ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๑๕ ๏ ถึงห้องใหญ่ใสสว่างกลางปราสาท พบพระราชบุตรีที่เลิศหล้า งามเอวองค์วงพักตร์ลักขณา พิศเพลินตาซ่านซึ้งตะลึงงัน
๏ จับจ้องนิ่งมิผินหน้าไปทางไหน พิศวาสบาดฤทัยไหวหวั่น นึกถึงงานบรรหารแห่งเทวัน พระอดกลั้นอกตรมระทมระทวย
๏ ฝ่ายยุวนารีทาสีสมร ทุกบังอรคัดสรรล้วนสะสวย เมื่อเห็นพระนลกันพลันงงงวย พากันขวยเขินอายชม้ายตา
๏ ครานั้นเยาวมาลย์ทมยันตี หันมาพบภูมีอยู่ซึ่งหน้า แย้มยิ้มน้อยค่อยเอ่ยคำจำนรรจา “ดูก่อนราเอกองค์ผู้ทรงงาม
๏ ท่านมาถึงราชฐานด้านในนี้ ไยมิมีทหารทัดทานห้าม ขอเชิญท่านแถลงแจ้งพระนาม และเหตุความประสงค์จำนงนัย”
รายนามผู้เยี่ยมชม : กอหญ้า กอยุ่ง, ไพร พนาวัลย์, , Black Sword, ขวดเก่า, ศรีเปรื่อง, ลินดา, สาวเครือฟ้า, รพีกาญจน์, รินดาวดี, Sasi Aksarasrom, ปลายฝน คนงาม, ลิตเติลเกิร์ล,
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้าที่ ๑๖ ๏ “ข้าฯพระนลกษัตริย์ขัตติยะ ครองราชธานีนิษัธใหญ่ รีบเดินทางยังวิธรรภ์มั่นฤทัย มอบดวงใจจอมขวัญทมยันตี
๏ แม้เพียงตาจะได้ชมมิสมรัก หรืออกหักทุกข์ทนหม่นเหลือที่ สมใจหวังดั่งรอเป็นแรมปี เพื่อเข้าร่วมพิธีสยมพร
๏ ครั้งหงส์ทองปองสื่อสารสวาท มาปราสาทน้องนั้นเมื่อวันก่อน รับสารไปใจถวิลทั้งกินนอน อกรุ่มร้อนใคร่มาหาคนดี
๏ กุศลหนุนบุญนักพบพักตร์น้อง ถึงด้านในวังทองของโฉมศรี ให้โอกาสเจรจาฟังพจี ตราบชาตินี้ดวงหทัยไม่ลืมเลือน
๏ แม้นรักที่ฤดีปองต้องพลัดพราก รับวิบากกรรมขวางจำร้างเลื่อน เช่นสุรีย์มิมีได้ใกล้ดวงเดือน และดาวเกลื่อนต้องลี้ทิวาจร ๏ ระหว่างทางพบเทวามางานนี้ ใช้ให้พี่เป็นทูตมาล่วงหน้าก่อน ร้าวอุราพยายามพร่ำอ้อนวอน ผู้ครองฟ้าอมรมิอ่อนใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๑๗ ๏ ต้องทำตามจำนงองค์เทเวศ แลเห็นเจตน์ดวงจิตพิสมัย น้อยนักนะมนุษย์สุดโลกไกล ยากจะได้พระกรุณาเช่นครานี้
๏ แม้วังในกวดขันเข้มเต็มที่นัก มิอาจจักกั้นพรองค์พระทรงศรี ผู้เป็นทูตเทวาเข้าธานี จึงมิมีผู้ใดได้ทัดทาน
๏ นำความองค์อมรินทร์ปิ่นพิภพ พระวรุณผู้เลอลพคุณพิศาล พระอัคนีผู้ที่อุ่นโลกบาล แลพระยมผู้ผลาญสรรพชีวา
๏ ทวยเทพไท้หมายเจ้าเยาลักษณ์ หมายเชิดศักดิ์บนสวรรค์แสนหรรษา จนชั่วนิจนิรันดร์กาลเวลา พระธิดาจะจำนงพระองค์ใด
๏ ยินดีด้วยอวยชัยไม่อิจฉา เทพอุ้มชูสู่ฟ้าสุขสดใส จะเลือกองค์ใดแน่สุดแต่ใจ พี่เป็นทูตจะกลับไปทูลเทวัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้าที่ ๑๘ ๏ ครานั้นทมยันตีศรีสมร พนมกรไหว้เทวะจากสวรรค์ แล้วหันหานลราชอภิวันท์ จึงจำนรรจ์คำฝากจากดวงใจ
๏ “โอ้ว่าองค์ภูมินทร์ปิ่นเกศา ฟังเถิดหนาจะแจ้งแถลงไข ความจริงแท้แลมิแสร้งแฝงกลนัย ทูลราชัยตรงคำมิอำพราง
๏ เจตนาขอเป็นข้าพระนลราช พิศวาสฝังฤทัยไม่รู้สร่าง แต่วันหงส์พรรณนาสารพางค์ ทรงสำอางเลิศล้ำลืมมิลง
๏ ทั้งวันคืนตื่นหลับประทับจิต ด้วยแรงฤทธิ์รักล้นจนลุ่มหลง พระบิดามารู้เหตุเจตจำนง จึงพระองค์จัดวาระสยมพร
๏ ตั้งแต่นั้นก็มั่นหมายฤทัยว่า ได้พบหน้านลนริศอดิศร ขออย่าตัดสวาทจนขาดรอน ข้าวิงวอนรักแท้ให้ไร้ราคี
๏ แม้พระองค์ทรงชัยไม่สมัคร สลัดรักหักใจคิดหน่ายหนี เท่ากับองค์ทรงฤทธิ์ปลิดฤดี ข้าจำนงปลงชีวีมิมีกลัว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๑๙ ๏ จักเข้ากองอัคคีปลิดชีวิต ดื่มยาพิษดิ่งนทีมีอยู่ทั่ว ฤๅผูกศอพอแน่นิ่งจึงทิ้งตัว โลกมืดมัวแล้วเมื่อสิ้นปิ่นภูมี”
๏ ฟังความทมยันตีนารีนาถ พิศวาสบาดทรวงพระทรงศรี ซึ้งถึงความเสน่หายอดนารี จิตเปรมปรีดิ์ใคร่ชมภิรมย์ชิด
๏ แต่หน้าที่ปวงเทวามอบมาให้ ทำตามใจปรารถนารู้ว่าผิด จำเอ่ยตามคำเทวาว่า “มิ่งมิตร ขอจงคิดปลงใจให้เทวัน
๏ แม่จะสุขเกินมนุษย์สุดจะกล่าว เป็นท่านท้าวจอมสุรางค์กลางสวรรค์ เพชรภูษาทิพย์มาลีเลิศดีนั้น จักเลือกสรรได้ทั้งสิ้นดังจินดา
๏ เมื่อเป็นความประสงค์ผู้ทรงฤทธิ์ ยากขัดจิตเหมือนจักผลักภูผา เราด้อยค่ากว่าธุลีที่บาทา ฤๅอาจกล้าขัดองค์เอกรินทร์
๏ เมื่อยินคำย้ำความซ้ำอีกหน อัสสุชลหลั่งไหลไม่สุดสิ้น คำราชันนั้นพิฆาตบาดชีวิน อกพังภินท์ทรุดองค์ลงฟูมฟาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้าที่ ๒๐ ๏ พระนลพลันหวั่นฤทัยได้กล่าวตอบ เป็นคำปลอบประโลมยอดโฉมฉาย “พี่กล่าวคำซ้ำย้ำเตือนเหมือนดูดาย ต่อไมตรีที่เจ้าหมายมอบให้มา
๏ เพราะเป็นทูตถือสารทำงานนี้ เอ่ยวจีตามใจคล้ายมุสา ผิดคำมั่นอันรับกับเทวา ราชธิดาใจเย็นจงเห็นใจ
๏ ถ้าได้พบน้องรักอีกสักครั้ง จะกล่าวดังดวงจิตพิสมัย มาครั้งนี้มีความสัตย์ผูกมัดไว้ ยอดฤทัยอย่าวิโยคโศกรำพัน”
๏ ยินคำปลอบประโลมทมยันตี ชื่นฤดีเต็มอุระกะทันหัน ยิ้มแย้มทั้งน้ำตาในครานั้น ปานสวรรค์พลันสว่างขึ้นกลางทรวง
๏ เมื่อรู้ซึ้งถึงฤทัยไม่เป็นอื่น รักเต็มตื้นเลิกคิดตะขิดตะขวง สรรเสริญองค์ทรงศักดิ์มิทักท้วง “งานทั้งปวงเสร็จแล้วเวลานี้
๏ เด็ดเดี่ยวยิ่งมิทิ้งสัจตัดธรรมะ เสียสละดวงใจให้หน้าที่ เป็นการทำสิ่งประเสริฐเลิศภูมี องค์เทวันท่านปรานีสุธีชน”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๒๑ ๏ “ขอพระองค์ทรงทูลเทวฤทธิ์ ด้วยความสัตย์สุจริตจิตกุศล จริงทุกถ้อยวาทีมิซ่อนกล เผยเหตุผลแต่เริ่มจำเดิมมา
๏ เมื่อถึงวันสยมพรบวรพิธี กลางภาคีใหญ่นั้นประชันหน้า เป็นสิทธิ์ของน้องจะเลือกภัสดา องค์เทวามีธรรมพึงอำนวย
๏ เมื่อน้องเลือกพระองค์เพราะจงจิต เกิดโฆษิตแซ่ซ้องร้องเห็นด้วย พรเทวามาลัยชื่นระรื่นระรวย สำเร็จสวยสมดังที่หวังปอง”
๏ พระนลฟังวาจาธิดาราช ชาญฉลาดดีเด่นมิเป็นสอง เอ่ยวาจาลาออกนอกวังทอง อีกมุมมองเหมือนเทวาฟ้าประทาน
๏ ตั้งจิตย้อนกลับหลังดังใจหมาย พระวับหายจากห้องรโหฐาน ถึงหน้าพระพักตร์องค์มัฆวาน รับโองการตอบความตามระบิล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้าที่ ๒๒ ๏ องค์เทวาทั้งสี่มีปุจฉา สั่งราชาแถลงไขให้จบสิ้น อย่าตกขาดคลาดเคลื่อนเหมือนเล่นลิ้น พระนลยินจึงกล่าวความตามคดี
๏ ข้าพระองค์ตรงไปในวังราช ใครมิอาจขัดขวางทางวิถี เข้าไปถึงซึ่งหน้ายอดนารี ทำหน้าที่ตามวาจาเทวาวาน
๏ กล่าวเทิดทูลคณะจตุรเทพ เชิญแม่เสพสุขสวรรค์อันไพศาล พรรณนาคุณอักโขโลกบาล ให้นงคราญฟังแถลงจนแจ้งใจ
๏ มากสรรพสิ่งสุขแสนแดนสวรรค์ ข้าฯเฝ้าพรรณนาคำปราศรัย เพื่อชักจูงจิตนางเคลิ้มคลั่งไคล้ อมตาสุขาลัยนิรันดร์กาล
๏ เพิ่มเติมถ้อยวาทีที่เสกสรร เกินกว่าคำเทวันมีบรรหาร แต่เทวีมิชื่นรื่นสราญ ปวดดวงมานทุกข์ตรมระทมระทวย
๏ แล้วกล่าวถ้อยถอยความเมื่อยามหนึ่ง ข้าผู้ซึ่งส่งหงส์ฟ้าเข้ามาช่วย ดุจสื่อรักฝากวาจามหาละลวย ซึ้งรูปสวยเดชาแห่งข้าพระองค์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๒๓ ๏ แต่นั้นมาทมยันตีฤดีมั่น พิศวาสบาดชีวันจนลุ่มหลง เกิดอาการวิปลาสหวาดพะวง เป็นเหตุให้ปิตุรงค์เกิดสงกา
๏ เมื่อใคร่ครวญทีละข้อก็ประจักษ์ เกิดความรักขึ้นในทรวงจิตห่วงหา จึงสั่งให้ประกาศไปหลายพารา เชิญราชาเจ้าแคว้นใกล้ไกล
๏ ให้เดินทางมาเขตขัณฑ์วิธรรภ์รัฐ เพื่อการจัดสยมพรพิธีใหญ่ มาดหมายว่าธิดายอดยาใจ เลือกคู่ครองต้องพระทัยมอบไมตรี
๏ ครั้นข้าฯบรรยายความซ้ำหลายหน แม่ยิ่งหม่นหมองทุกข์ไร้สุขศรี จำต้องปลอบประโลมให้คลายโศกี นางจึงมีคำจำนรรจ์มาวันทา
๏ เอ่ยอ้างองค์เทวัญอันประเสริฐ ย่อมเลอเลิศทิพย์ชาญรู้การณ์หล้า ทั้งพระองค์ทรงเดชล้ำเมตตา พระองค์มาเพื่อช่วยอำนวยพร
๏ วันพิธีขอให้มีข้าพระพุทธเจ้า เดินทางเข้าไปกับพระอดิศร กลางพิธีอยู่ที่ใจองค์เอมอร จะตัดรอนหรือเลือกใครในครานี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้าที่ ๒๔ ๏ ครั้นมาถึงซึ่งวาระศุภฤกษ์ เอิกเกริกผู้คนล้นกรุงศรี จ้าวฯ เทวะ ขัตติยะ ประดามี เต็มโรงธารพิธีวังวิธรรภ์
๏ แต่ละองค์ทรงเครื่องประเทืองยศ ตามกำหนดสำแดงหมายแข่งขัน เพื่อชูพักตร์ลักขณาวิลาวัณย์ เชิดประชันยั่วตายอดนารี
๏ พระนลนั่งกลางเหล่าเจ้าเมืองใหญ่ ลดหลั่นใกล้เทวบาลนั้นทั้งสี่ ถึงเวลาธิดาขวัญทมยันตี ลงสู่ที่ท้องพระโรงงานมงคล
๏ ทุกสายตา ณ สมาคมบุรุษ เงียบประดุจได้ยินเข็มเล่มเดียวหล่น ตาทุกคู่ดูธิดาเอกอานนท์* เหมือนต้องมนต์สะกดแทบปลดปลง
๏ โอ้แม่งามอร่ามเลิศเฉิดฉะนี้ ชายชาตรีทั่วโลกาจึงมาหลง สารพางค์สะอางสะโอดสะอง เหมือนเจาะจงขยี้ใจทุกชายชาญ
๏ วงพักตร์พริ้มยิ้มละไมสดใสนัก ทุกทีท่าน่ารักวิไลหวาน ถึงเวลาพราหมณ์มาเริ่มเฉลิมการ ผู้ร่วมงานยิ่งรู้สึกระทึกฤทัย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๒๕ ๏ ครานั้นทมยันตีฤดีหวาด ดวงเนตรกวาดหาพระนลอยู่หนไหน ส่ายสายตาหาอยู่นานละลานใจ ดาษดื่นไปเทพเทวาองค์ราชัน ๏ ล้วนทรงงามล้ำเลิศพรรณเฉิดฉาย งามละม้ายเช่นท้าวชาวสวรรค์ ถือหอกง้าวหลาวตะบองพลองฉกรรจ์ ดาบพระขันธ์หลายหลากแลมากมาย
๏ เขม้นมองจ้องหาพระนลเจ้า อยู่กลางเหล่ารวมกลุ่มหนุ่มทั้งหลาย นางข้องจิตคิดว่าคงตาลาย พระนลคล้ายกันเรียงหน้าห้าพระองค์
๏ หลับตาลงจงจิตพินิจใหม่ คือองค์ใดพระนลจริงสิ่งประสงค์ ตั้งสติว่ามิใช่ละม้ายทรง แต่มนตรามาเจาะจงให้งงงัน
๏ จึงนบน้อมพร้อมจิตอธิษฐาน ถึงองค์ท้าวโลกบาลเลอสรรค์ ขอเมตตาข้าฯด้วยเถิดท่านเทวัญ ชาตินี้นั้นรักหนึ่งแท้แต่พระนล
๏ ขอมายาลวงตาสร้างจงจางหาย เห็นเพียงชายที่จงรักด้วยสักหน เมื่อเทวาทั้งหลายค่อยคลายมนต์ ก็เป็นผลให้ธิดาเห็นราชัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้าที่ ๒๖ ๏ พิศดูสี่เทวาหน้าตาคล้าย แต่วรกายเทวฤทธิ์ผิดสีสัน แจ่มบรรเจิดเพริศพรายประกายพรรณ พระนลนั้นระเรื่อด้วยเหงื่อไคล
๏ เหล่าเทวาคราประทับกับพระแท่น มิได้แบนบุ๋มลงที่ตรงไหน มิกระพริบพระเนตรผ่องทั้งสองนัยย์ เครื่องทรงไร้ผงธุลีมิมียับ
๏ ดอกไม้ในมาลัยดังยังติดต้น ของพระนลมีดอกเฉาเข้าสลับ ความพะวงสงสัยได้ระงับ ธิดาจับพวงมาลีตรงรี่พลัน
๏ คุกเข่าลงตรงหน้าพระนลราช อภิวาทตัดสินใจมิไหวหวั่น เอ่ยวาจา “ข้านี้ฝากชีวัน องค์ราชันขอมีจิตคิดเมตตา”
๏ แล้วชูพวงมาลีสวยสีสด จิตกำหนดคล้องยังพระอังสา พลันกึกก้องเสียงแซ่ซ้องของเทวา กล่าวคาถาถวายพระพรชัย
๏ พร้อมกับคำคร่ำครวญหวนละห้อย จากราชันนับร้อยทั้งน้อยใหญ่ เมื่อสิ้นสรรพสำเนียงเสียงใดใด พระนลได้กล่าวรับขวัญทมยันตี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๒๗ ๏ “โอ้ว่ายอดกัลยาณีของพี่เอ๋ย ขอทรามเชยฟังความคิดจากจิตพี่ ชั่วกัปกาลนานนับตั้งแต่นี้ เป็นภัสดาที่ดีของยาใจ
๏ จะฟังวาจาเจ้าประทับจิต มิลาร้างห่างงฤทธิ์พิสมัย จะเคียงคู่อยู่กันทุกวันไป ดวงฤทัยภักดีตราบนิรันดร์”
๏ ยินสัญญาทมยันตีฤดีปลื้ม ประดุจดื่มทิพย์โอสถเกษมสันต์ โผองค์ตรงเข้าครองประคองกัน อภิวันท์ประธานราชพิธี
๏ เสร็จแล้วหันกลับมากราบพระบาท พระปิตุราชมาตุรงค์พระทรงศรี สองพระองค์อิ่มเอมสุขเปรมปรีดิ์ เอ่ยวจีเลิศล้ำอำนวยพร
๏ นบทุกผู้ที่มีจิตคิดเมตตา วอนขอความกรุณามั่นเหมือนก่อน ปวงเทวาตั้งท่าจะลาจร ประนมกรน้อมส่งองค์เทวินทร์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้าที่ ๒๘ ๏ เหล่าเทวะทวารบาลตระการฤทธิ์ มาประสิทธิ์พรเทวาจากมหินท์ หนึ่งบวงสรวงทั้งปวงได้ดั่งใจจินต์ ชาวธานินทร์สุขอุราสถาวร
๏ สองให้เป็นที่รักของปวงราษฎร์ ยุรยาตรใดภิญโญสโมสร พระอัคนีมีการุณอวยสุนทร ให้ฤทธิ์รอนเรียกอัคคีด้วยปรีดา
๏ อีกให้เขตนาครอมรรัตน์ เจิดจำรัสกระจ่างสว่างหล้า พระยมท่านทัณฑธรเทวา ตรัสวาจาประทานรสพระยศไกร
๏ แลให้ธรรมะสถิตนิมิตมั่น ปกเขตขัณฑ์ทั่วแคว้นแสนสดใส พระวรุณร่วมด้วยอวยพรชัย เรียกฝนได้ง่ายดายดังใจปอง
๏ ทั้งให้มวลมาลีที่ทรงผ่าน จงชื่นบานสดสีมิมีหมอง พรเลิศล้ำคำเทวะพระนลครอง องค์ละสองเป็นแปดสรรค์สวรรค์มนต์ ๏ จบคำพรองค์เทวัญพลันลับหาย เห็นเพียงสายแสงเรืองเบื้องเวหน มิทันล่วงลับลาจากสากล ในบัดดลพบกลีและทวาบร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๒๙
๏ องค์มัฆวานยั้งตั้งคำถาม “จงตอบความให้แจ้งแถลงก่อน ดูท่าทีลีลาน่ารีบร้อน ท่านจักจรไป ณ สถานใด”
๏ “สู่สยมพรธิดาภีมกษัตริย์ วิธรรภ์รัฐเขามีพิธีใหญ่” จตุรบาลท่านว่า “มาช้าไป เราต่างได้เสร็จผ่านพ้นงานมา”
๏ กลีฟังดังพักตร์จะหักแยก หทัยแหกประดุจฉีกชิ้นภูษา “มันผู้ใดที่ข้ามหน้าข้ามตา ข้าหมายมาดปรารถนายอดนารี”
๏ “ราชธิดาเลือกพระนลเป็นคนรัก แสนเหมาะสมกันนักด้านศักดิ์ศรี ทั้งสององค์ทรงรักกันมั่นภักดี เราทั้งสี่นี้ให้พรก่อนเลิกงาน”
๏ กลียิ่งเดือดดาลพาลอาฆาต “มันบังอาจหยามข้ามหาศาล อย่าคิดสุขสมหวังจะรังควาญ ให้มลานแยกพ้นคนละทาง”
๏ องค์อินทราฟังวาทีกลีกล่าว เตือนว่า “ท้าวกลีที่หมองหมาง ความอิจฉาริษยาพาจิตคว้าง ถ้ามิวางหัวใจท่านนั้นร้อนรน”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|