|
31
คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
เมื่อ: 20, ตุลาคม, 2568, 09:37:17 AM
|
||
| เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
|
(ต่อหน้า ๔/๑๕) ๙.วิภังค์ : อายตนวิภังค์ ๖๙.สัญญาฯละแปด,เก้าดุจะโข............ต่างเพิ่ม"มโนวิญญ์ฯ"มนล้น มีจิตกระทบฝ่ายอกุศล............................อัพยาฯ,กุศลจำจิระพาน ๗๐.สัญญาขันธ์สิบ......สิ่งกระทบลิบ......"จำ"เหมือนเก้าขาน มีต่างเพิ่มเป็น....เน้น"สุขกาย"กราน...."ทุกข์กายสัมฯ"ซาน....กระทบกาย,จำ ๗๑.ฝ่ายดี"มโนวิญญ์ฯ"ริถวิล..............."จำ"เกิดซิชินใจลุแตะหนำ ฝ่ายชั่ว"มโนธาตุฯ"ตริและจำ...................มีอัพยากฤตซิเลาะกลาง ๗๒.สังขารขันธ์แจง......หมวดหนึ่ง-สิบแบ่ง.....จิตปรุงแต่งวาง หมวดละหนึ่งอวย....กอปรด้วยจิตพลาง....สองมีเหตุพร่าง....และไร้เหตุเอย ๗๓.สังขารระสามปรุง"อกุศล"..............."ฝ่ายดี"เจาะดลตติเอ่ย "กลาง,อัพยากฤต",มิเจาะเผย...................ดีชั่ว,มิใช่เลยนิรนา ๗๔.สังขารขันธ์สี่......เป็น"กามาฯ"ชี้......ท่องกามภพครา ใน"รูปาฯ"รี่....พรหมมีรูปหนา....ชินปรุงแต่งมา....ในรูปภพแล ๗๕.พรหมอยู่"อรูปาวจะฯ"เป็น...............ไร้รูปมิเห็นเหมาะเจาะแน่ พวกลี้สิวัฏฏ์ทุกข์มิเลาะแฉ........................เวียนวนกะตาย,เกิดจิระกาล ๗๖.สังขารขันธ์หมวด......ละห้าแจงรวด........ปรุง"สุขกาย"พาน "กอปรทุกข์กาย"รุก...."กอปรสุขใจ"ชาญ...."กอปรทุกข์ใจ"กราน...."อุเปกฯ"อยู่กลาง ๗๗.สังขารฯสิหมวดหกตริตระการ..........มั่นผ่านทวารหกเจาะกระจ่าง "ตา,จักขุสัมผัสส์ฯ"ปะทะกว้าง...................."หู,โสตสัมผัสฯ"ประลุหวัง ๗๘."ฆานสัมผัสส์ฯ"แล.......เจต์นาเกิดแต่......จมูกกระทบจัง "ชิวหาสัมผัสส์ฯ"หนา....เจต์นาเกิดหยั่ง....ถูกต้องลิ้นทั้ง....ปรุงแต่งรู้ไว ๗๙.เจต์นาเจาะ"กายสัมฯ"ลุประทบ.........ปรุงแต่งปะกบกายพหุไกล ตั้งใจ"มโนสัมฯ"หฤทัย...............................ใจถูกกระทบริเสาะปรุง ๘๐.สังขารขันธ์เจ็ด......เหมือนหมวดหกเด็ด......แค่ทวารห้าจรุง "ตา,หู,จมูก"พราย...."ลิ้น,กาย"บำรุง....เหลือนอกนั้นผลุง....ไม่ได้เหมือนเลย ๘๑.เจต์นา"มโนธาตุฯ"ปะทะเกิด..............ปรุงแต่งเตลิดมนเอ่ย เจต์นา"มโนวิญญ์ฯ"ปะทุเผย.......................สัมผัสเจาะวิญญาณริเฉลียว ๘๒.สังขารขันธ์หมวด......ละแปดมียวด......เหมือนหมวดเจ็ดเพรียว เว้น"กายสัมผัสส์ฯ....ชัดเจต์นาเจียว....มีสองร่วมเกี่ยว....ข้อง"สุข,ทุกข์"นา ๘๓.สังขารสิหมวดเก้าก็คะคล้าย..............หมวดเจ็ดขยายเพิ่มมนกล้า สัมผัส"มโนธาตุฯ"หทยา..............................เจต์นากุศลแลอกุศล ๘๔.และ"มโนวิญญ์ธาตุฯ"......ที่สัมผัสยาตร......เจตนาสกล "อัพยากฤต"นี้....ชี้เป็นกลางยล....ไม่เอนเอียงด้น....ดีหรือชั่วแล ๘๕.สังขารสิหมวดสิบดุจะเหมือน..............หมวดแปดตะเยือนเพิ่มมนแน่ เจต์นามโนวิญญ์ธาตุฯปะทะแฉ....................."ดี,ชั่วและอัพ์ยาฯ "เลาะเกาะกลาง ๘๖. ธาตุที่ปัจจัย.......ไม่ปรุงแต่งไซร้......เป็นอย่างไรพลาง สภาพธรรมที่....ชี้"ราคะ"บาง....สิ้น"โกรธ,หลง"จาง....ไม่เกิดอารมณ์ ๘๗.ปัญหาแจรง"ปุจฉกะ"จัด.....................ตอบธรรมวิสัช์นาเจาะระดม ที่ต่อก็อายาตนะคม......................................สิบสองซิในกาย,พหิกาย ๘๘.อายตนะจอง.......ต่อท้ายสิบสอง......จดจำง่ายดาย "จักขาฯ,รูปาฯ....โสตาฯ,เสียง"กราย...."ฆานา,กลิ่น"มาย...."ชิวหา,รส"เอย ๘๙."กายาฯกะโผฏฐัพพ์ฯ"ปะทะหนา..........สัมผัสเจาะอ้าริเฉลย "ธัมมาฯ,มนาฯใจ"ริตริเคย.............................อารมณ์ซิรู้ชัดมนแฉ ๙๐.อายตนะสิบ......คือ"โอฬาฯ"ลิบ......อินทรีย์สิบแล "ตา,หู,จมูก,ลิ้น....กายชินรูป"แล้...."เสียง,กลิ่น,รส"แน่....และสัมผัสตาม ๙๑.ที่ต่อสิอายาตนะสอง..........................."ธัมมาฯมนาฯ"ครองเจาะริสาม ที่เป็น"กุศล"แลรุจิลาม.................................."ชั่ว,อัพยากฤต"ภวกลาง |
||
|
32
คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
เมื่อ: 19, ตุลาคม, 2568, 02:44:56 PM
|
||
| เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
|
(ต่อหน้า ๓/๑๕) ๙.วิภังค์ : อายตนวิภังค์ ๔๖."เวทนาเกิดแต่......ฆานสัมผัส"แล........"ชิวหาสัมฯ"เอย "กายสัมผัส"รู้....ชู"มโนสัม"เปรย....ใจรู้,คิดเอ่ย....อารมณ์ต่างแล ๔๗.เวท์นาสิหมวดเจ็ดภวนำ....................แต่จักขุสัมฯจิตมติแน่ โสต์สัมฯกะฆาน์สัมฯมุติแท้.........................ชิวหาเจาะรับรู้รสะหนา ๔๘.รู้"กายสัมผัส".......มโนธาตุสัมฯชัด......รู้นามธรรมนา "มโนวิญญ์ธาตุสัมฯ"....ใจนำรู้กล้า....ใจสัมผัสพา....อารมณ์ทางใจ ๔๙.เวท์นาสิหมวดแปดดุจะเจ็ด................ต่างกันริเด็ด"กายะ"เจาะไกล "กายสัมฯ"ซิรู้สุขะไว...................................กายสัมฯกระทบได้ทุขะแฉ ๕๐.เวทนาขันธ์เก้า......เหมือนหมวดเจ็ดเฝ้า......ต่างกันที่แล มโนวิญญ์ธาตุฯแท้....เป็นแน่"ดี"แท้....ชั่ว,อัพยาฯ"แว....เป็นกลางกลางเอย ๕๑.เวท์นาสิหมวดสิบเจาะถลำ.................ตา,จักขุสัมผัสปะทะเกย "หู,โสตสัมฯ"ยินเสนาะเลย...........................ฆาน์สัมฯจมูกรู้ทะลุกลิ่น ๕๒.ชิวหาสัมผัส......กระทบสามชัด......รส,วิญญาณ,ลิ้น "กายสัมผัสฯชี้...."ที่เป็นสุข"ชิน...."ที่เป็นทุกข์"ริน....กายรับรู้มา ๕๓."เวท์นามโนธาตุ"ปะทะจบ...................อารมณ์กระทบรู้หทยา "เวท์นามโนวิญญ์ฯ"มติหนา..........................ใจรู้กะดี,กลาง,อกุศล ๕๔.สัญญาขันธ์ยิบ......หมวดละหนึ่ง-สิบ......จำละเอียดยล หมวดละหนึ่งปะ...."ผัสสสัมฯ"ผล....กอปรผัสสะล้น....กระทบอารมณ์ ๕๕.สัญญาสิสอง,จำภวชัด........................มีเหตุซิปัจจัยทวิบ่ม ฝ่ายชั่ว,กุศล,ใจตริระดม...............................จิตจำเจาะบาป,บุญระดะกรรม ๕๖. สัญญาขันธ์ปะ.......อเหตุกะ......จิตไร้เหตุนำ เป็นวิบากดล....ผลชั่ว,ดีทำ....และจิตถลำ....พระอรหันต์แล ๕๗.สัญญาฯสิสามใจริกุศล.......................ฝ่ายชั่วและยลกลางฐิติแน่ สัญญาฯสิสี่เที่ยวเสาะเลาะแฉ.......................ปองกามคุณห้าจิระกาล ๕๘.สัญญาฯข้องปะ......."รูปาวจระ"......พรหมมีรูปพาน "อรูปาวะฯ",ไซร้....ในอรูปภพกราน....พรหมไร้รูปขาน....เพราะตั้งจิตไกล ๕๙.ธรรมที่มิแน่ไม่ระบุชัด..........................ตายตัวและจัดวะอะไร จัดเป็นสิโลกุตตระไซร้..................................มรรค,ผลซินอกวัฏฏะเฉลย ๖๐.สัญญาขันธ์ชี้แจง......หมวดละห้าแจ้ง......จำ,หมาย,รู้เอ่ย "จำกอปรด้วยสุข"....เกิดชุกทุกข์เอย....กอปรโสมนัสเผย....สุขสำราญใจ ๖๑.สัญญาปะโทม์นัสทุขะดล.....................ทุกข์ทางกมลท้นลุประลัย จำกอปร"อุเปกขินฯ"ภวไซร้............................ใจวางมิทุกข์หรือสุขะแฉ ๖๒.สัญญาขันธ์แบ่ง......หมวดละหกแจง......จำเกิดหลายแล "จักขุสัมผัสส์ฯ"....ชัดด้วยเห็นแน่....จึงรอบรู้แท้....สัมผัสทางตา ๖๓."หู,โสตสัมผัสส์ฯ"จะเจาะจำ....................จากยินถลำเสนาะนา "ฆาน์สัมฯ,จมูก"ดมประลุหนา...........................กลิ่นฟุ้งกระจายไปริคะนึง ๖๔."ชิวหาสัมผัสส์ฯ"......ลิ้มจำแน่ชัด......รสชาติดตรึง "กายสัมผัสส์ชาฯ"....พากายจำถึง...."มโนสัมผัสส์ฯ"คลึง....ใจจำได้เอย ๖๕.สัญญาสิหมวดเจ็ดดุจะหก.....................มีต่างเลาะปก"จำ"ทวิเอ่ย "สัมผัสมโนธาตุฯจะตริเผย.............................."สัมผัสส์มโนวิญญ์ฯ"มนจำ ๖๖. สัญญาขันธ์แจง.......หมวดละแปดแบ่ง......เหมือนหมวดหกนำ แต่เพิ่มขยาย...."สุขกายสัมฯ"พร่ำ"...."ทุกข์กายสัมฯ"ซ้ำ....จำทั้งสองแล ๖๗."สัญญามโนธาตุฯ"ปะทะคึก.....................ธาตุใจระลึกฐิติแท้ "สัญญามโนวิญญ์ฯ"มติแฉ................................สิ่งที่กระทบใจประลุจำ ๖๘.สัญญาขันธ์หมวด.......ละแปดมียวด......เหมือนหมวดเจ็ดหน่ำ ต่าง"กายสัมผัสส์ฯ"....รู้ชัดสุขหนำ....และรู้ทุกข์คลำ....จำทางกายยล |
||
|
33
เมื่อ: 19, ตุลาคม, 2568, 12:11:41 PM
|
||
| เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย ขวัญฤทัย (กุ้งนา) | ||
|
ขนมครกแคะขายใบไม้ซื้อ น้ำแข็งคือก้อนหินดินชงสั่ง ![]() |
||
|
34
คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
เมื่อ: 19, ตุลาคม, 2568, 10:33:53 AM
|
||
| เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
|
(ต่อหน้า ๒/๑๕) ๙.วิภังค์ : อายตนวิภังค์ ๒๓.แจกแจง"มนายาตะนะฯ"พึง..................แบ่งหมวดละหนึ่ง-สิบภณไว้ หมวดหนึ่งมนายาฯหฤทัย..............................มีผัสสะเกิดร่วมเจาะกระทบ ๒๔.มนาฯหมวดละสอง......จิตมีเหตุตรอง......และไร้เหตุพบ มหาฯหมวดสามลุ....ใจ"กุศล"นบ....อกุศลครบ....และอัพยาฯกลาง ๒๕.หมวดสี่มนายาตนะชี้............................"กามาวะฯ"คลี่มนคว้าง ในกามคุณห้ามทะลาง...................................รูปาวะฯรูปพรหมซิก็มี ๒๖. "อรูปาฯ"แล.......พรหมไร้รูปแล้......ด้วยเจริญฌานคลี่ "ผู้พ้นวัฏฏทุกข์"....ไม่บุกเวียนปรี่....เพราะกิเลสลี้....ละหมดทลาย ๒๗.หมวดห้ามนายาตนะนอบ......................"จิตที่ประกอบด้วยสุขะกาย" "ทุกข์กายและโสมนัส"สิขยาย........................"โทมนัส,อุเปกขินฯ"ปะทะหนา ๒๘.มนายะฯหมวดหก......."จักขุวิญญ์ฯยก......"โสตวิญญ์ฯ"นา ฆานวิญญาณ....กราน"ชิวหา"จ้า...."กายวิญญาณ"อ้า....มโนวิญญ์นา ๒๙.หมวดเจ็ดมนายาตนะชิน.......................มี"จักขุวิญญ์ฯ"พุทธิซิตา "โสต์วิญญะ"ทางหูเหมาะเจาะกล้า..................."ชิวหาฯ"จะรู้ชิมรสะเผย ๓๐."ฆานวิญญาณ"รู้......ทางจมูก,พรู.....รอบรู้กลิ่นเอย "กายวิญญาณ"เกิด....รู้เลิศผ่านเกย....ตา,หู,จมูกเอ่ย....สัมผัสกายพาน ๓๑.รอบรู้"มโนธาตุ"มหึมา............................อารมณ์ซิหนาครันเจาะทวาร ห้า,"ตา,จมูก,หู"เจาะเซาะกราน........................."ลิ้น,กาย"และเกิดรู้เฉพาะพา ๓๒."มโนวิญญาณธาตุ"......จิตรู้บ่มยาตร......ทางทวารหกนา ตา,หู,จมูก,ลิ้น....ผลิน"กาย,ใจ"กล้า....รู้อารมณ์มา....หกอารมณ์เสริม ๓๓.หมวดแปด"มนายาตนะ"ฉาย..................เหมือนเจ็ดตะกายวิญญ์ฯซิริเพิ่ม "กายวิญญะร่วมด้วยสุขะ"เติม........................."กายวิญญะมีร่วมทุขะ"แฉ ๓๔.เก้ามนายตนะ......เหมือนหมวดหกปะ......ต่างมโนวิญญ์ธาตุแล ที่เป็น"กุศล"....ยล"อกุศล"แล้...."อัพยากฤต"แท้....เป็นกลางกลางผล ๓๕.หมวดสิบ"มนายตนะ"เพิ่ม......................เหมือนแปดตะเติมเปลี่ยนตติยล ก่อมี"มโนวิญญะกุศล"....................................จิตเป็นซิ"ฝ่ายชั่ว"และเจาะ"กลาง" ๓๖. ธัมมาย์ตนะ.......สิ่งใจรู้นะ......ด้วยตา,หู..วาง อารมณ์เกิดได้....ใจคิดรู้พลาง....สภาวะธรรมต่าง....รูปและนามธรรม ๓๗.เช่นเวทนาขันธ์จะเจาะตรึก...................สัญญาระลึกจำลุกระทำ สังขารสิปรุงแต่งริประจำ................................รูปที่มิสัมผัสนิรเห็น ๓๘.รูปเห็นไม่ได้.......และกระทบไร้......เช่นนามธรรมเด่น จักขุวิญญาณ....พานรู้ได้เน้น....ดี,ชั่ว,กลางเป็น....ไม่เห็นรูปเอย ๓๙.ไร้ปรุง"อสังข์ตา"ระบุชี้..........................ปัจจัยมิมีก่อภวเชย สิ้นราคะ,โกรธ,หลงรุจิเผย...............................นิพพานมิเกิดเผยไร้บริพัตร ๔๐.เวทนาขันธ์รู้......แจกแจงหลายพรู......หมวดหนึ่ง-สิบชัด หมวดละหนึ่งครา....เวทนาประกอบจัด....มีถูกสัมผัส....กระทบตรงยล ๔๑."เวท์นาสิสอง"เหตุปะทุมี.......................ไร้เหตุซิชี้ชัดอนดล เวท์นาติสามฝ่ายอกุศล.................................ดี,อัพยากฤตเจาะซิกลาง ๔๒.เวทนาขันธ์สี่......แจกกามาฯคลี่......ใฝ่กามคุณพลาง "รูปาฯ"รูปพรหม....สม"อรูปาฯ"วาง....พรหมไร้รูปพร่าง...."พ้นวัฏฏ์ทุกข์"ตรม ๔๓.เวท์นาเจาะห้าเป็น"สุขะ,กาย"..............."ทุกขินฯมิคลาย",อภิรมย์ "โทม์นัสสลดใจ"และเจาะสม.........................เป็นกลางมิทุกข์หรือสุขะครอง ๔๔.เวทนาขันธ์หก......รู้สัมผัสปรก......จักขุสัมฯตรอง "ตาเห็นรูป"เกิด....เลิศรู้ครรลอง...."จักขุวิญญ์ฯผ่อง....ผัสสะเกิดแฉ ๔๕."โสต์สัมฯสิหู,เสียง"ปะทะเกิด................"โสต์วิญญะฯ"เลิศประลุแน่ สามสิ่งกระทบครันภวแท้...............................มีผัสสะเกิดรู้มติเผย |
||
|
35
เมื่อ: 19, ตุลาคม, 2568, 12:03:48 AM
|
||
| เริ่มโดย ปลายฝน คนงาม - กระทู้ล่าสุด โดย กรกช | ||
|
ไปอ่านเจอบทความนี้มา ขอเอามาเผยแพร่ให้ได้อ่านกัน สำหรับ ส.ว. ทั้งหลาย และผู้ที่มี ส.ว. อยู่ในบ้าน จะปั้มหัวใจ/ เจาะคอ/ ใส่ท่อไหม … เมื่อหมอถาม น้ำตาลูกก็ไหลทุกคน ไม่มีใครอยากเห็นภาพพ่อแม่ต้องทุกข์ทรมานอยู่ในห้อง ICU ไม่มีลูกหลานคนไหนอยากตัดสินใจว่าจะ “ทำ” หรือ “ไม่ทำ” หัตถการเหล่านี้ เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องการแพทย์ แต่มันคือ “เส้นแบ่ง” ระหว่างการยื้อชีวิต… กับการจากไปอย่างมีศักดิ์ศรี ในฐานะหมอที่ดูแลผู้สูงวัยในระยะวิกฤติและระยะท้ายชีวิตมาเกิน 10 ปี หมอขอใช้บทความนี้ ช่วยให้คุณตัดสินใจด้วยความรัก…ที่มีข้อมูลครบถ้วนที่สุด ⸻ 1. ใส่ท่อช่วยหายใจ (Intubation) ใช้เมื่อผู้ป่วยหายใจเองไม่ได้ เช่น ปอดอักเสบรุนแรง ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ข้อดี ช่วยชีวิตในภาวะฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มโอกาสให้ร่างกายฟื้นตัวในระยะสั้น เหมาะสำหรับภาวะที่ “กลับมาได้” เช่น ติดเชื้อเฉียบพลัน ข้อเสีย ผู้ป่วยพูดไม่ได้ ต้องใช้ยากดประสาทเพื่อให้นอนนิ่ง ถ้าเกิน 7–14 วัน ต้อง “เจาะคอ” ต่อ อาจเกิดการติดเชื้อในปอด เสี่ยงแผลกดทับหรือภาวะแทรกซ้อนอื่น คำแนะนำ / ข้อควรระวัง ใช้ในระยะสั้นเท่านั้น (ภายใน 1–2 สัปดาห์) หากผู้ป่วยไม่ฟื้น อาจต้องพิจารณาหยุดการยื้อ ควรหารือกับแพทย์ล่วงหน้าเรื่อง “เป้าหมายการรักษา” (Goals of Care) สอบถามใจครอบครัวว่า “หากท่านต้องนอน ICU ต่อแบบไม่ฟื้น จะยอมรับได้ไหม?” ⸻ 2. เจาะคอ (Tracheostomy) มักทำเมื่อใส่ท่อช่วยหายใจเกิน 7–14 วัน หรือจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจถาวร ข้อดี หายใจสะดวกขึ้นกว่าทางปาก ดูดเสมหะได้ง่าย ลดอาการระคายคอ เหมาะกับผู้ป่วยเรื้อรังที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจระยะยาว ข้อเสีย เป็นแผลถาวรที่คอ ต้องดูแลตลอดชีวิต สื่อสารลำบาก ผู้ป่วยหลายคนพูดไม่ได้ มีโอกาสติดเชื้อสูง โดยเฉพาะหากดูแลไม่ถูกวิธี ส่งผลต่อภาพลักษณ์ และสุขภาพจิตของผู้ป่วย คำแนะนำ / ข้อควรระวัง ต้องมีผู้ดูแลที่ได้รับการฝึกอบรมด้านการทำความสะอาดท่อและดูดเสมหะ ควรชั่งน้ำหนักระหว่างการ “ยื้อชีวิต” กับ “คุณภาพชีวิต” ถามใจตัวเองว่า “หากท่านต้องอยู่กับท่อที่คอตลอดชีวิต ครอบครัวยอมรับได้ไหม?” ⸻ 3. ปั๊มหัวใจ (CPR – Cardiopulmonary Resuscitation) ใช้เมื่อหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน เช่น หัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ข้อดี ในบางกรณี (เช่น คนอายุน้อย หรือโรคเฉียบพลัน) อาจช่วยให้รอดได้ ถือเป็นการช่วยชีวิตเบื้องต้นตามหลักการแพทย์ฉุกเฉิน ข้อเสีย ในผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยระยะสุดท้าย โอกาสรอดต่ำมาก (ต่ำกว่า 5%) หากรอด อาจกลายเป็นผู้ป่วย “ผัก” หรือพิการถาวร กระดูกซี่โครงหัก เลือดออกในปอด บาดเจ็บอย่างรุนแรง ข้อมูลเพิ่มเติม: งานวิจัยในผู้ป่วยสูงวัย พบว่ารอดแบบไม่พิการหลัง CPR มีเพียง 2–5% มากกว่า 60% ของผู้ที่รอดจากการปั๊มหัวใจ กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงหรือมีภาวะสมองเสียหายถาวร คำแนะนำ / ข้อควรระวัง ควรมีการเขียน Living Will / Advance Directive ระบุความต้องการไว้ล่วงหน้า ต้องพิจารณาว่า “เป้าหมายคือการรอด หรือคุณภาพของการมีชีวิตอยู่?” หากท่านกลับมาแบบไม่รู้สึกตัวเลย ครอบครัวพร้อมดูแลระยะยาวจริงหรือไม่? ⸻ ทางเลือกอื่นที่หลายคนอาจยังไม่รู้… การดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care) ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่คือการ “ดูแลเต็มที่ในทางที่ไม่ยื้อ” เพื่อให้ผู้ป่วย “จากไปอย่างมีศักดิ์ศรี – ไม่เจ็บปวด – และอยู่ในที่ที่เขารัก” เหมาะกับผู้ที่… เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย โรคหัวใจ/ปอด/ไตเรื้อรัง โรคสมองเสื่อมขั้นรุนแรง ผู้สูงวัยที่ร่างกายทรุดลงแบบไม่สามารถฟื้นกลับมาได้ ข้อควรเข้าใจ การ “ไม่ใส่ท่อ ไม่เจาะคอ ไม่ปั๊มหัวใจ” ไม่ใช่การทอดทิ้ง แต่คือการเคารพการจากไปอย่างสงบของผู้เป็นที่รัก เน้นการให้ยาเพื่อควบคุมอาการ เช่น หอบ เหนื่อย เจ็บ ปวด ไม่ให้ทุกข์ทรมาน ⸻ สรุปใจความสำคัญ: คุณไม่ได้เลือกว่า “จะให้รอด” หรือ “จะให้ตาย” แต่คุณกำลังเลือกว่า “ท่านจะอยู่แบบไหน” ในช่วงเวลาสุดท้าย ไม่มีคำตอบไหนที่ผิด หากมันเกิดจาก ความรัก ความเข้าใจ และข้อมูลที่ครบถ้วน ขอส่งกำลังใจให้ทุกครอบครัวที่ต้องตัดสินใจในเรื่องยากนี้ หมอเข้าใจ และพร้อมอยู่เคียงข้างเสมอครับ ด้วยรัก นพ.เก่งพงศ์ ตั้งอรุณสันติ (หมอเก่ง) |
||
|
36
คำประพันธ์ แยกตามประเภท / โคลง-กาพย์-ฉันท์-ร่าย-ลิลิต / Re: ...-๐ นานาเครื่องว่าง-ขนมไทย จัดใส่โคลง ๐-...
เมื่อ: 18, ตุลาคม, 2568, 10:12:55 PM
|
||
| เริ่มโดย Black Sword - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword | ||
|
37
เมื่อ: 18, ตุลาคม, 2568, 10:11:16 PM
|
|||
| เริ่มโดย ปลายฝน คนงาม - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword | |||
|
|||
|
38
เมื่อ: 18, ตุลาคม, 2568, 09:58:56 PM
|
||
| เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย Black Sword | ||
|
ซื้อลูกชิ้นดินปั้นเล่นกันนา ใบไม้ก็เก็บมาใช้แทนตังค์ ![]() |
||
|
39
เมื่อ: 18, ตุลาคม, 2568, 08:03:13 PM
|
||
| เริ่มโดย บ้านกลอนน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย ฝาตุ่ม | ||
|
อย่าเอ็ดไปน้าหมูรู้หรือเปล่า กาโม้เก่าก่อนนี้เคยมีค่า ![]() |
||
|
40
คำประพันธ์ แยกตามประเภท / กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม / Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
เมื่อ: 18, ตุลาคม, 2568, 05:08:41 PM
|
||
| เริ่มโดย แสงประภัสสร - กระทู้ล่าสุด โดย แสงประภัสสร | ||
|
อภิธรรมปิฎก : ๙.วิภังค์ (อายตนวิภังค์ แจกอายตนะ ๑๒) ภการวิปุลลาฉันท์ ๓๒/กาพย์ทัณฑิกา ๑.ขอน้อมพระพุทธ์เจ้าอรหันต์..................ตรัส์รู้ซิครันตนุตน ทรงมีพระคุณแก่นฤชน................................ชี้ทางลิทุกข์พหุผลาญ ๒."อายตนะ......วิภังค์"เชื่อมปะ......จิตกับโลกพาน มีแจงสามดั้น...."สุตตันต์ภาฯ"กราน...."อภิธรรมฯ"ชาญ...."ปัญหาปุจฯ"แล ๓.สุตตันฯพระสูตรแจงสิสะพาน.................ทางเชื่อมประสานอายตน์ฯแล้ สิบสองสิข้องใน,พหิแฉ..................................ทำให้ปรุรู้สึกหทยา ๔."จักขายะฯ"เอย......ตารู้รูปเปรย......ตาไม่เที่ยงนา มีแต่ทุกข์เด่น....เน้นเป็นอนัตตา....มีแปรผันกล้า....ธรรมชาติดล ๕."รูปายะฯ"สิ่งเห็นนิรเที่ยง.........................เป็นทุกข์เจาะเสี่ยงแน่,อนตน "โสตายะฯ"หูยินเหมาะเจาะล้น.......................ไม่เที่ยง,อนัตตาสุขะไร้ ๖. "สัททายะฯ"ชิน.......เสียงที่ได้ยิน......ไม่เที่ยง,ทุกข์ไว "ฆานายะฯ"เอ่ย....จมูกเปรยดมใกล้....ทุกข์แปรเปลี่ยนได้....หาใช่อนัตตา ๗."คันธายะฯ"กลิ่นดมพหุทุกข์...................ไม่เที่ยงและรุกเปลี่ยนทะลุหนา "ชิวหายะฯ"ลิ้นรู้รสะกล้า...............................ไม่เที่ยงแปรปรุเสมอ ๘."รสาย์ตนะฯ".......รสที่ลิ้มดะ......ไม่เที่ยง,ทุกข์เปรอ "กายายะฯ"ชู....รู้สัมผัสเออ....กายไม่เที่ยงเจอ....มิใช่ของตน ๙."โผฏฐัพพ์ยะฯ"สิ่งที่เจาะกระทบ..............สัมผัสมิจบเที่ยงปะทะยล ใจรู้"มนายาตนะฯ"ดล....................................ใจหาซิทุกข์,เที่ยงจิรเผย ๑๐."ธัมมาย์ตนะ"......ธรรมารมณ์ปะ......อารมณ์เกิดเอย ธรรมไม่เที่ยงแท้....ใจแน่ทุกข์เปรย....อนัตตาเอ่ย....แปรเปลี่ยนธรรม์ดา ๑๑.แจงอายะฯตามโดย"อภิธรรมฯ"..............สิบสองแนะนำเกิดปะทุหนา "จักขายะฯ"ตาเชื่อมกะ"ปสาฯ".........................อาศัยซิยาตรกับ"มหะภูฯ" ๑๒.รูปที่เห็นไม่ได้......กระทบได้ไซร้......คนเคยเห็นอยู่ บ้างมิเห็นเอย....เผยกระทบพรู....เรียกหลายอย่างกรู...."จักขุนทรีย์"..แล ๑๓."รูปายะฯ"รูปใดพหุสี..............................เห็นได้และชี้พบระดะแฉ อาศัยมหาภูฯปะทุแล้.......................................บางครั้งมิเห็นแต่ลุกระทบ ๑๔."โสตายะฯ"ใด......มีประสาทไซร้......อาศัยมหาฯพบ รูปไม่เห็นแต่....แน่กระทบครบ....คนไม่เห็นจบ....แต่หูยังฟัง ๑๕."สัททายะฯ"อาศัยก็"มหาฯ".....................ไม่เห็นเจาะนาแต่ภวยั้ง เสียงนั้นกระทบได้สุตะดัง................................เสียงกลองตะโพนก็ประโคม ๑๖. เสียงมนุษย์หรือ.......อมนุษย์ครือ......เสียงอื่นใดโลม อิง"มหาภูฯ"....กรูไม่เห็นโฉม....แต่กระทบโจม....คนเคยฟังเอย ๑๗."ฆานาฯ"จมูกพร้อมสิประสาท.................รูปนั้นก็พลาดเห็นซิจะเอ่ย สามารถกระทบได้เจาะเซาะเผย......................ดมกลิ่นตะไม่เห็นนิรใด ๑๘."คันธายะฯ"รู้.......กลิ่นผ่านจมูกชู......จิตเกิดรู้ไข "ชิวหายะฯ"ลิ้น....เห็นสิ้นไม่ได้....แต่กระทบไซร้....เช่นเคยลิ้มลอง ๑๙.รู้รส"รสายาตนะฯ"หนา...........................ผ่านลิ้นเจาะว่าอุระครอง กายแน่วสิ"กายายตะฯ"ส่อง.............................มีพร้อมประสาทอิงกะ"มหาฯ" ๒๐.รูปเห็นไม่ได้......แต่กระทบไว.....เคยถูกต้องพา "โผฏฐัพพะ"นั้น....พลันไม่เห็นนา....แต่กระทบมา....เรียก"กายธาตุ,กาย" ๒๑.บ่อเกิด"มนายาตนะฯ"นำ........................จิตรู้และจำได้มหิกราย รับรู้สิอารมณ์เจาะกระจาย..............................เป็นเหตุประชุมเกิดรู้พหุเผย ๒๒.รูป,เสียง..เกิดจริง......จิตไม่รู้ดิ่ง......ธรรมไม่รวมเอย สิ่งเกิดทางตา....พาไม่เกิดเอ่ย....หูเช่นกันเปรย....จิตไม่รวมใด |
||





