Username:

Password:


  • บ้านกลอนน้อยฯ
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล >> คำประพันธ์ แยกตามประเภท >> กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม >> อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา  (อ่าน 17940 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5411
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 818



| |
Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
« ตอบ #105 เมื่อ: 02, ตุลาคม, 2568, 09:54:28 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา

(ต่อหน้า ๑๓/๑๖) ๗.วิภังค์

[ด] สังขารขันธ์ หมวด ๑ -๑๐
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่ สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยจิต
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
สังขารขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี, ที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี
สังขารขันธ์= หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) สังขารขันธ์ที่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิและจุติก็มี (๒) ที่เป็นเหตุให้ถึงนิพพานก็มี (๓) ที่ไม่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิ จุติ และนิพพานก็มี
ฯลฯ
สังขารขันธ์หมวดละ ๔ - ๑๐ ก็จะเหมือนที่ผ่านมา
[ต] สังขารขันธ์ หมวด ๑-๑๐
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่ สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยจิต
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอาสวะก็มี, ที่วิปปยุตจากอาสวะก็มี
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) สังขารขันธ์ที่เป็นของเสขบุคคลก็มี (๒) ที่เป็นของอเสขบุคคลก็มี (๓) ที่ไม่เป็นของเสขบุคคลและอเสขบุคคลก็มี
ฯลฯ
สังขารขันธ์หมวดละ ๔ - ๑๐ ก็จะเหมือนที่ผ่านมา             
[ถ] สังขารขันธ์ หมวด ๑-๑๐
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่ สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยจิต
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
สังขารขันธ์ที่เป็นอาสวะและเป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี, ที่เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะก็มี
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) สังขารขันธ์ที่เป็นปริตตะก็มี (๒)ที่เป็นมหัคคตะก็มี (๓) ที่เป็นอัปปมาณะก็มี
ฯลฯ
สังขารขันธ์หมวดละ ๔ - ๑๐ ก็จะเหมือนที่ผ่านมา
[ท] สังขารขันธ์ หมวด ๑-๑๐
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่ สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยจิต
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
สังขารขันธ์ที่เป็นอาสวะและสัมปยุตด้วยอาสวะก็มี, ที่สัมปยุตด้วยอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะก็มี
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่ (๑) สังขารขันธ์ที่มีปริตตะเป็นอารมณ์ก็มี (๒) ที่มีมหัคคตะเป็นอารมณ์ก็มี (๓) ที่มีอัปปมาณเป็นอารมณ์ก็มี
ฯลฯ
สังขารขันธ์หมวดละ ๔ - ๑๐ ก็จะเหมือนที่ผ่านมา
[ธ] สังขารขันธ์ หมวด ๑-๑๐
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่ สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยจิต
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
สังขารขันธ์ที่วิปปยุตจากอาสวะแต่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี, ที่วิปปยุตจากอาสวะและไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) สังขารขันธ์ที่เป็นชั้นต่ำก็มี (๒) ที่เป็นชั้นกลางก็มี (๓) ที่เป็นชั้นประณีตก็มี
ฯลฯ
สังขารขันธ์หมวดละ ๔ - ๑๐ ก็จะเหมือนที่ผ่านมา
[น] สังขารขันธ์ หมวด ๑-๑๐
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่ สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยจิต
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
สังขารขันธ์ที่เป็นสังโยชน์ก็มี, ที่ไม่เป็นสังโยชน์ก็มี
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) สังขารขันธ์ที่มีสภาวะผิดและให้ผลแน่นอนก็มี (๒) ที่มีสภาวะชอบและให้ผลแน่นอนก็มี (๓) ที่ไม่แน่นอนโดยอาการทั้งสองนั้นก็มี
ฯลฯ
สังขารขันธ์หมวดละ ๔ - ๑๐ ก็จะเหมือนที่ผ่านมา           
[บ] สังขารขันธ์ หมวด ๑-๑๐
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่ สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยจิต
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
สังขารขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี, ที่ไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) สังขารขันธ์ที่มีมรรคเป็นอารมณ์ก็มี (๒) ที่มีมรรคเป็นเหตุก็มี (๓) ที่มีมรรคเป็นอธิบดีก็มี
ฯลฯ
สังขารขันธ์หมวดละ ๔ - ๑๐ ก็จะเหมือนที่ผ่านมา
[ป] สังขารขันธ์ หมวด ๑-๑๐
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่ สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยจิต
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่ สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์ก็มี, ที่วิปปยุตจากสังโยชน์ก็มี
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) สังขารขันธ์ที่เกิดขึ้นก็มี (๒) ที่ยังไม่เกิดขึ้นก็มี (๓) ที่จักเกิดขึ้นแน่นอนก็มี
ฯลฯ
สังขารขันธ์หมวดละ ๔ - ๑๐ ก็จะเหมือนที่ผ่านมา


รายนามผู้เยี่ยมชม : ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ต้นฝ้าย, ข้าวหอม, หยาดฟ้า, ลิตเติลเกิร์ล

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..

แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5411
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 818



| |
Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
« ตอบ #106 เมื่อ: 02, ตุลาคม, 2568, 05:27:02 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา

(ต่อหน้า ๑๔/๑๖) ๗.วิภังค์

[ผ] สังขารขันธ์ หมวด ๑-๑๐
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่ สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยจิต
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่ สังขารขันธ์ที่เป็นสังโยชน์และเป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี, ที่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์แต่ไม่เป็นสังโยชน์ก็มี
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) สังขารขันธ์ที่เป็นอดีตก็มี (๒) ที่เป็นอนาคตก็มี (๓) ที่เป็นปัจจุบันก็มี
ฯลฯ
สังขารขันธ์หมวดละ ๔ - ๑๐ ก็จะเหมือนที่ผ่านมา
[ฝ] สังขารขันธ์ หมวด ๑-๑๐
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่ สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยจิต
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
 สังขารขันธ์ที่เป็นสังโยชน์และสัมปยุตด้วย
สังโยชน์ก็มี, ที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์แต่ไม่เป็นสังโยชน์ก็มี
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) สังขารขันธ์ที่มีอดีตธรรมเป็นอารมณ์ก็มี (๒) ที่มีอนาคตธรรมเป็นอารมณ์ก็มี (๓) ที่มีปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ก็มี
ฯลฯ
สังขารขันธ์หมวดละ ๔ - ๑๐ ก็จะเหมือนที่ผ่านมา
[พ] สังขารขันธ์ หมวด ๑-๑๐
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่ สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยจิต
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
(๑) สังขารขันธ์ที่วิปปยุตจากสังโยชน์แต่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากสังโยชน์และไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) สังขารขันธ์ที่เป็นภายในตนก็มี (๒) ที่เป็นภายนอกตนก็มี (๓) ที่เป็นภายในตนและภายนอกตนก็มี
ฯลฯ
สังขารขันธ์หมวดละ ๔ - ๑๐ ก็จะเหมือนที่ผ่านมา
[ฟ] สังขารขันธ์ หมวด ๑-๑๐
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่ สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยจิต
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
 สังขารขันธ์ที่เป็นคันถะก็มี, ที่ไม่เป็นคันถะก็มี
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) สังขารขันธ์ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ก็มี (๒) ที่มีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี (๓) ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี
ฯลฯ
สังขารขันธ์หมวดละ ๔ - ๑๐ ก็จะเหมือนที่ผ่านมา
อุภโตวัฑฒกวาร จบ
พหุวิธวาร =สังขารขันธ์หมวดละมากอย่าง
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๗ แยกอีกหลายกลุ่ม ได้แก่
~ กลุ่มการกระทำ และภพต่างๆ
(๑) สังขารขันธ์ที่เป็นกุศลก็มี (๒) ที่เป็นอกุศลก็มี (๓) ที่เป็นอัพยากฤตก็มี (๔) ที่เป็นกามาวจรก็มี (๕) ที่เป็นรูปาวจรก็มี (๖) ที่เป็นอรูปาวจรก็มี (๗) ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ก็มี
~กลุ่มประกอบด้วยสุข,ทุกข์
(๑) สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาก็มี (๒) ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาก็มี (๓) ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาก็มี (๔) ที่เป็นกามาวจรก็มี (๕) ที่เป็นรูปาวจรก็มี (๖) ที่เป็นอรูปาวจรก็มี (๗) ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ก็มี
~ กลุ่มธรรมที่มีภายใน,นอกตน
(๑) สังขารขันธ์ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ก็มี (๒) ที่มีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี (๓) ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี (๔) ที่เป็นกามาวจรก็มี (๕) ที่เป็นรูปาวจรก็มี (๖) ที่เป็นอรูปาวจรก็มี (๗) ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ก็มี             
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๒๔ แยกได้แก่ กลุ่มเกี่ยวข้องกับอายตนภายใน
~เพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย
(๑) สังขารขันธ์ที่เป็นกุศลจึงมี (๒) ที่เป็นอกุศลจึงมี (๓) ที่เป็นอัพยากฤต จึงมี


รายนามผู้เยี่ยมชม : ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ข้าวหอม, หยาดฟ้า, ต้นฝ้าย, ลิตเติลเกิร์ล

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5411
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 818



| |
Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
« ตอบ #107 เมื่อ: 03, ตุลาคม, 2568, 08:34:54 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา

(ต่อหน้า ๑๕/๑๖) ๗.วิภังค์

~เพราะโสตสัมผัสเป็นปัจจัย
(๔) สังขารขันธ์ที่เป็นกุศลจึงมี (๕) ที่เป็นอกุศลจึงมี (๖) ที่เป็นอัพยากฤต จึงมี
~เพราะฆานสัมผัสเป็นปัจจัย
(๗) สังขารขันธ์ที่เป็นกุศลจึงมี (๘) ที่เป็นอกุศลจึงมี (๙) ที่เป็นอัพยากฤต จึงมี
~เพราะชิวหาสัมผัสเป็นปัจจัย
(๑๐) สังขารขันธ์ที่เป็นกุศลจึงมี (๑๑) ที่เป็นอกุศลจึงมี (๑๒) ที่เป็นอัพยากฤต จึงมี
~เพราะกายสัมผัสเป็นปัจจัย
(๑๓) สังขารขันธ์ที่เป็นกุศลจึงมี (๑๔) ที่เป็นอกุศลจึงมี (๑๕) ที่เป็นอัพยากฤต จึงมี
~เพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย
(๑๖) สังขารขันธ์ที่เป็นกุศลจึงมี (๑๗) ที่เป็นอกุศลจึงมี (๑๘) ที่เป็นอัพยากฤต จึงมี
(๑๙) จักขุสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส (๒๐) โสตสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่โสตสัมผัส (๒๑) ฆานสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่ฆานสัมผัส (๒๒) ชิวหาสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่ชิวหาสัมผัส (๒๓) กายสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่กายสัมผัส (๒๔) มโนสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่มโนสัมผัส
สังขารขันธ์ = หมวดละ ๓๐
~เพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย
(๑) สังขารขันธ์ที่เป็นกามาวจร (๒) ที่เป็นรูปาวจร (๓) ที่เป็นอรูปาวจร  (๔) ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์จึงมี
~ เพราะโสตสัมผัสเป็นปัจจัย
(๕) สังขารขันธ์ที่เป็นกามาวจร (๖) ที่เป็นรูปาวจร (๗) ที่เป็นอรูปาวจร (๘) ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์จึงมี
~เพราะฆานสัมผัสเป็นปัจจัย
 (๙) สังขารขันธ์ที่เป็นกามาวจร (๑๐) ที่เป็นรูปาวจร (๑๑) ที่เป็นอรูปาวจร (๑๒) ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์จึงมี
~เพราะชิวหาสัมผัสเป็นปัจจัย
(๑๓) สังขารขันธ์ที่เป็นกามาวจร (๑๔) ที่เป็นรูปาวจร (๑๕) ที่เป็นอรูปาวจร (๑๖) ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์จึงมี
~เพราะกายสัมผัสเป็นปัจจัย
(๑๗) สังขารขันธ์ที่เป็นกามาวจร (๑๘) ที่เป็นรูปาวจร (๑๙) ที่เป็นอรูปาวจร  (๒๐) ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์จึงมี
~เพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย
(๒๑) สังขารขันธ์ที่เป็นกามาวจร (๒๒) ที่เป็นรูปาวจร (๒๓) ที่เป็นอรูปาวจร  (๒๔) ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์จึงมี
(๒๕) จักขุสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส (๒๖) โสตสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่โสตสัมผัส (๒๗) ฆานสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่ฆานสัมผัส (๒๘) ชิวหาสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่ชิวหาสัมผัส (๒๙) กายสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่กายสัมผัส (๓๐) มโนสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่มโนสัมผัส
สังขารขันธ์ = หมวดละมากอย่าง ได้แก่
~เพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย จึงมี
(๑) สังขารขันธ์ที่เป็นกุศล (๒) ที่เป็นอกุศล (๓) ที่เป็นอัพยากฤต (๔) ที่เป็นกามาวจร (๕) ที่เป็นรูปาวจร (๖)ที่เป็นอรูปาวจร (๗) ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ จึงมี
~เพราะโสตสัมผัสเป็นปัจจัย
(๘) สังขารขันธ์ที่เป็นกุศล (๙) ที่เป็นอกุศล (๑๐) ที่เป็นอัพยากฤต (๑๑) ที่เป็นกามาวจร (๑๒) ที่เป็นรูปาวจร (๑๓) ที่เป็นอรูปาวจร (๑๔) ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ จึงมี


รายนามผู้เยี่ยมชม : ข้าวหอม, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ต้นฝ้าย, ลิตเติลเกิร์ล

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5411
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 818



| |
Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
« ตอบ #108 เมื่อ: 03, ตุลาคม, 2568, 03:28:15 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา

(ต่อหน้า ๑๖/๑๖) ๗.วิภังค์

~เพราะฆานสัมผัสเป็นปัจจัย
(๑๕) สังขารขันธ์ที่เป็นกุศล (๑๖) ที่เป็นอกุศล (๑๗) ที่เป็นอัพยากฤต (๑๘) ที่เป็นกามาวจร (๑๙) ที่เป็นรูปาวจร (๒๐) ที่เป็นอรูปาวจร (๒๑) ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ จึงมี
~เพราะชิวหาสัมผัสเป็นปัจจัย
(๒๒) สังขารขันธ์ที่เป็นกุศล (๒๓) ที่เป็นอกุศล (๒๔) ที่เป็นอัพยากฤต (๒๕) ที่เป็นกามาวจร (๒๖) ที่เป็นรูปาวจร (๒๗) ที่เป็นอรูปาวจร (๒๘) ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ จึงมี
~เพราะกายสัมผัสเป็นปัจจัย
(๒๙) สังขารขันธ์ที่เป็นกุศล (๓๐) ที่เป็นอกุศล (๓๑) ที่เป็นอัพยากฤต (๓๒) ที่เป็นกามาวจร (๓๓) ที่เป็นรูปาวจร (๓๔) ที่เป็นอรูปาวจร (๓๕) ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ จึงมี
~เพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย
(๓๖) สังขารขันธ์ที่เป็นกุศล (๓๗) ที่เป็นอกุศล (๓๘) ที่เป็นอัพยากฤต (๓๙) ที่เป็นกามาวจร (๔๐) ที่เป็นรูปาวจร (๔๑) ที่เป็นอรูปาวจร (๔๒) ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ จึงมี
(๔๓) จักขุสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส (๔๔) โสตสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่โสตสัมผัส (๔๕) ฆานสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่ฆานสัมผัส (๔๖) ชิวหาสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่ชิวหาสัมผัส (๔๗) กายสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่กายสัมผัส (๔๘) มโนสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่มโนสัมผัส
สังขารขันธ์ = หมวดละมากอย่าง อีกหมวดหนึ่ง ได้แก่
~เพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย จึงมี
(๑) สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา (๒) ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา (๓) ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา จึงมี
~เพราะโสตสัมผัสเป็นปัจจัย
(๔) สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา (๕) ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา (๖) ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา จึงมี
~เพราะฆานสัมผัสเป็นปัจจัย
(๗) สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา (๘) ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา (๙) ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา จึงมี
~เพราะชิวหาสัมผัสเป็นปัจจัย
(๑๐) สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา (๑๑) ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา (๑๒) ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา จึงมี
~เพราะกายสัมผัสเป็นปัจจัย
(๑๓) สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา (๑๔) ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา (๑๕) ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา จึงมี
~เพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย
(๑๖) สังขารขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา (๑๗) ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา (๑๘) ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา จึงมี         
(๑๙) สังขารขันธ์ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ก็มี (๒๐) ที่มีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี (๒๑) ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี (๒๒) ที่เป็นกามาวจรก็มี (๒๓) ที่เป็นรูปาวจรก็มี (๒๔) ที่เป็นอรูปาวจรก็มี (๒๕) ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ก็มี (๒๖) จักขุสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส (๒๗) โสตสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่โสตสัมผัส (๒๘) ฆานสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่ฆานสัมผัส (๒๙) ชิวหาสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่ชิวหาสัมผัส (๓๐) กายสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่กายสัมผัส (๓๑) มโนสัมผัสสชาเจตนา - เจตนาที่เกิดแต่มโนสัมผัส
สังขารขันธ์หมวดละมากอย่าง ด้วยประการฉะนี้


รายนามผู้เยี่ยมชม : ขวัญฤทัย (กุ้งนา), หยาดฟ้า, ข้าวหอม, ต้นฝ้าย, ลิตเติลเกิร์ล

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5411
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 818



| |
Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
« ตอบ #109 เมื่อ: 04, ตุลาคม, 2568, 10:22:31 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา

อภิธรรมปิฎก : ๘.วิภังค์ (ว่าด้วยขันธวิภังค์ : วิญญาณขันธ์)

ร่ายดั้น/ โคลงสี่ดั้นสุภาพ

      ๑.วิญญาณขันธ์นั้นขาน.....กองวิญญาณ"รู้แจ้ง".....อารมณ์แว้งเกิดหนา.....ผ่านอายตนะใน.....หกไว"ตา,หู.."เอย.....เผยมากระทบกับ.....จับอายตนะหก.....ปรก"รูป,รส,กลิ่น,เสียง"....."สัมผัส"เคียงอารมณ์....."ใจ"ชมรู้สึกแล.....แฉกับสิ่งต่างพาน....วิญญาณขันธ์ส่วนหนึ่ง.....จึ่งในขันธ์ห้าเอย......เผยกอปรด้วย"รูป,กาย".....กราย"เวทนา"รู้สึก.....นึก"สัญญา,จำ"หมาย.....กราย"สังขารปรุงแต่ง".....แกร่ง"รู้แจ้ง,วิญญาณ".....งานวิญญาณขันธ์นั้น.....จะดั้นทำอย่างไร.....เมื่อใดอายตนะ.....กระทบใน-นอกครัน.....พลันวิญญาณขันธ์รู้.....จู้เกิดรู้สึกเช่น....เด่นเห็นรูป,ยินเสียง.....เผดียง"รส,กลิ่น"เชย....."กาย"แน่ว สัมผัส....."ใจ"จุ่งทราบรู้แท้.....ยิ่งหนา

     ๒."สุตตันฯ"มาแบ่งแท้..................วิญญาณ ขันธ์เอย
รวมเหล่าวิญญาณกราน...................ย่อเข้า
สิบเอ็ดกลุ่มรวบพาน.........................กองเดี่ยว วิญญาณขันธ์
จะมุ่งแจงชี้เร้า..................................ต่อไป
   
     ๓.ไซร้วิญาณขันธ์เห็น.....เป็นอย่างไรบ้างแล.....แฉวิญญาณอย่างใด.....คือ"ไกลจากอดีต".....วิญญาณดีด"อนาคต"......จดเป็น"ปัจจุบัน"......ครัน"วิญญาณในตน".....ยล"วิญญาณนอกตน".....ผล"วิญญาณหยาบ"แล......แฉ"วิญญาณละเอียด".....กระเดียด"ชั้นต่ำ"เอย.....เผย"วิญญาณประณีต".....ขีด"วิญญาณไกล"พาน....."วิญญาณใกล้ท้ายหนา".....ประมวลมากองเดียว.....เรียกเชียวสัญญาขันธ์....ครันวิญญาณอย่างใด.....หรือไรอย่างหนึ่งหนา......คืออยู่คราสี่ภูมิ.....ปูม"กามภพ" ทุกข์มาก.....ครา"รูปฯ อรูปภูมิ"......โลกุตตร์ฯช้อยพ้น......โลกหนา

     ๔.พาวิญญาณล่วงพ้น................ดับไป ครา"อดีต"
แปรเปลี่ยนแปลงครรไล.................แน่แล้ว
"จักขุฯ"แน่วตาไว............................หูโสต วิญญาณ
มีอยู่หกแล้แผ้ว...............................เด่นแฉ

     ๕.แล"วิญญาณอนาคต".....จดยังไม่เกิดหนา.....ไม่พร้อมมาอุบัติ.....ชัดหกวิญญาณเหมือน.....เตือน"จักขุวิญญาณ".....พานโสตวิญญาณ.....ฆานวิญญาณเอย.....เผยชิวหาวิญญาณ.....ชาญกายแน่ววิญญาณ.....มโนซ่าน วิญญาณ......เห็นเด่นกาลหน้าพริ้ง.....แม่นหนา

     ๖.คราวิญญาณบ่งชี้....................กาลเห็น ปัจจุบัน
เกิดอยู่มองชัดเป็น...........................เริ่มตั้ง
วิญญาณหกประเด็น........................คือชื่อ เดิมหนา
"ตา"แผ่ถึงพร้อมทั้ง..........................จิตใส

     ๗.ไซร้"วิญญาณในตน"......เกิดยลในตนเอง.....เผงผู้กอปรกรรมแล.....แฉทิฏฐิ,ตัณหา.....พาเรียกวิญญาณเกิด.....เพริดในตนเองเลย......เผยได้แก่วิญญาณ.....หกพานวิญญาณแล......แฉเช่นเดียวกันเอย.....เผย"วิญญาณนอกตน"......หมายดลของสัตว์อื่น......แต่เกิดดื่นกับตน......เฉพาะยลกับตัว.....รัว"ทิฎฐิ,ตัณหา".....พาแจ้งรู้ทางหก.....ปรกวิญญาณทั้งผอง.....ตรอง"วิญญาณที่หยาบ.......ตราบละเอียด"ต่างไฉน.....วิญญาณไวรู้รอบ......ตอบทำชั่วแท้เอย.....เผยเป็นวิญญาณหยาบ......ตราบวิญญาณกุศล......ยลอัพยาฯกลางผล......ดลวิญญาณละเอียด.....เฉียดวิญญาณรู้กอปร.....ยอบด้วยทุกข์เวทนา.....พาเรียกว่าหยาบแล.....แฉวิญญาณรู้สุข......อทุกข์สุขเวทนา.....เรียกหาละเอียดรู้.....จู้อารมณ์กิเลส.....เจตน์จึงตรมเรียกสม......ซมวิญาณหยาบเอย.....เผยมิคลี่อารมณ์.....อันไป่ กิเลส......"ละเอียด"ขานรู้แจ้ง.....มั่นหนา

     ๘.บุคคลนาไม่เข้า.......................กระทำ สมาบัติ
เรียกว่า"หยาบ"ถลำ.........................แน่แท้
บุคคลร่ำสมาฯนำ............................."ละเอียด วิญญาณ"
ประสบพบได้แล้..............................เยี่ยมหนา


รายนามผู้เยี่ยมชม : ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ต้นฝ้าย, หยาดฟ้า, ลิตเติลเกิร์ล, ข้าวหอม

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5411
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 818



| |
Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
« ตอบ #110 เมื่อ: 04, ตุลาคม, 2568, 04:17:29 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา

(ต่อหน้า ๒/๑๔) ๘.วิภังค์

      ๙.พา"วิญญาณชั้นต่ำ".....พร่ำต่างกับ"ประณีต".....แบ่งขีดอย่างไรกัน.....ครันวิญญาณอกุศล....ยลวิญญาณชั้นต่ำ.....วิญญาณด่ำกุศล.....และยลอัพยาฯกลาง.....ลางวิญญาณประณีตดีดวิญญาณกอปรด้วย.....ย้วยทุกข์เวทนา.....พาเป็นวิญญาณต่ำ.....ฉ่ำสุข,อทุกข์สุขเวทน์ฯ......วิเศษประณีตเอย.....เผยกอปรด้วยอทุกข์สุขฯ.....รุกชั้นประณีตแล......แฉวิญญาณผู้เข้า.....เร้าสมาบัติชัด.....จัดเป็นประณีตเอย....เผยคนไม่พึงถึง.....สมาบัติ.....เจาะดิ่งลึกแจ่งชั้น.....ต่ำหนา

     ๑๐.คราอารมณ์บ่มด้วย...............มัวหลง กิเลส
เห็นเด่นวิญญาณตรง.......................ต่ำชั้น
อารมณ์ไม่พะวง...............................กิเลส
เรียกเปรื่องปราดรู้ดั้น.......................ประณีตแฉ

     ๑๑.แล"วิญญาณไกล"เป็น......เห็นอย่างไรบ้างเอย.....เผยวิญญาณรู้แจ้ง.....แว้งอกุศลแล.....แฉไกลจากกุศล......หรือยลอัพยากฤต.....ชิดรู้อัพยาฯ......บ่งหนาวิญญาณไกล.....ห่างไงจากกุศล.....และยลอกุศล......ผลวิญญาณกอปรสุข......และชุกอทุกข์สุขเวทน์ฯ.....พิเศษวิญญาณไกล......ห่างไวจากวิญญาณ.....ที่พานกอปรทุกข์เอย.....เผยวิญญาณกอปรด้วย.....ย้วยอทุกข์สุขเวทนา.....ไกลหนากว่าประกอบ.....ตอบสุข,ทุกข์เวทนา......วิญญาณหนาไม่มี.....กิเลสพีเจือมาน.....วิญญาณอยู่ไกลแล.....แฉห่าง คนมี.....กิเลสฟูพรัอมแท้.....แน่ขาน

     ๑๒.วิญญาณของผู้เข้า................หมายเนา สมาบัติ
จะบ่งไกลจากเขา.............................ซึ่งไร้
สมาบัติพลาดเกลา...........................ละเลิก กิเลส
จึงห่างไกลผู้ได้................................พฤติหนา

     ๑๓.มา"วิญญาณใกล้"นั้น.....ดั้นเป็นอย่างไรเอย......เผยวิญญาณรู้แจ้งใด.....ก็ไวใกล้กับตน.....ไม่ยลใกล้สิ่งต่าง......กระจ่างเช่นอกุศล.....ยลใกล้อกุศล.....หรือยลกุศลแล.....แฉใกล้กุศลครัน.....พลันรวมทั้งหมดเหมือน.....เตือนวิญญาณอัพยาฯ.....วิญญาณหนากอปรทุกข์.....หรือกอปรสุขเวทนา.....พากอปรด้วยอทุกข์สุขฯ......วิญญาณชุกผู้นำ......ทำสมาบัติเพียรเอย......หรือไม่ กระทำ......จำอยู่เคียงใกล้แล้ว......ชิดตน

     ๑๔.คนกิเลสยิ่งล้น......................วิญญาณ พึงมี
กิเลสเหมือนตนพาน.........................อยู่ใกล้
กิเลสไม่มีขาน..................................จึงผ่อง วิญญาณ
เผยอยู่แนบด้วยได้...........................เฉพาะตน

     ๑๕.ยล"อภิธรรมภาฯ"......มาแจกวิญญาณขันธ์......ครันมีหลายแบบเอย.....เปรยแต่หมวดละหนึ่ง.....ถึงซึ่งหมวดละสิบ.....จึ่งลิบมากกว่านั้น.....ขอดั้นแค่สิบแล......แฉเริ่ม"หมวดละหนึ่ง"......ซึ่งวิญญาณขันธ์นั้น.....ดั้น"ประกอบผัสสะ".....กระทบแล้ววิญญาณ.....พานรู้แจ้งเลยหนา.....ครา"หมวดละสอง"นี้.....ชี้วิญญาณขันธ์ไซร้....."มีเหตุ,ไร้เหตุ"แล.....แฉ"หมวดละสาม"เอย......เผยเป็น"กุศล,ชั่ว"......จั่วเป็น"อัพยาฯ,กลาง"......พลางเป็น"หมวดละสี่"......คลี่"กามาวจระ".....ปะใฝ่กามคุณห้า......กล้า"รูปาวจระ"......พระพรหมมีรูปแล.....แฉ"อรูปาวจระ"......พระพรหมไร้รูปเอย.....เผย"ไม่อยู่วัฏฏะทุกข์".....รุกกลุ่มพ้นวัฏฏะ......ปะอรหันต์ล่วง......พ้นบ่วงกิเลสหนา.....ถึงครา"หมวดละห้า".......วิญญาณคว้าประกอบ......นอบสุข,สุขินทรีย์.....กอปรมีทุกขินทรีย์.....กอปรดีโสมนัสสินฯ.....ชินโทมนัสสินทรีย์......ประกอบ อุเบกขา......พาจิตวางรู้แล้ว......แน่วกลาง

     ๑๖.วาง"วิญญาณหก"แล้.............."ดวงตา จักขุฯ"
"หู,โสตวิญญาณ"มา..........................ชัดแล้ว
"ฆานฯจมูก,ชิวหาฯ............................กายส่ง วิญญาณ
มโนฯ,จิตชาญรู้แผ้ว...........................แจ่มหนา

     ๑๗.คราวิญญาณขันธ์หมวด.....รวดละ"เจ็ดวิญญาณ".....พานจักขุวิญญาณ.....ประสานโสตวิญญาณ......กรานจมูก,ฆานวิญญ์ฯ.....ชินลิ้น,ชิวหาวิญญ์ฯ.....ประทินกายวิญญาณ.....สราญมโนธาตุ.....รับรู้กาจอารมณ์.....สมผ่านทวารห้า.....กล้ามโนวิญญาณธาตุ......คาดรู้อารมณ์ได้.....ไซร้หกอารมณ์เอย.....เผยผ่านหกทวาร....."วิญญาณขันธ์แปด"อย่าง.....แฉกร่างเหมือนหมวดเจ็ด.....เสร็จแต่กายวิญญาณ.....พานแยกแบ่งเป็นสอง.....กอปรร่วม ความสุข.....และร่วมทุกข์ด้วยแท้......แน่เผย


รายนามผู้เยี่ยมชม : ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ต้นฝ้าย, หยาดฟ้า, ลิตเติลเกิร์ล, ข้าวหอม

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5411
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 818



| |
Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
« ตอบ #111 เมื่อ: 05, ตุลาคม, 2568, 09:15:51 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
(ต่อหน้า ๓/๑๔) ๘.วิภังค์

     ๑๘.วิญญาณเปรย"หมวดเก้า"................เปรียบเหมือน เจ็ดแล
เพียงเปลี่ยน"มโนวิญญ์ฯ"เยือน...................เพิ่มแก้
"กุศล,ชั่ว,กลาง"เฉือน.................................จิตบ่ม อารมณ์
มีหลากหลายรู้แปล้....................................มั่นหนา

     ๑๙.พา"วิญญาณหมวดสิบ"......วิญญาณกริบชื่อลือ.....คือจักขุวิญญาณ......พานโสตวิญญาณแล.....แฉฆานวิญญาณเอย.ขสุข......และร่วมทุกข์"เกิดครอง.....ผองมโนธาตุวิญญ์.....ผินมโนวิญญ์ธาตุฯ.....มีปราดเปรื่องเพียงสาม.....มีชั่ว กุศล.....แฉอัพยาฯตั้งแล้.....มุ่งกลาง

     ๒๐.วิญญาญขันธ์พร่างล้วน..................มีคุณ จากเหตุ
เพราะก่อสุขรตีหนุน.................................ชอบล้น
มันมิเที่ยงจึงดุน........................................ทุกข์เริ่ม โทษลาม
ควรสลัดครันทิ้งพ้น..................................ฉลาดเผย ฯ|ะ

แสงประภัสสร

ที่มา : มจร.วิญญาณขันธ์ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๕ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๒ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
วิภังคปกรณ์ https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_siri.php?B=35&siri=6

วิญญาณขันธ์ = กองวิญญาณ หรือสภาพรู้แจ้งอารมณ์ที่เกิดขึ้นทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เปรียบเสมือนความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่ออายตนะภายใน (ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ) กระทบกับอายตนะภายนอก (รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อารมณ์) ทำหน้าที่รับรู้และให้ความรู้สึกต่อสิ่งต่างๆ
ขันธ์ ๕ = ประกอบด้วยรูป (กาย), เวทนา (ความรู้สึก), สัญญา (ความจำ), สังขาร (สิ่งปรุงแต่ง) และวิญญาณ (ความรู้แจ้ง)
อายตนะ = คือส่วนรับรู้ของร่างกายและจิตใจ ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ (อายตนะภายใน) และรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อารมณ์ (อายตนะภายนอก)
การทำงานของวิญญาณขันธ์ = เป็นอย่างไร
เมื่ออายตนะภายใน-นอกกระทบกัน วิญญาณขันธ์จะทำหน้าที่รับรู้และเกิดความรู้สึก เช่น เห็นรูป, ได้ยินเสียง, รู้รส, รู้สึกสัมผัส, รู้กลิ่น และคิด (ทางใจ)
วิญญาณธาตุ, วิญญาณขันธ์ = ต่างกันอย่างไร
~วิญญาณธาตุ (จิต) เป็นสภาพรู้ทั่วไป ~ส่วนวิญญาณขันธ์ (อาการของจิต) เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการกระทบของอายตนะ
สุสตตันตภาชนีย์ = แจกวิญญาณขันธ์แบบพระสูตร
วิญญาณขันธ์ = เป็นไฉน
วิญญาณอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ วิญญาณที่เป็นอดีต, วิญญาณที่เป็นอนาคต, วิญญาณที่เป็นปัจจุบัน, วิญญาณที่เป็นภายในตน, วิญญาณที่เป็นภายนอกตน,วิญญาณหยาบ, วิญญาณละเอียด, วิญญาณชั้นต่ำ, วิญญาณชั้นประณีต, วิญญาณไกล, หรือวิญญาณใกล้ ประมวลย่อเข้าเป็นกองเดียวกัน นี้เรียกว่า วิญญาณขันธ์
วิญญาณอย่างใดอย่างหนึ่ง = ได้แก่ที่เป็นไปในภูมิ ๔ คือ กามภูมิ, รูปภูมิ, อรูปภูมิ และโลกุตตรภูมิ
ในวิญญาณขันธ์นั้น วิญญาณที่เป็นอดีต = เป็นไฉน
วิญญาณใดล่วงไปแล้ว ดับไปแล้ว ปราศจากไปแล้ว แปรไปแล้ว ถึงความดับสิ้นแล้ว ที่เกิดขึ้นปราศจากไปแล้ว ที่เป็นอดีต สงเคราะห์เข้ากับส่วนอดีตได้แก่ จักขุวิญญาณ, โสตวิญญาณ, ฆานวิญญาณ, ชิวหาวิญญาณ, กายวิญญาณ, และมโนวิญญาณ นี้เรียกว่า วิญญาณที่เป็นอดีต
วิญญาณที่เป็นอนาคต = เป็นไฉน
วิญญาณใดยังไม่เกิด, ยังไม่เป็น, ยังไม่เกิดพร้อม ยังไม่บังเกิดเฉพาะ ยังไม่ปรากฏ ยังไม่เกิดขึ้น ยังไม่ตั้งขึ้นพร้อม ที่เป็นอนาคต สงเคราะห์เข้ากับส่วนอนาคต ได้แก่ จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ, ฆานวิญญาณ, ชิวหาวิญญาณ, กายวิญญาณ, มโนวิญญาณ นี้เรียกว่า วิญญาณที่เป็นอนาคต
วิญญาณที่เป็นปัจจุบัน = เป็นไฉน
วิญญาณใดเกิดอยู่ เป็นอยู่ เกิดพร้อม บังเกิด บังเกิดเฉพาะ ปรากฏ เกิดขึ้นพร้อม ตั้งขึ้นพร้อม ที่เป็นปัจจุบัน สงเคราะห์เข้ากับส่วนปัจจุบันได้แก่ จักขุวิญญาณ, โสตวิญญาณ, ฆานวิญญาณ, ชิวหาวิญญาณ, กายวิญญาณ, มโนวิญญาณ นี้เรียกว่า วิญญาณที่เป็นปัจจุบัน
วิญญาณที่เป็นภายในตน = เป็นไฉน
วิญญาณใด ของสัตว์นั้นๆ ที่เป็นภายในตน มีเฉพาะตน เกิดในตน มีเฉพาะบุคคล ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ ได้แก่ จักขุวิญญาณ, โสตวิญญาณ, ฆานวิญญาณ, ชิวหาวิญญาณ, กายวิญญาณ, มโนวิญญาณ นี้เรียกว่า วิญญาณที่เป็นภายในตน


รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, ข้าวหอม, หยาดฟ้า, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ต้นฝ้าย

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5411
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 818



| |
Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
« ตอบ #112 เมื่อ: 05, ตุลาคม, 2568, 04:07:49 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา

(ต่อหน้า ๔/๑๔) ๘.วิภังค์

วิญญาณที่เป็นภายนอกตน = เป็นไฉน
วิญญาณใดของสัตว์อื่น ของบุคคลอื่นนั้นๆ ที่เป็นภายในตน มีเฉพาะตนเกิดในตน มีเฉพาะบุคคล ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ ได้แก่
จักขุวิญญาณ, โสตวิญญาณ, ฆานวิญญาณ, ชิวหาวิญญาณ, กายวิญญาณ, มโนวิญญาณ นี้เรียกว่า วิญญาณที่เป็นภายนอกตน
วิญญาณหยาบ- วิญญาณละเอียด = เป็นไฉน           
(๑) วิญญาณที่เป็นอกุศลเป็นวิญญาณหยาบ (๒) วิญญาณที่เป็นกุศลและอัพยากฤต เป็นวิญญาณละเอียด (๓) วิญญาณที่เป็นกุศลและอกุศลเป็นวิญญาณหยาบ (๔) วิญญาณที่เป็นอัพยากฤตเป็นวิญญาณละเอียด (๕) วิญญาณที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นวิญญาณหยาบ (๖) วิญญาณที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาและอทุกขมสุขเวทนาเป็นวิญญาณละเอียด (๗) วิญญาณที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาและทุกขเวทนาเป็นวิญญาณหยาบ (๘) วิญญาณที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นวิญญาณละเอียด (๙) วิญญาณของผู้ไม่เข้าสมาบัติเป็นวิญญาณหยาบ (๑๐) วิญญาณของผู้เข้าสมาบัติเป็นวิญญาณละเอียด
(๑๑) วิญญาณที่เป็นอารมณ์ของอาสวะเป็นวิญญาณหยาบ (๑๒) วิญญาณที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะเป็นวิญญาณละเอียด
พึงทราบวิญญาณหยาบ วิญญาณละเอียด โดยอาศัยเทียบเคียงวิญญาณนั้นๆเป็นชั้นๆ ไป
วิญญาณชั้นต่ำ - วิญญาณชั้นประณีต = เป็นไฉน
(๑) วิญญาณที่เป็นอกุศลเป็นวิญญาณชั้นต่ำ (๒) วิญญาณที่เป็นกุศลและอัพยากฤต เป็นวิญญาณชั้นประณีต (๓) วิญญาณที่เป็นกุศลและอกุศลเป็นวิญญาณชั้นต่ำ (๔) วิญญาณที่เป็นอัพยากฤตเป็นวิญญาณชั้นประณีต (๕) วิญญาณที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นวิญญาณชั้นต่ำ (๖) วิญญาณที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาและอทุกขมสุขเวทนาเป็นวิญญาณชั้นประณีต (๗) วิญญาณที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาและทุกขเวทนาเป็นวิญญาณชั้นต่ำ (๘) วิญญาณที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นวิญญาณชั้นประณีต (๙) วิญญาณของผู้ไม่เข้าสมาบัติเป็นวิญญาณชั้นต่ำ (๑๐) วิญญาณของผู้เข้าสมาบัติเป็นวิญญาณชั้นประณีต (๑๑) วิญญาณที่เป็นอารมณ์ของอาสวะเป็นวิญญาณชั้นต่ำ (๑๒) วิญญาณที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะเป็นวิญญาณชั้นประณีต
พึงทราบวิญญาณชั้นต่ำ วิญญาณชั้นประณีต โดยอาศัยเทียบเคียงวิญญาณนั้นๆ เป็นชั้นๆ ไป
วิญญาณไกล = เป็นไฉน
(๑) วิญญาณที่เป็นอกุศลเป็นวิญญาณไกลจากวิญญาณที่เป็นกุศลและอัพยากฤต (๒) วิญญาณที่เป็นกุศลและอัพยากฤตเป็นวิญญาณไกลจากวิญญาณที่เป็นอกุศล (๓) วิญญาณที่เป็นกุศลเป็นวิญญาณไกลจากวิญญาณที่เป็นอกุศลและอัพยากฤต (๔) วิญญาณที่เป็นอกุศลและอัพยากฤตเป็นวิญญาณไกลจากวิญญาณที่เป็นกุศล (๕) วิญญาณที่เป็นอัพยากฤตเป็นวิญญาณไกลจากวิญญาณที่เป็นกุศลและอกุศล (๖) วิญญาณที่เป็นกุศลและอกุศลเป็นวิญญาณไกลจากวิญญาณที่เป็นอัพยากฤต (๗) วิญญาณที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นวิญญาณไกลจากวิญญาณที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา และอทุกขมสุขเวทนา (๘) วิญญาณที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาและอทุกขมสุขเวทนาเป็นวิญญาณไกลจากวิญญาณที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา (๙) วิญญาณที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นวิญญาณไกลจากวิญญาณที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาและอทุกขมสุขเวทนา (๑๐) วิญญาณที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาและอทุกขมสุขเวทนาเป็นวิญญาณไกลจากวิญญาณที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา (๑๑) วิญญาณที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นวิญญาณไกลจากวิญญาณที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาและทุกขเวทนา (๑๒) วิญญาณที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาและทุกขเวทนาเป็นวิญญาณไกลจากวิญญาณที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา (๑๓) วิญญาณของผู้ไม่เข้าสมาบัติเป็นวิญญาณไกลจากวิญญาณของผู้เข้าสมาบัติ (๑๔) วิญญาณของผู้เข้าสมาบัติเป็นวิญญาณไกลจากวิญญาณของผู้ไม่เข้าสมาบัติ (๑๕) วิญญาณที่เป็นอารมณ์ของอาสวะเป็นวิญญาณไกลจาลกวิญญาณที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ (๑๖) วิญญาณที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะเป็นวิญญาณไกลจากวิญญาณที่เป็นอารมณ์ของอาสวะ
นี้เรียกว่า วิญญาณไกล
วิญญาณใกล้ = เป็นไฉน
(๑) วิญญาณที่เป็นอกุศลเป็นวิญญาณใกล้กับวิญญาณที่เป็นอกุศล (๒) วิญญาณที่เป็นกุศลเป็นวิญญาณใกล้กับวิญญาณที่เป็นกุศล (๓) วิญญาณที่เป็นอัพยากฤตเป็นวิญญาณใกล้กับวิญญาณที่เป็นอัพยากฤต (๔) วิญญาณที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นวิญญาณใกล้กับวิญญาณที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา (๕) วิญญาณที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นวิญญาใกล้กับวิญญาณที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา (๖) วิญญาณที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นวิญญาณใกล้กับวิญญาณที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา (๗) วิญญาณของผู้ไม่เข้าสมาบัติเป็นวิญญาณใกล้กับวิญญาณของผู้ไม่เข้าสมาบัติ (๘) วิญญาณของผู้เข้าสมาบัติเป็นวิญญาณใกล้กับวิญญาณของผู้เข้าสมาบัติ (๙) วิญญาณที่เป็นอารมณ์ของอาสวะเป็นวิญญาณใกล้กับวิญญาณที่เป็นอารมณ์ของอาสวะ (๑๐) วิญญาณที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะเป็นวิญญาณใกล้กับวิญญาณที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ
นี้เรียกว่า วิญญาณใกล้ พึงทราบวิญญาณไกล วิญญาณใกล้ โดยอาศัยเทียบเคียงวิญญาณนั้นๆ เป็นชั้นๆ ไป
สุตตันตภาชนีย์ จบ


รายนามผู้เยี่ยมชม : ข้าวหอม, ลิตเติลเกิร์ล, หยาดฟ้า, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ต้นฝ้าย

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5411
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 818



| |
Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
« ตอบ #113 เมื่อ: 06, ตุลาคม, 2568, 08:45:58 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา

(ต่อหน้า ๕/๑๔) ๘.วิภังค์

อภิธรรมภาชนีย์
วิญญาณขันธ์
ทุกมูลกวาร = วิญญาณขันธ์ทั้งหมด
บรรดาขันธ์ ๕ นั้น วิญญาณขันธ์ = เป็นไฉน
วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐ รวมทั้งหมดมีหลายแบบ ได้แก่
[ก] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑
ได้แก่ วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่ วิญญาณขันธ์"ที่มีเหตุก็มี" ที่"ไม่มีเหตุก็มี"
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓
ได้แก่ วิญญาณขันธ์ที่เป็นกุศลก็มี, ที่เป็นอกุศลก็มี, ที่เป็นอัพยากฤตก็มี
วิญญาณขันธ์= หมวดละ ๔ ได้แก่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นกามาวจรก็มี (๒) ที่เป็นรูปาวจรก็มี (๓) ที่เป็นอรูปาวจรก็มี (๔) ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ก็มี
วัฏฏทุกข์ = ทุกข์ที่เกิดขึ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ ซึ่งเป็นผลมาจากวงจรของกิเลส กรรม และวิบาก
วิญญาณขันธ์= หมวดละ ๕ ได้แก่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขินทรีย์ก็มี (๒) ที่สัมปยุตด้วยทุกขินทรีย์ก็มี (๓) ที่สัมปยุตด้วยโสมนัสสินทรีย์ก็มี (๔) ที่สัมปยุตด้วยโทมนัสสินทรีย์ก็มี (๕) ที่สัมปยุตด้วยอุเปกขินทรีย์ก็มี
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๖ ได้แก่
(๑) จักขุวิญญาณ (๒) โสตวิญญาณ (๓) ฆานวิญญาณ (๔) ชิวหาวิญญาณ (๕) กายวิญญาณ (๖) มโนวิญญาณ             
วิญญาณขันธ์= หมวดละ ๗ ได้แก่
 (๑) จักขุวิญญาณ (๒) โสตวิญญาณ (๓) ฆานวิญญาณ (๔) ชิวหาวิญญาณ (๕) กายวิญญาณ (๖) มโนธาตุ (๗) มโนวิญญาณธาตุ
มโนธาตุ = คือ จิตที่รับรู้อารณ์ได้ ๕ ทวาร เฉพาะทวารของตนๆ เท่านั้น มี ๓ ประเภท คือ ปัญจทวาราวัชชนจิต และสัมปฏิจจฉันนจิต ๒ ดวง รวมเป็นมโนธาตุ ๓
ปัญจทวาราวัชชนจิต = คือ จิตที่ทำหน้าที่รับอารมณ์ (สิ่งที่มากระทบ) ทางทวารทั้ง ๕ คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกาย เป็นจิตดวงแรกที่เกิดขึ้นเมื่อมีสิ่งมากระทบอายตนะ (ช่องทางรับอารมณ์) เหล่านั้น โดยทำหน้าที่เหมือนเป็นผู้เปิดประตูให้จิตดวงอื่นๆ เข้ามาทำงานต่อ
สัมปฏิจฉนจิต = คือ จิตที่ทำหน้าที่รับอารมณ์ต่อจากวิญญาณวิถีจิต (จิตที่เห็น ได้ยิน ดมกลิ่น ลิ้มรส สัมผัส) ในกระบวนการรับรู้ของจิต เปรียบเสมือนการรับช่วงต่ออารมณ์ที่ปรากฏขึ้น เพื่อนำไปสู่การพิจารณาในจิตดวงต่อไป
มโนวิญญาณธาตุ = นั้น หมายถึง จิต ๗๖ ดวง นอกเหนือจากปัญจวิญญาณธาตุ ๑๐ ดวง และนอกเหนือจากมโนธาตุ ๓ ดวง จิต ๗๖ ดวงนี้ เป็นมโนวิญญาณธาตุเพราะรู้อารมณ์ได้ทั้ง ๖ อารมณ์ และเกิดได้ทั้ง ๖ ทวาร และวิบากจิตบางดวงที่ทำกิจปฏิสนธิ ภวังค์ จุติ ก็รู้อารมณ์ได้โดยไม่ต้องอาศัยทวาร
วิญญาณธาตุ = คือ สภาพธรรมที่ทรงไว้ซึ่งลักษณะของตนคือวิญญาณซึ่งเป็นสภาพธรรมที่รู้แจ้งซึ่งอารมณ์, ธาตุ คือ วิญญาณ, วิญญาณธาตุ   
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๘
ได้แก่ (๑) จักขุวิญญาณ (๒) โสตวิญญาณ (๓) ฆานวิญญาณ (๔) ชิวหาวิญญาณ (๕) กายวิญญาณที่สหรคตด้วยสุขก็มี (๖) กายวิญญาณที่สหรคตด้วยทุกข์ก็มี (๗) มโนธาตุ (๘) มโนวิญญาณธาตุ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๙ ได้แก่
(๑) จักขุวิญญาณ (๒) โสตวิญญาณ (๓) ฆานวิญญาณ (๔) ชิวหาวิญญาณ (๕) กายวิญญาณ (๖) มโนธาตุ (๗) มโนวิญญาณธาตุ ที่เป็นกุศลก็มี (๘) มโนวิญญาณธาตุ ที่เป็นอกุศลก็มี (๙) มโนวิญญาณธาตุที่เป็นอัพยากฤตก็มี           
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑๐ ได้แก่
(๑) จักขุวิญญาณ (๒) โสตวิญญาณ (๓) ฆานวิญญาณ (๔) ชิวหาวิญญาณ (๕) กายวิญญาณที่สหรคตด้วยสุขก็มี (๖) กายวิญญาณที่สหรคตด้วยทุกข์ก็มี (๗) มโนธาตุ (๘) มโนวิญญาณธาตุที่เป็นกุศลก็มี (๙) มโนวิญาณธาตุ่ที่เป็นอกุศลก็มี (๑๐) มโนวิญาณธาตุที่เป็นอัพยากฤตก็มี
[ข] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐           
วิญญาณขันธ์= หมวดละ ๑ ได้แก่ วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่ วิญญาณขันธ์"ที่มีเหตุก็มี" ที่"ไม่มีเหตุก็มี"
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ มีหลายแบบ ได้แก่
~สัมปยุต(ประกอบด้วย) ทุกข์,สุข,กลาง
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาก็มี (๒) ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาก็มี (๓) ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาก็มี
~เกี่ยวกับวิบาก
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นวิบากก็มี (๒) ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากก็มี
(๓)ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากก็มี
~มีตัณหา ทิฏฐิแต่ ยึด/ไม่ยึด
(๑) วิญญาณขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี (๒ )ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี (๓) ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี


รายนามผู้เยี่ยมชม : ข้าวหอม, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), หยาดฟ้า, ต้นฝ้าย

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5411
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 818



| |
Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
« ตอบ #114 เมื่อ: 06, ตุลาคม, 2568, 04:12:05 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา

(ต่อหน้า ๖/๑๔) ๘.วิภังค์

~อารมณ์เศร้าหมอง/ไม่เศร้า
(๑) วิญญาณขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี (๒) ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี (๓) ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี
~มี/ไม่มีวิตก,วิจาร
(๑) วิญญาณขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารก็มี (๒) ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารก็มี (๓) ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารก็มี
~ประกอบด้วยปีติ, สุข, อุเบกขา
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สหรคตด้วยปีติก็มี (๒) ที่สหรคตด้วยสุขก็มี (๓) ที่สหรคตด้วยอุเบกขาก็มี
~ประหารด้วยโสดาฯ, มรรค
(๑) วิญญาณขันธ์ที่ต้องประหารด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี (๒) ที่ต้องประหารด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี (๓) ที่ไม่ต้องประหารด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี
~มีเหตุ/ไม่มีเหตุต้องประหาร
(๑) วิญญาณขันธ์ที่มีเหตุต้องประหารด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี (๒) ที่มีเหตุต้องประหารด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี (๓) ที่ไม่มีเหตุต้องประหารด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี
~เป็นเหตุ/ไม่เป็นเหตุ เกิด,ตาย
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิและจุติก็มี (๒) ที่เป็นเหตุให้ถึงนิพพานก็มี (๓) ที่ไม่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิ จุติ และนิพพานก็มี
~เป็น/ไม่เป็นของเสขบุคคล,อเสขบุคคล
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นของเสขบุคคลก็มี (๒) ที่เป็นของอเสขบุคคลก็มี (๓) ที่ไม่เป็นของเสขบุคคลและอเสขบุคคลก็มี
~กลุ่มสภาวะธรรม
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นปริตตะก็มี (๒) ที่เป็นมหัคคตะก็มี (๓)ที่เป็นอัปปมาณะก็มี
ปริตตะ = สภาวะที่ด้อย หมายถึงธรรมที่เป็นกามาวจร - ท่องอยู่ในกามภพ
มหคัคตะ = หรือ มหรคต เป็นธรรมที่ถึงความยิ่งใหญ่ คือเป็นรูปาวจร - ท่องในรูปภพ หรือ อรูปาวจร - ท่องในอรูปภพ
อัปปมาณะ = ธรรมที่ประมาณมิได้ คือเป็นโลกุตตระ อยู่เหนือโลก
~กลุ่มสภาวะอารมณ์
(๑) วิญญาณขันธ์ที่มีปริตตะเป็นอารมณ์ก็มี (๒) ที่มีมหัคคตะเป็นอารมณ์ก็มี (๓) ที่มีอัปปมาณะเป็นอารมณ์ก็มี
~กลุ่มประเภทต่างๆ
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นชั้นต่ำก็มี (๒) ที่เป็นชั้นกลางก็มี (๓) ที่เป็นชั้นประณีตก็มี
~กลุ่มสภาวะผลผิด/ถูกต้อง
(๑) วิญญาณขันธ์ที่มีสภาวะผิดและให้ผลแน่นอนก็มี (๒) ที่มีสภาวะชอบและให้ผลแน่นอนก็มี (๓) ที่ไม่แน่นอนโดยอาการทั้งสองนั้นก็มี
~กลุ่มมีมรรคเป็นเหตุ/เป็นใหญ่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่มีมรรคเป็นอารมณ์ก็มี (๒) ที่มีมรรคเป็นเหตุก็มี (๓) ที่มีมรรคเป็นอธิบดีก็มี
~การเกิดของวิญญาณ
(๑)วิญญาณขันธ์ที่เกิดขึ้นก็มี (๒) ที่ยังไม่เกิดขึ้นก็มี (๓) ที่จักเกิดขึ้นแน่นอนก็มี
~ เนี่องด้วยกาล
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นอดีตก็มี (๒) ที่เป็นอนาคตก็มี (๓) ที่เป็นปัจจุบันก็มี
 ~เนื่องด้วยอารมณ์       
(๑) วิญญาณขันธ์ที่มีอดีตธรรมเป็นอารมณ์ก็มี (๒) ที่มีอนาคตธรรมเป็นอารมณ์ก็มี (๓) ที่มีปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ก็มี
~ ภายใน-นอกตน
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นภายในตนก็มี (๒) ที่เป็นภายนอกตนก็มี (๓) ที่เป็นภายในตนและภายนอกตนก็มี
~มีธรรมภายใน-นอกตน
(๑) วิญญาณขันธ์ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ก็มี (๒) ที่มีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี (๓) ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี
             ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา
[ค] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่ วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ แจกได้หลายกลุ่ม คือ
~ประกอบด้วย/ไม่ประกอบด้วยเหตุ
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยเหตุก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากเหตุก็มี
~เป็นเหตุ/ไม่เป็น
(๑) วิญญาณขันธ์ที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุก็มี (๒) ที่ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุก็มี
~เป็นโลกิยะ/โลกุตตระ
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นโลกิยะก็มี (๒) ที่เป็นโลกุตตระก็มี
~ รู้/ไม่รู้
(๑) วิญญาณขันธ์ที่จิตบางดวงรู้ได้ก็มี (๒) ที่จิตบางดวงรู้ไม่ได้ก็มี
~อารมณ์กิเลส
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี (๒) ที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี


รายนามผู้เยี่ยมชม : หยาดฟ้า, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ข้าวหอม, ต้นฝ้าย

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5411
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 818



| |
Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
« ตอบ #115 เมื่อ: 07, ตุลาคม, 2568, 07:35:47 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา

(ต่อหน้า ๗/๑๔) ๘.วิภังค์

~ประกอบด้วย/ไม่ประกอบกิเลส
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอาสวะก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากอาสวะก็มี
~ไม่ประกอบด้วยกิเลส เป็น/ไม่เป็นอารมณ์
(๑) วิญญาณขันธ์ที่วิปปยุตจากอาสวะแต่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากอาสวะและไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี
~เป็น/ไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี (๒) ที่ไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี
สังโยชน์ = คือ กิเลสที่ผูกมัดใจสัตว์ หรือธรรมที่รั้งสัตว์ไว้ในวัฏฏะ มี ๑๐ อย่าง (พระอรหันต์ตัดได้ทั้งหมด)
~ประกอบด้วย/ไม่ประกอบสังโยชน์
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์ก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากสังโยชน์ก็มี
~ไม่ประกอบด้วยสังโยชน์แต่เป็น/ไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์
(๑) วิญญาณขันธ์ที่วิปปยุตจากสังโยชน์แต่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากสังโยชน์และไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี
~เป็น/ไม่เป็นอารมณ์ของคันถะ
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี (๒) ที่ไม่เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี
คันถะ ๔= หมายถึง เป็นห่วงที่ร้อยรัดไว้ในระหว่าง จุติ-ปฏิสนธิ ให้เกิดก่อต่อเนื่องกันไม่ให้พ้นไปจากวัฏฏทุกข์ได้
~ประกอบด้วย/ไม่ประกอบด้วยคันถะ
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยคันถะก็มี (๒)ที่วิปปยุตจากคันถะก็มี
~ไม่ประกอบด้วยคันถะแต่เป็น/ไม่เป็นอารมณ์คันถะ
(๑) วิญญาณขันธ์ที่วิปปยุตจากคันถะแต่เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากคันถะและไม่เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี
~เป็น/ไม่เป็นอารมณ์ของคันถะ
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของโอฆะก็มี (๒) ที่ไม่เป็นอารมณ์ของโอฆะก็มี
โอฆะ = กิเลสที่ท่วมจิตของสัตว์โลก เสมือนกระแสน้ำที่เชี่ยวที่พัดพาให้สัตว์จมอยู่ในกิเลส ซึ่งมี ๔ อย่าง ได้แก่ กาโมฆะ (โอฆะคือกาม), ภโวฆะ (โอฆะคือภพ), ทิฏโฐฆะ (โอฆะคือทิฏฐิ) และอวิชโชฆะ (โอฆะคืออวิชชา)
~ประกอบด้วย/ไม่ประกอบด้วยโอฆะ
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยโอฆะก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากโอฆะก็มี
~ไม่ประกอบด้วนโอฆะ แต่เป็น/ไม่เป็นอารมณ์ของโอฆะ
(๑) วิญญาณขันธ์ที่วิปปยุตจากโอฆะแต่เป็นอารมณ์ของโอฆะก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากโอฆะและไม่เป็นอารมณ์ของโอฆะก็มี
~เป็น/ไม่เป็นอารมณ์ของโอฆะ
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของโยคะก็มี (๒) ที่ไม่เป็นอารมณ์ของโยคะก็มี
~ประกอบ/ไม่ประกอบด้วยโยคะ
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยโยคะก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากโยคะก็มี
~ไม่ประกอบด้วยโยคะแต่เป็น/ไม่เป็นอารมณ์ของโยคะ
(๑) วิญญาณขันธ์ที่วิปปยุตจากโยคะแต่เป็นอารมณ์ของโยคะก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากโยคะและไม่เป็นอารมณ์ของโยคะก็มี
~เป็น/ไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี (๒) ที่ไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี
~ประกอบด้วย/ไม่ประกอบด้วยนิวรณ์
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยนิวรณ์ก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากนิวรณ์ก็มี
นิวรณ์= คือ เครื่องกั้นจิตไม่ให้บรรลุความดี มี ๕ ประการ ได้แก่ กามฉันทะ - พอใจในกาม; พยาบาท; ถีนมิทธะ - หดหู่; อุทธัจจกุกกุจจะ - ฟุ้งซ่าน; และวิจิกิจฉา - ลังเลสงสัย
~ไม่ประกอบด้วยนิวรณ์ แต่เป็น/ไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์
 (๑) วิญญาณขันธ์ที่วิปปยุตจากนิวรณ์แต่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากนิวรณ์และไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี
~เป็น/ไม่เป็นอารมณ์ของปรามาส
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี (๒) ที่ไม่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี
ปรามาส =การยึดมั่นถือมั่นในศีลและวัตรปฏิบัติอย่างงมงาย
~ประกอบ/ไม่ประกอบด้วยปรามาส
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยปรามาสก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากปรามาสก็มี
~ไม่ประกอบด้วยปรามาส แต่เป็น/ไม่เป็นอารมณ์ของปรามาส
(๑) วิญญาณขันธ์ที่วิปปยุตจากปรามาสแต่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากปรามาสและไม่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี
~ยึดถือ/ไม่ยึดตัณหา,ทิฏฐิ
(๑) วิญญาณขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือก็มี (๒) ที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือก็มี
~เป็น/ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี (๒) ที่ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี
~ประกอบ/ไม่ประกอบด้วยอุปาทาน
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอุปาทานก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากอุปาทานก็มี
~ไม่ประกอบด้วยอุปาทานแต่เป็น/ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
(๑) วิญญาณขันธ์ที่วิปปยุตจากอุปาทานแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากอุปาทานและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี


รายนามผู้เยี่ยมชม : ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ข้าวหอม, ต้นฝ้าย, หยาดฟ้า

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5411
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 818



| |
Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
« ตอบ #116 เมื่อ: 07, ตุลาคม, 2568, 02:34:05 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา

(ต่อหน้า ๘/๑๔) ๘.วิภังค์

~เป็น/ไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี (๒) ที่ไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี
~เศร้า/ไม่เศร้าด้วยกิเลส
(๑) วิญญาณขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองก็มี (๒) ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองก็มี
~ประกอบ/ไม่ประกอบด้วยกิเลส
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยกิเลสก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากกิเลสก็มี
~ไม่ประกอบด้วยกิเลสแต่เป็น/ไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส
(๑) วิญญาณขันธ์ที่วิปปยุตจากกิเลสแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากกิเลสและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี
~ต้อง/ไม่ต้องประหาร
(๑) วิญญาณขันธ์ที่ต้องประหารด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี (๒) ที่ไม่ต้องประหารด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี
~ต้อง/ไม่ต้องประหารด้วยมรรคเบื้องบน
 (๑) วิญญาณขันธ์ที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี (๒) ที่ไม่ต้องประหารด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี
มรรคเบื้องบน ๓ = คือ สกทาคามิมรรค, อนาคามิมรรค และอรหัตตมรรค
~มี/ไม่มีเหตุต้องประหาร
(๑) วิญญาณขันธ์ที่มีเหตุต้องประหารด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี (๒) ที่ไม่มีเหตุต้องประหารด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี
~มี/ไม่มีเหตุต้องประหารด้วยมรรคเบื้องบน ๓
(๑) วิญญาณขันธ์ที่มีเหตุต้องประหารด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี (๒) ที่ไม่มีเหตุต้องประหารด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี
~มี/ไม่มีวิตก(ความตรึก)
(๑) วิญญาณขันธ์ที่มีวิตกก็มี (๒) ที่ไม่มีวิตกก็มี
~มี/ไม่มีวิจาร(ความตรอง)
(๑) วิญญาณขันธ์ที่มีวิจารก็มี (๒) ที่ไม่มีวิจารก็มี
~มี/ไม่มีปีติ
(๑) วิญญาณขันธ์ที่มีปีติก็มี (๒) ที่ไม่มีปีติก็มี
~มีร่วม/ไม่มีร่วมด้วยกับปีติ
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สหรคตด้วยปีติก็มี (๒) ที่ไม่สหรคตด้วยปีติก็มี
~มีร่วม/ไม่มีร่วมกับสุข
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สหรคตด้วยสุขก็มี (๒) ที่ไม่สหรคตด้วยสุขก็มี
มี/ไม่มีร่วมกับ อุเบกขา
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สหรคตด้วยอุเบกขาก็มี (๒) ที่ไม่สหรคตด้วยอุเบกขาก็มี
~เป็น/ไม่เป็น กามาวจร
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นกามาวจรก็มี (๒) ที่ไม่เป็นกามาวจรก็มี
~เป็น/ไม่เป็น รูปาวจร
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นรูปาวจรก็มี (๒) ที่ไม่เป็นรูปาวจรก็มี
~เป็น/ไม่เป็น อรูปาวจร
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นอรูปาวจรก็มี (๒) ที่ไม่เป็นอรูปาวจรก็มี
~นับ/ไม่นับเนื่อง
(๑) วิญญาณขันธ์ที่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ก็มี (๒) ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ก็มี
วัฏฏทุกข์ = คือ วงจรของความทุกข์ที่เกิดจากการกระทำของกิเลส กรรม และผลของกรรม (วิบาก) ซึ่งหมุนเวียนต่อเนื่องกันไปไม่รู้จบ มี ๓ อย่าง คือ
(๑) กิเลสวัฏฏะ - ความวนเวียนของกิเลส คือ ความติดข้อง ความอยาก ความหลง ที่เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ (๒) กรรมวัฏฏะ - ความวนเวียนของการกระทำ คือ การกระทำทั้งดีและชั่วที่เกิดจากกิเลสนำไปสู่ผลลัพธ์ต่างๆ (๓) วิบากวัฏฏะ - ความวนเวียนของผลของกรรม คือ ผลที่เกิดจากการกระทำ เป็นเหตุให้เกิดกิเลส วนเวียนเป็นวงจรไม่รู้จบ
~เป็น/ไม่เป็นเหตุออกจากวัฏฏะ
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์ก็มี (๒) ที่ไม่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์ก็มี
~ให้ผลแน่/ไม่แน่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่ให้ผลแน่นอนก็มี (๒) ที่ให้ผลไม่แน่นอนก็มี
~มี/ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า
(๑) วิญญาณขันธ์ที่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าก็มี (๒) ที่ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าก็มี
~มี/ไม่มีเหตุให้สัตว์ร้องไห้
(๑)วิญญาณขันธ์ที่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ก็มี (๒) ที่ไม่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ก็มี
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่เป็นกุศลก็มี  ที่เป็นอกุศลก็มี, ที่เป็นอัพยากฤตก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา           
[ง] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์= หมวดละ ๒ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ก็มี, ที่ไม่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ก็มี


รายนามผู้เยี่ยมชม : ต้นฝ้าย, ข้าวหอม, หยาดฟ้า, ขวัญฤทัย (กุ้งนา)

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5411
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 818



| |
Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
« ตอบ #117 เมื่อ: 08, ตุลาคม, 2568, 08:25:48 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา

(ต่อหน้า ๙/๑๔) ๘.วิภังค์

วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
~ประกอบด้วย
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาก็มี (๒) ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาก็มี (๓) ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาก็มี
~วิญญาณขันธ์เกี่ยวกับวิบาก
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นวิบากก็มี (๒) ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากก็มี
(๓)ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากก็มี
~ธรรมภายใน-นอกตน
(๑) วิญญาณขันธ์ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ก็มี (๒) ที่มีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี (๓) ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา
ทุกมูลกวาร จบ
ติกมูลกวาร
[จ] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่มีเหตุก็มี, ที่ไม่มีเหตุก็มี
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่ วิญญาณขันธ์ที่เป็นกุศลก็มี, ที่เป็นอกุศลก็มี, ที่เป็นอัพยากฤตก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา
[ฉ] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
~ประกอบด้วยเหตุ/ไม่ประกอบเหตุ
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยเหตุก็มี (๒) ที่วิปปยุตจากเหตุก็มี
~เป็นเหตุ/ไม่เป็นเหตุ
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ก็มี (๒) ที่ไม่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ก็มี
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นกุศลก็มี (๒) ที่เป็นอกุศลก็มี (๓) ที่เป็นอัพยากฤตก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา             
[ช] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่ วิญญาณขันธ์ที่มีเหตุก็มี ที่ไม่มีเหตุก็มี
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
~ประกอบด้วยสุข/ทุกข์/กลาง
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาก็มี (๒) ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาก็มี (๓) ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาก็มี
~วิญญาณขันธ์เกี่ยวกับวิบาก
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นวิบากก็มี (๒) ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากก็มี
(๓) ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากก็มี
~ธรรมภายใน-นอกตน
(๑) วิญญาณขันธ์ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ก็มี (๒) ที่มีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี (๓) ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี             
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา
[ซ] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
~ประกอบด้วย/ไม่ประกอบด้วยเหตุ
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยเหตุก็มี, ที่วิปปยุตจากเหตุก็มี
~ เป็น/ไม่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ก็มี (๒) ที่ไม่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ก็มี
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์
ก็มี (๒) ที่มีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี (๓) ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา
ติกมูลกวาร จบ
อุภโตวัฑฒกวาร
[ณ] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่มีเหตุก็มี, ที่ไม่มีเหตุก็มี


รายนามผู้เยี่ยมชม : ข้าวหอม, หยาดฟ้า

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5411
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 818



| |
Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
« ตอบ #118 เมื่อ: 08, ตุลาคม, 2568, 02:27:05 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา

(ต่อหน้า ๑๐/๑๔) ๘.วิภังค์

วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นกุศลก็มี (๒) ที่เป็นอกุศลก็มี (๓) ที่เป็นอัพยากฤตก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา
[ด] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่ วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยเหตุก็มี, ที่วิปปยุตจากเหตุก็มีวิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาก็มี (๒) ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาก็มี (๓) ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา
[ต] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุก็มี, ที่ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุก็มี
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ได้แก่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นวิบากก็มี (๒) ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากก็มี (๓) ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา
[ถ] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่เป็นโลกิยะก็มี, ที่เป็นโลกุตตระก็มี
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี (๒) ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี (๓) ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา
[ท] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่จิตบางดวงรู้ได้ก็มี, ที่จิตบางดวงรู้ไม่ได้ก็มี
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี (๒) ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี (๓) ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา
[ธ] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่ วิญญาณขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี, ที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารก็มี (๒) ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารก็มี (๓) ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา
[น] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอาสวะก็มี, ที่วิปปยุตจากอาสวะก็มี
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่สหรคตด้วยปีติก็มี (๒) ที่สหรคตด้วยสุขก็มี (๓) ที่สหรคตด้วยอุเบกขาก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา
[บ] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่วิปปยุตจากอาสวะแต่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี, ที่วิปปยุตจากอาสวะและไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี


รายนามผู้เยี่ยมชม : ข้าวหอม, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), หยาดฟ้า

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5411
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 818



| |
Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
« ตอบ #119 เมื่อ: 09, ตุลาคม, 2568, 05:34:30 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา

(ต่อหน้า ๑๑/๑๔) ๘.วิภังค์

วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่ต้องประหารด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี (๒)ที่ต้องประหารด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี (๓) ที่ไม่ต้องประหารด้วย
โสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา
[ป] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี, ที่ไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่มีเหตุต้องประหารด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี (๒) ที่มีเหตุต้องประหารด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี (๓) ที่ไม่มีเหตุต้องประหารด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา
[ผ] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่ วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์ก็มี, ที่วิปปยุตจากสังโยชน์ก็มี
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิและจุติก็มี (๒ )ที่เป็นเหตุให้ถึงนิพพานก็มี (๓) ที่ไม่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิ จุติ และนิพพานก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา
[ฝ] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐   
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่วิปปยุตจากสังโยชน์แต่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี, ที่วิปปยุตจากสังโยชน์และไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นของเสขบุคคลก็มี (๒) ที่เป็นของอเสขบุคคลก็มี (๓) ที่ไม่เป็นของเสขบุคคลและอเสขบุคคลก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา
[พ] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่ วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี, ที่ไม่เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นปริตตะก็มี (๒) ที่เป็นมหัคคตะก็มี (๓)ที่เป็นอัปปมาณะก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา
[ฟ] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่ วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยคันถะก็มี, ที่วิปปยุตจากคันถะก็มี
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่ วิญญาณขันธ์ที่มีปริตตะเป็นอารมณ์ก็มี (๒) ที่มีมหัคคตะเป็นอารมณ์ก็มี (๓) ที่มีอัปปมาณะเป็นอารมณ์ก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา
[ภ] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่วิปปยุตจากคันถะแต่เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี, ที่วิปปยุตจากคันถะและไม่เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่เป็นชั้นต่ำก็มี (๒) ที่เป็นชั้นกลางก็มี (๓) ที่เป็นชั้นประณีตก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา
[ม] วิญญาณขันธ์ หมวดละ ๑-๑๐
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๑ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๒ ได้แก่
วิญญาณขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของโอฆะก็มี, ที่ไม่เป็นอารมณ์ของโอฆะก็มี
วิญญาณขันธ์ = หมวดละ ๓ ได้แก่
(๑) วิญญาณขันธ์ที่มีสภาวะผิดและให้ผลแน่นอนก็มี (๒) ที่มีสภาวะชอบและให้ผลแน่นอนก็มี (๓) ที่ไม่แน่นอนโดยอาการทั้งสองนั้นก็มี
ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ต่อไป หมวดละ ๔- ๑๐ ก็เหมือนที่ผ่านมา


รายนามผู้เยี่ยมชม : หยาดฟ้า, ข้าวหอม, ขวัญฤทัย (กุ้งนา)

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9   ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.278 วินาที กับ 146 คำสั่ง
กำลังโหลด...