เหตุการณ์ที่เราเคยเจอ ก็คล้ายๆ ประมาณนี้เหมือนกันค่ะ
ตลาดถนนคนเดินก็มักจะมีของหลายยุคสมัยมาวางขาย
ไอ้เราก็ชอบเดินดู ถามราคา นั่นนี่โน่น บังเอิญวันนั้น
เราเจอกระต่ายขูดมะพร้าวทรงโบราณ
คือสภาพใช้งานมาอย่างโชกโชนเลยทีเดียว
ลักษณะเขาคือ เป็นไม้ท่อนแล้วเอามาเซาะแซะให้เป็นรูปร่าง
ไม่เน้นความสวยงาม เน้นใช้งานสบาย คือเราไม่เคยเห็น
เลยถามราคาดู "เท่าไรคะ" พ่อค้าตอบ "3,500"
เราสะอึกในอก แต่ก็เก็บอาการไว้ "ทำไมแพงจุงนิ" คิดในใจ
ทำได้ก็พยักหน้ารับรู้ราคา แล้วก็ทำท่าจะเดินออก
พ่อค้าก็บอกว่า "ต้องการเท่าไร ลดได้อยู่นะ"
เราก็หันกลับมาพิจารณากระต่ายขี้เหร่นั้นอีกครั้ง
พ่อค้าก็บอกว่า "2,500" ไหวไหม ขายเท่าทุนไปเลย
เราก็พยักหน้ารับรู้ราคา แล้วเราก็กวาดสายตามองสินค้าตัวอื่น
ร้านนี้จะขายของเก่าที่สภาพแย่มาก เลยไม่ค่อยมีอะไรถูกใจ
เสียงพ่อค้าก็พูดมาอีกว่า "1,500"อ่ะ วันนี้ยังไม่ได้ขายอะไรเลย ประเดิมๆ
เราคิดในใจว่า ก็ยังแพงไปกับสภาพนี้ แต่ถ้าพูดถึงแบบเป็นไม้ชิ้นเดียว
อายุคงเป็นร้อยปีแน่เลย ใจอยากได้ แต่....แพงอ่ะ
ตัดสินใจ ยิ้มให้พ่อค้าแล้วหันหลังจะเดินออกจากร้าน
พ่อค้าก็พูดออกมาอีกว่า "800 เอาไหม สุดๆ ละ"
เราบอก "600 ได้ไหม " พ่อค้าลุกยืนทันที เราตกใจหมด
ต่อเขามากเกินไปหรือเปล่า เขาจะลุกมาไล่เราหรือเปล่า
แต่โล่งใจเมื่อเห็นพ่อค้าลุกมาหยิบกระต่ายขี้เหร่ใส่ถุง
ยื่นให้เราด้วยสีหน้าเครียดมาก
เราจ่ายเงิน 600 ให้พ่อค้า แล้วเอากระต่ายขี้เหร่เดินออกจากร้าน
ใจเราก็คิดว่า เราต่อเขามากเกินไปหรือเปล่า จาก 3500 เหลือ 600
เขาขาดทุนจริงหรือเปล่า คิดแล้วก็นึกสงสารพ่อค้า
แต่อีกใจคิดว่า การค้าขาย ไม่มีใครหรอกที่จะยอมค้าขายขาดทุน จริงป่ะ
พอถึงบ้าน เราก็จัดการอาบน้ำให้เจ้ากระต่ายขี้เหร่
เช็ดถูแล้ว มันน่ารักมากเลย เสียดายไม่ได้เอารูปภาพมาอวด
เราเอาเจ้ากระต่ายไปไว้ที่บ้านแม่ที่ต่างจังหวัดค่ะ