ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ในครานั้นเวชยันต์สะท้านสะเทื้อน ทิฆัมพรร้อนเหมือนจะหมกจะไหม้ ทิพย์อาสน์เคยอุ่นละมุนละไม เหตุไฉนกระด้างระคางระคาย
๏ เทพอนงค์เคยชิดสนิทเสน่ห์ ทำรวนเรเหมือนแกล้งจะแหนงจะหน่าย เกิดความทุกข์รุกรนกระวนกระวาย ทิพย์พิมานนั้นคล้ายทะลายทะลง
๏ จึงสอดส่องทิพย์เนตรประเทศประทับ ได้สดับกรุงไกรลาสประสาทประสงค์ สุธนจะเลือกโนราห์พะว้าพะวง หลากอนงค์เกรงพลาดระหวาดระแวง
๏ หากมิช่วยทรงธรรมจะย่ำจะแย่ เพื่อคู่แท้มิต้องระหองระแหง จึงแปลงองค์ช่วยกษัตริย์ทะมัดทะแมง เป็นแมลงปีกทองคะนองคะนึง
๏ เกาะใบหูแล้วรีบกระซิบกระซาบ “มิหยามหยาบหรือมาทะล่าทะลึ่ง ข้าเกาะผมโนราห์ชัดจะรัดจะรึง ท่านเห็นจึงรีบชี้อย่าพิรี้พิไร”
รายนามผู้เยี่ยมชม : กร กรวิชญ์, ฟองเมฆ, ลมหนาว ในสายหมอก, ลิตเติลเกิร์ล, ตูมตาม, น้ำหนาว, เนิน จำราย, รพีกาญจน์, ปิ่นมุก, เส้นชีวิต ดำเนินไป, ปลายฝน คนงาม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ พระสุธนเยื้องย่างไปข้างหน้า มองเกศาอนงค์นางองค์ไหน พบแมลงอินทราดั่งว่าไว้ ประจักษ์ใจจึงพิจารณ์สรรพางค์ ๏ แล้วจ้องนัยนาพาซึ้งซ่าน แววรักหวานรับรู้อยู่ทุกอย่าง จึงได้จับหัตถาโนราห์นาง มโนราห์เปลี่ยนท่าทางกราบบาทา
๏ ท้าวปทุมราชโอกาสนี้ แสนยินดีตรัสเรียกให้มาหา บังคมบาทพระบิดรพระมารดา ชื่นชีวาสุขสันต์กันทั้งปวง
๏ ร่วมประโลมชมเชยพ่อเขยขวัญ ต่างตื้นตันฤทัยอย่างใหญ่หลวง ด้วยประจักษ์รักหวานซ่านซึ้งทรวง ดั่งแมนสรวงประทานผู้คู่ฤทัย
๏ มีพระราชโองการจัดงานฉลอง อภิเษกทั้งสองอย่างยิ่งใหญ่ เชิญคนธรรพ์ เทพทั่วฟ้าสุราลัย ผู้เรืองวิทย์ฤทธิไกรในโลกา
รายนามผู้เยี่ยมชม : กร กรวิชญ์, ฟองเมฆ, ลมหนาว ในสายหมอก, ลิตเติลเกิร์ล, ตูมตาม, น้ำหนาว, เนิน จำราย, รพีกาญจน์, ปิ่นมุก, เส้นชีวิต ดำเนินไป, ปลายฝน คนงาม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ครั้นเมื่อถึงวันดีพิธีราช แขกเหรื่อในกรุงไกรลาสมีมากหน้า อวยพรชัยใจนิยมชมเดชา มุทิตาจิตน้อมพร้อมเพรียงกัน
๏ แต่นั้นมามโนราห์ พระสุธน เคียงกมลวันคืนชื่นสุขสันต์ รักที่พรากจากลามานานวัน คืนสัมพันธ์แนบแน่นแสนทวี
๏ ร่วมภิรมย์ชมชิดพิศวาส บุรุษชาติจริตเป็นเช่นอิตถี รื่นในรสเสน่หามิอารดี* สองเปรมปรีดิ์ปลาบปลื้มลืมเวลา ๏ จนวันหนึ่งพระสุธนกังวลจิต เมื่อหวนคิดถึงเวียงชัยอาลัยหา ยิ่งห่วงใยพระบิดรพระมารดา เนิ่นนานมาที่พรากจากกันไกล
๏ จะอยู่ดีมีสุขเกษมศานต์ หรือพบพานโรครุกทุกข์ไฉน หมู่อมิตรติดพันบ้างฉันใด ตกอยู่ในห้วงถวิลมิกินนอน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ก่อนจะลาพระมารดรเคยวอนว่า เมื่อพบปะมโนราห์มิ่งสมร ตั้งใจไว้หมายรับกลับนคร มาเนิ่นนานพระมารดรคงรอวัน
๏ เหมือนคำกล่าวเราหลงเมียเสียลืมแม่ อนาถแท้คะนึงครวญชวนโศกศัลย์ คิดจะคืนแว่นแคว้นแสนไกลกัน จรจรัลหิมพานต์กันดารเกิน
๏ จะนำน้องมโนราห์ฝ่าไพรกว้าง หรือให้ใส่ปีกหางเพื่อเหาะเหิน เสมือนต้องแรมร้างแยกทางเดิน กลัวเผชิญโพยภัยเมื่อไกลตา
๏ มโนราห์เห็นท่าทีพระสุธน พลอยกังวลและยังคิดกังขา กระทำผิดพลั้งใดในภัสดา วอนวาจาให้เอ่ยเฉลยนัย ๏ พระสุธนแถลงแจงเหตุผล รำลึกล้นถึงแผ่นดินถิ่นอาศัย พระบิดร มารดาที่ลาไกล ห่วงพระพลานามัยภัยครามครัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ หรือมีหมู่ปัจจามิตรคิดฮึกหาญ บิดาท่านชราแรงมิแข็งขัน อาจประชิดพาราท้าโรมรัน ห่วงและหวั่นโพยภัยไปนานา
๏ ตั้งใจนำมโนราห์น้องไปด้วย แต่หวั่นใจจะไปม้วยเสียกลางป่า หิมวันต์นั้นมากมีภัยบีฑา แม้นให้น้องเหินฟ้าไกลตาแล”
๏ “ในข้อนี้ตัวน้องมิข้องจิต น้องก็คิดคะนึงถึงพระแม่ ไปฉันใดน้องตามไปเป็นแน่แท้ มิยอมแน่จะพรากกันจนวันตาย
๏ ขอขึ้นเฝ้าเล่าความตามที่ว่า แก่ทรงฤทธิ์บิดาพระฤๅสาย ท่านอาจช่วยผ่อนผันอันตราย จะเยื้องกรายด้วยดีวิธีใด”
๏ เมื่อขึ้นเฝ้าท้าวปทุมยินวาทะ แทนที่จะทัดทานหาค้านไม่ ครั้นสดับเรื่องราวเข้าพระทัย “การหวนไห้มาตุภูมิรุ่มอุรา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ถือเป็นโอกาสดีอย่างที่สุด เมื่อกินนรกับมนุษย์ร่วมวงศา ความสัมพันธ์อันเป็นหนึ่งในโลกา พ่อจักพาญาติพงศ์ไปส่งกัน
๏ การเดินทางย่างไปในพนัส มีสารพัดอุปสรรคที่ดักกั้น จักช่วยให้ได้เดินทางอย่างเทวัญ อย่าคิดหวั่นอันใดในเรื่องนี้”
๏ จึงทรงหยิบพระขรรค์ชัยเลิศในหล้า “พระขรรค์แก้วแววฟ้ารุ่งเรืองศรี ผู้ใดครองปองเหาะเหินเดินเมฆี นภวิถีจรจบได้ดังใจ”
๏ มอบพระขรรค์คู่เวียงชัยกรุงไกรลาส บุรุษชาติผู้ทรงคุณบุญยิ่งใหญ่ พระสุธนวันทาพระภูวไนย น้อมเกล้ารับพระขรรค์ชัยไม่จินต์จล*
๏ เรียนคาถาเทวามนต์จนวิทิต* จึงตั้งจิตเหินไปในเวหน ขึ้นอยู่เหนือเมฆาถลาวน รอบมณฑลไกรลาสนครา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ แล้วเหาะลงตรงหน้าปทุมราช กราบพระบาทซึ้งคุณอดุลย์ค่า ท้าวปทุมราชันจึงบัญชา กำหนดวันเวลาออกเดินทาง
๏ เชิญชวนญาติพงศ์วงศ์ไกรลาส ถือโอกาสเยี่ยมโลกาโพ้นป่ากว้าง จันท์กินรีพร้อมพี่ทั้งหกนาง ความตั้งใจไม่ต่างขอติดตาม
๏ วันเดินทางพลโยธามาเป็นทัพ ใส่ปีกหางอย่างพร้อมสรรพแลล้นหลาม พระสุธนทรงพระขรรค์แวววรรณงาม ถึงฤกษ์ยามคู่มโนราห์นำหน้าไป
๏ ปทุมราชันและจันท์กินรี พร้อมกลุ่มพี่บินเป็นหมู่อยู่เคียงใกล้ เหล่ากินนรร่วมวงศาออกคลาไคล เป็นกลุ่มใหญ่ดูมืดฟ้ามัวดิน
๏ ค่อนทิวาฝ่าเวหนข้ามพ้นผ่าน เขตวนหิมพานต์สมถวิล พระทรงสั่งยั้งยาตราหน้าธานินทร์ ลงตั้งฐานบนถิ่นอาทิตย์ไผท
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ร่วมสำแดงฤทธามหามนต์ บันดาลดลสรรค์สร้างเวียงวังใหญ่ ล่วงยามดึกกึกก้องดังถึงวังใน ส่งผลให้อาทิตย์วงศ์ทรงกังวล
๏ คาดปัจจามิตรประจันประหวั่นนึก จะรับศึกหนักจิตคิดสับสน ด้อยกำลังวังชาชราล้น จำประจญชีพผดุงป้องกรุงไกร
๏ แต่เช้าตรู่ออกสู่หน้าปรางค์ปราสาท พบเห็นภาพประหลาดแสนหวั่นไหว อันริปูผู้ประชิดติดเวียงชัย นั้นมิใช่ธรรมดาเดชาชาญ
๏ สั่งอำมาตย์ขุนวังทั้งนายทัพ เตรียมพร้อมรับการณ์ศึกที่ฮึกหาญ อาจเป็นจอมพาลาพญามาร ผู้บันดาลวังบัดดลด้วยมนตรา ๏ พระสุธน มโนราห์มิช้าไม่ เช้าคลาไคลเข้าวังดังปรารถนา รู้กังวลฉงนจิตพระบิดา พลโยธาคงเตรียมการต้านไพรี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ครั้นทราบว่าพระสุธนใช่คนอื่น รับมโนราห์คืนชื่นสุขี เสียงแซ่ซ้องก้องไปในธานี ด้วยปิติยินดีทุกชีวัน
๏ เมื่อขึ้นเฝ้าท้าวอาทิตย์ราชา นางจันทราเทวีมีสุขสันต์ ตามประสาพ่อแม่ลูกรักผูกพัน พร้อมรับขวัญกินรีมโนราห์
๏ ท้าวอาทิตยวงศ์ทรงขอโทษ มโนราหาได้โกรธคิดถือสา เข้าสวมกอดหลังกราบกรานพระมารดา เคยมอบรักเมตตาเหลืออาลัย
๏ ตอบคำถามเล่าความเก่าแต่คราวก่อน “คราออกจากนครจรป่าใหญ่ ด้วยมุ่งมั่นฟันฝ่านานาภัย จนล่วงกาลผ่านไปเกือบแปดปี
๏ แล้ววันหนึ่งลุถึงในกรุงไกรลาส ได้สำแดงความสามารถฤทธิ์เรืองศรี ท้าวปทุมราชแดนคีรี จัดพิธีอภิเษกล้ำโอฬาร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ทั้งคนธรรพ์ เทวา พญาครุฑ กิงบุรุษ* สัตว์ประสมมหาศาล กินรีกินรามาร่วมงาน เกริกตระการแห่แหนแน่นกรุงไกร ๏ ร่วมครองคู่อยู่มณเฑียรวิเชียรรัตน์ สุขสวัสดิ์มิเนิ่นนานเกิดหวั่นไหว จิตปั่นป่วนหวนคะนึงถึงเวียงชัย และทั้งสองพระองค์ไม่ได้กินนอน
๏ เมื่อขึ้นเฝ้าทูลลาปทุมราช เป็นเรื่องดีที่เกินคาดฝันมาก่อน พระบิดาปทุมองค์ภูธร ขอร่วมจรสู่ปัญจาล์มาเยี่ยมยล
๏ มอบพระขรรค์วิเศษเรืองเดชนัก สามารถจักนำเหินเดินเวหน จึงลัดฟ้ามาโดยไวหายกังวล พร้อมไพร่พลญาติพงศ์วงศ์กินรี
๏ บัดนี้ยั้งรั้งรอท่าหน้าปราสาท ขอพระราชานุญาตถึงเคลื่อนที่ เข้ามาเฝ้าพระชนกพระชนนี สุดแล้วแต่จะทรงมีพระกรุณา”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ครานั้นท้าวอาทิตย์วินิจฉัย มิต้องให้ปทุมเจ้าเข้ามาหา ท่านอยู่นอกแดนมนุษย์สุดขอบฟ้า ยังอุตส่าห์เยือนแคว้นไกลแสนไกล
๏ รั้งรออยู่ริมพาราชั่วตาเห็น มิลำเค็ญออกต้อนรับขับสู้ไหว ให้ขุนวังสั่งมหาเสนาใน เตรียมเครื่องใหญ่บรรณาการสานไมตรี
๏ เมื่อตกลงปลงฤทัยมิได้ช้า ชวนพระนางจันทรามเหสี รีบสระสรงทรงเครื่องเมลืองมณี แล้วจรลีออกหน้าปราสาททอง
๏ ทรงบัญชายุรยาตรราชรถ สมพระยศอึกทึกดังกึกก้อง พลไกรไชโยร่วมโห่ร้อง เสียงแซ่ซ้องพร้องดังด้วยปรีดา
๏ เมื่อถึงยังพาราเนรมิต ท้าวอาทิตย์ทรงยั้งอยู่วังหน้า ถึงวาระพระสุธน มโนราห์ กราบทูลท้าวปทุมมาแจ้งพระทัย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ท้าวปทุมราชาในครานั้น ชวนนางจันท์กินรีมิช้าได้ ออกรับรองปองสมานสานเยื่อใย เชิญเสด็จสู่วังในใจเปรมปรีดิ์
๏ ปราสาททองมองอร่ามงามวิจิตร ด้วยมนตราเนรมิตพิสิฐศรี จรัสศิลป์ปิ่นเก็จเพชรรูจี ลักษมีเปรียบปานพิมานแมน
๏ แล้วทั้งสองวงศาร่วมปราศรัย อย่างแช่มชื่นรื่นฤทัยให้สุขแสน วัฒนธรรมใดในดินแดน แลกเปลี่ยนแม้นต่างกันมิฉันทา
๏ แล้วได้ยินวาทะองค์อาทิตย์ ยังเอ่ยย้ำ “เคยทำผิดยิ่งนักหนา นำภัยร้ายให้ลูกรักมโนราห์ ลูกเข้าใจไม่ถือสาน่ายินดี
๏ ถึงเวลาสละราชสมบัติ ให้สุธนขึ้นครองรัฐราชวิถี กับลูกรักมโนราห์กินรี เป็นราชินีคู่ราชบัลลังก์”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ปทุมราชสดับเมื่อรับรู้ มิช้าอยู่เช่นกันพลันรับสั่ง “พระสุธนควรครองสองเวียงวัง เราราชัยไม้ใกล้ฝั่งควรวางองค์
๏ พระสุธน มโนราห์เหินฟ้าได้ บินมาไปดั่งอารมณ์สมประสงค์ สลับละไตรมาสครองราชวงศ์ รักษ์ดำรงปกป้องสองพารา”
๏ พระสุธน มโนราห์วันทาบาท ปิตุราชมาตุรงค์สองวงศา รับสนองในพระกรุณา ญาติกาพร้อมกันประทานพร ๏ การปฏิสันถารสมานญาติ สองเชื้อชาติสุโขสโมสร จนครบเจ็ดทิวาขอลาจร เมื่อนครสองสัมพันธ์มั่นไมตรี
๏ ปวงประชาข้าไททั้งใหญ่น้อย มาเฝ้าคอยส่งเสด็จทั่วพื้นที่ อยากจะเห็นการเหินเดินเมฆี กินรา กินรีเป็นศรีตา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ หลังจากนั้นมินานมีพิธีใหญ่ ราชาภิเษกให้สืบยศถาฯ ฉลองฉัตรพระสุธนราชา และพระนางมโนราห์ราชินี
๏ ด้วยเดชะบารมีบริรักษ์ ทรงพิทักษ์ปวงชนล้นสุขี เกียรติระบือลือไกลในธาตรี ทบทวีโภคทรัพย์นับอนันต์
๏ ตามพันธะสัญญาปทุมราช ให้ครองกรุงไกรลาสอีกเขตขัณฑ์ ทรงมุ่งหมายผูกสายใจใยสัมพันธ์ มิห่างกันมั่นสวาทราชธิดา
๏ ครบไตรมาสเหมือนคำมั่นสัญญาไว้ สองดำเนินเหินไปในเวหา ขึ้นครองราชย์ไกรลาสอีกนครา ทุกวงศ์วานถึงเทวามาอวยชัย
๏ สองพระองค์ทรงเสวยราชสมบัติ สุขสวัสดิ์จนสิ้นอายุขัย ตามครรลองของกฎแห่งโลกัย ผู้เวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ อันเดชะบารมีที่ยิ่งล้น พระสุธนภิญโญโพธิสัตว์ หลายชาติเกิดแล้วตายเป้าหมายชัด มุ่งธรรมะปรมัตถ์เป็นบั้นปลาย
๏ ผู้ร่วมกรรมบรรพกาลผ่านมานั้น เมื่อชีวันล่วงลับดับสลาย มากพระองค์ทรงวิมุติถึงสุดท้าย ลุเป้าหมายโลกุตรพระนิพพาน
๏ พระสุธนเป็นสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้นำเหล่าเวไนยสัตว์มหาศาล ข้ามโอฆะกิเลสเภทภัยมาร ธรรมทานอบอุ่นวสุนธรา*
๏ ท้าวอาทิตย์เป็นสุทโธทนะ ผู้เป็นพระปิตุรงค์สืบวงศา พระนางจันทร์เป็นสิริมหามายา ผู้กำเนิดบุตราล่วงโลกีย์
๏ มโนราห์เป็นพิมพาธิดารัตน์ ปฏิพัทธ์เนื่องในพระมเหสี พระมารดาองค์จันท์กินรี เป็นนางโคตมีชาติต่อมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|