พรายม่าน
|
Permalink: วิชชุมมาลาฉันท์ ๘ - กล้วยไม้
กล้วยไม้๑ วิชชุมมาลาฉันท์ ๘
กลีบรานก้านร่วง เซ่นสรวงบัดสี เสียงปืนครืนคลี ปลิดดอกปลดดวง กล้วยไม้ไกลมั่น ปลูกปันเปลี่ยนหวง ตันหยงปรงพลวง หวังร่มห่มใบ
แต่ดินผ่าวเดือด กรังเลือดเกลื่อนร่าง ช่อกล่นบนทาง กลบถมเด็กไทย สิ้นแล้วสายรุ้ง หมดมุ่งวันใหม่ ฉีกวิ่นสิ้นใจ รากมอดยอดโรย ฯ
พรายม่าน ๑๘ มกราคม ๕๖
รายนามผู้เยี่ยมชม : รพีกาญจน์, กรกช, ปลายฝน คนงาม, สาวเครือฟ้า, อักษราวุธ, กอหญ้า กอยุ่ง, รินดาวดี, ลิตเติลเกิร์ล, เนื้อนาง นิชานาถ, Thammada, ฟองเมฆ, ลมหนาว ในสายหมอก, มนชิดา พานิช, Black Sword
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พรายม่าน
|
Permalink: Re: วิชชุมมาลาฉันท์ ๘
กล้วยไม้ ๒ กลอนสี่ ๐ ดั่งเสียงสายฟ้า สาดห่ากระสุน ปลิวหินกินฝุ่น ร่างหมุนเลือดนอง ๐ รถคว้างตะแคง ไถแร่งท้องร่อง ครูยับพับกอง สมต้องใจพาล ๐ รากคว้าอากาศ ใบพาดเพลิงผลาญ กลางไหม้ไฟมาร ดินกาฬตะกอน ๐ อีกสักกี่กอ กี่ช่อพอสอน กี่สวยม้วยมรณ์ จึงอ่อนหยาบอาย ฯ
พรายม่าน ๑๘ มกราคม ๕๖
รายนามผู้เยี่ยมชม : รพีกาญจน์, กรกช, ปลายฝน คนงาม, สาวเครือฟ้า, อักษราวุธ, กอหญ้า กอยุ่ง, รินดาวดี, ลิตเติลเกิร์ล, Thammada, ฟองเมฆ, ลมหนาว ในสายหมอก, Black Sword
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศรีเปรื่อง
สมาชิกพิเศษ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5750
ออฟไลน์ID Number: 43
จำนวนกระทู้: 488
ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี เพื่อหย่อนฤดี ฯ
|
Permalink: Re: วิชชุมมาลาฉันท์ ๘
ยามเฝ้าไพร
สองเท้าก้าวเดิน ข้ามเนินโขดขอน ฝ่าพงดงดอน กินนอนกลางทราย ขุนเขาผืนป่า มีค่าเหลือหลาย โปรดอย่าทำลาย ต้นสายธารา
ขอปกขอป้อง คุ้มครองยืนนาน แม้จักแหลกราญ ถูกผลาญชีวา เพื่อลูกหลานเหลน พักเอนพึ่งพา ถือปืนเดินหน้า หาญท้านายทุน
ศรีเปรื่อง ๑๘ ม.ค. ๒๕๕๖
รายนามผู้เยี่ยมชม : รพีกาญจน์, กรกช, ปลายฝน คนงาม, สาวเครือฟ้า, อักษราวุธ, กอหญ้า กอยุ่ง, ลิตเติลเกิร์ล, Thammada, ฟองเมฆ, ลมหนาว ในสายหมอก, Black Sword
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พรายม่าน
|
Permalink: Re: วิชชุมมาลาฉันท์ ๘
กล้วยไม้ ๓ กาพย์ธนัญชยางค์
๐ ระลิ่วล่วงแล้ว กล้วยไม้ใบแก้ว ดอกปลิวทิวแถว ทับเถื่อนเปื้อนไทย เพียงช็อล์กกระดาน จะต้านพาลไหน เกินฝืนปืนไฟ ระเบิดร่างบาง
๐ เพียรผลิปริช่อ ปลูกแต้มแซมต่อ หวังมั่นวันรอ รุ่งเท่าเผ่าทาง แต่ถิ่นดินนี้ บัดพลีผีสาง ขุดแค้นระคาง ฆ่าแล่แม้ครู ฯ
พรายม่าน ๑๘ มกราคม ๕๖
หมายเหตุ: คำประพันธ์ทั้งสามประเภท มีลักษณะทางฉันทลักษณ์คล้ายกันมาก จึงอาจทำให้หลงผิดได้บ่อยๆ วิชชุมมาลาฉันท์ ๘ นั้น บังคับครุล้วนและมีสัมผัสเหมือนกาพย์ กาพย์ธนัญชยางค์ (สุราคนางค์ ๓๒) ไม่บังคับครุลหุ ส่วนกลอนสี่จะใช้สัมผัสแบบกลอน ซึ่งแน่นอนว่าไม่บังคับครุลหุเช่นกัน ข้อน่าสังเกตอีกประการหนึ่งก็คือ มาตราคณะ ทั้งสามมีการแบ่งจำนวนบทต่างกันเล็กน้อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศรีเปรื่อง
สมาชิกพิเศษ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5750
ออฟไลน์ID Number: 43
จำนวนกระทู้: 488
ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี เพื่อหย่อนฤดี ฯ
|
Permalink: Re: วิชชุมมาลาฉันท์ ๘
อืมม... อย่างที่ท่านพรายม่านบอกจริง ๆ สับสันง่ายมาก
ขอบคุณท่านพรายม่านมากครับ ที่เอาความรู้ดี ๆ มาเผื่อแผ่กัน
ด้วยจิตคารวะยิ่ง
ศรีเปรื่อง ๒๓ ม.ค. ๒๕๕๖
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
share
|
Permalink: Re: วิชชุมมาลาฉันท์ ๘
@ เขียนฉันท์ฝันไกล.....หวังใจนักเรียน โน้มนำเธอเพียร...........อ่านเขียนกลอนกานท์ ฉันท์นี้น่าเริ่ม...............แต่งเติมขับขาน ง่ายง่ายจดจาร.............สานฝันพลันทำ
@ วิชชุมฉันท์ ๘.........แม้คล้ายกลอนสี่ หนึ่งบทกลับมี.............๘ วรรคจงจำ อีกหนึ่งกำหนด........... เสียงยาวทุกคำ ขอเตือนตอกย้ำ..........จักได้ไม่ลืม
*** สังเกตครับ คำท้าย บาทที่ ๔ ส่งสัมผัส คำท้าย บาทที่ ๖ รับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|