Username:

Password:


  • บ้านกลอนน้อยฯ
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล >> คำประพันธ์ แยกตามประเภท >> กลอนจากที่อื่น และจากกวีที่ชื่นชอบ >> :-* ดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า:-*
หน้า: [1]   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: :-* ดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า:-*  (อ่าน 10152 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ณดาอินทร์
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:1785
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 278
จำนวนกระทู้: 124



อีเมล์
| |
:-* ดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า:-*
« เมื่อ: 09, ธันวาคม, 2558, 10:08:52 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: :-* ดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า:-*


กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า





บทที่ ๑

 วังเอ๋ยวังเวง 
หง่างเหง่ง!ย่ำระฆังขาน

ฝูงวัวควายผ้ายลาทิวากาล                 
ค่อยค่อยผ่านท้องทุ่งมุ่งถิ่นตน         

ชาวนาเหนื่อยอ่อนต่างจรกลับ             
ตะวันลับอับแสงทุกแห่งหน

ทิ้งทุ่งให้มืดมัวทั่วมณฑล                    
และทิ้งตนตูเปลี่ยวอยู่เดียว เอย.

บทที่ ๒

 ยามเอ๋ยยามนี้                                        
ปถพีมืดมัวทั่วสถาน

อากาศเย็นเยือกหนาวคราววิกาล       
สงัดปานป่าใหญ่ไร้สำเนียง

มีก็แต่เสียงจังหรีดกระกรีดกริ่ง!        
เรไรหริ่ง! ร้องขรมระงมเสียง

คอกควายวัวรัวเกราะเปาะแปะ!เพียง
รู้ว่าเสียงเกราะแว่วแผ่วแผ่ว เอย.

บทที่ ๓
  
ห่วงเอ๋ยห่วงอะไร                    
ไม่ยิ่งใหญ่เท่าห่วงดวงชีวิต

แม้คนลืมสิ่งใดได้สนิท      
ก็ยังคิดขึ้นได้เมื่อใกล้ตาย

ใครจะยอมละทิ้งซึ่งสิ่งสุข                 
เคยเป็นทุกข์ห่วงใยเสียได้ง่าย

ใครจะยอมละแดนแสนสบาย           
โดยไม่ชายตาใฝ่อาลัย เอย.

บทที่ ๔
  
ต้นเอ๋ยต้นไทร                                 
สูงใหญ่รากย้อยห้อยระย้า

และต้นโพธิ์พุ่มแจ้แผ่ฉายา              
มีเนินหญ้าใต้ต้นเกลื่อนกล่นไป

ล้วนร่างคนในเขตประเทศนี้                
ดุษณีนอนราย ณ ภายใต้

แห่งหลุมลึกลานสลดระทดใจ           
เรายิ่งใกล้หลุมนั้นทุกวัน เอย.

บทที่ ๕

ความเอ๋ยความรู้                         
เป็นเครื่องชูชี้ทางสว่างไสว

หมดโอกาสที่จะชี้ต่อนี้ไป                 
ละห่วงใยอยากรู้ลงสู่ดิน

อันความยากหากให้ไร้ศึกษา             
ย่นปัญญาความรู้อยู่แค่ถิ่น

หมดทุกข์ขลุกแต่กิจคิดหากิน           
กระแสวิญญาณงันเพียงนั้น เอย

บทที่ ๖

 นกเอ๋ยนกแสก                                      
จับจ้องร้องแจ๊กเพียงแถกขวัญ

อยู่บนยอดหอระฆังบังแสงจันทร์       
มีเถาวัลย์รุงรังถึงหลังคา

เหมือนมันฟ้องดวงจันทร์ให้ผันดู      
คนมาสู่ซ่องพักมันรักษา

ถือเป็นที่รโหฐานนมนานมา                
ให้เสื่อมผาสุกสันต์ของมัน เอย




"กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้ามาจากบทกวีนิพนธ์เรื่อง Elegy Writen in a Country Churchyard ของทอมมัส เกรย์ (Thormas Gray) กวีอังกฤษผู้มีชีวิตอยู่ในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 18

*Elegy หมายถึงโคลงที่กล่าวไว้อาลัย หรือคร่ำครวญถึงผู้ที่จากไป

โดยพระยาอุปกิตศิลปะสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) ได้ประพันธ์จากต้นฉบับแปลของเสฐียรโกเศศ เป็นกลอนดอกสร้อยจำนวน 33 บท
แต่ขออนุญาตนำมาให้อ่านในบทที่
ตัวเองชอบนะค่ะ"




ณดาอินทร์

(ขอขอบคุณภาพสวยๆจากเน็ตค่ะ)


รายนามผู้เยี่ยมชม : น้ำหนาว, ลิตเติลเกิร์ล, Black Sword, รพีกาญจน์, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, ปลายฝน คนงาม, ก้าง ปลาทู, หญิงหนิง พราววลี, ตูมตาม, Paper Flower, หนูหนุงหนิง, ขวดเก่า

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ณดาอินทร์"
..

หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.152 วินาที กับ 45 คำสั่ง
กำลังโหลด...