
- วังสัฏฐฉันท์ ๑๒ -
วังสัฏฐฉันท์ ๑๒ (วัง-สัด-ถะ-ฉัน) เป็นฉันท์ที่ตำราฉันทศาสตร์ได้ให้อัตถะไว้ว่า มีสำเนียงอันไพเราะเหมือนเสียงปี่
๑.) รูปแบบของวังสัฏฐฉันท์ ๑๒
หนึ่งบท จะมี ๒ บาท
แต่ละบาทแบ่งเป็น ๒ วรรค
วรรคหน้ามี ๕ พยางค์ วรรคหลังมี ๗ พยางค์ (รวมเป็น ๑๒ พยางค์ในหนึ่งบาท)
๒.) ลักษณะบังคับ ครุ –ลหุ (ดูผังด้านบนประกอบ)
ครุ-ลหุ แต่ละบาทจะมีลักษณะเหมือนกันทุกบาท คือ
ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ................... ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ
โดยแต่ละบาทจะแบ่งจังหวะการอ่านเป็น ๒ - ๓ .......... ๓ - ๔ เหมือนกันทุกบาท
๓.) ลักษณะการส่งสัมผัส (ดูผังด้านบนประกอบ)
- สัมผัสภายในบท -
คำสุดท้ายของวรรคแรก เชื่อมสัมผัสไปยังคำที่ ๓ ของวรรคที่ ๒
คำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ ส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของวรรคที่ ๓
- สัมผัสระหว่างบท -
หากแต่งมากกว่า ๑ บท
คำสุดท้ายของบทก่อนหน้า ส่งสัมผัสไปที่คำสุดท้ายในวรรคที่ ๒ ของบทต่อไป
- ตัวอย่างคำประพันธ์ -
- วังสัฏฐฉันท์ ๑๒ -
๐ พระเจ้า/มหาชัย ทศะนัย/นภางค์ผยอง
ถนิม/โพยมมอง มละหมอก/มลายสลาย
๐ รวี/วิลาศเมฆ อดิเรก/อร่ามประกาย
สุรัง/สุมาลย์ฉาย สิริเวิ้ง/นวางค์สมร
๐ และคิชฌะโผเผ่น นภะเช่นจะนำนิกร
นิมิตสังหรณ์มอญ จะมล้างริปูประลัย
๐ พระโหรก็ลั่นฆ้อง ชยะซ้องเสนอพิสัย
พระฤกษ์พิชิตชัย ชนะโห่กระหึ่มพหล
๐ กระทั่ง ณ สังข์แตร สุระแซ่สะเทื้อนกมล
สินาดก็อึงอล นฤนาทปะปังปะปึง
๐ อรินทะเภรี นิก็ตีตะตังตะตึง
ธวัชก็โบกรึง พละเร่งผยองทะยาน
๐ กระโจมประจัญขับ มหะทัพสยามละลาน
พินาศประหนึ่งผลาญ อฐะทิศบ่ทันจะหือ
(เฉลิมเกียรติกษัตรีคำฉันท์ (กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์))
- วังสัฏฐฉันท์ ๑๒ -
๐ พระพี่พระจูงน้อง ขณะหมองขมันขมี
กุมารกุมารี ก็ละห้อยระหกระเหิน
๐ กระถด ธ ถอยหลัง และก็ยังจะยับจะเยิน
ผะดาผดุงเดิน จะสะดุดก็หยุดก็ยัน
๐ พระเพียงจะพลาดพลิก ระระริกจรุงจรัล
ประคับประคองขวัญ ก็บ่แขวนมิแคลนมิคลาย
๐ ณ แหล่ง ธ แฝงตน พระกมลกระวนกระวาย
และเสียงสกลกาย จะกระดิกกระเด็นกระดอน
๐ ก็วาริบังองค์ บุษบงสล้างสลอน
และใบประกับกร ธ ก็บังพระศกพระเศียร
๐ สถิตสถานโบก- ขรณี จำนงจำเนียร
พะวักพะวนเวียน ก็เพราะหวังระวังระไว
๐ บ่ถามบ่ได้บอก บ่มิออกกระแอมกระไอ
สงัดสงบใน อุระแน่นเพราะแค้นเพราะเคือง
(มหาชาติคำฉันท์ : ฉันท์ ขำวิไล)
- วังสัฏฐฉันท์ ๑๒ -
๐ ณ กัมพุชากรุง ธุระยุ่งเพราะเกี่ยวกะมูล
สวามิภักดิ์ศูนย์ มุหสึงคะนึงมิควร
๐ ก็มีทวีครา เพราะชนาธิปัตย์ประมวล
เขมรประมาทหวล หฤทัยมิใคร่จะคง
๐ เหมาะช่องสนองมุ่ง ฉะเพาะกรุงสยามประสงค์
ประทุษฐะโดยตรง ณ พระบาทยุคลละออง
๐ หะแรกพระองค์จัน สละธรรม์อธรรมสนอง
เพราะแพ้ประยุทธ์กอง พละทัพมหานคร
๐ บดินทรเดชา ระบุฐานะนามกร
ธเจ้าพระยาจร ถลมรรคประมุขพหล
๐ พระคลังอนึ่งเล่า ยศะเจ้าพระยาถกล
ประธานวิถีชล คณะรบก็ครบก็ครัน
๐ คระไลลุได้ปราบ อริราบมิรอประจัน
มิช้าชะล่าขัน มนะแข่งจะแย้งพิชัย
๐ เพราะเหตุพระองค์อิ่ม ตริกระหยิ่มเขยิบหทัย
เราะร้าวคุกร้าวใน คตินาสอนัตถ์ถวิล
๐ ธเจ้าพระยากล้า รณะการะนามบดินทร์
ก็จอมพหลภิน- ทสภาพกบฏสลาย
๐ ริปู ณ บูรพ ทิศะภพสงบก็คลาย
กระเหิมกระหายหมาย เสาะระงับเสงี่ยมวิสัย
(กรุงเทพคำฉันท์ : ขุนสุนทรภาษิต กับ ชิต บุรทัต)
** หมายเหตุ : ในชั้นต้นนั้น ฉันท์ประเภท ๔ วรรค ที่มีลักษณะอย่างกาพย์นั้น ไม่ได้มีบังคับสัมผัสเชื่อมระหว่างวรรคหน้าและวรรคหลัง มีเพียงสัมผัสส่งระหว่างบาท และระหว่างบทเท่านั้น แต่กวีนิยมใส่เพิ่มเพื่อความไพเราะ หากอ่านในวรรณคดีหรือวรรณกรรมต่าง ๆ จะพบลักษณะนี้อยู่ ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา อย่าเพิ่งประมาทว่าผู้ประพันธ์นั้นผิดพลั้งแต่ประการใด เช่น
- วังสัฏฐฉันท์ ๑๒
๐ กระนั้น ละแน่อัน ชิวะท่านจะปลดจะปลง
เพราะโจระมั่นคง บมิเห็นจะรอดไฉน
๐ พระโพธิสัตว์สั่ง กิจะเสร็จก็ลาคระไล
นิวัติโดยใน พนะมรรคะเมื่อ ธ มา
(เวทัพพคำฉันท์)
- วังสัฏฐฉันท์ ๑๒
๐ สะพักสะพายย่าม ก็ขยับจะยับจะเยิน
แสดงสะดุดเดิน นะกระดากลำบากลำบน
๐ ดำเนินตำแหน่งเนา ก็ ณ เบื้องพระบาทยุคล
เสน่ห์สนิทกล กรกราบพิลาปพิไล
(มหาชาติคำฉันท์)
บ้านกลอนน้อยลิตเติลเกิร์ล
- Black Sword -
(หมู มยุรธุชบูรพา)

•
กลับสู่หน้า สารบัญ ฉันท์ คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน กาพย์ คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน กลอน คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน โคลง คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน ร่าย คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน กลอนกลบท คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน โคลงกลบท คลิก •
กระโดดสู่ห้องศึกษา ภาพโคลงกลบท คลิก