Black Sword
ผู้บริหารเว็บ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 65535
ออฟไลน์ID Number: 88
จำนวนกระทู้: 10397
เมื่อ มยุรธุชกางปีกฟ้อน... มวลอักษรก็ร่อนรำ
|
Permalink: กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร (เจ้าฟ้ากุ้ง)
 ขอบคุณรูปภาพต้นแบบจาก Internet
กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร (เจ้าฟ้ากุ้ง) บทเห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศมี ๒ เรื่อง เรื่องที่ ๑ ชมพยุหยาตราทางชลมารค ขึ้นตั้งแต่ "พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย" ต่อชมกระบวนเรือ ว่าด้วยชมปลา ชมไม้ ชมนก เป็นนิราศ บทเห่เรือนี้เห็นได้ในสำนวนว่าเจ้าฟ้าธรรมธิเบศทรงนิพนธ์สำหรับเห่เรือพระที่นั่งของท่านเองเวลาตามเสด็จขึ้นพระบาท ออกจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเช้า พอเย็นก็ถึงท่าเจ้าสนุก บทเห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศเรื่องที่ ๒ นั้นเป็นคำสังวาส เอาเรื่องพระยาครุฑลักนางกากีมาทำบท ขึ้นต้นว่า "กางกรโอบอุ้มแก้ว เจ้างามแพร้วสบสรรพางค์" แล้วว่าต่อไปเป็นกระบวนสังวาสจนจบ ถ้าสังเกตจะเห็นได้ในสำนวนเอาเรื่องจริงอันเป็นความขำลี้ลับในพระราชหฤทัยของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศออกมาว่าตลอดเรื่อง เรื่องที่ว่านั้นอาจจะรู้ได้ในปัจจุบันนี้ ด้วยมีปรากฏอยู่ในหนังสือพระราชพงศาวดารที่ได้กล่าวถึงเจ้าฟ้าธรรมธิเบศลอบผูกสมัครรักใคร่กับเจ้าฟ้าสังวาล จึงเข้าใจว่าบทเรื่องหลังนี้ว่าด้วยเรื่องการสังวาสเจ้าฟ้าสังวาลทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้แต่เดิมเห็นจะใช้บทเรื่องนี้เห่แต่เฉพาะเวลาทรงเรือประพาสโดยลำพัง เช่นเที่ยวทุ่ง เป็นต้น
ที่มา : ประชุมกาพย์เห่เรือ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, ปลายฝน คนงาม, กร กรวิชญ์, เนื้อนาง นิชานาถ, น้ำหนาว, ก้าง ปลาทู, กอหญ้า กอยุ่ง, 1p, รพีกาญจน์, ตูมตาม, หญิงหนิง พราววลี, Paper Flower, ลมหนาว ในสายหมอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Black Sword
ผู้บริหารเว็บ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 65535
ออฟไลน์ID Number: 88
จำนวนกระทู้: 10397
เมื่อ มยุรธุชกางปีกฟ้อน... มวลอักษรก็ร่อนรำ
|
Permalink: Re: กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร (เจ้าฟ้ากุ้ง)
กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร (เจ้าฟ้ากุ้ง)
เห่ชมเรือกระบวน โคลง ๐ ปางเสด็จประเวศด้าว ชลาลัย ทรงรัตนพิมานชัย กิ่งแก้ว พรั่งพร้อมพวกพลไกร แหนแห่ เรือกระบวนต้นแพร้ว เพริศพริ้งพายทอง ฯ
ช้าลวะเห่ ๐ พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย กิ่งแก้วแพร้วพรรณราย พายอ่อนหยับจับงามงอน ๐ นาวาแน่นเป็นขนัด ล้วนรูปสัตว์แสนยากร เรือริ้วทิวธงสลอน สาครลั่นครั่นครื้นฟอง ๐ เรือครุฑยุดนาคหิ้ว ลิ่วลอยมาพาผันผยอง พลพายกรายพายทอง ร้องโห่เห่โอ้เห่มา ๐ สรมุขมุขสี่ด้าน เพียงพิมานผ่านเมฆา ม่านกรองทองรจนา หลังคาแดงแย่งมังกร ๐ สมรรถชัยไกรกาบแก้ว แสงแวววับจับสาคร เรียบเรียงเคียงคู่จร ดั่งร่อนฟ้ามาแดนดิน ๐ สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม ๐ เรือชัยไวว่องวิ่ง รวดเร็วจริงยิ่งอย่างลม เสียงเส้าเร้าระดม ห่มท้ายเยิ่นเดินคู่กัน ฯ
มูลวะเห่ ๐ คชสีห์ทีผาดเผ่น ดูดังเป็นเห็นขบขัน ราชสีห์ที่ยืนยัน คั่นสองคู่ดูยิ่งยง ๐ เรือม้าหน้ามุ่งน้ำ แล่นเฉื่อยฉ่ำลำระหง เพียงม้าอาชาทรง องค์พระพายผายผันผยอง ๐ เรือสิงห์วิ่งเผ่นโผน โจนตามคลื่นฝืนฝ่าฟอง ดูยิ่งสิงห์ลำพอง เป็นแถวท่องล่องตามกัน ๐ นาคาหน้าดังเป็น ดูเขม้นเห็นขบขัน มังกรถอนพายพัน ทันแข่งหน้าวาสุกรี ๐ เลียงผาง่าเท้าโผน เพียงโจนไปในวารี นาวาหน้าอินทรี มีปีกเหมือนเลื่อนลอยโพยม ๐ ดนตรีมี่อึงอล ก้องกาหลพลแห่โหม โห่ฮึกครึกครื้นโครม โสมนัสชื่นรื่นเริงพล ๐ กรีธาหมู่นาเวศ จากนคเรศโดยสาชล เหิมหื่นชื่นกระมล ยลมัจฉาสารพันมี ฯ
กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร (เจ้าฟ้ากุ้ง)
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, ปลายฝน คนงาม, กร กรวิชญ์, เนื้อนาง นิชานาถ, น้ำหนาว, ก้าง ปลาทู, กอหญ้า กอยุ่ง, 1p, ตูมตาม, หญิงหนิง พราววลี, ลมหนาว ในสายหมอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Black Sword
ผู้บริหารเว็บ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 65535
ออฟไลน์ID Number: 88
จำนวนกระทู้: 10397
เมื่อ มยุรธุชกางปีกฟ้อน... มวลอักษรก็ร่อนรำ
|
Permalink: Re: กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร (เจ้าฟ้ากุ้ง)
เห่ชมปลา โคลง ๐ พิศพรรณปลาว่ายเคล้า คลึงกัน ถวิลสุดาดวงจันทร์ แจ่มหน้า มัตสยาย่อมพัวพัน พิศวาส ควรฤพรากน้องช้า ชวดเคล้าคลึงชม ฯ
ช้าลวะเห่ ๐ พิศพรรณปลาว่ายเคล้า คิดถึงเจ้าเศร้าอารมณ์ มัตสยายังรู้ชม สาสมใจไม่พามา ๐ นวลจันทร์เป็นนวลจริง เจ้างามพริ้งยิ่งนวลปลา คางเบือนเบือนหน้ามา ไม่งามเท่าเจ้าเบือนชาย ๐ เพียนทองงามดั่งทอง ไม่เหมือนน้องห่มตาดพราย กระแหแหห่างชาย ดั่งสายสวาทคลาดจากสม
ทรงแปลง * ๐ แก้มช้ำช้ำใครต้อง อันแก้มน้องช้ำเพราะชม ปลาทุกทุกข์อกกรม เหมือนทุกข์พี่ที่จากนาง ฯ
มูลวะเห่ ๐ น้ำเงินคือเงินยวง ขาวพรายช่วงสีสำอาง ไม่เทียบเปรียบโฉมนาง งามเรืองเรื่อเนื้อสองสี ๐ ปลากรายว่ายเคียงคู่ เคล้ากันอยู่ดูงามดี แต่นางห่างเหินพี่ เห็นปลาเคล้าเศร้าใจจร
ทรงแทรก ๕ บท ๐ หางไก่ว่ายแหวกว่าย หางไก่คล้ายไม่มีหงอน คิดอนงค์องค์เอวอร ผมประบ่าอ่าเอี่ยมไร ๐ ปลาสร้อยลอยล่องชล ว่ายเวียนวนปนกันไป เหมือนสร้อยทรงทรามวัย ไม่เห็นเจ้าเศร้าบ่วาย ๐ เนื้ออ่อนอ่อนแต่ชื่อ เนื้อน้องฤๅอ่อนทั้งกาย ใครต้องข้องจิตชาย ไม่วายนึกตรึกตรึงทรวง ๐ ปลาเสือเหลือที่ตา เลื่อนแหลมกว่าปลาทั้งปวง เหมือนตาสุดาดวง ดูแหลมล้ำขำเพราคม ๐ แมลงภู่คู่เคียงว่าย เห็นคล้ายคล้ายน่าเชยชม คิดความยามเมื่อสม สนิทเคล้าเจ้าเอวบาง ๐ หวีเกศเพศชื่อปลา คิดสุดาอ่าองค์นาง หวีเกล้าเจ้าสระสาง เส้นเกศสลวยรวยกลิ่นหอม ๐ ชะแวงแฝงฝั่งแนบ ชะวาดแอบแปบปนปลอม เหมือนพี่แอบแนบถนอม จอมสวาทนาฏบังอร ๐ พิศดูหมู่มัจฉา ว่ายแหวกมาในสาคร คะนึงนุชสุดสายสมร มาด้วยพี่จะดีใจ ฯ
* สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานไว้ว่า ที่ว่าทรงแปลง ทรงแทรก เข้าใจว่าพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จฯ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรง แต่ที่ว่า ทรงแทรก ๕ บท พิเคราะห์ดูตามกลอนเป็น ๗ บท ได้วงไว้เป็นสำคัญ แต่บางที เจ้าฟ้าธรรมธิเบศจะทรงแทรกและทรงแปลงด้วยพระองค์เอง เพราะมีความคล้ายกันบางบทในนิราศธารโศก
เห่ชมไม้ โคลง ๐ เรือชายชมมิ่งไม้ มีพรรณ ริมท่าสาครคันธ์ กลิ่นเกลี้ยง เพล็ดดอกออกแกมกัน ชูช่อ หอมหื่นรื่นรสเพี้ยง กลิ่นเนื้อนวลนาง ฯ
ช้าลวะเห่ ๐ เรือชายชมมิ่งไม้ ริมท่าไสวหลากหลายพรรณ เพล็ดดอกออกแกมกัน ส่งกลิ่นเกลี้ยงเพียงกลิ่นสมร ๐ ชมดวงพวงนางแย้ม บานแสล้มแย้มเกสร คิดความยามบังอร แย้มโอษฐ์ยิ้มพริ้มพรายงาม ๐ จำปาหนาแน่นเนื่อง คลี่กลีบเหลืองเรืองอร่าม คิดคะนึงถึงนงราม ผิวเหลืองกว่าจำปาทอง ๐ ประยงค์ทรงพวงร้อย ระย้าย้อยห้อยพวงกรอง เหมือนอุบะนวลละออง เจ้าแขวนไว้ให้เรียมชม ๐ พุดจีบกลีบแสล้ม พิกุลแกมแซมสุกรม หอมชวยรวยตามลม เหมือนกลิ่นน้องต้องติดใจ ๐ สาวหยุดพุทธชาด บานเกลื่อนกลาดดาษดาไป นึกน้องกรองมาลัย วางให้พี่ข้างที่นอน
มูลวะเห่ ๐ พิกุลบุนนาคบาน กลิ่นหอมหวานซ่านขจร แม้นนุชสุดสายสมร เห็นจะวอนอ้อนพี่ชาย ๐ เต็งแต้วแก้วกาหลง บานบุษบงส่งกลิ่นอาย หอมอยู่ไม่รู้หาย คล้ายกลิ่นผ้าเจ้าตาตรู ๐ มะลิวัลย์พันจิกจวง ดอกเป็นพวงร่วงเรณู หอมมาน่าเอ็นดู ชูชื่นจิตคิดวนิดา ๐ ลำดวนหวนหอมตรลบ กลิ่นอายอบสบนาสา นึกถวิลกลิ่นบุหงา ร่ำไปเจ้าเศร้าถึงนาง ๐ รวยรินกลิ่นรำเพย คิดพี่เคยเชยกลิ่นปราง นั่งแนบแอบเอวบาง ห่อนแหห่างว่างเว้นวัน ๐ ชมดวงพวงมาลี ศรีเสาวภาคย์หลากหลายพรรณ วนิดามาด้วยกัน จะอ้อนพี่ชี้ชมเชย ฯ
เห่ชมนก โคลง ๐ รอนรอนสุริยโอ้ อัสดง เรื่อยเรื่อยลับเมรุลง ค่ำแล้ว รอนรอนจิตจำนง นุชพี่ เพียงแม่ เรื่อยเรื่อยเรียมคอยแก้ว คลับคล้ายเรียมเหลียว ฯ
ช้าลวะเห่ ๐ เรื่อยเรื่อยมารอนรอน ทิพากรจะตกต่ำ สนธยาจะใกล้ค่ำ คำนึงหน้าเจ้าตาตรู ๐ เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง นกบินเฉียงไปทั้งหมู่ ตัวเดียวมาพลัดคู่ เหมือนพี่อยู่ผู้เดียวดาย ๐ เห็นฝูงยูงรำฟ้อน คิดบังอรร่อนรำกราย สร้อยทองย่องเยื้องชาย เหมือนสายสวาทนาดนวยจร ๐ สาลิกามาตามคู่ ชมกันอยู่สู่สมสมร แต่พี่นี้อาวรณ์ ห่อนเห็นเจ้าเศร้าใจครวญ ๐ นางนวลนวลน่ารัก ไม่นวลพักตร์เหมือนทรามสงวน แก้วพี่นี้สุดนวล ดั่งนางฟ้าหน้าใยยอง ๐ นกแก้วแจ้วแจ่มเสียง จับไม้เรียงเคียงคู่สอง เหมือนพี่นี้ประคอง รับขวัญน้องต้องมือเรา ฯ
มูลวะเห่ ๐ ไก่ฟ้ามาตัวเดียว เดินท่องเที่ยวเลี้ยวเหลี่ยมเขา เหมือนพรากจากนงเยาว์ เปล่าใจเปลี่ยวเหลียวหานาง ๐ แขกเต้าเคล้าคู่เคียง เรียงจับไม้ไซ้ปีกหาง เรียมคะนึงถึงเอวบาง เคยแนบข้างร้างแรมนาน ๐ ดุเหว่าเจ่าจับร้อง สนั่นก้องซ้องเสียงหวาน ไพเราะเพราะกังวาน ปานเสียงน้องร้องสั่งชาย ๐ โนรีสีปานชาด เหมือนช่างฉลาดวามแต้มลาย ไม่เท่าเจ้าโฉมฉาย ห่มตาดพรายกรายกรมา ๐ สัตวาน่าเอ็นดู คอยหาคู่อยู่เอกา เหมือนพี่ที่จากมา ครวญหาเจ้าเศร้าเสียใจ ๐ ปักษีมีหลายพรรณ บ้างชมกันขันเพรียกไพร ยิ่งฟังวังเวงใจ ล้วนหลายหลากมากภาษา ฯ
กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร (เจ้าฟ้ากุ้ง)
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, รพีกาญจน์, ปลายฝน คนงาม, กร กรวิชญ์, เนื้อนาง นิชานาถ, Paper Flower, น้ำหนาว, ก้าง ปลาทู, กอหญ้า กอยุ่ง, 1p, ตูมตาม, หญิงหนิง พราววลี, ลมหนาว ในสายหมอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Black Sword
ผู้บริหารเว็บ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 65535
ออฟไลน์ID Number: 88
จำนวนกระทู้: 10397
เมื่อ มยุรธุชกางปีกฟ้อน... มวลอักษรก็ร่อนรำ
|
Permalink: Re: กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร (เจ้าฟ้ากุ้ง)
เห่เรื่องกากี (ของเดิม) โคลง ๐ กางกรอุ้มโอบแก้ว กากี ปีกกระพือพาศรี สู่งิ้ว ฉวยฉาบคาบนาคี เป็นเหยื่อ หางกระหวัดรัดหิ้ว สู่ไม้รังเรียง ฯ
กาพย์ ๐ กางกรอุ้มโอบแก้ว เจ้างามแพร้วสบสรรพางค์ ปีกปกอกเอวนาง พลางคลึงเคล้าเต้าจรจรัล ๐ ฉวบฉาบคาบนาคา เป็นภักษาพาผกผัน หางกระหวัดรึงรัดพัน ดั้นเมฆามาสิมพลี ๐ ดลสถานพิมานมาศ เกลียวกลมสวาทนาฎกากี เหิมหวลยวลกามี ปรีดาแนบแอบอิงองค์ ๐ เริงรื่นชื่นเชยปราง พลางคลึงเคล้าเต้าบุษบง กอดเกื้อเนื้อนวลหง ปลงสวาทชมสมเสพย์สมร ๐ กากีแน่งน้อยนาฎ อภิวาทประนมกร ก้มเกล้ากล่าวชอ้อน ซอนซบหน้าตาเมียงมัน ๐ ปักษีกรีฑาชม ภิรมย์เปรมเกษมสันต์ กลมเกลียวเกี่ยวกรพัน ผันยั่วเย้าเคล้าคลึงชม ๐ สองสุขสองสังวาส แสนสุดสวาทสองสู่สม สองสนิทนิทรารมณ์ กลมเกลียวชู้สู่สมสอง ๐ แย้มยิ้มพริ้มพรักตรา สาภิรมย์สมจิตปอง แสนสนุกสุขสมพอง ในห้องแก้วแพรวพรรณราย ๐ ลมพัดกลัดเมฆเกลื่อน ฟ้าลั่นเลื่อนแลบแสงพราย วลาหกตกโปรยปราย สายสินธุ์นองท้องธารา ๐ เหราร่าเริงรื่น ว่ายเคล้าคลื่นหื่นหรรษา สองสมกลมกรีฑา เปนผาสุกทุกนิรันดร์ ฯ
เห่เรื่องกากี (ได้มาใหม่) ช้าลวะเห่ ๐ สุบรรณแผลงเดชล้ำ บินบน กางปีกบังสุริยน มืดฟ้า ร่อนลงสู่ไพชยนต์ ปรางค์มาศ เข้านั่งแอบนุชเคล้า แนบเนื้อนวลสมร ฯ
มูลวะเห่ ๐ สุบรรณสำแดงฤทธิ์ ให้มืดมิดปิดอัมพร ร่อนลงตรงบัญชร จรสู่น้องแก้วกากี ๐ กล่าวรสพจนาท สายสุดสวาทเจริญศรี ผินหน้ามาพาที พี่คือชายชาญสกา ๐ ประสงค์จำนงรัก จึงลอบลักเข้ามาหา หวังเชิญแก้วกานดา ไปสู่ฟ้าพิมานจันทร์ ๐ เสวยรมย์สมบัติพี่ ในสิมพลีเกษมสันต์ แล้วจะพาเจ้าจรจรัล เที่ยวชมชั้นพระเมรุธร ๐ พี่จะชี้ชมทรายแก้ว งามพรายแพร้วเชิงสิงขร แม่น้ำสีทันดร สิงขรกั้นเป็นกันกง ๐ จะพาชมพิทยาธร ฝูงกินนรแลเหมหงส์ เหล่าสัตว์ตระกูลวงศ์ อยู่ในดงเขาสัตตภัณฑ์ ๐ จะได้ชมนารีผล งามสกลดังแสร้งสรรค์ อยู่ยอดเขาอัสสกรรณ ฝูงคนธรรพ์มาชมเชย ๐ จะพาไปไกรลาส เฝ้าเบื้องบาทพระสยม ดูเทพมาบังคม จับระบำรำผาลา ๐ เทพบุตรตีวงซ้าย สาวสวรรค์ย้ายมาฝ่ายขวา แทรกเปลี่ยนเวียนไปมา กรคว้าไขว่ไล่พัลวัน ๐ อย่าอาไลยมนุษย์เลย ไปชมเชยพิมานสวรรค์ ว่าพลางทางติดพัน ผันจุมพิตชิดชมนาง ฯ
เห่เรื่องกากี (บทของเดิม) ช้าลวะเห่ ๐ กากีกรป้องปัด กรครุฑ ไยจึงมายื้อยุด เหนี่ยวน้อง ไม่เกรงพระปิ่นมกุฏ จอมราช เลยนา มาอาจออกคำพร้อง ล่อเลี้ยวเจรจา ฯ
มูลวะเห่ ๐ กากีกรป้องปัด ต้องสัมผัสด้วยปักษา เสียวซ่านดาลกรีฑา มานะใจให้อัปมาน ๐ ตอบรสพจน์วาที ต้องเจ้านี้โอหังการ ไม่เกรงพระภูบาล ทั้งไภยพาลในอบาย ๐ ถึงเป็นชายชาญสกา ไม่เจตนาอย่างพักหมาย ฝ่ายเจ้าก็เลิศชาย สายสุริย์วงศ์พงศ์เทวัญ ๐ เสวยทิพย์พิมานทอง ฝูงนางน้องล้วนสาวสวรรค์ ไม่ควรมาผูกพัน จะพากันตกนรกานต์ ๐ ซึ่งว่าจะพาชม บรมสุขสนุกสนาน ขอบรสพจมาน ไม่ควรการอย่าเจรจา ๐ ครุฑฟังสายสุดสวาท ปรามาสกนิษฐา เจ้าดวงทิพย์มณฑา วาจาจัดสารพัดงอน ๐ พี่ประมาทอาจหาญนัก เพราะจงรักเจ้าสายสมร เท่าฟ้าแผ่นดินดอน ห่อนกลัวเวรเพราะหวังใจ ๐ ขอฝากไมตรีจิต กว่าชีวิตจะตักไษย ว่าพลางทางคว้าไขว่ สัพยอกเย้าหยอกนาง ฯ
กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร (เจ้าฟ้ากุ้ง)
รายนามผู้เยี่ยมชม : รพีกาญจน์, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ตูมตาม, ลิตเติลเกิร์ล, น้ำหนาว, หญิงหนิง พราววลี, ก้าง ปลาทู, Paper Flower, กอหญ้า กอยุ่ง, ลมหนาว ในสายหมอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Black Sword
ผู้บริหารเว็บ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 65535
ออฟไลน์ID Number: 88
จำนวนกระทู้: 10397
เมื่อ มยุรธุชกางปีกฟ้อน... มวลอักษรก็ร่อนรำ
|
Permalink: Re: กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร (เจ้าฟ้ากุ้ง)
เห่บทสังวาส โคลง ๐ พี่ชมพี่เชยแล้ว พลางถาม เจ้ามิอืออำความ ไป่พร้อง เจ้าเอื้อนมิเออขาม เขินพี่ อยู่ฤๅ ผินพักตรมาอย่าข้อง ขัดแค้นเคืองเลย ฯ
ช้าลวะเห่ ๐ พี่ชมพี่เชยพลาง พี่ถามนางเจ้าไม่อือ เจ้าเอื้อนอายพี่ฤๅ พี่ขอถามความจริงนาง ๐ พิศวงทรงรวยรูป พลางกอดจูบลูบคอนาง ฉุดชักสไบบาง พลางคลึงเคล้าเย้ายวนสม ๐ พิศรูปก็น่ารัก พิศพักตรก็น่าชม อ้อนแอ้นอรเอวกลม ชมชวัญน้องต้องตามชาย ๐ ใครเห็นเป็นขวัญเนตร ลืมทุกข์เทวษเจตน์จงหมาย มาดนุชสุดเสมอกาย บ่วายรักสักนาที ฯ
มูลวะเห่ ๐ โหยหวนครวญใคร่นาง อกเพียงพ่างล้างชีวี นั่งนอนห่อนฤๅมี สิ่งซึ่งสุขทุกเวลา ๐ คิดเคยเชยชมน้อง ไม่ห่างห้องสองเสน่หา เป็นสุขทุกเวลา มาจากได้ให้อาวรณ์ ๐ อกเอ๋ยเคยสังวาส กรรมบำราศคลาสคลาสมร นับเดือนเลื่อนปีจร ห่อนเห็นแล้วแก้วตาเรียม ๐ พุ่มพวงดวงดอกฟ้า ในใต้หล้าหาไหนเทียม โฉมงามทรามเสงี่ยม เรียมรักเจ้าเท่าดวงใจ ฯ
เห่ครวญ โคลง ๐ รอนรอนสุริยคล้อย สายัณห์ เรื่อยเรื่อยเรื่ยแสงจันทร์ ส่องฟ้า รอนรอนจิตกระสัน เสียวสวาท แม่เอย เรื่อยเรื่อยเรียมคอยถ้า ที่นั้นห่อนเห็น ฯ
กาพย์ ๐ เรื่อยเรื่อยมารอนรอน สุริยาจรเข้าสายัณห์ เรื่อรองส่องสีจันทร์ ส่งแสงกล้าน่าพิศวง ๐ ลิ่วลิ่วจันทร์แจ่มฟ้า เหมือนพักตราหน้านวลผจง สูงสวยรวยรูปทรง ส่งสีเจ้าเท่าสีจันทร์ ๐ เอวอ่อนชะอ้อนองค์ โฉมอนงค์ทรงสาวสวรรค์ หาไหนไม่เทียมทัน ขวัญเนตรพี่นี้น่ารัก ๐ ขาวสุดพุดจีบจีน เจ้ามีสีนพี่มีศักดิ์ ทั้งวังเขาชังนัก แต่พี่รักเจ้าคนเดียว ๐ นอนนั่งตั้งอาลัย สายสุดใจไม่แลเหลียว หวังชมสมกลมเกลียว ควรฤๅน้องข้องใจเคือง ฯ
ช้าลวะเห่ ๐ ขาวสุดพุดซ้อนแซม เนื้อแอร่มอร่ามเหลือง โฉมอ่ากว่าทั้งเมือง หนแห่งใดไม่เหมือนเลย ๐ ได้น้องทองนพมาศ มาสังวาสพาดชมเชย ร่วมเรือนเพื่อนพิงเขนย เคยวิงวอนอ่อนหวานคำ ๐ ฝนตกยกปีกป้อง ฟ้าร้องต้องเอาตนงำ ชอกเชื้อเนื้อนวลขำ อ่อนละมุนอุ่นอกเรียม ๐ รักนุชสุดสายใจ ต้องหฤทัยไม่เท่าเทียม ขอต้องน้องอายเหนียม เกรียมจิตเจ้าเผ้าทุกข์ทน ๐ ฝนตกฝนหากตก แก้วกับอกอย่าโกรธฝน ลมพัดรับขวัญบน แก้วโกมลมานอนเนา ๐ ฝนตกไม่ทั่วฟ้า เย็นแหล่งหล้าในภูเขา ไม่เย็นในอกเรา เพราะเพื่อนเคล้าเจ้าอยู่ไกล ฯ
มูลวะเห่ ๐ เรียมร่ำน้ำตาตก อกร้อนรุ่มดังสุมไฟ แสนคะนึงถึงสายใจ เจ้าไกลสวาทนิราศเรียม ฯ
โคลง ๐ เสียงสรวลระรี่นี้ เสียงใด เสียงนุชพี่ฤๅใคร ใคร่รู้ เสียงสรวลเสียงทรามวัย นุชพี่ มาแม่ เสียงบังอรสมรผู้ อื่นนั้นฤๅมี ฯ
มูลวะเห่ ๐ เสียงสรวลระรี่นี้ เสียงแก้วพี่หรือเสียงใคร เสียงสรวลเสียงทรามวัย สุดสายใจพี่ตามมา ๐ ลมชวยรวยกลิ่นน้อง หอมเรื่อยต้องคลองนาสา เคลือบเคล้นเห็นคล้ายมา เหลียวหาเจ้าเปล่าวังเวง ๐ ยามสองฆ้องยามย่ำ ทุกคืนค่ำย่ำอกเอง เสียงปี่มี่ครวญเครง เหมือนเรียมคร่ำร่ำครวญนาน ๐ ล่วงสามยามปลายแล้ว จนไก่แก้วแว่วขันขาน ม่อยหลับกลับบันดาล ฝันเห็นน้องต้องติดต ๐ เพรางายวายเสพรส แสนกำสรดอดโอชา อิ่มทุกข์อิ่มชลนา อิ่มโศกาหน้านองชล ๐ เวรามาทันแล้ว จึงจำแคล้วแก้วโกมล ให้แค้นแสนสุดทน ทุกข์ถึงเจ้าเศร้าเสียดาย ๐ งามทรงวงดั่งวาด งามมารยาทนาดกรกราย งานพริ้มยิ้มแย้มพราย งามคำหวานลานใจถวิล ๐ แต่เช้าเท่าถึงเย็น กล้ำกลืนเข็ญเป็นอาจิณ ชายใดในแผ่นดิน ไม่เหมือนพี่ที่ตรอมใจ ฯ
โคลง ๐ เรียมทนทุกข์แต่เช้า ถึงเย็น มาสู่สุขคืนเข็ญ หม่นไหม้ ชายใดจากสมรเป็น ทุกข์เท่า เรียมเลย จากคู่วันเดียวได้ ทุกข์ปิ้มปานปี ฯ
สวะเห่ ๐ เห่แลเรือ เห่ละเห่เห เห่โหวเห่โห เหโหวเห่เห้ เห่เหเห่เหเห่ โอละเห่ ๐ สาละวะเห่ โหเห่เห เหเห่ เหเห่เห โอละเห่ ๐ ช้าลวะเห่ เหเห่ เห่เหเห่ โอละเห่ เจ้าเอยก็พาย พี่ก็พาย พายเอยลง พายลงให้เต็มพาย โอวโอวเห่ ๐ ช้าลวะเห่ โหเห่เห เหเห เหเห่เห โอละเห่ มูละเหเห่เห้ โอเห้มารา โอเห้เจ้าข้า โอเห้เจ้าข้า มารา ไชโย สีเอยไชย สีไชยแก้วเอย ไชยเอยแก้ว ไชยแก้ว พ่อเอย โอวโอว ฯ
- จบบริบูรณ์ -
กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร (เจ้าฟ้ากุ้ง) ที่มา : ประชุมกาพย์เห่เรือ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร
รายนามผู้เยี่ยมชม : รพีกาญจน์, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ตูมตาม, ลิตเติลเกิร์ล, น้ำหนาว, หญิงหนิง พราววลี, ก้าง ปลาทู, Paper Flower, กอหญ้า กอยุ่ง, ลมหนาว ในสายหมอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|