Username:

Password:


  • บ้านกลอนน้อยฯ
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล >> คำประพันธ์ แยกตามประเภท >> กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม >> ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก:๔๖.จิตที่คุ้มครองแล้วนำสุขมาให้ ~กาพย์วชิรปันตี
หน้า: [1]   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก:๔๖.จิตที่คุ้มครองแล้วนำสุขมาให้ ~กาพย์วชิรปันตี  (อ่าน 6790 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:4457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 622



| |
ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก:๔๖.จิตที่คุ้มครองแล้วนำสุขมาให้ ~กาพย์วชิรปันตี
« เมื่อ: 25, สิงหาคม, 2567, 09:17:39 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก:๔๖.จิตที่คุ้มครองแล้วนำสุขมาให้ ~กาพย์วชิรปันตี


ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก: ๔๖.จิตที่คุ้มครองแล้วนำสุขมาให้

กาพย์วชิรปันตี

   ๑.พุทธองค์ตรัสผอง.............จิตคุ้มครองดีเยี่ยม
นำสุขเปี่ยมถึงตัว.....................จิตมิมัวแต่เย็น
จิตครองเด่นมิไหว...................."อารมณ์"ใดจะโดน
แม้อารมณ์"อยาก"หรือ.............."ไม่อยาก"ครือเช่นกัน
 
   ๒.ชนจิตคุ้มครองแล้ว.............เห็นรูปแกล้วนิ่งครัน
ไม่นึกฉันยินดี............................หรือร้ายรี่อย่างใด
จมูกได้กลิ่นคอย........................ยินดีคล้อยร้าย,ดี
หู,ลิ้น,สัมผัสกาย........................ยินดีวายรู้วาง

   ๓.เมื่อคุ้มครองจิตได้...............จิตเย็นใสสุขพร่าง
มิได้คว้างเคว้งแปร.....................กับสิ่งแย่อันใด
อารมณ์ไซร้ถูกรู้........................ในโลกกู่ไม่แน่คง
จึงต้องคุมจิตไว..........................กิเลสไหนมิงำ

  ๔.เปรียบดังคุ้มครองกาย..........ป้องกันคลายโรคส่ำ
วัคซินทำป้องโรค.......................กายมีโชคภัยวาย
คุ้มครองกายสัมฤทธิ์..................กระทำจิตผ่องใส
ไม่มีใดเบียดเบียน......................สุขระเมียรแน่นอน ฯ|ะ

แสงประภัสสร
 
ที่มา :
ธรรมบท ๒๕/๑๙
พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน หน้า ๙๓

อารมณ์=สิ่งที่ถูกรู้หรือรับรู้,สี่งที่ยึดหน่วงจิต ผ่าน ทาง ตา,หู,จมูก,ลิ้น,กาย,ใจ ได้แก่รูป,เสียง,กลิ่น,รส,โผฏฐัพพะ(สัมผัส),ธรรมารมณ์(สิ่งที่ใจรู้)

(ขอบคุณเจ้าของภาพจาก อินเทอร์เน๊ต)


รายนามผู้เยี่ยมชม : คิดถึงเสมอ, ลิตเติลเกิร์ล, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ข้าวหอม, ต้นฝ้าย, หยาดฟ้า

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..

แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:4457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 622



| |
Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก:๔๖.จิตที่คุ้มครองแล้วนำสุขมาให้ ~กาพย์วชิรปันตี
« ตอบ #1 เมื่อ: 26, สิงหาคม, 2567, 08:47:48 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก:๔๖.จิตที่คุ้มครองแล้วนำสุขมาให้ ~กาพย์วชิรปันตี
ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก : ๔๗.ไตรลักษณ์มีอยู่แล้วโดยปกติ

กาพย์มหาวชิรปันตี

   ๑.ภิกษุดูเราชี้............................ตถาคตมี,ไม่มี
ธรรม์ชาตินี้ก็เกิด..........................ปกติเชิดสลอน
"ธรรมธาตุ"จรทรงตัว...................."ธรรมฐิติ"จั่วดำรง
"สังขาร"คงปรุงนั้น........................ไม่เที่ยง,ทุกข์ทันดล
   ๒.ธรรมทั้งปวงอนัต-...................ตาบอกสิ่งชัดไป่ตน
ปัจจัยผลปรุงมิมี............................หรือมีปรุงคลี่อย่างใด
กฏมีไว้ธรรม์ชาติ...........................สร้างขึ้นเองกาจแน่นอน
สิ่งเร้นก่อนพุทธ์เจ้า........................ตรัส์รู้สอนเรานั่นเอง
   ๓.พุทธ์องค์ทรงแสดง..................ตั้งไว้แจกแจงตรงเผง
ธรรมง่ายเล็งสังขาร.......................ไม่เที่ยงทานแต่แปร
สังขารแลเป็นทุกข์.........................จะดิ้นรนรุกและรวน
ธรรมทั้งมวลไม่ใช่..........................ตัวหรือตน,ใคร,เรานา
  ๔.สิ่งในธรรม์ชาตินั้น....................ปัจจัย,สัมพันธ์พึ่งพา
ทั้งสองหนาอาศัย...........................มีกันอยู่ในโลกา
สิ่งในหล้าเปลี่ยนแปลง..................."อนิจจัง"แจงมิคง
เป็นทุกข์ตรงไม่ทน........................."อนัตตา"พ้นไป่ตน
  ๕.อนิจฯ,ทุกข์,อนัตฯ.....................กฏไตรลักษณ์ชัดผจญ
มนุษย์ชนพบพาน...........................เกิดขึ้นทุกกาลนิรันดร์
พุทธ์องค์ดั้นสอนพิศ......................ดูธาตุสี่ชิดรูปกาย
ประกอบพราย"ดิน,ลม".................."น้ำ,ไฟผสม"เป็นเรา
  ๖.ดูรูป"อนิจจ์"บ่ง.........................ไม่เที่ยง,ไม่คง,เสื่อมเฉา
จะเกิดเร้าดับมี...............................บางคราวก็หนีหายไป
เปลี่ยนแปลงไซร้สภาพ..................อยู่ชั่ววาบเดียวก็จาง
สำคัญพร่างไม่รับ...........................ความเที่ยงแท้กับกายพัง
  ๗.รูปกายไหว,วายด้วย..................โรค,ชรา,ม้วยต้องฝัง
ความเสื่อมรั้งและแปร.....................เหตุปัจจัยแท้แต่งปรุง
กายด้วยนุงไร้แก่น..........................จึงอ่อนแอแม่นหักวาย
ดั่งเด็กกรายชรา.............................เห็นแปรเปลี่ยนหนาไม่คง
  ๘."ทุกขัง"ภาวะแปร.......................กดดันเปลี่ยนแท้ตามบ่ง
เกิด,ดับส่งสลาย.............................คือความทุกข์กาย,ใจนำ
เจ็บปวดซ้ำร่างกาย.........................ใจกายมิสบายเอย
เกิดทุกข์เผยคิด"สุข".......................แต่เป็น"ทุกข์"รุกแปรคลาย
  ๙.เป็นทุกข์มีเกิด,เสื่อม...................บีบคั้น,ภัยเชื่อม,โชคร้าย
เกิด,แก่,ตายธรรม์ดา........................เศร้าหมอง,โรค,อาพาธนา
มีศรกล้าทิ่มแทง...............................เจ็บภายในแรงมิถอน
เป็นเหยื่อช้อนกิเลส..........................ยึดถือวิเศษหลงมาร
  ๑๐."อนัตตา"ไร้ตน.........................ไร้เจ้าของด้นต้องกราน
ใครมิพานบังคับ...............................ไร้อำนาจจับกุมตัว
ทั้งอยู่กลั้วชิดเหตุ.............................ปัจจัยพิเศษเสริมกัน
"อนัตฯ"นั้นลักษ์ณะ...........................มีหลาย,สี่ประการแล
  ๑๑."สุญญโต"ว่างเปล่า....................จากคน,สัตว์เล่าตามแฉ
สิ่งอื่นแม้บัญญัติ................................เรียกกันเพื่อชัดง่ายไว
"อัสสาฯ"ไม่มีตน................................ไม่มีใครก่นเจ้าของ
"อวัสฯ"ส่องไม่มี.................................ใครบังคับรี่ทำใด
  ๑๒."อัตตะฯ"ขัดแย้งต่อ...................."อัตตา"เพราะส่อไถล
ตามปัจจัยและเหตุ.............................ที่สัมพันธ์เขตชิดกัน
มิได้มั่นตนเอง....................................เพราะตนก็เด้งเจ้าของ
ไตรลักษณ์ตรองเหตุ,ผล....................แปร,ไม่คงพ้นยึดลง ฯ|ะ

แสงประภัสสร
 
ที่มา : ติกกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๐/๓๖๘
พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน หน้า ๙๔-๙๕

ไตรลักษณ์=คือลักษณะ ๓ ประการ ที่กำหนดรู้ความจริงของสภาวะธรรมทั้งหลายที่เป็นอย่างนั้น
๑)อนิจจัง ความเป็นของไม่เที่ยง คงอยู่ในสภาวะเดิมได้ยาก ๒)ทุกขัง ความเป็นทุกข์หรือความเป็นของทนอยู่ไม่ได้ ๓) อนัตตา ความเป็นของมิใช่ตัวตน
สุญญโต=ว่างเปล่าจากความเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา  จากความเป็นนั่นเป็นนี่ที่กำหนดกันขึ้น
อัสสาฯ=อสสามิกโต คือ ไม่มีตัวตนของใคร และไม่เป็นของตนใดๆ หรือไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่เป็นของใครจริง ไม่มีตัวตนของใคร
อวัสฯ=อวสวตตนโต คือ ไม่อยู่ในอำนาจของใคร ไม่ขึ้นต่อใคร ไม่มีใครบังคับได้ ไม่มีใครเป็นใหญ่เหนือใคร จะสั่งบังคับเป็นไปตามความปรารถนาไม่ได้ ขึ้นกับเหตุปัจจัย
อัตตะฯ=อตตปฏิกเขปโต คือ ขัดแย้งต่อ อัตตา ดำเนินไปตามเหตุ,ปัจจัย


รายนามผู้เยี่ยมชม : ข้าวหอม, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ลิตเติลเกิร์ล, ต้นฝ้าย, คิดถึงเสมอ, หยาดฟ้า

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:4457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 622



| |
Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก:๔๖.จิตที่คุ้มครองแล้วนำสุขมาให้ ~กาพย์วชิรปันตี
« ตอบ #2 เมื่อ: 27, สิงหาคม, 2567, 09:58:40 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก:๔๖.จิตที่คุ้มครองแล้วนำสุขมาให้ ~กาพย์วชิรปันตี

ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก : ๔๘.ฤกษ์งามยามดี

กาพย์นาคบริพันธ์

   ๑.ฤกษ์งามยามดีพุทธศาสน์................สัตว์ใดพฤติดาษ
ทำดีล้ำกาย,พูด,ใจ

   ๒.ไม่ว่าเช้า,กลางวันใด........................หรือเย็นวันไหน
ย่อมเป็นเช่นฤกษ์ที่ดี

   ๓.ชี้"กายสุจ์ริต"นี้................................ไม่ฆ่าสัตว์รี่
ไม่ใช่โจร,ผิดกามตรง

   ๔.บ่ง"วจีสุจ์ริต"คง................................เว้นเท็จ,หยาบลง
พูดเพ้อเจ้อ,ส่อเสียดใคร
       
   ๕.ใฝ่"มโนสุจ์ริต"ไว...............................เว้นโลภ,ฆาตไส
จิตคิดมิ"มิจฉาฯ"แล

   ๖.แค่พฤติดีครบถ้วนแปล้......................ก็รุ่งเรืองแผ่
ทุกกาลผ่านฤกษ์ดีงาม ฯ|ะ

แสงประภัสสร
 
ที่มา : ติกนิบาต อังคุตรนิกาย ๒๐/๒๗๘
พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน หน้า ๙๕

มิจฉาฯ=มิจฉาทิฏฐิ คือความเห็นที่ผิดจากทำนองคลองธรรม


รายนามผู้เยี่ยมชม : ต้นฝ้าย, ลิตเติลเกิร์ล, ลายเมฆ, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), คิดถึงเสมอ, ข้าวหอม, หยาดฟ้า

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:4457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 622



| |
Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก:๔๖.จิตที่คุ้มครองแล้วนำสุขมาให้ ~กาพย์วชิรปันตี
« ตอบ #3 เมื่อ: 28, สิงหาคม, 2567, 09:30:34 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก:๔๖.จิตที่คุ้มครองแล้วนำสุขมาให้ ~กาพย์วชิรปันตี
ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก : ๔๙.การแสวงหา ๒ อย่าง

กาพย์จิตรลดา

  ๑."อามิส,ธรรม"สองทาง...................ค้นหา
ของเหล่าชนทั่วไป.............................ในโลก
ไม่ประเสริฐ"อามิส"............................เจอโทษ
ประเสริฐล้ำโชค"ธรรม"......................คุณเลิศ
  
   ๒.ไม่ประเสริฐ,อามิส.......................แสวง
สิ่งมีเกิด,แก่,ตาย................................ทุกข์ทน
มีปัญญาแจ้งธรรม..............................นิพพาน
หยุดเกิดสุขล้นยิ่ง..............................โศกปลง

  ๓.สิ่งบ่งเป็นอามิส.............................อย่างไร                                
มีเกิด,แก่,เจ็บ,ตาย..............................ทุกข์เด่น
มีกิเลสใคร่"อยาก"..............................ธรรม์ดา
ลูก,เมีย,สินเป็น"ชาติ"..........................ห่วงมัด

  ๔.ชนจัดว่ามีชาติ..............................เกิดแล้ว
ยังหาโศก,กิเลส..................................พันติด
แก่,ป่วยไข้แน่วตาย.............................ตามมา
จึงเรียกว่าผิดทาง................................ประเสริฐ

  ๕.สิ่งเลิศหาคือ"ธรรม".......................ไฉน
ชนทราบตนมีชาติ...............................ธรรม์ดา
แก่,เจ็บ,ตายไซร้แล้ว............................สลด
ลูก,เมีย,ทรัพย์พร่ามัว...........................ยึดหลง

  ๖.บ่งมีปัญญาผลาญ..........................กิเลส
รู้โทษ"เกิด"ภัยพาน..............................จำหา
นิพพานปกเกศพ้น................................การเกิด
เป็น"ธรรม"เลิศพาชน...........................รุ่งเรือง ฯ|ะ

แสงประภัสสร
 
ที่มา : ทุกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๐/๑๑๖
พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน หน้า ๙๕


รายนามผู้เยี่ยมชม : ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ลิตเติลเกิร์ล, คิดถึงเสมอ, ต้นฝ้าย, ข้าวหอม, หยาดฟ้า

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:4457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 622



| |
Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก:๔๖.จิตที่คุ้มครองแล้วนำสุขมาให้ ~กาพย์วชิรปันตี
« ตอบ #4 เมื่อ: 29, สิงหาคม, 2567, 09:05:51 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก:๔๖.จิตที่คุ้มครองแล้วนำสุขมาให้ ~กาพย์วชิรปันตี
ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก : ๕๐.ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน

กาพย์มหาจิตรลดา

  ๑.ภิกษุจงดู"ตา"..............................ไม่เที่ยง
"สิ่งไม่เที่ยง"สิ่งนั้น.............................เป็นทุกข์
ต้องทนสุดเลี่ยงได้............................ร้อนรุม
สิ่งใด"ทุกข์"รุกนำ..............................สิ่งนั้น"ไป่ตน"

  ๒.ยลใด"ไม่ใช่ตน"...........................แน่แท้
สิ่ง"มิใช่ของเรา"................................"ไม่เป็น"
นั่นมิใช่แลตัว....................................."ของเรา"
พึงมองเห็นเด่นด้วย.............................ปัญญาเหมาะควร

  ๓."ตา"ล้วน"หู,จมูก"...........................ลิ้น,กาย
พร้อม"ใจ"มองไม่เที่ยง........................ผันแปร
ไหนไม่เที่ยงกราย"ทุกข์".....................ดิ้นรน
ใดเป็น"ทุกข์"แท้ครัน...........................สิ่งนั้น"ไป่ตน"

  ๔.ชนพิศใดมิใช่................................ตัวตน
นั่นมิ"เป็นของเรา"...............................ควรตรอง
เราไม่ผจญเป็น.................................."ไป่เรา"
ท่านทั้งหลายมองด้วย........................ปัญญาชอบแล

  ๕.แม้อริยฟัง.....................................ย่อมหน่าย
ตา,หู,จมูก,ลิ้น......................................กาย,ใจ
ติดกำหนัดคลายหมด..........................ลงได้
คลายแล้วหทัยเลิก..............................ติดใจทันควัน

  ๖.พลันรู้ญาณหลุดพ้น.......................จริงนา
ความเกิด"ชาติ"สิ้นไป...........................แน่แล้ว
พรหม์จรรย์เลิกหางด...........................ครองเรือน
กิจจบสิ้นแน่วหลุด...............................พ้นเกิดวนเวียน ฯ|ะ

แสงประภัสสร
 
ที่มา : สังยุตตนิกายนิกาย สฬายตนวรรค ๑๘/๑
พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน หน้า ๙๘


รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ต้นฝ้าย, ข้าวหอม, หยาดฟ้า

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.171 วินาที กับ 79 คำสั่ง
กำลังโหลด...