
เปรียบเหมือนเดินท่ามกลางทางสายเปลี่ยว
มันโดดเดี่ยวเดียวดายคล้ายดังเหมือน
หมดทั้งญาติขาดมิตรทำจิตเฟือน
สติเลือนเพ้อคลั่งคนชังเอา
อยากระบายคลายทุกข์ที่จุกอก
ความวิตกรันทดกำสรดเหงา
แต่ก็ไม่สามารถจะคาดเดา
ใครจะเข้าใจตนสนใจมอง
ความผิดพลาดเมื่อครั้งยังมีสุข
พอเกิดทุกข์ลุกนั่งก็ยังหมอง
ความระทมขมขื่นยังดื่นครอง
ทุกวันต้องทำใจให้บรรเทา
อยากลบเลือนอดีตผ่านที่กร้านทราม
การถูกหยามโง่งมจมความเขลา
เพราะความจนทนยากจากวัยเยาว์
ขาดคนเฝ้าอบรมบ่มดุจใคร
ไร้ศึกษาหาเงินเกินวัยเด็ก
แม้ยังเล็กตรากตรำทำงานไหว
แทบหาเช้ากินค่ำระกำใจ
ค่ำที่ไหนนอนนั่นแม้หวั่นกลัว
จากเป็นเด็กจรจัดวัดที่พึ่ง
ยังซาบซึ้งเมตตาการุณย์หัว
ข้าวก้นบาตรราดท้องประคองตัว
ได้เกลือกลั้วศีลธรรมค้ำจิตใน
ความเผลอพลั้งยั้งคิดทำผิดพลาด
ตกเป็นทาสยาเมาเผาจิตใส
ชีวิตสิ้นเสรีมีทุกข์ภัย
เวียนว่ายในตะรางช่างโง่งม
ได้กลับตัวกลับใจอภัยโทษ
เหมือนทรงโปรดสัตว์นรกที่ตกหล่ม
อเวจีที่สุมขุมโฉดตม
ทิ้งขื่นขมก้าวหาฟ้าอมร
ชั่วเจ็ดทีดีได้ให้เจ็ดหน
เป็นคำคนก่นย้ำถึงคำสอน
ชีวิตพลั้งพลาดไปคล้ายละคร
เอามาย้อนคิดดูเป็นครูเรา
1p