กลอนลิลิต จาก "กลบทศิริวิบุลกิตติ์" โดยหลวงศรีปรีชา (เซ่ง)
๐ ส่วนองค์พงษ์พะงา................ผู้โสภาพิสมัย
พรั่งพร้อมไปด้วยนาฏ................บริวารราชสุรางค์
ขึ้นสู่ปรางค์ปราสาท..................บังคมบาทบพิตร
อัญชลิตน้อมเกศ.....................จอมนเรศร์จึงตรัส
โดยศุภสวัสดิ์วาที.....................เป็นวาจีสุนทรวาท
ส่วนพระนาถจึ่งทูล...................โดยเดิมมูลมีมา
จอมราชาแจ้งอรรถ...................ตามรหัสหนหลัง
จึ่งตรัสสั่งอำมาตย์....................ให้หาราชปโรหิต
พร้อมพราหมณ์สิทธิ์ไสยเวท........โหราเพศรามวงษ์
แล้วพระองค์จึ่งเอื้อน.................โองการเยื้อนเล่าฝัน
ที่แจ่มจันทร์แจ้งอรรถ................โดยศุภสวัสดิ์นิมิต
ให้แจ้งจิตรโดยจริง....................พระโหรยิ่งปรีชา
แจ้งลักษณาสุบิน.....................น้อมปฏิทินลงกาง
ย่ออุตมางค์ศิโรตม์....................บังคมโพธิสมภาร
แล้วจับกระดานวางองค์...............นพเคราะห์ลงในจักร
แล้ววางลัคน์เมถุน....................พระจันทร์จุนเถาะเกณฑ์
เข้าในเพลใกล้เที่ยง..................สี่โมงเลี่ยงสามบาท
วางลัคน์ขาดราศี.......................ตามนาทีอันโต
เพราะสุริโยยอเมษ....................จอมนเรศรตรัสถาม
เข้าในยามพุธยก......................เป็นเดือนหกขึ้นนั้น
ห้าค่ำวันอาทิตย์.......................ปีฉลูสิทธิเบญจศก
อังคารตกพุธเสาร์.....................ขึ้นเมษเนาสี่องค์
ทั้งสุริยงก็ต้นธาตุ......................เป็นตัวอาตม์ราศี
เตโชที่ตัวกล้า.........................เรียกชื่อราศีไฟ
ตั้งเรือนในสุริชะ.......................มาปนปะทุพภิกขันธ์
ในโยคนั้นสิบเอ็ด......................แก้ลัคน์เสร็จประสงค์
ราหูองค์สุรินทร์........................สถิตถิ่นอยู่สิงห์
เป็นสามยิ่งโยคใหญ่..................พระศุกร์ใส่พฤษภ
สิบสองจบตามจักร....................นัยโดยลัคน์ดั่งนี้
ต้องราศีวินาศ..........................องค์ชินราชบดี
มาอยู่ที่พิจิตร..........................พระโหรคิดค้นหา
นับลัคนาราศี...........................หาเจ้าที่นั้นตั้ง
เจ้าที่ยังที่ใด...........................นับต่อไปจนพบ
ให้ประสบเจ้าเรือน.....................บวกคูณเลือนลงไว้
เลขเจ็ดใส่เข้าหาร.....................ออกเศษการเศษสี่
พระพุธีอยู่เมษ.........................เป็นต้นเหตุตนุ
อังคารลุเป็นเจ้า........................ราศีเข้าที่เมษ
ตัวเกษตรตนุ...........................พระโหรลุทายทูล
โดยนุกูลวิชา...........................เอาปัญญาเป็นอาสน์
กราบทูลราชบพิตร....................ขอทรงฤทธิ์ทราบเหตุ
องค์อัคเรศบุญเลิศ.....................จักได้เชิดชูแก้ว
อันกล่าวแล้วคือบุตร...................ที่ผ่องผุดไพบูลย์
เกษมสูญสูงยศ........................จักปรากฏกิตติศัพท์
ให้กลัวลับล่วงโลก.....................จักเป็นโจกจุลจักร
เพราะศรีพักรอยู่ที่.....................เมษราศีสหัชชะ
เป็นปุตตะมหา.........................องค์อุตมาอยู่เมษ
แต่จอมเกศแม่เจ้า.....................จักโศกเศร้าภาพหลัง
จากเวียงวังมิหนำ.....................แล้วจักซ้ำจากองค์
จอมอิศรจักรรัตน์......................ทั้งจะพลัดจากบุตร
แล้วจักสุดพระชนม์...................เพราะพุทธมนต์แลพุธ
สององค์หยุดเรือนตนุ.................องค์หนึ่งลุเป็นอริ
องค์หนึ่งริเป็นมรณะ..................พระศุกระเป็นตัวกาล
กิณีผลาญอยู่พฤษภ..................บรรจงจบเป็นปัตนิ
มาตกที่กฏมภะ.......................จักเกิดกะกุลีกาล
ศัตรูรานซึ่งราช........................สมบัติบาทบพิตร
ขอพระองค์จงแจ้งจิตร................ดั่งข้าพเจ้ากราบทูล ฯ
๑---------------------๑
กลอนลิลิต ปรากฏอยู่ในการประพันธ์ลำดับที่ ๘ ของตำราศิริวิบุลกิตติ์
พิจารณาโดยรวมเห็นว่า
- มีการแต่งวรรคละห้าคำ ส่งสัมผัสจากคำท้ายของวรรคต้น ไปยัง คำที่สามของวรรคถัดไป เรื่อย ๆ ต่อเนื่องไปทุกวรรค และจบด้วยลักษณะคล้ายโคลงสอง แต่ไม่บังคับเอกโท
กลอนลิลิต มีปรากฏเฉพาะใน "กลบทศิริวิบูลกิตติ์" ไม่มีปรากฏใน "จารึกวัดพระเชตุพนฯ"
ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ครับผม
...-๐ Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา) ๐-...

•
กลับสู่หน้าห้องเรียน กลอนกลบท คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน โคลงกลบท คลิก •
กระโดดสู่ห้องศึกษา ภาพโคลงกลบท คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน กาพย์ คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน กลอน คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน โคลง คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน ฉันท์ คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน ร่าย คลิก 