นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
ลูกหลง
ฉันคือใครแน่ ทั้งพ่อและแม่ ไม่มี เกิดมาทั้งที ไยเป็นเช่นนี้ กันเล่า จะเหลียวทางไหน บ่เห็นมีใคร ดุจเรา คิดมาน่าเศร้า โถนี่ตัวเรา คือใคร
หรือเวรกรรมสร้าง ทำกับใครบ้าง ปางบรรพ์ ตามติดชิดทัน เลยทำตัวฉัน หมกไหม้ เฝ้าคอยขัดขวาง ลบซึ่งหนทาง ที่ไป อยากรู้เมื่อไหร่ สิ้นหมดชดใช้ เสียที
ชะตาอาภัพ พาให้ย่อยยับ สิ้นหวัง อยากร้องดังดัง แต่ใครจะฟัง บ้างนี่ ถ้าเราเห่าหอน เขาคงจับตอน เฆี่ยนตี เคราะห์ร้ายเหลือที่ โอกาสไม่มี นิดเดียว
ลูกหมาหลงทาง ใครอยากเลี้ยงบ้าง วอนคุณ โปรดเถิดการุณ โปรดจงอุดหนุน สักเที่ยว เมตตาสงสาร นึกว่าทำทาน โปรดเชียว ขอร้องลองเหลียว จะไม่ปีนเกลียว ดื้อดึง.
สริญ สิริรัฐ
:020:
อธิบายที่มาที่ไป
บทประพันธ์ข้างบนนี้ ผมดัดแปลงฉันท์มาจาก กาพย์ดอกแคร่วง ซึ่งกาพย์ดอกแคร่วง เจ้าของผู้คิดค้นเขาวาง สัมผัสไว้อย่างนี้
OOOO OOOO OO OOOO OOOO OO OOOO OOOO OO OOOO OOOO OO
นกยูงลำแพน ช่างสวยสุดแสน งามตา เปรียบดวงดารา พราวพริบวิบฟ้า นับพัน ช่างเอยวาดฝัน ธรรมชาติจัดสรร เจ้ายูง ไยเจ้าอยู่สูง ผิดนกแผกฝูง ทั่วไป ---กาพย์ดอแคร่วง---สริญ----
แบบนี้เรื่อยไป ซึ่งผมมีความคิดเห็นส่วนตัวว่า เขาคงดัดแปลงมาจาก ฉันทลักษณ์ของกาพย์ฉบัง ๑๖ อีกอีกทีหนึ่ง เพราะว่าการวางรูปแบบ ฉันทลักษณ์ เป็นแบบเดียวกัน ต่างกันแค่จำนวนคำในแต่ละวรรค
สำหรับบทประพันธ์ที่อยู่ข้างบนนี้ ผมดัดแปลงฉันทลักษณ์ของกาพย์ดอกแคร่วงให้เป็นแบบ กลอน คือมี กลอนสดับ กลอนรับ กลอนรอง กลอนส่ง เหมือนโครงสร้างของกลอน
OOOO OOOO OO(สดับ) OOOO OOOO OO(รับ) OOOO OOOO OO(รอง) OOOO OOOO OO(ส่ง)
OOOO OOOO OO(สดับ) OOOO OOOO OO(รับ) OOOO OOOO OO(รอง) OOOO OOOO OO(ส่ง)
รายนามผู้เยี่ยมชม : น้ำหนาว, ลิตเติลเกิร์ล, ฟองเมฆ, กลอน123, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, เนิน จำราย, มดดำ, รพีกาญจน์, เฒ่าธุลี, ชลนา ทิชากร, ก้าง ปลาทู, Mr.music, ปิ่นมุก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
วาทกรรมซ้ำซากวิบากส่ง ผลก็คงเร่งรุด ณ จุดหมาย ผู้ใดก่อจ่อถึงตรึงเบื้องปลาย มิสัดส่ายเหหันผูกพันตน
จะเร็วช้าม้ากรรมย่ำเท้าท่อง ท่วงทำนองดีร้ายพึงหมายผล ตามสนองผองสัตว์อุบัติวน หลีกไม่พ้นความชั่วของตัวเอง
ผู้กระทำกรรมดีมีสุจริต ทำพูดคิดมั่นคงว่าตรงเผง ย่อมผุดผ่องยองใยไร้วังเวง ฤาจะเกรงผลชั่วเข้าพัวพัน.สริญ สิริรัฐ 
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, กลอน123, ฟองเมฆ, ลมหนาว ในสายหมอก, กร กรวิชญ์, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, เฒ่าธุลี, ปลายฝน คนงาม, ชลนา ทิชากร, ก้าง ปลาทู, Mr.music
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
ร้อยกรอง...ของใหม่ใหม่ ต้องทำใจ....ให้หนักหนัก ลองเล่น....เป็นพักพัก ถ้าใจรัก....ชอบจริงจริง
สริญ สิริรัฐ
รายนามผู้เยี่ยมชม : กลอน123, กร กรวิชญ์, ลิตเติลเกิร์ล, เนิน จำราย, ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ, เฒ่าธุลี, รพีกาญจน์, ปลายฝน คนงาม, ชลนา ทิชากร, ก้าง ปลาทู, น้ำหนาว, Mr.music
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
การกินที่มากเกิน อร่อยเพลินแต่ลงพุง รสชาติที่หมายมุ่ง จะผดุงไขมันมั่น เสิร์ฟเสิร์ฟให้เติบต่อ โลหิตท่อจะอุดตัน ห่วงห่วง ณ ชีวัน มลขันธ์จะวังเวง เอมโอฐเพราะชิวห์อาบ สุขภาพบ่เป็นเพลง โรคร้ายจะละเลง เพราะอาหารที่หอบหิว ลดยากลำบากแย่ หน้าท้องแท้เป็นลอนทิว รอวันจะรีวิว อุทรอวบผอืดองค์ โอ้ฝ้าสง่าฝัน สรีร์ฉันสะโอดชง สั่งสมระดมลง ดนุร่างสิปางโรย.สริญ สิริรัฐ 
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, กลอน123, กร กรวิชญ์, ฟองเมฆ, เฒ่าธุลี, รพีกาญจน์, ปลายฝน คนงาม, ลมหนาว ในสายหมอก, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, ก้าง ปลาทู, น้ำหนาว, Mr.music
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เขาวิโยคโศกใจเมื่อไกลคู่ เขาวิโยคอยากรู้เธออยู่ไหน เขาวิโยคห่วงหาสุดอาลัย เขาวิโยคร้อนใจใคร่ติดตาม
จึงพร่ำบ่นบทเพลงวังเวงแว่ว จึงพร่ำบ่นฟังแล้วล้วนแผ่วถาม จึงพร่ำบ่นคิดถึงหนึ่งนงราม จึงพร่ำบ่นด้วยความเพ้อผูกพัน
ช่างบรรเจิดเลิศล้ำหนอคำรัก ช่างบรรเจิดประจักษ์หลักยึดมั่น ช่างบรรเจิดคุณค่าคณานันต์ ช่างบรรเจิดสร้างสรรค์สวรรค์ดล
เมื่ออ่านเฉพาะสีเขียวจะเป็นกลอน ๕..... :059:
สริญ สิริรัฐ
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, กลอน123, ฟองเมฆ, ลมหนาว ในสายหมอก, ชลนา ทิชากร, ปลายฝน คนงาม, กร กรวิชญ์, เนิน จำราย, ก้าง ปลาทู, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, Mr.music
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
กลอน ๖
อิจฉาตาร้อนนอนกลุ้ม อกรุมเริงฤทธิ์คิดซ่าน สุมไฟใส่ฟอนกร่อนมาน วิญญาณสร่างสุขทุกข์ทน
เพราะแรงแห่งจิตคิดแคบ เป็นแบบจำกัดขัดสน เหนืออื่นดื่นหล้าสากล คือตนเท่านั้นมั่นใจ
คนอื่นดื่นเหลือเหนือกว่า ต้องฆ่าตายตกหมกไหม้ อย่ามีสุขสันต์อันใด มากไปกว่ากูผู้นี้
ผู้อื่นชื่นชุกสุขสันต์ ตัวฉันสุขพ่ายหน่ายหนี เหมือนถูกกระทำย่ำยี ดุจมีไฟเฝ้าเผากาย
ชีวิตจักชื่นคืนสุข ต้องลุกรอนริดปลิดป้าย ให้มันทอดร่างวางวาย จึงคลายร้อนเร่าเซาซา
คือหนึ่งในคิดจิตนี้ ผู้มีน้ำจิตอิจฉา ตนต้องเป็นหนึ่งตรึงตรา ใครอย่าหมายเทียบเปรียบตัว. สริญ สิริรัฐ 
รายนามผู้เยี่ยมชม : กลอน123, เนิน จำราย, ก้าง ปลาทู, กร กรวิชญ์, ฟองเมฆ, ลมหนาว ในสายหมอก, น้ำหนาว, ลิตเติลเกิร์ล, ปลายฝน คนงาม, รพีกาญจน์, Mr.music, ชลนา ทิชากร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
(สริญประดิษฐ์กานท์ ๑๐)อิงแอบแนบนาง เคียงข้างพะนอคลอเคล้า สุขใจสองเรา ยวนเย้ากระซิบหยอกเอิน ซ้ายทีขวาที เร็วรี่ระดมชมเพลิน ตราบเนานานเนิ่น ชวนเชิญพิรี้พิไร
มิอยากจากแนบ อิงแอบกระแซะปรางใส มือเท้าเนาใน ทรามวัยกระซิกแผ่วครวญ โอ้โฉมฉวี คนดีระทึกแดป่วน พิศน้องผ่องนวล รัญจวนประทับฝังจำ.สริญ สิริรัฐ โอ้ อะไรกันนี่ จากเดิมที่เคยคิดจะเขียนเป้นกลอน มันชักจะคล้ายฉันท์เข้าไปทุกทีแล้ว..
รายนามผู้เยี่ยมชม : รพีกาญจน์, กลอน123, ฟองเมฆ, น้ำหนาว, ลิตเติลเกิร์ล, เนิน จำราย, ก้าง ปลาทู, Mr.music, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ลมหนาว ในสายหมอก, ชลนา ทิชากร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
การจับปลาสองมือถือสองข้าง มันอาจพอมีบ้างจะหลุดร่วง ความปลอดภัยไม่มีที่ทั้งปวง เพราะต้องห่วงซ้ายขวาพะว้าพะวัง
ปลาอาจดิ้นหลุดมือที่ถือนั้น ต้องฉับพลันพลั้งพลาดสุดคาดหวัง อดทั้งขวาแลซ้ายเสียดายจัง ต้องมานั่งกอดอกสะทกฤทัย
ทำกิจการสองอย่างไม่ต่างหรอก โบราณบอกเสมือนย้ำเตือนให้ เลือกหนึ่งสิ่งหมายปองอย่าสองใจ จึงจะได้สำเร็จตามเจตนา.สริญ สิริรัฐ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
อยู่ดีดีไม่น่าลืม....ก็ลืม เงินทองให้ยืมไม่น่าเบี้ยว....ก็เบี้ยว ทางเป็นหลุมหล่มไม่ควรเลี้ยว....ก็เลี้ยว กระแสน้ำไหลเชี่ยวไม่ควรพาย.....ก็พาย
มติสวรรค์ไม่ควรฝืน......ก็ฝืน สีอันดาษดื่นไม่ควรป้าย....ก็ป้าย เรื่องลับลับไม่ควรคาย.....ก็คาย ความเป็นความตายไม่ควรลอง....ก็ลอง
สริญ สิริรัฐ
:059:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เสกคำกลอนหลอนลวงให้ห่วงเล่น เสกให้เป็นมนต์ขลังเหมือนครั้งเก่า เสกคำวอนอ้อนถึงหนึ่งนงเยาว์ เสกคำเหงาเคียงข้างเหมือนอย่างเคย
เขียนคำคมลมหลอกบอกว่าห่วง เขียนคำท้วงขวัญตาวอนอย่าเฉย เขียนคำรักปักซึ้งหนึ่งฝันเปรย เขียนคำเอ่ยบอกรักมาทักทาย
แสนคิดถึงตรึงตราเพ็ญหน้าน้อง เสียงร่ำร้องครวญหามิซาหาย สมประดีมีหวังยังทรงกาย สุมใจหมายเคียงขวัญในฝันเคียง
สริญ สิริรัฐ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
แม้นโลกนี้มีคนอยู่ล้นโลก แต่ว่าโลกของฉันมันหงอยเหงา แม้ความฝันริบหรี่มีเพียงเงา แต่ว่าเงาของฝันมันมืดไป
แม้นความหวังยังมีที่พอหวัง แต่ก็ยังสุดเอื้อมเชื่อมไฉน แม้ความดีมีจริงมิกริ่งใจ แต่ว่าใจผองชนไหนยลยิน
ท้องฟ้ากว้างแต่เส้นทางฉันมันแคบ เหมือนออกแบบให้พบความจบสิ้น มิอาจจักก้าวไปตามใจจินต์ สุดโผผินบินไต่ในนภา
สริญ สิริรัฐ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
กลอน อรรธนารีศวร หรือ กลอนสองร่างวิธีอ่าน๑. แบบที่หนึ่ง อ่านจากสีน้ำเงินไปสุดที่สีส้ม(แล้วก็มาเริ่มที่สีน้ำเงินไปสุดที่สีล้มอีก จนครบทั้งสี่วรรค) ๒. แบบที่สอง อ่านจากสีส้มไปสุดที่สีม่วง(แล้วก็มาเริ่มที่สีส้มไปสุดที่สีม่วงอีก จนครบทั้งสี่วรรค) จักยอมสู้ บำเพ็ญตน เป็นคนอ่าน สารทุกสิ่ง เพื่อเสพสาร มิเกรงกริ่ง ต่อสิ่งไหน ในโลกเหวย โลกรับรู้ ว่าเราแน่ มิแพ้ใคร ใช่ชัดเลย เพราะมีใจ รักเสบย อย่างเคยตัว ชัวร์จริงจริง(หลังจากเกิดแนวคิดนี้แล้วผมจึงลองแต่งเป็นตัวอย่างไว้ดู ๑ บท)สริญ สิริรัฐ *อรรธนารีศวร เป็นชื่ออวตารปางหนึ่ง ของพระศิวะกับพระแม่อุมา เป็นปางที่ พระศิวะรวมร่างกับพระแม่อุมา ซีกหนึ่งเป็นชาย ซีกหนึ่งเป็นหญิง 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
แผ่วบรรเลงเพลงฝันของวันเก่า รักที่เราเริ่มซึ้งตรึงโหยหา หวานอันใดไม่เทียมเยี่ยมวิญญา เท่าภาษากายสานสมานมนตร์
รักของใครในหล้าจะกล้าเทียบ ฤามาเปรียบรักเราเฝ้าผลิผล หอมหวานซึ้งตรึงติดจิตวังวน ทุกแห่งหนสดสวยด้วยอุ่นไอ
รักหวานซึ้งตรึงจำแสนล้ำค่า ทั่วแผ่นฟ้าแผ่นดินทุกถิ่นไหน มิอาจเปรียบเทียบแดนแสนสุขใจ ที่ซึ่งมีทรามวัยอยู่ใกล้เรา.
นักเลงกลอน
๓๑ พค. ๒๕๖๒
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เมื่อรพีฯลี้เร้นไม่เห็นร่าง แสงสว่างพลันดับลับสลาย เหมือนโลกนี้ชีวาตม์ขาดทำลาย คงจักกลายสูญสิ้นทุกอินทรีย์ ถึงเวลาฟ้าหม่นทนยืนหยัด สารพัดกระหน่ำซ้ำสุดหนี รอวันคืนฝืนผ่านชั่วนานปี อย่างไม่มีวันเห็นความเป็นไป อีกเนิ่นนานให้หลังประดังฝ่า เพื่อไขว่คว้าลิขิตชีวิตไข สู่แสงโสมโลมโลกโศกฤทัย จักผ่อนพ้นโภยภัยให้บรรเทา.
**นักเลงกลอน~กลอนนักเลง**
รายนามผู้เยี่ยมชม : เนิน จำราย, ฟองเมฆ, ลิตเติลเกิร์ล, ปลายฝน คนงาม, กลอน123, ลมหนาว ในสายหมอก, ชลนา ทิชากร, กร กรวิชญ์, น้ำหนาว, ปิ่นมุก, ก้าง ปลาทู, Mr.music, เฒ่าธุลี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
  
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 5736
ออฟไลน์ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463
100+20=120
|
Permalink: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
รพีฯเพื่อนเลือนลับไม่กลับหลัง ดูดุจดังจะร้างห่างสงสาร หรือลืมเลือนเกลื่อนกลิ่นซับวิญญาณ ไร้บทกานท์จะแหวกแทรกอาลัย
วางปากกาพาทีกวีพจน์ ราวสิ้นร้างจางรสหมดสมัย ความสำคัญผันแผ่ผุแปรไป ตรอมจิตใจเจียมจินต์สิ้นลำนำ
โอ้บทกลอนก่อนเห็นมาเว้นหาย ราวกับกลายผันเปลี่ยนมิเวียนร่ำ หรือไปมีที่ใหม่ช่างใจดำ หรือใครทำช้ำชอกมิบอกลา....
นักเลงกลอน~กลอนนักเลง
:059:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป" สริญ สิริรัฐ :068:
|
|
|
|