(ต่อหน้า ๓/๑๔) ๘.วิภังค์
๑๘.วิญญาณเปรย"หมวดเก้า"................เปรียบเหมือน เจ็ดแล
เพียงเปลี่ยน"มโนวิญญ์ฯ"เยือน...................เพิ่มแก้
"กุศล,ชั่ว,กลาง"เฉือน.................................จิตบ่ม อารมณ์
มีหลากหลายรู้แปล้....................................มั่นหนา
๑๙.พา"วิญญาณหมวดสิบ"......วิญญาณกริบชื่อลือ.....คือจักขุวิญญาณ......พานโสตวิญญาณแล.....แฉฆานวิญญาณเอย.ขสุข......และร่วมทุกข์"เกิดครอง.....ผองมโนธาตุวิญญ์.....ผินมโนวิญญ์ธาตุฯ.....มีปราดเปรื่องเพียงสาม.....มีชั่ว กุศล.....แฉอัพยาฯตั้งแล้.....มุ่งกลาง
๒๐.วิญญาญขันธ์พร่างล้วน..................มีคุณ จากเหตุ
เพราะก่อสุขรตีหนุน.................................ชอบล้น
มันมิเที่ยงจึงดุน........................................ทุกข์เริ่ม โทษลาม
ควรสลัดครันทิ้งพ้น..................................ฉลาดเผย ฯ|ะ
แสงประภัสสร
ที่มา : มจร.วิญญาณขันธ์ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๕ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๒ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
วิภังคปกรณ์
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_siri.php?B=35&siri=6วิญญาณขันธ์ = กองวิญญาณ หรือสภาพรู้แจ้งอารมณ์ที่เกิดขึ้นทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เปรียบเสมือนความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่ออายตนะภายใน (ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ) กระทบกับอายตนะภายนอก (รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อารมณ์) ทำหน้าที่รับรู้และให้ความรู้สึกต่อสิ่งต่างๆ
ขันธ์ ๕ = ประกอบด้วยรูป (กาย), เวทนา (ความรู้สึก), สัญญา (ความจำ), สังขาร (สิ่งปรุงแต่ง) และวิญญาณ (ความรู้แจ้ง)
อายตนะ = คือส่วนรับรู้ของร่างกายและจิตใจ ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ (อายตนะภายใน) และรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อารมณ์ (อายตนะภายนอก)
การทำงานของวิญญาณขันธ์ = เป็นอย่างไร
เมื่ออายตนะภายใน-นอกกระทบกัน วิญญาณขันธ์จะทำหน้าที่รับรู้และเกิดความรู้สึก เช่น เห็นรูป, ได้ยินเสียง, รู้รส, รู้สึกสัมผัส, รู้กลิ่น และคิด (ทางใจ)
วิญญาณธาตุ, วิญญาณขันธ์ = ต่างกันอย่างไร
~วิญญาณธาตุ (จิต) เป็นสภาพรู้ทั่วไป ~ส่วนวิญญาณขันธ์ (อาการของจิต) เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการกระทบของอายตนะ
สุสตตันตภาชนีย์ = แจกวิญญาณขันธ์แบบพระสูตร
วิญญาณขันธ์ = เป็นไฉน
วิญญาณอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ วิญญาณที่เป็นอดีต, วิญญาณที่เป็นอนาคต, วิญญาณที่เป็นปัจจุบัน, วิญญาณที่เป็นภายในตน, วิญญาณที่เป็นภายนอกตน,วิญญาณหยาบ, วิญญาณละเอียด, วิญญาณชั้นต่ำ, วิญญาณชั้นประณีต, วิญญาณไกล, หรือวิญญาณใกล้ ประมวลย่อเข้าเป็นกองเดียวกัน นี้เรียกว่า วิญญาณขันธ์
วิญญาณอย่างใดอย่างหนึ่ง = ได้แก่ที่เป็นไปในภูมิ ๔ คือ กามภูมิ, รูปภูมิ, อรูปภูมิ และโลกุตตรภูมิ
ในวิญญาณขันธ์นั้น วิญญาณที่เป็นอดีต = เป็นไฉน
วิญญาณใดล่วงไปแล้ว ดับไปแล้ว ปราศจากไปแล้ว แปรไปแล้ว ถึงความดับสิ้นแล้ว ที่เกิดขึ้นปราศจากไปแล้ว ที่เป็นอดีต สงเคราะห์เข้ากับส่วนอดีตได้แก่ จักขุวิญญาณ, โสตวิญญาณ, ฆานวิญญาณ, ชิวหาวิญญาณ, กายวิญญาณ, และมโนวิญญาณ นี้เรียกว่า วิญญาณที่เป็นอดีต
วิญญาณที่เป็นอนาคต = เป็นไฉน
วิญญาณใดยังไม่เกิด, ยังไม่เป็น, ยังไม่เกิดพร้อม ยังไม่บังเกิดเฉพาะ ยังไม่ปรากฏ ยังไม่เกิดขึ้น ยังไม่ตั้งขึ้นพร้อม ที่เป็นอนาคต สงเคราะห์เข้ากับส่วนอนาคต ได้แก่ จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ, ฆานวิญญาณ, ชิวหาวิญญาณ, กายวิญญาณ, มโนวิญญาณ นี้เรียกว่า วิญญาณที่เป็นอนาคต
วิญญาณที่เป็นปัจจุบัน = เป็นไฉน
วิญญาณใดเกิดอยู่ เป็นอยู่ เกิดพร้อม บังเกิด บังเกิดเฉพาะ ปรากฏ เกิดขึ้นพร้อม ตั้งขึ้นพร้อม ที่เป็นปัจจุบัน สงเคราะห์เข้ากับส่วนปัจจุบันได้แก่ จักขุวิญญาณ, โสตวิญญาณ, ฆานวิญญาณ, ชิวหาวิญญาณ, กายวิญญาณ, มโนวิญญาณ นี้เรียกว่า วิญญาณที่เป็นปัจจุบัน
วิญญาณที่เป็นภายในตน = เป็นไฉน
วิญญาณใด ของสัตว์นั้นๆ ที่เป็นภายในตน มีเฉพาะตน เกิดในตน มีเฉพาะบุคคล ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ ได้แก่ จักขุวิญญาณ, โสตวิญญาณ, ฆานวิญญาณ, ชิวหาวิญญาณ, กายวิญญาณ, มโนวิญญาณ นี้เรียกว่า วิญญาณที่เป็นภายในตน