Username:
Password:
บ้านกลอนน้อยฯ
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล
>>
คำประพันธ์ แยกตามประเภท
>>
กลอน ร้อยกรองหลากลีลา
>>
..นิราศเมืองจันทร์..
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ..นิราศเมืองจันทร์.. (อ่าน 8043 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ธนเดช
ผู้มีจินตนาการ
จำนวนผู้เยี่ยมชม:
854
ออฟไลน์
ID Number: 419
จำนวนกระทู้: 57
|
|
..นิราศเมืองจันทร์..
«
เมื่อ:
20, กรกฎาคม, 2559, 02:09:36 AM »
บ้านกลอนน้อยฯ
Permalink:
..นิราศเมืองจันทร์..
( คุ้งวิมาน )
..นิราศเมืองจันทร์..
**โอ้เมืองเพริศ กำเหนิดพลอย ร้อยแสงสาร
เลื่องลือล้ำ ตามปรากฎ พจมาน
จากโบราณ ตำนานร่าย ชาติไทยเรา
**อรุณรุ่ง มุ่งสู่จันทร์ วันแดดใส
เลาะเรื่อยไป ไล่ตามทาง ข้างภูเขา
ไพรชะอุ่ม ชุ่มชื้น พื้นลำเนา
เขียวสดพราว เคล้าเมฆคราม อร่ามตา
**ล่วงถึงสาย ได้พักผ่อน ตอนถึงโบสถ์
ความงามงด โจษจัน กันนักหนา
ชื่อว่าโบสถ์ พระแม่มารีอา
มีอาภา เป็นพลอยเพชร สะเก็ดนิล
**ทรงปูนปั้น ห่มแร่ แพรวิจิตร
เนรมิตร คริสต์สร้าง สว่างศิลป์
อยู่กึ่งกลาง เมืองจันทร์ สุวรรณจินต์
ชื่อระบิล ถิ่นเพชรพร้อย ร้อยพลอยงาม
( รูปปั้นพระแม่มารีอา )
( โบสถ์พระแม่มารีอา )
**สมัยกู้ เอกราช ประกาศชัด
ตามประวัติ เชิงอรรถไว้ ไทยสยาม
พระเจ้าตาก ผู้เลื่องลือ ระบือนาม
ทำสงคราม มิคร้ามขลาด ชาติศัตรู
**รบเสร็จสรรพ ทัพจอง เมืองจันทร์ได้
จึงกลับไป ตีกรุงศรีฯ ที่เคยอยู่
มิช้านาน ผ่านศึก ระลึกดู
จึงได้รู้ กู้ไทยไว้ มิไช่ลวง
**สาธุชน แซ่ซร้อง สรรเสริญ
จึงอัญเชิญ สร้างศาล บูชาสรวง
อยู่กลางใจ เมืองจันทร์ ลานบำบวง
ให้ลูกหลวง ปวงชนใซร้ ได้กราบกราน
( ศาลพระเจ้าตากสิน )
**ออกจากจันทร์ มั่นหมาย สายน้ำตก
ที่เป็นโตรก ชะโงกง้ำ น้ำฉาดฉาน
ไหลสะทก ตกสะท้อน ย้อนลงธาร
ยืนตระหง่าน สะท้านซ่า พนาไพร
**ผีเสื้อกรู ภู่ผึ้ง ทึ้งเกสร
อยู่ทุกตอน ร่อนผิน บินไหวไหว
ธรรมชาติ สะอาดตา น่าชื่นใจ
ชวนหลงไหล ในอารมณ์ ชมสุขเพลิน
** คำขานนาม ตามโฉลก น้ำตกพลิ้ว
สายน้ำลิ่ว ปลิวไศล ใส่โขดเขิน
ถาโถมส่ง สูงสาด ผงาดเนิน
ทกสะเทิ้น เหินอู้ สู่ผิวดิน
**แล้วทอดหยด สะกดหยาด สะอาดใส
เป็นน้ำไส่ แอ่งธาร ผสานสินธุ์
ฝูงวิหค นกกา มาดื่มกิน
โดดจากหิน บินข้ามพง ลงลอยคอ
**แอ่งกระฉอก ระลอกแล้ว ระลอกเล่า
จากขุนเขา เข้ากรุงไกล ไม่ต้องขอ
ช่วยน้ำจันทร์ ปันน้ำใชั ได้เพียงพอ
เลื้ยงสุขก่อ ต่อคนเมือง เรื่องอยู่กิน
**นอนฟังเพียง เสียงซู่ซ่า คราน้ำหล่น
ไหลถั่งท้น กระแทกทั้น ชั้นผาหิน
สะท้านส่ำ สำเนียงน้ำ ย่ำแผ่นดิน
สะเทือนสิ้น สะทกท้า ข่มตาฟัง
( น้ำตกพลิ้ว )
**ค่ำคืนนี้ จะมีใคร ให้เคียงคู่
เฝ้ามองดู คู่นกเขา เจ้าฝากฝัง
จู้ฮุกกรู จู้ฮุกก้อง ร้องเสียงดัง
เหมือนจะสั่ง ให้ป่าหลับ กับราตรี
**แม้ดึกดื่น คืนค่อน นอนไม่หลับ
ส่ายกระสับ จับดูใจ ไม่สุขี
เต้นตุ๊บอ่อน ซ่อนช้ำ คำกวี
ข่มฤดี นาทีลด เกือบหมดคืน
**อยู่ในหลับ กลับนิทรา พร่าภาพฝัน
คิดถึงวัน ผ่านมา ตาคอยขืน
เคยก่ายกอด สอดกายสั่น แม่ขวัญยืน
ชมเชยชื่น รื่นรมณ์ โน้มกายยอม
**บรรจงจูบ ลูบไล้ ไรเส้นผม
ประคองดม ชมกลิ่น ประทินหอม
สองพวงแก้ม ที่แย้มอิ่ม พิมพยอม
เจ้าถนอม ออมไว้ ให้พี่ชม
**แล้วสวมกอด สอดจมูก ลงซุกไซ้
ผิวยองใย ใสสว่าง ข้างเรือนผม
สูดกลิ่นอาย ระบายอุ่น ละมุนพรม
ปล่อยให้ห่ม อารมณ์ซ่าน สะท้านกาย
**ถอนตัวถอย คล้อยต่ำ ดื่มด่ำจิต
ฝังสนิท จุมพิตปรก กลางอกผาย
ส่งระทึก สะอึกอ้อน ต้อนความอาย
ให้ละลาย สลายดับ ไปกับมือ
**สะดุ้งตื่น คืนหมด สลดจิต
คนึงคิด ติดอยู่ ดูสิหรือ
ภาพเลือนหาย สลายหยุด หลุดปลายมือ
ไม่อาจยื้อ ถือยุด สุดอาวรณ์
**อาทิตย์พร่าง จางสาย ละลายหมอก
หมดทุกซอก ตรอกโตน โชนแสงสอน
ทุกทิศทาง สว่างยิน ทินกร
ล้อสลอน ไม้กิ่ง ระวิงไกว
**ขึ้นไปชื่น ชมวิว เหนือทิวเขา
เย็นลมพราว หนาวพริ้ว ลิ่วไสว
สรรพสัตว์ ปาดเขียด เจียดเสียงคลาย
ฟังแล้วคล้าย ร่ายดนตรี กวีชม
** มองลงไป ไกลสุดตา ฟ้าระยิบ
เห็นฝั่งลิบ ทะเลไทย ไล่คลื่นขรม
เป็นระลอก ตอกฝั่ง คลั่งตามลม
พล่านระงม คมแทรก แยกหาดทราย
**ดูอ้างว้าง คว้างเคว้ง ละเลงร่ำ
ทะเลนำ กุ้งปูปลา มาหลากหลาย
เป็นอาหาร จานเจือ เพื่อหญิงชาย
ได้อาศัย ใชัยังชีพ สิบชั่วคน
( จุดชมวิวน้ำตกพลิ้ว )
**หลังจากผ่อน หย่อนอารมณ์ จนสมจิต
คลายความคิด ขุ่นมัว มั่วสับสน
อัน ค.คน หัวหยักหยัก สักว่าคน
วุ่นวายชนม์ วนเปลี่ยน หมุนเวียนไป
**บ้างหลอกล่อ ทอฝัน อันเปรื่องปราชญ์
ให้เป็นทาษ ทุรนทั่ว ชั่วดับขัย
ลาแล้วหนอ คำป้อยอ พะนอใจ
คืนป่าใช้ ธรรมชาติ บำบัดปลง
**เลิกเกลือกกลั้ว มัวในลาภ ยศสรรเสริญ
ทอดกายเดิน เชิญธรรมมะ อานิสงฆ์
เป็นเลิศซึ่ง สรณะ ละลดลง
บุญจงส่ง เกื้อค้ำ นำสุขเอย.
................*-*..................
Nadej
๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๙
รายนามผู้เยี่ยมชม :
รพีกาญจน์
,
กร กรวิชญ์
,
น้ำหนาว
,
ลิตเติลเกิร์ล
,
ลมหนาว ในสายหมอก
,
Black Sword
,
หนูหนุงหนิง
,
เนื้อนาง นิชานาถ
,
ปลาย อักษร
,
ปลายฝน คนงาม
,
กอหญ้า กอยุ่ง
,
ก้าง ปลาทู
บันทึกการเข้า
..
สารบัญบทกลอน "ธนเดช"
..
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
บ้านกลอนน้อย ลิตเติลเกิร์ล - มยุรธุชบูรพา
-----------------------------
=> อ่านข้อกำหนด กฎระเบียบต่าง ๆ - สมาชิกใหม่ ทักทาย แนะนำตัวที่นี่
=> ห้องกลอน คุณอภินันท์ นาคเกษม
=> ห้องกลอน คุณคนบอ มือสี่
=> สารบัญกลอน สมาชิกนักกลอน
-----------------------------
ห้องเรียน
-----------------------------
=> ห้องเรียนรู้คำประพันธ์ ประเภทกลอน
=> ห้องเรียนฉันท์
=> ห้องเรียน กลบท
=> ห้องเรียน โคลงกลบท
=> ห้องศึกษา ภาพโคลงกลบท
=> ห้องศึกษา กาพย์ โคลง ร่าย
=> ห้องหนังสือ บ้านกลอนน้อย
=> ห้องฟัง การขับ เสภา และอื่น ๆ
-----------------------------
คำประพันธ์ แยกตามประเภท
-----------------------------
=> กลอน ร้อยกรองหลากลีลา
=> คำประพันธ์เนื่องในโอกาสพิเศษต่าง ๆ
=> กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม
=> กลอนเปล่าสบาย ๆ
=> กลอนจากที่อื่น และจากกวีที่ชื่นชอบ
=> โคลง-กาพย์-ฉันท์-ร่าย-ลิลิต
=> กลบท
=> นิยาย-เรื่องสั้น-บทความ-ความเรียง-เรื่องเล่าทั่วไป
=> ห้องนั่งเล่นพักผ่อน
===> เส้นคั่นสวย ๆ
===> รูปภาพน่ารัก
กำลังโหลด...