|
นายประทีป วัฒนสิทธิ์
|
Permalink: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
สวัสดี ทุกท่าน จีนรัสเซียเร่งแทรกแซงแย่งพื้นที่ ๓๐๑ จีนรัสเซียเร่งแทรกแซงแย่งพื้นที่ กลัวเสียทีฝ่ายขวามาปักฐาน แย่งประชาชนมากมีวิธีการ ทำเอาบ้านเมืองไทยให้วุ่นวาย
๓๐๒ ด้วยรัฐบาลต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ เชื่อผิดผิดตามอเมริกามาขยาย เลยคล้อยตามขวานิยมอย่างงมงาย แท้ฝ่ายซ้ายมีดีนี้ค่าควร
๓๐๓ แท้ลัทธิคอมมิวนิสต์คิดสร้างโลก แนวดับโศกมนุษยชาติสะอาดล้วน คือระบบเศรษฐกิจพอเพียงตามกระบวน จึงเดินสวนแนวเสรีวัตถุนิยม
๓๐๔ มาเจาะลึกหัวตะพานบ้านคอมมิวนิสต์ เกิดวิกฤตแก้แค้นฆ่ากันสาสม ยุคล้มตายการเมืองเรื่องสังคม เกิดจากปมเงื่อนไขในต่างกัน
๓๐๕ คอมมิวนิสต์ใช้ช่องว่าทางกฎหมาย เป็นอุบายแย่งแระชาใช่ล่าฝัน ด้วยสำเร็จตามยุทธวิธีดีคืนวัน สงครามจิตสำคัญกว่าใดใด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายประทีป วัฒนสิทธิ์
|
Permalink: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
สวัสดี ทุกท่าน ตรงนี้เองที่ฆ่ากันว่าเล่น ๓๐๖ กรณีตัวอย่างยกให้เห็น ชี้ประเด็นช่องว่านำทางให้ เดิดกรณีพิพาทกันเมื่อไร มาเร็วไวแก้กรณีนี้ทันควัน
๓๐๗ ยกกรณีพิพาทเรื่องแดนเขต รวบรวมเหตุรวมผลจนเป็นมั่น แล้วปักเขตกันใหม่ให้รู้กัน ยึดตามปันตามแบ่งที่แจ้งมา
๓๐๘ หากได้ข่าวฝ่ายใดไม่ปฏิบัติ ยังขืนขัดเปิดประเด็นป็นปัญหา นัดพบใหม่ให้ปฏิบัติตามสัญญา ผิดวาจาฆ่าทิ้งยิงทันใด
๓๐๙ ตรงนี้เองที่ฆ่ากันว่าเล่น เลยกลายเป็นกฎหมายที่โปร่งใส ทำตรงไปตรงมาว่ากันไป ดูเชื่อได้กว่ากฎหมายรัฐบาล
๓๑๐ บางกรณีขึ้นศาลพานเพี้ยนผิด ความศักดิ์สิทธ์ลดลงไม่ตรงมาตรฐาน ต้องจ่ายทนายนายหน้าค่าบริการ ต้องขึ้ศาลเสียสินสิ้นเงินทอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายประทีป วัฒนสิทธิ์
|
Permalink: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
สวัสดี ทุกท่าน คอมมิวนิสต์จัดการขึ้นศาลเตี้ย ๓๑๑ คอมมิวนิสต์จัดการขึ้นศาลเตี้ย ไม่ต้องเสียทรัพย์สินสิ้นข้าวของ โจรลักวัวลักควายตายเป็นกอง จะถูกต้องหรือผิดคิดดูที
๓๑๒ พวกทำผิดชั่วร้ายตายกันหมด ไปตามกฎคอมมิวนิสต์ปิดบัญชีผี หัวตะพานนานพบสงบดี ตั้งหลายปีโจรไกลให้ร่มเย็น
๓๑๓ วกมาสู่พอเพียงเลี้ยงชีวิต ผลสัมฤทธิ์สันติสุขมิทุกข์เข็ญ มิมีรวยมีจนพ้นลำเค็ญ ผมได้เห็นซาบซึ้งถึงทุกวัน
๓๑๔ พวกผักทุ่งผักป่านานาชนิด ไร้สารพิษคุณค่ามีมหันต์ พ่อแม่เก็บให้เห็นเป็นประจำวัน ลูกรู้กันถ้วนครบจบป่าไพร
๓๑๕ เหล่าโปรตีนกินได้ในคำสอน คนเก่าก่อนรู้ทันสอนกันไว้ หากกินมาก “เป็นเดือน” เตือนกันไป ยังจำได้ก้องหูอยู่เรื่อยมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายประทีป วัฒนสิทธิ์
|
Permalink: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
สวัสดี ทุกท่าน “เดือน” นั่นหรือคือพยาธิลำไส้
๓๑๖ “เดือน” นั่นหรือคือพยาธิลำไส้ ภาษาใต้เรียกสั้นกันดอกหนา “พยาธิไส้เดือน”คำกลางต่างวาจา เรื่องภาษารู้ไว้ใช้สื่อกัน
๓๑๗ แต่ละมื้อโปรตีนกินนิดหน่อย เพียงแต่น้อยก็พอต่อกายนั่น จะ “เป็นเดือน” เตือนไว้ให้สำคัญ ให้ใจหวั่นปฏิบัติอย่างรัดกุม
๓๑๘ หันมากินผักมากจากลดเนื้อ เกลือแร่วิตะมินกินเกินคุ้ม สารอาหารครบครันขั้นควบคุม นี่คือขุมวิชาการหัวตะพานเรา
๓๑๙ ผลไม้สมสูกปลูกทุกบ้าน ได้รับทานประจำทุกค่ำเช้า พืชล้มลุกยืนต้นผลหนักเบา อีกพืชเถาปลูกกันนั้นนานนม
๓๒๐ ปลูกแบบนี้ปัจจุบันนั้นมีชื่อ นั้นก็คือไร่นาสวนผสม เข้าหลักการคู่เคียงพอเพียงนิยม แถมเป็นร่มบังบ้านสราญใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายประทีป วัฒนสิทธิ์
|
Permalink: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
สวัสดี ทุกท่าน เถา”อีคุย”เลื้อยผงาดพาดต้นเหรียง ๓๒๑ มะละกอหลายพันธุ์สรรหารักษ์ ดิบเป็นผักสุกเป็นเช่นผลไม้ กล้วยหลายพันธุ์สรรหาปลูกคละไป ประโยชน์ใบและผลต้นก็ดี
๓๒๒ ละมุดมะมุดลางสาดมิขาดสวน เงาะ “ลูกลวน” ปะปนแซมต้นหยี ฝั่งทุเรียนเคียงมังคุดสุดเปรมปรีดิ์ ขนุนเคียงจำปาสง่างาม
๓๒๓ เถา”อีคุย”เลื้อยผงาดพาดต้นเหรียง ต้นพะเนียงเคียงสะท้อนคล้ายอ้อนถาม “สบายไหม” ใกล้ฉันกันทุกยาม เหลืองอร่ามปริงปรางวางช่อพวง
๓๒๔ มะเฟืองไฟชมพู่อยู่แนบชิด ปลูกต่อติดระคนต้นมะม่วง หมากมะพร้าวส้มโอโอ้ชะมวง ดังแมนสรวงสวนสวรรค์สรรจัดมา
๓๒๕ แม้มีสวนผลไม้ใกล้เขตบ้าน เหล่าลูกหลานยังค้นผงไม้ป่า ได้รู้จักจากพ่อแม่แลปูตา ได้เสาะหารับประทานตามกาลฤดู
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายประทีป วัฒนสิทธิ์
|
Permalink: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
สวัสดี ทุกท่าน ลูก”กำซำ” คำกลางข้าง”มะหวด”
๓๒๖ ลูก”กำซำ” คำกลางข้าง”มะหวด” ออกผลอวดสีดำซ้ำสวยหรู ลูก “สังเกียด” คล้ายจังลูก “สังยู” นั้น “ชมพู่บ้าหวัน” สีสันทา
๓๒๗ ลูกนมแมวมากมีนี่หาง่าย อีกลูกหวายลูกจันทน์นั่นลูกหว้า ลูกยับเยี่ยวเปรี้ยวหวานซ่านอุรา คล้ายพุทราแต่เล็กเด็กชอบทาน
๓๒๘ เข้าหน้าฝนลูกไม้ได้ลิ้มรส ดูสวยสด “เม้าน้ำนอง” พองแล้วหวาน ลูก “แม็ดชุน” สีขาวร้าวดวงมาน ซาวน้ำตาลนิดนิดหวานติดใจ
๓๒๙ นั่นลูกวาละม้ายคล้ายมังคุด บ้างเปรี้ยวสุดบ้างหวานพอทานไหว ลูกนมควายสีแดงนั่น “แมงไพร” ลูกกำไหลเปรี้ยวบนหวานทานชื่นอก
๓๓๐ ลูกขี้แรดมากมีต้นมีหนาม พยายามเก็บผลจนเลือดตก นั่นต้นข่อยยืนอยู่คู่ “ลุ่มนก” พูดตลกลุ่มนกข่อยพลอยสัปดน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายประทีป วัฒนสิทธิ์
|
Permalink: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
สวัสดี ทุกท่าน ลูก”มังเร” หรือ ”แหมร” ชื่อเท่แปลก
๓๓๑ หากใครกินลูกข่อนหมอยจะดก ใครกินลูกลุ่มนกหมอยจะหล่น เป็นคำกลอนวอนว่าต่อหน้าคน ใช่ซุกซนหยาบคายจากกายใจ ๓๓๒ ต้น “ลูกโท่” ต่ำเตี้ยเรี่ยเรียหัว ลูกดำทั่วเต็มต้นค้นหาได้ แม้เมล็ดมากหอมหวานซ่านฤทัย ชวนเพื่อนไปเก็บกันสุขสันต์ดี ๓๓๓ ลูก”มังเร” หรือ ”แหมร” ชื่อเท่แปลก พอฝนตกลูกแตกแยกเห็นสี ม่วงแกมดำดกเด่นเห็นมากมี สิ้นดำปี๋ยามทานรสหวานมัน ๓๓๔ ลูก “แม่พรอ” อีกชนิดติดใจจด คล้ายเสาวรสเมืองเหนือขอเชี่อฉัน ยามสุกแดงกินได้ให้รู้กัน เว้นสามวันลุกต่ออ๋อไม่นาน ๓๓๕ “พร้าวนกขุ้ม” รสหวานพานติดสิ้น ดื่มน้ำกินสิ้นขันนั้นยังหวาน กินของเปรี้ยวเปรี้ยวเพี้ยนเปลี่ยนน้ำตาล เด็กชอบทานชวนพาค้นหากิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายประทีป วัฒนสิทธิ์
|
Permalink: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
สวัสดี ทุกท่าน เขาเรียกกัน“หมูขี้พร้า”เข้าท่าดี ๓๓๖ หยุดผลไม้ป่าวกมาเข้าหาบ้าน สิ่งพบพานขานไขให้รู้สิ้น การเล่าขานเดี๋ยวนี้มิยลยิน เรื่องท้องถิ่นก่อนเก่าเหงาไปครัน
๓๓๗ แต่ละบ้านคล้ายไร่นาสวนผสม สมัยผมชื่อไม่เห็นเป็นเช่นนั้น ไม่มีนามมีชื่อถือเรียกกัน แต่ยึดมั่นเหนียวแน่นมิแคลนคลอน
๓๓๘ ผักสวนครัวยึดหลักปักคงมั่น ทำตามกันมิพ้นชนรุ่นก่อน ดั่งวางไว้เป็นกฎบทแน่นอน เป็นการสอนสืบทอดยอดวิชา
๓๓๙ เลี้ยงเป็ดไก่ไข่เนื้อเพื่ออาหาร ทุกทุกบ้านเลี้ยงไว้ให้ทั่วหน้า ไก่ให้ไข่ให้เนื้อเหลือคณา เป็ดนั่นหนาให้ไข่ไม่เว้นวัน
๓๔๐ หมูอีกอย่างเลี้ยงกันนั้นทุกบ้าน เศษอาหารให้หมูรู้จักสรร พันธุ์พื้นเมืองเลี้ยงแค่แต่หนึ่งพันธุ์ เขาเรียกกัน“หมูขี้พร้า”เข้าท่าดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายประทีป วัฒนสิทธิ์
|
Permalink: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
สวัสดี ทุกท่าน ประเพณี “ตั้งกอง” ของบ้านผม ๓๔๑ ประเพณี “ตั้งกอง” ของบ้านผม เขานิยมชมชอบระบอบนี้ พอหมูโตเห็นควรติดอ้วนพี เพื่อนน้องพี่ชวนพามา “ตั้งกอง”
๓๔๒ การตั้งกองของดีเป็นที่สุด ของมนุษย์ทั้งมวลถ้วนทั้งผอง สังคมคนควรสรรเป็นครรลอง จักถูกต้องคลองธรรมนำจิตวิญญาณ
๓๔๓ ก็เพื่อมนุษย์สุดฉลาดปราชญ์ของโลก ได้ดับโศกพ้นทุกข์เห็นสุขศานต์ สว่างจ้าเช้าค่ำธรรมาภิบาล ส่งนิพพานเมืองมนุษย์สุดแห่งธรรม์
๓๔๔ ขอย้ำเรื่อง”ตั้งกอง” ของคำใต้ เป็นคำใช้แบ่งของต้องจัดสรร จัดเป็นกองเป็นกองของเท่ากัน แล้วแบ่งปันกันครบจบทุกคน
๓๔๕ ชำแหละหมูเสร็จสิ้นแบ่งชิ้นหั่น นี่เนื้อสันนั่นเนื้อขามาเนื้อก้น ทุกทุกส่วนมิลดละคละปะปน สรุปผลเท่าเท่ากันนั้นประมาณ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายประทีป วัฒนสิทธิ์
|
Permalink: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
สวัสดี ทุกท่าน มีบ้านพี่บ้านน้องร่วมท้องไส้ ๓๔๖ แบ่งกันไปไม่คิดสตางค์ให้หมางจิต ดั่งอุทิศแก่กันฉันท์ลูกหลาน นั่งรอวันผันไปอีกไม่นาน มีอีกบ้านตั้งกองจองกันไป
๓๔๗ เป็นที่รู้แก่กันฉันท์น้องพี่ เป็นอย่างนี้หมุนเวียนเปลี่ยนกันให้ สิ่งเหล่านี้มีได้ก็ด้วยใจ กว่ามีได้ต้องสร้างอย่างยาวนาน
๓๔๘ มีอย่างหนึ่งพึงใจใคร่ขอตอบ ผมนึกชอบครอบครัวใหญ่ในหมู่บ้าน ยังจดจำตำตามาหลายกาล หัวตะพานบ้านเราเขาเคยมี
๓๔๙ มีบ้านพี่บ้านน้องร่วมท้องไส้ ปลูกบ้านใกล้รั้วเดียวกันฉันท์น้องพี่ อยู่ร่วมกันสวรรค์สร้างสามัคคี วันคืนดีนำอาหารร่วมทานกัน
๓๕๐ กิจกรรมลูกหลานประสานรัก ให้รู้จักญาติมิตรคิดสร้างสรรค์ เชื่อมหัวใจใฝ่รักภักดิ์สัมพันธ์ นับเป็นขั้นเริ่มต้นสร้างชนดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายประทีป วัฒนสิทธิ์
|
Permalink: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
สวัสดี ทุกท่าน ความผูกพันมั่นหมายในสายเลือด ๓๕๑ ความผูกพันมั่นหมายในสายเลือด มิแห้งเหือดรู้กันฉันท์น้องพี่ เกิดรู้รักเมตตาเอื้ออารี ติดตัวมีเป็นสันดานกาลสืบไป
๓๕๒ ปู่ย่ายายคล้ายเช่นเป็นของขลัง คอยปลูกฝังอบรมบ่มนิสัย ลูกหลานเหลนเชื่อฟังอย่างตั้งใจ ยึดผู้ใหญ่เป็นหลักรักษ์นิยม
๓๕๓ จึงรู้ผิดรู้ถูกปลูกนิสัย สร้างวินัยคุณธรรมล้ำเลิศสม จริยธรรมแข็งแกร่งแฝงอารมณ์ สิ่งสังคมต้องการขานรับรอง
๓๕๔ ครอบครัวใหญ่แบบอย่างทางสร้างสรรค์ คอยประกันลูกหลานในเกี่ยวข้อง ป้อนสังคมงดงามตามหวังปอง ตามครรลองต้องการหัวตะพานเรา
๓๕๕ ครัวเข้มแข็งแกร่งเช่นเป็นหินผา ช่วยนำพาชุมชนใช่ไม่เล่า ทุกครอบครัวอย่างนี้มิซาเพลา ต่างเป็นเสาคุณธรรมค้ำชุมชน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายประทีป วัฒนสิทธิ์
|
Permalink: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
สวัสดี ทุกท่าน นำเมล็ดมาเพาะเป็น”หน่อเหรียง” ๓๕๖ อันสังคมเข้มแข็งเกิดอย่างนี้ ต้องเริ่มที่ครอบครัวตัวเริ่มต้น ก็ครอบครัวตัวฐานการสร้างคน ให้ส่งผลเข้มแข็งแห่งคุณธรรม
๓๕๗ มารู้จักฝักเหรียงแห่งเวียงใต้ เป็นพันธุ์ไม้คล้ายสะตอขอตอกย้ำ ฝักของมันเหมือนสะตอขอแนะนำ ฝักสีดำสุกแก่แน่นักเทียว
๓๕๘ นำเมล็ดมาเพาะเป็น”หน่อเหรียง” ผิวลื่นเกลี้ยงสีตองอ่อนค่อนข้างเขียว รสชาติดีหอมหวานน่าทานเชียว ยามคบเคี้ยวกรุบกรอบชื่นชอบกัน
๓๕๙ จิ้มน้ำพริกแมงดาจะหาไหน หรือเอาใส่แกงกะทิเนื้อขอเชื่อฉัน ใส่แกงพริกหมูเนื้อเหลือรำพัน รสเข้าขั้นนำดองมิรองใคร
๓๖๐ จำมิเลือนลืมเลยเคยเฝ้าเหรียง เช้าสายเที่ยงสุรีย์ดับลับไศล มิเหนื่อยล้าอ่อนแอแต่อย่างใด เพลิดเพลินใจกับเพื่อนเตือนใจจินต์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายประทีป วัฒนสิทธิ์
|
Permalink: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
สวัสดี ทุกท่าน เหรียงต้นใหญ่สูงยิ่งกิ่งแผ่กว้าง ๓๖๑ เหรียงต้นใหญ่สูงยิ่งกิ่งแผ่กว้าง ดุจยูงยางครึ่งไร่ร่มไปสิ้น ยามลมพัดฝักหล่นเกลื่อนบนดิน ลมพัดบินปลิวว่อนเวียนว่อนวน
๓๖๒ ความสนุกเฝ้าเหรียงเพียงตรงนี้ ต่างวิ่งรี่คว้ารับกันสับสน ยิ่งผู้เฝ้ามากมายมีหลายคน ต่างลุกลนเกมกีฬาสนุกดี
๓๖๓ ปลายเดือนห้าหน้าฝนต้นเดือนหก เหรียงเริ่มตกเริ่มหล่นจนเต็มที่ ต้นหนึ่งหนึ่งหมื่นฝักจักพึงมี แต่ละปีเก็บได้ใกล้เคียงพัน
๓๖๔ วิธีเพาะทำง่ายได้ไม่ยาก มิลำบากแต่ไต่ไปตามขั้น อันดับแรกตากฝักจักสำคัญ สามสี่วันแห่งสนิทปิดขั้นไป
๓๖๕ ขั้นที่สองแกะเมล็ดเสร็จจากฝัก มิรอพักตากแดดอีกที่ไซร้ นำไปเก็บเป็นปีมิเป็นไร ขั้นสามใช้คีมหนีบคีบปลายเมล็ด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายประทีป วัฒนสิทธิ์
|
Permalink: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
สวัสดี ทุกท่าน จิ้มน้ำพริกหน่อยาวช่างเข้าขั้น ๓๖๖ ขั้นต่อมาพาเมล็ดไปแช่น้ำ ขอตอกย้ำครึ่งวันนั้นก็เสร็จ หรือหนึ่งคืนแค่นี้ยังดีเด็ด มิมีเคล็ดอย่างใดดูง่ายดาย
๓๖๗ จัดกระบะทรายไว้รอเพาะเมล็ด ทรายดีเด็ดย่อมดีมีความหมาย อุ้มน้ำน้อยน้ำมากฝากเม็ดทราย สมควรใช้ขนาดกลางถืออย่างดี
๓๖๘ หกเจ็ดวันหน่อสั้นนั้นใช้ได้ ถ้าจะให้หน่อยาวราวสิบสี่ เอาอย่างใดแต่ชอบตอบมาที แล้วแต่มีจุดประสงค์ตรงใช้งาน
๓๖๙ จิ้มน้ำพริกหน่อยาวช่างเข้าขั้น หน่อของมันนั้นดีที่รสหวาน ได้น้ำพริกแมงดาน่ารับทาน ทั่วหมู่บ้านรู้ดีนี้ธรรมดา
๓๗๐ ยังจำได้หลายอย่างค้างในจิต นำครวญคิดใคร่ครวญล้วนเสน่หา ฤดูกาลยังมั่นคงตรงเวลา เตรียมรอท่าได้เห็นดูเช่นเดิม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|