Username:
Password:
บ้านกลอนน้อยฯ
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล
>>
ห้องเรียน
>>
ห้องเรียนฉันท์
>>
- อุปชาติฉันท์ ๑๑ -
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: - อุปชาติฉันท์ ๑๑ - (อ่าน 14157 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Black Sword
ผู้บริหารเว็บ
จำนวนผู้เยี่ยมชม:
65535
ออฟไลน์
ID Number: 88
จำนวนกระทู้: 10397
เมื่อ มยุรธุชกางปีกฟ้อน... มวลอักษรก็ร่อนรำ
|
|
- อุปชาติฉันท์ ๑๑ -
«
เมื่อ:
13, กุมภาพันธ์, 2565, 11:04:36 PM »
บ้านกลอนน้อยฯ
Permalink:
- อุปชาติฉันท์ ๑๑ -
- อุปชาติฉันท์ ๑๑ -
อุปชาติฉันท์ ๑๑
(อุ-ปะ-ชาด-ฉัน) เป็นฉันท์ที่ตำราฉันทศาสตร์ได้ให้อัตถะไว้ว่า กล่าวเจือกันด้วยอินทรวิเชียรฉันท์และอุเปนทรวิเชียรฉันท์
๑.)
รูปแบบของอุปชาติฉันท์ ๑๑
หนึ่งบท จะมี ๔ บาท
แต่ละบาทแบ่งเป็น ๒ วรรค
วรรคหน้ามี ๕ พยางค์ วรรคหลังมี ๖ พยางค์ (รวมเป็น ๑๑ พยางค์ในหนึ่งบาท)
๒.)
ลักษณะบังคับ ครุ –ลหุ
(ดูผังด้านบนประกอบ)
ครุ-ลหุ
แต่ละบาท
จะมีลักษณะ คือ
ลหุ
-ครุ-
ลหุ
-ครุ-ครุ ..................
ลหุ
-
ลหุ
-ครุ-
ลหุ
-ครุ-ครุ
ครุ-ครุ-
ลหุ
-ครุ-ครุ ...................
ลหุ
-
ลหุ
-ครุ-
ลหุ
-ครุ-ครุ
ครุ-ครุ-
ลหุ
-ครุ-ครุ ...................
ลหุ
-
ลหุ
-ครุ-
ลหุ
-ครุ-ครุ
ลหุ
-ครุ-
ลหุ
-ครุ-ครุ ..................
ลหุ
-
ลหุ
-ครุ-
ลหุ
-ครุ-ครุ
โดย
แต่ละบาท
จะแบ่ง
จังหวะการอ่าน
เป็น ๒ - ๓ .......... ๓ - ๓ เหมือนกันทุกบาท
หากพิจารณาลักษณะของครุ-ลหุ
จะเห็นว่าอุปชาติฉันท์นี้ เป็นการรวมผสานระหว่าง
อุเปนทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
คลิก
และ
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
คลิก
โดยบาทที่ ๑ และบาทที่ ๔ เป็นลักษณะของอุเปนทรวิเชียรฉันท์
และบาทที่ ๒ และบาทที่ ๓ นั้น เป็นลักษณะของอินทรวิเชียรฉันท์ นั่นเอง
๓.)
ลักษณะการส่งสัมผัส
(ดูผังด้านบนประกอบ)
- สัมผัสภายในบท -
คำสุดท้ายของวรรคแรก เชื่อมสัมผัสไปยังคำที่ ๓ ของวรรคที่ ๒
คำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ ส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของวรรคที่ ๓
คำสุดท้ายของวรรคที่สี่ ส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของวรรคที่ ๖
คำสุดท้ายของวรรคที่ ๕ เชื่อมสัมผัสไปยังคำที่ ๓ ของวรรคที่ ๖
และ สุดท้ายของวรรคที่ ๖ ส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของวรรคที่ ๗
- สัมผัสระหว่างบท -
หากแต่งมากกว่า ๑ บท
คำสุดท้าย
ของ
บทก่อนหน้า
ส่งสัมผัสไปที่
คำสุดท้าย
ในวรรคที่ ๒ ของ
บทต่อไป
-
ตัวอย่างคำประพันธ์
-
- อุปชาติฉันท์ ๑๑ -
- คือสีดำมหากาฬ และความหวานอันละมุน -
๑.
ระรัว/ระรัวเร่ง ประทุท่วง/ทำนองนัย
ดุจกลองประกาศชัย ขณะน้ำจะเดือดกา
พล่านพล่านตระการผุด ก็ประดุจจะพลุ่งพร่า
พุพลั่งประดังดา ระอุร้อนมิผ่อนคลาย
๒.
เขยื้อนขยับริน ระยะกลิ่นก็กำจาย
กาแฟกระอวลอาย และละเมียดละมุนมาน
กรุ่นคล้ายจะคลายปลด บริบทสภาพการณ์
และดลฤดีดาล สติชื่นกระชุ่นจินต์
๓.
ประคับประคองจิบ ตะละจิบละไมศิลป์
ผ่าวผ่านและหวานริน บริสุทธิ์ประสาเช้า
เรื่อยเรื่อยมิเร้าเร่ง อลเวงก็ผ่อนเพลา
มิร้อนมิรอนเร้า ขณะรุ่งอรุณโลม ๚ะ๛
(บ้านกลอนน้อยลิตเติลเกิร์ล)
- อุปชาติฉันท์ ๑๑ -
พระภูบดินทร์เจ้า ขณะเศร้าพระทัยครัน
เหตุเกรงพิบัติอัน ดลเกิดกะภูมี
ลดเลี้ยวและเที่ยวหา บริวาระไพรศรี
ละคนละคนนี้ ก็บ่พบบ่พานใคร ฯ
และแสนจะสมเพช พระประเวศวนาลัย
ยิ่งไปและไกลไป ธ ก็อ่อนระทวยองค์
เบื้องหลังนรีหนึ่ง จระถึงวิถีตรง
ณ แนวพระผู้ทรง วรฤทธิ์เสด็จมา ฯ
ถนัดพระเนตรเล็ง นยน์เพ่งพินิจนา-
รีน้อยและโสภา ยุวรุ่นดรุณี
แลร่างสะอางอ่อน อรชรเจริญศรี
ละสิ่งละสิ่งมี กิริยาสง่างาม ฯ
ประกอบ ณ กิจทำ ธุระนำสนองตาม
อาชีพนิคมคาม วนะเขตต์และเพศตน
หาฟืนคะครื้นครึก บ่มินึกละอายคน
จะเที่ยงจะบ่ายทน รวิจ้าก็คลาไคล ฯ
อนงค์อนุชน้อง ขณะต้องตุเหร่ไป
นางนาฏนิยมใน สุรศัพทสำเนียง
รับขานประสานซ้อง พจน์พร้องสนั่นเสียง
เพราะเพลินเจริญเพียง อุระรื่นสะเริงรมย์ ฯ
............... ฯลฯ ...............
(กัฏฐวาหนะคำฉันท์ : ส. สตะกูรมะ)
- อุปชาติฉันท์ ๑๑ -
ธ ซบศิโรราบ กรกราบพระทรงชัย
พลางทูลสนองไข อุระแค้นเพราะคำหา
สมควรมิควรโปรด นิรโทษและโทสา
กระหม่อมนะกลับมา สิก็มืดมิทันวัน
เพราะเกิดกลีเข็ญ วนะเป็นประหลาดครัน
พฤกษาพิพิธพรรณ พิปริตก็หลากหลาย
หิมพานตผัดผัน วะวะหวั่นมิเว้นวาย
จรัสสุรีย์ฉาย และก็กลายวิกลเป็น
พยับโพยมมัว นะสลัวมิแลเห็น
คร่ำครวญเพราะลำเค็ญ ขณะคลาก็อาวรณ์
เร่าร้อนละเลิงลน จระดล ณ สิงขร
เหยาะเหย่ากระเช้าคอน ละเลาะรีบมิรั้งรอ
ประจวบประจักษ์สัตว์ สิหราชเคลียคลอ
สองเสือก็เกรียวกรอ วนะก้องและกั้นกาง
นิ่มน้องก็ข้องขัด เพราะว่ะสัตว์สกัดขวาง
สิไร้สถานทาง นะพระน้องจะดำเนิน
ประจวบพระจันทร์ไข และก็ได้ระหกระเหิน
ทางที่จะดุ่มเดิน ดนุน้อยมินอนใจ
ใช่เป็นฤเช่นว่า ดำริมานะหาไม่
มิล่วงละเมิดใด จะแสดงพระแดเดียว
จำเดิมนะน้องเป็น บริจาริกาเทียว
ขอองค์พระทรงเหลียว ว่ะพิรุธ ณ ตรงไหน
ร่องรอยและร้าวราน ณ ดิฉันน่ะมีไหม
ก็โอ้พระทรงชัย ฤก็ช่างประเปรยโปรย
คำหยาบแสยงยำ มนะช้ำเพราะคำโบย
มัทรีทวีโหย จะมิหายระคายใจ
หม่อมผัวจะคิดหลัง สินะบ้างฤอย่างไร
ว่ะน้องฉลองได้ ธุลีบาทบุราณกาล
ประสงค์จะไต่เต้า ดุจะเงามิร้าวราน
ห่อนได้ฤดีดาล ขณะดลทุพลผอง
นอกนั้นก็นางไหน สลายกายประคับประคอง
จะใกล้ฤหมายปอง สิสนองพระบาทา
และตาม ณ ยามยาก ขณะจากพระพารา
แบกร่างระหกมา ก็มิแลรำพึงถึง
มัทรีสิเดียวดอก เพราะว่ะด้านและดื้อดึง
สวามิภักดิ์พึ่ง บ่มิพลิกฤไพล่แพลง
ก็กายพลีจิต สุจริตมิคิดแหนง
ไช่กลอกฤเกลื่อนแกล้ง กละกลิ้งและกลับกลาย
เกร็ดเกร่กระกรากกรำ จระตามพระฤาสาย
เพราะสัตยาหมาย นุชะมอบพระสามี
พยุงพยายาม บ่มิขาม ฤ คร้านหนี
บุกป่าพนาลี ละเลาะหาผลาหาร
เวียนวกจะรกเรี้ยว และก็เที่ยวคละคลุกคลาน
ซะซอกซะซอนซาน นะประสาประสบเข็ญ
............... ฯลฯ ...............
(มหาชาติคำฉันท์ : ฉันท์ ขำวิไล)
- อุปชาติฉันท์ ๑๑ -
พระโพธิสัตว์ตรับ สุรศัพท์มิคลุมเครือ
เห็นจริงประหนึ่งเขือ พจนาถประภาษมา
แต่เมื่อคะนึงเหตุ ผละด้วยพระปัญญา
ก็แจ้งประจักษ์สา- ระประโยชน์ตระหนักพลัน
อนุชน้องพี่ บ่มิน่าจะเกียดกัน
ใครใดไฉนกัน ธุระอื่นมิเป็นการ
ควรแท้ก็แต่เรา มนะเฝ้าเกษมศานต์
สมัคสมานมาน และจะช่วยผดุงผล
เพราะเหตุสุกรเพื่อน ก็เสมือนประหนึ่งคน
ร่วมบ้านและเรือนตน ปิยะร่วมฤดีเรา
เพื่อนเปรมเกษมสุข นิระทุกขะบรรเทา
มิพักประสงค์เอา ธุระการสถานไร
อนึ่งรสาหาร ผิตระการชะเอมใจ
โอชาจะหาไหน รึเสมือนเสมอมี
แต่เพื่อนมิใช่คง จิระตรงตลอดปี
เพราะเหตุกระฎุมพี มนะม่งจำนงหวัง
จะคร่าชิวาวาย เฉพาะหมายประสงค์ยัง
เนื้อเพื่อนประกอบตั้ง ภตะเพียงจะเลี้ยงกัน
ในงานวิวาห์บุตร วรนุชยุพินอัน
จะถึงมิช้าพลัน นิแหละหนอนะน้องชาย
ฉะนั้นสุธาโภชน์ อระโอชะทั้งหลาย
ห่อนยังประโยชน์หมาย ชิวะเนิ่นและนานเลย
เช่นนี้ไฉนเล่า ก็ละเจ้าจะควรเผย
พจีระแวงเปรย และติเพื่อนมนิกเรา
............... ฯลฯ ...............
(แดงโต้งคำฉันท์ : ส. สตะกูรมะ)
- อุปชาติฉันท์ ๑๑ -
และนายทหารหนุ่ม จรดุ่มมิไยดี
หวังเพียงจะพบปี- ยะสมรพิกุลหมาย
ซานซมเพราะสมสั่ง ณ พลังมลายกราย
ผิว์ตัวจะถึงตาย ก็จะตายเพราะไว้ตัว
เลาะลัด ณ ทางรก ขณะอกกระอึกรัว
ยิ่งมืดก็ยิ่งมัว พิศะเหลือจะครรไล
ยามสองก็สบหน้า คฤหาสนาศัย
ผละซุ่ม ณ ซุ้มไทร ทรหดและอดทน
ละช่วงละฉากผ่าน ทรมานเพราะเกรงมณ-
-เฑียรบาล ณ เบื้องบน จะขยี้ขย้ำคา
โอ้ช่อพิกุลชื่น ผิวะตื่น ฤ หลับตา
กถาอนาถา จะประคับประคองเคียง
จะเนานิรันดร์แนบ จิตะแอบบ่เอนเอียง
อาพี่ก็แค่เพียง ศิละเศษเทวษศัลย์
ไหนเลยจะล้ำผา มหิมาสง่ามัณ
ฑณาสิมานันต์ ตะละเงื้อมตระหง่านงาม
ฉะเฉื่อยพระพายฉิว ก็สยิวสยองยาม
เลือดกายและเลือดกาม ปะทะอลวนอึง
ไหลรับสลับเลือน ขณะเดือนจะถูกดึง
และแสงอุษาจึง ทะลุขึ้นทิฆัมพร
(กถาจรดปกาศิต (สามแพร่งชีวิตคำฉันท์) : คมทวน คันธนู)
- อุปชาติฉันท์ ๑๑ -
สดับวจีแจ้ง นุชะแต่งสรีร์ไว
ผ้าคลุม ณ พักตร์ไว้ วรรูปนะตรูตา
เสร็จได้คระไลด่วน ประลุควรกะเวลา
ลุถิ่น ณ เคหา นิชิเมนท์ ก็เอ็นดู
และนำอนงค์เข้า ณ สถานสงัดผู้
ใดอื่นมิมีอยู่ วธุนั่งและฟังความ
หมอมีวจีว่า นุชะข้าจะขอถาม
นรีแนะชี้ตาม สุจริต ณ กิจจา
ประสงค์อะไรเล่า ธุระเราไฉนามา
โฉมอารุยาว่า "นิชิเมนท์" ธ เน้นนาม
เปลื้องผ้ามิปกพักตร์ ยุวลักษณ์แถลงความ
ดิฉันประจาคคาม ธุราเพื่อ ธ บานู
ธ ผู้สวามี ขณะนี้ประสงค์ตู
เล่าความระลึกรู้ คุณะท่านและนับถือ
ขอให้เจริญมั่ง ธ นะทั้งสมัญญ์ลือ
และกาละนี้ถือ อวกาศะมากวน
ระบิล ธ บานู ธนะกู้ประมาณมวล
พันเหรียญสุพรรณล้วน อนุญาตสนองยืม
แด่ท่าน ณ กาลก่อน ระบุสอนมิหลงลืม
แนะชี้วจีปลื้ม กะดิฉันจรัลทวง
กระแสสุสำเนียง นุชะเพียงชะโลมทรวง
หมอมุ่งพินิจดวง วรพักตร์มิเมินตา
พลางพร่ำสุพจน์ตอบ จิตะลอบเสน่หา
ฉะนี้แน่ะพังงา มนะฉันน่ะยินดี
จะให้จุใจขอ มิเพราะพอกะมูลหนี้
ใช้ให้สวามี นะอนงค์จะสงกา
ให้นี้เพราะนงนุช มนะสุดกรุณมา
นิคมละคามข้า ตละจิตต์ดนูเปรม
ดนูน่ะรู้สึก ปิติลึกอุราเต็ม
เปี่ยมสุขและอิ่มเอม ขณะแรกประสบนาง
ทั้งนี้ก็โดยนุช แหละนะฉุดมโนสร้าง
รื่นรมย์นิยมนาง สุจะเกินกะแพทย์ใด
เหตุนี้ดนูเชิญ จะละเมินและรับไว้
รหัสและเหตุใน มนะมุ่ง ณ ไมตรี
สวามินั้นเล่า ฤก็เฒ่าและอินทรีย์
แก่คร่ำครึบัดสี จะเสน่หตรงไหน
แม้ว่าอนงค์นึก สติตรึกสมัครใจ
รับรักดนูไว้ นะขนาดกะเกินเงิน
แล้วข้าจะทำขวัญ ทวิพันสุพรรณเกิน
สรีระชีพ,เชิญ นุชะรีบอุทิศนา
............... ฯลฯ ...............
(อารุยาคำฉันท์ : ลออง จุลกะเศียน)
** หมายเหตุ :
ในชั้นต้นนั้น ฉันท์ประเภท ๔ วรรค ที่มีลักษณะอย่างกาพย์นั้น ไม่ได้มีบังคับ
สัมผัสเชื่อม
ระหว่างวรรคหน้า และวรรคหลัง มีเพียง
สัมผัสส่ง
ระหว่างบาท และระหว่างบทเท่านั้น แต่กวีนิยมใส่เพิ่มเพื่อความไพเราะ หากอ่านในวรรณคดีหรือวรรณกรรมต่าง ๆ จะพบลักษณะนี้อยู่ ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา อย่าเพิ่งประมาทว่าผู้ประพันธ์นั้นผิดพลั้งแต่ประการใด เช่น
- อุปชาติฉันท์ ๑๑ -
๐ พระราชปรารม ภนิยมมิควรการณ์
ขอองคภูบาล พิเคราะห์เหตุจงดี ฯ
อันซึ่งจะกรีฑา พละทัพและไปตี
กระษัตริย์ณวัชชี ชนบทสมหมาย ฯ
(สามัคคีเภทคำฉันท์)
- อุปชาติฉันท์ ๑๑ -
พระอิลราชฟัง พจพุธสำแดงมา
สุดดับระงับอา ลยโศกพิโยคครวญ
เสียดายทหารหาญ รณชาญอมาตย์มวญ
และเสวกาควร ฤจะมามลายชนม์
(อิลราชคำฉันท์)
- อุปชาติฉันท์ ๑๑ -
๐ นรีฤดีมาศ วรราชธาตรี
รับสั่งพระสุนทรี จรเรียกอมาตย์มา
แจ้งกิจบ่ผิดซึ่ง พระวิทรรภะกันยา
แถลงบ่แฝงกา รณะอันจะพลันเปน
๐ ตระบัดนิษัธเส วกะราชอมาตย์เห็น
เหตุล้ำจะลำเค็ญ ก็เทวศทวีทรง
รู้ราชวโรงการ ก็ทยานหทัยยง
เพราะเหตุพระรู้องค์ พระดำรัสประชุมเรา
(พระนลคำฉันท์)
บ้านกลอนน้อยลิตเติลเกิร์ล
- Black Sword -
(หมู มยุรธุชบูรพา)
•
กลับสู่หน้า
สารบัญ
ฉันท์
คลิก
•
กระโดดสู่ห้องเรียน
กาพย์
คลิก
•
กระโดดสู่ห้องเรียน
กลอน
คลิก
•
กระโดดสู่ห้องเรียน
โคลง
คลิก
•
กระโดดสู่ห้องเรียน
ร่าย
คลิก
•
กระโดดสู่ห้องเรียน
กลอนกลบท
คลิก
•
กระโดดสู่ห้องเรียน
โคลงกลบท
คลิก
•
กระโดดสู่ห้องศึกษา
ภาพโคลงกลบท
คลิก
รายนามผู้เยี่ยมชม :
มนชิดา พานิช
,
ฟองเมฆ
,
ลมหนาว ในสายหมอก
,
ข้าวหอม
,
ปิ่นมุก
,
น้ำหนาว
,
ปลายฝน คนงาม
,
ขวัญฤทัย (กุ้งนา)
,
ก้าง ปลาทู
,
หยาดฟ้า
บันทึกการเข้า
..
รวมบทกลอน "
ที่นี่เมืองไทย...
"
รวมบทกลอน "
ร้อยบุปผา
"
รวม
บทประพันธ์ทั่วไป
"Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา)"
รวมบทประพันธ์
กลบท
"Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา)"
รวมบทประพันธ์
ฉันท์
"Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา)"
กลอน
สุภาษิต-คำพังเพย-สำนวนไทย
บ้านกลอนน้อย
ลานอักษร มยุรธุชบูรพา
..
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
บ้านกลอนน้อย ลิตเติลเกิร์ล - มยุรธุชบูรพา
-----------------------------
=> อ่านข้อกำหนด กฎระเบียบต่าง ๆ - สมาชิกใหม่ ทักทาย แนะนำตัวที่นี่
=> ห้องกลอน คุณอภินันท์ นาคเกษม
=> ห้องกลอน คุณคนบอ มือสี่
=> สารบัญกลอน สมาชิกนักกลอน
-----------------------------
ห้องเรียน
-----------------------------
=> ห้องเรียนรู้คำประพันธ์ ประเภทกลอน
=> ห้องเรียนฉันท์
=> ห้องเรียน กลบท
=> ห้องเรียน โคลงกลบท
=> ห้องศึกษา ภาพโคลงกลบท
=> ห้องศึกษา กาพย์ โคลง ร่าย
=> ห้องหนังสือ บ้านกลอนน้อย
=> ห้องฟัง การขับ เสภา และอื่น ๆ
-----------------------------
คำประพันธ์ แยกตามประเภท
-----------------------------
=> กลอน ร้อยกรองหลากลีลา
=> คำประพันธ์เนื่องในโอกาสพิเศษต่าง ๆ
=> กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม
=> กลอนเปล่าสบาย ๆ
=> กลอนจากที่อื่น และจากกวีที่ชื่นชอบ
=> โคลง-กาพย์-ฉันท์-ร่าย-ลิลิต
=> กลบท
=> นิยาย-เรื่องสั้น-บทความ-ความเรียง-เรื่องเล่าทั่วไป
=> ห้องนั่งเล่นพักผ่อน
===> เส้นคั่นสวย ๆ
===> รูปภาพน่ารัก
กำลังโหลด...