กลบทวิสูตรสองไข จาก "ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ " โดยพระองค์เจ้าคเนจร (กรมหมื่นอมเรนทรบดินทร์)
๐-------------------------๐
แสวงสวาดิ์มาดมิตร
สนิทสนอง ไม่เว้นไม่วายหมายถวิล
ประคิ่นประคอง สมานสมักรักน้อง
ประลองประโลม แต่ปางแต่ไปไกลตานิรานิราษ
ก็ค้างก็ขาดคู่คิดเชยชิดเชยโฉม
ให้เหนให้หวงทรวงประดุจจะทรุดจะโทรม
เพราะทุกข์เพราะโทมนัสถึงคะนึงคะเน
จะพากจะเพียรเวียนสวาดิ์ที่มาดที่หมาย
ดังเวียนดังว่ายวังวนระหนระเห
ระหวยระหายสายน้ำชล่ำชเล
ยิ่งว้ายิ่งเหว่หวั่นจิตร์จะปลิดจะปลง
จึงเอื้อนจึงอ้อนวอนรักประดักประเดิด
อย่าเหินอย่าห่างร้างเริดประเสริฐประสงค์
ไม่เสไม่แสร้งแจ้งรักษประจักษ์ประจง
จะขอจะคงเคียงข้างจนวางจนวาย
ถนับถนอมกล่อมเกลี้ยงเปนเที่ยงเปนแท้
ไม่ห่างไม่แหห้องน้องอย่าหมองอย่าหมาย
เสงี่ยมสงวนชวนเชยสเบยสบาย
ไม่คลาดไม่คลายเคล้าคลอละออละออง
ซึ่งกล่าวซึ่งกลอนซ้อนซับประดับประดิษฐ
ประสมประสิทธิ์สำเนียงเปนเสียงเปนสอง
ให้ชื่อให้เช่นเปนระเบียบทำเนียบทำนอง
วิสูตรทองสองไขไว้นามเอย ฯ
(พระองค์เจ้าคเนจร (กรมหมื่นอมเรนทรบดินทร์) : ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ)
พิจารณาเห็นว่า ที่เพิ่มจากกลอนทั่วไป คือ
๑.) กำหนดให้ทั้ง ช่วงหน้า และ ช่วงหลัง ของกลอนในแต่ละวรรคมี ๔ คำ (ต่างกับกลบทสะบัดสะบิ้งที่มีแค่ช่วงหลัง)
๒.) ใน ๔ คำนั้นให้คำที่หนึ่งกับคำที่สามซ้ำกัน และ คำที่สองกับสี่ ให้มีการล้อสัมผัสอักษรกัน
๓.) คำสุดท้ายของช่วงกลาง สัมผัสสระกับ คำที่สองของช่วงหลัง ของกลอนในแต่ละวรรค
** กลบทนี้มีปรากฏที่มาเฉพาะตำรากลบท "จารึกวัดพระเชตุพนฯ"
-๐ กลบทที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ๐- • กลบท สะบัดสะบิ้ง คลิก
• กลบท อักขระโกศล คลิก ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ครับผม
...-๐ Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา) ๐-...

•
กลับสู่หน้าห้องเรียน กลอนกลบท คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน โคลงกลบท คลิก •
กระโดดสู่ห้องศึกษา ภาพโคลงกลบท คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน กาพย์ คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน กลอน คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน โคลง คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน ฉันท์ คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน ร่าย คลิก 