พันธุ์ไม้ป่า ปลูก ณ วัดรัตนวนาราม จ.ตราด : ๔.ต้นสัก
กลอนกลบท ซ่อนมาลัย
๑...ต้นสักไทยไซร้เพริศเกิดเกิดเหนือ
สำคัญเอื้อเศรษฐ์กิจคิดคิดเสริม
ความต้องการใช้งานมากมากเติม
นำเข้าเพิ่มหลายหมื่นล้านล้านนา
๒..."สัก"สูงลามสามสิบเมตรเมตรถึง
เป็นไม้ซึ่งพึ่งแสงแรงแรงหนา
เติบโตดีที่เขาปูนปูนมา
พื้นราบถ้าไม่ขังน้ำน้ำเลย
๓...ไม้ผลัดใบต้นตรงทรงทรงพุ่ม
เปลือกต้นชุมน้ำตาลทองทองเผย
น้ำตาลแก่แน่ชี้มีลายลายเชย
เปลือกแตกเงยเป็นร่องแนวแนวตรง
๔...ใบสักเดี่ยวรูปไข่ยาวยาวใหญ่
ความกว้างไซร้สามสิบเซนต์เซนต์ส่ง
หกสิบเซนต์เด่นยาวเขียวเขียวคง
ท้องใบบ่งขนคลุมชุมชุมครอง
๕..."สัก"ผลัดใบ"พฤศจิฯ"แล้งแล้งช่วง
"มกราฯ"ล่วงหลุดหมดลดลดผอง
แตกใบใหม่"เมษาฯ"ผลิผลิมอง
"มิถุฯ"จ้องผ่องผาดดาษดาษพลัน
๖..."สัก"ออกดอกซอกใบใหญ่ใหญ่ช่อ
ดอกเล็กก่อหกกลีบเขียวเขียวสรรค์
โคนกลีบดอกพอกขนคลุมคลุมครัน
ดอกเดี่ยวนั้นเกสรครบครบแจง
๗...ในดอกหนึ่งเกสรผู้ผู้หก
เพศเมียปกดอกเดียวเดียวกันแกร่ง
ทั้งสองชูคู่ดอกเหนือเหนือแยง
เพษเมียแต่งรังไข่เตรียมเตรียมเพลา
๘...ดอกบานหลังผสมพันธุ์พันธุ์กัน
ผลเกิดหลั่นเดือนเจ็ดถึงถึงเก้า
ผลกลมอ่อนสองเซนต์เขียวเขียวเบา
ผลแก่เร้า"พฤศจิฯ"เนื่องเนื่องกาล
๙...เดือน"มกราฯ"แก่จัดชัดชัดผล
เพาะพันธุ์ท้นจนพอแพร่แพร่ผ่าน
เพาะ"เนื้อเยื่อ,ติดตา"จ้าจ้างาน
รัฐก่อสานพันธุ์สักเลิศเลิศเลอ
๑๐...เนื้อไม้สักมักเด่นแข็งแข็งแรง
ไม่หดแย้งยืด,บิดงองอเผลอ
ไม้มีสารต้านทานปลวกปลวกเจอ
สักทองเพ่อพบพร้อมทองทองคำ
๑๑...สักโตช้าระยะตัดตัดที่
สามสิมปีขึ้นไปคุณคุณด่ำ
รอบวงปีคลี่ช่วยสวยสวยนำ
แต่งเรือนย้ำ พร่ำเหนือเมืองเมืองใด
๑๒...สรรพ์คุณยามาหลากใบใบต้ม
"อักเสบ"ล่ม"ปัสสาฯ"คลายคลายไส
ลดน้ำตาลในเลือดลงลงไว
"เจ็บคอ"ไซร้ "ประจำเดือน"เดือนดี
๑๓...เนื้อไม้"ขับพยาธิ์"ฆาตฆาตโรค
"ผิวหนัง"โจก "อ่อนเพลีย"เยียเยียรี่
"ขับปัสสาฯ,ขับลม"หายหายลี้
"รักษ์เลือด"นี้ปกตินิตย์นิตย์เลย
๑๔...เปลือกไม้แก้"ปวดหัว"มัวมัวหาย
"การบวม"วายกรายช่วยเบาเบาเผย
"ขับปัสสาฯ"ดอก,ใบใช้ใช้เอย
เมล็ดเปรย"โรคตา"พาพารมย์
๑๕...สถานะต้นสักของของไทย
พ้นเสี่ยงไซร้ไม่สูญแน่แน่สม
สวนป่าสัก"หกแสน"รัฐรัฐชม
ส่วนตัวพรม"สามแสนไร่"ไร่ดัง
๑๖...เจ็ดหมื่นล้านลูกบาศก์เมตรเมตรปี
ไม้สักนี้มิพอรอรอหวัง
นำเข้าเกลื่อนเพื่อนบ้านใช้ใช้ยัง
จำวางผังทั้งปลูกเติมเติมพลัน
๑๗...ป่าไม้ชาติคาดหวังป่าป่ารักษ์
เปอร์เซนต์ปัก"ยี่สิบห้า"ห้ามั่น
ป่าเศรษฐ์กิจคิด"สิบห้า"ห้าครัน
"สี่สิบนั้นกับแปดล้าน"ล้านวาง
๑๘...อนุรักษ์"ยี่สิบสอง" สองชิด
ป่าเศรษฐ์กิจ"สองเปอร์เซนต์"เซนต์ห่าง
ป่า"ยูคาฯ" คว้า"สองล้าน"ล้านพลาง
เหลือที่สร้างป่าสักมากมากรอ
๑๙...ป่าไม้จัดตัด,ปลูกแทนแทนแกล้ว
"ตัดหนึ่ง"แล้ว"ปลูกคลี่สี่"สี่ขอ
วงจรครบจบการยังยังพอ
ใข้งานก่อต่อไปยิ่งยิ่งยืน
๒๐...ต้นสักไซร้"ไม้หวงห้าม"ห้ามตัด
ในป่าชัดห้ามแปรอย่าอย่าฝืน
ที่ส่วนตัวจั่ว"ห้ามเลิก"เลิกกลืน
ควรปลูกดื่นรื่นกิจทรัพย์ทรัพย์ทุน
๒๑...ปลูกต้นสักพรักพร้อมพืชพืชอื่น
เก็บผลชื่นมื่นรอ"สัก"สักขุน
กล้า,เมล็ดเด็ดจากสวนสวนตุลย์
ของรัฐดุลย์"ดี,โตเร็ว"เร็วไว
๒๒...รับวิพากษ์จากสวนป่าป่าเยี่ยง
เทคนิคเลี้ยงบำรุงเติบเติบใหญ่
วิธีเลือกเมล็ดพันธุ์พันธุ์ไย
กระทั่งได้ไม้แปรรูปรูปเอย
๒๓...ปลูกต้นสักมักไม่คลาดคลาดรุ่ง
ตลาดมุ่งพุ่งใช้มากมากเผย
เรื่องดูดซับคาร์บอนวายวายเคย
ทั้ง"สัก"เชย"ทองคำ"พร่ำพร่ำลอง
๒๔...กระตุ้นหล้าป่าไม้สักสร้างสร้าง
เรือนไม้พร่างเมื่อพังแล้วแล้วผอง
ยังมี"สัก"จักใช้อีกอีกครอง
คิดดีตรองปองได้เนิ่นเนิ่นยาว
๒๕...แต่ตึกหยั่งพังแล้วหมดหมดสิ้น
ภูเขาวิ่นไม่มีที่ที่สาว
สร้าง"เขา"ใหม่ไม่ได้แย่แย่คาว
ต้นสักวาวปลูกแท้แน่แน่นอน ฯ|ะ
แสงประภัสสร
ต้นสัก=ชื่อวิทยาศาสตร์ Tectona grandis ชื่อสามัญ สัก,Teak
ต้นสัก แบ่งได้ ๓ ชนิด ๑)สักทั่วไป Tectona grandis พบได้ในอินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ และแถบอินโดจีนทั้งหมด ๒)Tectona hamiltoniana ไม้สักดาฮัต ของเมียนม่าร์ อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ๓)Tectona philipinensis ไม้สักฟิลลิปปินส์ เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์เช่นเดียวกับ ๒
เซนต์=เซนติเมตร
สารทนต่อปลวก=คือ Testoquinone อยู่ในไม้สัก ทำให้ทนต่อปลวก แมลง เห็ดราได้ดี
ไม้สักมีทองคำ= ๐.๕ ppm (หรือ สัก ๒๖ ต้น มีทองคำ หนัก ๑ บาท)
ปัสสาฯ=ปัสสาวะ
สถานะการอนุรักษ์=ต้นสักไทย ยังไม่อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ มีสวนป่าสักของ อ.อ.ป องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ๖๐๐,๐๐๐ ไร่ และสวนป่าสักเกือบ ๓๐๐,๐๐๐ ไร่ มีกำลังการผลิต ๗๐,๐๐๐ ล้าน ลูกบาศก์เมตร/ปี ซึ่งไม่พอเพียงต้องนำเข้า หลายหมื่นล้านบาท
นโยบายป่าไม้ชาติ=มีเป้า ป่าอนุรักษ์ ๒๕% และป่าเศรษฐกิจ ๑๕% (หรือเท่ากับ ๔๘ ล้านไร่ เป็นป่ายูคาลิปตัสมาก ๒-๓ ล้านไร่) เป้าที่ตั้งไว้ (ขณะนี้ป่าอนุรักษ์ทำได้ ๒๒% ป่าเศรษฐกิจทำได้แค่ ๒% น้อยกว่าเป้ามาก)
วงจรการตัดไม้ทุกป่า=ตัด ๑ ต้น ต้องปลูกแทนอีก ๔ ต้น
ไม้หวงห้าม= ไม้สักเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก.ได้แก่ ไม้พะยูง,ไม้สัก,ไม้กระพี้ตราควาย,ไม้ชิงชัน,ไม้ยาง มะค่าโมง เป็นไม้ที่ไม่ว่าจะขึ้นอยู่ ณ ที่ใดในประเทศไทย แม้แต่ในที่ดินของตนเอง ก่อนจะกระทำการใด(เช่นตัด,ฟัน,โค่น,เลื่อย,ถอน,ขุด) ต้องยื่นขออนุญาตต่ออำเภอ หรือสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดในท้องที่ก่อน จึงจะดำเนินการได้ ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 1-20 ปี และถูกปรับตั้งแต่ ๕๐,๐๐๐ - ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท แต่ได้มีพระราชกฤษฎีกา คำว่าหวงห้าม มิใช้บังคับแก่ไม้ที่ปลูกในที่ดินของเอกชน คงใช้เฉพาะในป่าธรรมชาติเท่านั้น
(ขอบคุณเจ้าของภาพจาก อินเทอร์เน๊ต)