- พระอริยบุคคล : พระโสดาบัน -

- พระอริยบุคคล : พระโสดาบัน -
- บรรลุพระโสดานั้นฉันใด -

พระอริยะบุคคลองค์ต้นนั้น
“โสดาบัน” นามเพราะเสนาะหู
ละสังโยชน์สามข้อตามคำครู
เชิญตามดูกันว่าละอะไร

“สักกายทิฐิ”กิเลสต้น
ปุถุชนพะวงเฝ้าหลงใหล
ถือ“ตัวกูของกู”อยู่ร่ำไป
แท้มิใช่ตัวตนสัตว์คนเลย

“วิจิกิจฉา”ว่าพะวงวุ่นสงสัย
มิแน่ใจไตรรัตน์ขัดเฉลย
จริงมิจริงปลงใจไม่ลงเอย
เพราะไม่เคยบรรสบพบตัวตน

อีก“สีลัพพตปรามาส”
ไสยศาสตร์คุณเวทย์ไร้เหตุผล
ศักดิ์สิทธิ์ขลังสร้างเขลาเมามัวมน
ห่อนเห็นหนทางไปไกลเวรกรรม

กิเลสสามข้อนี้ที่ล่ามสัตว์
โซ่ร้อยรัดลากขังทั้งเช้าค่ำ
ผู้ปล่อยวางอัตตาไว้ไม่จดจำ
พร้อมกับทำจิตให้ไม่ลังเล

เชื่อไตรรัตน์ชัดแจ้งไม่แคลงจิต
เลิกยึดติดศีลพรตที่ปดเป๋
ถือศีลห้าอาจิณอยู่จำเจ
จักไม่เซพ้นพุทโธ “โสดาบัน”

   พระอริยะบุคคล คือบุคคลผู้ประเสริฐตามหลักพระพุทธศาสนา ท่านระบุไว้ว่ามี ๔ ลำดับ คือ

   ๑. พระโสดาบัน ^คลิก
   ๒. พระสกทาคามี ^คลิก
   ๓. พระอนาคามี ^คลิก
   ๔. พระอรหันต์ ^คลิก

แล้วยังแยกออกไปเป็น ๘ คือ ท่านเดิมนั้นเอง เป็น มรรค ๔ ผล ๔ รวมเป็น ๘
ท่านทั้ง ๔-๘ องค์นี้เป็นได้ด้วยการละกิเลสเครื่องผูกมัดสัตว์ ๑๐ ประการ ซึ่งเป็นกิเลสใหญ่สุด(สังโยชน์ ๑๐)

   พระโสดาบัน (โสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล) ซึ่งแปลว่าผู้เข้าถึงกระแสพระนิพพานนี้ ท่านต้องละกิเลสใหญ่เบื้องต้นได้ ๓ ข้อ คือ

   สักกายทิฏฐิ ละวางการยึดถึอว่าทุกสิ่งอย่างเป็น-มีตัวตน(ละตัวกูของกู)
   วิจิกิจจา ความลังเลสงสัยในพระรตนตรัย เชื่อในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เชื่อว่าคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าให้ผลแก่ผู้ปฏิบัติได้่จริง เชื่อพระสงฆ์สาวกพระพุทธเจ้าว่าเป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐ
   สีลัพพตปรามาส เลิกยึดมั่นถือมั่นในศีลพรต ไม่ถือว่าการประพฤติปฏิบัติบำเพ็ญศีลพรตจะทำให้พ้นทุกข์ได้ ไม่ยึดติดกับความขลังความศักดิ์ฤทธิ์ภูตผีปิศาจเทวดาฟ้าดินใด ๆ

   เมื่อละกิเลสสามข้อนี้ได้แล้ว ชื่อว่า บรรลุถึงพระโสดาบัน จะเกิดเป็นมนุษย์อีก ๑ ครั้งบ้าง เกิดในสวรรค์แล้วจุติอีก ๒ ครั้งบ้าง เกิดในสวรรค์แล้วจุติอีก ๗ ครั้งบ้าง แล้วสำเร็จอรหันต์นิพพานไปเลย

กลอนผมตั้งใจจะเขียนอธิบายให้ละเอียดอย่างนี้ แต่เขียนไม่ได้ครับ

เต็ม อภินันท์
ณ อาศรมลายสิอไท เมืองสุโขทัยธานี
๙ มิถุนายน ๒๕๖๐
ขอขอบคุณเจ้าของภาพในเน็ต

	ผู้เขียน	หัวข้อ: - พระอริยบุคคล : พระโสดาบัน - (อ่าน 3738 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้