Username:

Password:


  • บ้านกลอนน้อยฯ
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล >> กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
หน้า: [1] 2 3 ... 10
 1 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: ประมวลธรรม: ๘.เกวัฏฏสูตร
 เมื่อ: วันนี้ เวลา 07:46:11 AM 
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร

(ต่อหน้า ๑๐/๑๐) ประมวลธรรม : ๖๐. มหาเวทัลลสูตร

~เจโตวิมุตติอันไม่กำเริบ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ‘เลิศกว่าอัปปมาณาเจโตวิมุตติที่มีอยู่’
~เจโตวิมุตติอันไม่กำเริบนั้น ว่างจากราคะ, ว่างจากโทสะ, ว่าง
จากโมหะ, ราคะชื่อว่ากิเลสเป็นเครื่องกังวล, โทสะชื่อว่ากิเลสเป็นเครื่องกังวล, โมหะชื่อว่ากิเลสเป็นเครื่องกังวล กิเลสเหล่านั้นภิกษุผู้ขีณาสพละได้เด็ดขาดแล้ว ตัดรากถอนโคนเหมือนต้นตาลที่ถูกตัดรากถอนโคนไปแล้ว เหลือแต่พื้นที่ ทำให้ไม่มี
เกิดขึ้นต่อไปไม่ได้
~ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้มี อัปปมาณาเจโตวิมุตตโมหะชื่อว่ากิเลสเป็นเครื่องกังวล; กิเลสเหล่านั้นภิกษุผู้ขีณาสพละได้เด็ดขาดแล้ว ตัดรากถอนโคนเหมือนต้นตาลที่ถูกตัดรากถอนโคนไปแล้ว เหลือแต่พื้นที่ ทำให้ไม่มีเกิดขึ้นต่อไปไม่ได้
~ เจโตวิมุตติอันไม่กำเริบ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ‘เลิศกว่าอากิญจัญญาเจโตวิมุตติที่มีอยู่’
~ เจโตวิมุตติอันไม่กำเริบนั้น ว่างจากราคะ; ว่างจากโทสะ; ว่างจากโมหะ; ราคะชื่อว่ากิเลสเป็นเครื่องทำนิมิต; โทสะชื่อว่ากิเลสเป็นเครื่องทำนิมิต; โมหะชื่อว่ากิเลสเป็นเครื่องทำนิมิต; กิเลสเหล่านั้นภิกษุผู้ขีณาสพละได้เด็ดขาดแล้ว ตัดรากถอนโคนเหมือนต้นตาลที่ถูกตัดรากถอนโคนไปแล้ว เหลือแต่พื้นที่ ทำให้ไม่มีเกิดขึ้นต่อไปไม่ได้
~ ท่านผู้มีอายุ เจโตวิมุตติอันไม่กำเริบ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ‘เลิศกว่าอนิมิตตาเจโตวิมุตติที่มีอยู่’
~ เจโตวิมุตติอันไม่กำเริบนั้น ว่างจากราคะ; ว่างจากโทสะ; ว่างจากโมหะ
~เพราะอาศัยเหตุใด ธรรมเหล่านี้จึงมีอรรถอย่างเดียวกัน ต่างกันแต่พยัญชนะเท่านั้น เหตุนั้น เป็นอย่างนี้แล”
ท่านพระสารีบุตรได้กล่าวภาษิตนี้แล้ว ท่านพระมหาโกฏฐิกะมีใจยินดีชื่นชมภาษิตของท่านพระสารีบุตร ดังนี้แล
มหาเวทัลลสูตรที่ ๓ จบ

 2 
 บ้านกลอนน้อย ลิตเติลเกิร์ล - มยุรธุชบูรพา / อ่านข้อกำหนด กฎระเบียบต่าง ๆ - สมาชิกใหม่ ทักทาย แนะนำตัวที่นี่ / ยินดีต้อนรับคุณ เขมมิกา สู่บ้านกลอนน้อยฯ
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 11:05:58 PM 
เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล


สวัสดีค่ะ คุณ เขมมิกา
ยินดีต้อนรับสู่บ้านกลอนน้อยลิตเติลเกิร์ล
ขอให้มีความสุข สนุกกับบทกลอนนะคะ

ทีมงานบ้านกลอนน้อยฯ

อ่าน ข้อกำหนด กติกาทั่วไปในการใช้พื้นที่เว็ปไซต์ร่วมกัน คลิก

 3 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / ห้องนั่งเล่นพักผ่อน / Re: ღ จดหมายน้อยถึง ปู่กด ค่ะ ღ
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 08:28:37 PM 
เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล


รักยมเขามาบอกกรอกตาเล่า
ปู่กดเราเข้าบ้านน้อยบ่ได้
รักยมแน่ะย้ำหนักบอกทักไลน์
เลยทักไปเป็นจริงอย่างรักยม

ผิดที่ใครที่คนหรือคอมแน่
ผิดที่แก่จนหนักเกินจักข่ม
ผิดตรงไหนไม่ถามปล่อยตามลม
กินขนมมากไปหรือเปล่านา



 4 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: เล่นกลอนโยนคำ - เพื่อนโยนให้...เราโยนต่อ
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 08:02:50 PM 
เริ่มโดย ลิตเติลเกิร์ล - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล


ละลาย / แพ้

เมื่อสบตากับเธอฉันเผลอยิ้ม
แสนเอิบอิ่มอกชื้นจิตชุ่มฉ่ำ
ใจละลายแล้วเอ๋ยอยากเผยคำ
ร่ายลำนำบรรเลงเพลงแพ้ใจ

ลิตเติลเกิร์ล

สงต่อเจ้า

วันวาน / พรุ่งนี้

ฟังเพลง แพ้ใจ ของคุณ ใหม่ กันนะคะ



 5 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ..ขอบาทเดียว..
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 07:39:41 PM 
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย ลิตเติลเกิร์ล



สาวสยามเมืองยิ้มจิ้มลิ้มด้วย     หญิงก็สวยชายก็หล่อเราก็ใช่

 

 6 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ..ขอบาทเดียว..
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 04:49:25 PM 
เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย ข้าวหอม

ทั่วทุกหนคนไทยมากไมตรี     หน้าตาดีด้วยหนอเราก็ไทย 

 7 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: ประมวลธรรม: ๘.เกวัฏฏสูตร
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 02:27:06 PM 
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร

(ต่อหน้า ๙/๑๐) ประมวลธรรม : ๖๐. มหาเวทัลลสูตร

~ ผล ๔ = ผลที่เกิดสืบเนื่องจากการละกิเลสได้ด้วยมรรค, ธรรมารมณ์อันพระอริยะพึงเสวย ที่เป็นผลเกิดเองในเมื่อกิเลสสิ้นไปด้วยอำนาจมรรคนั้นๆ ได้แก่
๑) โสดาปัตติผล - ผลแห่งการเข้าถึงกระแสที่นำไปสู่พระนิพพาน, ผลอันพระโสดาบันพึงเสวย
๒) สกทาคามิผล - ผลอันพระสกทาคามีพึงเสวย
๓) อนาคามิผล - ผลอันพระอนาคามีพึงเสวย
๔) อรหัตตผล - ผลคือความเป็นพระอรหันต์, ผลอันพระอรหันต์พึงเสวย
(๓๒.๒) อากิญจัญญาเจโตวิมุตติ = เจโตวิมุตติ อันมีความไม่มีอะไรเป็นอารมณ์ ได้แก่ ธรรม ๙ ประการ คือ อากิญจัญญายตนะ ๑ มรรค ๔ ผล ๔
~ อากิญจัญญายตนะ ชื่อว่าอากิญจัญญะ เพราะไม่มีกิเลสเครื่องกังวลเป็นอารมณ์ มรรคและผล
~ ชื่อว่าอากิญจัญญะ เพราะไม่มีกิเลสเครื่องกังวล คือกิเลสเครื่องย่ำยีและกิเลสเครื่องผูก
(๓๒.๓) สุญญตาเจโตวิมุตติ = เจโตวิมุตติอันมีความสูญเป็นอารมณ์ ได้แก่ ความหลุดพ้นโดยว่างจากราคะ โทสะ โมหะ เพราะพิจารณานามรูปโดยความเป็นอนัตตา
(๓๒.๔) อนิมิตตาเจโตวิมุตติ = เจโตวิมุติอันไม่มีนิมิตได้แก่ ธรรม ๑๓ ประการ คือ วิปัสสนา ๑ อรูป ๔ มรรค ๔ ผล ๔
~ วิปัสสนา = ฝึกอบรมปัญญาโดยพิจารณาสังขาร คือ รูปธรรมและนามธรรมทั้งหมดแยกออกเป็นขันธ์ กำหนดด้วยไตรลักษณ์ว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
~อรูป ๔ = ฌานมีอรูปธรรมเป็นอารมณ์ คืออรูปฌาน, ภพของสัตว์ผู้เข้าถึงอรูปฌาน, ภพของอรูปพรหม ได้แก่
(๓๒.๔.๑) อากาสานัญจายตนะ - ฌานอันกำหนดอากาศคือช่องว่างหาที่สุดมิได้เป็นอารมณ์ หรือภพของผู้เข้าถึงฌานนี้
(๓๒.๔.๒) วิญญาณัญจายตนะ - ฌานอันกำหนดวิญญาณหาที่สุดมิได้เป็นอารมณ์ หรือภพของผู้เข้าถึงฌานนี้
(๓๒.๔.๓) อากิญจัญญายตนะ - ฌานอันกำหนดภาวะที่ไม่มีอะไรๆ เป็นอารมณ์ หรือภพของผู้เข้าถึงฌานนี้
(๓๒.๔.๔) เนวสัญญานาสัญญายตนะ - ฌานอันเข้าถึงภาวะมีสัญญาก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่ หรือภพของผู้เข้าถึงฌานนี้
 (๓๓) “เพราะอาศัยเหตุใด ธรรมเหล่านี้จึงมีอรรถต่างกัน และมีพยัญชนะต่างกัน เหตุนั้นมีอยู่
~อนึ่ง เพราะอาศัยเหตุใด ธรรมเหล่านี้จึงมีอรรถอย่างเดียวกัน ต่างกันแต่พยัญชนะเท่านั้น เหตุนั้นมีอยู่”
~“เพราะอาศัยเหตุใด ธรรมเหล่านี้จึงมีอรรถต่างกัน และมีพยัญชนะต่างกัน `เหตุนั้นเป็นอย่างไร
ตอบว่า -> ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้มี อัปปมาณาเจโตวิมุตติ คือ
(๓๓.๑)"เมตตาจิต"แผ่ไปตลอดทิศที่ ๑ ... ทิศที่ ๒ ...ทิศที่ ๓ ... ทิศที่ ๔ ... ทิศเบื้องบน ทิศเบื้องล่าง ทิศเฉียง แผ่ไปตลอดโลก
ทั่วทุกหมู่เหล่าในที่ทุกสถาน ด้วยเมตตาจิต อันไพบูลย์ เป็นมหัคคตะ ไม่มีขอบเขต ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียนอยู่
(๓๓.๒) มีกรุณาจิต ..ฯลฯ
(๓๓.๓) มีมุทิตาจิต...ฯลฯ
(๓๓.๔) มีอุเบกขาจิตแผ่ไตลอดทิศที่ ๑ ... ทิศที่ ๒ ... ทิศที่ ๓ ... ทิศที่ ๔ ...ทิศเบื้องบน ทิศเบื้องล่าง ทิศเฉียง แผ่ไปตลอดโลกทั่วทุกหมู่เหล่าในที่ทุกสถาน
ด้วยอุเบกขาจิตอันไพบูลย์ เป็นมหัคคตะ ไม่มีขอบเขต ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียนอยู่
นี้เรียกว่า ‘อัปปมาณาเจโตวิมุตติ’
(๓๔) อากิญจัญญาเจโตวิมุตติ เป็นอย่างไร
ตอบว่า -> เพราะล่วงวิญญาณัญจายตนฌานโดยประการทั้งปวง ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บรรลุอากิญจัญญายตนฌานอยู่โดยกำหนดว่า ‘ไม่มีอะไร’ นี้เรียกว่า ‘อากิญจัญญาเจโตวิมุตติ’
(๓๕) สุญญตาเจโตวิมุตติ เป็นอย่างไร
ตอบว่า -> คือ ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้อยู่ในป่าก็ดี อยู่ที่โคนไม้ก็ดี อยู่ในเรือนว่างก็ดี พิจารณาเห็นว่า ‘สิ่งนี้ว่างจากตนบ้าง จากสิ่งที่เนื่องด้วยตนบ้าง’ นี้เรียกว่า ‘สุญญตาเจโตวิมุตติ’
(๓๖) อนิมิตตาเจโตวิมุตติ เป็นอย่างไร
ตอบว่า -> คือ ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้บรรลุอนิมิตตาเจโตสมาธิ เพราะไม่มนสิการถึงนิมิตทั้งปวงอยู่
(๓๗) ~เพราะอาศัยเหตุใด ธรรมเหล่านี้จึงมีอรรถต่างกัน และมีพยัญชนะต่างกันเหตุนั้น เป็นอย่างนี้แล
       ~ เพราะอาศัยเหตุใด ธรรมเหล่านี้จึงมีอรรถอย่างเดียวกัน ต่างกันแต่พยัญชนะเท่านั้น เหตุนั้น เป็นอย่างไร
ตอบว่า -> คือ ราคะชื่อว่ากิเลสเป็นเครื่องวัด; โทสะชื่อว่ากิเลสเป็นเครื่องวัด; โมหะชื่อว่า กิเลสเป็นเครื่องวัด; กิเลสเหล่านั้นภิกษุผู้ขีณาสพละได้เด็ดขาดแล้ว; ตัดรากถอนโคนเหมือนต้นตาลที่ถูกตัดรากถอนโคนไปแล้ว; เหลือแต่พื้นที่ ทำให้ไม่มี เกิดขึ้นต่อไปไม่ได้

 8 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: ประมวลธรรม: ๘.เกวัฏฏสูตร
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 11:36:18 AM 
เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร

(ต่อหน้า ๘/๑๐) ประมวลธรรม : ๖๐. มหาเวทัลลสูตร

[จ] ปัจจัยแห่งเจโตวิมุตติ (เจโตวิมุตติ= ความหลุดพ้นเพราะสมาธิ )
(๒๘) “ปัจจัยแห่งการเข้าเจโตวิมุตติ ซึ่งไม่มีทุกข์ ไม่มีสุขมีเท่าไร”
ตอบว่า -> "ปัจจัยแห่งการเข้าเจโตวิมุตติ ซึ่งไม่มีทุกข์ ไม่มีสุขมี ๔ ประการคือ
(๒๘.๑) เพราะละสุขได้ (๒๘.๒) เพราะละทุกข์ได้ (๒๘.๓) เพราะโสมนัสดับไปก่อน (๒๘.๔) เพราะโทมนัสดับไปก่อนแล้ว ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้จึงบรรลุจตุตถฌาน ซึ่งไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข มีสติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขาอยู่
(๒๙) “ปัจจัยแห่งการเข้าเจโตวิมุตติ ซึ่งไม่มีนิมิต มีเท่าไร”
~ นิมิต = หมายถึงการออกจากนิโรธสมาบัติด้วยผลสมาบัติซึ่งเป็นผลเกิดจากวิปัสสนา
ตอบว่า ->“ปัจจัยแห่งการเข้าเจโตวิมุตติ ซึ่งไม่มีนิมิตมี ๒ ประการ คือ
(๒๙.๑) การไม่มนสิการถึงนิมิตทั้งปวง (ไม่ใส่ใจนิมิต)
~ นิมิตทั้งปวง = หมายถึงอารมณ์มีรูปเป็นต้น
(๒๙.๒) การมนสิการถึงนิพพานธาตุ ซึ่งไม่มีนิมิต
~ หมายถึงการมนสิการถึงธรรมที่เกิดร่วมกับผลสมาบัติ
(๓๐)“ปัจจัยแห่งการตั้งอยู่แห่งเจโตวิมุตติ ซึ่งไม่มีนิมิต มีเท่าไร”
ตอบว่า ->“ปัจจัยแห่งการตั้งอยู่แห่งเจโตวิมุตติ ซึ่งไม่มีนิมิตมี ๓ ประการ คือ
(๓๐.๑)ไม่มนสิการถึงนิมิตทั้งปวง
(๓๐.๒) มนสิการถึงนิพพานธาตุ ซึ่งไม่มีนิมิต
(๓๐.๓) อภิสังขาร ในเบื้องต้น
~อภิสังขาร = เจตนาที่เป็นตัวการในการทำกรรม หมายถึงการกำหนดระยะเวลาอยู่ในสมาธิ
(๓๑) “ปัจจัยแห่งการออกจากเจโตวิมุตติ ซึ่งไม่มีนิมิต มีเท่าไร”
ตอบว่า ->“ปัจจัยแห่งการออกจากเจโตวิมุตติ ซึ่งไม่มีนิมิตมี ๒ ประการ คือ
(๓๑.๑) การมนสิการถึงนิมิตทั้งปวง
(๓๑.๒) การไม่มนสิการถึงนิพพานธาตุ ซึ่งไม่มีนิมิต
(๓๒) ธรรมเหล่านี้ ๔ อย่าง คือ อัปปมาณาเจโตวิมุตติ; อากิญจัญญาเจโตวิมุตติ; สุญญตาเจโตวิมุตติ; และ อนิมิตตาเจโตวิมุตติ มีอรรถะและพยัญชนะต่างกัน; หรือเหมือนกัน
ตอบว่า ->
(๓๒.๑) อัปปมาณาเจโตวิมุตติ = เจโตวิมุตติอันไม่มีประมาณ ได้แก่ ธรรม ๑๒ ประการ คือ พรหมวิหาร ๔ มรรค ๔ ผล ๔
~ อัปปมาณะ = เพราะแผ่ไปหาประมาณมิได้ ธรรมที่เหลือชื่อว่าอัปปมาณะ เพราะไม่มีกิเลสเป็นเครื่องวัด
~ พรหมวิหาร ๔ = ธรรมเครื่องอยู่อย่างประเสริฐ มีไว้เป็นหลักใจและกำกับความประพฤติ ได้แก่
เมตตา - ความรัก ปรารถนาดีอยากให้เขามีความสุข; กรุณา - ความสงสาร คิดช่วยให้พ้นทุกข์; มุทิตา - ความยินดี ในเมื่อผู้อื่นอยู่ดีมีสุข; อุเบกขา - ความวางใจเป็นกลาง ให้ดำรงอยู่ในธรรมตามที่พิจารณาเห็นด้วยปัญญา
~ มรรค ๔ = ทางเข้าถึงความเป็นอริยบุคคล, ญาณที่ทำให้ละสังโยชน์ได้ขาด ได้แก่
(๓๒.๑.๑) โสดาปัตติมรรค - มรรคอันให้ถึงกระแสที่นำไปสู่พระนิพพานทีแรก ทำให้ถึงความเป็นพระโสดาบัน เพราะเหตุละสังโยชน์ได้ ๓ คือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส
(๓๒.๑.๒) สกทาคามิมรรค - มรรคอันให้ถึงความเป็นพระสกทาคามี เป็นเหตุ เพราะละสังโยชน์ได้ ๓ ข้อต้น กับทำราคะ โทสะ โมหะ ให้เบาบางลง
(๓๒.๑.๓) อนาคามิมรรค - มรรคทำให้ถึงความเป็นพระอนาคามี เป็นเหตุละสังโยชน์เบื้องต่ำได้ ๕ ข้อแรก
(๓๒.๑.๔) อรหัตตมรรค - มรรคอันให้ถึงความเป็นพระอรหันต์ เป็นเหตุละสังโยชน์ได้หมดทั้ง ๑๐
~ สังโยชน์ ๑๐ = กิเลสอันผูกใจสัตว์, ธรรมที่มัดสัตว์ไว้กับวัฏฏทุกข์
๑) สักกายทิฏฐิ - ความเห็นว่าเป็นตัวของตน เช่น เห็นรูป เห็นเวทนา เห็นวิญญาณ เป็นตน เป็นต้น
๒) วิจิกิจฉา - ความสงสัย, ความลังเล ไม่แน่ใจ
๓) สีลัพพตปรามาส - ความถือมั่นศีลพรต โดยสักว่าทำตามๆ กันไปอย่างงมงายเห็นว่าจะบริสุทธิ์หลุดพ้นได้เพียงด้วยศีลและวัตร
๔) กามราคะ - ความกำหนัดในกาม, ความติดใจในกามคุณ
๕) ปฏิฆะ - ความกระทบกระทั่งในใจ, ความหงุดหงิดขัดเคือง
๖) รูปราคะ - ความติดใจในอารมณ์แห่งรูปฌาน หรือในรูปธรรมอันประณีต, ความปรารถนาในรูปภพ
๗) อรูปราคะ - ความติดใจในอารมณ์แห่งอรูปฌาน หรือในอรูปธรรม, ความปรารถนาในอรูปภพ
๘) มานะ - ความสำคัญตน คือ ถือตนว่าเป็นนั่นเป็นนี่
๙) อุทธัจจะ - ความฟุ้งซ่าน
๑๐) อวิชชา - ความไม่รู้จริงใน อริยสัจ ๔

 9 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 06:25:59 AM 
เริ่มโดย คนเรียนไพร - กระทู้ล่าสุด โดย คนเรียนไพร
 

ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดย คนเรียนไพร
กระดาษหน้าเมรุ

     หลายเหตุการณ์ ผ่านเข้ามา ในชีวิต
หยุดสักนิด คิดสักหน่อย ค่อยรังสรรค์
อีกไม่นาน คงถึง คราจาบัลย์
ต้องจากกัน เหลือดีชั่ว แห่งตัวตน
     เคยทำงาน อนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม
ให้ถึงพร้อม สมดุล ผลิตผล
ร่วมพิทักษ์ สัตว์วนา เพื่อมวลชน
สร้างไพรสณฑ์ เพื่อลูกหลาน มานานปี
     โชคชะตา พาชีวิต ผันแปรเปลี่ยน
ได้ร่ำเรียน ประสบการณ์ สานศักดิ์ศรี
ปริญญาชน เป็นอาจารย์ สร้างศิษย์ดี
เป็นสักขี พัฒนา ประชาไทย
     ครั้นถึงครา ใกล้ฝั่ง ยังทนทาน
ประสบการณ์ สั่งสม อุดมสมัย
มรดก มอบไว้ ก่อนจากไกล
จารึกไว้ บนกระดาษ ที่หน้าเมรุ

คนเรียนไพร
๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๘

 10 
 คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอน ร้อยกรองหลากลีลา / Re: ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
 เมื่อ: 09, ธันวาคม, 2568, 09:20:52 PM 
เริ่มโดย คนเรียนไพร - กระทู้ล่าสุด โดย คนเรียนไพร
 

ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดย คนเรียนไพร

สร้างไทย

     ร่วมก่อร่าง สร้างไทย ไปด้วยกัน
ไม่ไหวหวั่น เหล่าริปู มุ่งสลาย
แผ่นดินนี้ รักษาไว้ แม้ตัวตาย
ด้วยมุ่งหมาย ชูเชิด เลิศนิรันดร์
     หมู่อริ ทำลายชาติ ราชศัตรู
โลกรับรู้ พฤติกรรม นำเดียดฉันท์
ทุจริต คดโกง ทุกคืนวัน
สร้างโศกศัลย์ ทั่วหล้า มาช้านาน
     เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม
แสนระกำ ชอกช้ำ สิ้นสุขศานติ์
ทะมึนมืด หมดงามสวย ด้วยหมู่มาร
เข้ารุกราน ผลาญแผ่นดิน ใกล้สิ้นไทย
     ถึงเวลา สามัคคี พลีเพื่อชาติ
เอกราช ต้องคงอยู่ คู่สมัย
พรั่งพร้อมพักตร์ รักชาติ ทั้งกายใจ
เพื่อคงไทย ในแดนดิน ถิ่นแหลมทอง

คนเรียนไพร
๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๘

หน้า: [1] 2 3 ... 10
Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.139 วินาที กับ 20 คำสั่ง
กำลังโหลด...