Username:

Password:


  • บ้านกลอนน้อยฯ
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล >> คำประพันธ์ แยกตามประเภท >> กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม >> ประมวลธรรม: ๘.เกวัฏฏสูตร
หน้า: 1 ... 14 15 [16]   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ประมวลธรรม: ๘.เกวัฏฏสูตร  (อ่าน 70920 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5427
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 820



| |
Re: ประมวลธรรม: ๘.เกวัฏฏสูตร
« ตอบ #225 เมื่อ: วันนี้ เวลา 03:29:23 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: ประมวลธรรม: ๘.เกวัฏฏสูตร

(ต่อหน้า ๔/๔) ๕๕.มหาสาโรปมสูตร

(๓) เปลือกพรหมจรรย์
กุลบุตรออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต เพื่อกระทำที่สุดแห่งทุกข์
~ เขามีลาภสักการะสรรเสริญ แต่ไม่ยินดี ไม่ประมาท.. และไม่ยกตนข่มผู้อื่น ด้วยลาภสักการะ
~ เขาถึงพร้อมด้วยศีล ยินดีในศีล ไม่ประมาทในศีล... และไม่ยกตนข่มผู้อื่นด้วยศีล
~ เขาถึงพร้อมด้วยสมาธิ แต่เขายกตนข่มผู้อื่นว่าเรามีจิตตั้งมั่น (ภิกษุอื่นจิตไม่ตั้งมั่น)
~ เขามัวเมา ถึงความประมาทแห่งสมาธินั้น เมื่อเป็นผู้ประมาทแล้ว ย่อมอยู่เป็นทุกข์
~ เหมือนบุรุษต้องการแก่นไม้ เมื่อพบต้นไม้ใหญ่มีแก่น กลับละเลยแก่น จึงถากเอาเปลือกไป
~ ภิกษุนี้เราเรียกว่า ได้ถือเอาเปลือกแห่งพรหมจรรย์ และถึงที่สุดแค่เปลือกนั้น
(๔) กระพี้พรหมจรรย์
กุลบุตรออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต เพื่อกระทำที่สุดแห่งทุกข์
~ เขามีลาภสักการะสรรเสริญ แต่ไม่ยินดี ไม่ประมาท.. และไม่ยกตนข่มผู้อื่น ด้วยลาภสักการะ
~ เขาถึงพร้อมด้วยศีล ยินดีในศีล ไม่ประมาทในศีล... และไม่ยกตนข่มผู้อื่นด้วยศีล
~ เขาถึงพร้อมด้วยสมาธิ แต่ไม่ยกตนข่มผู้อื่นว่าเราถึงพร้อมด้วยสมาธิ เรามีจิตตั้งมั่น
~ เขายังญาณทัสสนะให้สำเร็จ เขามีความยินดี ว่าเรารู้เราเห็นอยู่ แต่เขาจึงยกตนข่มผู้อื่น
~ เขามัวเมา ถึงความประมาท เพราะญาณทัสสนะนั้น เมื่อเป็นผู้ประมาทแล้ว ย่อมอยู่เป็นทุกข์
~ เหมือนบุรุษต้องการแก่นไม้ เมื่อพบต้นไม้มีแก่น กลับละเลย จึงถากเอากระพี้ไป สำคัญว่าแก่น
~ ภิกษุนี้เราเรียกว่า ได้ถือเอากระพี้ แห่งพรหมจรรย์ และถึงที่สุดแค่กระพี้นั้นแล
(๕) แก่นพรหมจรรย์
กุลบุตรออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต เพื่อกระทำที่สุดแห่งทุกข์
~ เขามีลาภสักการะสรรเสริญ แต่ไม่ยินดี ไม่ประมาท.. และไม่ยกตนข่มผู้อื่น ด้วยลาภสักการะ
~ เขาถึงพร้อมด้วยศีล ยินดีในศีล ไม่ประมาทในศีล... และไม่ยกตนข่มผู้อื่นด้วยศีล
~ เขาถึงพร้อมด้วยสมาธิ แต่ไม่ยกตนข่มผู้อื่นว่าเราถึงพร้อมด้วยสมาธิ เรามีจิตตั้งมั่น
~ เขายังญาณทัสสนะให้สำเร็จ เขามีความยินดี ว่าเรารู้เราเห็นอยู่ แต่เขาไม่ยกตนข่มผู้อื่น
~ เขาย่อมไม่มัวเมา ไม่ถึงความประมาท เมื่อเป็นผู้ไม่ประมาทแล้ว ย่อมยังสมยวิโมกข์ให้สำเร็จ
~ ข้อที่ภิกษุนั้นจะพึงเสื่อมจาก สมยวิมุติ (ทำความหลุดพ้นให้สำเร็จ) เป็นฐานะที่จะมีได้
ญาณทัสสนะ = คือ ความรู้ที่เกิดจากการปฏิบัติธรรม ทำให้ผู้ปฏิบัติสามารถเห็นความจริงของสภาวธรรมต่างๆ ได้อย่างแจ่มแจ้ง ญาณทัสสนะ ในที่นี้หมายถึงอภิญญา ๕ ประการ คือ (๑) อิทธิวิธิ ความรู้ที่ทำให้แสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้ (๒) ทิพพโสต ญาณที่ทำให้มีหูทิพย์ (๓) เจโตปริยญาณ ญาณที่ทำให้กำหนดใจคนอื่นได้ (๔) ปุพเพนิวาสานุสสติ ญาณที่ทำให้ระลึกชาติได้ (๕) ทิพพจักขุ ญาณที่ทำให้มีตาทิพย์
สมยวิโมกข์ = คือกาล คือสมัย ที่พ้นจากกิเลส หรือ เข้าถึงการหลุดพ้น)
อสมยวิมุติ = คือความหลุดพ้นที่ไม่กลับกำเริบ หมายถึงโลกุตตรธรรม ๙ คือ อริยมรรค ๔ สามัญญผล ๔ และนิพพาน ๑
เจโตวิมุตติ = คือ ความหลุดพ้นแห่งจิต ความหลุดพ้นด้วยอำนาจการฝึกจิต ความหลุดพ้นแห่งจิตจากราคะ ด้วยกำลังแห่งสมาธิ


รายนามผู้เยี่ยมชม : เฒ่าธุลี, ข้าวหอม

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..

หน้า: 1 ... 14 15 [16]   ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.152 วินาที กับ 24 คำสั่ง
กำลังโหลด...