
พระมหากษัตริย์ยอดกตัญญู
ภาพพระมหากษัตริย์ผู้ทรงงานหนัก ใช้ชีวิตสมถะและใกล้ชิดราษฎร ถือเป็นภาพคุ้นชินมาหลายต่อหลายทศวรรษ และกลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้ประชาชนชาวไทยอยากลุกขึ้นทำความดี ประพฤติตนเป็นคนดีมีคุณธรรม เพื่อเดินตามรอย “ในหลวง รัชกาลที่ ๙”
หนึ่งในคุณธรรมสำคัญที่ทรงยึดถือและปฏิบัติเสมอมาคือ “ความกตัญญู” โดยเรื่องราวของ “พระมหากษัตริย์ยอดกตัญญู” ได้รับการบันทึกและถ่ายทอดสู่สาธารณชนครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อบอกเล่าความประทับใจที่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงปฏิบัติต่อ “สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี” ด้วยหัวใจกตัญญูยิ่ง
ก่อนสมเด็จย่าจะสวรรคตได้ปีเศษ ตอนนั้นทรงมีพระชนมายุ ๙๓ พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เสด็จฯจากพระตำหนักจิตรลดาฯไปวังสระปทุมตอน เย็นทุกวัน เพื่อไปกินข้าวกับแม่สัปดาห์ละ ๕ วัน ไปคุยกับแม่ไปทำให้แม่ชุ่มชื่นหัวใจ โดยทุกครั้งที่ในหลวงเสด็จฯไปหาสมเด็จย่า พระองค์จะทรงเข้าไปกราบที่ตัก แล้วสมเด็จย่าก็จะทรงดึงตัวในหลวงเข้ามากอดและหอมแก้มเสมอ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประสูติมาเป็นพระองค์เจ้า เป็นพระเจ้าแผ่นดิน แม้สมเด็จย่าจะไม่ได้เกิดมาเป็นเชื้อพระวงศ์ เป็นคนธรรมดาสามัญชน แต่พระเจ้าอยู่หัวที่เป็นกษัตริย์ปกครองแผ่นดิน ก็ทรงก้มลงกราบคนธรรมดาสามัญชนที่เป็นแม่!! หัวใจลูกที่เคารพรักแม่ กตัญญูกับแม่เช่นนี้ หาไม่ได้อีกแล้ว
มีครั้งหนึ่ง ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงพระประชวร สมเด็จย่าก็ทรงพระประชวร ประทับรักษาพระองค์ที่โรงพยาบาลศิริราชด้วยกัน แต่อยู่คนละมุมตึก ตอนเช้าพระเจ้าอยู่หัวทรงเปิดประตูแอ๊ดออกมา พยาบาลกำลังเข็นรถสมเด็จย่าออกมารับลมผ่านหน้าห้องพอดี พระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นแม่ ก็รีบออกจากห้องมาแย่งพยาบาลเข็นรถ
มหาดเล็กกราบบังคมทูลว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องเข็น มีพยาบาลเข็นให้อยู่แล้ว แต่ในหลวงมีรับสั่งว่า “แม่ของเรา ทำไมต้องให้คนอื่นเข็น เราเข็นเองได้” ในหลวงทรงเป็นถึงพระมหากษัตริย์ ยังทรงเข็นรถให้แม่ ยังทรงป้อนข้าวป้อนน้ำป้อนยาให้แม่
ในหลวง รัชกาลที่ ๙ เฝ้าสมเด็จย่าอยู่จนถึงตี ๔ ตี ๕ เฝ้าแม่อยู่ทั้งคืน จับมือแม่ กอดแม่ ปรนนิบัติแม่ กระทั่งแม่หลับ จึงเสด็จฯกลับ พอไปถึงพระราชวังมีโทรศัพท์มาแจ้งว่า “สมเด็จพระบรมราชชนนี” สวรรคตแล้ว พระเจ้าอยู่หัวรีบเสด็จฯกลับไปโรงพยาบาลศิริราชทันที ทรงเห็นสมเด็จย่านอนหลับตาอยู่บนเตียง พระเจ้าอยู่หัวตรงเข้าไปคุกเข่า กราบลงที่หน้าอกแม่ พระพักตร์ของในหลวงแนบตรงกับหัวใจแม่ ทรงมีรับสั่งแผ่วเบาว่า “ขอหอมหัวใจแม่เป็นครั้งสุดท้าย” พระองค์ทรงซบหน้านิ่งอยู่นาน แล้วค่อย ๆ เงยพระพักตร์ขึ้น น้ำพระเนตรไหลนอง ต่อไปนี้จะไม่มีแม่ให้หอมอีกแล้ว ในหลวงทรงเอามือกุมมือแม่ไว้ มือของแม่ที่ไกวเปล มือที่ปลุกปั้นลูกจนได้เป็นกษัตริย์ผู้เป็นที่รักและเทิดทูนของพสกนิกรชาวไทย
ในวันสุดท้ายของ “สมเด็จพระบรมราชชนนี” ในหลวงทรงจับหวีค่อย ๆ หวีผมให้แม่ หวี...หวี...หวี ให้แม่สวยที่สุด แต่งตัวให้แม่ ให้แม่สวยที่สุด ในวันสุดท้ายของแม่!!
เมื่อเรามีพระเจ้าอยู่หัวเป็นตัวอย่างของ “สุดยอดลูกกตัญญู” ประชาชนชาวไทยก็ควรซาบซึ้งในสิ่งที่พระองค์ทรงปฏิบัติ และเดินตามรอยในหลวง รัชกาลที่ ๙ เริ่มต้นทำหน้าที่ของลูกกตัญญู ทำหน้าที่ของคนดี ซึ่งเป็นหลักคุณธรรมพื้นฐานสำคัญ ที่จะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
ขอขอบคุณ : ทีมข่าวหน้าสตรีไทยรัฐ