Username:

Password:


  • บ้านกลอนน้อยฯ
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล >> คำประพันธ์ แยกตามประเภท >> ห้องนั่งเล่นพักผ่อน >> ว่ากันไปตามเพลง
หน้า: [1] 2 3   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ว่ากันไปตามเพลง  (อ่าน 31448 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5736
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463


100+20=120


| |
ว่ากันไปตามเพลง
« เมื่อ: 11, ตุลาคม, 2560, 03:03:24 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: ว่ากันไปตามเพลง





เพลง  รักอันตราย


ว่าอันที่จริง เพลงนี้ออกมานานมากแล้ว   ตั้งแต่สมัยที่ผมยังเด็กๆ
เพียงแต่ตอนนั้น รู้สึกไม่ค่อยสนใจ  ฟังครั้งแรก เป็นเวอร์ชั่นของพี่เป้า สายัณห์ สัญญา ขับร้อง
แต่ฟังแล้วรู้สึกเฉยๆ  ไม่ชอบ  จนกระทั่งได้มาฟังเวอร์ชั่น ที่ร้องโดย ขวัญชัย  เพชรร้อยเอ็ด ขับร้อง
จึงได้รู้สึกว่า เพลงนี้เป็น้พลงที่ไพเราะมาก  อาจารย์ ก้อง กาจกำแหง  เป็นผู้แต่ง


เนื้อเพลง  รักอันตราย(แบบเดิมๆ)
แต่งโดย  อาจารย์ ก้อง  กาจกำแหง
ขับร้องโดย ขวัญชัย  เพชรร้อยเอ็ด

เสียดายนาง  พี่จนน้องห่าง  รักจางจากจร
ถึงพี่มาก่อน  ยังถูกเขาถอน  ละต้นรักจากไกล
ลืมพี่ได้ลง  วาสนาไม่ส่ง  เสียแล้วดวงใจ

เสียดายปราง  ก่อนเคยแนบข้าง  เดี๋ยวนี้เขาไกล
น้องรักไม่แน่  พอเจอเถ้าแก่    ก็แปรเปลี่ยนไป
ลืมไอ้หนุ่มบ้านนา  ที่เคยสัญญา ว่าจะรักจนตาย

ลืมลืมง่ายง่าย  ใจหญิงกับชาย  ใครลืมง่ายกว่ากัน
จากกันเพียงสามวัน  โบราณว่านั้น  นั่นจริงแค่ไหน
น้องไยลืมพี่   พึ่งรู้เดี๋ยวนี้  ว่ารักจะมีอันตราย

ขอพอที  ความรักของพี่   ไม่มีความหมาย
ถึงพี่จน   ก็รักหน้ามน  นั้นด้วยหัวใจ
ขออยู่อย่างชาย  ที่ไร้ดวงใจ  ไร้คนเมตตา



ข้อพิจารณาของเนื้อเพลง

เนื้อเพลงนี้ แบ่งเป็นสี่ท่อนๆหนึ่งมีสามวรรค  ฉันทลักษณะ  ไม่ใช่แบบกลอนที่นิยมแต่งกันทั่วไป
แต่จะไปคล้ายกับพวกกลอนหัวเดียว
เนื้อร้องตรงท่อนที่สามนั้นจะแปลกกว่าท่อนอื่นๆหน่อย ตรงที่ จะเอาทำนองวรรคที่สามมาสลับไว้ในวรรคที่สอง
และเอาทำนองของวรรคที่สองมาไว้วรรคที่สาม  ก็เลยทำให้ให้ท่อนที่สามนี้กลายเป็นท่อนแยก
มีทำนองต่างกับท่อนอื่นๆนิดนึง
แต่ในเวอร์ชั่น ที่มีการไปแก้ไขเนื้อร้องเดิมออกไปนั้น ทำให้ทำนองเพี้ยนไป จนเพลงด้อยความไพเราะลงไปอย่างมาก(แต่ผมไม่บอกหรอกว่า นักร้องคนไหน ที่มีการไปแก้เนื้อเพลงของเขา
จนทำให้เพลงด้อยความไพเราะลง)

สรูปแล้ว เนื้อร้องกับทำนองเดิมๆ ตามแบบที่อาจารย์เขาแต่งไว้ มีความไพเราะกว่า และทำให้เพลงนี้ทมีความไพเราะถึงที่สุด




ขอบคุณ คลิปเพลง จากทางยูทูป






รายนามผู้เยี่ยมชม : เส้นชีวิต ดำเนินไป, กร กรวิชญ์, ลิตเติลเกิร์ล, ฟองเมฆ, หญิงหนิง พราววลี, กอหญ้า กอยุ่ง, Black Sword, ลมหนาว ในสายหมอก, รพีกาญจน์, ปลายฝน คนงาม, ก้าง ปลาทู, กรกช, ปิ่นมุก, ชลนา ทิชากร, น้ำหนาว, ธมกรก, Thammada, Mr.music, เนิน จำราย, ลายเมฆ

บันทึกการเข้า

"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง
ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม
เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม
หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป"

สริญ  สิริรัฐ :068:

นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5736
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463


100+20=120


| |
Re: ว่ากันไปตามเพลง
« ตอบ #1 เมื่อ: 09, พฤษภาคม, 2561, 11:54:49 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: ว่ากันไปตามเพลง



เพลง ฉันทนาที่รัก

ถ้าพูดถึงยุคสมัยสักปี 2520 เชื่อว่าทุกคนที่ชอบฟังเพลง ไม่มีใครไม่รุ้จักเพลงนี้
และเพลงนี้นั่นเองที่เป็นเหตุให้บรรดาสาวๆโรงงานทั้งหลายต้องได้นามว่า"ฉันทนา"

เนื้อเพลง  ฉันทนาที่รัก
ขับร้องโดย รักชาติ ศิริชัย

ปิดไฟใส่กลอน  จะเข้ามุ้งนอน  คิดถึงใบหน้า
นั่งเขียนจดหมาย  แล้วรีบทิ้งไป  โรงงานทอผ้า
ถึงคนชื่อฉันทนา  ที่เคยสบตา  กันเป็นประจำ

ลายมือไม่ดี   ต้องขอโทษที   เพราะความรู้ต่ำ
หากคำพูดใด   ไม่ถูกหัวใจ    หรือไม่ชื่นฉ่ำ
ขอจงยกโทษถ้อยคำ  ที่ผมเพลี่ยงพล้ำ  บอกรักคุณมา

หากผิดพลังไป  อภัยเถิดฉันทนา
ผมคนบ้านป่า   ถ้อยวาจาไม่หวานกินใจ

ภาพถ่ายลายเซ็น   ผมส่งให้เป็น  ของขวัญปีใหม่
หากคุณเกลียด  ก็อ่าด้านหลัง  แล้วโยนทิ้งได้
หรือเอาไปฉีกเผาไฟ  อย่าเก็บเอาไว้  ให้มันบาดตา

หากคุณการุณ   ก็ส่งรูปคุณ  ให้ดูแทนหน้า
ช่วยเซ็นรูปไป   ว่ามอบด้วยใจ  สาวโรงทอผ้า
ผมจะเอาไว้บูชา  มอบความศรัทธา รักจนวายปราณ

จะปักหัวใจ   หัวใจรักคุณนานนาน
รักสาวโรงงาน   สาวโรงงานชื่อฉันทนา...


พูดถึงในแง่เนื้อหา

เชื่อว่า หลายคนฟังแล้วคงมีคำถามว่า  ในเมื่อปิดไฟแล้ว ยังเขียนจดหมายได้ยังไง ไม่มืดเหรอ ??
ที่เกิดถามที่เช่นนี้ เพราะว่าผู้ฟังในยุคนั้น ส่วนมากจะเป็นคนในชนบท อาชีพทำนาทำไร่  พอค่ำลง
ก็ดับไฟนอนกัน  ไม่มีใครลุกขึ้นมาอ่านหนังสือหรือเขียนหนังสือ
แต่ถ้าหากมองในมุมของคนที่อยู่ในเมืองที่มีไฟฟ้าสว่างไสวแล้ว  การปิดไฟแล้ว ยังอ่านหรือเขียน
หนังสืออยู่ได้ ถือเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ  เพราะว่า ทั้งบ้าน ไม่ได้มีไฟแค่ดวงเดียว
คือมีทั้งไฟหน้าบ้าน  ไฟที่ห้องรับแขก  ไฟที่ห้องครัว  ไฟที่ห้องที่ห้องนั่งเล่น
ไฟที่หน้าประตูห้องนอน   ไฟดวงใหญ่ภายในห้องนอน   ไฟที่โต๊ะเขียนหนังสือ  โคมไฟที่หัวเตียงฯลฯ
ฉะนั้น มันจะไปแปลกอะไรถ้าเราจะดับไฟด้านนอกและไฟในห้องแล้ว  แต่ยังเหลือที่โต๊ะหนังสือ
และไฟที่หัวเตียงอยู่  ฉะนั้น การลุกขึ้นมาเขียนจดหมายถึงใครสักคนจึงไม่ใช่เรื่องแปลก....
                แต่สิ่งที่แปลกคือ ที่บอกว่า"นั่งเขียนจดหมาย แล้วรีบทิ้งไปโรงงานทอผ็า"....
ซึ่งก็คงจะไม่มีติดแสมป์ อะไรเลย  แถมยังลุกเอาจดหมายออกมาส่งทั้งๆกลางคืนอีก....(แต่จริงๆคำว่า
"แล้วรีบทิ้งไปโรงงานทอผ้า"  คนแต่งเขาคงจะให้หมายความว่า จ่าหน้าซองเท่านั้นเอง)
               อีกอย่งหนึ่งคือคำที่บอกว่า"ที่เคยสบตากันเป็นประจำ" คำนี้ส่อความหมายว่า
ฝ่ายชายยังไม่เคยเข้าไปพูดจาทำความรู้จักกับฝ่ายหญิง เพียงแค่เห็นหน้ากันและยิ้มให้กันบ่อยเท่านั้น
คำว่า"หากคุณเกลียดชัง ก็อ่านด้านหลัง แล้วโยนทิ้งได้"  แสดงว่า ฝ่ายชายยังไม่แน่ใจว่า
ฝ่ายหญิงจะมีใจตอบให้ไหม.....


ในแง่ฉันทลักษณ์ของเนื้อเพลง

เนื้อเพลงนี้มีฉันทลักษณ์ที่ต่างจากเพลงอื่นๆ
เพลงลูกทุ่งและลูกกรุงส่วนมาก  มีฉันทลักษณ์แบบเดียวกับกลอนคือ
มีสัมผัสนอก และสัมผัสระหว่างบท  แต่ละบทจะมีครบสี่วรรคคือ วรรคสดับ วรรครับ วรรครอง วรรคส่ง
แต่จะไม่เคร่งสัมผัสใน  จำนวนคำของแต่ละวรรคไม่จำเป็นต้องเท่ากัน  และไม่เคร่งเรื่องเสียงวรรณยุกต์
ท้ายวรรคแบบกลอน   และอีกส่วนหนึ่งคือ เพลงลูกทุ่งที่มีลักษณะเป็นกลอนหัวเดียว
แต่เนื้อเพลงนี้ มีฉันทลักษณ์ที่ต่างออกไป คือ จะมีฉันทลักษณ์  มีการรับส่งสัมผัสแบบ กาพย์ขับไม้
หรือกาพย์ "สุรางคนางค์ ๓๖" เพียงแต่ในวรรคที่สามจะมีเพิ่มมาสองคำ
และที่เน้นตัวหนัสือสีน้ำเงินนั้นจะเป็นกลอนธรรมดา





มีรูปแบบและสัมผัสคล้ายๆ กาพย์สุรางคนางค์ ๓๖  หรือกาพย์ขับไม้


                     สริญ  สิริรัฐ  

      


เพลง  ฉันทนาที่รัก รักชาติ ศิริชัย


รายนามผู้เยี่ยมชม : กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ฟองเมฆ, ลมหนาว ในสายหมอก, Black Sword, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, ลิตเติลเกิร์ล, กอหญ้า กอยุ่ง, ธมกรก, Mr.music, กรกช

บันทึกการเข้า

"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง
ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม
เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม
หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป"

สริญ  สิริรัฐ :068:
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5736
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463


100+20=120


| |
Re: ว่ากันไปตามเพลง
« ตอบ #2 เมื่อ: 10, พฤษภาคม, 2561, 01:43:09 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: ว่ากันไปตามเพลง






รายนามผู้เยี่ยมชม : กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ฟองเมฆ, ลมหนาว ในสายหมอก, Black Sword, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, ลิตเติลเกิร์ล, กอหญ้า กอยุ่ง, ปิ่นมุก, ธมกรก, Mr.music, เนิน จำราย, กรกช

บันทึกการเข้า

"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง
ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม
เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม
หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป"

สริญ  สิริรัฐ :068:
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5736
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463


100+20=120


| |
Re: ว่ากันไปตามเพลง
« ตอบ #3 เมื่อ: 18, มิถุนายน, 2561, 12:28:59 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: ว่ากันไปตามเพลง




เพลง  มีเมียเด็ก


      เนื้อเพลง  มีเมียเด็ก  แต่งโดย ครูจิ๋วพิจิตร

   (ผม)มีเมียเด็ก  ต้องหมั่นตรวจเช็ก    ร่างกาย
   ไม่ต้องนึกอาย   เป็นลูกผู้ชาย         ต้องกล้า
   อย่าไปตะแบง   ในเมื่อเรี่ยวแรง       โรยรา
    ร่างกายไม่ไหว   ก็ต้องอาศัย          โด๊บยา
     มีคู่อ่อนกว่า    (ก็)ต้องหายา....      บำรุง

    (ผม)มีเมียเด็ก   ขาวขาวเล็กเล็ก      บางบาง
     ต้องคอยระวัง    เพราะชายต่างหวัง    ใจมุ่ง
     ได้เมียยังสาว     ส่วนตัวผมนั้น         คราวลุง
     ต้องคอยห่วงใย   เหมือนพวกป่าไม้    หวงซุง
     ไม่คอยชำเรืองเดี๋ยวเรื่องยุ่ง  เพราะหรุ่มต่างมุง  หมายปอง

  *คำในวงเล็กนั้นผมเติมเอง เพื่อให้ครบสี่คำ*

สิ่งที่ผมสนใจใคร่รู้มากที่สุดก็  เนื้อเพลงที่มีฉันทลักษณ์แบบนี้  ไม่ใช่กลอนแน่ๆ
แต่ว่า จะเป็นบทร้อยกรองชนิดใด ?  บางทีมันอาจจะเป็นรูปแบบคำร้อยกรองของโบราณ
ที่เราไม่ทราบ  แบบว่า ขาดการถ่ายทอด  หรือ ไม่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย ???

การวางสัมผัส และฉันทลักษณ์ มีรูปแบบเฉพาะตัว

OOOO   OOOO  OO
OOOO   OOOO  OO
OOOO   OOOO  OO
OOOO   OOOO  OO
OOOO   OOOO  OO


จังหวะการอ่าน   4/4/2

หมายเหตุ  สีแดง  สีชมพู  เป็นถึงสัมผัสภายในวรรค
สีฟ้า  สีเขียว  สัมผัสข้ามวรรค   สีเหลือ สัมผัสระหว่างบท
บทหนึ่ง มีห้าวรรค วรรคละ ๑๐ คำ   คำสุดท้ายของวรรคสุดท้าย
ส่งไปลงสัมผัสที่ท้ายวรรคสอง ของบทถัดไป

วันนี้ เอาแค่นี้ก่อน

สริญ  สิริรัฐ


 


     


รายนามผู้เยี่ยมชม : กร กรวิชญ์, ฟองเมฆ, ลิตเติลเกิร์ล, ลมหนาว ในสายหมอก, Black Sword, กอหญ้า กอยุ่ง, ปลายฝน คนงาม, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, เฒ่าธุลี, ปิ่นมุก, ธมกรก, Mr.music, ชลนา ทิชากร, กรกช

บันทึกการเข้า

"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง
ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม
เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม
หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป"

สริญ  สิริรัฐ :068:
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5736
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463


100+20=120


| |
Re: ว่ากันไปตามเพลง
« ตอบ #4 เมื่อ: 02, กันยายน, 2561, 12:57:03 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: ว่ากันไปตามเพลง

เนื้อเพลงที่มีการเล่นอักษร


ลานเทสะเทือน

ผลงานแต่ง  อ.วัฒนา  พรอนันต์


เสียงลมพัดตึง   เคล้าคลึงยอดตอง
คืดถึงเนื้อทอง   สาวลั่นทมเจ้าจากลานเท
ทมนั่งรถท่อง   พอทั่วกรุงเทพก็ดีถมเถ
เพราะว่ากรุงเทพลานเท  นั่งเรือด่วนเที่ยวเดี๋ยวเดียวก็ถึง

เขียวเอยขาวเอย   แล่นเลยทุกลำ
มิมีโฉมงาม     สาวแก้มนวลที่สุดคะนึง
พ่อแม่ร้องไห้    ทมไม่คืนทุ่งป้าลุงถามถึง
หรือเพื่อนกรุงเทพคอยดึง  ผู้คนคงทึ่งสาวทุ่งลานเท

จากวันเป็นเดือน   จากเดือนเคลื่อนไปเป็นปี
ลั่นทมไม่มีซักที    พวกพ้องน้องพี่ทุกคนสนเท่
รถเก๋งเพลงหวาน   ตึกรามโอฬารสวรรค์ทั้งเพ
สาธุเจ้าพ่อลานเท   อย่าให้ลั่นทมอุ้มท้องคืนทุ่ง

เสียงเรือขรมครืน    ทุกคืนพี่ตรม
คิดถึงลั่นทมโฉมบังอร   โอ้หล่อนเพลินกรุง
เราทุ่มรักเก้อ      เราเซ่อยอมก้มลั่นทมเขาสูง
ถึงกล้าไปเทียบคนกรุง   พี่นอนสะดุ้งเหมือนทุ่งสะเทือน...





เพลงนี้ถือว่าเป็นการแต่งเนื้อเพลงที่มีการเล่นอักษรตลอดทั้งเพลง
ถือว่าเป็นลวดลายที่พบเห็นได้น้อยมาก  นอกจากนักกลอนแล้ว นักแต่งเพลงเอง
ก็มีการแต่งเนื้อเพลงเล่นอักษรเหมือนกัน




เพลง คิดถึง

คิดถึงประคองน้องอยู่ตาคลี    คิดถึงปราณีน้องที่ชัยนาท
คิดถึงหลานสาวย่าโมที่เมืองโคราช   หัวใจจะขาดรอนรอน

คิดถึงพยงค์ที่อยู่ระยอง       คิดถึงสายทองที่ยะโสธร
คิดถึงนงลักษณ์สุภักดิ์รพีไม่มีวันผ่อน  จะหลับจะนอนทอดถอนฤทัย


ตุ่มแตงบุญตา..สุดาวันดี     วันนา,ฉวี,อารีย์,สาหร่าย
ถึงเจ้าจะลืม..พี่ไม่เป็นไร     ขอบัตรเชิญใบหากใครวิวาห์

คิดถึงอัมพรที่อยู่สุพรรณ     คิดถึงบุหลันที่เมืองยะลา
คิดถึงเหน่งน้อยกลอยใจวิไล,คำหล้า   พี่อยากไปหาค่ารถไม่มี....


(เป็นเพลงที่ฟังซึ้งๆแล้ว ยังมีแอบหักมุมเล็กๆด้วยว่า "พี่อยากไปหาค่ารถไม่มี"...โธ่...
แล้วแบบนี้ถ้าเขาส่งบัตรเชิญมา จะมีเงินค่ารถไปร่วมงานแต่งเขาหรือ...)
เป็นเพลงที่ มีทั้งความซึ้ง  ความไพเราะ  การเล่นคำ และหักมุมเล็กๆ
สาวเหนือฟังแล้วคงนอยใจแย่  แต่คำว่า  คำหล้านี่น่าจะหมายถึงสาวเหนือไดไหม  ??




คำที่คล้องจองกันในเพลงนี้คือ

*ประคอง-ตาคลี    ปราณี-ชัยนาท*

*พยงค์-ระยอง   สายทอง-ยะโสธร*

*สุดา-วันดี   อารย์-สาหร่าย*

*อัมพร-สุพรรณ    บุหลัน-ยะลา

*วิไล-คำหล้า*



สริญ  สิริรัฐ



รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, กร กรวิชญ์, น้ำหนาว, ฟองเมฆ, ปิ่นมุก, ลมหนาว ในสายหมอก, รพีกาญจน์, ธมกรก, ก้าง ปลาทู, Mr.music, ชลนา ทิชากร, กรกช

บันทึกการเข้า

"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง
ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม
เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม
หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป"

สริญ  สิริรัฐ :068:
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5736
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463


100+20=120


| |
Re: ว่ากันไปตามเพลง
« ตอบ #5 เมื่อ: 02, กันยายน, 2561, 01:15:54 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: ว่ากันไปตามเพลง


ข้อสังเกต

ในเพลงคิดถึงนี้  มีชื่อหญิงสาวหลายคนเหลือ  แล้วแต่ละคนก็อยู่ห่างไกลกันคนละหลายจังหวัด

แล้วชายหนุ่มในเนื้อเพลงนี้ ไปรู้จักหญิงสาวเหล่านั้นได้อย่างไร  คงไม่ใช่เพื่อนบ้านกันหรือเพื่อน

ในสมัยเรียนหรอกนะ เพราะว่าในสมัยก่อนนั้นทางไกลกันมาก  การสัญจรไม่ค่อยสะดวกเหมือนปัจจุบัน

อีกทั้งสมัยก่อน ไม่เฟสบุค ไม่มีอินเตอร์เนต

ผมคิดว่า ผู้แต่งเพลงนี้ คงได้แนวคิดมาจากการเขียนจดหมายไปขอเพลง

ในสมัยก่อน สื่อความบันเทิงไม่มีมากเหมือนยุคปัจจุบัน  คนที่อยู่ตามชนบทในจังหวัดต่างๆ

อย่างมาก เวลาทำงานในไร่ในสวน  ก็จะเปิดวิทยุ ฟังเพลง ลูกทุ่ง ตามทีี่มีผู้จัดตามสถานีวิทยุุต่างๆ

แล้วใครที่อยากจะฟังเพลงอะไรเป็นพิเศษ  ก็ต้องใช้วิธีเขียนจดหมายไปที่สถานีวิทยุ ถึงผู้จัดรายการ

เพื่อขอเพลง  ผู้จัดรายการก็จะนำจดหมายรั้นมาอ่านออกอากาศ   ต้องมีคนขอไปตรงกันกันหลายๆคน

ถึงจะได้ฟัง  การทีมีคนเขียนจดหมายไปขอเพลงนั้น เรียกว่า แฟนเพลง  ทำให้รู้จักชื่อเสียงเรียงนามกัน

โดยที่ไม่เคยเห็นหน้า  ก็จะขอเพลงให้กัน มอบให้คนนั้นคนนี้

ชายหน่มในเนื่อเพลงนี้ ที่รู้จักหญิงสาวหลายคน  คิดว่าน่าจะเกิดมาจากการขอเพลงให้กัน

จึงรู้ว่า ใครชื่ออะไร  อยู่ที่ไหน  บางทีอาจจะเคยติดต่อกันทางจดหมาย....ประมาณนั้น  5555


 :059:



รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, กร กรวิชญ์, น้ำหนาว, ฟองเมฆ, ลมหนาว ในสายหมอก, รพีกาญจน์, ธมกรก, Thammada, ก้าง ปลาทู, Mr.music, ชลนา ทิชากร, กรกช

บันทึกการเข้า

"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง
ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม
เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม
หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป"

สริญ  สิริรัฐ :068:
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5736
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463


100+20=120


| |
Re: ว่ากันไปตามเพลง
« ตอบ #6 เมื่อ: 24, กันยายน, 2561, 08:40:38 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: ว่ากันไปตามเพลง







ขออย่าเป็นแบบเพลงนี้

 


 





รายนามผู้เยี่ยมชม : Black Sword, รพีกาญจน์, ฟองเมฆ, ลิตเติลเกิร์ล, ก้าง ปลาทู, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, กอหญ้า กอยุ่ง, น้ำหนาว, ปลายฝน คนงาม, Mr.music, ชลนา ทิชากร, กรกช

บันทึกการเข้า

"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง
ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม
เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม
หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป"

สริญ  สิริรัฐ :068:
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5736
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463


100+20=120


| |
Re: ว่ากันไปตามเพลง
« ตอบ #7 เมื่อ: 28, ตุลาคม, 2561, 12:22:27 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: ว่ากันไปตามเพลง







เนื้อเพลง  ผู้เสียสละ


ใช่..ฟ้าบันดาล......
ให้้้เธอเป็นคู่ของพี่.....
ฟ้าสร้างให้น้องพี่นี้.....
รักมีเพียงชั่วหวานชื่น.....
พี่แสนร๊ากกกกก.....
แสนห่วงและหวงทุกคืน.....
ขอให้รักรวยรื่น.....
เหมือนรักพี่เถิดดวงใจ......

ด้วยเขาเป็นเพื่อน.....
ร่วมคำสาบานข่องพี่....
น้ำใจเขาช่างดี....
สมที่จะครองน้องได้....
อย่าได้คี๊ดดดดด....
และห่วงพี่นะดวงใจ....
จะขอเจอะกันชาติใหม่....
ชาตินี้พี่ต้องขอลา....

พี่มีกรรม....
ทำไว้แต่ปางก่อน....
จึงได้ตามมาย้อน....
ให้พี่จากกานดา.....
เถ่อทั้งสอง.....
เปรียบเหมือนดั่งดวงดารา....
ควรแล้วที่เกี่ยวกิ่งฟ้า.....
อย่าโน้มลงมาจะหมองไหม้....

ไปเถิดทั้งคู่....
ไปสู่ประตูสวรรค์.....
น้ำสังข์จะหลั่งลงพลัน....
ด้วยมือที่หลั่งรดให้....
ไปสู่เรือนหอ....
ที่เฝ้ารอรับด๊วงใจ
ชาตินี้พี่จ้ำจากไกล....
สู่แดนแห่งรสพระธรรม.....


บทสรูปเพลงนี้....แฟนแต่งงานกับเจ้าบ่าวที่เป็นเพื่อนสนิท.....ผู้เสียสละก็....ไปบวช...
บทเพลงสมัยก่อนนั้น มีอะไรเยอะแยะ มากกว่า แค่คำว่า เธอๆฉันๆ
เพราะว่า นอกจากเรื่องความรัก เรื่องความเสียสละ ที่ต้องหลีกทางให้เพื่อนแล้ว
ยังมีเรื่องความเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรมแทรกเข้ามาด้วย
การบอกบอกว่า"ใช่ฟ้าบันดาลให้่เธอเป็นคู่ครองพี่.....น้ำใจของผู้ชายอีกคนหนึ่งดี เหมาะสมกับฝ่ายหญิง
ตนเองมีกรรมมาจากปางก่อน ทำให้ต้องพลัดพรากจากฝ่ายหญิง เมื่อสรูปความโดยรวมแล้ว
ก็เท่ากับบอกว่า ฝ่ายหญิงดีเกินไป...คุณดรเกินไป...
จริงๆก็ไม่รู้ว่า เสียสละ หรือถูกฝ่ายหญิงเขาทิ้ง  หรือโดนกีดกัน
ทำไมต้องพูดว่า "ขอให้รวยรื่นเหมือนรักพี่เถิดดวงใจ"  ตรงนี้ทำให้เข้่าใจได้ว่า ฝ่ายชายยังคิดว่า
ฝ่ายหญิงยังรักตนอยู่ แต่..จำเป็นต้องแต่งงานกับอีกคน
คำว่า"พี่แสนรัก แสนหวงและหวงทุกคืน" บอกให้รู้ว่าทั้งสองคนมีอะไรกันแล้ว
คำว่า"ควรแล้วที่เกี่ยวกิ่งฟ้า อย่าโน้มลงมาจะหมองไหม้" แสดงว่า ผู้เสียสละมีฐานะ
ต่ำกว่าฝ่ายหญิง และฝ่ายหญิงยังมีใจรักผู้เสียสละอยู่
สุดท้าย....เมื่อเสียสละแล้ว...ก็...กินระกำแล้วกัน....







รายนามผู้เยี่ยมชม : Mr.music, ฟองเมฆ, Black Sword, ลิตเติลเกิร์ล, น้ำหนาว, ลมหนาว ในสายหมอก, รพีกาญจน์, ก้าง ปลาทู, ชลนา ทิชากร, กรกช

บันทึกการเข้า

"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง
ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม
เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม
หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป"

สริญ  สิริรัฐ :068:
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5736
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463


100+20=120


| |
Re: ว่ากันไปตามเพลง
« ตอบ #8 เมื่อ: 29, ตุลาคม, 2561, 04:36:50 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: ว่ากันไปตามเพลง



               

                พอดีช่วงนี้รู้สึกมันจะมีกระแสดราม่า เกี่ยวกับเพลงๆหนึ่งที่มีท่อนฮุคเป็น อุ๊อุ๊ อิ๊อิ๊ อ๊ะอ๊ะ
เห็นหลายคนที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านในเมือง และในวงการเพลงลูกทุ่งออกมาวิจารณ์กันว่า เป็นเพลง
ที่อุบาทว์ ไม่เหมาะสม ทำลายวัฒนะธรรมไทย ทำลายวงการลูกทุ่ง  ด้วยความที่อยากรู้ผมก็เลยเข้าไปฟังดู
พอฟังก็...ขำ(หัวเราะ) เพราะรู้สึกว่ามันตลกมากกว่า เจิอด้วยความรู้สยิวนิดๆ  แต่ก็โอเคนะ(สำหรับความ
คิดเห็นส่วนตัว)  ไม่ได้มองว่า มันชั่วร้ายหรือมันต่ำอะไร
               เมื่อฟังเพลงนี้แล้วทำให้ผมย้อนนึกถึงเพลงอีกเพลงหนึ่งในสมัยก่อน ซึ่งผมเองก็เกิดไม่ทัน
แต่มีโอกสได้ฟังเป็นครั้งแรกบนรถแท็กซี่ในขณะที่ผม้พิ่งจะเข้ามาในกรุงเทพเป็นครั้งแรก
ในระหว่างที่นั่งแท็กซี่ไปใจก็คิดถึงเรื่องต่างๆไปด้วย มองทิวทัศน์ตึกรามบ้านช่องต่างๆไปด้วยตามประสา
คนที่เพิ่งจะเคยเข้ากรุงเป็นครั้งแรก ในขณะที่นั่งแท็กซี่ไปนั้น แท็กซี่เขาก็เปิดวิทยุ  แล้ววิทยุก็เปิดเพลง...
ซึ่งผมฟังไปรอบแรกก็ไม่ได้สะกิดใจอะไร....แต่พอรอบที่สองซึ่งปกติของเพลงทุกเพลง จะต้องนำเนื้อร้อง
ในท่อนหลังมาร้องซ้ำเท่านั้นแหละ พอเข้าใจความหมายว่าเนื้อเพลงมันสื่อถึงอะไร โหววว ใจผมงีเกระเจิดกระเจิง
คิดจินตนาการไปถึงไหนต่อไหน ชนิดเห็นภาพกันจะจะเลยทีเดียว  พร้อมกับคิดว่า เออ...เพลงแบบนี้
ก็มีด้วยเหรอ  แล้วเขาเปิดฟังกัน ไม่รู้สึกอายกันบ้างหรืออย่างไร
เนื้อเพลงท่อนสุดท้ายมันมีว่า
"เพียงปลายนิ้วเดียวยังซ่านยังเสียวประหลาด....กระแสสวาท...."
ถึงแม้ว่าในเนื้อเพลงจะไม่มีคำที่หยาบคายอะไรเลย  แต่คนที่ฟังแล้วเข้าใจความหมายนี่
คิดจินตนาการเตลิดไปไกลเลยทีเดียวนะ
แต่ผมเองก็๋ไม่รู้เหือนกันนะว่า คนในยุคนั้น มีดราม่า มีการออกมาต่อต้านเหมือนคนในยุคนี้หรือเปล่า
                แต่ถ้าจะเปรียบเป็นหนังแล้ว เพลงที่เพิ่งจะเกิดกระแสดราม่านี้ เป็นหนังเรต X ละก็
เพลงในยุคนั้นต้องเรต R นั่นแหละ
ถ้าเป็นคดีความ ก็ประมาณ ล่วงละเมิด ทำลามกอนาจาร(ความหมายของเพลงมันทำให้คิดไปอย่างนั้น)
เพียงแต่ผู้หญิงในเนื้อเพลง เขายินยอม ยินดีเท่านั้น


เพลง  เพียงปลายก้อย
คำร้อง  ธาตรี
ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน


เพียงเธอนั้นแลยังจุดกระแสสวาท
มันแสนประหลาดฤทัยเป็นทาสอาวรณ์
ปลายนิ้วสัมผัส หัวใจยิ่งกลัดไฟฟอน
โอ๊ยเจียนจะขาดรอนรอนพิษไฟรุมกร่อนทรวงใน

รัญจวนเผลอใจ เธอแอบลูบไล้ ปลายก้อย
เพียงเผลอใจหน่อย ฉันจึงได้ปล่อยมือไป
กระแสสวาทเผาใจเจียนขาดรำไร
เผาใจเจียนขาดรำไร เผาจนเจียนใกล้ละลาย

ถ้าเธอ จะเฉือนด้วยเคียว
แปลบเดียวเดี๋ยวเดียวประเดี๋ยวก็หาย
แต่ปลายนิ้วต้องนวลกาย
ปลาบเสียวแทบตายแทบตายตลอดกาล

เพียงปลายนิ้วเดียวยังซ่านยังเสียวประหลาด
กระแสสวาทนั้นมีอำนาจยืนนาน
ปลายนิ้วเธอเกี่ยวเหมือนดังจะเหนี่ยววิญญาณ
เหมือนดังจะเหนี่ยววิญญาณ ฉันลอยซาบซ่านลืมตน





**************************************************



เพลง ที่กำลังเป็นกระแสดรม่า อยู่ในสังคมในเวลานี้  เพลง ครางชื่ออ้ายแน




นำมาลง เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่าง ความละเมียดละไมมีศิลปะในการนำเสนอ


ข้อคิดเตือนใจ. ขึ้นชื่อว่ายาพิษ  ไม่ว่าเราจะดื่มมันเข้าไปตรงๆ  หรือจะนำอะไรมาหุ้มมาห่อ ประดิดประดอย

ให้มีรูปร่างสวยงามเพียงใด  แต่เมื่อกินเข้าไป มันก็ตายเหมือนกัน  ความสวยงามไม่ได้ทำให้พิษภัยมันน้อยลง









รายนามผู้เยี่ยมชม : ปลายฝน คนงาม, ลมหนาว ในสายหมอก, กร กรวิชญ์, Black Sword, รพีกาญจน์, ลิตเติลเกิร์ล, น้ำหนาว, ฟองเมฆ, ก้าง ปลาทู, หนูหนุงหนิง, ชลนา ทิชากร, กรกช

บันทึกการเข้า

"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง
ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม
เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม
หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป"

สริญ  สิริรัฐ :068:
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5736
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463


100+20=120


| |
Re: ว่ากันไปตามเพลง
« ตอบ #9 เมื่อ: 04, พฤศจิกายน, 2561, 12:17:04 AM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: ว่ากันไปตามเพลง


ลำนำ เพลง กระทงหลงทาง

ลางสางหอนบอกเหตุเลศเรื่องร้าย
ส่อความหมายรักเราเศร้าหมองศรี
เมื่อกระทงเสี่ยงทายเรื่องร้ายดี
กลับมามีอันแยกแปลกเป็นลาง

กระทงเจ้าลอยไปแยกไกลโพ้น
น้ำเชี่ยวโชนหลั่งไหลไม่หมองหมาง
คงบรรลุจุดหมายที่ปลายทาง
ดั่งใจนางชื่นชมสมฤทัย

กระทงพี่มีอันรอวันล่ม
ถูกพัดจมอับปางกลางน้ำใส
เหมือนรักเราพังภิณฑ์สิ้นเยื่อใย
แทบขาดใจเจ้าจากพรากพี่จร

เพ็ญสิบสองนองน้ำล้นหลามหลั่ง
ทั้งสองฝั่งคงคาพาสางหอน
คิดถึงรักจากไกลใจร้าวรอน
ข่มใจวอนรักคืนกลับชื่นทรวง



[/size][/font]
สริญ  สิริรัฐ










รายนามผู้เยี่ยมชม : เนิน จำราย, ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, ก้าง ปลาทู, Black Sword, ปลายฝน คนงาม, หนูหนุงหนิง, ลิตเติลเกิร์ล, ชลนา ทิชากร, กรกช

บันทึกการเข้า

"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง
ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม
เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม
หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป"

สริญ  สิริรัฐ :068:
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5736
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463


100+20=120


| |
Re: ว่ากันไปตามเพลง
« ตอบ #10 เมื่อ: 04, กุมภาพันธ์, 2562, 05:20:30 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: ว่ากันไปตามเพลง





เพลง  เทพธิดาดอยจีน

บอกตามตรงว่า หลงเสียงคนร้อง

ถ้าเป็นเพลง เทพธิดาดอย ภาษา จีนละก็  ต้องคนนี้เลย "หันเป่าอี้"  เสียงร้องสุดยอด

ที่จริงผมก็ฟังไม่ออกหรอกนะครับ  ฟังรู้เรื่องแค่คำเดียวคือ "เมี้ยวๆ"(ไม่ใช่แมว)

ซึ่ง เมี้ยว ในภาษาจีนคงจะหมายถึง ชนชาวเขา เผ่าแม้ว  มาตกหลุมรักกับหนุ่มชาวฮั่น 

(เชื่อว่า หลายคนคงไม่คิดว่า คนอย่างผมจะฟังเพลงจีนเป็นกับเขาด้วย)  :020:




รายนามผู้เยี่ยมชม : น้ำหนาว, กร กรวิชญ์, เนิน จำราย, Black Sword, ลิตเติลเกิร์ล, ฟองเมฆ, ลมหนาว ในสายหมอก, ชลนา ทิชากร, กรกช

บันทึกการเข้า

"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง
ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม
เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม
หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป"

สริญ  สิริรัฐ :068:
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5736
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463


100+20=120


| |
Re: ว่ากันไปตามเพลง
« ตอบ #11 เมื่อ: 04, กุมภาพันธ์, 2562, 10:55:08 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: ว่ากันไปตามเพลง


แว่วยินเสียงเหวี่ยงใจไหวบินบึ่ง
ส่งไปถึงเจ้าของปองใฝ่ฝัน
รินหลากน้ำคำเผยเอ่ยจำนรรจ์
หลับตาฝันฟุ้งซ่านหวานวิไล

เหมือนผืนดินถิ่นแล้งแห้งเหือดน้ำ
กลับชุ่มฉ่ำเบิกบานด้วยธารใส
อันหลั่งรินถิ่นฟ้ามาแต่ไกล
พรมจิตใจคนโหยอ่อนโรยแรง

กลับชุ่มชื้นฟื้นมีอีกชีวิต
สู้ใช้สิทธิ์คิดฝันอย่างขันแข็ง
จินตนาซ่าซ่านสานแสดง
ลิ่วโลดแซงเหิรฟ้าไปหาเธอ

วอนสายลมห่มใจหอบไอรัก
ส่งไปทักดังฝันสรรค์เสนอ
สู่จุดหมายปลายทางกระจ่างเจอ
คำละเมอฝากฟ้าทุกคราฟัง.


ว่าไปนั่นเชียว...ถึงอย่างไร จะให้ผมแต่งกลอนหวาน กลอนรัก กลอนคิดถึง ให้ซึ้งซ่านใจ
ก็คงไม่ได้นะ...คนเราีมีความสามารถอยู่เพียงนี้ จะให้ดีกว่านี้คงไม่ได้...(สัมผัสซ้ำเยอะ)


สริญ  สิริรัฐ



รายนามผู้เยี่ยมชม : Black Sword, ลิตเติลเกิร์ล, ฟองเมฆ, น้ำหนาว, ลมหนาว ในสายหมอก, กร กรวิชญ์, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, ปลายฝน คนงาม, เนิน จำราย, กรกช

บันทึกการเข้า

"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง
ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม
เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม
หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป"

สริญ  สิริรัฐ :068:
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5736
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463


100+20=120


| |
Re: ว่ากันไปตามเพลง
« ตอบ #12 เมื่อ: 14, กุมภาพันธ์, 2562, 09:16:48 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: ว่ากันไปตามเพลง






คาราบาว - ประชาธิปไตย




คาราบาว - ผู้ทน

      :045:


ประเทศไทย  เดือนหน้านี้  มีเลือกตั้ง
แพรมความหวัง  มอบเอาไว้  ให้สวยหรู
นโยบาย    ล้วนเลอเลิศ  ต้องเชิดชู
โลกรับรู้  ประชาธิปไตย์--ไทยเบ่งบาน...


 :059:


รายนามผู้เยี่ยมชม : ฟองเมฆ, ลิตเติลเกิร์ล, กลอน123, น้ำหนาว, ชลนา ทิชากร, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, รพีกาญจน์, ปลายฝน คนงาม, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), เนิน จำราย, กรกช, ก้าง ปลาทู

บันทึกการเข้า

"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง
ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม
เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม
หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป"

สริญ  สิริรัฐ :068:
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5736
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463


100+20=120


| |
Re: ว่ากันไปตามเพลง
« ตอบ #13 เมื่อ: 21, กุมภาพันธ์, 2562, 05:08:30 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: ว่ากันไปตามเพลง




วันนี้ ผม กับคนบางคน  เกิดอาการนี้....(มันเป็นอะไรที่ทำใจลำบากมาก) :059:

.....ทั้งรักทั้งเกลียด.....
   





รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, ฟองเมฆ, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), น้ำหนาว, รพีกาญจน์, กรกช, ก้าง ปลาทู, ลมหนาว ในสายหมอก

บันทึกการเข้า

"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง
ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม
เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม
หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป"

สริญ  สิริรัฐ :068:
นักเลงกลอน
ผู้มีจินตนาการ
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:5736
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 520
จำนวนกระทู้: 463


100+20=120


| |
Re: ว่ากันไปตามเพลง
« ตอบ #14 เมื่อ: 24, มีนาคม, 2562, 10:14:45 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: ว่ากันไปตามเพลง




เพลง รักจนหลง   สายัณห์ สัญญา


เนื้อเพลง  รักจนหลง
นักร้อง   สายัณห์  สัญญา

ใครคนบัญชา-หัวใจให้ใฝ่พะวง
เฝ้ารักเฝ้าหลง-พะวงไม่ถ่ายไม่ถอน
คิดถึงทุกคราว-ยามกินข้าวยามนอน
ภาพเธอคอยหลอกคอยหลอน...เมื่อตอนที่หลับตา

อาวรณ์ดวงใจ-เหมือนคนบ้าใบ้บอๆ
ลุ่มหลงคำป้อยอ-เฝ้ารอรักปรารถนา
เหมือนโดนยาสั่ง-ผีสางเข้าสิงอุรา
ถึงเธอจะหลบหน้าตา.....ยังปรารถนาเธออยู่

ใครที่ไหน......อย่ามาห้ามใจฉัน
ถึงฟ้าผ่าฟ้าลั่น.....ก็ไม่หวั่นศัตรู
รักฉันสักนิดสงสารสักหน่อยได้ไหมพธู
อย่าหลอกต้มเป็นหมู....ถึงมีศัตรูฉันขอสู้ตาย

จะทำยังไง-หัวใจรักเจ้าจนหลง
เจ้าฟ้าอินทร์องค์-อย่าได้ลงโทษให้ใจวาย
เธอเป็นเช่นไร-แม้ใครว่าเธอเลวร้าย
จะขอมอบใจกาย.....ถึงชีพสลายฉันยังรักเธอ




อาการของคนที่รักใครสักคนจนถึงขั้น....หลง....มิหนำซ้ำคงจะเป็นการรักข้างเดียวซะด้วย
เพราะในเนื้อเพลงบอกว่า  "ถึงเธอจะหลบหน้าตา ยังปรารถนาเธออยู่"  
ผมน่ะ ชอบทำนอง และก็เนื้อเพลงนี้  แต่ก็ไม่เข้าใจบางท่อน เช่น "ลุ่มหลงคำป้อยอ"
ไม่ทราบว่า คำป้อยอมาเกี่ยวอะไรด้วย... ตอนท้ายบอกว่า เจ้าฟ้าอินทร์องค์  เข้าใจว่าคงจะเป็นคนสูงศักดิ์...  :059:


สริญ  สิริรัฐ






รายนามผู้เยี่ยมชม : กลอน123, น้ำหนาว, ปลายฝน คนงาม, ฟองเมฆ, กร กรวิชญ์, กรกช, ก้าง ปลาทู, ลมหนาว ในสายหมอก

บันทึกการเข้า

"แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง
ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม
เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม
หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป"

สริญ  สิริรัฐ :068:
หน้า: [1] 2 3   ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.372 วินาที กับ 389 คำสั่ง
กำลังโหลด...