
ผสมเสร็จ หรือสมเสร็จ
เรื่องนี้คงเนื่องมาจากการออกแบบช้างและยีราฟของวิศวกรแห่งธรรมชาติ บรรดานักออกแบบทั้งหลายน่าจะมีสิ่งที่เหมือน ๆ กันคือการนำประสบการณ์มาเสริมเติมแต่งเพื่อเป็นแนวคิดในการออกแบบชิ้นใหม่อื่น ๆ เรื่องนี้เห็นได้ชัดในเรื่องการออกแบบรถยนต์ ด้วยสมัยนี้ตลาดรถยนต์มีการแข่งขันกันอย่างมาก รถยนต์ใหม่ ๆ จึงเร่งผลิตกันมากเหลือเกิน ไม่คำนึงถึงภาวะโลกร้อนแม้แต่ขี้เล็บ พูดแล้วก็เจ็บกระดองใจ ถ้าเราเป็นนักมีตาอย่างอีช่างสังเกตจะสัมผัสได้และมีปัญญาทันทีว่า รถรุ่นใหม่ก็อ้ายแค่ดัดแปลงรุ่นเก่า แต่มันดัดแปลงได้อย่างฉลาดและมีเฉลียว ทั้งนี้การดัดแปลงหรือจำแลงแบบเก่าจะพัฒนากว่าเดิมด้วยรู้ข้อมูลดีเลวร้ายไว้พร้อม สมองมันก็ลื่นไหลยังกะ "บรรหาร" ที่เขาว่ากันนะ ผสมเสร็จซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีรูปร่างแปลก ๆ น่าจะเข้าทำนองเรื่องการเลียนแบบของเก่าอยู่ไม่น้อย
เลียนแบบของเก่าอย่างไร ไหนลองอภิปรายอภิเปรยมาซิ ก็เจ้าตัวนี้ดูแล้วเหมือนชื่อจริง ๆ ผสมเสร็จ หรือ สมเสร็จ นี่คนไทยตั้งชื่อนะ อย่าคิดว่าวิศวกรธรรมชาติตั้งให้มา ธรรมชาติอนุญาตให้มนุษย์ตั้งชื่อ จะชื่อเล่นชื่อไม่เล่นไม่ว่ากัน จะมีกี่ร้อยชื่อกี่ร้อยภาษาก็ไม่เกี่ยง เขาจะชื่ออะไรอย่าไปซอกแซกเขาเลย ซอกแซกเพียงชื่อของประเทศไทยดีกว่า ก่อนอื่นต้องยกย่องปราชญ์ผู้ตั้งชื่อผสมเสร็จว่าท่านตั้งได้ถูกต้องหาข้อตำหนิมิได้แม้แต่ขี้ของขี้เล็บ ผสมเสร็จหมายถึงนำมาประสมประสานจนเสร็จ ก็ดูซีสมเสร็จเป็นสัตว์ที่ออกแบบจากการเอาส่วนต่าง ๆ ของสัตว์หลายชนิดมาชนมาต่อเข้าด้วยกัน
พูดถึงเรื่องตั้งชื่อต้องขอพูดอะไร ๆ กันบ้าง ยอแล้วชมแล้วที่ตั้งชื่อผสมเสร็จก็ถึงคราวติเรื่องอื่นกันบ้างเป็นไร ทุกคนคงจะรู้จักที่ขูดมะพร้าวแบบชนิดผู้ขูดนั่งบนหลัง บ้างคนขี่ก็มี เจ้าตัวนี้ภาษากลางเรียกว่า "กระต่าย" น่าจะตั้งมาจากรูปพรรณสัณฐานว่ามันเหมือนหรือคล้ายเจ้ากระต่าย จริง ๆ มันไม่คล้ายกระต่ายเท่าไร มันน่าจะคล้ายเป็ดหรือห่านมากกว่า ด้วยคอของกระต่ายขูดมะพร้าวมันยาว (ส่วนที่ยื่นไว้สำหรับติดเหล็กสำหรับขูด) ผู้ตั้งชื่ออาจจะแก้ตัวว่ากระต่ายก็คอยาว คือเอาส่วนหูไปผนวกเป็นคอด้วย แก้ตัวอย่างนี้ก็ยังขัด ๆ เพราะหูกระต่ายมันชี้ไปข้างหลัง ฮะฮา เอาเป็นว่าเจ้าตัวนี้หากให้นามว่า "กระต่าย" ไม่ค่อยสอดคล้องดั่งที่เขาให้นามผสมเสร็จเป็นแน่แท้ เจ้ากระต่ายตัวนี้หากจะมีชื่อตรงอยู่บ้างน่าจะยกให้แก่ภาษาใต้ คือ "เหล็กขูด" ผมรู้แต่ภาษาใต้ เหนือ อีสาน ตะวันออกไม่ทราบว่าชื่อ "เหล็กขูด" ด้วยไม่ ต้องมีคนติงว่าเหล็กขูดมันมีแค่เหล็ก ที่เป็นส่วนสำหรับนั่งมันสำคัญเหมือนกัน ไหนละเหล็กมันอยู่ไหน มันทำด้วยไม้ต่างหาก ถ้าอ้างอย่างนี้ กลับเป็นหน้าที่ผมเป็นคนประสาน เป็นคนกลาง เป็นคนต่อรอง ผมขอตั้งชื่อว่า "กระต่ายขูด" ให้เกียรติกับชื่อเก่า และเมื่อใครพูดว่า "ฉันเห็นกระต่ายในครัว" จะได้ไม่เข้าใจว่ากระต่ายที่อยู่ในป่ามันขึ้นครัวมาลักกินผักบุ้ง ฮะฮา
แต่เรื่องตั้งชื่อนี้มันก็แปลกน่าจะขึ้นกับชาติ กับภาษา ท้องถิ่น ดูแต่ชื่อ "ตุ๊กแก" ซึ่งเป็นคำที่ตั้งจากการเลียนเสียงธรรมชาติ แต่ละถิ่นของไทยยังเรียกผิดเผี้ยนกัน เหนือเรียก "ต๊กโต" ทางอีสาน"กั๊บแก" ถิ่นใต้เหมือนกลางเพียงแต่สำเนียงเป็น "ตุกแก" ฝรั่งฟังเสียงตุ๊กแกว่า "เค็กโก้" พม่าว่า "อังแอ" มาเลเซียไม่รู้ว่าฟังเป็น "ติงโก"- "ก็อกโก้" - "อังโอ้" - "พะโล้" - "ปาท่องโก้" หรืออะไรกันแน่เอาแค่หูคนไทยด้วยกันยังไม่เหมือน กลางอย่าง ใต้อย่าง เหนืออย่าง อีสานอย่าง แล้วทีหูพม่า หูฝรั่ง หูจีน หูเกาหลี หูนิโกร มันจะไปเหมือนกันได้ไง.. ผับแผ่
"ชื่อนั้นสำคัญไฉน" เป็นสำนวนพูดที่หมายถึงจะชื่ออะไรไม่สำคัญ จะไพเราะ ไม่ไพเราะ เป็นมงคลไม่เป็นมงคลไม่สำคัญ ดีชั่วอยู่ที่การกระทำ แต่ "ชื่อนี้สำคัญไฉน" ดูให้ดีไม่ใช่ชื่อนั้นนะ ชื่อนี้สำคัญไฉนก็คือชื่อผสมเสร็จ เพราะชื่อสอดคล้องกับมันมาก เจ้าผสมเสร็จผสมมาจากสัตว์อะไรบ้าง เอาส่วนรูปร่างมี จมูกคล้ายช้าง หูเอาของหมี(อย่าไปผวนนะเดียวเป็นเรื่องอื่น) ตืนคล้ายหมู นิสัยคล้ายหมูและช้างรวมกัน ลำตัวคล้ายเอาส่วนต่าง ๆ ของสัตว์หลายชนิดมาต่อชนกัน หางสันแบบกวาง คนเก่าคนแก่เขาเล่าว่านอกจากลำตัวคล้ายสัตว์หลายอย่างมาต่อกัน เนื้อผสมเสร็จยังแบ่งเป็นส่วน ๆ คล้ายเนื้อสัตว์นี้บ้าง โน้นบางตามที่มีส่วนร่างกายคล้ายกับสัตว์นนั้ ๆ นี่มันผสมกันหลายเรื่อง
จากบรรดาสัตว์ทั้งหลายในโลก ผสมเสร็จเป็นสัตว์ที่ถูกออกแบบหลังสุด มันถูกออกแบบจากการเลียนแบบของเก่า แต่ค่อนไปทางประติดประต่อ จับมาชนกันมากกว่า ด้วยส่วนต่าง ๆ ไม่ได้ดัดแปลงอะไร หูก็เหมือนหมีชัด ๆ อะไรอย่างนี้เป็นต้น หรือจะเป็นกิ่งเป็นก้านก็ว่าไป จับจมูกช้างมาใส่ จับหูหมีมาติด จับขาหมูมาวาง ว่ากันไปตามใจนึก ตามชอบใจว่างั้นเถอะ อย่างอื่นน่าจะไม่เลียนแบบสัตว์ใดคืดส่วนหนัง หนังของมันหนามาก
จากที่วิศวกรผสมในครั้งนี้ทำให้เราได้พบสัตว์สัตว์รูปร่างแปลกน่ารัก ใครเข้าสวนสัตว์แล้งบังเอิญเจอเจ้านี่เข้าก็อยากอยู่ใกล้ชิดนาน ๆ น่าเสียดายที่มนุษย์เรายังรู้จัธรรมชาติน้อยไป จากที่รู้จักน้อยนี้เองเราไม่เห็นคุณค่าที่แท้จริงมันสักเท่าไร เราเห็นแต่ผลประโยชน์เพียงสนองกิเลสมากกว่า เราจึงกำลังทำลายธรรมชาติอย่างเมามัน ไม่ว่าเป็นสัตว์ พืช สิ่งของแวดล้อมต่าง ๆ ในทางธรรมชาติ คนเอ๋ย ถึงเวลาแล้วที่ต้องมาช่วยคิดเรื่อง"ธรรมชาติ" ช่วยมาประสมประสานธรรมชาติกับมนุษย์ในทุก ๆ ด้านเพื่ออยู่อย่างสันติสุข และยั่งยืน มาครับมา "ผสมเสร็จ" กันเถอะ มันมีความน่ารักมาก ๆ
http://www.naturedharma.com/data-1643.html