Username:

Password:


  • บ้านกลอนน้อยฯ
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล >> คำประพันธ์ แยกตามประเภท >> กลอน ร้อยกรองหลากลีลา >> เมื่อลมหนาวพัดมา
หน้า: [1]   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อลมหนาวพัดมา  (อ่าน 32338 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Orion264(มือขวา)
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:1106
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 16
จำนวนกระทู้: 154



| |
เมื่อลมหนาวพัดมา
« เมื่อ: 18, ตุลาคม, 2555, 12:22:12 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: เมื่อลมหนาวพัดมา




เมื่อลมหนาวพัดมา


เมื่อลมหนาวมาเยือนเป็นเพื่อนฉัน
พาพัดความผูกพันให้โหยหา
ถึงความหลังวันวานที่ผ่านมา
เคยสุขในวิญญาคราหนาวลม

สูดอากาศหายใจให้ชื่นฉ่ำ
นึกถึงความทรงจำแสนสุขสม
ครั้งวัยเด็กเล็กอยู่นอนคู้กลม
ครางระงมห่มผ้าคราหนาวกาย

เก็บฟางมาก่อซุ้มมุมที่พัก
เอาไม้ปักหลักมั่นพันด้วยหวาย
เป็นสามมุมสุมฟางอย่างเรียงราย
ทบสำทับโดยหมายหลายชั้นฟาง

ปูด้านในใต้ซุ้มให้นุ่มอ่อน
เป็นที่นอนหลีกลมหนาวพรมพร่าง
ปูเสื่อสาดแล้วขยับปรับแนวทาง
ผ้าห่มวางใกล้หมอนที่นอนเรา

ทั้งเพื่อนพี่น้องกันนั้นนอนด้วย
เตรียมผ้าผวยไว้ห่มเผื่อลมเข้า
นอนในซุ้มชุ่มอุรากว่าหนาวเซา
คือเรื่องเล่าความหลังยังฝังจำ




               วันนี้อากาศเริ่มหนาวเย็น  ทำให้นึกถึงความหลังครั้งวัยเด็ก   สมัยก่อนเด็กตามต่างจังหวัดนั้น
เมื่อถึงหน้าหนาวก็จะเป็นฤดูเก็บเกี่ยวพอดี  พวกชาวบ้านจะทำลานนวดข้าวโดยปักหลักตรงกลานลาน  นำข้าวมาสุมกัน
แล้วนำควายมาผูกกับหลักให้เดินวนบนกองข้าวนั้นเพื่อนวดข้าว  บางทีพวกเด็กๆก็ไปช่วยเขานวดข้าว  แล้วถือโอกาส
นอนซุกตัวอยู่ใต้กองฟางนั้นเลย  โดยมีผ้าห่ม(ผ้าผวย)เพียงผืนเดียว
               บางปีพออากาศเริ่มหนาวเย็น   พวกเด็กก็จะเอาไม้มาปักหลักเป็นสามมุมคล้ายการผูกเตนท์แบบสมัยนี้
แล้วนำฟางมาสุมเพื่อทำซุ้มไว้นอนหลบความหนาว  โดยซุ้มนี้จะนอนได้ประมาน 4-5 คน  พวกที่นอนก็คือเด็กๆ
แทนที่จะนอนบนบ้านกลับหลบมานอนที่พื้นดิน  เพราะบนบ้านนั้นลมแรงมากและอากาศหนาวจัด
ชีวิตคนชนบทนั้นส่วนมากบ้านจะทำมาจากไม้ มุงหญ้าคาหรือมุงสังกะสีแล้วแต่ฐานะ  ดังนั้นจึงกั้นความหนาวไม่ได้
              ชีวิตชาวชนบทในหน้าหนาว  โดยเฉพาะเด็กๆ ถ้าไม่ทำซุ้มฟางนอน ก็นอนข้างกองไฟแบบผู้ใหญ่
โดยการก่อกองไฟนั้นต้องใช้ขอนไม้ทั้งดุ้น(ปราะมาณสามดุ้น)มาก่อเป็นกองไฟซึ่งต้องคอยผลักขอนไม้เข้าไปในกองไฟเป็นระยะๆ
เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟดับ  คนก็ปูเสื่อนอนใกล้กองไฟ  บางทีสุนัขก็แอบมานอนขดข้างกองไฟด้วย
เป็นเสี้ยวชีวิตของเด็กตามชนบทที่ไม่ได้มีเงินทองและแสงสีพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก  มีบ้านก็เป็นที่พักอาศัยเท่านั้น
หาได้มีสิ่งบันเทิงเริงใจอาทิเช่นวิทยุ  โทรทัศน์  เกมส์หรือคอมเล่นไม่






รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม

บันทึกการเข้า

สารบัญบทกลอน  "Orion264(มือขวา)"
..


โคลงสี่ แต่งแบบวัวพันหลัก
ยามเย็นยลยั่วเย้า     ยอแสง
แสงแห่งอาทิตย์แรง   เริ่มล้า
ล้าอ่อนอวบอมแดง    ดวงเด่น
เด่นดุจไข่แดงจ้า      ก่อนสิ้นสุรีย์

รีรอเพื่อเพ่งฟ้า        ดูดาว
ดาวเด่นเย็นสกาว      เกลื่อนหล้า
หล้าโลกฉ่ำลมหนาว    พัดโบก
โบกสะบัดพัดโชยท้า   ปะพื้นผิวกาย

กายหนาวคราวรุ่นเนื้อ    หนาวลม
ลมผ่านพานระทม      สั่นสะท้าน
สะท้านอกอารมณ์     ไหวหวั่น
หวั่นจิตจนฟุ้งสร้าน    กว่าพ้นราตรี

Orion264(มือขวา)
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:1106
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 16
จำนวนกระทู้: 154



| |
Re: เมื่อลมหนาวพัดมา
« ตอบ #1 เมื่อ: 18, ตุลาคม, 2555, 12:23:04 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: เมื่อลมหนาวพัดมา



                   หน้าหนาว แถวบ้านผมจะเรียกว่า หน้าลมลง  คือช่วงระยะสัปดาห์แรกที่อากาศเริ่มจะหนาว
จะมีลมหนาวพัดมาอย่างแรงทั้งวันทั้งคืนประมาณ ๑ สัปหาห์หรืออย่างมากไม่เกิน ๑๐ วัน  หลังจากนั้น
ลมจะหยุดและอากาศจะหนาวเย็นจัด ช่วงที่ลมพัดแรงชาวชนบทจะนอนอยู่บนบ้าน  แต่เมื่อลมหยุดแล้ว
บางทีถ้าหนาวมากๆก็จะลงมาก่อไฟผิง  และนอนข้างกองไฟ  สมัยตอนเป็นเด็กนั้นผมจะชอบช่วงที่มีลม
หนาวพัดมามากที่สุด  แต่หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยจะชอบแล้ว เพราะว่ามันหนาว
                  ในตัวเมืองอย่างกรุงเทพนั้นคนมักจะไม่ค่อยรู้รสชาติของความหนาว   เพราะจะหนาวเพียงไม่กี่วันเอง
(สงสัยถูกไอร้อนรถยนต์ทำลายหมด) แต่ในต่างจังหวัดนั้นหนาวยาวนานมากๆ  เริ่มตั้งแต่ปลายตุลา
ไปจนหลังปีใหม่หรือตรุษจีน  ช่วงปลายมกราไปจนเดือนกุมภานั้นก็ยังถือว่าเป็นหน้าหนาวอยู่  สมัยที่เป็นเด็กนั้น
ต้องบอกว่าชอบหน้าหนาวมาก  แต่เดี๋ยวนี้คงไม่ชอบแล้ว  บอกไม่ได้ว่าชอบหน้าอะไร  แต่ที่แน่ๆคือ
เกลียดฤดูร้อน  เพราะร้อนจนคันคะเยอไปทั้งตัว  ในระว่างสามฤดูนี้ช่วงรอยต่อของฤดูกับฤดูน่าจะดีที่สุด
อย่างปลายหน้าร้อนย่างหน้าฝน  หรือปลายหน้าฝนปนหน้าหนาว  หรือปลายหน้าหนาวใกล้หน้าร้อน
เพราะอากาศกำลังเย็นพอดี(ก็ใครใช้ให้เกิดมาจนล่ะ ไม่มีแอร์ใช้  มีเงินตั้งไม่รู้กี่พันล้านไม่รู้จักเบิกมาใช้ เหอะๆๆ
คนเราก็แปลกอย่าง ชอบทำตัวยากจนมีเงินเป็นพันล้าน แต่กลับปล่อยให้อยู่แต่ในธนาคาร  แถมยังอยู่ใน
บัญชีชื่อผู้อื่นด้วย  ทำไมไม่ยอมฝากเป็นชื่อของตัวเองนะ จะได้เบิกมาใช้....เฮ่อ..  )


 




รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, กร กรวิชญ์

บันทึกการเข้า

สารบัญบทกลอน  "Orion264(มือขวา)"
..


โคลงสี่ แต่งแบบวัวพันหลัก
ยามเย็นยลยั่วเย้า     ยอแสง
แสงแห่งอาทิตย์แรง   เริ่มล้า
ล้าอ่อนอวบอมแดง    ดวงเด่น
เด่นดุจไข่แดงจ้า      ก่อนสิ้นสุรีย์

รีรอเพื่อเพ่งฟ้า        ดูดาว
ดาวเด่นเย็นสกาว      เกลื่อนหล้า
หล้าโลกฉ่ำลมหนาว    พัดโบก
โบกสะบัดพัดโชยท้า   ปะพื้นผิวกาย

กายหนาวคราวรุ่นเนื้อ    หนาวลม
ลมผ่านพานระทม      สั่นสะท้าน
สะท้านอกอารมณ์     ไหวหวั่น
หวั่นจิตจนฟุ้งสร้าน    กว่าพ้นราตรี
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.085 วินาที กับ 29 คำสั่ง
กำลังโหลด...