Username:

Password:


  • บ้านกลอนน้อยฯ
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล >> คำประพันธ์ แยกตามประเภท >> กลอน ร้อยกรองหลากลีลา >> สมุทรโฆษคำกลอน
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 8   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: สมุทรโฆษคำกลอน  (อ่าน 52814 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #60 เมื่อ: 18, กันยายน, 2561, 01:20:27 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน

-๖๒-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ เมื่อตัณหาขึ้นหน้าหมายได้เมียเขา
        หลงลืมตัวมัวเมากามวิสัย
        ใจมืดมนต้นเหตุแห่งเภทภัย
        คือเหตุใหญ่ฆ่ากันตายในโลกนี้

         ๏ อีกการหลงทะนงตนเหนือคนอื่น
        ย่ำเขาตรมขมขื่นสิ้นศักดิ์ศรี
        เมื่ออีกฝ่ายเขาไม่ยอมพร้อมราวี
        เกิดคดีชิงชัยในโลกา

        ๏ อีกโลภมากอยากได้ลาภหลายล้น
        ถึงจี้ปล้นล้างผลาญการเข่นฆ่า
        อยากมีคุณบุญหนักศักดินา
        แย่งยศถาเขตขัณฑ์กันทั่วไป

        ๏ ครานั้น “รณบุตร” ร้ายหมายอมิตร
        ทักแบบท้าว่า “ถือสิทธิ์เหนือไฉน
        เมื่อพบข้ามิคารวะจะหลีกไกล
        คงยังไม่รู้ฤทธาข้าดีพอ

       ๏ แม้นรักตัวกลัวตายอย่าได้ช้า
        มอบภรรยามาให้ค่อยไปต่อ
        มิเช่นนั้นพระขรรค์ข้าไม่รารอ
        จักเชือดคอเจ้าให้ขาดถึงฆาตพลัน”
[/size]


รายนามผู้เยี่ยมชม : ลมหนาว ในสายหมอก, กลอน123, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ฟองเมฆ, กอหญ้า กอยุ่ง, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, หญิงหนิง พราววลี, ลิตเติลเกิร์ล

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..

ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #61 เมื่อ: 18, กันยายน, 2561, 01:21:58 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๖๒-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ เมื่อตัณหาขึ้นหน้าหมายได้เมียเขา
        หลงลืมตัวมัวเมากามวิสัย
        ใจมืดมนต้นเหตุแห่งเภทภัย
        คือเหตุใหญ่ฆ่ากันตายในโลกนี้

         ๏ อีกการหลงทะนงตนเหนือคนอื่น
        ย่ำเขาตรมขมขื่นสิ้นศักดิ์ศรี
        เมื่ออีกฝ่ายเขาไม่ยอมพร้อมราวี
        เกิดคดีชิงชัยในโลกา

        ๏ อีกโลภมากอยากได้ลาภหลายล้น
        ถึงจี้ปล้นล้างผลาญการเข่นฆ่า
        อยากมีคุณบุญหนักศักดินา
        แย่งยศถาเขตขัณฑ์กันทั่วไป

        ๏ ครานั้น “รณบุตร” ร้ายหมายอมิตร
        ทักแบบท้าว่า “ถือสิทธิ์เหนือไฉน
        เมื่อพบข้ามิคารวะจะหลีกไกล
        คงยังไม่รู้ฤทธาข้าดีพอ

        ๏ แม้นรักตัวกลัวตายอย่าได้ช้า
        มอบภรรยามาให้ค่อยไปต่อ
        มิเช่นนั้นพระขรรค์ข้าไม่รารอ
        จักเชือดคอเจ้าให้ขาดถึงฆาตพลัน”


รายนามผู้เยี่ยมชม : ลมหนาว ในสายหมอก, กลอน123, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ฟองเมฆ, กอหญ้า กอยุ่ง, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, หญิงหนิง พราววลี, ลิตเติลเกิร์ล

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #62 เมื่อ: 18, กันยายน, 2561, 01:24:53 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
  
-๖๓-
ธนุ เสนสิงห์



            ๏ “รณาภิมุข” นั้นพลันตอบโต้
         “หยุดยโสเอ่ยย้ำคำเย้ยหยัน
          เราก็ศิษย์มีครูอยู่เหมือนกัน
          ชาติพันธุ์มิได้ต่างห่างวรรณวงศ์

          ๏ มาขอเมียเสียง่ายง่ายกระไรหนา
          หรือหลงผิดเลิศฤทธาพาเหลิงหลง
          จึงเหยียบย่ำหยามหยันกันโดยตรง
          แม้นตกลงปลงให้เหมือนไร้ใจ”
        
            ๏ “รณบุตร” หมายฉุดคร่ามิช้าอยู่
          เริ่มต่อสู้บนเวหาถลาใส่
          ตีฉะฉาดฟาดฟันตะบันไป
         “รณาภิมุข” ก็มิใช่ไร้ฝีมือ
    
           ๏ รับกันไว้ได้ถ้วนกระบวนท่า
          แต่ถอยล่าหาหลักรักษาชื่อ
          ป้องที่รักจากคนพาลใจมารยื้อ
          หนักอกคืออุ้มนางพลางณรงค์

          ๏ เสียกำลังทั้งมิคล่องการป้องปัด
          จักฟาดฟัดมิได้ดังตั้งประสงค์
          ต้องถอยล่าหาหลักพะวักพะวง
         “รณบุตร” เห็นจุดปลงคู่ประยุทธ์


รายนามผู้เยี่ยมชม : ลมหนาว ในสายหมอก, กลอน123, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ฟองเมฆ, กอหญ้า กอยุ่ง, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, หญิงหนิง พราววลี, ก้าง ปลาทู, ลิตเติลเกิร์ล

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #63 เมื่อ: 18, กันยายน, 2561, 01:27:36 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๖๔-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ ทะลวงฟันมั่นหมายกายคู่รบ
        ก็เลี่ยงหลบปัดป้องไปไม่สิ้นสุด
        กลับหมายฟันภรรยาบ้าประทุษ
        เยี่ยงมนุษย์ทั่วไปทำไม่ลง

          ๏ เลี่ยงก็ขัดปัดมิได้เอากายป้อง
        ด้วยรักน้องนิ่มนุชสุดใหลหลง
        จึงถูกคมพระขรรค์ฟันโดยตรง
        ร่วงสู่พงพับกับพื้นพสุธา

          ๏ แล้วศัตรูผู้เป็นปรปักษ์
       ชิงคนรักจากไกลไปซึ่งหน้า
        ทั้งเจ็บแค้นแสนทุกขเวทนา
        วอนวาจาพึ่งแม่พระธรณี

         ๏ พระบุตราครานั้นจรัลผ่าน
        เห็นเหตุการณ์ทั้งผองเศร้าหมองศรี
        ช่างใจดำทำได้ร้ายสิ้นดี
        คิดแย่งชู้คู่ชีวีบั่นชีวา

        ๏ เข้าโอบอุ้มอภิบาลดวงมานห่วง
        สั่งหมอหลวงทั้งหลายให้รักษา
        เลิศโอสถกำหนดหมายใช้เยียวยา
        หลายเพลาจึงฟื้นคืนพลัง


รายนามผู้เยี่ยมชม : ลมหนาว ในสายหมอก, กลอน123, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ฟองเมฆ, กอหญ้า กอยุ่ง, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, หญิงหนิง พราววลี, ก้าง ปลาทู, ลิตเติลเกิร์ล

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #64 เมื่อ: 19, กันยายน, 2561, 04:57:34 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๖๕-
ธนุ เสนสิงห์



            ๏ โอ้ “รณาภิมุข” ทุกข์เหลือที่
          ดวงฤดีพังภินท์สิ้นความหวัง
          ดุจกลางทรวงไร้ดวงแดแม้ชีพยัง
          แล้วจึงตั้งสติพินิจการณ์

          ๏ “ความสุขสันต์พลันสลายกลายเป็นเศร้า
          เพราะใจเรามีความหลงติดสงสาร
          หมายเชิดชูบูชาเมียที่จิตมาร
          พบคนพาลชิงสวาทเห็นธาตุแท้

          ๏ รักนารีผู้มีใจไม่คงมั่น
          ความผูกพันอันใดไม่แยแส
          ชอบเปลี่ยนชายมิหมายอยู่กับผู้แพ้
          เจ็บดวงแดกว่าแผลกายหลายเท่านัก”

          ๏ วอนวาทะ “สมุทรโฆษ โปรดฟังฉัน
          รับพระขรรค์อันมอบให้ใจแน่นหนัก
          แทนบุญคุณยิ่งใหญ่ด้วยใจภักดิ์
          และความรักท่านที่งามด้วยน้ำใจ

           ๏ เมื่อท่านถือพระขรรค์เทพสรรค์นี้
          เกิดฤทธีเดชาเหินฟ้าได้
          แม้นหมายจรนครเขตประเทศใด
          เหาะเหินไปตามถวิลจินตนา”


รายนามผู้เยี่ยมชม : รพีกาญจน์, น้ำหนาว, กร กรวิชญ์, หญิงหนิง พราววลี, ปลายฝน คนงาม, กลอน123, ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ, ก้าง ปลาทู, กอหญ้า กอยุ่ง, ลิตเติลเกิร์ล

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #65 เมื่อ: 19, กันยายน, 2561, 04:59:25 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน

-๖๖-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ พระบุตราว่าแย้งสำแดงนั้น
       “ของสำคัญมอบให้ไฉนหนา
        ควรเป็นของครองอยู่คู่กายา
        ในภายหน้าท่านต้องไว้ป้องตน”

        ๏ “รณาภิมุข” ว่า “ครานี้ไซร้
        ซึ้งฤทัยเมื่อตรองความตามเหตุผล
        รักและชังตั้งใจตัดขาดกมล
        หมายนักพรตกำหนดพ้นกามโลกีย์”

        ๏ “สมุทรโฆษ” ยังมีข้อต่อคำถาม
        “ฉงนความผันแปรไปไวเหลือที่
        ผู้มากในเสน่หายอดนารี
        ถึงยอมพลีร่างให้ป้องกายนาง”

        ๏ “เรารักหลงอนงค์นาฏอย่างมาดมั่น
        ก็รับกันโดยดีมิอางขนาง
        เมื่อตรองการณ์เป็นกรรมที่อำพราง
        ตาสว่างสิ้นเขลาเลิกเมาใจ

        ๏ อันฝีมือชื่อชั้นการต่อสู้
        มันเป็นผู้เหนือกว่าก็หาไม่
        มีภรรยาเป็นภาระช่างกระไร
        ความว่องไวปัดป้องมิคล่องตัว


รายนามผู้เยี่ยมชม : รพีกาญจน์, น้ำหนาว, กร กรวิชญ์, หญิงหนิง พราววลี, ปลายฝน คนงาม, กลอน123, ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ, ก้าง ปลาทู, กอหญ้า กอยุ่ง, ลิตเติลเกิร์ล

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #66 เมื่อ: 19, กันยายน, 2561, 05:01:26 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน

-๖๗-
ธนุ เสนสิงห์



           ๏ ซึ้งอุรานารีนี้ไฉน
          ดูท่าทีดีใจได้เปลี่ยนผัว
          แลดวงเนตรสังเกตได้ใฝ่พันพัว
          โดนชิงตัวไร้วาจากล่าวอาลัย

          ๏ เห็นผัวเอียงเพลี่ยงพล้ำจนย่ำแย่
          เมียถีบแพทิ้งเพื่อพึ่งเรือใหม่
          เสียแรงเราเอากายป้องต้องช้ำใน
          เหมือนเปลไกวใจแม่มิแน่นอน

          ๏ คล้ายฝูงสัตว์จตุบาทชาติกักขฬะ
          ผู้ชนะเป็นใหญ่แห่งไกรสร
          เมื่อแพ้พ่ายตัวเมียไม่อนาทร
          ร่วมสมจรคู่ใหม่ผู้ชัยชาญ”

          ๏ ครั้นจบคำร่ำลามิช้าอยู่
          จรลีปรี่สู่หมู่ไพรสาณฑ์
         “สมุทรโฆษ” มิอาจขัดหรือทัดทาน
          มอบดวงมานซึ้งจาคะเอกอดุลย์

           ๏ น้อมคำนับรับพระขรรค์อันสูงค่า
          คำนึงคิดกฤษฎามาเกื้อหนุน
          วาสนาชะตาดลด้วยผลบุญ
          รำลึกคุณแล้วลองเหินเดินเมฆี



รายนามผู้เยี่ยมชม : รพีกาญจน์, น้ำหนาว, กร กรวิชญ์, หญิงหนิง พราววลี, ปลายฝน คนงาม, กลอน123, ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ, ก้าง ปลาทู, กอหญ้า กอยุ่ง, ลิตเติลเกิร์ล

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #67 เมื่อ: 21, กันยายน, 2561, 04:01:52 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๖๘-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ เหาะเวหนวนรอบขอบพนัส
        วกฉวัดเฉวียนไปกลางไพรศรี
        แล้วกลับคืนยังพื้นธรณี
        แสนยินดีมีพระขรรค์เทพสรรค์มา

         ๏ อยากประพาสหิมพานต์อันลึกล้ำ
        เคยยินคำบอกเล่าเพียงเขาว่า
        อัศจรรย์พันลึกพฤกษ์พนา
        นานนักหนาหมายเที่ยวเล่นเย็นฤทัย

        ๏ ยิ่งได้ชวนนวลฉวีท่องชี้ชม
        คงสุขสมยิ่งนักจักหาไหน
        ขอเหินฟ้าถลาล่องท่องแดนไกล
        ชมพงไพรคล้ายวิหกผกนภา

        ๏ จึงชวน “พินทุมดี” ศรีสมร
        คเนจรชมมฤคพรรณพฤกษา
        เลิศวิไลในวนหิมวา
        พอปรีดาค่อยนิวัตรัฐบุรินทร์

        ๏ สองตกลงปลงจิตลิขิตสาส์น
        ทูลภูบาลลาเดินทางดั่งถวิล
        เล่าความหลังตั้งแต่มาจากธานินทร์
        หมดทั้งสิ้นจนพบพิทยาธร


รายนามผู้เยี่ยมชม : กลอน123, ลมหนาว ในสายหมอก, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, ฟองเมฆ, กร กรวิชญ์, ก้าง ปลาทู, กอหญ้า กอยุ่ง, ลิตเติลเกิร์ล

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #68 เมื่อ: 21, กันยายน, 2561, 04:03:52 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน

-๖๙-
ธนุ เสนสิงห์



           ๏ ให้พระขรรค์อันเรืองเดชวิเศษนัก
         สามารถจักเหินเมฆาถลาร่อน
         ขอทูลลาครานี้ไปไกลนคร
         ชมดงดอนค่อยคืนหลังยังเวียงชัย

         ๏ แล้วให้หมู่เสนามหาอำมาตย์
         ยุรยาตรคืนวังลำพังได้
         ทรงรับสั่ง “เราทั้งสองจักท่องไพร”
         ปวงข้าไททูลถวายพระพรลา

         ๏  สักพักหนึ่งดึงชายาเข้ามากอด
         พระกรสอดบั้นพระองค์มั่นคงท่า
         แล้วชูพระขรรค์ชัยโดยไม่ช้า
         ลอยล่องฟ้าลิ่วไปได้ดั่งจินต์

         ๏ ข้ามขุนเขาโขดเขินเนินพนัส
         ชมรกชัฏ โอฆะ กระแสสินธุ์
         ดั่งใจปองว่องไวไกลธานินทร์
         ลงสู่ดินหิมพานต์โอฬารอรัญ

         ๏ ชมบรรดาวารีที่สวยใส
         มองลงไปถึงท้องน้ำงามเฉิดฉัน
         น่าชื่นชูหมู่มัจฉานานาพันธุ์
         เห็นเวียนว่ายเล่นไล่กันล้วนเพลินแล



รายนามผู้เยี่ยมชม : กลอน123, ลมหนาว ในสายหมอก, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, ปลายฝน คนงาม, ฟองเมฆ, กร กรวิชญ์, ก้าง ปลาทู, กอหญ้า กอยุ่ง, ลิตเติลเกิร์ล

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #69 เมื่อ: 21, กันยายน, 2561, 04:06:02 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๗๐-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ ปลาเกต กา กริม กราย แน่นสายน้ำ
        ปลากดดำกบดานธารกระแส
        ปลากระทิง หลด ไหล ไน ตุ๊กแก
        ปลากระแห กระโห้ ชะโด  พลวง

        ๏ ปลาฉลาด เทพา ปลาเนื้ออ่อน
        ถูกปลาช่อนไล่ล่าน่าเป็นห่วง
        ปลาเค้า ดุก มัดมีสีด่างดวง
        บึกใหญ่กว่าปลาทั้งปวงไร้เทียมทัน

        ๏ ปลาซิว สร้อยลอยผิวน้ำตามเป็นฝูง
        หางนกยูง  ตะเพียนมากหลากสีสัน
        กริม ตะกรับ เทโพ  ม้า ปลานวลจันทร์
        อีกส่วนนั้นหลบเร้นในหมู่ใบบัง  

           ๏ แนวพนาป่าอุดมสมบูรณ์สัตว์
        สารพัด  แรด ช้าง กวาง ละมั่ง
        สิงโต เสือกินเนื้อผู้อยู่ลำพัง
        สัตว์ใหญ่น้อยคอยระวังเตลิดไกล

        ๏ พวกกินพืชสัมพันธ์กันใกล้ชิด
        มองเป็นมิตรรวมหมู่อยู่กันได้
        เหล่าลิง ค่าง บ่างโหนบนต้นไม้
        กระรอก กระแต ไก่ นางอาย ชะนี


รายนามผู้เยี่ยมชม : กลอน123, ลมหนาว ในสายหมอก, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, ปลายฝน คนงาม, นักเลงกลอน, ฟองเมฆ, กร กรวิชญ์, ก้าง ปลาทู, กอหญ้า กอยุ่ง, ลิตเติลเกิร์ล

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #70 เมื่อ: 22, กันยายน, 2561, 03:32:10 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๗๑-
ธนุ เสนสิงห์



           ๏ มากหลายหมู่อยู่อย่างมิตรไม่คิดล่า
         เก้ง ควายป่า ตัวนิ่มขด ชะมด หมี
         ตุ่น  กระต่าย  กระซู่ เม่น กูปรี
         อีกมากที่เร้นกายอยู่ไกลเกิน

          ๏ ยามชมไพรไปเจอทางก้าวย่างยาก  
         เมื่อลำบากย่างกรายใช้เหาะเหิน
         ลอยเวหาฟ้ากว้างพลางมองเพลิน
         ข้ามเขาเขินเนินผาสารพัน

           ๏ แล้วแวะลงสรงสระอโนดาต
         แลพิลาสละลานธารสวรรค์
         มากจงกล อุบล ปัทม์ สัตตบรรณ
         อัศจรรย์ปานดลด้วยมนตรา  

         ๏ น้ำสะอาดเย็นใสหนึ่งในโลก
         ท้องธารโบกดินและหินปิ่นคุณค่า
         โอบล้อมอยู่ด้วยยอดภูมหึมา
         อัศจรรย์ทั้งนั้นห้านคินทร

         ๏ แสงรพีคีรีป้องยากส่องถึง
         นับเป็นหนึ่งร่มรื่นนักน่าพักผ่อน
         นาคราช เทวินทร์ ยักษ์ กินนร
         ใช้สาครนี้ลงสรงกายา


รายนามผู้เยี่ยมชม : นักเลงกลอน, ฟองเมฆ, กร กรวิชญ์, ก้าง ปลาทู, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, กอหญ้า กอยุ่ง, ลมหนาว ในสายหมอก, ลิตเติลเกิร์ล

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #71 เมื่อ: 22, กันยายน, 2561, 03:39:56 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๗๒-
สมุทรโฆษคำกลอน



            ๏ จากนั้นสู่หมู่พนมชมทิวทัศน์
         แม้เหล่าสัตว์ร่วมพันธุ์พงศ์สืบวงศา
         แต่ต่างถิ่นดินแดนธรรมดา
         ดูแปลกตาสีสันแปรผันไป

          ๏ บริบทงดงามตามธรรมชาติ
         แปลกประหลาดแต่จริงและยิ่งใหญ่
         ทั้งพรรณพฤกษ์ มฤคา ผกาไพร
         ดูทางใดจำเริญเพลินอุรา

         ๏ บนเนินไพรมองได้เด่นเห็นถนัด
         สารพัด ม้า ช้างกลางทุ่งหญ้า
         เหล่าเก้ง กวาง ต่างพันธุ์กันนานา
         พวกที่เริงเหลิงนภาทิชากร

         ๏ กลางธารไหลเวียนว่ายอยู่หมู่มัศยา
         โพระดก กระโงก กาถลาร่อน
         ดูหลายหลากปักษาพนาดร
         กลุ่มจับปลากลางสาครบินว่อนวน

         ๏ พวกกินผลพฤกษาผลาหาร
         เกาะกิ่งก้านโยกย้ายอยู่ปลายต้น
         เป็นพ่อแม่คอยแลลูกวัยซุกซน
         คละปะปนพวกลิงค่างบ่างชะนี



รายนามผู้เยี่ยมชม : ฟองเมฆ, นักเลงกลอน, กร กรวิชญ์, ก้าง ปลาทู, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, กอหญ้า กอยุ่ง, ลมหนาว ในสายหมอก, ลิตเติลเกิร์ล

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #72 เมื่อ: 22, กันยายน, 2561, 03:43:59 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๗๓-
ธนุ เสนสิงห์



           ๏ แล้วดำเนินเหินลมชมบรรพต
          เหนือกำหนดยอดรายกลางไพรศรี
          บางปลายล่วงทะลวงไปในเมฆี
          เนินคีรีมีปราสาทราชวัง

          ๏ รู้ไกรลาสนิวาสสถานอันกว้างใหญ่
          การลงไปจนถึงมิพึงหวัง
          วงศ์กินนรแต่ก่อนผู้อยู่ลำพัง
          ถือศักดิ์ดังเทวัญอันเรืองไกร

           ๏ มิมีความสัมพันธ์กันมาก่อน
          เข้านครเหมือนล่วงล้ำหางามไม่
          พึงควรเพียงแต่ชมพนมไพร
          จึงตัดใจวนกลับหลังยังหิมวา

          ๏  ข้ามนิเวศเขตห้าร้อยสิงขร
          ศิขรินนคินทรซ้อนแนวผา
          ภูพนมบรรพตงดงามตา
          พบคูหาวิจิตรพิสดาร

          ๏ ผนัง เพดานมีมณีดาด
          พื้นปูลาดด้วยจินดามหาศาล
          ดั่งทิพย์ท้องพระโรงโล่งโอฬาร
          กลางสถานมีพระแท่นไพฑูรย์ทอง


รายนามผู้เยี่ยมชม : ฟองเมฆ, นักเลงกลอน, กร กรวิชญ์, ก้าง ปลาทู, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, กอหญ้า กอยุ่ง, ลมหนาว ในสายหมอก, ลิตเติลเกิร์ล

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #73 เมื่อ: 24, กันยายน, 2561, 04:12:22 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน

-๗๔-
สมุทรโฆษคำกลอน



         ๏ สองพระองค์ลงพักอิริยาบถ
        ลมโชยชื่นรื่นรสหมดจิตหมอง
        ทอดบรรทมชมเพดานอันรังรอง
        แล้วทั้งสองม่อยหลับประทับทรวง

        ๏ ครานั้นมีพิทยาธรตนหนึ่ง
        ผ่านมาถึงสถานอันใหญ่หลวง
        ไม่นานนักเคยพักนั่งเหมือนรังรวง  
        อยากจะทวงพระแท่นที่บรรทม

        ๏ แลเห็นพระขรรค์วางข้างหัตถา
        ริษยาจะยื้อแย่งแกล้งให้สม
        ลักพระขรรค์พลันเหินฟ้าด้วยอาคม
        ลอยตามลมจากไปมิใยดี

        ๏ “สมุทรโฆษ” ตื่นองค์ทรงไขว่คว้า
        ข้างกายาพระขรรค์ไม่อยู่ในที่
        ต้องลุกขึ้นตื่นฤทัยไห้โศกี
        เหมือนชีวีถูกทิ้งขว้างกลางพงไพร

        ๏ แม้นหวนคืนผืนดงเหมือนหลงป่า
        จักฟันฝ่าก้าวย่างหนทางไหน
        ต้องลำบากตรากตรำย่ำย่างไป
        พนาลีมากมีภัยสารพัด


รายนามผู้เยี่ยมชม : กอหญ้า กอยุ่ง, รพีกาญจน์, ฟองเมฆ, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, ลิตเติลเกิร์ล, น้ำหนาว

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
ธนุ เสนสิงห์
อาวุโส
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:15908
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 67
จำนวนกระทู้: 1445


| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #74 เมื่อ: 24, กันยายน, 2561, 04:14:47 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๗๕-
ธนุ เสนสิงห์



            ๏ เรามาไกลเกินกว่าหาทางกลับ
          แสนลึกลับครรลองล้วนข้องขัด
          สุดจะคิดจำทิศาพานิวัต
          ก้าวเลาะลัดดั้นด้นไปอย่างไรกัน

          ๏ ในครานั้น “นางพินทุมดี”
          เห็นพักตร์พระสวามีสีเปลี่ยนผัน
          จึงสอบถามความเป็นมาปัญหานั้น
          พระเผยคำจำนรรจ์ที่พรั่นพรึง

          ๏ “เราเหินฟ้ามาไกลไม่ยั้งคิด
          ลืมพินิจระยะทางย่างกลับถึง
          มีพระขรรค์พานเริงใจไม่คำนึง
          ฉะนั้นจึงเหาะมาห่างธานินทร์

          ๏ ยามสนิทนิทราในครานี้
          อาจเจ้าที่เขาป่ารักษาถิ่น
          เกิดขัดเคืองเรื่องใดไม่ซึ้งจินต์
          แท้มิหมิ่นทั้งปวงที่ล่วงล้ำ

         ๏ ชิงพระขรรค์อันเหมือนว่าพาหนะ
          เกิดภาวะชีวีที่ตกต่ำ
          ให้ระหกระเหินเดินตามกรรม
          คงชอกช้ำเกินจักรักษ์ชีวิน


รายนามผู้เยี่ยมชม : รพีกาญจน์, ฟองเมฆ, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, น้ำหนาว

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ธนุ เสนสิงห์"
..
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 8   ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.181 วินาที กับ 308 คำสั่ง
กำลังโหลด...