ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๔๕ ๏ ค่อยค่อยเข้าไปหายอดนารี มีดที่มีอยู่นั้นเฉือนปันผ้า พอห่อกายผันผายออกนอกชายคา ยังห่วงหาหันกลับหลังแสนกังวล
๏ “โอ้แม่นิ่มนวลน้องรักของพี่ เคยอยู่ดีศรีสวัสดิ์พิพัฒน์ผล แม้ลมแดดมิเคยแผดเผาผิวตน ต้องมาทนอ้างว้างอยู่กลางไพร
๏ ฝูงเหลือบไรยุงริ้นกินโลหิต ผ้าครึ่งผืนหาปกปิดกายมิดไม่ เคยยิ้มหัวต่อนี้หายกลายอาลัย มีแต่ไห้หวนร่ำระกำทรวง
๏ ผัวเคยอยู่เป็นชู้ชิดก็คิดจาก แกล้งลาพรากจากไกลเหมือนไม่ห่วง แม่ตื่นมาผวาหวั่นสะท้านทรวง โอ้พุ่มพวงคงแทบจะมรณา
๏ ใจร้ายจริงทิ้งนุชประดุจแกล้ง ให้เหี่ยวแห้งอับปางอยู่กลางป่า นึกยิ่งผิดคิดยิ่งแค้นแน่นอุรา ทรงโศกาเต็มตื้นฝืนกมล
รายนามผู้เยี่ยมชม : , ปลายฝน คนงาม, Sasi Aksarasrom, นายประทีป วัฒนสิทธิ์, รพีกาญจน์, , ไพร พนาวัลย์, ลิตเติลเกิร์ล, สาวเครือฟ้า, Black Sword, กร กรวิชญ์, ศรีเปรื่อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๔๖ ๏ โอ้ว่าองค์เทวะผู้ประเสริฐ การณ์บังเกิดด้วยข้าบาทขาดกุศล ขอยอมรับบาปชั่วเพียงตัวตน อย่ามีผลถึงผู้ใดได้ไหมเอย
๏ ขอเทพไท้ผู้สถิตทุกทิศที่ คุ้มครองทมยันตีเถิดท่านเอ๋ย ส่วนหม่อมฉันนั้นมิต้องมองแลเลย ผลกรรมเคยสร้างหนักจักผจญ”
๏ ใจจะจากพรากพาก้าวขาหนี พลิกฤดีย้อนใหม่อยู่หลายหน ดุจชิงช้าแกว่งไปมาอลวน พระทรงพลมิเป็นตัวของตัวเอง
๏ จิตและกายพระองค์ทรงอ่อนล้า กลีเพิ่มฤทธาคร่าข่มเหง ให้มุ่งมั่นดั้นไปไม่โคลงเคลง บีบให้เร่งฝีเท้าเข้าป่าลึก
๏ ครานั้นทมยันตีศรีสมร พลิกเอวอ่อนสักครู่เริ่มรู้สึก ข้างกายไร้สวามีฤดีระทึก มิอยากนึกถึงการณ์เคยหวั่นใจ
๏ เริ่มเอ่ยคำพร่ำเพรียกร้องเรียกหา ภัสดาคนดีอยู่ที่ไหน มาหาเมียเถิดนะจะช้าไย น้องหวั่นภัยที่เผชิญเหลือเกินแล้ว
รายนามผู้เยี่ยมชม : Sasi Aksarasrom, นายประทีป วัฒนสิทธิ์, รพีกาญจน์, , ไพร พนาวัลย์, , ลิตเติลเกิร์ล, สาวเครือฟ้า, Black Sword, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ศรีเปรื่อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๔๗ ๏ ทมยันตีนิรมลวิ่งค้นหา รอบชายคากระท่อมร้างทางเถื่อนแถว โอ้พี่ยาเมตตาเลิศใจเพริศแพร้ว พระผัวแก้วอย่าล้อเล่นอยู่เช่นนี้
๏ กำบังองค์หลังพงโคนพฤกษา หรือโขดเขินเนินผาข้างวิถี มาเถิดหนอพ่อยอดชู้องค์ภูมี เร็วก่อนที่น้องดับดิ้นสิ้นใจลง
๏ “โอ้ว่าทูลกระหม่อมพ่อจอมขวัญ เคยรักมั่นแล้วไฉนไยลืมหลง ที่ผ่านมาสัญญานักรักยืนยง ต่อหน้าองค์อินทราเทวฤทธิ์
๏ พระองค์สิ้นสัจจะหรือไฉน สิ่งอันใดน้องนี้มีความผิด จะมาดร้ายกายใจไม่เคยคิด มิเบือนบิดจิตละจากพระนล
๏ เมื่อภูมีหนีจากพรากเมียรัก เมียคงจักดับชีวินสิ้นกุศล ภัสดาคราต้องครองทุกข์ทน แล้วต่อไปใครเป็นคนประโลมใจ
รายนามผู้เยี่ยมชม : , , ลิตเติลเกิร์ล, Sasi Aksarasrom, นายประทีป วัฒนสิทธิ์, สาวเครือฟ้า, Black Sword, รพีกาญจน์, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ศรีเปรื่อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๔๘ ๑ โอ้ว่าทูลกระหม่อมเอ๋ยอย่าเลยลับ พี่มิกลับน้องมิรู้อยู่ไฉน อย่าให้ต้องโศกาเศร้าอาลัย มลายในพนาลีฉะนี้นา”
๏ นางครวญคร่ำร่ำร้องก้องไพรสณฑ์ “ระทมทุกข์เทวษล้นแล้วพี่จ๋า” ไม่มีใครตอบคำพร่ำวาจา ปากเรียกหามิพักสักนาที
๏ ในครานั้นปานว่าจวนบ้าแล้ว เสียงแหบแผ่วโหยหายคล้ายเสียงผี ซัดเซไปในป่าพนาลี ทิศใดที่จะไปมิได้รู้
๏ ยังเชื่อแน่แท้รักพระนลราช จะมิขาดคำมั่นผูกพันอยู่ สิ่งชั่วร้ายใดสำแดงแฝงดนู มาเป็นผู้ก่อภัยให้เกิดกรรม
๏ จึงได้ตั้งสัจจะอธิษฐาน พวกหมู่มารตนใดที่กรายกล้ำ อัปลักษณ์กักขฬะลอบกระทำ คืนเจ็บช้ำพันเท่าทบทวี
๏ ถึงชาติไหนในกมลไม่พ้นทุกข์ เพลิงนรกกลางอกลุกจงทุกที่ จบคำแช่งด้วยแรงเศร้าเหงาฤดี ออกเรียกหาสวามีก้องป่าไป
รายนามผู้เยี่ยมชม : , , ลิตเติลเกิร์ล, Sasi Aksarasrom, นายประทีป วัฒนสิทธิ์, สาวเครือฟ้า, Black Sword, รพีกาญจน์, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ศรีเปรื่อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๔๙ ๏ โอ้ว่าทูลกระหม่อมจอมใจฉัน มิเคยพรากจากกันแม้วันไหน ตั้งแต่เริ่มเข้าวิวาห์กับราชัย อยู่ชิดใกล้ทุกโอกาสมิคลาดคลา
๏ ผัวทิ้งร้างห่างเมียเสียดังนี้ แล้วชีวีเป็นฉันใดในวันหน้า กลับเถิดนะพระองค์ขอจงมา แสนโศกาลำเค็ญโปรดเอ็นดู ๏ เหนื่อยจนพับหลับมิชื่นตื่นร่ำร้อง ขายังย่องย่างไปไม่หยุดอยู่ ซัดเซกายไปปะพญางู เข้าตระหวัดรัดดนูมิรู้ตัว
๏ สุดหวั่นหวาดคาดว่าจะดับดิ้น ใจถวิลเรียกหาพ่อทูนหัว กายแทบแตกเป็นเสี่ยงเสียงสั่นรัว ต่อนี้ผัวต้องเปลี่ยวอยู่เดียวดาย
๏ พระองค์จักโศกเศร้าเกินกล่าวขาน เมื่อเมียยอดเยาวมาลย์ชีพสลาย โอ้เมื่อยามพ้นสาปบาปกรรมร้าย พระองค์หมายจะรับกลับเวียงชัย
รายนามผู้เยี่ยมชม : , , ลิตเติลเกิร์ล, Sasi Aksarasrom, นายประทีป วัฒนสิทธิ์, สาวเครือฟ้า, Black Sword, รพีกาญจน์, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ศรีเปรื่อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๕๐ ๑ งูพิฆาตหม่อมฉันเสียวันนี้ แล้ววันนั้นมันจะมีได้ที่ไหน นางครวญคร่ำร่ำลาอย่างอาลัย สุดจักคิดแก้ไขใจงงงัน
๏ เผอิญมีนายพรานผู้ชาญป่า ตามเสียงนางถึงข้างหน้ากะทันหัน มีดสะบัดตัดคองูขาดโดยพลัน ช่วยชีวันพระนางทมยันตี
๏ พรานหาน้ำชำระพระโลหิต ที่สาดติดองค์พระมเหสี หาผลไม้มาให้ลิ้มชิมอย่างดี แล้วพาทีสอบถามกับทรามวัย
๏ “โอ้เนื้อเย็นเป็นใครจากไหนหนอ งามลออเกินนางกลางป่าใหญ่ ร่อนเร่มาจากแคว้นดินแดนใด หมายเดินไพรหรืออนงค์หลงวนา
๏ ครานั้นทมยันตีมีคำตอบ กล่าวโดยชอบขอบคุณบุญรักษา ปลื้มน้ำจิตมิตรไมตรีช่วยชีวา แต่ทว่าพรานไพรใจลำพอง
๏ หลงโฉมงามเกินห้ามข่มอารมณ์ไหว เกิดอยากใคร่สมสู่เป็นคู่สอง นางมาเดียวเปลี่ยวกายไร้คนครอง เราจักต้องมิปล่อยแม่ถอยจร
รายนามผู้เยี่ยมชม : , , ลิตเติลเกิร์ล, Sasi Aksarasrom, นายประทีป วัฒนสิทธิ์, สาวเครือฟ้า, Black Sword, รพีกาญจน์, รินดาวดี, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ศรีเปรื่อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๕๑ ๏ เอ่ยว่า “ยอดเยาวพามารศรี ฟังเถิดหนานารีมิ่งสมร เราเองจักโอบอุ้มคุ้มบังอร มิให้ต้องเดือดร้อนเหมือนก่อนมา
๏ จัดให้ทานอาหารป่าดารดาษ มิให้ขาดทุกวันจักสรรหา ขอเป็นคู่อยู่ชิดเคียงนิทรา มิต้องลาแรมไกลหนใดแล้ว”
๏ ในครานั้นองค์ทมยันตี ผู้จงรักภักดีแต่ผัวแก้ว เห็นพรานพล่ามสามหาวมิเข้าแนว สิ้นวี่แววผู้หวังดีช่วยชีวิต
๏ จึงยกมือพนมก้มเกศา อ้างเอาคำแห่งฟ้าประกาศิต หม่อมฉันรักภักดีองค์พระทรงฤทธิ์ ผู้ที่คิดชั่วช้าลามลาย
๏ สิ้นคำชายาพระนลราช ดั่งฟ้าฟาดพรานดับดิ้นสิ้นสลาย มิสงบเสงี่ยมรู้เจียมกาย รับความตายเป็นค่าบรรณาการ
รายนามผู้เยี่ยมชม : , , ลิตเติลเกิร์ล, Sasi Aksarasrom, นายประทีป วัฒนสิทธิ์, สาวเครือฟ้า, Black Sword, รพีกาญจน์, รินดาวดี, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ศรีเปรื่อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๕๒
๏ ครั้นสิ้นเคราะห์เฉพาะหน้าที่ปรากฏ ความกำสรดยังเห็นเป็นแก่นสาร ซัดเซกายในแดนแสนกันดาร ทั้งล้มลุกคลุกคลานซมซานไป
๏ ต้องว้าเหว่เอกากลางป่าเปลี่ยว เฝ้าแลเหลียวหาพระนลอยู่หนไหน มีแต่เสียงสัตว์สำเนียงหริ่งเรไร เหมือนเยาะเย้าเย้ยฤทัยให้ตรอมตรม
๏ ผ่านฝูงสัตว์ที่ลัดทางอยู่กลางป่า พยัคฆาลิงค่างกวางสวยสม หมู่นกกาถลาคอนร่อนเล่นลม ดั่งชวนชมพฤกษานานาพรรณ
๏ ถ้ามากับภัสดาในคราสุข คงสนุกปานว่าวนาสวรรค์ แต่บัดนี้อกมีไฟบรรลัยกัลป์ เศษสุขสันต์กลางฤทัยจึงไม่มี
๏ จิตประหวัดภัสดาหาสุดสิ้น ครั้งชีวินหวานคู่อยู่สุขี “สัญญารักจักดำรงองค์บดี โอ้ป่านนี้มิเหลือแล้วเยื่อใย
๏ แต่ก่อนกาลถึงวันสยมพร หงส์ทองร่อนลงหาแล้วปราศรัย เทิดแต่เกียรติแห่งองค์พระทรงชัย คำน้อยไม่ติต้องให้หมองมัว”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๕๓ ๏ “ปักใจจงปลงมาเป็นข้าบาท ร้างนิราศให้อาดูรไยทูนหัว น้องผิดพลั้งใดก็ขอแก้ตัว ร่ำเรียกผัวอยู่หนไหนไม่พาที
๏ มิตอบคำที่พร่ำหากว่าพันหน เกินทุกข์ทนใจเสียแล้วเมียพี่ รอยข่วนตำช้ำสิ้นทั้งอินทรีย์ คลุกธุลีเปื้อนโคลนจนเกรอะกรัง
๏ ผ้าพอปิดกายามาขาดวิ่น หากมีปิ่นบดียังมีหวัง ตะโกนก้องร้องสุดเสียงเพียงลำพัง สุดจะยั้งชีวีแล้วพี่เอย”
๏ ยิ่งนานวันเทวีวิปริต เมื่อใจคิดวจีมินิ่งเฉย ไร้ผู้คอยตอบคำที่พร่ำเปรย เฝ้าเอื้อนเอ่ยพรรณนามาแดเดียว
๏ จิตห่วงใยใจกังวลถึงคนรัก ตนทุกข์หนักแท้แท้ยังแลเหลียว ขึ้นแนวเนาเขาวงกฎที่คดเคี้ยว บุกป่าเปลี่ยวเรียกหาสวามี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๕๔ ๏ แลทั่วไพรไล่พฤกษ์มฤคร้าง ถามรายทางสิ่งใดใกล้วิถี มวลพฤกษาผาหินถิ่นนที องค์เทวีเพ้อรำพึงกึ่งวิกล
๏ “โอ้ว่าจอมคีรีที่สูงเยี่ยม เห็นเท่าเทียมเมฆาเวหาหน วานช่วยจ้องมองมาหาพระนล พบทรงพลแจ้งด้วยช่วยข้าน้อย
๏ ชั่วชีวันมั่นไว้มิไกลจาก เมื่อพลัดพรากรักเศร้าสุดเหงาหงอย เฝ้าชะแง้แลหาตั้งตาคอย หวนละห้อยร่ำหาพี่มาพบ
๏ ถามลำธารที่ขวางหนทางเอ๋ย สายน้ำเลยรินไหลไม่รู้จบ ห่วงหาไหมคราไกลหายในอรรณพ ว่าประสบเค็มขมหวานประการใด
๏ ศารทูลผ่านทางย่างเข้าหา ลืมชีวาตามติดจนชิดใกล้ เอ่ยถามทักพยัคฆาหาทรงชัย พบพระนลอยู่หนใดในป่านี้
๏ จอมอรัญพลันจ้องมองพินิจ คงมิคิดตอบความพระมเหสี ชะรอยซึ้งถึงเดชะบารมี ค่อยหลีกลี้เร้นร่างไปกลางดง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๕๕ ๏ แล้วล่วงถึงซึ่งวนาแนวป่าทิพย์ แลละลิบงามล้วนชวนลุ่มหลง ยอดสิงขรตระอรสู่สุริยง สุรีย์รงค์พราวพริบระยิบระยับ
๏ เห็นนานาโลหะชาติประหลาดล้ำ ดุจเทพทำศิลป์สวรรค์สรรประดับ แสงหินสีมณีรัตน์จรัสวับ ซ้อนสลับเพชรแก้วเพริศแพร้วพราย
๏ คณานับสรรพสัตว์จตุบาท สิงหราช คชสารผ่านผันผาย มวลหมู หมี เก้ง กวาง เยื้องย่างกราย เชื่องช้าท่าสบายสำอางองค์
๏ ทวิชชาติเช่นวิหกผกเวหา ยูงไก่ฟ้ารำแพนหางคู่นางหงส์ มากพฤกษาโศภินรูปศิลป์ทรง พื้นลานดงเตียนโล่งปลอดโปร่งดี
๏ มะลิวัลย์กรรณิกาหอมระรื่น แลดาษดื่นกลีบร้างพื้นพร่างสี มวลผลไม้หลายหลากเห็นมากมี วนาลีดั่งดลด้วยมนตรา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๕๖
๏ แต่อารมณ์ทมยันตีมิชมชื่น ยังสะอื้นเพ้อพร่ำคร่ำครวญหา เลือนสติพิไรร่ำพร่ำพรรณนา วอนเจ้าเขาเข้าป่าโปรดปรานี
๏ “ฟังข้านะจะแถลงแจงสาเหตุ จำจากเขตแรมร้างห่างกรุงศรี ตัวข้าหรือคือวิธรรภ์กุมารี แห่งองค์ภีมราชจอมราชัน
๏ ราชบุตรท้าววีรเสนนิษัธราช นามพระนลภูวนาถครองเขตขัณฑ์ สยมพรร่วมชีวาแต่ครานั้น ชื่นชีวันกันมาสิบห้าปี
๏ เกิดภาวะพระหลงผิดติดสกา มิลืมหูลืมตาทิ้งหน้าที่ ละราชกิจบวงสรวงปวงพลี ดวงฤดีมุ่งชนะการพนัน
๏ มีแต่เสียก็ยิ่งหมายได้คืนกลับ จนสิ้นทรัพย์หมดพระคลังยังมุ่งมั่น วางฐานะกษัตริย์เสริมเป็นเดิมพัน ก็แพ้มันจนต้องออกนอกพารา
๏ ข้าจงรักภักดีมิมีหน่าย ตามพระองค์จำนงหมายตายดาบหน้า เหลือฝ้ายทอห่อกายนั้นร่วมกันมา ทรงเฉือนผ้าแบ่งปันแล้วผันจร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๕๗
๏ ข้าเดินหลงดงแดนแสนอ้างว้าง ดุจลูกกวางพลัดแม่แต่วัยอ่อน กราบเจ้าเขาเจ้าป่าพนาดร โปรดอาทรช่วยฉุดลากจากโลกันต์
๏ เผยวาจาเถิดพระนลอยู่หนไหน ข้านี้เหลืออาลัยใจโศกศัลย์ พรรณนาพร่ำร่ำพลางกลางอรัญ ไร้วาจามาประจันจำเดินเดียว
๏ ผ่านหลายป่าพนาลีฤดีหมอง ยังกู่ร้องก้องหาตาแลเหลียว ทุกข์กายแย่ยังแพ้ในฤทัยเทียว ไล่เลาะเลี้ยวเนินพนัสซัดเซมา
๏ จนถึงป่าแหล่งดาบสทรงพรตเลิศ ศีลประเสริฐธรรมะอหิงสา ครองเปลือกไม้ใส่หนังขลังสิทธา เหล่ามหาโยคีมีมากครัน
๏ ต้อนรับราชธิดาวณิพก ผู้มาตกยากอับแทบดับขันธ์ ต่างปลงอนิจจาฟ้าลงทัณฑ์ กรรมหรือเวรใดนั้นบันดาลดล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๕๘ ๏ นางทมยันตีอภิวาท อยู่แทบบาทผู้ทรงศีลปิ่นกุศล เกิดยินดีที่หว่างกลางกมล จักมีผลได้ถามหาสวามี
๏ คารวะคณะองค์ผู้ทรงพรต ตามแบบบทแห่งธิดามารศรี วิสาสะกับเหล่าพระองค์มุนี แลโยคีอำนวยอวยพรชัย
๏ ถามไถ่นามความเป็นมาก่อนหน้านั้น การณ์สำคัญนำพามาไฉน เหตุและผลต้นทางมาอย่างไร จงกล่าวให้มุนีกรรมยินทั่วกัน
๏ ครานั้นทมยันตีมีแถลง เค้าความแห่งพระนลรังสรรค์ แลดนูผู้จงรักภักดิ์ราชัน ตั้งแต่วันที่ต้องพรากจากพารา
๏ “เชื่อพระองค์ทรงสัตย์แน่สนิท มิมีผิดคำมั่นอันแน่นหนา ด้วยเคยได้ประกาศเป็นสัจจา ไว้เมื่อคราวาระสยมพร
๏ จะภักดีนางเดียวจนชีพดับ หม่อมฉันรับคำมั่นปานสิงขร เชื่อแน่แท้มิแปรผันหรือสั่นคลอน อย่างแน่นอนยืนยันมั่นฤทัย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๕๙ ๏ แต่พระองค์หลงผิดติดสกา เหตุนั้นน่าต้องมีผีร้ายใหญ่ เข้ามาครอบงำจิตผิดเพี้ยนไป โดยหมายชัยครองราชย์ชาติประชา
๏ พระเกิดความวิปริตด้วยคิดหนัก กลัวเมียรักลำบากนานมากกว่า ให้หม่อมฉันกลับวิธรรภ์พลันอย่าช้า พระองค์มีเจตนารับกรรมนั้น
๏ ปันผ้าฝ้ายใช้ร่วมแต่แค่เพียงผืน ตกกลางคืนพระไปกลางไพรสัณฑ์ เมื่อตื่นต้องครองโศการ่ำจาบัลย์ จึงด้นดั้นดงดอนร่อนเร่มา ๏ คือสัจจังดังเผยเฉลยนี้ องค์มุนีโปรดช่วยด้วยเจ้าขา เมื่อวันไหนได้พบปะภัสดา จึงกลับชื่นรื่นอุราร่าเริงใจ
๏ ภริยาต้องมาร้างห่างสามี ฤๅจะสุขฤดีที่ใดได้ ชีพคงดับอับปางอยู่กลางไพร โปรดช่วยไวเถิดหนาสิทธาจารย์”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|