นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
อะไรคือมิตรแท้แห่งกลอน ฉันทลักษณ์หลักอักษรเสกสร้าง หรือน้ำคำฉ่ำเว้าวอนยามแต่ง คำใดควรอวดอ้างว่าเอื้อเฟื้อสหาย
ระบายความพร่ำน้ำคำคิด เสริมโน่นใส่นี่นิดหนึ่งนั้น เลิศเลอหลักประดิษฐ์คำแต่ง หลายหลากนักชนชั้นเด่นด้าวแดนกลอน
อักษรพิลึกล้ำสื่อไว สอนอักขระศิลป์ประลัยสุทธิ์ถ้อย จักแหนงหน่ายเมินไฉนยามสบสิงเอย จารถี่จารึกร้อยร่อนล้วนเรียมสงวน .gif)
รายนามผู้เยี่ยมชม : Black Sword, กร กรวิชญ์, ลิตเติลเกิร์ล, น้ำหนาว, เนิน จำราย, ลมหนาว ในสายหมอก, รพีกาญจน์, ฟองเมฆ, ก้าง ปลาทู, ปลายฝน คนงาม, Mr.music, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ชลนา ทิชากร, เป็นกันเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
ควรบทกลอนหลอนจิตพิศวาส ใครอาฆาตต่อเนื่องแต่เบื้องหลัง โปรดวางเว้นเร้นนิดฤทธิ์รักชัง หมายปลูกฝังสุนทรีย์รุจีความ
เพื่อสืบส่อต่อวงศ์คงในหลัก ฉันทลักษณ์เลอค่าภาษาสยาม อนุสนธิ์คนรุ่นดรุณนาม ฝากงดงามเสริมศิลป์ถ้อยจินดา
ให้บรรเจิดเลิศไปใต้ต่ำแคว้น นับหมื่นแสนล้านผู้สู้ศึกษา ศาสตร์และศิลป์จินต์กวีศรีพาราฯ ชาวประชาชื่นชมนิยมยิน
ทิ้งรักชังทั้งหลายสลายหม่น เพื่อผลิผลบทกลอนอักษรศิลป์ สืบลำนำคำแก่นฝากแดนดิน สถิตถิ่นแหลมทองทุกผองไทย.
สริญ สิริรัฐ
:059:
รายนามผู้เยี่ยมชม : กอหญ้า กอยุ่ง, รพีกาญจน์, กร กรวิชญ์, Black Sword, เนิน จำราย, ฟองเมฆ, ลมหนาว ในสายหมอก, ลิตเติลเกิร์ล, น้ำหนาว, ก้าง ปลาทู, ปลายฝน คนงาม, Mr.music, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ชลนา ทิชากร, เป็นกันเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
ฤาษี
ฤาษีอยู่ที่อาศรม นั่งกินขนมสนุกสนาน ค่ำเช้ามีแต่เข้าฌาน หัวร่อเบิกบานสราญฤทัย ถือศีลมาหลายพรรษา กิเลสตัณหามิดอดอาศัย บรรจบพบธรรมที่ใจ สงบภายในปีตินานเนา.
บทกลอนที่แต่งเล่นอักษรสัมผัส....
สริญ สิริรัฐ
:059:
รายนามผู้เยี่ยมชม : Mr.music, กร กรวิชญ์, ลิตเติลเกิร์ล, Black Sword, ฟองเมฆ, ก้าง ปลาทู, ปลายฝน คนงาม, น้ำหนาว, เนิน จำราย, ลมหนาว ในสายหมอก, รพีกาญจน์, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ชลนา ทิชากร, เป็นกันเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
วันนั้น ถึง วันนี้
เพียงหนึ่งคำจำได้ติดใจมั่น ก็คือฉันรักเธอเสมอก่อน แม้นวันเดือนเคลื่อนคล้อยลอยลมจร ความอาวรณ์นั้นยังฝังจดจำ
มิเคยลืมปลื้มใดแน่ใจนัก ก็คือรักหนึ่งมอบตอบงามขำ บ่ลางเลือนเคลื่อนคล้อยหลุดลอยลำ ยังอยู่ย้ำแย้มเยือนมิเลือนลา
ก่อนเคยฝันอันใดในบัดนี้ ก็ยังมีเหมือนเก่าเฝ้าฝันหา เหมือนน้ำคำพร่ำเผยเอื้อนเอ่ยมา วอนแก้วตายอดหญิงอย่ากริ่งใจ สริญ สิริรัฐ .gif)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
สริญรำพัน
โอ้อกเอ๋ย อกต้องช้ำ ระกำยิ่ง โอ้รักเอ๋ย รักมาทิ้ง ฤทัยถอน โอ้ใจเอ๋ย ใจเหน็บหนาว ทนร้าวรอน โอ้นางเอ๋ย นางมาจร จากฤทัย
โอ้เราเอ๋ย เราไฉน ไม่ลืมรัก โอ้ช้ำเอ๋ย ช้ำยิ่งนัก จนหมองไหม้ โอ้กาลเอ๋ย กาลก็เวียน หมุนเปลี่ยนไป โอ้คนเอ๋ย คนกระไร ใจแสนดำ
สริญ สิริรัฐ
:059:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
นึกว่าอะไร....[กาพย์ยานี ๑๐ สริญชาติย์] .gif) ส่อ...ว่าจะยุบ เหมือนถูกทุบหทัยยับ โทษ...คณานับ สูงกว่าปรับเกินติดคุก เจ็บ...จนร้องเจี๊ยก อ่อนปวกเปียกนั่งเจ่าจุก ล้ม....มิอาจลุก เฝ้าทนทุกข์หทัยคิด โปรด...เมตตาเถิด ล่วงละเมิดมีสะกิด พุ....จึงทำพิษ เพียงน้อยนิดแต่ร้าวลึก นั่ง....นอนไม่หลับ วนขยับอยู่จนดึก ใจ...ไห้ระทึก ความคิดนึกหมดมานะ ก้าว...โซเซซัด บาททาหัตถ์ป่ายเปะปะ ท้าย....สุดระยะ ชัยชนะละลายเละ ก็...ทนต่อไป หากทนไหวไม่อะเอะ แม้น...จะฟอนเฟะ ไม่โป๊ะเชะเท่าไรนัก เจ็บ....จงยอมอด แม้นถูกกดอย่างหาญหัก ฝี....แตกทะลัก จะผ่อนหนักและยอบยุบ.แค่เรื่องของฝี..... :059: สู้อุตส่าห์เขียนบทนี้ เพราะต้องการจะสืบทอดอำนาจ...เอ๊ยยย สืบทอด กาพย์ยานี ๑๐ สริญชาติย์ ให้เป็นที่รู้จักมักจี่กันต่อไป...(ตราบชั่วนิดนิรันดร์)  สริญ สิริรัฐ
รายนามผู้เยี่ยมชม : ฟองเมฆ, ชลนา ทิชากร, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, ลิตเติลเกิร์ล, น้ำหนาว, Black Sword, รพีกาญจน์, ปลายฝน คนงาม, ก้าง ปลาทู, เนิน จำราย, เป็นกันเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
นิ้ว
เขาเกิดมาโดดเด่นเป็นนิ้วชี้ อำนาจมีไพศาลสั่งการได้ ชี้หันซ้ายหันขวาว่ากันไป สุดแต่ใจอยากสั่งดังต้องการ
ชี้ให้โทษให้คุณหนุนอำนาจ ชี้เกรี้ยวกราดโกรธะสั่งประหาร ชี้ถูกผิดบิดเบือนราวเถื่อนพาล ชี้ประจานโทษขุ่นให้รุนแรง
เพราะสังคมซมซานต้องการชี้ อำนาจมีเพียงไหนให้จัดแบ่ง ต่างทำตามหน้าที่รี่จัดแจง งดแซกแทรงจ้ำจี้ชี้บงการ
สริญ สิริรัฐ
:045:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
10 %
เพียงแค่สิบเปอร์เซ็นต์ไม่เห็นมาก ยอมลำบากอีกนิดคิดทวนใหม่ เสียสละดูบ้างเป็นอย่างไร มองกาลไกลอนาคตสดโสภี
ที่ผ่านมาล้วนชิมจนอิ่มหนำ ทุกเช้าค่ำเคยลิ้มจนอิ่มหมี ลอนไขมันพอกพูนคูณทวี แต่ครั้งนี้ขอลดลองอดดู
เสียสละดูหน่อยเพียงน้อยนิด เพื่อชีวิตวันนี้ที่เป็นอยู่ ลดหน้าท้องลองเถิดน่าเชิดชู โลกรับรู้สมชายไม่อายใคร.ควรอด....เพื่อลดหน้าท้อง....(ลดงบอาหาร 10 %) :020: สริญ สิริรัฐ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เด็ดยอด~ทอดปลาย
ศัพท์บัญญัติ
ผมมีความประสงค์จะสร้างศัพท์บัญญัติทางเทคนิคเรียกการแต่งกลอนแปดชนิดหนึ่ง นั่นคือ การส่งสัมผัสระหว่างวรรค จากคำท้ายวรรคที่ ๑ ไปยังวรรคที่ ๒ และคำท้ายวรรคที่ ๓ ไปยังวรรคที่ ๔ ซึ่งตามปกติแล้ว การส่งสัมผัส จากท้ายวรรค ๑ ส่วนมาก มักจะนิยมไปลงคำที่ ๓ ของวรรค ๒ และคำสุดท้าย ของวรรค ๓ ไปลงคำที่ ๓ ของวรรค ๔
ตัวอย่าง
แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชอง................สม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่ม..........ไต่เต้าไป
ซึ่งการลงสัมผัสแบบนี้ ถือเป็นเรื่องปกติที่นักกลอนส่วนใหญ่นิยม...เราจะไม่พูดถึง(ผ่าน)
แบบที่สอง ไม่ส่งสัมผัสจากคำท้ายวรรคที่ ๑ ไปลงคำที่ ๓ ของวรรค ๒ แต่ส่งไปลงคำที่ ๕ และไม่ส่งสัมผัสจากคำท้ายวรรคที่ ๓ ไปลง คำที่ ๓ วรรค ๔ แต่ ส่งไปลงคำที่ ๕
ตัวอย่าง
อันการเมืองเรื่องมันกระนั้นหนอ เพียงแรกเริ่มก็ส่อ...........หมาง ล้วนใส่ร้ายป้ายสีไม่มีกลาง ใครหนอจะกวาดล้าง.......โสมม.
กรณีส่งสัมผัสไปลงคำที่ ๕ แบบนี้ ที่ประสงค์(สริญ)จะพูดถึง
๑. กรณีส่งสัมผัสไปลงคำที่ ๕ แล้ว ไม่ส่งสัมผัสต่อไปยังคำที่ ๖ หรือ ๗
ตัวอย่าง
อันการเมืองเรื่องมันกระนั้นหนอ เพียงแรกเริ่มก็ส่อ..ความบาดหมาง ล้วนใส่ร้ายป้ายสีไม่มีกลาง ใครหนอจะกวาดล้าง...สิ่งโสมม.
การไม่ส่งสัมผัสจากคำที่ ๕ ไปยังคำที่ ๖ หรือ ๗ อีก ควรเรียกว่า"เด็ดยอด" คล้ายๆการเด็ดอะไรสักอย่างไม่ห้งอกต่อไป ซึ่งก็คือ การหยุดคำสัมผัสไว้เพียงคำที่ ๕
๒.กรณีส่งสัมผัสไปลงยังคำที่ ๕ แล้ว ยังส่งรับสัมผัสไปยังคำต่อไปอีก อาจเป็นคำที่ ๖ หรือ ๗ ก็แล้วแต่
ตัวอย่าง
อันการเมืองเรื่องมันกระนั้นหนอ เพียงแรกเริ่มก็ส่อ..ข้อบาดหมาง ล้วนใส่ร้ายป้ายสีไม่มีกลาง ใครหนอจะกวาดล้าง..ด่างโสมม.
ลักษณะแบบนี้ ควรใช้ศัพท์ทางเทคนิคว่า"ทอดปลาย" คือคล้ายกับพืช เถาวัลย์ ที่ยังทอดปลายงอกต่อไป
อันนี้เป็นศัพท์ ทางเทคนิคที่ตั้งขึ้นมา เผื่อไว้ใช้ ในการพูด การอธิบาย เรื่องการแต่งกลอน ถ้าหากว่า มีการพูดถึง"เด็ดยอด" หรือ "ทอดปลาย" ก็ให้รู้ว่า หมายถึงสิ่งที่ได้อธิบายไปแล้ว เพื่อจะได้ไม่ต้องพูดหรือเขียนกันยืดยาว เพียงใช้คำว่า "เด็ดยอด" หรือ"ทอดปลาย" ก็ให้รู้ว่า หมายถึง สิ่งใด
สริญ สิริรัฐ
:059: :020: :068:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
ลักษณะของกลอนลงสัมผัสแบบ"เด็ดยอด"ลงเลือกตั้งทุกทีมีแต่ยุ่ง คนล้วนแต่หมายมุ่ง...แย่งอำนาจ มันรักษาไม่หายคล้ายโรคระบาด สงสารก็แต่ชาติ....จะล่มจม
ล้วนใส่สีตีไข่และให้ร้าย มุ่งผลาญฆ่าทำลาย....ให้สาสม คำสัญญิงสัญญาพาโง่งม ทุกข์กระหน่ำซ้ำถม....ประชาชี
เบื่อแล้วหนอการเมืองเรื่องเลือกตั้ง ขอหน่อยเถอะรถถัง....บดขยี้ แล้วปกครองต่อไปให้นานปี เพื่อประเทศชาตินี้...ล่มแหลกลาญ..ขำๆนะครับ อย่าเครียด...แค่การประชด...สริญ สิริรัฐ ตัวอย่าง กลอนลงสัมผัสแบบ"ทอดปลาย"การเมืองไทยวันนี้มีเค้าวุ่น เรื่องราวมันขุ่นขุ่นหนุนบาดหมาง เริ่มเดินหน้าหาเสียงเพียงพลางพลาง มันก็ส่อเค้าลางถึงบางภัย
"หนักแผ่นดิน"ลิ้นคนพ่นไอร้าว สื่อมวลชนตีข่าวฉาวยกใหญ่ นักการเมืองกระพือสื่อใส่ไฟ เพราะทหารปากไวใส่อารมณ์
เรื่องตัดงบกะลาโหมโถมใส่หัว เกิดอาการร้อนตัวชั่วถุยถ่ม เหยียดประนามหยามคนให้ร่นจม สร้างกระแสนิยมบ่มร้าวราน
ประเทศถูกครอบงำไม่หนำอิ่ม เจียนขาดใจปิ่มปิ่มยังทิ่มประหาร มิเว้นว่างสร่างซาชั่วสามาน นาวารัฐร้าวฉานจักพานจม.สริญ สิริรัฐ ตัวอย่าง ลักษณะกลอน แต่งลงสัมผัส คำที่ ๓ (ที่นิยมแต่งกันเป็นส่วนมาก)เชิญเถิดเราชาวไทยไปเลือกตั้ง จุดความหวังริบหรี่ให้มีแสง ส่องประกายพรายพร่างกระจ่างแจง เสริมส่งแรงประชาธิปไตย์ให้เบิกบาน
เศรษฐกิจชาติ กระดิก ไทยพลิกฟื้น กลับชุมชื่นคืนองค์ราวสรงสนาน ดับกระหายคลายร้อนผ่อนดวงมาน คืนวิญญาณเสรีประชาธิปไตย์
กำจัดรัฐเผด็จการหทารชั่ว ต้องเกรงกลัวประชาชนคนส่วนใหญ่ อย่าโอหังลามปามอย่างย่ามใจ เพราะคนไทยอดทนมาห้าปีแล้ว.. สริญ สิริรัฐ ว่าจะไม่เครียดแล้วเชียว.....
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลมหนาว ในสายหมอก, กร กรวิชญ์, เนิน จำราย, ชลนา ทิชากร, ฟองเมฆ, ลิตเติลเกิร์ล, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ก้าง ปลาทู, น้ำหนาว, ปลายฝน คนงาม, รพีกาญจน์, เป็นกันเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
ข้าว...จะอยู่กับชาว.... และข้าวก็อยู่ในครัว... ซื้อเป็ดล้านตัว...มาทำครัวเพื่อกินกับข้าว
ไข่...ต้องอยู่ในเล้า และเข่าก็อยู่ที่ขา... วันนี้เตะหมา...เพราะดันมาจะกัดหัวเข่า
นก...ก็อยู่บนฟ้า... และปลาก็อยู่ในน้ำ..... เห็นสาวหุ่นงาม....อยู่ในน้ำเลยเสียงกระเส่า
ข้าว...ก็อยู่ในนา..... และปลาก็อยู่ในหนอง..... หุงข้าวริมคลอง...เปิดปลากระป๋องมากินกับข้าว....
สริญ สิริรัฐ .gif) :059: :020:
รายนามผู้เยี่ยมชม : ก้าง ปลาทู, ลิตเติลเกิร์ล, กร กรวิชญ์, Mr.music, เนิน จำราย, ชลนา ทิชากร, ฟองเมฆ, ปลายฝน คนงาม, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, เป็นกันเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
นึกอะไรได้ก็เขียนไปตามนั้น
เลือกตั้งอย่าลืมตัว หูตามัวประชาธิ์ป์ไตย์ แมงเม่าเขลาเริงไฟ ร่าบินร่อนห่อนเฉลียว เห็นช่องได้โอกาส ไยสามารถจะปีนเกลียว เขาผ่อนผันนิดเดียว กลับลดเลี้ยวจนลืมตาย
บันทึกประวัติไว้ จดอยู่ในหทัยนั้น บางสิ่งอาจแปรผัน ก่อนถึงวันลุจุดหมาย ความหวังจักพังภิณฑ์ ลงนอนดิ้นเกลือกตะกาย หวาดหวั่นในบั้นปลาย ฉากสุดท้ายจะหมองมน
รถถังและไกปืน เสียงสะอื้นกระหึ่มก้อง รากหญ้าต่างร่ำร้อง น้ำตานองและหมองหม่น กฏเกณฑ์ย่อมเปราะบาง ทุกก้าวย่างล้วนหมากกล พิศดูทั่วแห่งหน หมายฝูงชนประการใด
จึงเตือนเหมือนคำว่า ฝนตกมาปลารื่นเริง แหวกว่ายโดยบันเทิง จนหลงเหลิง ณ ธารใส ขอเบ็ดรอเกาะเกี่ยว เหยื่อนิดเดียวมาล่อใจ ฝูงปลาเหลือไฉน ตกสู่ท้องต้องม้วยมรณ์.
ก็ไม่รู้จะเขียนอะไร นึกไม่ออก.... กาพย์ยานี ๑๑ วางสัมผัสระหว่างบท ต่างจากทั่วไป.... (ถ้าไม่เหมาะไม่ควรอย่างไร ต้องขออภัยผู้รู้ด้วย)
สริญ สิริรัฐ
ประชาธิ์ป์ไตย์= อ่านว่า ประชาไตย์ เพราะว่าผมใส่ตัวการรันต์ไว้...เพื่อห้ลงวรรค
:020:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เมื่อความทุกข์รุกเยือนเป็นเพื่อนข้า ในอุราร้อนรนเหมือนโดนเผา ด้วยแรงฤทธิ์พิษรุมสุมอกเรา หวังใครเขาให้ช่วยก็ป่วยการ
นอนตีนก่ายหน้าผากลำบากจิต สุดจะคิดแก้ไขภัยสังสาร ชาติกำเนิดเกิดมามันสาธารณ์ หวังพบพานสุขสันต์คงฝันไป.
กระทู้ที่ 300 จากเดิมที่คิดไว้ 100 แล้วก็ +20 แล้วก็บวก แล้วก็บวก..... :059: สริญ สิริรัฐ
:059:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
ลูกหลง
ฉันคือใครแน่ ทั้งพ่อและแม่ ไม่มี เกิดมาทั้งที ไยเป็นเช่นนี้ กันเล่า จะเหลียวทางไหน บ่เห็นมีใคร ดุจเรา คิดมาน่าเศร้า โถนี่ตัวเรา คือใคร
หรือเวรกรรมสร้าง ทำกับใครบ้าง ปางบรรพ์ ตามติดชิดทัน เลยทำตัวฉัน หมกไหม้ เฝ้าคอยขัดขวาง ลบซึ่งหนทาง ที่ไป อยากรู้เมื่อไหร่ สิ้นหมดชดใช้ เสียที
ชะตาอาภัพ พาให้ย่อยยับ สิ้นหวัง อยากร้องดังดัง แต่ใครจะฟัง บ้างนี่ ถ้าเราเห่าหอน เขาคงจับตอน เฆี่ยนตี เคราะห์ร้ายเหลือที่ โอกาสไม่มี นิดเดียว
ลูกหมาหลงทาง ใครอยากเลี้ยงบ้าง วอนคุณ โปรดเถิดการุณ โปรดจงอุดหนุน สักเที่ยว เมตตาสงสาร นึกว่าทำทาน โปรดเชียว ขอร้องลองเหลียว จะไม่ปีนเกลียว ดื้อดึง.
สริญ สิริรัฐ
:020:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
|