Username:

Password:


  • บ้านกลอนน้อยฯ
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล >> คำประพันธ์ แยกตามประเภท >> กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม >> อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
หน้า: 1 2 3 [4]   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา  (อ่าน 4256 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:4567
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 646



| |
Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
« ตอบ #45 เมื่อ: 14, กรกฎาคม, 2568, 10:39:12 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา

(ต่อหน้า ๒๗/๓๐) ๒.ธัมมสังคณี

(๕)สญฺโญชนา เจว ธมฺมา สญฺโญชนสมฺปยุตฺตา จ ~ ธรรมเป็นสัญโญชน์และสัมปยุตด้วยสัญโญชน์
สญฺโญชนสมฺปยุตฺตา เจว ธมฺมา โน จ สญฺโญชนา  ~ ธรรมสัมปยุตด้วยสัญโญชน์ แต่ไม่เป็น สัญโญชน์
(๖)สัญโญชนวิปฺปยุตตา โข ปน ธมฺมา สโชนิยาปิ  ~ ธรรมวิปปยุตจากสัญโญชน์ แต่เป็น อารมณ์ของสัญโญชน์
สัญโญชนวิปฺปยุตฺตา โข ปน ธมฺมา อสโชนิยาปิ ~ ธรรมวิปปยุตจากสัญโญชน์ และไม่ เป็นอารมณ์ของสัญโญชน์
คันถะ=คันถะ คือ กิเลสเครื่องร้อยรัดมัดใจ ให้สัตว์ติดอยู่ในสังสารวัฏฏ์ เปรียบเหมือนโซ่ที่ผูกสัตว์ไว้ คันถะมี ๔ อย่าง                           
(๑)อภิชฌากายคันถะ - เครื่องรัดกายคืออภิชฌา ได้แก่ ความกำหนัด ความยินดี ความปรารถนา                     
(๒)พยาปาทกายคันถะ - เครื่องรัดกายคือพยาบาท เช่น อาฆาต                   
(๓)สีลัพพตปรามาสกายคันถะ - เครื่องรัดกายเช่นมีความเห็นว่า ความบริสุทธิ์ย่อมมีได้ด้วยศีล ด้วยพรต ในภายนอกศาสนา
(๔)อิทังสัจจาภินิเวสกายคันถะ - เครื่องรัดกายคือความเห็นว่าสิ่งนี้เป็นจริง เช่น เห็นว่า โลกเที่ยง นี้แหละจริง อย่างอื่นเปล่า, ว่าโลกไม่เที่ยง นี้แหละจริง อย่างอื่นเปล่า, ว่าโลกมีที่สุด นี้แหละจริง อย่างอื่นเปล่า
คันถโคจฉกะ=แม่บทว่าด้วยกลุ่มคันถะ(กิเลสเครื่องร้อยรัด) มี ๖ คู่ ได้แก่
(๑)คันถทุกะ=
ก) คนฺถา ธมฺมา ~ ธรรมเป็นคันถะ
ได้แก่ธรรมในคันถะทั้ง ๔
ข) โน คนฺถา ธมฺมา ~ ธรรมไม่เป็นคันถะ
คือ เวทนาขันธ์ ฯลฯวิญญาณขันธ์, รูปทั้งหมด และอสังขตธาตุ
(๒)คันถนิยทุกะ=
ก) คนฺถนิยา ธมฺมา ~ ธรรมเป็นอารมณ์ของคันถะ คือ
รูปขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์
ข) อคนฺถนิยา ธมฺมา ~ ธรรมไม่เป็นอารมณ์ของคันถะ คือ
มรรค และผลของมรรคที่เป็นโลกุตระ และอสังขตธาตุ
(๓)คันถสัมปยุตตทุกะ = คือ
ก) คนฺถสมฺปยุตฺตา ธมฺมา  ~ ธรรมสัมปยุตด้วยคันถะ
คือ เวทนาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์
ข) คนฺถวิปฺปยุตฺตา ธมฺมา ~ธรรมวิปปยุตตจากคันถะ คือ
มรรค และผลของมรรคที่เป็นโลกุตระ และอสังขตธาตุ
(๔)คันถคันถนิยทุกะ =
ก) คนฺถา เจว ธมฺมา คนฺถนิยาจ ~ ธรรมเป็นคันถะและเป็นอารมณ์ของคันถะ
คันถธรรมเหล่านั้นนั่นเอง ชื่อว่า ธรรมเป็นคันถะและเป็นอารมณ์ของคันถะ.
ข) คนฺถนิยา เจวธมฺมา โน จ คนฺถา ~ ธรรมเป็นอารมณ์ของคันถะ แต่ไม่เป็นคันถะ
ได้แก่ขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์
(๕)คันถคันถสัมปยุตตทุกะ =
ก) คนฺถา เจว ธมฺมา คนฺถสมฺปยุตฺตาจ ~ ธรรมเป็นคันถะและสัมปยุตด้วยคันถะ คือ
□ สีลัพพตปรามาสกายคันถะ เป็นคันถะ และสัมปยุตด้วยคันถะ โดย อภิชฌากายคันถะ
□ อภิชฌากายคันถะเป็นคันถะ และสัมประยุตด้วยคันถะโดยสีลัพพตปรามาสกายคันถะ
□ อิทังสัจจาภินิเวสกายคันถะ เป็นคันถะ และสัมปยุตด้วยคันถะโดยอภิชฌากายคันถะ
□ อภิชฌากายคันถะเป็นคันถะ และสัมประยุตด้วยคันถะโดย อิทังสัจจาภินิเวสกายคันถะ
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นคันถะและสัมปยุตด้วยคันถะ.
ข) คนฺถสมฺปยุตฺตา เจว ธมฺมา โน จ คนฺถา ~ ธรรมสัมปยุตด้วยคันถะ แต่ไม่เป็น คันถะ
ธรรมเหล่าใด สัมปยุตด้วยคันถธรรมเหล่านั้น เว้นคันถธรรมเหล่านั้นเสีย คือ เวทนาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์ สภาวธรรมเหล่านั้นชื่อว่า ธรรมสัมปยุตด้วยคันถะแต่ไม่เป็นคันถะ
(๖) คันถวิปปยุตตคันถนิยทุกะ =
ก) คนฺถวิปฺปยุตฺตา โข ปน ธมฺมา คนฺถนิยาปิ ~ ธรรมวิปปยุตจากคันถะ แต่เป็นอารมณ์ของคันถะ คือ
ธรรมเหล่าใด วิปปยุตจากคันถธรรมเหล่านั้น คือกุศลธรรม, อกุศลธรรม, อัพยากตธรรม ประเภทที่ยังมีอาสวะ ซึ่งเป็นกามาวจร, รูปาวจร, อรูปวจร ได้แก่ รูปขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรม
วิปปยุตจากคันถะแต่เป็นอารมณ์ของคันถะ
ข) คนฺถวิปฺปยุตฺตา โข ปน ธมฺมา อคนฺถนิยาปิ ~ ธรรมวิปปยุตจากคันถะ และไม่เป็นอารมณ์ของคันถะ คือ
มรรคและผลของมรรคที่เป็นโลกุตระ และอสังขตธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมวิปปยุตจากคันถะและไม่เป็นอารมณ์ของคันถะ


รายนามผู้เยี่ยมชม : ต้นฝ้าย, หยาดฟ้า, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ลิตเติลเกิร์ล, ข้าวหอม

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..

แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:4567
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 646



| |
Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
« ตอบ #46 เมื่อ: 14, กรกฎาคม, 2568, 03:43:15 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา

(ต่อหน้า ๒๘/๓๐) ๒.ธัมมสังคณี

โอฆะ =คือ อ่าว หรือ ห้วงน้ำ เป็นห้วงน้ำที่ไหลวน มีลักษณะที่ดูดสัตว์ให้จมลงสู่ที่ต่ำ คือ จมอยู่ระหว่าง อบายภูมิ ถึง พรหมภูมิจนกว่าจะแหวกว่ายขึ้นมา ไปถึง โคตรภูญาณ โอฆะ มี ๔ อย่าง
(๑) กาโมฆะ - คือ ห้วงแห่งกามซึ่งพาหมู่สัตว์ให้จมอยู่ใน กามคุณทั้ง ๕ องค์ธรรม คือ โลภเจตสิก ในโลภมูลจิต ๘
(๒) ภโวฆะ (ภพ-โอฆะ) คือ ห้วงแห่งภพซึ่งพาหมู่สัตว์ให้จมอยู่ ในความยินดี อยากได้ถึง รูปภพ หรือ อรูปภพ
(๓) ทิฎโฐฆะ (ทิฏฐิ-โอฆะ) คือ ห้วงแห่งความเห็นผิดซึ่งพาหมู่สัตว์ให้จมอยู่ ในความเห็นผิด จากความเป็นจริง ของสภาวธรรม
(๔) อวิชโชฆะ (อวิชชา-โอฆะ) คือ ห้วงแห่งความหลงซึ่งพาหมู่สัตว์ให้ลุ่มหลง และจมอยู่ในความไม่รู้,ไม่รู้เหตุและ ผล ตามความเป็นจริง จึงมีความ โลภ โกรธ หลง
โคตรภูฯ=โคตรภูญาณ (ญาณครอบโคตร) คือ ปัญญาที่อยู่ในลำดับจะถึงอริยมรรค หรืออยู่ในหัวต่อที่จะข้ามพ้นภาวะปุถุชนขึ้นสู่ภาวะเป็นอริยะ
อบายภูมิ ๔= คือ นรก, เปรต, อสุรกาย และ สัตว์เดียรฉาน
โอฆโคจฉกะ = แม่บทกลุ่มโอฆะ คือ กิเลสเครื่องทำให้สัตว์จมลงในวัฏฏะ คือความเวียนว่านตายเกิด มี ๖ พวก คือ
(๑) โอฆทุกะ
ก) โอฆา ธมฺมา ~ ธรรมเป็นโอฆะ
ข) โน โอฆา ธมฺมา ~ ธรรมไม่เป็นโอฆะ
(๒) โอฆนิยทุกะ
ก) โอฆนิยา ธมฺมา ~ ธรรมเป็นอารมณ์ของโอฆะ
ข) อโนฆนิยา ธมฺมา  ~ ธรรมไม่เป็นอารมณ์ของโอฆะ
(๓) โอฆสัมปยุตตทุกะ
ก) โอฆสมฺปยุตฺตา ธมฺมา ~ ธรรมสัมปยุตด้วยโอฆะ
ข) โอฆวิปฺปยุตฺตา ธมฺมา ~ ธรรมวิปปยุตจากโอฆะ
(๔) โอฆโอฆนิยทุกะ
ก) โอฆา เจว ธมฺมา โอฆนิยา จ ~ ธรรมเป็นโอฆะและเป็นอารมณ์ของโอฆะ
ข) โอฆนิยา เจว ธมฺมา โน จ โอฆา ~ ธรรมเป็นอารมณ์ของโอฆะแต่ไม่เป็นโอฆะ
(๕) โอฆโอฆสัมปยุตตทุกะ
ก) โอฆา เจว ธมฺมา โอฆสมฺปยุตฺตา จ ~ ธรรมเป็นโอฆะ และสัมปยุตด้วยโอฆะ
ข) โอฆสมฺปยุตฺตา เจว ธมฺมา โน จ โอฆา ~ ธรรมสัมปยุตด้วยโอฆะ แต่ไม่เป็นโอฆะ
(๖) โอฆวิปปยุตตโอฆนิยทุกะ
ก) โอฆวิปฺปยุตฺตา โน ปน ธมฺมา โอฆนิยาปิ ~ ธรรมวิปปยุตจากโอฆะ แต่เป็นอารมณ์ของโอฆะ
ข) โอฆวิปฺปยุตฺตา โข ปน ธมฺมา อโนฆนิยาปิ ~ ธรรมวิปปยุตจากโอฆะ และไม่เป็นอารมณ์ของโอฆะ
โยคะ=คือ กิเลส
โยคโคจฉกะ= แม่บทกลุ่มโยคะ คือ กิเลสเครื่องประกอบหรือผูกสัตว์ไว้ในวัฏฏะ มี ๖ ทุกะ ดังนี้
(๑) โยคทุกะ =กิเลส เป็นคู่ คือ
ก) โยคา ธมฺมา ~ ธรรมเป็นโยคะ
ข) โน โยคา ธมฺมา ~ ธรรมไม่เป็นโยคะ
(๒) โยคนิยทุกะ
ก) โยคนิยา ธมฺมา ~ธรรมเป็นอารมณ์ของโยคะ
ข) อโยคนิยา ธมฺมา ~ ธรรมไม่เป็นอารมณ์ของโยคะ
(๓) โยคสัมปยุตตทุกะ
ก) โยคสมฺปยุตฺตา ธมฺมา ~ ธรรมสัมปยุตด้วยโยคะ
ข) โยควิปฺปยุตฺตา ธมฺมา ~ ธรรมวิปปยุตจากโยคะ
(๔) โยคโยคนิยทุกะ
ก) โยคา เจว ธมฺมา โยคนิยา จ ~ ธรรมเป็นโยคะ และเป็นอารมณ์ของโยคะ
ข) โยคนิยา เจว ธมฺมา โน จ โยคา ~ ธรรมเป็นอารมณ์ของโยคะแต่ไม่เป็นโยคะ
(๕) โยคโยคสัมปยุตตทุกะ
ก) โยคา เจว ธมฺมา โยคสมฺปสยุตฺตา จ ~ ธรรมเป็นโยคะและสัมปยุตด้วยโยคะ
ข) โยคสมฺปยุตฺตา เจว ธมฺมา โน จ โยคา ~ ธรรมสัมปยุตด้วยโยคะแต่ไม่เป็นโยคะ
(๖) โยควิปปยุตตโยคนิยทุกะ
ก) โยควิปฺปยุตฺตา โข ปน ธมฺมา โยคนิยาปิ ~ ธรรมวิปปยุตจากโยคะ แต่เป็นอารมณ์ของโยคะ
ข) โยควิปฺปยุตฺตา โข ปน ธมฺมา อโยคนิยาปิ ~ ธรรมวิปปยุตจากโยคะ และไม่เป็นอารมณ์ของโยคะ
นิวรณ์ ๖= คือ กิเลสที่ปิดกั้นใจไม่ให้บรรลุความดี ไม่ให้ก้าวหน้าในการเจริญภาวนา นิวรณ์มี ๖ ประการ คือ
(๑) กามฉันทนิวรณ์ คือ
ความพอใจคือความใคร่, ความกำหนัดคือความใคร่ ในกามทั้งหลาย


รายนามผู้เยี่ยมชม : ต้นฝ้าย, หยาดฟ้า, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ลิตเติลเกิร์ล, ข้าวหอม

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:4567
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 646



| |
Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
« ตอบ #47 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 10:41:13 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา

(ต่อหน้า ๒๙/๓๐) ๒.ธัมมสังคณี

(๒) พยาปาทนิวรณ์ คือ ความอาฆาต
 (๓) ถีนมิทธนิวรณ์ คือ
ถีนมิทธะนั้น แยกเป็นถีนะอย่างหนึ่ง มิทธะอย่างหนึ่ง.
(๓.๑) ถีนะ คือ ความไม่สมประกอบแห่งจิต  ความไม่ควรแก่การงานแห่งจิต, ความท้อแท้, ความหดหู่
(๓.๒) มิทธะ คือความไม่สมประกอบแห่งนามกาย, ความไม่ควรแก่งานแห่งนามกาย, ความความง่วงเหงา
(๔)อุทธัจจกุกกุจจนิวรณ์ คือ อุทธัจจกุกกุจจะนั้น แยกเป็นอุทธัจจะอย่างหนึ่ง กุกกุจจะอย่างหนึ่ง
(๔.๑) อุทธัจจะ คือ ความฟุ้งซ่านแห่งจิต, ความไม่สงบแห่งจิต
(๔.๒) กุกกุจจะ คือ ความสำคัญว่าควรในของที่ไม่ควร, ความสำคัญว่าไม่ควรในของที่ควร, ความสำคัญว่ามีโทษในของที่ไม่มีโทษ, ความสำคัญว่าไม่มีโทษในของที่มีโทษ, ความเดือดร้อนใจ
(๕) วิจิกิจฉานิวรณ์ คือ ปุถุชนเคลือบแคลสงสัยในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆ์ ในสิกขา,ในปฏิจจสมุปปาทธรรม
(๖) อวิชชานิวรณ์ คือ ความไม่รู้ในทุกข์, ความไม่รู้ในทุกขสมุทัย, ความไม่รู้ในทุกขนิโรธ, ความไม่รู้ในทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา, ความไม่รู้ในปฏิจจสมุปปาทธรรม
อสังขตธาตุ =สภาวธรรมนี้ชื่อว่า ธรรมที่เห็นไม่ได้ กระทบไม่ได้ ไม่เป็นรูป เป็นโลกุตตระ เป็นเหตุให้ไม่จุติ ปฏิสนธิ ฟและเป็นเหตุให้ถึงนิพพาน
โลกุตตระ = พ้นโลก อยู่เหนือวิสัยของโลก หรืออุตรภาพ เป็นคำที่ใช้คู่กับ โลกิยะ ซึ่งแปลว่า ยังเกี่ยวข้องกับโลก เรื่องของโลก โลกุตระ หมายถึงภาวะที่หลุดพ้นแล้วจากโลกิยะ ไม่เกี่ยวข้องกับกาม ตัณหา ทิฏฐิ อวิชชาอีกต่อไป ได้แก่ธรรม ๙ ประการซึ่งเรียกว่า นวโลกุตรธรรม หรือ โลกุตรธรรม ๙ได้แก่
อริยมรรค ๔ =คือ โสดาปัตติมรรค, สกิทาคามิมรรค, อนาคามิมรรค, อรหัตมรรค
อริยผล ๔ = คือ โสดาปัตติผล, สกิทาคามิผล, อนาคามิผล, อรหัตผล
และ นิพพาน ๑
นีวรณโคจฉกะ= กิเลสเครื่องกั้นจิตรัดรึงจิต มี ๖ ทุกะ ได้แก่
(๑) นีวรณทุกะ
ก) นีวรณา ธมฺมา ~ ธรรมเป็นนิวรณ์
คือธรรมที่เป็น นิวรณธรรม ๖
ข) โน นีวรณา ธมฺมา ~ ธรรมไม่เป็นนิวรณ์
คือ เวทนาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์, รูปทั้งหมด และอสังขตธาตุ
(๒) นีวรณิยทุกะ
ก) นีวรณิยา ธมฺมา ~ ธรรมเป็นอารมณ์ของนิวรณ์
ได้แก่ รูปขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์
ข) อนีวรณิยา ธมฺมา ~ ธรรมไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์
ได้แก่ มรรคและผลของมรรคที่เป็นโลกุตตระ, และอสังขตธาตุ
(๓) นีวรณสัมปยุตตทุกะ
ก) นีวรณสมฺปยุตฺตา ธมฺมา ~ ธรรมสัมปยุตด้วยนิวรณ์
คือ เวทนาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์
ข) นีวรณวิปฺปยุตฺตา ธมฺมา  ~ ธรรมวิปปยุตจากนิวรณ์
คือ เวทนาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์, รูปทั้งหมด และอสังขตธาตุ
(๔) นีวรณนีวรณิยทุกะ
ก) นีวรณา เจว ธมฺมา นีวรณิยา จ ~ ธรรมเป็นนิวรณ์ และเป็นอารมณ์ของนิวรณ์
คือ นิวรณ์เหล่านั้นนั่นเอง ชื่อว่าธรรมเป็นนิวรณ์และเป็นอารมณ์ของนิวรณ์.         
ข) นีวรณิยา เจว ธมฺมา โน จ นีวรณา ~ ธรรมเป็นอารมณ์ของนิวรณ์แต่ไม่เป็นนิวรณ์
ได้แก่ รูปขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์
(๕) นีวรณนีวรณสัมปยุตตทุกะ
ก) นีวรณา เจว ธมฺมา นีวรณสมฺปยุตฺตา จ ~ ธรรมเป็นนิวรณ์และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ เช่น
□ กามฉันทนิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยอวิชชานิวรณ์,
□ อวิชชานิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยกามฉันทนิวรณ์
□ พยาปาทนิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยอวิชชานิวรณ์
□ อวิชชานิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยพยาปาทนิวรณ์
□ ถีนมิทธนิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยอวิชชานิวรณ์
□ อวิชชานิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยถีนมิทธนิวรณ์
□ อุทธัจจนิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยอวิชชานิวรณ์
□ อวิชชานิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยอุทธัจจนิวรณ์
□ กุกกุจจนิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยอวิชชานิวรณ์
□ อวิชชานิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยกุกกุจจนิวรณ์
□ วิจิกิจฉานิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยอวิชชานิวรณ์
□ อวิชชานิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยวิจิกิจฉานิวรณ์


รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ข้าวหอม, หยาดฟ้า

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
แสงประภัสสร
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:4567
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 1076
จำนวนกระทู้: 646



| |
Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา
« ตอบ #48 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 07:12:51 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: อภิธรรมปิฎก : ๑.พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ~ กาพย์ทัณฑิกา

(ต่อหน้า ๓๐/๓๐) ๒.ธัมมสังคณี

□ กามฉันทนิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยอุทธัจจนิวรณ์
□ อุทธัจจนิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยกามฉันทนิวรณ์
□ พยาปาทนิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยอุทธัจจนิวรณ์
□ อุทธัจจนิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยพยาปาทนิวรณ์
□ ถีนมิทธนิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยอุทธัจจนิวรณ์
□ อุทัจจนิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยถีนมิทธนิวรณ์
□ กุกกุจจนิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยอุทธัจจนิวรณ์
□ อุทธัจจนิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยกุกกุจจนิวรณ์
□ วิจิกิจฉานิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยอุทธัจจนิวรณ์
□ อุทธัจจนิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยวิจิกิจฉานิวรณ์
□ อวิชชานิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยอุทธัจจนิวรณ์
□ อุทธัจจนิวรณ์ เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ โดยอวิชชานิวรณ์
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นนิวรณ์และสัมปยุตด้วยนิวรณ์.           
ข) นีวรณสมฺปยุตฺตา เจว ธมฺมา โน จ นีวรณา ธรรมสัมปยุตด้วยนิวรณ์ แต่ไม่เป็น นิวรณ์
คือเวทนาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์
(๖) นีวรณวิปปยุตตนีวรณิยทุกะ
ก) นีวรณวิปฺปยุตฺตา โข ปน ธมฺมา นีวรณิยาปิ ~ ธรรมวิปปยุตจากนิวรณ์แต่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์
ได้แก่ รูปขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์           
ข) นีวรณวิปฺปยุตฺตา โข ปน ธมฺมา อนีวรณิยาปิ ~ ธรรมวิปปยุตจากนิวรณ์ และไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ คือ
มรรคและผลของมรรคที่เป็นโลกุตตระ และอสังขตธาตุ
ทิฏฐิ = คือความเห็น, ความเข้าใจ, ความเชื่อถือ, ทั้งนี้มักมีคําขยายนําหน้า เช่น สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ) มิจฉาทิฏฐิ (ความเห็นผิด) แต่ถ้า ทิฏฐิ มาคําเดียวโดดมักมีนัยไม่ดีหมายถึง ความยึดถือตามความเห็น, ความถือมั่นที่จะให้เป็นไปตามความเชื่อถือหรือความเห็นของตน  ความเห็นผิด มี ๒ ได้แก่
(๑) สัสสตทิฏฐิ - ความเห็นว่าเที่ยง
(๒) อุจเฉททิฏฐิ - ความเห็นว่าขาดสูญ;
อีกหมวดหนึ่ง มี ๓ คือ
(๑) อกิริยทิฏฐิ - ความเห็นว่าไม่เป็นอันทํา
(๒) อเหตุกทิฏฐิ - ความเห็นว่าไม่มีเหตุ
(๓) นัตถิกทิฏฐิ - ความเห็นว่าไม่มี คือถืออะไรเป็นหลักไม่ได้ เช่นว่า มารดาบิดาไม่มี
ปรามาสโคจฉกะ= แม่บทว่าด้วยกลุ่มปรามาส คือ กิเลสในทางที่ผิดจากความจริง มี ๕ คู่ ได้แก่
(๑) ปรามาสทุกะ
ก) ปรามาสา ธมฺมา ~ ธรรมเป็นปรามาสะ (ทิฏฐิ)
มีทิฏฐิปรามาสะ ความเห็นว่า โลกเที่ยงก็ดี, ว่าโลกไม่เที่ยงก็ดี, ว่าโลกมีที่สุดก็ดี, ว่าโลกไม่มีที่สุดก็ดี
ข) โน ปรามาสา ธมฺมา ธรรมไม่เป็นปรามาส
คือ เวทนาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์, รูปทั้งหมด และอสังขตธาตุ
(๒) ปรามัฏฐทุกะ
ก) ปรามฏฺฐา ธมฺมา ~ ธรรมเป็นอารมณ์ของปรามาสะ
คือ รูปขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์
ข) อปรามฏฺฐา ธมฺมา ~ ธรรมไม่เป็นอารมณ์ของปรามาสะ
คือ มรรค และผลของมรรคที่เป็นโลกุตระ และอสังขตธาตุ
(๓) ปรามาสสัมปยุตตทุกะ
ก) ปรามาสสมฺปยุตฺตา ธมฺมา ~ ธรรมสัมปยุตด้วยปรามาสะ
ธรรมเหล่าใด สัมปยุตด้วยปรามาสธรรมเหล่านั้น
คือ เวทนาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์
ข) ปรามาสวิปฺปยุตฺตา ธมฺมา ~ ธรรมวิปปยุตจากปรามาสะ
คือ เวทนาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์, รูปทั้งหมด และอสังขตธาตุ
(๔) ปรามาสปรามัฏฐทุกะ
ก) ปรามาสา เจว ธมฺมา ปรามฏฺฐา จ ~ ธรรมเป็นปรามาสะและเป็นอารมณ์ของปรามาสะ
ปรามาสะนั้นนั่นแล ชื่อว่าธรรมเป็นปรามาสะ และเป็นอารมณ์ของปรามาสะ
ข) ปรามฏฺฐา เจว ธมฺมา โน จ ปรามาสา ~ ธรรมเป็นอารมณ์ของปรามาสะ แต่ไม่เป็นปรามาสะ
ได้แก่ รูปขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์
(๕) ปรามาสวิปปยุตตปรามัฏฐทุกะ
ก) ปรามาสวิปฺปยุตฺตา โข ปน ธมฺมา ปรามฏฺฐาปิ ~ ธรรมวิปปยุตตจากปรามาสะแต่เป็นอารมณ์ของปรามาสะ
ได้แก่รูปขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์
ข) ปรามาสวิปฺปยุตฺตา โข ปน ธมฺมา อปราฏฺฐาปิ ~ ธรรมวิปปยุตจากปรามาสะและไม่เป็นอารมณ์ของปรามาสะ
ได้แก่ รูปขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์


รายนามผู้เยี่ยมชม : หยาดฟ้า, ลิตเติลเกิร์ล, ข้าวหอม, ขวัญฤทัย (กุ้งนา)

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "แสงประภัสสร"
..
หน้า: 1 2 3 [4]   ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.419 วินาที กับ 56 คำสั่ง
กำลังโหลด...