กลบทดุริยางค์จำเรียง (ขุนธนสิทธิ์ : ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ)
๐-------------------------๐
หวั่นหวั่นจิตร์คิดคิดหวรครวญครวญหา
คอยคอยหายหลายหลายนัดผัดผัดมา
แทบแทบเดือนเตือนเตือนว่าช้าช้าวัน
เอ๋ะเอ๋ะผิดติดติดเบือนเชือนเชือนไฉน
แปลกแปลกใจใคร่ใคร่รู้ดูดูขัน
ทำทำทีหนีหนีแหนงแกล้งแกล้งกัน
เชิงเชิงชั้นหันหันบากฉากฉากใจ
ฬ่อฬ่อเปล่าเฝ้าฝ้าคอยร้อยร้อยหย่าง
ฉะฉะนางช่างช่างกลสนสนใส่
นี่นี่เพียรเรียนเรียนรู้ครูครูใด
เคยเคยใช้ได้ได้เหนเช่นเช่นครู
ทีทีหล่อนซ่อนซ่อนร้ายหมายหมายมิด
ฟังฟังผิดติดติดเบื่อเหลือเหลือหู
ปากปากกล้าตาตาแขงแกล้งแกล้งดู
เหลือเหลือสู้อยู่อยู่หมัดจัดจัดเจียว
แรกแรกรักษจักจักม้วยด้วยด้วยได้
วางวางใจไม่ไม่ตรึกนึกนึกเฉลียว
มามาฉาวข่าวข่าวบอกออกออกเกรียว
อกอกไหม้ใจใจเหี่ยวเสียวเสียวใจ
แท้แท้กำม์จำจำนองสองสองจาก
ดูดูหลากหากวิบัติซัดซัดให้
นกนกไร้ไม้ไม้โหดโทษโทษใคร
สมสมหน้าสาสาใจได้ได้อาย
หลาบหลาบใจไกลไกลลับนับนับชาติ์
สิ้นสิ้นเสร็จเด็ดเด็ดสวาดิ์ขาดขาดหาย
อย่าอย่าพ้องต้องต้องใจใกล้ใกล้กลาย
ขอขอหน่ายหายหายชื่อฤาฤามี
ตราบตราบลับดับดับจันทร์พันพรรณ์แสง
ห้วงห้วงสมุททรุดทรุดแห้งแหนงแหนงหนี
ไกลไกลกันพันพันโยชน์โกฏิโกฏิทวี
บทบทนี้
ดุริยางค์จำเรียงเอย ฯ
( ขุนธนสิทธิ์ : ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ)
กลบทดุริยางค์จำเรียง พิจารณาโดยรวมเห็นว่า มีข้อพิเศษเพิ่มจากกลอนทั่วไป คือ
วางเขียนเป็นกลอนเก้า ใน ๑ วรรคแบ่งเป็น ๓ ช่วง แต่ละช่วงมี ๓ คำ
๑.) โดยสองคำแรกของแต่ละช่วงให้เป็นการซ้ำคำ (คำยมก) โดยอาจซ้ำคำหรือซ้ำเสียง
๒.) กำหนดให้มีสัมผัสสระชิดระหว่างช่วง คือ ระหว่างช่วงแรกกับช่วงกลาง และ ช่วงกลางกับช่วงหลัง ของกลอนแต่ละวรรค
** กลบทนี้มีที่มาปรากฏทั้งใน "กลบทศิริวิบุลกิตติ์" และ "จารึกวัดพระเชตุพนฯ"
ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ครับผม
...-๐ Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา) ๐-...
•
กลับสู่หน้าห้องเรียน กลอนกลบท คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน โคลงกลบท คลิก •
กระโดดสู่ห้องศึกษา ภาพโคลงกลบท คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน กาพย์ คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน กลอน คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน โคลง คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน ฉันท์ คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน ร่าย คลิก
