** ค่าวฮ่ำ กำเมือง **
** หนาวซ๊อยหล้อย **
แจ้งมาเมื่อเจ้า คนเฒ่าย่ำก๋อย เหลียวผ่อแป๋ดอย เมฆปกคุ้มหลุ้ม
หมอกลงสอยสอย มันหยังมากลุ้ม จะต๋ามารุม คนตุ๊ก
ผ่อไปตางไหน เหมือนหมอกไฟมุก จ๋ำลุกจากบ้าน เตียวจร
สองตี๋นย่างย้าย ปายถงสองขอน จ๋ำจากตี่นอน ออนซอนอิ่งอ้อย
เดินไปปาดป๊าย บ้ายหมอกเป็นฝอย สองต๋าเล็งกอย ขึ้นดอยลอยห้วย
คุ๊ดตุ่นถ้าปะ ผ่อสองสามข๋วย คดต๋ามลงตวย ขูขีงู้งี้
นุ่งเตี่ยวสะดอ หนามขอก่องกี้ ฉีกเกิ่งพอดี เหียเตอะ
จ๋ำเป็นแล้วหนา หน้ามอมเลอะเทอะ ก่อยเปอะห่อเข้าเตียวไป
ขึ้นดอยม่อนนี้ คงแถมบ่อไก๋ ลวดเลาะไจไซ สะไหลป๋ากั้ง
เกิ่งตอนแล้วหนา ห้วยหน้าตี่ตั้ง จักหยั้งกินข้าว คาบตอน
อิ่มหนำแล้วหนา ได้ป๋าเต็มซ้อน ตุ่นแถมปอกอน วันนี้
ตะวันบ่ายสอง แสงหมองบ่งจี้ ได้สักเต่าอี้ ปอเลย
ได้เวลาแล้ว อย่ามัวนั่งเฉย หอบหุมลุมเลย เซาะหาปิกบ้าน
หนตางมันไก๋ เคลือใบกิ่งก้าน เด็ดหาตวยตาง ย่างจ้า
เพิงตูบหมาแหงน นอนแตนฮ่มฟ้า จักจ๋ำอ่วยหน้า คืนคอน
วันพูกเมื่อเจ้า ตุ่นป๋าสองขอน หาบเกิ่งเริงกอน เอาไปแลกเข้า
จีวิตคนจ๋น ผ่อเอาเตอะเจ้า อยู่ไปวันวัน อย่างนี้
จะยะอะหยัง รวงรังบ่งจี้ จะต๋าบ่าวอี้ ปอเจียม...ฯ
ขอป๋งลงวางเต่านี้ก่อนละนายเฮย..ฯ
คำแปลแต่ละวรรค 1-19 โดย ไม่เป็นไร ธรรมดา
ผิดพลาดไม่ได้ความหมาย ใจความ ขออภัยมา ณ ตรงนี้ มีความสุขมากๆ ครับผม
** กลอนปล่อย ของภาคเหนือ **
** หนาวเป็นปกติ (เป็นประจำ) **
1. รุ่งอรุณยามเช้า คนแก่เหยียบย่ำกลอย ที่แช่ไว้ในลำห้วย สายตาก็สอดส่องเหลียวดูที่ภูเขา เห็นเมฆปกคลุมเต็มไปหมด
2. เมฆหมอกตอนเช้าตกลงมาปรอยๆ คิดแล้วก็กลุ้ม กับชีวิตที่ถูกชะตาเร้ารุม ให้ได้พบเจอกับความยากไร้
3. แม้ว่าจะเหลียวมองไปทางไหน มันก็มัวมืดมนเหมือนดั่งมองควันไฟที่ปกคลุมไปทั่ว วันนี้ยังไงแล้วก็จำต้องออกจากบ้าน เพื่อที่จะเดินไป
4. สองเท้าก้าวย่าง บ่าก็สะพายถุงสองใบ จำต้องเดินจากที่นอนอันแสนอบอุ่นอย่างอิ่งอ้อย
5. เดินไปเรื่อยๆ ตามรายทางที่มีหมอกตกลงมาปรอยๆ สองตาก็เล็งแลดูหาอาหาร ตามลำห้วยตามภูเขา
6. หากเจอตัวตุ่นแล้วคิดที่จะขุดเอาตัว ก็เลือกดูเอาที่ง่ายๆ คือตัวตุ่นที่ย้ายที่อยู่ใหม่เวลาเราขุดหาก็จะได้ตัวอย่างเร็วไว ง่ายดาย พอเจอแล้วตัวตุ่นก็จะร้อง คู่คี่ๆ
7. นุ่งกางเกงสามส่วนผ้าหม้อห้อม เมื่อตะกี้ขุดตุ่นมีหนามเกี่ยวฉีกขาดครึ่งเลย คริคริ ซวยแล้วเรากางเกงขาดครึ่ง
8. เมื่อขุดตัวตุ่นได้แล้ว แถมกางเกงขาดอีก ยังไงแล้วก็จำเป็นแล้วหละ ทั้งหน้าตาเลอะเทอะมอมแมมก็ต้องไปต่อ เก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้วก็สะพายถุงห่อข้าวเดินต่อไป
9. เดินขึ้นไปบนเขาลูกนี้ คงอีกไม่ไกลเท่าไหร่นัก เราก็จะได้ไปดู ( ไซ ) เครื่องมือดักปลาที่ดักเอาไว้เพื่อที่จะได้ปลามั่ง
10. ตอนนี้ก็ได้เวลาเที่ยงแล้ว เราต้องไปให้ถึงลำธารข้างหน้าก่อน จึงจะได้พักเพื่อที่จะได้ทานข้าวกลางวัน
11. เมื่อทานข้าวอิ่มหนำดีแล้ว ก็ไปดู ไซ ที่ดักปลาไว้ แหมวันนี้ได้เยอะแยะเลยปลาเต็มไซที่ดักเอาไว้ โอ..แถมได้ตัวตุ่นอีกหนึ่งตัว
12. ดวงอาทิตย์ส่องแสง บอกเวลาได้ว่าประมาณบ่ายสองแล้ว เราได้ปลา ได้ตัวตุ่น แค่นี้ก็พอแล้วนะวันนี้
13. คงจะได้เวลากลับบ้านแล้ว เราอย่ามัวนั่งนิ่งเฉยอยู่เลย รีบเก็บข้าวของทั้งหมดให้เข้าที่แล้วก็หาบคอน หาทางกลับบ้าน
14. เพาะว่าทางที่เราจะไปนั้นมันก็ไกลอยู่ด้วย เผื่อว่าเจอผักหรืออะไรที่กินได้ก็จะแวะเวียนเก็บเอาตามรายทาง แล้วก็จะทำให้การเดินทางช้าลงไป
15. กระท่อมไม้ไผ่ที่เรามีอยู่ได้นอนอาศัย (มีกระท่อมไม้ไผ่ได้นอนได้พักอาศัย ยังดีกว่าที่เราไม่มีที่อยู่อาศัยไปนอนกลางแดดกลางฝนซึ่งมีท้องฟ้าเป็นร่มปกคลุม)เป้าหมายตรงนั้นเลยที่เราจะต้องกลับไป
16. คิดไว้ว่าวันพรุ่งนี้ จะเอาตัวตุ่นและปลาสองอย่างนี้ หาบคอนไปหาแลกข้าวสาร และอะไรต่างๆ ที่พอจะแลกมาไว้ใช้ไว้กินบริโภคได้
17. ชีวิตคนจน ก็ให้พิจารณาตัวเองเอา ว่าเป็นอย่างไร มีอะไรบ้างทำอะไรบ้างในวันๆ หนึ่ง
18. การที่จะทำอะไรทุกๆ อย่าง ให้คิดพิจารณาว่าควรหรือไม่ควร เหมาะสมหรือไม่ ดีหรือไม่ดี เพราะว่าฐานะเราความเป็นอยู่ของเราบ่งบอกบ่งชี้ให้เป็นให้เห็นอยู่แล้ว ชะตาชีวิตของเราถูกลิขิตให้เป็นอย่างนี้แล้ว จะทำอะไรก็ให้ “ เจียมตัวเอาไว้ ”
19. ขอจบลงเท่านี้ก่อนแล้วครับท่าน...ฯ เขียน แปล โดย ไม่เป็นไร ธรรมดา
:smiley01: