
ประมวลธรรม : ๗.โปฏฐปาทสูตร(สูตรว่าด้วยการโต้ตอบกับโปฏฐปาทปริพพาชก)
กาพย์ตุรงคธาวี
๑.พุทธ์เจ้า,อยู่....."เชตวนาฯ"ตรู.....วัดคู่สาวัตถี
เสด็จออกบิณฑ์....แล้วผินสู่"มัลลีฯ"....ที่พักโปรด....ของ"โปฏฐ์ปาฯ"นักบวช
พร้อมศิษย์ผอง......สามพันคนมอง......โปฏฐ์ฯตรองกล่าวรับรวด
นิมนต์นั่ง....เตรียมฟังเทศน์สวด....สงสัยใด....ถามไว้ปัญหามี
๒.โปฏฐ์ฯถามนา......."อภิสัญญา"......ดับกล้าความจำหนี
แต่ฌานหนึ่ง....จนถึงฌานเก้ารี่....หมดราคะ....โทสะ,โมหะลง
ปัญหามี.......ถกเถียงกันรี่.......พราหมณ์คลี่แน่วประสงค์
เมื่อตายแล้ว...."จำ"แคล้วหมดปลง....จำอย่างไร....ถามไซร้สี่ประเด็น
๓.หนึ่ง,สภาพบ่ง......มีชีวิตคง......เรียกส่ง"ตัวตน"เด่น
เรียก"ชีวะ"....ก็สภาพที่เป็น....เรียกสัตตะ....คือสภาพที่มี
สัญญาตรู.......มีความจำ,รู้......เกิดกรู-ดับไม่คลี่
ไร้ปัจจัย....เหตุไซร้มิมี....เกิดมี"จำ"....ดับย้ำไร้"จำ"
๔.สอง,พวกอื่น......ค้านไม่ใช่ยืน......"จำ"รื่นคือ"ตน"นำ
"สัญญา,จำ"เข้า....หรือเร้าออกกระทำ....เมื่อเข้าแล้ว....คนแกล้วมีสัญญา
จึงจำได้......หมายรู้สิ่งไซร้......หากไกลออกแล้วหนา
สัญญาหาย....สิ้นหมายรู้นา...."จำ"ไม่มี....ไกลหนี"อัตตา,ตน"
๕.สาม,บางกลุ่ม.....ค้านมิใช่รุม......พราหมณ์ทุ่มมีฤทธิ์ผล
นำสัญญา...."เข้า"พา"ออก"ดล...."เข้า"ก็จำ...."ออก"ย้ำไร้มี
สี่,บ้างตรอง.......ค้านมิใช่ครอง......แต่ผองเทพฤทธิ์ศรี
สัญญา"เข้า"...."ออก"เล่าทวี...."เข้า"ก็มี...."ออก"ลี้สัญญา,จำ
๖.โปฏฐ์ฯถามว่า......"อภิสัญญาฯ"......เป็นมาอย่างไรด่ำ
พุทธ์องค์ตอบ....พราหมณ์สอบสัญญาพร่ำ....ว่าดับลง....เหตุบ่งไร้ปัจจัย
จะผิดท้น......สัญญาของคน......เกิดจนดับเหตุไซร้
สัญญาหนึ่ง....จะพึงเกิดขึ้นไว....เพราะได้เรียน....และเพียรมั่นพระธรรม
๗.สัญญาดับ......ตัดลงได้ลับ......ต้องรับสิกขาล้ำ
สัญญา,เรียน....วิเชียรสาม"ศีล"นำ....สมาธิ...และตริปัญญาครอง
แล้วตรัสชี้.......กุลบุตรบวชรี่.......เต็มปรี่ศีลสามผ่อง
เล็ก-กลาง-ใหญ่....ศีลใสสามส่อง....บำเพ็ญถึง....ฌานหนึ่ง"จำ"กามปลง
๘.เหลือจำชัด......ปีติ,สงัด......ถูกจัด"ฌานหนึ่ง"คง
ฌานสองคลี่....สงัด,ปีติดับลง....คงเหลือ"จำ"....สุขนำจากสมาธิ์
ฌานสามสุข.......จากสมาธิ์เลือนรุก......เหลือชุก"อุเบกขา"
ความวางเฉย....เกิดเลย"จำ"เลิศนา....สุขย่อมมี....จริงดีในฌานเอย
๙.ฌานสี่"จำ".......สุขุมกระหน่ำ......ดับล้ำ"อุเบกฯ"เผย
"จำ"เหลือรุก....ไม่ทุกข์ไม่สุขเอย....สัจจะแน่....เหลือแค่รู้เฉยวาง
อรูปฌาน.......หนึ่ง"อากาฯ"งาน......จะราน"จำรูป"ผาง
รูปสัญญา....ดับนาไร้รูปวาง....เหลืออากาศ....จำยาตรเป็นอารมณ์