กลโคลงกลอน - กลอนโคลง (ทวิภาค)

   - กลบทโคลงกลอน - กลอนโคลง -
   - โคลงกลอน - (ยามเมื่ออ่านแบบโคลง)

   ๑๗. พิเศษสารเสกสร้าง..........รังสรรค์
   สารประจงจารฉันท-................ภาคพริ้ง
   พรายฉายเฉกเพชรพรรณ........เพราเฉิด เลิศแล
   ลายระยับสายสะอิ้ง................ส่องสร้อยกรองทรวง

   ๑๘. ดวงดอกไม้มิ่งแก้ว............โกมุท
   มาศเอี่ยมสะอาดพิสุทธิ์............ฉ่ำซึ้ง
   คำหลวงโรจน์รุ่งดุจ...................ดาวฤกษ์ เบิกรา
   ดวงประดับรวงผึ้ง.....................ร่ำน้ำคำกวี

   ๑๙. ชีวิตนิดหนึ่งน้อย................นี้หนัก
   นักปราชญ์ประจักษ์หลัก...........แน่ล้วน
   หน่ายหนีทุกข์สุขศักดิ์................สรรพทั่ว ชั่วแล
   ดีใช่ดีถี่ถ้วน...............................เท็จล้วนเลศนัย

   ๒๐. ใช้ชีพนี้ชี้เช่น.....................เป็นแบบ
   บทประจงจดแนบ.....................เนื่องร้อย
   เรื่องไขหลากข้อแยบ.................ยลคิด จิตฤๅ
   ใจจักสอดใส่สร้อย....................สว่างไว้ทางกวี ฯ

   ๐ ----------------- ๐

   - กลอนโคลง - (ยามเมื่ออ่านแบบกลอน)

   ๑๗. พิเศษสารเสกสร้างรังสรรค์สาร
   ประจงจารฉันทภาคพริ้งพรายฉาย
   เฉกเพชรพรรณเพราเฉิดเลิศแลลาย
   ระยับสายสะอิ้งส่องสร้อยกรองทรวง

   ๑๘. ดวงดอกไม้มิ่งแก้วโกมุทมาศ
   เอี่ยมสะอาดพิสุทธิ์ฉ่ำซึ้งคำหลวง
   โรจน์รุ่งดุจดาวฤกษ์เบิกราดวง
   ประดับรวงผึ้งร่ำน้ำคำกวี

   ๑๙. ชีวิตนิดหนึ่งน้อยนี้หนักนัก
   ปราชญ์ประจักษ์หลักแน่ล้วนหน่ายหนี
   ทุกข์สุขศักดิ์สรรพทั่วชั่วแลดี
   ใช่ดีถี่ถ้วนเท็จล้วนเลศนัย

   ๒๐. ใช้ชีพนี้ชี้เช่นเป็นแบบบท
   ประจงจดแนบเนื่องร้อยเรื่องไข
   หลากข้อแยบยลคิดจิตฤๅใจ
   จักสอดใส่สร้อยสว่างไว้ทางกวี ฯ

   - ชักม้าชมเมือง (๒๕๒๐) : อ. เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ -

กลโคลงกลอน – กลอนโคลง

- เป็นวิธีการเขียนคำประพันธ์ โดยให้ “คำ” และ “เนื้อความ” ในสำนวนนั้น
   อ่านได้ทั้งรูปแบบ “โคลง” และ “กลอน” ในเวลาเดียวกัน
   โดยที่ยังคงฉันทลักษณ์หลักของคำประพันธ์ทั้งสอง แม้อ่านแยกกันก็ยังลื่นไหลได้ความเช่นเดิม

  ** กลโคลงกลอน - กลอนโคลง นี้ อ. เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ สาขาย่อยกวีนิพนธ์ เป็นผู้ประดิษฐ์และให้ชื่อว่า "โคลงกลอน-กลอนโคลง" ไว้ นำใช้ครั้งแรกในหนังสือรวม ๕๐๐ คำโคลง "ชักม้าชมเมือง" (๒๕๒๐, น. ๘-๙)

โคลงกลบทคู่แฝดประเภทนี้ ไม่มากไม่น้อยเกินไปกว่านี้ โดยส่วนตัวข้าพเจ้านึกนับถือผู้ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาตรงที่ว่า ไม่คิดเอาแต่ความพิศดารอย่างเดียว แต่สำคัญตรงที่ ถึงแม้เมื่ออ่านแยกกันเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว ไม่มุ่งเอาเฉพาะแต่ฉันทลักษณ์ไว้เท่านั้น แต่ยังคงความลื่นไหลของจังหวะ อรรถรส ประคองความหมายในเนื้อหาสาระของคำประพันธ์ชนิดนั้น ๆ เอาไว้ได้จริงในแต่ละอย่างอย่างปราณีตพอดี ๆ นับเป็นความสง่างามยิ่งนักในความคิดน้อย ๆ ของข้าพเจ้า

-๐ กลบทที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ๐-
• กลโคลงกาพย์ - กาพย์โคลง ^คลิก
   • โคลงกลบทสาลินี ^คลิก
   • โคลงกลบทฉบัง ^คลิก
   • กลโคลงลันโลงลิลิต ^คลิก
   • กลโคลงสักวา ^คลิก

   ...-๐ Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา) ๐-...
   ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ครับผม

   • กลับสู่ หน้าห้องเรียน โคลงกลบท ^คลิก
   • กระโดดสู่ห้องเรียน กลอนกลบท ^คลิก
   • กระโดดสู่ห้องศึกษา ภาพโคลงกลบท ^คลิก
   • กระโดดสู่ห้องเรียน กาพย์ ^คลิก
             • กระโดดสู่ห้องเรียน กลอน ^คลิก
   • กระโดดสู่ห้องเรียน โคลง ^คลิก
   • กระโดดสู่ห้องเรียน ฉันท์ ^คลิก
   • กระโดดสู่ห้องเรียน ร่าย ^คลิก

	ผู้เขียน	หัวข้อ: กลโคลงกลอน - กลอนโคลง (ทวิภาค) (อ่าน 14990 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้