ช่วงเวลาที่ห่างหาย
๏ วันที่สิบตุลาคราตัดใจ
อาการไอนานนักจักหาหมอ
คิดหลอดลมอักเสบแค่เจ็บคอ
คาดว่าพอครบร้อยวันมันคงคลาย
๏ เข้า รพ.ทักษิณ สุราษฎร์ธานี
เอ็กซเรย์ปอดมีข้างหนึ่งหาย
ด้วยภายในมีน้ำอยู่มากมาย
อันตรายมิใช่น้อยปล่อยมานาน
๏ ตกลงใจบินไป กทม.
มิอาจรอคืนวันให้ผันผ่าน
ปรึกษากันเลือกโรงพยาบาล
รพ.รัฐติดขัดด้านอาจต้องรอ
๏ “หัวเฉียว”ใกล้บ้านแม่ยายน้องเมียฉัน
คุ้นเคยกันมานานการติดต่อ
มีประกันช่วยจ่ายไม่ต้องท้อ
คุณภาพของหมอก็คงดี
๏ จึงเข้าไปได้ห้องนอนในคืนนั้น
เห็นครบครันของใช้ให้เต็มที่
เพราะบังคับให้นอนห้อง วีไอพี.
เมื่อห้องพิเศษมีจึงค่อยย้าย
๏ สิบสามตุลาฟ้าวิปโยค
แสนทุกข์โศกกลางใจไทยทั้งหลาย
ข้าพระพุทธเจ้ายังซังกะตาย
มิอาจเข้าเฝ้าถวายความอาลัย
๏ บทกวีมิมีจารอาการจุก
จะไว้ทุกข์แต่จำทนชุดคนไข้
อัสนีบาตฟาดลงร่มโพธิ์ไทร
ปวงหญ้าแพรกแหลกไหม้ไปเป็นจุรณ
๏ นอนซมเซาเหงาหงอยรอคอยท่า
จากวันเป็นสัปดาห์เวลาหมุน
ถูกเจาะปอดสองคราเหมือนทารุณ
น้ำอุ่นอุ่นไหลแรกวันพันซีซี.
๏ แล้วแขวนถุงตอนปลายใช้เครื่องปั้ม
พยายามถ่ายน้ำให้เต็มที่
การตรวจนั้นสารพันที่เครื่องมี
เอ็กซเรย์หลายที อัลตร้าซาวด์
๏ เข้าอุโมงค์ ทีซี. สแกนด้วย
ดูไม่สวยน้ำเห็นเป็นฝ้าขาว
ต้องส่องกล้องให้เป็นเรื่องเป็นราว
ไม่ยืดยาดสรุปตัดชิ้นเนื้อไป
๏ นอนเลยเดือนแล้วครับขอกลับก่อน
การฟังผลค่อยย้อนกลับมาใหม่
เรื่องครั้งนี้มิได้มีบอกกับใคร
มิอยากให้เพื่อนพ้องต้องเยี่ยมกัน
๏ วันสุดท้ายพี่มังกร-สุวัฒน์-เวทิน
มิรู้ยินข่าวนี้ที่ไหนนั่น
แวะไปหาเวลาพอดีทัน
ทั้งแจ้งงานสำคัญหลายรายการ
๏ รู้ซึ้งดีเพื่อนพี่น้องห่วงใย
ขอขอบคุณกำลังใจจากทุกท่าน
ถึงป่วยไข้เพียงกายใจเบิกบาน
ออกผลงานหกเมษา. เวลาเดิม
......................................
หนังสือ “สมุทรโฆษ คำกลอน” เผยแพร่ ๖ เมษายน
วันประชุมใหญ่สามัญประจำปี สมาคมกวีร่วมสมัย