ศรีเปรื่อง
สมาชิกพิเศษ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5750
ออฟไลน์ID Number: 43
จำนวนกระทู้: 488
ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี เพื่อหย่อนฤดี ฯ
|
Permalink: มาณวกฉันท์ ๘
ตามสั่งมา  โชค ฤ ชะตา พาเจอะอนงค์ งามกวะพงศ์ ปารวตี อกมนเรียม เปี่ยมสุขะมี หรรษะฤดี โลกะประกาย แอบ ณ ระเบียง เมียงสิริอร จิตดนุรอน แทบจะละลาย อยากพจนา ว่าอุระชาย มั่นบ่มิกลาย แน่วนิรมล ศรีเปรื่อง ๙ ม.ค. ๒๕๕๖ ปล. ๑. กวะ >> (ราว) กับว่า ๒. ปารวตี >> ชายาพระศิวะ หรือ พระอุมา ๓. มน (มะ-นะ) >> ใจ ๔. ดนุ (ดะ-นุ) แผลงจาก ดนู >> ข้าพเจ้า
รายนามผู้เยี่ยมชม : , เส้นชีวิต ดำเนินไป, รพีกาญจน์, , ลิตเติลเกิร์ล, ลินดา, Black Sword, ตรีประภัสร์ โสม, ลมหนาว ในสายหมอก, มนชิดา พานิช, เนิน จำราย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
รินดาวดี
ผู้บริหารเว็บ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 7069
ออฟไลน์ID Number: 3
จำนวนกระทู้: 745
จะสู้เพื่ออยู่ต่อไป
|
Permalink: Re: มาณวกฉันท์ ๘
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศรีเปรื่อง
สมาชิกพิเศษ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5750
ออฟไลน์ID Number: 43
จำนวนกระทู้: 488
ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี เพื่อหย่อนฤดี ฯ
|
Permalink: Re: มาณวกฉันท์ ๘
 ช้าไปแล้วครับ  นั่ง ณ ลำเรือ เมื่อสุริเยือน ยนค่อยจระเคลื่อน ล่องธะระชล หานชลธาร ใส ฤ ประมาณยลปทุมาศ มา ดาษมิประมาณ ดาระดะธารจิตะสราญ ทุกขะบ่มี อยากจะเผดียง เนียงจระมา ยังนครา กุมภวะปี ร่วมพิศะดู หมู่นลินี ทั่วชลธี ท้น ล้วน กชะแดง ศรีเปรื่อง ๙ ม.ค. ๒๕๕๖ ปล. ๑. ธะระชล แผลงจาก ธาราชล หานชลธาร = หนองหาน ๒. ปทุมา แผลงจาก ปทุม ปทุมาศ = ปทุม + ศ เข้าลิลิต ๓. ดาระดะ แผลงจาก ดารดาษ๔. กุมภวะปี แผลงจาก กุมภวาปี ๕. เผดียง >> เชิญ ๖. เนียง >> นาง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ศรีเปรื่อง
สมาชิกพิเศษ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5750
ออฟไลน์ID Number: 43
จำนวนกระทู้: 488
ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี เพื่อหย่อนฤดี ฯ
|
Permalink: Re: มาณวกฉันท์ ๘
เอื้อมหตะถา คว้าบุษกร เรือก็ คะลอน คระลอน หวิดสิตะแคง ตกหฤทัย ไอ่ยะ! ซะแรง สุดจะระแวง แหยง กลัว มรณัง พ้นกรณีย์ ชีวิตะลา ให้ดนุอา- รมณะพัง จำกระเชียง เบี่ยงจระรัง กลัวสิมิยัง พบยุพเยาว์  ศรีเปรื่อง ๑๑ ม.ค. ๒๕๕๖ ปล. ๑. หตถา (หะ-ตะ-ถา) แผลงจาก หัตถา ๒. คะลอน คระลอน แผลงจาก คลอน เป็นการแผลงคำควบกล้ำโดยแทรกสระ อะ ลงไป มีให้เห็นในงานประพันธ์เก่า ๆ เช่น ครู แผลงเป็น คะรู เปลี่ยนไปใช้ คระลอน แทน เนื่องจากไปเห็นในฉันท์เก่า ๆ ที่แผลง ไคล เป็น คระไล ซึ่งเป็น คล เหมือนกัน ๓. อา- รมณะ เป็นการฉีกคำ จากคำว่า อารมณ์ ๔. กระเชียง (กะ-ระ-เชียง) แผลงจาก กรรเชียง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศรีเปรื่อง
สมาชิกพิเศษ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5750
ออฟไลน์ID Number: 43
จำนวนกระทู้: 488
ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี เพื่อหย่อนฤดี ฯ
|
Permalink: Re: มาณวกฉันท์ ๘
สบนยะนา มานพะพงศ์ จิตะพะวง วุ่นกมะลา พักตระผ่าว ราวอคนา เขิน ณ อุรา มานะพธู
เนตระชะม้าย นัยนะดู แดดุจะฟู ใดบ่มิปาน หลับก็นิมิต จิตตะสราญ รัชนิการ แย้มสุริยน

เป็นครั้งแรกที่แต่งฉันท์เลยเจ้าคะ ขอคำชี้แนะจากพี่ศรีเปรื่องด้วยเจ้าค่ะ ขอขอบคุณเจ้าค่ะ

ลิตเติลเกิร์ลเพิ่งจะเห็น ไม่รู้ว่าแอบมาเขียนตอนไหน  ปลื้มหท ฤ ยา กายะจะลอย ด้วยพธุกลอย นิ่มนฤมล มีจิตะใคร่ ใฝ่ดนุตน ให้มนะพ้น ผ่อนทุขะเบา รีบปฎิบัติ จัดบุษบา ช่อมหุมา มอบยุพเยาว์ หวังวะพธู ดูอุระเรา โปรดเถอะนะเอา พิจะระณา ไว้พิเคราะห์ดู ศรีเปรื่อง ๑๑ ม.ค. ๒๕๕๖ ปล. ขอบคุณท่าน พรายม่าน มากครับ ที่ให้ข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์ ขออภัยด้วยนะครับ ท่านพรายม่าน ที่นำข้อแนะนำมาเผยแพร่โดยไม่ได้ขออนุญาต ท่านศรีเปรื่องครับ ในมาณวกฉันท์บทล่าสุด
ปลื้มหฤยา กายะจะลอย
น่าจะเป็น หทยา จาก หทย-หัวใจ หรือเปล่าครับ
และ
โปรดเถอะนะเอา พิจะระณา
พิจะระ-จะกลายเป็นลหุทั้งสามพยางค์ครับ ถ้ามาจาก พิจารณา-ซึ่งคำอ่านว่า พิ-จาน-ระ-นา ซึ่งผิดกับ นิจ-ที่อ่านว่า นิด-จะ หรือ จิต จิด-ตะ ซึ่งคำแรกก็จะนับเป็นครุได้
ด้วยความเคารพ
พรายม่าน
ผมเลยได้ข้อคิดดี ๆ คือ ในการแต่งฉันท์ ต้องมีพจนานุกรมที่บอกรากศัพท์ำด้วย เช่น มาจาก บาลี หรือ สันสกฤต และ อ่านว่าอย่างไร เพื่อจะได้แผลงคำได้ถูกต้องครับ ๑. พธุ แผลงจาก พธู >> ผู้หญิง ๒. ทุขะ แผลงจาก ทุกข์ ๓. วะ แผลงจาก ว่า ๔. มหุมา แผลงจาก มหึมา (แฮ่ ๆ แผลงเล่น ๆ จริง ๆ ไม่จำเป็น)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศรีเปรื่อง
สมาชิกพิเศษ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5750
ออฟไลน์ID Number: 43
จำนวนกระทู้: 488
ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี เพื่อหย่อนฤดี ฯ
|
Permalink: Re: มาณวกฉันท์ ๘
ศรีประเปรื่อง เฟื่องพิทยา เกี้ยวยุวพา มาล่ะก็นาน หวังอระองค์ ปลงอุระมาน เนิ่นล่ะก็นาน เหนื่อยหฤทัย กริ้วทิพะย์ดา หาพิศะดู ปล่อยดรนู หู่จิตะใจ สุดปละเปลี่ยว เหี่ยวล่ะกระไร จำจระไป หากิ๊กะอร  ๑๔ ม.ค. ๒๕๕๖ ปล. ๑. ล่ะ แผลงจาก แหละ ๒. ทิพะย์ดา แผลงจาก เทพยดา ๓. ปละเปลี่ยว (ปะ-ละ-เปลี่ยว) แผลงจาก เปล่าเปลี่ยว ข้อ ๑-๓ ใช้หลักการแผลงสระครับ ๔. ดรนู (ดะ-ระ-นู) แผลงจาก ดนู >> ข้าพเจ้า เป็นการแผลงคำโดยแทรก ร ลงไปในคำที่มีเสียง อะ แต่ ไม่มีรูป อะ (ไม่ประวิสรรชนีย์) ในงานประพันธ์เก่า ๆ จะมีให้เห็นอยู่บ้าง เช่น แผลง ตลอด เป็น ตรลอด และ สว่าง เป็น สรว่าง แต่ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมครับ ๕. ศรีประเปรื่อง (ศรี-ปะ-ระ-เปรื่อง) แผลงจาก ศรีเปรื่อง ไม่ได้ยึดหลักอะไร แต่ดัดแปลงจากลักษณะการออกเสียง เวลาพูดแล้วหันลิ้นเยอะ ๆ ครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พรายม่าน
|
Permalink: Re: มาณวกฉันท์ ๘
บัวสิจะบาน ต้านทะลุตม ขื่นก็มิขม เข้าชนะคาย ลึกบ่ละลด หมดประจุหมาย ใบรึระบาย บ่นกระแซะบึง
ลบมติมั่น บรรพสมัย ดานภวใด สรรพสะพรึง จากทุรเทศ เขตทมะขึง ดินรึจะดึง บุษบบาน ฯ
พรายม่าน ๑๕ มกราคม ๕๖
ทุรเทศ=ที่อันไม่น่าอยู่ ทมะ=การข่มใจ, การทรมาน บุษบ=ดอกไม้
หมายเหตุ: เนื่องจากฉันท์ได้ต้นแบบมาจากภาษา ปาลีและสันสกฤต ซึ่งมีศัพท์ประกอบด้วยลหุอยู่เป็นอันมาก การแต่งฉันท์ด้วยคำไทยแท้ซึ่งเป็นคำโดด จึงยากและหย่อนความไพเราะไป (อย่างบทแรก) ฉันท์ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะใช้คำที่มีรากจากปาลีและสันสกฤต
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
พรายม่าน
|
Permalink: Re: มาณวกฉันท์ ๘
โถ เถอะน่ะสาว พราวนะพจี ฉันทกวี ใครฤจะรอน คำคณะค่า พาสุวพร ไหนอธิกรณ์ บรรณนิพนธ์
พรายม่าน ๑๕ มกราคม ๕๖
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
พรายม่าน
|
Permalink: Re: สยามมณีฉันท์
สยามมณีฉันท์
กระไรจะขามมิย่ามฉะนั้น เลบงบุหลันฤพรั่นสนาม ประจงประสมวิกรมพิราม เชวงก็วามนิยามนิยม
กวีมิหวั่นประฉันทลักษณ์ ผดุงวิจักขณ์สลักผสม เจรียงพนิตวิจิตรภิรมย์ ผิชอบก็ชมสิขมก็คาย
พรายม่าน ๑๕ มกราคม ๕๖ หมายเหตุ: สยามมณีฉันท์เป็นฉันท์ที่ประดิษฐ์ขึ้นโดยพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ หรือ น.ม.ส.ใช้ ลหุกับครุ สลับกันไป จำนวนพยางค์และสัมผัสเหมือนกลอนแปด สำนวนที่โด่งดังมากของท่านคือ “สยามดรุณ”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศรีเปรื่อง
สมาชิกพิเศษ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5750
ออฟไลน์ID Number: 43
จำนวนกระทู้: 488
ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี เพื่อหย่อนฤดี ฯ
|
Permalink: Re: มาณวกฉันท์ ๘
ท่าน น.ม.ส. มีงานประพันธ์ที่สุดยอดมากมาย หนึ่งในนั้นก็ คือ นิทานเวตาล ที่ทำให้ผมต้องมนต์เสน่ห์ของ มาณวกฉันท์ ครับ กาพย์ฉบัง ๑๖ชายใดไม่เที่ยวเทียวไป ทุกแคว้นแดนไพร มิอาจประสบพบสุข ชายใดอยู่เหย้าเนาทุกข์ ไม่ด้นซนซุก ก็ชื่อว่าชั่วมัวเมา มาณวกฉันท์ ๘จงจระเที่ยว เทียวบทะไป พงพนะไพร ไศละลำเนา ดั้นบถะเดิน เพลินจิตะเรา แบ่งทุขะเบา เชาวนะไวฯ  ปล. ที่น่าสนใจ คือ ฉันท์ของท่านมีสัมผัสระหว่างวรรคทุกวรรคเหมือนกลอน (จริง ๆ ฉันท์ไม่ได้บังคับให้มีสัมผัสทุกวรรค)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
test
บุคคลทั่วไป
|
Permalink: Re: มาณวกฉันท์ ๘
 แหะๆ มาแต่ละบท เหมือนจะง่าย แต่ไม่ง่ายเลยเจ้าค่ะ ขอมุดตำราก่อนเจ้าค่ะ :007:
ข้อยก็แต่งบ่เป็น แต่มานั่งเป็นกำลังใจให้ละกันเด้อ น้องหญิงสู้สู้ น้องหญิงสู้ตาย น้องหญิงไว้ลาย สู้จนตาลายเลยน้องหญิง 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|