเทียมธานี
          เอ่ยวจีขอให้แจ้งแหล่งที่มา

          ๏ ฟังยายว่าน่าตั้งใจไม่เปิดเผย
          จึงมิเอ่ยย้ำซักจนนักหนา
          เตรียมแลกเปลี่ยนเหรียญหิรัญ กาญจนา
          ตามอัตรานิยมสมดุลกัน


รายนามผู้เยี่ยมชม : กร กรวิชญ์, ลิตเติลเกิร์ล, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, ปลายฝน คนงาม, ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #83 เมื่อ: 01, ตุลาคม, 2561, 12:57:53 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน

-๘๔-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ มณีนี้เป็นหนึ่งในธรณินทร์
        พิศุทธิ์สิ้นไร้ราคีเลิศสีสัน
        ประกายแสงแรงกล้าท้าตะวัน
        เชื่อแน่ว่าราชันท่านโปรดปราน

        ๏ ด้วยมากค่ากว่าในคลังมีทั้งหมด
        เหนือกำหนดมูลค่ามหาศาล
        เมื่อตีค่าราคาของเป็นกองกาญจน์
        ได้ประมาณทองเต็มร้อยเล่มเกวียน

          ๏ ขุนคลังให้ฝ่ายคุ้มภัยนำไปส่ง
        ตามจำนง “พินทุมดี” มิผันเปลี่ยน
        ระดมช่างสร้างมณฑลทำมณเฑียร
        มองระเมียรเด่นศิลป์ในดินแดน

        ๏ หน้าสร้างโถงเป็นโรงทานอาคารคู่
        เพื่อเลี้ยงผู้ที่จนยากลำบากแสน
        ทั้งพราหมณ์อันสัญจรไปในแว่นแคว้น
        ผู้ขาดแคลนมอบทุนให้ไปสร้างตน

        ๏ โรงหนึ่งให้อาหารทานอิ่มท้อง
        โรงที่สองให้ทรัพย์พอไปก่อผล
        สถานที่นี้หมายให้ทุกคน
        ได้พักยลภาพศิลป์จินตนา


รายนามผู้เยี่ยมชม : กร กรวิชญ์, ลิตเติลเกิร์ล, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, ปลายฝน คนงาม, ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #84 เมื่อ: 01, ตุลาคม, 2561, 12:59:37 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๘๕-
ธนุ เสนสิงห์



           ๏ แล้วจ้างหมู่ผู้ช่วยงานการทั้งหลาย
         แบ่งเป็นฝ่ายหน้าที่มีถ้วนหน้า
         ช่างประดิษฐ์วิจิตรศิลป์ดั่งจินดา
         รายรอบฝาผนังห้องชวนต้องใจ
 
         ๏ ศาลาสองปองหมายให้รอท่า
         มีเวลาชมภาพศิลป์ซึ้งจินต์ได้
         ด้วยลำดับรับทุนรอนก่อนให้ไป
         ต้องซักไซ้เห็นความหวังตั้งใจจริง

          ๏ เพราะว่าคนยากจนนั้นต่างกันอยู่
         หนึ่งคือผู้มิพยายามทำสักสิ่ง
         ชีวิตอยู่อย่างผู้ขอรอพึ่งพิง
         ถึงละทิ้งความรักศักดิ์ศรีตน

          ๏ หมู่สองนั้นหมั่นเพียรและเรียนรู้
         ทั้งต่อสู้การงานด้านกุศล
         ช่องทางที่มีไม่มากจึงยากจน
         ยังอดทนมุ่งมั่นสรรค์ความดี

          ๏ พวกหนึ่งนั้นทานอิ่มท้องก็ผ่องใส
         ด้วยมิใฝ่ฝันเห็นเป็นเศรษฐี
         อยู่วันวันแบบปล่อยวางสร้างชีวี
         ประเภทนี้ให้ไปเพียงโภคภัณฑ์


รายนามผู้เยี่ยมชม : กร กรวิชญ์, ลิตเติลเกิร์ล, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, ปลายฝน คนงาม, ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #85 เมื่อ: 04, ตุลาคม, 2561, 08:15:38 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๘๖-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ พวกสองปองทุนรอนสักก้อนหนึ่ง
        เพื่อก้าวถึงชีวีที่ใฝ่ฝัน
        ทุนต่อทุนหนุนเนื่องไปไม่ตีบตัน
        ถึงวันนั้นคนทั้งหลายได้พึ่งพิง

        ๏ “พินทุมดี” มีทุกอย่างสมดังคิด
        ศิลป์วิจิตรสำเร็จเสร็จทุกสิ่ง
        จึงเริ่มงานแจกทานไปไม่ประวิง
        คนรับทานนานวันยิ่งทบทวี

        ๏ ชนนิยมชมศิลป์จินตนิยาย
        มองความหมายบันเทิงใจไม่หมองศรี
        แม้เล่าความตามอรรถคดี
        จริงตามที่ชีวันผันผ่านมา

        ๏ จากราตรีที่เทพสรรค์การอุ้มสม
        ถึงพระแท่นบรรทมแสนหรรษา
        ผ่านวาระอภิเษกสุขอุรา
        จนถึงคราจำเป็นต้องท่องอรัญ

        ๏ พิทยาธรช้ำถูกทำร้าย
        ทูลถวายสิ่งประเสริฐเลิศพระขรรค์
        แล้วเหินลมชมวนหิมวันต์
        จนชะตามาพลิกผันพลันเดินไพร








 


รายนามผู้เยี่ยมชม : ฟองเมฆ, กร กรวิชญ์, ลิตเติลเกิร์ล, ลมหนาว ในสายหมอก, น้ำหนาว, รพีกาญจน์

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #86 เมื่อ: 04, ตุลาคม, 2561, 08:18:10 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
 
-๘๗-
ธนุ เสนสิงห์



           ๏ ครั้นเมื่อผ่านธารสายเกาะไม้ขอน
         จากดงดอนสู่โอฆะทะเลใหญ่
         มีพายุคลื่นแรงเหมือนแกล้งไซร้
         ซัดขอนไม้ขาดกลางจำร้างกัน

         ๏ เป็นคดีชีวิตลิขิตไว้
         มิรู้นัยที่มาว่าเพ้อฝัน
         ทุกทิวาให้อาหาร ทาน สารพัน
         ผู้หมายมั่นทุนรอนผ่อนยากจน
  
         ๏ สั่งทาสีมีความสำคัญว่า
        “ผู้ที่มาดูภาพเรื่องแต่เบื้องต้น
         พินิจแน่แลท่าทีดีทุกคน
         ก่อนจะพ้นจากลามีอารมณ์

         ๏ พลอยแช่มชื่นรื่นอุราหรือว่าเศร้า
         แม้นใครเขามีลีลาว่าขื่นขม
         แจ้งข่าวไวเพื่อให้เข้ามาดูชม
         เป็นเงื่อนปมที่เน้นย้ำสำคัญนัก”

        ๏ ตั้งแต่นั้นโรงทานนี้มีผู้ผ่าน
         ยิ่งเนิ่นนานมากล้นชนรู้จัก
         คนห่างเหเคหาได้มาพัก
         ส่วนมากมักเห็นภาพซาบซึ้งใจ


 


รายนามผู้เยี่ยมชม : ฟองเมฆ, กร กรวิชญ์, ลิตเติลเกิร์ล, ลมหนาว ในสายหมอก, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, ปลายฝน คนงาม

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #87 เมื่อ: 04, ตุลาคม, 2561, 08:20:04 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
 
-๘๘-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ เหมือนยลยินศิลปะประโลมโลก
        จักทุกข์โศกตามจินดาก็หาไม่
       “พินทุมดี” มิมีท้อรอต่อไป
        คงมั่นในรักศรัทธาไม่ราร้าง

        ๏ ย้อนภาวะ“สมุทรโฆษ”อยู่โดดเดี่ยว
        ใจห่อเหี่ยวรู้เอกาเมื่อฟ้าสาง
        ชะเง้อชะแง้แลทางไหนใจอ้างว้าง
        ขอบน้ำกว้างไกลเหมือนเดือนตะวัน

          ๏ อกวิโยคโชคชะตามาพลัดพราก
        เมื่อจำจาก “พินทุมดี” มีโศกศัลย์
        ลอยสาครนอนละเมอเพ้อรำพัน
        “กรรมใดกันกลั่นแกล้งรุนแรงเกิน

          ๏ ตั้งใจมั่นต่อกันมาว่าชาตินี้
        จักมิมีเริดร้างหรือห่างเหิน
        โชคชะตามาแยกไกลให้เผชิญ
        บนทางเดินที่เป็นตายยังไม่รู้

        ๏ เห็นแต่น้ำกับฟ้าน่าท้อแท้
        ฟากฝั่งแลห่างหายใจหดหู่
        อยากจะแปลงกายาเป็นปลาปู
        แหวกธาราหาพธูคู่ชีวัน


รายนามผู้เยี่ยมชม : ฟองเมฆ, กร กรวิชญ์, ลิตเติลเกิร์ล, ลมหนาว ในสายหมอก, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, ปลายฝน คนงาม

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #88 เมื่อ: 05, ตุลาคม, 2561, 09:11:16 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน

-๘๙-
ธนุ เสนสิงห์



           ๏ ชีพน้อยน้อยลอยล่องเศร้าหมองศรี
         ฝากชีวีด้วยเดชะแห่งสวรรค์
         แม้นยามนี้มีน้องครองสัมพันธ์
         คงมิหวั่นพรั่นพรึงคะนึงครวญ

        ๏ รักจำพรากจากรักสุดหักจิต
         รำพึงคิดหวั่นไหวฤทัยป่วน
         ถ้ายังอยู่คู่คนดีจะชี้ชวน
         แม่เนื้อนวลล่องชลเล่นเช่นโลมา”

          ๏ เฝ้าละเมอเพ้อพร่ำคร่ำครวญอยู่
         แสนรันทดอดสูอาลัยหา
         ตายหรือรอดห่วงแต่ยอดพระชายา
        “อนิจจาแม่พลอยต้องหมองจาบัลย์

           ๏ ร่วมฤดีพี่กับน้องหมายครองสุข
         ตกชะตามาทุกข์ยิ่งโศกศัลย์
         ถึงเวรกรรมจำพรากต้องจากกัน
         ขอรักมั่นตราบที่ยังชีวา”
 
         ๏ แล้วเทพีที่รักษาชลาศัย
         พิมพ์ประไพนาม “มณีเมขลา”
         เหาะเวหนวนสำรวจตรวจธารา
         สายนัยนาเห็น “สมุทรโฆษ”นั้น


รายนามผู้เยี่ยมชม : ปลายฝน คนงาม, รพีกาญจน์

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #89 เมื่อ: 05, ตุลาคม, 2561, 09:14:14 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๙๐-
สมุทรโฆษคำกลอน



         ๏ เฝ้าแหวกว่ายไม่ยอมแพ้กระแสสินธุ์  
       ห่างไกลแสนจากแผ่นดินถิ่นเขตขัณฑ์
       รู้บารมีเป็นที่อเนกอนันต์
       “สมุทรโฆษ” นามโจษจันลือขานไกล

        ๏ วันประสูติสมุทรยังคลั่งเหลือหลาย
       จะมาตายขายชื่อหรือไฉน
       ควรชูช่วยอวยชีวันหรือฉันใด
       ยากปลงใจจึงนำความถามอินทรา

       ๏ ครานั้นองค์อัมรินทร์ปิ่นเทเวศ
       ทิพยเนตรส่องดูก็รู้ว่า…
      “สมุทรโฆษ” ชดใช้กรรมเคยทำมา
       ถึงเวลาพ้นเคราะห์จำเพาะกาล

       ๏  ควรเวลาคลาไคลไปชูช่วย
       มิให้ม้วยลับล่วงห้วงละหาร
      “เมขลา” รับบัญชามิช้านาน
       เหาะทะยานดิ่งตรงลงชลธี

       ๏ “สมุทรโฆษ” ซมซบสลบไสล
       โอบอุ้มไว้กระทำตามหน้าที่
       เหาะโดยไวไปยังฝั่งธานี
       หาวารีจืดได้หยอดให้กิน




รายนามผู้เยี่ยมชม : ปลายฝน คนงาม, รพีกาญจน์

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8   ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.204 วินาที กับ 220 คำสั่ง
กำลังโหลด...